คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : ตอน7
ผมได้รับการดูแลจากภูมิชนิดบอกได้ว่า...ดีเว่อร์ครับ
พอมาคิด.....เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความฝันก็ว่าได้.....
2-3 วันนอนซมเพราะไข้ และระบม.....ก็ภูมิได้นี่แหละครับ เป็นธุระจัดการดูแลเรื่องต่างๆให้ ไม่ว่าจะเช็ดตัว กินข้าว กินยา
ผมนอนมองภูมิกำลังเอายาให้ผมกินอยู่
“อมยิ้มอะไรว่ะ สอง...” ภูมิหันมาเห็นผมอมยิ้มอยู่พอดี
“เปล่า...แค่รู้สึกว่านายใจดีเหมือนกันนะ....” ผมบอกออกไป
“เปล่าเลย...แล้วอย่าคิดว่าพอเราทำดีแล้วเรื่องต่างๆ มันจะหายไป....เราแค่รู้สึกว่าทำไมเรา..ถึงไม่เป็นคนอัดแกแทนต่างหาก รีบๆๆ หายซะจะได้กลับมาทนรับการตอบแทนจากเราเร็ว...รู้สึกคันไม้คันมือว่ะ........”
“เหอะๆๆ นายนี่ซาดิสนะ.......” ผมบอกก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีไปอีกด้านหนึ่งของเตียง พอได้ยินคำพูดแบบนี้แล้วมันรู้สึกจิ๊ด........อย่ากระโดดเตะไอภูมิมันจริงๆ.....
“คุณสองค่ะ คุณภพมาเยี่ยมค่ะ.......” หนึ่งในตัวต้นเหตุมาทำไม นั้นเป็นสิ่งที่ผมคิด....
“คุณภพมาทำไม........มาหาคุณหนึ่งค่ะ...ดิฉันบอกไปแล้ว คุณภพเลยถามหาคุณค่ะ ดิฉันบอกว่าคุณไม่สบาย เขาเลยอยากมาเยี่ยมนะคะ.......” เสียงน้อยพูดขึ้น
ผมหันไปมองหน้าภูมิก่อนที่จะ พยักหน้าบอกน้อย....ให้เชิญเขาขึ้นมา
“นายไม่คิดจะไปเยี่ยมพ่อมั่งหรอ....” ผมพูดออกไปเมื่อเห็นภูมิยังนั่งอยู่ข้างเตียง
ที่จริงภูมิก็ไม่ได้ขึ้นมาเยี่ยมพ่อนานแล้วเหมือนกัน.....เพราะแม่สั่งห้ามไว้
พอผมพูด สีหน้าของภูมิเปลี่ยนไปนิดหน่อย มีเพียงแววตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจ
ก่อนที่ภูมิจะเดินออกไปจากห้องของผม
ประตูถูกเปิดออก ก่อนที่คุณภพจะเดินเข้ามา
“เป็นไงบ้างครับน้องสอง.......” เสียงสุภาพที่แสดงความห่วงใย เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าผม
“ครับ......ดีขึ้นแล้วนะครับ...คุณภพไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่หนึ่งหรือครับ...”
“ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ...ว่าหนึ่งไปต่างจังหวัด....” นั้นเป็นคำบอกของคุณภพ
“หรอครับ.......”
“น้องสองต้องเจ็บมากๆ เลยซิครับ......” ด้วยความพละการของคุณภพ เขาเอามือมาแตะที่ใบหน้าผมซึ่งมีรอยซ้ำของการถูกรุมอยู่
ผมพยายามหันหน้าตัวเองออก “เออ.....คุณภพครับ ผมเจ็บ” ที่จริงก็ไม่เจ็บหรอกครับแต่ไม่ชอบให้ใครมาแตะ
“ขอโทษนะครับ......นั้นไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยมใหม่แล้วกัน....วันนี้น้องสองก็พักผ่อนก่อนนะครับ....” เขากล่าวก่อนที่จะลุกขึ้น ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินออกจากห้อง
วันนี้คงเป็นวันเยี่ยมไข้ครับ เพราะช่วงบ่าย อุ้มก็มาเยี่ยมหลังจากที่ผมโทรไปบอก....
