คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน4
4 วันมานี่ผมได้ทำงานกับเรตะทุกวัน..เสื้อผ้าที่ผมหอบมากก็หมดสต็อก ผมตั้งใจจะกลับบ้านวันนี้..ตอนนี้ผมพักอยู่ในโรงแรมที่แพงกว่าค่าจ้างที่ผมจะได้อีก...แต่ทำไงได้..ก็..มันยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยผมไปง่ายๆ ทุกวันผมต้องทำงานหนักๆ ไหนจะต้องทำความสะอาด ทิ้งขยะ สารพัดทุกอย่างที่ทำ ผมไม่เคยแตะมันด้วยซ้ำ... ครอบครัวผมทำอาชีพขายทองตั้งแต่สมัยปู่ย่าแล้ว จนมาถึงรุ่นพ่อ และอนาคตก็ต้องเป็นผมที่จะรับช่วงต่อ...ถึงที่บ้านจะทำอาชีพค้าขายแต่ก็มีอาชีพอื่นๆ เสริมอีก แต่ผมไม่ค่อยชอบที่ต้องมาให้ใครนั่งบ่นทุกวัน...ผมอยากมีชีวิตที่อิสระบ้าง...ทำอะไรที่อยากทำบ้าง..แต่ผมก็คิดอยู่นะ..ว่าเมื่อถึงช่วงหนึ่งผมคงต้องหยุดและต้องเริ่มหันมาดูแลงานของที่บ้านต่อ...แต่ตอนนี้ปล่อยผมก่อนเหอะ...
ตลอดเวลาที่เรตะทำงานที่ร้านกาแฟ ผมไม่เห็นมันจะออกไปขี่มอเตอร์ไซค์หรือเห็นมอเตอร์ไซค์ของมันเลย..จนตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่า มันใช่ไอสโม๊คจริงๆ หรือเปล่า...แล้วไหนแว่นหนาๆ นั้นอีก...ผมว่า..ถ้าถอดออกคงเดินกันไม่เป็นเลยทีเดียว.... ผมสังเกตตลอดว่าเมื่อไรมันจะออกไปซิ่งมอเตอร์ไซค์อีก...แต่ขอบอกขนาดโทรศัพท์มันยังไม่พกเลยด้วยซ้ำ.....ผมยังเคยถามเลยว่าทำไม...แต่คำตอบคือมันขี้เกียจถือ.....
โอ้...แม่เจ้า...ที่จริงผมว่าผมแปลกแล้วน้าน...ที่น่ามันอาร์ตตัวพ่อก็ว่าได้..ประมาณว่าเป็นตัวของตัวเองสุด..เสียอย่างเดียวมันกลัวพี่มันสุดๆ...
กรุ่งกริ๊งๆๆ “หวัดดีครับ..” เสียงลูกค้าที่ทักทายตอนเข้ามาในร้าน...ซึ่งดูเหมือนจะแวะมาซื้อกาแฟบ่อยเช่นกัน
“น้องเร...เอาเหมือนเดิมนะครับ...” น้ำเสียงสุภาพของชายที่ใส่ชุดทำงาน...น้ำเสียงดูและสนิทกับเรตะไม่น้อย...แต่ทำไมหน้าของเรตะมันบอกบุญไม่รับหว่าาาา..............
“เชิญคุณนั่งก่อนครับ..เดี๋ยวผมเอาไปให้..” ผมกล่าวด้วยคำสุภาพ เพราะไม่อยากให้ลูกค้าต้องมายืนรอกาแฟ...แต่สายตามันกลับบ่งบอกอะไรบางอย่างที่ไม่เป็นมิตรให้กับผมเลยนี้ซิ..
“น้องเร..พนักงานใหม่หรอครับ..ไม่บอกพี่เดี๋ยวพี่หามาให้ก็ได้...”
“ขอบคุณ..แต่ไม่ต้อง.......ครับ...” โห๊ะๆๆๆ ผมแอบชอบอยู่ในใจที่เรตะมันเสยไปหนึ่งยก....แม้ว่าหน้าลูกค้าจะดูตึงๆ แต่เหมือนจะเก็บอารมณ์เก่งจริงๆ...
เสียงเครื่องบดกาแฟ และไอร้อนของเครื่องพวยพุ่ง....ก่อนที่กาแฟแก้วโตจะถูกวางไว้บนถาดหน้าเคาร์เตอร์..
