คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอน 6
มีจดหมายมาถึงผม ว่า หมอยาในหมู่บ้านต้องการยาเพิ่มเพราะตอนนี้ในหมู่บ้านเกิดโรคหวัดระบาด
ซึ่งไม่เคยเกิดหนักแบบนี้มาก่อน....
ดังนั้นผมกับเรย์เลยออกเดินทางที่จะเข้าป่าไปหาตัวยาที่ใช้ทำยาแก้โรค.....
ที่จริงเรย์ให้ผมใช้ขนของเขาเอาไปให้หมอยาในหมู่บ้าน แต่ผมต้องปฏิเสธเพราะว่าถ้าเกิดคนในหมู่บ้านรู้ว่า
ผมมีขนของหมาป่า อาจเป็นอันตรายกับเรย์ได้ ใช่ว่าผมไม่ห่วงคนในหมู่บ้าน แต่โรคหวัดนี้ก็เป็นกันทุกปีในช่วงหน้าหนาว
แต่ปีนี้อาจเป็นหนักและมีคนเป็นกันมากกว่าปกติ แต่ถ้าผมกับเรย์สามารถหายาไปได้เพียงพอก็ไม่ต้องเป็นห่วง
ผมเตรียมของที่ใช้ในการเดินทางใส่ย่ามใบใหญ่พร้อมทั้งอาหารสำหรับเรา 2 สอง เสื้อผ้ากันหนาว
ผมอุ่นใจมากขึ้นที่ได้เดินทางกับเรย์ ซึ่งเมื่อก่อนผมต้องเดินทางคนเดียว มันช่างเงียบเหงาซะเหลือเกิน
“เรย์..ระวังหิมะมันสูงจะตกลงไปได้นะ....” ผมเรียกเรย์ซึ่งเดินนำหน้าและคอยสอดส่องระวังภัยให้
แม้เรย์จะเป็นหมาป่าที่ชินทางในป่าแห่งนี้ แต่ยุคสมัยมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ยิ่งช่วงหลังๆ มีพรานป่าหลายคน
ใช่กับกัดแปลกๆ ซึ่งผมก็ไม่เคยเห็นเหมือนกัน ไว้คอยซุ่มดักจับสัตว์ป่าในภูเขานี้...
ตอนที่เรย์บาดเจ็บมาแผลที่ขาของเรย์ก็เป็นกับดักที่ผมไม่รู้ว่าเป็นอะไรเช่นกัน..
ผมเดินตามทางที่เรย์เดินนำหน้าเพื่อเข้าสู่กลางป่า... ต้นยาที่ผมกำลังหาเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก
ซึ่งสามารถมองเห็นได้ง่าย และเกิดขึ้นเป็นจุดๆ ซึ่งต้องเป็นพื้นที่เฉพาะให้ต้นไม้ชนิดขึ้นได้...
และผมก็รู้ว่ามันขึ้นที่ไหน..เพียงแต่ทางที่จะเข้าไปไม่ได้สบายอย่างที่คิด แต่ก็ไม่เป็นอันตรายมาก
แต่ต้นไม้ชนิดนี้ไม่ชอบอากาศหนาว ซึ่งผมก็ไม่แน่นใจเท่าไหร่ว่าตอนนี้ต้นไม้นี้จะตายหมดหรือยัง
เพราะตอนนี้ก็เข้าฤดูหนาวแล้ว....
ตะวันเริ่มคล้อยต่ำ ซึ่งบอกว่าต้องถึงเวลาพักแล้วเช่นกัน เพราะการเดินทางตอนกลางคืนอันตรายยิ่งกว่า..
กิ่งไม้และใบไม้ที่เตรียมมาสำหรับก่อไฟ เพื่อป้องกันความเย็นยามค่ำคืนซึ่งหนาวยิ่งกว่าตอนกลางวัน
พวกเราเข้าไปในซอกหินที่สามารถใช้บังลมหนาว..เพื่อพักเอาแรงสำหรับการเดินทางในวันพรุ่งนี้
“เรย์....มานี้..” เพราะความหนาวผมจึงเรียกเรย์ให้เข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น เพราะขนที่อบอุ่นเหมือนกับเสื้อกันหนาวอย่างดีก็ว่าได้
“พรุ่งนี้ก็ถึงที่หมายแล้วนะ....อีกนิดเดียวก็ได้กลับไปบ้านอุ่นๆ กันแล้ว.” มือของผมที่เกาอยู่ที่ซอกคอของเรย์ทำให้
หัวเรย์ซบลงที่หน้าตักของผม...
