คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอน4
ตอน4
อากาศแจ่มใส กับแดดอ่อนๆ ช่วงสายๆ กับมานั่งรับอากาศเย็นๆ นอกบ้านก็เป็นกิจวัตรอีกแบบที่คุณคริสทำ
เขามักจะใช้เวลาส่วนมากในการโทรสั่งงาน และมอบหมายงานต่างๆ ให้กับเพื่อนที่เป็นกรรมการอยู่ในบริษัทแห่งนี้
จะเรียกว่าเพื่อนซะทีเดียวก็ไม่ได้หรอกครับ
เพราะว่าผมเพิ่งรู้มาว่าเขามีฐานะเป็นน้อยชายด้วย แม่ของเขาเป็นน้องสาวป้าแอน............
เรานั่งเล่นอยู่ที่หน้าบ้านซึ่งปูด้วยหินอ่อนยืนออกมา มีโต๊ะเหล็กวางเข้าชุดกับเก้าอี้ เหล็ก ซึ่งดัดเป็นลวดลาย
กลางโต๊ะมีแก้วน้ำซึ่งนำมาทำเป็นแจกันและมีดอกกุหลาบซึ่งตัดเท่ากับปากแก้วอยู่ในนั้น
“ ฮา ฮา ฮา อินุ บอกแล้วว่าอย่าเลีย.....ฮา ฮา ฮา”
อย่าตกใจครับ นั้นเสียงผมเอง.....ก็เจ้าตัวดี พอเห็นผมมันก็วิ่งกระโดดใส่ พอผมอุ้มมันได้ก็เลียซะแก้มผมเปียกหมดเลย
คุณคริสก็นั่งหัวเราะ กับสิ่งที่เจ้าอินุมันทำ ..........แฮ่ะๆๆๆ ............
“คุณคริสอุ้มมันก่อนนะเดี๋ยว มิคกี้จะเป็นเอาหารให้เจ้าตัวดีแป๊ป...” ว่าแล้วผมก็วิ่งไปเอาอาหารให้
เพื่อที่มันจะได้หยุดซักที เจ้าตัวนี้ขี้อ้อนมากเลยครับ มันชอบคลอเคลียและชอบให้ผมลูบขนมันเล่น เป็นที่สบายใจของมันเลยแหละ
ไม่ว่าจะเป็นใครถ้าได้ลูบไล้ที่ขนมันเมื่อไหร่ เป็นต้องสนิทกับมันทุกราย....
ซึ่งคุณคริสก็หลงกลเจ้านุ มันแล้ว ตอนนี้ผมกับดูแลเจ้านุน้อยลง เนื่องจากต้องคอยดูแลคุณคริส
ดังนั้นภาระให้การดูแล ให้อาหารและอาบน้ำจึงตกเป็นของป้าโรสโดยปริยาย
ซึ่งน้ำใจที่ป้าโรสมีให้ผมนั้น เหมือนคนในครอบครัวมากกว่าซึ่งทำให้ผมรักและเคารพป้าโรสเช่นกัน
อาหารของเจ้านุ คือ อาหารเม็ด และนมถ้วย ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นอาหารโปรดเลยก็ว่าได้ครับ ผมถือมาพร้อมกับวางใกล้ๆ โต๊ะ ที่คุณคริสนั่งอยู่
“มิคกี้...เจ้านุเนี้ยตัวเหม็นแล้วนะ...” เขาพูดแหย่ผม
“ห๊ะ....จริงหรอ....สงสัยต้องอาบน้ำแล้ว เจ้านุเอ๋ย........”
“ฮา ฮา ฮา ฮา” เสียงของเราทั้งคู่
“มิคกี้....เรามาอาบน้ำเจ้าตัวดีกันไหม...ผมจะได้ออกกำลังกายด้วย....”
“จริงหรอ...........เอาสิ...เดี๋ยวมิคกี้เตรียมน้ำยาและถังน้ำก่อนนะ.........”