“กาแฟได้แล้ว....ครับ..” เรตะหนุ่มน้อยบอกเตือนลูกค้าหนุ่มที่ดูเหมือนจะมองเรตะเป็นอาหารตาระหว่างรอกาแฟ....สุดท้ายเขาก็หยิบกาแฟและไปนั่งในที่ๆ คิดว่าเห็นเรตะมากที่สุด....
ผมโครตอยากถามเรตะเพื่อหายข้องใจจริงๆ และสุดท้ายผมก็ถามจนได้
“เรตะ..นายมีดีอ่ะว่ะ..ถึงมีผู้ชายมาจีบอ่ะ...” เสียงกระซิบที่ผมถามเรตะ เพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน
แต่สายตาพิฆาตที่ส่งมาให้ผมนี้สิ..เหมือนผมคิดผิดที่ถามมันไงไม่รู้...
“เหอะๆๆๆ...มึงรู้แล้วจะหนาว...” คำตอบที่มันตอบผมดูจะกำกวม..แต่ผมก็ต้องเลิกแหย่งมัน เพราะรังสีอำมหิตที่ลูกค้าชายคนนั้นส่งมานั้นแหละครับ...
จะว่า 4 วันที่ผ่านมานี้..มีลูกค้าสาวๆๆ น่ารักๆ ขอเบอร์ผมเป็นว่าเล่นก็ได้..แต่เพราะไม่อยากรำคาญ แค่นังหนูของผมคนเดียวก็พอแล้วครับ..ชีวิตนี้ถ้าต้องแต่งาน..ขอแต่กับนังหนูนี่ดีกว่า...
++++++++++++++
ลูกค้าหนุ่มคนเดิม เดินมาเพื่อจ่ายเงินค่ากาแฟ..ซึ่งเรตะเป็นคนดูและเรื่องการเงินภายในร้าน....
“เร...คุณใส่แว่นใหม่น่ารักดีนะครับ...”
“แคร่กๆๆๆๆ........” เสียงผมเอง....ไม่รู้ทำไม ตัวเองต้องไอด้วย....ที่จริงผมยังงง กับตัวเองนิดหน่อย
“80 บาท ครับ...” แต่ดูเหมือนหนุ่นน้อยของเราจะไม่สนใจคำชมสักนิด....สุดท้ายลูกค้าก็ต้องเดินจากไปอย่างไม่ต้องสงสัย
“เรตะ...นายนี่สุดๆๆ ไปเลยว่ะ..สุดยอด...” ก๊ากๆๆๆๆ นี่เป็นเสียงหัวเราะของผมเอง...ผมหละหมั่นไส้นัก...สงสัยเรื่องนี้คงทำให้ผมแกล้งมันได้อีกสักพักแหละครับ.... ดูสิ หูมันแดงใหญ่เลย......
กึกๆๆๆ.............”หวออออออออ.......”
+++++++++++++++++++
ผมพอแหละ....สำหรับการล้อเล่นของนายชิน...แค่ไอลูกค้าบ้ากามคนเดียวก็จะแย่แล้ว ปกติมันมาทุกวัน แต่..ตั้งแต่โดนผมเสยคางไปที..มันก็หายหน้าไปหลายวัน จนผมดีใจนึกว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว...แต่สุดท้ายวันนี้มันก็โผล่มาอีกจนได้...
ผมเดินเข้าไปหานายชิน ก่อนที่จะกระชากเสื้อเชิ้ตที่มันใส่อยู่ และจูบมันลงตรงริมฝีปากพอดีเป๊ะ......
ฮ่าๆๆๆ น่าหัวเราะ กับท่าที่มันหงายหลังลงไปนั่งกับเก้าอี้จริงๆๆ “..ไง...ถ้ามึงพูดอีก..เจอเยอะกว่านี้แน่นๆๆ...” ผมทิ้งท้ายก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปที่เคาร์เตอร์....