ที่จริงผมไม่คิดอยากจะโทรหรอกครับ แต่ก็ตัดสินใจโทรไปจริงๆ ประมาณว่าอยากให้เพื่อนรู้ว่าเราไม่สบาย.....
เพราะตอนที่อยู่ม.ปลาย ผมไม่เคยมีความคิดนี้เลย..ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องโทรไปบอกให้ตัวเองดูแย่ด้วย
แต่อุ้มมักจะโทรบอกเวลาเขาไม่สบาย...หรือไม่สามารถมาเรียนได้....
นั้นคงทำให้ผมติดนิสัยนี้มาจากอุ้ม..........ก่อนวางเธอบอกว่าจะมาเยี่ยม...ซึ่งผมรู้ว่าเธอพูดจริง
ดังนั้นผมก็เพียงรอคอยการมาของอุ้มเท่านั้น
“สอง ....ไม่คิดว่านายจะมีเพื่อนด้วยนะเนี้ย...” เสียงประชดหลังจากที่ผมบอกภูมิว่าจะมีเพื่อนมาเยี่ยม
“ทำไมผมถึงจะมีเพื่อนไม่ได้...” นั้นเป็นคำถามที่ผมสงสัย
“ก็ชีวิตนายดูไม่เหมือนกับคนที่จะมีเพื่อนได้.....ก็เท่านั้น...”
เราสนทนา หรือเรียกอีกอย่างว่าเถียงกันนะแหละครับ ก่อนที่น้อยจะพาอุ้มเดินขึ้นมาบนห้องผม
“ภูมินายไม่คิดจะออกไปหรอ.......” ผมถามด้วยความอยากรู้
ท่าทางของภูมิดูโกรธจริงๆ เขาใช้มือมาบีบที่คางผม
“วันนี้นายสั่งฉันเป็นครั้งที่ 2 แล้วนะสอง.....”
ผมอึ้งไปเลยกับลักษณะท่าทางที่ภูมิมี.....
ผมไม่ได้คิดอยากจะไล่เขาไปหรอก....เพียงแต่ไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดีก็เท่านั้น........
เสียงเคาะประตูทำให้เขาปล่อยมือจากคางที่ถูกบีบอยู่
“อุ้ม.......” ผมเปลี่ยนสายตามายังผู้หญิงตรงหน้าที่มีรอยยิ้มที่สดใส
“สอง เป็นไงบ้าง...” เธอเดินเข้ามาก่อนที่จะชะงัก..... สายตาของเธอมองมายังภูมิซึ่งยืนอยู่ข้างเตียง
แล้วอุ้มก็กลับมามองผม พร้อมทั้งส่งสายตาถาม ...ประมาณว่า “ใคร”...........
ซึ่งผมทำได้เพียงแค่ยิ้มให้นิดหน่อย เพราะไม่รู้จะตอบอุ้มว่าไงดี
พวกเรานั่งคุยกันสนุกสนาน........จนลืมภูมิไปแล้วด้วยซ้ำ......
“ฮะแฮ่ม....สองคุณไม่เหนื่อยบ้างหรอครับ....” สีหน้าตกใจของผม เหมือนได้ยินเสียงที่สุภาพของภูมิ พร้อมกับท่าทาง ที่ดูให้เกียจนั้น
พวกเราสองคนหันไปมองภูมิที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
“จริงด้วยสอง ดูซิเธอเลยไม่ได้พักผ่อนเลย...” เสียงของอุ้มบอกพร้อมกับยิ้มเขินๆๆ
“เออ.......”
“นั้นเรากลับก่อนดีกว่า..........ไว้ว่างๆๆ จะแวะมาเที่ยวนะ.....” เธอบอกก่อนที่จะลุกจากเตียง
และโบกมือลา และออกไปจากห้อง แต่ใจจริงผมยังไม่ยากให้เขากลับเลยครับ....