ผมกับเรย์เราต่างเหนื่อย เพราะการเดินทางที่ลำบาก ทำให้ผมหลับไปได้อย่างง่ายได้
++++++++++++++++++++++
“อะไร..” ผมตกใจตื่นเพราะ ตัวของเรย์ที่ขยับลุกขึ้น พร้อมกับทำเสียงคำรามอยู่ในคอ
ไฟที่เริ่มมอดทำให้ผมต้องรีบเขี่ยไฟ เพื่อให้ปะทุอีกครั้ง เพราะความมืดเริ่มปกคลุมทั่วบริเวณ
แต่เสียงคำรามที่เหมือนจะขู่ของเรย์ยังคงอยู่ เขี้ยวที่แยกเพื่อเตรียมพร้อม และขาทั่ง 4 เกร็งเหมือนจะจู่โจม
ไฟเริ่มสว่างมากขึ้น ทำให้ผมเห็นว่ามีแขกที่ไม่ได้รับเชิญ.......ซึ่งกำลังตั้งท่าเช่นเดียวกันเรย์
แม้ว่าจะมีสัตว์ที่ไม่ได้รับเชิญเข้ามา และดูจะตัวเล็กกว่าเรย์ แต่จำนวนที่มากกว่าหนึ่ง ก็สามารถเป็นอันตรายได้
สัตว์ที่ผมเห็นคือ หมาไน...ซึ่งกำลังหิ้วโซเลย เขี้ยวที่แยกเพื่อจะขู่ทำให้ผมรู้ว่า พวกมันคงไม่มาดี...
“เรย์......” ผมเรียกเบาๆ ซึ่งรู้ว่าเขาคงไม่ได้ยิน เพราะเสียงที่เริ่มดังขึ้น....แต่ก็ไม่ทำให้หมาไนทั้ง 3 ตัวกลัวได้
ผมรู้ว่าอีกไม่นานพวกมันต้องกระโจกกัดผม และเรย์เป็นแน่...ซึ่งต้องทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายได้รับบาดเจ็บได้
ผมจับมีดที่ใช้ป้องกันตัว...ก่อนที่จะเริ่มค้นหาอาหารเพื่อโยนไปที่หมาไนทั้ง 3 ตัว
ผมรู้ว่าหมาในพวกนี้มีฟันที่แข็งแรงและสามารถฉีกผมได้ง่ายได้ แม้ว่าตัวมันและเล็กแต่ความปราดเปรียวก็ไม่แพ้
สัตว์ล่าเนื้อชนิดไหน...และตอนนี้มันก็อยู่ในช่วงจำศีลเช่นกัน...แต่ทำไม.....ผมถึงเห็นพวกมันมาอยู่ที่นี่ได้
อาหารที่โยนไปทำให้พวกมันจ้องลงมาที่อาหารแทน ซึ่งอีกสองตัวก็ยังมีที่ท่าขู่คำรามอยู่
ก่อนที่ 1 ใน 3 จะคาบอาหาร...และเริ่มถอยหลัง ..... นั้นยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่าพวกมันต้องการเพียงอาหารเท่านั้น
ก่อนที่หมาไนทั้ง 3 จะหายลับออกไปจากบริเวณที่ผมพักอยู่
ผมใช้มือลูบที่หลังของเรย์เพื่อจะให้เขาเลิกที่จะขู่คำรามได้แล้ว
“เรย์...พวกมันไปแล้ว...”
“คาโอ๊ย...นายให้อาหารพวกมันทำไม..” เสียงเรย์ที่อยู่ในร่างมนุษย์
“พวกมันก็คงหิว...อย่างต่อสู้กันเลย..บาดเจ็บกันเปล่าๆ..”
“คาโอ๊ย...นาย.......ถ้าเราไม่อยู่ป่านี้นายคงกลายเป็นอาหารพวกมันแล้ว..” เสียงดุๆ ที่พูดกับผม
“น่าๆๆ นายก็อยู่นี้ เกิดมีอะไรนายก็จะช่วยใช่ไหมหละ..”