คุณคริสอุ้มเจ้าตัวดีเดินมาที่สนามหน้าบ้านซึ่งลงบันไดมา 3 ขั้น
“คุณคริส เดินตรงมาเลย........” ผมหันไปมองแล้วก็ส่งเสียงเรียกให้เขาเดินเข้ามา
แต่เจ้าตัวน้อยนี่ไม่ชอบน้ำเป็นที่สุด...ดังนั้นเมื่อเห็นว่าตัวต้องเปียแล้วจึงดิ้นอยู่ในอ้อมแขนคุณคริส
“มานี่เลยเจ้าตัวดี....ซนนักนะ...” ผมรับเจ้านุมาจากคุณคริส แล้วหยิบสายยางฉีดไปที่ตัวเจ้านุ
อ๊ะ.......อ๊ะ เสียงร้องอยากกับคนกลัวผีเลย แต่ใช่ว่าผมจะใจอ่อนปล่อยมันไป
“คุณคริสนั่งลง แล้วช่วยจับเจ้านุหน่อยสิ...” ผมดึงมือเขาให้ช่วยจับเจ้าสัตว์เลี้ยงตัวดีไว้
ตอนนี้ตัวมันสั่นเป็นเจ้าเข้าเลย อาจเพราะหนาวก็ได้ เพราะมันก็ไม่ชอบน้ำอยู่แล้ว
“มันคงหนาวน่าดูเลยนะ...ดูซิ สั่นซะขนาดนั้น...” คุณคริสชวนคุย
“นั้นรีบๆๆ อาบน้ำให้เจ้าตัวดี ก่อนดีกว่าเนอะ..” จากน้ำก็เปลี่ยนมาเป็นแชมพู แต่ว่าชมพูมันลื่นมากทำให้เจ้านุ
ที่ถูกจับอยู่หลุดมือไปจนได้...... “คุณคริส..มันวิ่งไปแล้ว...” ผมตะโกนเมื่อเห็นมันกำลังจะดิ้นหลุด
และมันก็เป็นอิสระจนได้
สภาพเจ้านุตอนนี้มีฟองติดทั่วตัว จากขนฟูพอโดนน้ำมันก็ลีบติดหนัง เมื่อลูกหมาตกน้ำจริง ๆ
ผมวิ่งไล่จับจนเริ่มอ่อนใจ ส่วนคุณคริสทำได้เพียงเรียกให้เจ้านุมาหา
แต่เพราะว่าเหนื่อยและหนาว เจ้าตัวดีเลยวิ่งไปหาคุณคริสและกระโดดใส่เหมือนจะให้กอดซะงั้น
แม้คุณคริสจะตกใจนิดหน่อยแต่ก็ยอมอุ้มมันโดยดี แต่มีหรือเจ้านุมันจะหยุดซน กลับสะบัดขนให้ฟองกระเด็นไปทั่ว
“อ้าย.....คุณคริสขอโทษค่ะ...เปียหมดเลย..”
“ไม่เป็นไร..รีบๆ อาบให้เจ้านุก่อนเถอะ...มันคงจะหนาวจริงแล้วแหละ...”
ดังนั้นผมจึงรีบอาบให้ดังที่คุณคริสว่า มันก็สะบัดขนตลอดเลย กว่าจะได้เช็ดตัว ก็เล่นเอาเราทั้งคู่เปียกได้เช่นกัน
“ป้าโรส .....มิคกี้ว่าป้าเอาเจ้านุเช็คตัวที...เดี๋ยวมิคกี้จะพาคุณคริสเป็นเปลี่ยนเสื้อก่อน....”
ด้วยความลืมตัวผมจึงพาคุณคริสไปเปลี่ยนเสื้อแทนป้าโรส
ระหว่างอยู่ในห้องผมก็หาชุดเปลี่ยนให้คุณคริส
“อ้าว....คุณไม่ถอดเสื้อหละ...เดี๋ยวจะไม่สบายนะ”
“อือ..ผมว่าคุณออกไปก่อนดีไหม.....เดี๋ยวผมเปลี่ยนเอง...”
ผมซึ่งเป็นผู้ชาย ไม่เห็นแปลกตรงไหนที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้
“...ฉันได้รับการฝึกมาให้ดูแลคนนะคะ...ดังนั้นเรื่องการเปลี่ยนเสื้อผ้านี่ก็เป็นงานเช่นกัน...”