เวลาอยู่กับอุ้มผมสบายใจกว่าเยอะ ยิ่งมาได้ยินน้ำเสียงแปลกๆ แบบนี้ด้วยแล้ว...........
“ไง สอง...เห็นคุยกันซะสนุกเลย.......” เขาลุกขึ้นมาก่อนที่จะก้มลงมางับริมฝีปากของผม
“อย่าาาาาาาา” ผมพยายามห้ามก่อนที่เขาจะไซร้ลิ้นเข้ามาในปากของผม
ไม่มีความนุ่มนวลเลยซักนิด เหมือนเป็นการลงโทษอย่างเมื่อครั้งอดีตซะมากกว่า.....
ผมโดนลงโทษนานจนปากผมเริ่มเจ่อ...เพราะแรงที่เขากระทำ....ก่อนที่จะปล่อยผมให้เป็นอิสระ
ตอนนี้ผมหน้าแดง แต่ไม่ใช้เพราะความเขินแน่นอน...........มันระคนอารมณ์หลายๆ อย่างเอาไว้
ทั้งโกรธ ทั้งกลัว ทั้งตกใจ.... “นี่สำหรับ..คำสั่งที่นายกล้ามาสั่งฉัน.......” แล้วผมก็รู้ว่าเขาทำมันเพราะอะไร
ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง..........
++++++++++++
ผมเดินออกมากจากห้องของสอง ก่อนที่ไอภพมันจะเดินขึ้นมาที่ห้องสอง
“ไปเยี่ยมพ่อสิ..” นั้นเหมือนเป็นคำสั่งที่สอง เคยทำเมื่อนานมาแล้ว
และผมยินดีทำตาม.......เพราะผมก็ไม่อยากเห็นหน้าไอภพด้วยเช่นเดียวกัน
ผมเดินเข้าห้องมาหาพ่อ ที่นอนป่วยอยู่....โดยมีนางพยาบาลคอยดูแล 24 ชั่วโมง
เธอเหมือนจะอาศัยอยู่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้...แต่ผมไม่ชอบสีหน้าของเธอเท่าไหร่
“ขออยู่กับพ่อตามลำพังได้ไหม..........” นั้นเป็นคำพูดของผมเมื่อเดินเข้าไปหา
ไม่มีคำตอบ แต่เธอก็ไม่เดินออกไปด้วยเช่นกัน....และนั้นคือคำตอบของเธอ
ผมนั่งมองพ่อซึ่งนอนหลับอยู่.....สภาพร่างกายที่ซูบผอมนั้น ทำให้ผมเป็นห่วงจริงๆ
ผมไม่ได้เข้ามาเยี่ยมท่านนานแล้ว........เพราะยัยแม่มดสั่งห้ามเด็ดขาด......
แต่พอวันนี้ได้เข้ามาทำให้ผมเห็นว่าสภาพท่านดูแย่จริงๆ อาจเป็นกรรมที่ท่านได้ทำกับพวกผมก็ได้
ทำให้ท่านต้องมาล้มป่วยเช่นนี้........ตอนนั้นผมคิดจะเอาคืนท่านจริงๆ ที่ไม่สนใจหรือดูแลแม่
ให้เหมาะสมกับสิ่งที่แม่สมควรได้.....ส่วนผมนั้นท่านยังให้ความรักและเงินทองในการใช้จ่ายอยู่ก็จริง
แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงออกนอกหน้าว่าจะปกป้องผมเลย....
สิ่งที่ผมต้องการคือการปกป้องมากว่าเงินทองที่ท่านมีให้ผม.....
“พ่อ.........” ผมเรียนท่านเมื่อท่านเหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว
พ่อค่อยๆ ลืมตาเล็กน้อยก่อนที่ดวงตานั้นจะปิดลงไปอีก......
“ภูมิเองนะครับ...ผมมาเยี่ยม.......”
