ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi เมื่อความกลัวมาเยือน...

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอน7

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ย. 54


     ตอนที่7

    ผมได้รับการดูแลจากภูมิชนิดบอกได้ว่า...ดีเว่อร์ครับ

    พอมาคิด.....เหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นความฝันก็ว่าได้.....

    2-3 วันนอนซมเพราะไข้ และระบม.....ก็ภูมิได้นี่แหละครับ  เป็นธุระจัดการดูแลเรื่องต่างๆให้ ไม่ว่าจะเช็ดตัว กินข้าว กินยา

    ผมนอนมองภูมิกำลังเอายาให้ผมกินอยู่

    “อมยิ้มอะไรว่ะ สอง...”  ภูมิหันมาเห็นผมอมยิ้มอยู่พอดี

    “เปล่า...แค่รู้สึกว่านายใจดีเหมือนกันนะ....” ผมบอกออกไป

    “เปล่าเลย...แล้วอย่าคิดว่าพอเราทำดีแล้วเรื่องต่างๆ มันจะหายไป....เราแค่รู้สึกว่าทำไมเรา..ถึงไม่เป็นคนอัดแกแทนต่างหาก  รีบๆๆ หายซะจะได้กลับมาทนรับการตอบแทนจากเราเร็ว...รู้สึกคันไม้คันมือว่ะ........”

    “เหอะๆๆ  นายนี่ซาดิสนะ.......”  ผมบอกก่อนที่จะสะบัดหน้าหนีไปอีกด้านหนึ่งของเตียง  พอได้ยินคำพูดแบบนี้แล้วมันรู้สึกจิ๊ด........อย่ากระโดดเตะไอภูมิมันจริงๆ.....

    “คุณสองค่ะ  คุณภพมาเยี่ยมค่ะ.......”  หนึ่งในตัวต้นเหตุมาทำไม  นั้นเป็นสิ่งที่ผมคิด....

    “คุณภพมาทำไม........มาหาคุณหนึ่งค่ะ...ดิฉันบอกไปแล้ว  คุณภพเลยถามหาคุณค่ะ ดิฉันบอกว่าคุณไม่สบาย เขาเลยอยากมาเยี่ยมนะคะ.......”  เสียงน้อยพูดขึ้น

     

    ผมหันไปมองหน้าภูมิก่อนที่จะ พยักหน้าบอกน้อย....ให้เชิญเขาขึ้นมา

    “นายไม่คิดจะไปเยี่ยมพ่อมั่งหรอ....” ผมพูดออกไปเมื่อเห็นภูมิยังนั่งอยู่ข้างเตียง

    ที่จริงภูมิก็ไม่ได้ขึ้นมาเยี่ยมพ่อนานแล้วเหมือนกัน.....เพราะแม่สั่งห้ามไว้

    พอผมพูด  สีหน้าของภูมิเปลี่ยนไปนิดหน่อย มีเพียงแววตาที่แสดงออกว่าไม่พอใจ 

    ก่อนที่ภูมิจะเดินออกไปจากห้องของผม

     

    ประตูถูกเปิดออก ก่อนที่คุณภพจะเดินเข้ามา

    “เป็นไงบ้างครับน้องสอง.......” เสียงสุภาพที่แสดงความห่วงใย  เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าผม

    “ครับ......ดีขึ้นแล้วนะครับ...คุณภพไม่ได้ไปเที่ยวกับพี่หนึ่งหรือครับ...”

    “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำ...ว่าหนึ่งไปต่างจังหวัด....” นั้นเป็นคำบอกของคุณภพ

    “หรอครับ.......” 

    “น้องสองต้องเจ็บมากๆ เลยซิครับ......”  ด้วยความพละการของคุณภพ   เขาเอามือมาแตะที่ใบหน้าผมซึ่งมีรอยซ้ำของการถูกรุมอยู่

    ผมพยายามหันหน้าตัวเองออก  “เออ.....คุณภพครับ ผมเจ็บ”  ที่จริงก็ไม่เจ็บหรอกครับแต่ไม่ชอบให้ใครมาแตะ

    “ขอโทษนะครับ......นั้นไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่มาเยี่ยมใหม่แล้วกัน....วันนี้น้องสองก็พักผ่อนก่อนนะครับ....” เขากล่าวก่อนที่จะลุกขึ้น ส่งยิ้มมาให้แล้วเดินออกจากห้อง

     

    วันนี้คงเป็นวันเยี่ยมไข้ครับ  เพราะช่วงบ่าย อุ้มก็มาเยี่ยมหลังจากที่ผมโทรไปบอก....