“....แต่มันจะไม่สุภาพกับคุณนะมิคกี้...”
“นั้นเอาอย่างงี้....เดี๋ยวฉันจะหันหลังให้ เสร็จแล้วคุณก็บอกแล้วกัน...”
ผมจำใจหันหลังให้ถามคำสัญญา “แต่เหมือนว่าการเปลี่ยนเสื้อผ้าคนเดียวสำหรับคุณคริสนั้นลำบากเกินไป....”
ทำให้ผมทนไม่ไหว ต้องเข้ามาช่วยเหลือ..... “ขอบใจ...” นั้นเป็นคำพูดหลังจากเปลี่ยนเสร็จ
ผมพาคุณคริสออกมานั่งที่โชฟาในห้องรับแขก และพาตัวเองไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้าง....
เมื่อผมออกมา ก็เห็นเจ้านุขนฟู นั่งบนตักคุณคริสเรียบร้อยแล้ว
เจ้านุเป็นตัวเรียกสีสันในบ้านก็ว่าได้ ป้าแอน ป้าโรส ชอบใจกันใหญ่เวลาที่เจ้านุดึงชายกางเกง
หรือเวลาที่มันทำท่าตลกๆๆ ให้คนในบ้านหัวเราะ............
“อ้อ ป้าโรสกับแม่บอกว่าจะออกไปจ่ายตลาดนะ....” ผมบอกมิคกี้ไปตามคำสั่งของป้าโรส
+++++++++++++++
มีรถคันงามจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
“คุณคริสนัดใครมาหรอ........” ผมถามเขาด้วยอาการงุนงง
“อ้อ...ผมนั้นน้องชายที่บริษัทมานะ เรามีเรื่องจะต้องปรึกษากัน...”
ตั้งแต่ที่ผมมาเป็นพยาบาลให้ ผมก็ไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมเยียนเลย อาจเป็นเพราะคุณคริสไม่อยากเจอก็ได้
ซึ่งผมว่าเป็นการดีเช่นกัน ที่มีคนมาหาและพูดคุณเรื่องราวต่างๆๆ บ้าง
“โอ๊ะ....พี่คริสสบายดีไหม” น้องชายคุณคริส ซึ่งเป็นทั้งเพื่อน ทั้งน้องและคนที่ทำงาน กล่าวทักทายคุณคริส
“เป็นไงบ้าง..เจ้าตัวดี...”
“ผมก็เรื่อยๆๆ อ่ะนะ งานที่บริษัทก็ไม่มีอะไรแปลก.....แต่ผมได้ข่าวว่าพี่เปลี่ยนพยาบาลอีกแล้วหรอ...”
“อือ...ใช่....นี่คุณมิคกี้....” คุณคริสกล่าวแนะนำอย่างเป็นทางการ พร้อมจับมือทักทาย
“สวัสดีครับ......ไอผมก็นึกว่าสาวรายต่อไปที่ต้องร้องไห้คือใครซะอีก...ที่ไหนได้หนุ่มหล่อนี้เอง......”
“อ๊ะ...........” นั้นเป็นเสียงอุทานของผมเอง
“หนุ่ม.....หนุ่มไหนว่ะ เน็ต...”
“ก็พยาบาลพี่ไง หล่อใช่ย่อยนะเนี้ย..” สิ่งที่ทำผมได้มีเพียงโบกมือไปมา เหมือนบอกใบ้ว่าอย่าพูด
จากบรรยากาศที่อบอุ่น ตอนนี้เริ่มมาคุแบบไม่รู้ตัว.......และความเงียบก็ปกคลุม
โดยที่คุณเน็ตไม่ได้เอะใจเลย
“เน็ต...กลับไปก่อน...พอดีพี่มีเรื่องจะปรึกษาคุณมิคกี้หน่อยนะ....”