ไม่มีคำพูดหลุดออกมาจากพ่อที่หลับตาลงอีกครั้ง...ซึ่งเหมือนท่านจะไม่รู้สึกตัวมากกว่า
แต่หน้าแปลก เพราะมือที่ผมกุมอยู่ มีการบีบตอบกลับมา.....เวลาผมพูดหรือคุยเรื่องต่างๆ ให้ฟัง
“คุณท่านต้องการพักผ่อนค่ะ.....” นั้นเป็นเสียงนางพยาบาลที่เหมือนจะบอกให้ผมไปได้แล้ว
ผมจำต้องปล่อยมือท่านวางลงที่เดิม..........ก่อนที่จะลุกออกจากห้องของพ่อไป
++++++++++++++++++++++
ผมเข้ามาเยี่ยมพ่อได้ก็เพราะ........ไอคนที่นอนซมอยู่ที่เตียงนั้นแหละครับ.....
ไม่งั้นผมคงไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมพ่อแน่นๆๆ
วันนั้นที่เกิดเรื่อง ผมซึ่งไปรออยู่ที่หน้าปากซอย.....เพราะอยากจะทำอะไรบางอย่างตอบแทนที่มันตบผม
แต่พอเห็นรถที่มันขับมาก็ต้องทำให้เปลี่ยนใจ.........ผมเลยให้มันเดินเข้าบ้านเอง....
ปกติผมก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าบ้าน เพราะรู้ว่ามันไกลไม่ใช้เล่น....แต่บรรยากาศตอนที่เดินเข้ามาดีมากๆ เหมือนได้ออกกำลังกายจริงๆ ดังนั้นบางวันผมก็เดินเข้าบ้านแทนการนั่งมอเตอร์โซค์.......
ที่ผมไม่มีรถนั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง ที่บ้านมีรถหลายคัน แต่ทุกคันต้องได้รับอนุญาตจากบ้านใหญ่ก่อนใช้รถ นั้นจึงทำให้พวกผมตัดสินใจไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกบ้านใหญ่ถ้าไม่จำเป็น......เงินประจำเดือนที่มายังเรือนเล็กเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ เราอยู่กับแบบไม่ขัดสน.....แต่แม่ของผมมักจะพยายามใช้เงินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น..และผมก็ได้รับการสั่งสอนแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก....ดังนั้นเรื่องความฟุ่มเฟือยที่เห็นในบ้านใหญ่ จริงทำให้ผมรังเกียจได้ที่เดียว....
ผมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของผม...ก่อนที่จะเดินเข้าตัวบ้าน...ปล่อยให้เจ้าของรถ เอารถเข้าบ้านเอง...
ผมเป็นอยากให้คนที่บ้านเห็นว่าผมเอารถสองมาขับได้ไง............
“นม........” ผมเดินตรงมาที่เรือนเล็ก ซึ่งเห็นนมนั่งทำกับข้าวอยู่
“อ้าว คุณหนูกลับมาแล้วหรอ..ไปไหนมาค่ะ....”เสียงนมถามเมื่อเห็นผมเดินออกไปนอกบ้าน
“ผมไปเดินเล่นนะครับ.วันนี้นมทำไรกินอะ....” ผมถามก่อนเข้าไปกอดนมที่นั่งปอกกระเทียมอยู่
“ผมจะตำน้ำพริกค่ะ....คุณนายอยู่ในครัวกำลังต้มผักอยู่นะคะ...”
“อ้าวแล้วนมไม่ไปทำอาหารให้บ้านใหญ่หรอ.....”
“เปล่าค่ะ..วันนี้ไม่มีใครอยู่....” นมตอบข้อสงสัยผมเอง
พวกเรานั่งทานข้าวเย็นจนเสร็จ ก่อนที่ผมจะจัดการเก็บกวาดถ้วยชาม.......
