ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi เรื่องสั้น บุรุษ(พยาบาล)..ที่รัก ภาค เน็ต

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอน1

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 54


    ภาค เน็ต+..............

     

    ตอน1

     

    ชีวิตของผมไร้การบังคับหรือกดดันแต่อย่างใด 

    ครอบครัวผมตามใจทุกอย่าง  ก็ลูกคนเดียวต้องตามใจเป็นพิเศษ....นี้เนอะ

    เรื่องคู่ครองหาเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาช่วย....ผมมั่นใจมากๆ

    ชีวิตผมนี้อิสระจริงๆ   ไม่ต้องทำงาน แต่มีเงินเดือนโอนเข้าบัญชีทุกเดือน  เอกสารก็ไม่ต้องเช็นต์

    ผมมีอิสระอย่างไร้ขอบเขต  เที่ยว  กิน  ดื่ม  เมา .....ผมลุยมาหมด  จน...........เมื่อ 3 เดือนก่อน

     

    “หา...............แม่ว่าอะไรนะ..............”  ผมตกใจกับคำบอกของแม่จริงๆ

    “แม่ว่าพี่คริสประสบอุบัติเหตุ ....ตาบอดด้วย...แม่นี่ล้อผมเล่น  แรงนะเนี้ย...”

    “แกอยู่ไหน...รีบกลับมาด่วน  .........ถ้าแกไม่รีบกลับเจอดีแน่.......” นั้นเป็นเสียงสุดท้ายก็ที่โทรศัพท์จะวางไป

     

    แม่ไม่เคยโกหกผม  .............ดังนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงแน่....ผมตกใจกับสิ่งที่ได้ฟัง

    จากที่ไม่เคยกลับบ้านเป็นเดือน  ก็ต้องรีบระเห็จตัวเองจากบ้านพักต่างอากาศ เพื่อแล่นรถกลับบ้าน

     

     

    ผมกับแม่มาถึงบ้านพี่คริส  สิ่งที่ผมเห็นคือ  ของทุกอย่างที่อยู่ในห้องพี่เขาถูกโยนกระจาย

    แม้แต่ป้าแอนซึ่งเป็นแม่ของพี่คริสยังไม่กล้าเข้าไปในห้องเลย

    ป้าแอนเล่าว่า  นางพยาบาลที่จ้างมา  รับมือไม่ไหวเลยของลาออกไปก่อนหน้านี้ 2 วัน

     

    ผมเห็นสีหน้ากลุ่มใจของป้าแอน  ผมให้ผมรู้สึกเห็นใจป้าเข้าไปใหญ่

    ส่วนเรื่องที่บริษัทตอนนี้ โครงการต่างๆ ก็ต้องชะงักไว้ก่อน  ป้าแอนเล่นให้ผมฟัง....

     

    เออ...ผมเป็นกรรมการบริษัท K Technology Company  เป็นบริษัทที่ประกอบอุตสาหกรรมเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ

    ซึ่งก่อตั้งโดยพี่คริส กิจการได้กำไรต่อเป็นเยอะมาก....

    “เน็ต...แกต้องไปบริหารงานระหว่างที่พี่แกไม่สบายอยู่..” นั้นเป็นเสียงแม่ผมเองที่อยู่ก็พูดขึ้นมาซะงั้น

    “หาาาาาาาา...” เสียงตกใจอันลั่นอยู่ในห้องโถงกลางบ้านพี่คริส..........

    “แม่...ล้อผมเล่นใช่ไหม...ร้อยวันพันปีผมไม่เคยเข้าบริษัทเลย.......”  เกิดอาการเหงื่อออกตามตัวแม้ว่าห้องจะเปิดแอร์

    “.....เน็ต  ถ้าแกไม่เข้าไปทำงาน....อย่างหวังว่าแกจะได้อะไรจากที่บ้านเลย....ฉันจะยึดโคตรบัตรแกทั้งหมด...”

    “โอ๊ะ  พระเจ้า...แม่ทำอย่างนั้นไม่ได้นะ แม่.....” เสียงทะเลาะระหว่างแม่ลูก 

    ผมลืมป้าแอนไปเลย ทั้งๆ ที่นั่งอยู่ด้วยกัน

    “แกก็รู้  ว่าฉันเป็นคนยังไง...........”  แม่ผมไม่พูดเปล่ายังทำ มือเฉือนคออีก  

    “อึก.........”  ผมกลัวนี่ครับ   ก็แม่ผมนี่ก็ไม่ใช่เล่นๆ  ถึงเขาจะตามใจแต่ ถ้าเอาจริงขึ้นมา

    ขนาดพี่คริสที่ว่าร้ายๆ แล้ว สู้แม่ผมไม่ได้.....