สำหรับคนไทยการจูบกันเป็นอะไรที่มากกว่าการทักทาย แต่สำหรับผมมันเป็นการทักทาย ครอบครัวของผมเป็นญี่ปุ่น...ไทยและอังกฤษ...แม่ผมเป็นลูกครึ่ง ไทยอังกฤษ ส่วนพ่อเป็นญี่ปุ่น ดังนั้นพวกเราจึงได้เชื้อสายเหล่านี้ครับ....ตอนนี้พ่อกับแม้อยู่อังกฤษกันทั้งคู่เลย..พวกท่านต้องดูแลกิจการ...ส่วนที่ผมไม่ตามไปเพราะว่าพี่สาวคนสวยของผมกำลังจะเตรียมตัวแต่งงานนี้สิครับ..จะให้ผมทิ้งเธอไปเฉยๆ ก็ไม่ได้.ผมเลยต้องอยู่ดูแลพี่สาวของผมให้เสร็จสิ้นเสียก่อน....แต่สุดท้ายผมกับต้องมานั่งดูแลร้านแทนพี่สาวของผมแทน......ครอบครัวผมเป็นสปอนเซอร์ให้กลับนักแข่งมอเตอร์ของอังกฤษ และผมก็ชอบความเร็วมาตั้งแต่เด็กแล้ว..ทุกสนามแข่งที่นักแข่งลงผมมักจะได้ไปชมเกือบทุกนัด....แถมผมยังได้เทคนิคการบิดมาด้วยเป็นของแถม....
เห็นผมเป็นแบบนี้ แต่ชีวิตของผมสันติมากๆๆ ผมไม่เคยหาเรื่องใครก่อน...ผมจะเป็นคนเก็บความรู้สึก...แต่เมื่อกี้ผมเกิดอาการหลุดเพราะไอชินมันล้อเล่นกับความรู้สึกผมต่างหาก....
เหมือนเมื่อครั้งแรกที่ผมเจอมันนั้นแหละครับ...คำพูดของมันทำให้ผมอย่างกดมันกับตีนผม....กติกาที่เกิดขึ้นเพราะมันเป็นคนเริ่ม...ที่จริงผมต้องยอมรับว่ามันเป็นนักบิดที่เก่งคนหนึ่งในบรรดาคนที่ผมเคยแข่งด้วย....ผมแข่งเพื่อความมันส์อย่างเดียว....ส่วนเรื่องมอเตอร์นั้น เป็นเรื่องของไอควัน....ที่จริงพวกเราติดต่อกันทางเน็ตเท่านั้น....ถ้ามีการแข่งขันผมก็จะออกไป..แต่ถ้าไม่ ผมก็ช่วยพี่ดูแลร้าน....แต่หลังๆๆ ผมชักไม่แน่ใจกับวิธีการของไอควันเท่าไหร่....
“มึงหายตกใจเมื่อไหร่...ก็เอาขยะไปทิ้งด้วยนะ...” ผมหันกลับไปมอง มันนั่งเหม่อที่เดิม ท่าเดิมเด๊ะ.....แต่เสียงของผมคงไปสะกิด..ก่อนที่มันจะทำท่าเอ๋อๆ ยกถุงขยะไปทิ้ง
+++++++++++++++++
ผมต้องผงะกับจูบที่ไม่ได้นัดหมายของไอเด็กบ้าเรตะ...ก็อยู่ๆ มันก็กระชากผมไปจูบนะสิ....แม้เป็นช่วงแค่แป๊ปเดี๋ยวแต่มันเหมือนกับโดนไฟดูดก็ว่าได้....แค่แป๊ปเดียวแต่ไอร้อนๆ ที่ริมฝีปากมันกับติดอยู่ที่ปากผมอยู่เลย...ผมมารู้ตัวตอนที่มันเรียกให้ผมไปทิ้งขยะนั้นแหละ....
“ไอเด็กบ้า....มาล้อเล่นแบบนี้ได้ไงว่ะ..” ผมบ่นกับตัวเองอย่างขัดใจ...สาวสวยๆๆ ผมก็เคยมีแม้ตอนนี้จะขอเว้นช่วงก็เถอะ..แต่มาทำแบบนี้ตอนกลางวันแสกๆๆ กูเตรียมตัวไม่ทันนะโว้ย.................
ผมพยายามเหลือบมองกับกิริยาหลังจากที่ผมโดนเด็กหนุ่มขโมยจูบไป...แต่ถ้าท่าทางของมันกลับไม่เหมือนอย่างที่ผมคิด...ทุกอย่างปกติ..ทั้งๆ ที่มันเป็นคนทำผมนะ...จนผมเริ่มจะรู้แล้วว่ามันแกล้งผมแน่น.......
ตลอดช่วงบ่าย...ผมพยายามจะลืมความร้อนที่โดนเรตะแกล้ง...แต่พอผมนึกที่ไร เหมือนความร้อนนั้นยังอยู่ที่ปากผมไม่หายเลยด้วยซ้ำ....