    ที่จริงผมไม่คิดอยากจะโทรหรอกครับ  แต่ก็ตัดสินใจโทรไปจริงๆ  ประมาณว่าอยากให้เพื่อนรู้ว่าเราไม่สบาย.....

    เพราะตอนที่อยู่ม.ปลาย ผมไม่เคยมีความคิดนี้เลย..ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเราต้องโทรไปบอกให้ตัวเองดูแย่ด้วย

    แต่อุ้มมักจะโทรบอกเวลาเขาไม่สบาย...หรือไม่สามารถมาเรียนได้....

    นั้นคงทำให้ผมติดนิสัยนี้มาจากอุ้ม..........ก่อนวางเธอบอกว่าจะมาเยี่ยม...ซึ่งผมรู้ว่าเธอพูดจริง

    ดังนั้นผมก็เพียงรอคอยการมาของอุ้มเท่านั้น

     

    “สอง  ....ไม่คิดว่านายจะมีเพื่อนด้วยนะเนี้ย...” เสียงประชดหลังจากที่ผมบอกภูมิว่าจะมีเพื่อนมาเยี่ยม

    “ทำไมผมถึงจะมีเพื่อนไม่ได้...”  นั้นเป็นคำถามที่ผมสงสัย

    “ก็ชีวิตนายดูไม่เหมือนกับคนที่จะมีเพื่อนได้.....ก็เท่านั้น...”

    เราสนทนา หรือเรียกอีกอย่างว่าเถียงกันนะแหละครับ ก่อนที่น้อยจะพาอุ้มเดินขึ้นมาบนห้องผม

    “ภูมินายไม่คิดจะออกไปหรอ.......”  ผมถามด้วยความอยากรู้

     

    ท่าทางของภูมิดูโกรธจริงๆ  เขาใช้มือมาบีบที่คางผม

    “วันนี้นายสั่งฉันเป็นครั้งที่ 2 แล้วนะสอง.....”

    ผมอึ้งไปเลยกับลักษณะท่าทางที่ภูมิมี.....

    ผมไม่ได้คิดอยากจะไล่เขาไปหรอก....เพียงแต่ไม่อยากให้ใครมองเขาไม่ดีก็เท่านั้น........

    เสียงเคาะประตูทำให้เขาปล่อยมือจากคางที่ถูกบีบอยู่

    “อุ้ม.......” ผมเปลี่ยนสายตามายังผู้หญิงตรงหน้าที่มีรอยยิ้มที่สดใส

    “สอง เป็นไงบ้าง...” เธอเดินเข้ามาก่อนที่จะชะงัก..... สายตาของเธอมองมายังภูมิซึ่งยืนอยู่ข้างเตียง

    แล้วอุ้มก็กลับมามองผม พร้อมทั้งส่งสายตาถาม ...ประมาณว่า “ใคร”...........

    ซึ่งผมทำได้เพียงแค่ยิ้มให้นิดหน่อย  เพราะไม่รู้จะตอบอุ้มว่าไงดี

    พวกเรานั่งคุยกันสนุกสนาน........จนลืมภูมิไปแล้วด้วยซ้ำ......

     

     

     

    “ฮะแฮ่ม....สองคุณไม่เหนื่อยบ้างหรอครับ....”  สีหน้าตกใจของผม เหมือนได้ยินเสียงที่สุภาพของภูมิ พร้อมกับท่าทาง  ที่ดูให้เกียจนั้น

    พวกเราสองคนหันไปมองภูมิที่นั่งอยู่ใกล้ๆ 

    “จริงด้วยสอง  ดูซิเธอเลยไม่ได้พักผ่อนเลย...”  เสียงของอุ้มบอกพร้อมกับยิ้มเขินๆๆ

    “เออ.......”

    “นั้นเรากลับก่อนดีกว่า..........ไว้ว่างๆๆ จะแวะมาเที่ยวนะ.....”  เธอบอกก่อนที่จะลุกจากเตียง

    และโบกมือลา  และออกไปจากห้อง   แต่ใจจริงผมยังไม่ยากให้เขากลับเลยครับ....