ผมเห็นคุณเน็ตทำท่างงๆ แต่ก็ยอมกลับไปด้วยดี
“เชิญคุณมิคกี้....ที่ห้องผมหน่อย...” แล้วเขาก็เดินนำหน้าเข้าห้องไป
ผมได้แต่ยืนอึ้งอยู่ ทำไมเวลามันแสนสั้นนัก กว่าจะไว้ใจกันได้...แล้วตอนนี้ก็มาพังกับการโกหกของผมเอง
ป้าโรส ป้าแอนก็ไม่อยู่...แล้วผมจะทำยังไงเนี้ย....
แกร๊กๆๆๆ เสียงกระดิ่งที่ใช้เรียกเหมือนคำตัดสินที่จะมาถึง............ผมเดินเข้าไปพร้อมใจที่สำนึกผิด
+++++++++++++++
................ความเงียบและบรรยากาศที่เหมือนกับครั้งแรกที่ผมมาถึง เริ่มอบอวลอยู่ภายในห้องนี้อีกครั้ง..............
“...........คุณเป็นผู้ชาย...........”
“ครับ.......ผมเป็นผู้ชาย........”
“คุณเลิกทำเสียงแบบนี้ซักทีเถอะ ผมทนไม่ได้............” เขาให้เราเลิกทำเสียงทั้งที่เป็นเสียงเราเนี้ยนะ
“...นี่เป็นเสียงผมเอง..........”
“มีอะไรจะแก้ตัวก็ว่ามา ผมรอฟังอยู่............” เหมือนเขากำลังระงับสติอารมณ์อยู่
“.........ไม่มีครับ...........”
เพียงเท่านั้น อารมณ์ที่เก็บไว้อยู่ถูกปลดปล่อย.......... “คุณเห็นว่าผมมันโง่ ตาบอด เลยคิดจะหลอกผมเพื่อเล่นตลกใช่ไหม....แล้วไอชื่อมิคกี้นั้นก็ด้วย....”
“ผมชื่อมิค.....” “เออใช่สิ....ทำไมผมถึงไม่สงสัยนะ บางครั้งคุณก็เรื่องตัวเองว่ามิค ......คุณบอกให้ผมไว้ใจคุณ....แต่คุณกับทำเรื่องเลวๆๆ แบบนี้หรอ.......คุณมันก็คนไร้หัวใจ....เห็นผมเป็นของเล่น เอาหัวใจผมมาขย้ำเล่นละซิ...”
เขาพูดพร้อมเดินเข้ามากระชากที่คอเสื้อของผม............ “ไอผมก็หลงเชื่อความมีน้ำใจของคุณ ผมคิดเสมอนะว่าคุณคือคนที่เข้าใจผมจริงๆ.....แต่คุณกลับเป็นคนที่ทำให้ผมเสียใจที่สุด........คุณ....คุณ....คุณ.....โธ่โว้ย..”
สิ้นคำพูดที่ไม่รู้จะว่าอะไรต่อแล้ว เขาก็ลงโทษผม.........เขาได้ผลักผมอย่างแรงจนทำให้ ตัวผมทรุดลงไปนั่งกับพื้น พร้อมกับมือที่กำแน่นเหมือนจะต่อยผมก็ว่าได้ ซึ่งผมก็เต็มใจรับมันอยู่แล้ว
ผมหลับตารอคอยหมัดที่จะลงมากระทบบนหน้าผม แต่มันถูกเปลี่ยนเป็นเพียงการตบที่ไม่แรงอย่างที่คิด และจูบที่หนักหน่วง ซึ่งผมไม่เคยได้รับเลย มันเป็นจูบที่ทำให้ผมแทบหายใจไม่ออก ไม่มีความหวานอยู่ในนั้น
ลิ้นร้อนๆและริมฝีปากที่บดขยี้ผม ทำให้ผมตกใจไม่ใช่น้อย.....ผมไม่มีเวลาแม้จะหยุดหายใจด้วยซ้ำไป......