บางครั้งเวลาผมถูกตัวเรตะ กลับกลายเป็นผมเองที่สะดุ้ง...เพราะเหมือนมีไฟแล่นก็ว่าได้....ตอนนี้ผมเลยต้องพยายามห่างจากเรตะให้มากที่สุด....เพราะไม่อยากโดดช็อคโดยไม่จำเป็น...
วันนี้ทั้งวันเป็นวันที่เหนื่อยที่สุดตั้งแต่ทำมาเลยก็ว่าได้...ไหนจะต้องทำงานหนัก..ไหนจะต้องมาค่อยระวังเรตะ....ตอนนี้ผมเหนื่อยกว่าทุกวัน..แล้วไหนต้องกลับกรุงเทพอีก....
“มึง...วันนี้นายกลับเร็วก็ได้...เห็นว่าต้องกลับบ้านไม่ใช่หรอ..เดี๋ยวร้านกูปิดเอง....” มันบอกผมก่อนที่จะเดินขนเงินเข้าไปหลังร้านเพื่อทำบัญชีประทำวัน....
“เรตะ....เดี๋ยวปิดเสร็จค่อยกลับ...”ผมตะโกนบอกก่อนที่ประตูจะปิด....ตอนนี้ ผมคิดว่าชีวิตตัวเองมีค่าสำหรับร้านกาแฟนี้มากขึ้น...ที่จริงก็ไม่รู้ทำไม..แต่ผมชอบรอยยิ้มของลูกค้าที่ได้กินกาแฟอร่อยๆ...และบรรยากาศที่ดูอบอุ่น..ที่จริงการตกแต่งก็ไม่ได้พิเศษอะไร..แต่ผมกลับรู้สึกดีไม่อึดอัดเหมือนตัวเองนั่งในร้านทอง.....
“อึบ..อ่ะ..เสร็จเรียบร้อย...” ตอนนี้ผมทำความสะอาดเสร็จแล้ว...แต่ดูเหมือนเรตะจะยังไม่ออกมาจากหลังร้านเลย...เขาหายเข้าไปตั้งแต่ตอนที่เริ่มปิดร้าน...นี่ก็เกือบชั่วโมงแล้ว
“โถ่..นึกว่านั่งทำงาน ...แอบหลับหรอเนี้ย..” ผมเดินเข้าไปหลังร้าน..แต่กลับเห็นเด็กหนุ่มนอนฟุบกับโต๊ะ ท่าทางคงจะเหนื่อยเหมือนกัน.....ผมยืนเพ่งมองเรตะขณะหลับ..หน้าตาที่ไม่มีพิษมีภัย แว่นที่ถูกวางไว้ข้างๆ ทำให้ผมเห็นใบหน้าที่ไร้แว่นหนาๆๆ นั้น..สีผิวขาวอมชมพูเล็กน้อยที่เด็กญี่ปุ่นมีกมีกัน...ไหนจะเขี้ยวเล็กๆ ทีโผล่ออกมาอีก...ผมหยุดตัวเองไม่ให้มองเรตะไม่ได้...ยิ่งมองความร้อนที่ริมฝีปากผมกลับค่อยๆ ปะทุขึ้นที่ละน้อย... ผมมองเรตะ..โดยที่ตัวเองก็ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่จนเขาตื่นนั้นแหละ ผมถึงเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองมองเรตะอยู่
“อืม........” เสียงครางเบาๆ ของเรตะ...
“ตื่นแล้วหรอ...พี่ทำเสร็จแล้ว....จะมาเรียกแต่เห็นหลับอยู่เลยไม่อยากปลุกนะ..”
ท่าทางงัวเงียของเรตะ เหมือนกับเด็กเพิ่งตื่นนอนจริง..ก่อนที่เขาจะหยิบแว่น....แต่ผมเร็วกว่า..ผมอยากรู้มาก...ว่าเรตะสายตาสั้นเท่าไหร่...เพราะแว่นมันนี้มันดูขี้เหร่มากๆๆ
“โอ๊ะ...ไม่ใช่แว่นสายตานิ...” ผมส่องซ้ายขวาเพื่อให้แน่นใจว่าผมมองไม่ผิดจริงๆ หรือไม่สายตาผมก็ต้องสั้นเท่าเรตะแน่นๆ..แต่อย่างหลัง คงไม่ใช่แน่นอน..