    เวลาอยู่กับอุ้มผมสบายใจกว่าเยอะ  ยิ่งมาได้ยินน้ำเสียงแปลกๆ แบบนี้ด้วยแล้ว...........

     

    “ไง  สอง...เห็นคุยกันซะสนุกเลย.......”   เขาลุกขึ้นมาก่อนที่จะก้มลงมางับริมฝีปากของผม

    “อย่าาาาาาาา” ผมพยายามห้ามก่อนที่เขาจะไซร้ลิ้นเข้ามาในปากของผม

    ไม่มีความนุ่มนวลเลยซักนิด  เหมือนเป็นการลงโทษอย่างเมื่อครั้งอดีตซะมากกว่า.....

    ผมโดนลงโทษนานจนปากผมเริ่มเจ่อ...เพราะแรงที่เขากระทำ....ก่อนที่จะปล่อยผมให้เป็นอิสระ

    ตอนนี้ผมหน้าแดง   แต่ไม่ใช้เพราะความเขินแน่นอน...........มันระคนอารมณ์หลายๆ อย่างเอาไว้

    ทั้งโกรธ  ทั้งกลัว  ทั้งตกใจ....  “นี่สำหรับ..คำสั่งที่นายกล้ามาสั่งฉัน.......”  แล้วผมก็รู้ว่าเขาทำมันเพราะอะไร

    ก่อนที่เขาจะเดินออกไปจากห้อง..........

    ++++++++++++

     

     

     

     

    ผมเดินออกมากจากห้องของสอง ก่อนที่ไอภพมันจะเดินขึ้นมาที่ห้องสอง

    “ไปเยี่ยมพ่อสิ..”  นั้นเหมือนเป็นคำสั่งที่สอง  เคยทำเมื่อนานมาแล้ว

    และผมยินดีทำตาม.......เพราะผมก็ไม่อยากเห็นหน้าไอภพด้วยเช่นเดียวกัน

    ผมเดินเข้าห้องมาหาพ่อ ที่นอนป่วยอยู่....โดยมีนางพยาบาลคอยดูแล 24 ชั่วโมง

    เธอเหมือนจะอาศัยอยู่ในห้องนี้เลยก็ว่าได้...แต่ผมไม่ชอบสีหน้าของเธอเท่าไหร่

    “ขออยู่กับพ่อตามลำพังได้ไหม..........” นั้นเป็นคำพูดของผมเมื่อเดินเข้าไปหา

    ไม่มีคำตอบ  แต่เธอก็ไม่เดินออกไปด้วยเช่นกัน....และนั้นคือคำตอบของเธอ

     

    ผมนั่งมองพ่อซึ่งนอนหลับอยู่.....สภาพร่างกายที่ซูบผอมนั้น ทำให้ผมเป็นห่วงจริงๆ

    ผมไม่ได้เข้ามาเยี่ยมท่านนานแล้ว........เพราะยัยแม่มดสั่งห้ามเด็ดขาด......

    แต่พอวันนี้ได้เข้ามาทำให้ผมเห็นว่าสภาพท่านดูแย่จริงๆ  อาจเป็นกรรมที่ท่านได้ทำกับพวกผมก็ได้

    ทำให้ท่านต้องมาล้มป่วยเช่นนี้........ตอนนั้นผมคิดจะเอาคืนท่านจริงๆ ที่ไม่สนใจหรือดูแลแม่

    ให้เหมาะสมกับสิ่งที่แม่สมควรได้.....ส่วนผมนั้นท่านยังให้ความรักและเงินทองในการใช้จ่ายอยู่ก็จริง

    แต่ท่านก็ไม่เคยแสดงออกนอกหน้าว่าจะปกป้องผมเลย....

    สิ่งที่ผมต้องการคือการปกป้องมากว่าเงินทองที่ท่านมีให้ผม.....

     

     

    “พ่อ.........” ผมเรียนท่านเมื่อท่านเหมือนจะรู้สึกตัวแล้ว

    พ่อค่อยๆ ลืมตาเล็กน้อยก่อนที่ดวงตานั้นจะปิดลงไปอีก......

    “ภูมิเองนะครับ...ผมมาเยี่ยม.......”