และนั่งเล่น นั่งคุยกับนม กับแม่ จนพวกท่านเข้านอน
ที่ผมยังไม่เข้าเพราะต้องการรอเวลาบางอย่าง
(จะไปหา อย่าล็อคประตู ไม่งั้น..) นั้นเป็นข้อความที่ผมส่งไป.......หลังจาก นมและแม่ขึ้นนอนแล้ว
กว่าคนของพวกตึกใหญ่จะปิดบ้านนอนกับก็เกือบเที่ยงคืน แต่ยัยแม่มดก็ยังไม่เห็นจะกลับซักที
ผมเดินเข้าไปที่ตึกใหญ่ ขึ้นไปยังห้องที่เป็นเป้าหมายของวันนี้...ผมตั้งใจจะไปดูหน้าคนที่หยิ่งจองหองซักหน่อย
อย่ารู้นักว่าเป็นไงบ้าง ผมว่ามันคงต้องบ้ามั่งแหละก็ผมสั่งให้มันเดินซะไกล.....ซึ่งผมก็ไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้ว
ผมเปิดประตูเข้าไปเห็นมันนอนคลุมโปงอยู่....... “เป็นไงเหนื่อยไหมสอง....หัดเดินซะบ้างจะได้รู้ว่ามันเหนื่อย...เหมือนที่พวกนายใช้คนที่บ้านไง..........” คำพูดผมเยาะเย้ยอยู่ในที่
แต่ก็ไม่มีคำพูดตอบกลับของคนที่นอนอยู่ที่เตียงแม้แต่น้อย ซึ่งนั้น....ไม่ตรงกับความคิดที่ผมคิดไว้เท่าไหร่
“อะไรเหนื่อยจนไม่มีแรงลุกเลยหรอ.....นายนี้อ่อนปวกเปียกเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกวันแล้วนะ.....” ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อย้ำถึงความอ่อนแอของตัวมันเอง..มันไม่ชอบให้ตัวเองดูเหมือนผู้หญิง ซึ่งนั้นคงทำให้มันเจ็บได้มั่งหละ
ผมรอคอยมันที่จะลุกขึ้นมาเถียง แต่สิ่งที่มันผมคือ “ภูมิ.....เหนื่อย...” นั้นผมให้ผมเริ่มโกรธที่มันไม่เป็นไปตามสิ่งที่ผมคิดเอาไว้
“อะไรวันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรสนุกๆๆ เลย...” คำพูด ที่ทำให้อารมณ์ผมหลุด เพราะการไม่แยแสของมันซะมากกว่า....
ผมตั้งใจจะกระชากมันให้ลุกมา ก่อนที่จะทำอย่างที่ตัวเองคิดจริงๆ...
แต่ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจจริงๆ... มันซึ่งเนื้อตัวมีแต่แผล......ผมห่างจากมันเพียงไม่นาน
แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้มีแผลที่ดูน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้........ผมพยายามถามมันว่าเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็ไม่มีคำตอบหลุดออกมาได้เลย.......ก่อนที่ผมจะยอมแพ้ เพราะเสียงท้องร้องของมันก็ดังขึ้นซะงั้น
(“อ้าวแล้วนมไม่ไปทำอาหารให้บ้านใหญ่หรอ.....”
“เปล่าค่ะ..วันนี้ไม่มีใครอยู่....” ) นั้นทำให้ผมคิดได้ว่ามันยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน
ผมหายไปจากห้องของมันเพื่อลงไปทำให้ต้ม...ซึ่งในครัวบ้านใหญ่มีครบทุกอย่าง
ครัวบ้านใหญ่เหมือนครัวร้านอาหารก็ว่าได้ เพราอะไรที่ผมต้องการก็มีอยู่ในตู้เย็นบานใหญ่ ถึง 2 ตู้ด้วยกัน...
ข้าวต้มที่ทำเสร็จถูกยกขึ้นไปก่อนที่จะป้อนมัน ซึ่งนอนอยู่....
ผมไม่ใช่คนขี้สงสาร......ผมเพียงแค่ไม่อยากให้ใครทำมัน นอกจากผมเท่านั้น....นั้นเป็นความคิดของผมก่อนที่ยัดยาเข้าปากมันแล้วให้มันพักผ่อน.....
+++++++++++++
ความคิดเห็น