    “ แกจะเข้าบริษัทเมื่อไหร่  ว่ามา..”  เสียงนักเลง   แม่ผม.....

    “เน็ต...ถือว่าช่วยพี่เค้าหน่อยเถอะ...ตอนนี้ก็มีเน็ตคนเดียวที่จะสานต่องานพี่เขาได้...” ป้าแอนเสริมทับอีกแรง

    ...........ไม่ทำก็ตาย......ตอนนี้พี่เขา   แค่ตัวเองก็ลำบาก 

    .......เรื่องแม่ไม่ต้องพูดถึง.......นรกชัดๆๆๆ 

     

    “พรุ่งแกเข้าบริษัท ด้วย........” คำบัญชาแม่ผม  ขนาดผมยังไม่ได้ตัดสินใจเลย  กดขี่จริงๆๆ

    ผมทรุดตัวนั่งลงบนโชฟาเหมือนยอมแพ้แม่ตัวเอง...........

    แพล้ง....เสียงดังมาจากห้องพี่คริสเขา............

    ผมหันไปมองป้าแอนซึ่งยิ้มแห้งๆ เป็นการตอบกลับ

     

    !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

    วันนี้ผมเดินทางเข้ามาที่บริษัทซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกลาง เป็นย่างธุรกิจชั้นนำที่มีบริษัทมากมายตั้งอยู่

    แต่ละตึกที่เหมือนจะสูงแข่งขันเพื่อแย่งความเป็นใหญ่........

    ซึ่งผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่.........ผมชอบท่องเที่ยวมากกว่าอ่ะนะ

    ส่วนไอชุดสูทนี้ก็น่าอึดอัดชะมัด...... ผมยังเคยคิดเลยว่าทำไม่ต้องเป็นสูทที่ต้องใส่ทำงานเท่านั้น

    ใส่เสื้อฮาวายไม่ได้หรอ  หรือเสื้อที่มันสบายๆ อ่ะ.....

     

    ถึงผมจะมีความคิดแปลกแยก ต่างจากชาวบ้าน  แต่ผมก็ต้องยอมรับในวัฒนธรรมของสังคมอยู่ดีนั้นแหละ

     

    ผมขับรถเข้ามาจอดที่หน้าตึกสำนักงานของบริษัท พร้อมส่งกุญแจรถให้พนักงานเพื่อเอาไปเก็บ

    ระหว่างทางเห็นพนักงานที่เดินเข้าบริษัทเพื่อจะทำงานกัน.......ซึ่งแต่ละคนแต่งตัวเหมือนยจะแข่งกัน

    ผมเดินเข้าลิฟท์เหมือนคนอื่นเขา ซึ่งต้องต่อแถว  เพื่อจะขึ้นลิฟท์....

    ไอผมจะแซงก็ใช่ที เลยต้องเข้าคิวด้วย

    ที่จริงลิฟท์ผู้บริหารก็มี แต่ผมไม่อยากใช่อ่ะ..... น่าเบื่อจะตายอยู่คนเดียวในลิฟท์.....

    “ชั้นไหนค่ะ........” เสียงพนักงานคนหนึ่งสอบถามชั้นต่างๆ

    4 5 6 9  12 16 ครับ...”  เสียงผมตอบไปเมื่อได้ยิน

    ผมสังเกตมีคนแอบหันมามองผมหน่อย เมื่อจะบอกว่าบอกผิดชั้นหรือเปล่า...

    ชั้น 16 เป็นชั้นของผู้บริหาร.....ซึ่ง มีประธาน  และกรรมการอีก 4 คน ที่อยู่ชั้นนั้นครับ

    .......นานเท่าไหร่แล้วนะที่ผมไม่ได้มาเลย....

    ลิฟท์เลื่อนมาถึงชั้นที่ 12 ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่ออกไป.....