    ไม่มีคำพูดหลุดออกมาจากพ่อที่หลับตาลงอีกครั้ง...ซึ่งเหมือนท่านจะไม่รู้สึกตัวมากกว่า

    แต่หน้าแปลก เพราะมือที่ผมกุมอยู่ มีการบีบตอบกลับมา.....เวลาผมพูดหรือคุยเรื่องต่างๆ ให้ฟัง

     

    “คุณท่านต้องการพักผ่อนค่ะ.....” นั้นเป็นเสียงนางพยาบาลที่เหมือนจะบอกให้ผมไปได้แล้ว

    ผมจำต้องปล่อยมือท่านวางลงที่เดิม..........ก่อนที่จะลุกออกจากห้องของพ่อไป

     

     

    ++++++++++++++++++++++

     

     

    ผมเข้ามาเยี่ยมพ่อได้ก็เพราะ........ไอคนที่นอนซมอยู่ที่เตียงนั้นแหละครับ.....

    ไม่งั้นผมคงไม่มีโอกาสได้ไปเยี่ยมพ่อแน่นๆๆ

     

    วันนั้นที่เกิดเรื่อง  ผมซึ่งไปรออยู่ที่หน้าปากซอย.....เพราะอยากจะทำอะไรบางอย่างตอบแทนที่มันตบผม

    แต่พอเห็นรถที่มันขับมาก็ต้องทำให้เปลี่ยนใจ.........ผมเลยให้มันเดินเข้าบ้านเอง....

    ปกติผมก็จะนั่งมอเตอร์ไซค์เข้าบ้าน  เพราะรู้ว่ามันไกลไม่ใช้เล่น....แต่บรรยากาศตอนที่เดินเข้ามาดีมากๆ เหมือนได้ออกกำลังกายจริงๆ  ดังนั้นบางวันผมก็เดินเข้าบ้านแทนการนั่งมอเตอร์โซค์.......

    ที่ผมไม่มีรถนั้นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง  ที่บ้านมีรถหลายคัน แต่ทุกคันต้องได้รับอนุญาตจากบ้านใหญ่ก่อนใช้รถ  นั้นจึงทำให้พวกผมตัดสินใจไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกบ้านใหญ่ถ้าไม่จำเป็น......เงินประจำเดือนที่มายังเรือนเล็กเพียงพอต่อค่าใช้จ่ายต่างๆ เราอยู่กับแบบไม่ขัดสน.....แต่แม่ของผมมักจะพยายามใช้เงินเท่าที่จำเป็นเท่านั้น..และผมก็ได้รับการสั่งสอนแบบนั้นมาตั้งแต่เด็ก....ดังนั้นเรื่องความฟุ่มเฟือยที่เห็นในบ้านใหญ่ จริงทำให้ผมรังเกียจได้ที่เดียว....

     

    ผมขับรถมาจอดที่หน้าบ้านของผม...ก่อนที่จะเดินเข้าตัวบ้าน...ปล่อยให้เจ้าของรถ เอารถเข้าบ้านเอง...

    ผมเป็นอยากให้คนที่บ้านเห็นว่าผมเอารถสองมาขับได้ไง............

     

    “นม........”  ผมเดินตรงมาที่เรือนเล็ก ซึ่งเห็นนมนั่งทำกับข้าวอยู่

    “อ้าว คุณหนูกลับมาแล้วหรอ..ไปไหนมาค่ะ....”เสียงนมถามเมื่อเห็นผมเดินออกไปนอกบ้าน

    “ผมไปเดินเล่นนะครับ.วันนี้นมทำไรกินอะ....”  ผมถามก่อนเข้าไปกอดนมที่นั่งปอกกระเทียมอยู่

    “ผมจะตำน้ำพริกค่ะ....คุณนายอยู่ในครัวกำลังต้มผักอยู่นะคะ...”

    “อ้าวแล้วนมไม่ไปทำอาหารให้บ้านใหญ่หรอ.....”

    “เปล่าค่ะ..วันนี้ไม่มีใครอยู่....”  นมตอบข้อสงสัยผมเอง

     

    พวกเรานั่งทานข้าวเย็นจนเสร็จ ก่อนที่ผมจะจัดการเก็บกวาดถ้วยชาม.......