“คาโอ๊ย...แม้ว่าเราจะอยู่ป่าแห่งนี้มานาน...แต่ก็ไม่ใช่ว่าสัตว์ทุกตัวจะฟังเรา หรือยอมเรา...นายจำไว้....หมาไนพวกนั้นที่วันนี้มันยอมถอยเพราะมันเห็นอาหารที่ไม่ต้องเสียแรง แต่ถ้าวันใดพวกมันกลับมาแล้วนายไม่มีให้..นายนั้นแหละที่จะเป็นอาหารของมันแทน.....ดังนั้นพวกเราจึงต้องสู้เพื่อให้รู้ว่าใครใหญ่กว่ากัน...”
ผมเข้าใจสิ่งที่เรย์พูดทุกอย่าง มันเป็นวัฎจักรของสิ่งที่มีชีวิต มีผู้ล่าและผู้ถูกล่า..แต่ผมก็ไม่อยากให้เรย์ต้องบาดเจ็บ
เมื่อตอนนี้ยังสามารถทำอะไรได้บ้างก็เท่านั้น
เรย์กลับเข้ามานั่งอยู่หน้ากองไฟซึ่งผมก็เดิมตามหลังมาเช่นกัน....
++++++++++++++
พวกเราออกมาจากซอกหินที่ใช้พักค้างคืน เมื่อตะวันเริ่มทอแสงสุดขอบฟ้า
ผมเริ่มเก็บของใช้อีกครั้งก่อนที่จะเริ่มเดินทางเพื่อไปยังจุดหมาย........ใช้เวลาเดินอีกครึ่งวันก็ถึงแล้ว
ถ้าเป็นหน้าร้อน การเดินทางจะใช้เวลาเร็วกว่านี้มาก....แต่ตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนี้
พวกเราเดินเข้ามาใกล้มากขึ้น....จนมาถึงตีนเขาซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในการเดินทางครั้งนี้
ตรงตีนหน้าผาแห่งนี้จะมีต้นไม้ที่ใช้ทำเป็นยาอยู่ ในช่วงหน้าร้องจนถึงฤดูใบไม้ผลิ...
แต่สภาพที่ผมเห็นตอนนี้คือมีหิมะปกคลุมอยู่....ซึ่งเป็นไปได้ยากว่าต้นไม้ชนิดนี้อาจจะตายหมด...
หรือถ้ายังมีก็เหลือน้อยเต็มที่....ผมเริ่มที่จะใช้มือปัดหิมะที่ปกคลุมอยู่ เพื่อมองหาต้นไม้ที่ให้ทำยา
ผมใช้เวลานานกว่าจะหาได้...เพราะต้นไม้เริ่มตายหมดอย่างที่คิดไว้..แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มี
ผมใช้เวลาหลายชั่วโมงการค้นหาทั่วบริเวณนั้น....มือที่หมดความรู้สึกเพราะต้องคอยขุดหิมะที่ปกคลุมต้นไม้ออก
ดีที่ยังมีถุงมือช่วยป้องกันหิมะกัดได้...ซึ่งเรย์ก็ช่วยผมหาต้นไม้เช่นกัน ขาหน้าทั้งสองที่คอยขุดหิมะขึ้น
แม้ว่าเรย์จะชินกับอากาศหนาว แต่ผมว่าเขาก็คงหนาวไม่ใช่น้อย ไหนจะต้องมาขุดหิมะอีก...
ต้นไม้ถูกรวบรวมไว้มากพอที่จะรักษาคนในหมู่บ้านได้...ถึงจะใช้เวลานานสักหน่อยแต่ก็คุ้ม...
ผมเก็บต้นยาที่ใช้ไว้ในถุงผ้าใบหนึ่ง ก่อนที่จะเอาใช้ย่ามอีกครั้ง....
“เรย์..กลับบ้านได้แล้วนะ....” ผมเรียกเขาที่กำลังยืนมองผมอยู่เช่นกัน
พวกเราอยากทำเวลาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ถึงบ้านเร็วๆ....
ขากลับพวกเราทำเวลาได้ดีเพราะทางลาดของภูเขาทำให้ง่ายต่อการลง
พวกเราเดินเข้ามาในถ้ำซึ่งเป็นที่พักของพรานที่เข้ามาล่าสัตว์.....
พวกเราเดินเข้ามาไกล...พร้อมทั้งเห็นกองไฟที่ลุกก่อนแล้ว...