    กริ่ง เสียงลิฟท์เตือนมามันอยู่ที่ชั้นซึ่งเป็นชั้นของผม

    ชั้นนั้น ห้องต่างๆ  ถูกแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ  กินเนื้อที่อย่างไร้ประโยชน์  และมีห้องประชุมอีกห้อง

    แต่ละห้องอยู่ห่างจากกันมาก ซึ่งต้องเดินผ่านด่านต่างๆ ก่อนที่จะเข้าห้องทำงานของผมได้

    แต่ละห้องจะมีเลขาหน้าห้องเพื่อจัดการเวลา และอื่นๆ จิปาถะ ก่อนที่จะเข้ามาให้พวกผมเซ็น....

     

    “หวัดดี...” 

    “หวัดดีครับ...คุณเน็ต ไม่เจอซะนาน...” หนุ่มหน้าใสที่เรียกได้ว่าหน้ากับอายุนี้ห่างกันใช่ได้

    “อือ.....” ผมยักคิ้วให้นิดก่อนเดินเข้าห้อง

    ภายในห้องยังเหมือนเดิน  .....กำแพงกระจกที่สามารถมองวิวด้านอกได้อย่างชัดเจน....

    พร้อมทั้งโต๊ะทำงานตัวยาวที่วางเกะกะในห้อง  และชุดรับแขกที่ไม่ค่อยมีใครได้เข้ามาใช้

    ผมว่าห้องที่ผมอยู่กว้างเกินไปด้วยซ้ำ.....แต่ห้องทำงานคนอื่นก็ประนี้แหละครับ........

     

    ผมจบบริหารก็จริงแต่ตอนนี้ผมไม่มีแรงใจที่จะบริหารธุรกิจครอบครัวเลย.....ยิ่งเหมือนโดนบังคับด้วย

    ตืด...ตืด...  ผมกดปุ่นโฟน  “ว่าไง....มาร์ก.....”

    “อ้อ...พอดีมีเอกสารให้คุณเน็ตเซ็นแทน คุณคริสนะครับ....เดี๋ยวคุณอลิซ...เอาเข้าให้เซ็นครับ...”

    “ อือ ได้ อีก 5 นาทีบอกเข้าให้เอาเข้ามาแล้วกัน...”

     

    ..........อลิซ....ใครว่ะ.......แล้วคุณแบนดอน ไม่อยู่แล้วหรอ.......

    เลขาหน้าห้องของแต่ละคนเรียกได้ว่าคัดจากคุณภาพจริงๆ ครับ (หน้าตาก็มีส่วน)

    ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากองค์กร จริงๆ ครับ  ถึงจะมาเป็นเลขาหน้าห้องได้

     

    เพราะพี่คริสทำงานเต็มเสต็บ  ไม่ได้ดังใจ ออกเท่านั้น...

    ซึ่งคุณแบนดอนได้ทำหน้าที่เป็นเลขาพี่คริสมานานแล้ว และดูเหมือนจะเข้าได้ดีกับพี่คริสครับ

    ซึ่งทำให้ผมแปลกใจว่าทำไม ถึงเป็นชื่อ อลิซซะได้   คงต้องสวยหน้าดู.....

    +++++++++++

    ก๊อกๆๆ   “เชิญ.........”

    “สวัสดีครับ คุณเน็ต  ผมนำเอกสารที่ต้องเซ็นด่วนมาให้คุณเซ็นครับ...”

    ผมถึงกับต้องตกใจเล็กน้อย  หลังจากที่คิดว่าจะได้เจอสาวงาม  มากความสามารถ

    กลับมาเจอหนุ่มหน้าสวยซะได้  ภายใต้แว่นใสๆ และใบหน้าที่ดูเงียบ ทำให้เพิ่มเสน่ห์ได้อย่างไม่รู้ตัว

    ยิ่งเสื้อผ้าที่ใส่อยู่  จะเรียกได้ว่า ชุดที่เขาใสอยู่  เหมาะกับเขาจริงๆ

    “คุณเน็ต...”

    “คุณเน็ตครับ...”

    “อะ    อะไร...” ผมถึงต้องรีบออกมาจากภวังค์ เพราะเสียงเรียกของอลิซ 

    .........เหอะๆๆ  อลิซในแดนมหัศจรรย์..............แต่นี่อลิซกลางกรุง.ในที่ทำงานซะด้วย...