“แล้วใครบอกว่ากูสายตาสั้น...เอาคืนมา...” น้ำเสียงหาเรื่องมาก่อนเลย..
“แล้วจะใส่ทำไม..เดี๋ยวสายตาก็สั้นจริงๆ หรอก...”
“เออ...กูใส่เพราะอยากใส่..พอใจยัง...”
“เรตะ..ทำไม....เราญาติดีกันไม่ได้หรอ...พูดกับผู้ใหญ่ให้มันดีๆๆ หน่อย...”
“ทำไม...อย่าคิดว่าอายุมากว่าแล้วสอนได้นะเว้ยยยยย”
“พี่เปล่าสอน..แค่อยากให้พูดดีๆ เท่านั้น...ต่อไปพี่จะเรียกเราว่าเรตะ....ดังนั้นเรตะต้องเรียกพี่ว่าพี่ชินหรือจะเรียกชินเฉยๆ ก็ได้..เข้าใจ๋...” ตอนนี้ผมกำลังทำตัวเป็นคนสอนสุนัขอยู่ครับ เหมือนกับในรายการทีวี คือใช้ไม้อ่อนก่อน แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม้แข็งตามลำดับ
“ทำไมกูต้องเรียกมึงว่าพี่ชิน..ในเมื่อมึงแพ้กู..ฮ๊ะ บอกหน่อย...”
“เรตะเรื่องแพ้ชนะมันไม่เกี่ยว..ตอนนี้เรากำลังพูดเรื่องการเรียกสรรพนาม...”
“ไม่........กูอยากเรียกอะไรกูก็จะเรียก เข้าใจ๋...” สีหน้ากวนตีนของเรตะกลับมาทันที ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้ไม้อ่อนคงใช้ฝึกกับสุนัขตัวนี้ไม่ได้แน่นๆ
ผมเดินเข้าไปกอดรัดเรตะ โดยใช้แขนสองข้างโอบตัวเรตะไว้ เพื่อไม่ให้ดิ้นหลุด...แขนที่รัดเหมือนเชือก
“มึงทำเชี๊ยไร...” เสียงโววายของเรตะไม่ได้ทำให้แขนผมที่รัดอยู่แน่นน้อยลง
“เปล่า..แค่จะทำการตกลง..ถ้านายพูดไม่เพราะหรือไม่เคารพกันอีก...จากที่พี่โดยนายแกล้งเมื่อกลางวัน พี่จะแกล้งเราบ้าง....”
“มึงปล่อย.......กูนับ......หนึ่ง....สสส.........”
ผมไม่คิดจะรอให้เรตะนับจบครบหรอก...ผมก็จูบเรตะเรียบร้อยแล้ว ริมฝีปากเมื่อกลางวันกลับมาอีกครั้ง ความร้อนที่ผมสัมผัสมันอีกครั้ง....ลิ้นของผมที่เข้าไปอยู่ในปากของเรตะโดยง่าย... เพราะดูเหมือนเขาจะอึ้ง
“ถ้านายกัดลิ้นพี่..นายไม่ได้กลับบ้านแน่เรตะ...” ผมสั่ง....ก่อนที่เรตะจะหาตกใจ..เพราะเด็กแสบอย่างเรตะ...ถ้าไม่ขู่ให้กลัวคงไม่ได้.... เรตะไม่กล้ากัด แต่ดูเหมือนเขาจะพยายามหลบผมมากกว่า....
สารคดีฝึกสัตว์ที่ผมเคยดู เราต้องค่อยเป็นค่อยไป...และผมก็จำมันได้ขึ้นมา แม้ว่าผมอยากที่จะอยู่ในปากของเรตะต่อก็ตาม
วงแขนที่รัดเรตะคลายออก...ก่อนที่ผมจะก้าวถอยหลัง
“เราตกลงกันแล้ว...ต่อไปเรตะจะเรียกพี่ว่าชินหรือ พี่ชินก็ได้ตามใจ..แต่ถ้ามีคำหยาบอีก..พี่จะหาวิธีลงโทษกับความก้าวร้าวของเรตะเอง เข้าใจ๋...”
ผมหันหลังเดินออกจากหลังร้าน และอ้อมไปเอามอเตอร์ไซค์ เพื่อขี่กลับเข้ากรุงเทพ.....
++++++++++++++
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะค่ะ และขอให้สนุก
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ.....
ความคิดเห็น