ซึ่งทำให้ผมรู้ว่ามีคนอยู่ในถ้ำด้วย......
“เรย์...” ผมเรียกเรย์ก่อนที่เขาจะเปลี่ยนเป็นร่างกายของมนุษย์ พร้อมทั้งใส่เสื้อผ้า....
พวกเราเดินเข้าไปในอุโมงค์...ที่มีคนอยู่..
“สวัสดี....” ผมส่งเสียงทักเข้าไปเพื่อบอกให้รู้ ผมและเรย์เดินเข้าไปใกล้กองไฟนั้น
จนเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่ พร้อมทั้งถือมีอยู่ในมีดเพื่อป้องกันตัว
“ผมจะมาอาศัย...ในนี้ด้วยซักคืน..” ผมบอกออกไปพร้อมทั้งแยกตัวห่างจะชายคนนั้นไปยังอีกฝั่งหนึ่ง
“พวกนาย..นั่งด้วยกันก็ได้..” เสียงที่ผมได้ยิน ช่างแตกต่างกับรูปร่างเขาเสียงจริง
รูปร่างที่ใหญ่โตที่มีอายุ แต่น้ำเสียงฟังดูเป็นกันเอง...แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความแข็งแกร่งและความเชี่ยวชาญของการเดินทางในป่ามานับไม่ถ้วน...
พวกเรานั่งอยู่หน้ากองไฟ และแนะนำตัวกันนิดหน่อยก่อนที่ผมจะของตัวแยกเพื่อไปหลับพักผ่อน...
“เรย์..” ผมเรียกเขาเบาๆ ก่อนที่จะให้ผ้าหนังสัตว์ห่มร่างกาย
“คาโอ๊ย..นายระวังให้ดี มันมีกลิ่นของความตายอยู่..” เสียงเรย์ที่กระซิบบอกให้ระวังชายที่นอนอยู่อีกฝั่งหนึ่ง
พวกเราหลับก็จริงแต่สติของเรายังตื่น....ยิ่งคำเตือนของเรย์ยิ่งทำให้ผมต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ
+++++++++++++++++++
แกร็ง.....เสียงมีดของผมที่ปัดมีดอีกด้ามที่พุ่งเข้ามาตรงที่พวกผมหลับอยู่...
“นายทำอะไร....ผมถามออกไป...”
“แก ถูกไอหมาป่านั้นสิงหรือไง..ถึงไม่รู้ว่ามันมันเป็นหมาป่า..” ผมหันไปมองเรย์ที่เริ่มลุกขึ้นอยู่ข้าง
“แกออกมาเร็ว ถ้าไม่อยากให้มันฆ่า..” เสียงชายหนุ่มที่อายุน่าจะมากกว่าผมไม่กี่ปี แต่รู้เรื่องเยอะใช้ได้
“นายพูดอะไรออกมา.....” ผมพยายามโกหกเรื่องที่เรย์เป็นหมาป่า
“หน้าตาเอ็งก็ไม่ได้โดนสิง แต่เอ็งรู้ว่าไว้ซะว่าเพื่อนเอ็งที่ยืนอยู่ข้างหลังเป็นหมาป่า..” เสียงของชายหนุ่มที่พยายามเตือนผมอีกครั้งว่า เรย์เป็นใคร....
สิ้นเสียงเตือนก่อนที่ชายหนุ่มที่จะเดิมมุ่งหน้ามายังพวกผมที่ยืนขึ้นแล้ว......
มีดอีกด้ามที่ยาวกว่าถูกจ่อมาตรงเรย์ที่ยืนอยู่ข้างๆ โดยที่เขาไม่ไหวติ่งสักนิด...
“อย่า..นายจะทำอะไร.” เสียงผมที่เห็นมีดที่ชี้มาที่หน้าอกของเรย์...
“มึงถอยไป กูจัดการเอง..” ผมเดินไปหา เพราะรู้ว่าเขาคงต้องการป้องกันตัวเองและผม
ผมโดนผลักให้ออกมาจากคน สองคนที่กำลังมองจ้องหน้ากันอยู่
ผมรู้ว่าความตายที่เรย์หมายถึงคือกลิ่นเลือด....และอาชีพของชายที่ใช้มีดจ่อเรย์อยู่คือนักล่าสัตว์....
ซึ่งผมก็คิดว่าเขาคงอยากได้เรย์ด้วยเช่นกัน...