    และนั่งเล่น นั่งคุยกับนม กับแม่  จนพวกท่านเข้านอน

    ที่ผมยังไม่เข้าเพราะต้องการรอเวลาบางอย่าง 

    (จะไปหา  อย่าล็อคประตู   ไม่งั้น..)  นั้นเป็นข้อความที่ผมส่งไป.......หลังจาก นมและแม่ขึ้นนอนแล้ว

    กว่าคนของพวกตึกใหญ่จะปิดบ้านนอนกับก็เกือบเที่ยงคืน   แต่ยัยแม่มดก็ยังไม่เห็นจะกลับซักที

    ผมเดินเข้าไปที่ตึกใหญ่  ขึ้นไปยังห้องที่เป็นเป้าหมายของวันนี้...ผมตั้งใจจะไปดูหน้าคนที่หยิ่งจองหองซักหน่อย

    อย่ารู้นักว่าเป็นไงบ้าง  ผมว่ามันคงต้องบ้ามั่งแหละก็ผมสั่งให้มันเดินซะไกล.....ซึ่งผมก็ไม่ได้แคร์อะไรอยู่แล้ว

     

    ผมเปิดประตูเข้าไปเห็นมันนอนคลุมโปงอยู่....... “เป็นไงเหนื่อยไหมสอง....หัดเดินซะบ้างจะได้รู้ว่ามันเหนื่อย...เหมือนที่พวกนายใช้คนที่บ้านไง..........”  คำพูดผมเยาะเย้ยอยู่ในที่

    แต่ก็ไม่มีคำพูดตอบกลับของคนที่นอนอยู่ที่เตียงแม้แต่น้อย  ซึ่งนั้น....ไม่ตรงกับความคิดที่ผมคิดไว้เท่าไหร่

    “อะไรเหนื่อยจนไม่มีแรงลุกเลยหรอ.....นายนี้อ่อนปวกเปียกเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกวันแล้วนะ.....”  ผมพูดขึ้นอีกครั้งเพื่อย้ำถึงความอ่อนแอของตัวมันเอง..มันไม่ชอบให้ตัวเองดูเหมือนผู้หญิง  ซึ่งนั้นคงทำให้มันเจ็บได้มั่งหละ

     

    ผมรอคอยมันที่จะลุกขึ้นมาเถียง แต่สิ่งที่มันผมคือ   “ภูมิ.....เหนื่อย...”  นั้นผมให้ผมเริ่มโกรธที่มันไม่เป็นไปตามสิ่งที่ผมคิดเอาไว้

    “อะไรวันนี้ยังไม่ได้ทำอะไรสนุกๆๆ เลย...” คำพูด   ที่ทำให้อารมณ์ผมหลุด เพราะการไม่แยแสของมันซะมากกว่า....

    ผมตั้งใจจะกระชากมันให้ลุกมา  ก่อนที่จะทำอย่างที่ตัวเองคิดจริงๆ... 

    แต่ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมตกใจจริงๆ... มันซึ่งเนื้อตัวมีแต่แผล......ผมห่างจากมันเพียงไม่นาน

    แต่ทำไมตอนนี้มันถึงได้มีแผลที่ดูน่ากลัวได้ถึงเพียงนี้........ผมพยายามถามมันว่าเกิดอะไรขึ้น

    แต่ก็ไม่มีคำตอบหลุดออกมาได้เลย.......ก่อนที่ผมจะยอมแพ้ เพราะเสียงท้องร้องของมันก็ดังขึ้นซะงั้น

     

    (“อ้าวแล้วนมไม่ไปทำอาหารให้บ้านใหญ่หรอ.....”

    “เปล่าค่ะ..วันนี้ไม่มีใครอยู่....”  )  นั้นทำให้ผมคิดได้ว่ามันยังไม่ได้กินอะไรแน่นอน

     

    ผมหายไปจากห้องของมันเพื่อลงไปทำให้ต้ม...ซึ่งในครัวบ้านใหญ่มีครบทุกอย่าง

    ครัวบ้านใหญ่เหมือนครัวร้านอาหารก็ว่าได้ เพราอะไรที่ผมต้องการก็มีอยู่ในตู้เย็นบานใหญ่ ถึง 2 ตู้ด้วยกัน...

    ข้าวต้มที่ทำเสร็จถูกยกขึ้นไปก่อนที่จะป้อนมัน   ซึ่งนอนอยู่....

    ผมไม่ใช่คนขี้สงสาร......ผมเพียงแค่ไม่อยากให้ใครทำมัน นอกจากผมเท่านั้น....นั้นเป็นความคิดของผมก่อนที่ยัดยาเข้าปากมันแล้วให้มันพักผ่อน.....

     

    +++++++++++++

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×