    “มะ...มีเอกสารอะไรบ้างที่ผมต้องเซ็น...”  ผมพูดพร้อมกับหยิบแฟ้มต่างหน้า

    พร้อมฟังสรุปจากการรายงานเอกสารแต่ละชุด..........

     

    น้ำเสียงที่อลิซอธิบายหรือแจกแจง ไม่มีเสียงที่ดูตกใจหรือไม่มั่นใจในน้ำเสียงนั้น...

    มีแต่ความมั่นใจ...สงบนิ่ง และพูดออกมาได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ เหมือนเขาไปนั่งฟังเลยด้วยซ้ำ

    ซึ่งน้อยคนที่จะสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างงี้.........

    เอกสารทั้งหมดถูกเซ็นพร้อมคำชี้แจงต่างๆ โดยที่ผมไม่ต้องมานั่งอ่านให้เสียเวลา.....

    ผมใช้เวลาไม่นานในการเซ็น กองเอกสารตรงหน้า

    “ขอบคุณครับ...ขอตัวก่อน...” นั้นเสียงพร้อมกับแฟ้มสุดท้ายที่ถูกเซ็น

    เขาเดินออกไปพร้อมกับเอกสารที่เอาเข้ามา.........

     

    “มาร์ก...เข้ามานี่สิ....”

    ก๊อก......

    “มาร์ก...แล้วแบนดอน  ไปไหนหล่ะ...”

    “อ้อ คุณแบนดอน แกลาออกนะครับ...ได้ข่าวว่าเขาต้องกลับไปรับช่วงต่อจากพ่อ เกี่ยวกับฟาร์มวัวนะครับ...”

    “แล้วอลิซ..มาได้ไงหรอ...” ผมถามด้วยความสงสัย

    “คุณอลิซ  เข้ามาสมัครพร้อมกับใบฝากของบริษัทเพื่อนคุณคริสนะครับ...”

    “เข้าชื่ออะไร อายุเท่าไหร่.......”

    “ชื่อ คุณอลิซซัน    ชาแมวร์...อายุประมาณ 27 ปี ครับ....คุณเน็ตถามทำไมครับ...”

    “เปล่าๆ  ผมเห็นว่าเขาน่าสนใจดีนะ  ...เลยอยากรู้ประวัติการทำงานเขาเท่านั้น...”

    “คุณเน็ตครับ คุณอลิซเขาเป็นหนึ่ง ใน 4 จตุรเทพ ของบริษัทเลยนะครับ...”

    “อะไร อ่ะ  ไอจตุรเทพเนี้ย...” ผมเริ่มงงกับคำบอกเล่าของมาร์กแหละ

    “ก็ประมาณว่า ผู้ทรงอิทธิพลนะครับ”

    “แล้วมีใครบ้างอ่ะ......”  ผมถามเพราะอยากรู้จริงๆ

    “คุณเน็ตอย่าว่าผมนะครับ  ที่พูดมาก......”  ดูเหมือนเขาจะสำนึกผิดนิดๆ

    “เล่ามาเถอะ....ผมไม่ได้มาซะนาน เลยไม่ค่อยรู้อะไร...”

    “ครับๆๆ  ก็มี คุณแบนดอน  คุณอลิซ  คุณมาร์กี้  คุณหวัง...ครับ...  แต่คุณแบนดอนออกไปแล้วเลยหรือแค่ 3 ครับ”

    “อือ....ขอบใจนะ  ออกไปได้แหละ...”

     

    ผมกลับมานั่งครุ่นคิดถึงสิ่งที่มาร์กพูด  ผมรู้จักทุกคนแม้จะจำหน้าไม่ค่อยได้ก็เถอะ  ....ยกเว้นอลิซ

    ทุกคนเป็นคนทำงานเก่ง จริงจังกับงาน  และมีความรับผิดชอบ เป็นที่ไว้ใจได้ของพี่คริส 

    แม้ทุกคนจะไม่ได้เป็นเลขาทั้งหมด แต่จัดว่าอลิซสามารถติดโพล

    พนักงานพี่สร้างแรงกดดันต่อพนักงานด้วยกันได้

    ซึ่งเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อย

    เหมือนมีเรื่องที่ทำให้ผมสนุกได้  ในตึกแห้งๆ  นี้ซะที..........

     

    “เหอะๆๆ  เดี๋ยวก็รู้ว่าเก่งจริง  สมฉายา 4 จตุรเทพ หรือเปล่า....” 
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×