“เอามีดลง...” ผมจ่อมีดไปที่คอของชายแปลกหน้า เพื่อให้เขาลดมีดที่จ่อหน้าอกเรย์ลง....
สายตาของเขาที่มองมาที่ผมนิดหนึ่งก่อน “นายรู้ใช่ไหมว่ามันเป็นหมาป่า..” เสียงที่ชายแปลกหน้าถามผม
“ผม บอกให้เอามีดลง..” น้ำเสียงผมที่กระด้างข้าง เพราะปลายมีดที่จิ้มเข้าไปตรงหน้าออก และมีเลือดออก
“ผมพูดเป็นครั้งสุดท้าย....เอามีดออก” มีดของผมที่อยู่ใกล้คอหอยของชายแปลกหน้า ทำให้เข้าเริ่มลดมีดลง
“แล้วมึงจะเสียใจที่ตายโดยไม่รู้ตัว...” เขาลดมีดลงจากหน้าอกแล้ว ซึ่งทำให้ผมลดมีดที่จ่อที่คอหอยลงตามเช่นกัน
แต่ช่วงนั้นมือของเขาปัดที่มีดของผมให้กระเดน และต่อยเข้าที่หน้าทำให้ผมต้องทรุดทันที่
พร้อมกับร่างของเรย์ที่กระโจนตะครุบชายแปลกหน้าที่ทำร้ายผม....ฟันและเขี้ยวที่แยก หมายจะกัดที่คอหอยของชายคนนั้น
“เรย์..อย่า..” ผมตะโกนห้ามก่อนที่ฟันคมๆ จะฝังลงไป....แม้ไม่ลึกแต่ก็มีเลือดออกเช่นกัน
“อย่า....... “ เสียงร้องของชายตรงหน้าที่เห็นร่างที่แท้จริงของเรย์ ซึ่งต้องนี้เขานอนอยู่โดยมีเรย์ยืนค้ำอยู่บนร่างกายของชายแปลกหน้า... ความน่ากลัวของเรย์ที่ปรากฏ และร่างที่ใหญ่โตกว่าหมาป่าทั่วไปนั้น...
แม้ผมจะบอกว่าอย่า..แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเรย์จะฟังหรือเปล่า หรือเพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ฆ่าชายแปลกหน้าเท่านั้น
“เรย์...นายจะปล่อยเขาได้ไหม...” ผมถามออกไป แต่เรย์ไม่คิดจะหันกลับมามองผมเลย
“นายจะฆ่าเขางั้นหรอ....” ผมถามออกไป
“อย่าๆๆ อย่าฆ่าเลย กลัวแล้ว.” ชายแปลกหน้าพูดขึ้นอีกครั้ง...
“เรย์ ปล่อยเขาเถอะ..” ผมเดินเข้ามาหาชายที่นอนลงอยู่ใต้ร่างหมาป่าตัวใหญ่
“นายจะสัญญาได้ไหมว่าจะไม่บอกเรื่องนี้กับใคร....ถ้านายบอก เรย์จะตามไปฆ่านายแน่น.” ผมพูดด้วยท่าทีที่จริงจัง
เพราะถ้าเรย์ไม่ฆ่า ผมก็จะฆ่าเอง ถ้ามันบอกใครเรื่องของเรย์ หรือทำให้เรย์เป็นอันตราย
เขี้ยวฟันที่ขบกันแน่นของหมาป่า ที่จ้องมองลงไปยังชายแปลกหน้าที่นอนอยู่ตรงหน้า
“ได้ ข้าสัญญา..จะไม่มีใครรู้ ปล่อยข้าไป.” เสียงชายแปลกหน้าที่ร้องขอชีวิต
ซึ่งแตกต่างกับเมื่อตอนแรกที่ทำท่าอวดดีผ่านโลกมากเยอะ........
ผมมองหน้าเรย์ก่อนที่จะบอกให้เขาปล่อย ซึ่งเรย์ยอมที่จะไม่ฝังเขี้ยวลงไปที่คอหอย....
แต่ผมก็มัดชายแปลกหน้าไว้ในถ้ำ เพื่อความปลอดภัยในการนอน....ก่อนที่ตอนเช้าจะปล่อยตัวเขาไป
และพวกเราก็ออกเดินทางกลับ....
++++++++++++++++
ความคิดเห็น