เป็นเพราะอารมณ์ที่รุนแรงของคุณคริส ทำให้มือไม้ผมไม่มีแรง
“ในเมื่อคุณทำกับผมได้....ผมก็จะทำกับคุณบ้าง....” นั้นเป็นเสียงที่คาดโทษผม
กระดุมเสื้อที่ถูกปิดไว้เรียบร้อยตามมาตรฐานพยาบาล ถูกกระชากออกด้วยมือเพียงข้างเดียว
ริมฝีปากคุณคริสบดขยี้เรื่อยมาจนถึงต้นคอ เขาได้ขบฟันลงรอยแผลเป็นที่ต้นขอผม
“อย่า.....อย่า..”
นั้นเป็นเสียงร้องห้าม “ปล่อยผมเถอะครับ...........”
ผมพยายามเรียกสติของคุณคริสคืน ซึ่งมันไม่เป็นผลแต่อย่างใด อารมณ์เดือดดาลและพลังที่มากเกินปกติ
ทำให้แขนผมชาด้วยมือเพื่อข้างเดียวของเขาที่กดทับอยู่เหนือศรีษะผม
หลังจากที่เขากัดไปที่ต้นคอผม เขาก็ไม่หลุดเพียงแค่นั้น ฟันเขาได้กัดกระทบมาที่บริเวณหน้าอกผม
“อย่า....ได้โปรด.......” ผมพยายามร้องขอ แต่คำตอบที่ได้คือ รอยฟันที่กัดบริเวณหัวนม ซึ่งผมรู้สึกว่าน่าจะมีเลือดปนด้วย...
ความกลัวเข้าสุมในความรู้สึกผม....เข้ากำลังข่มขืนผม.....แม้ว่าผมจะรู้สึกดีกับเขาแต่มันต้องไม่ใช่การข่มขืน....
ผมพยายามดิ้นอย่าสิ้นกำลังมือผมสะบัดหลุดได้แล้ว...ผมพยายามผลักเขาให้ออกไปจากตัว...
เขาเซนิดหน่อยซึ่งนั้นเป็นโอกาสที่ผมจะหนี......และความลนลานทำให้ผมไม่สามารถเพิ่มความเร็วได้
เขาจับข้อเท้าผมแล้วกระชาก ทำให้ผมต้องล้มไปอีกครั้ง..........
เขาจับผมแล้วดึงกางเกงที่สวมอยู่...ออกพร้อมกับถอดกางเกงของเขาด้วยเช่นเดียวกัน
ผมรู้ว่าการใส่เข้ามาโดย ไม่ใช้ตัวช่วยมันเจ็บ และอาจเป็นแผลฉีดขาดได้.... “คุณคริสครับ...ผมขอร้อง...อย่าทำแบบนี้เลย..”
ผมร้องขอเขา เหมือนเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆ น้ำตาที่ไม่ได้หลั่งตั้งแต่เสียบิดาเริ่มจะไหลเปรอะบนใบให้ผม
ซึ่งเขาก็ไม่สามรถมองเห็นได้.................
ไม่มีเสียตอบรับ มีเพียงเขายกขาผมขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง แล้วสอดใส่อัวยะเพศของเขาลงในไปตัวผม
“อ๊ากกกก......คุณคริส.......ผมเจ็บ..........” เสียงร้องอุทาน เมื่อเขาพยายามใส่ความใหญ่โตเข้าไปในตัวผม
กลิ่นคาวเลือดโชยมาแตะที่จมูกผม ซึ่งผมรู้ว่ามันคืออะไร.......
ไม่มีการเล้าโลม ไม่มีคำพูดแสนหวาน มีเพียงการลงโทษ....และโทษนั้นมีผมคนเดียวที่ได้รับ.....
“อือ....อือ...อือ” เมื่อเสร็จภาระกิจลงโทษเจียนตาย เขาก็ลุกขึ้น มีเพียงผมที่นอนกองอยู่กับพื้น ด้วยสภาพลูกผีลูกคน
ผมพยายามพยุงตัวเองออกจากห้อง เหมือนกับขอกลับไปตายที่รังยังดีเสียกว่านอนตายตรงนี้
+++++++++++++++++
ตุ๊บ?? เหมือนเสียงของหนักๆๆ ตกลงพื้น
“มิค.....มิค.......” ผมไม่ได้ยินเสียงเปิดประตู และเสียงที่ผมได้ยินก็ไม่ใช่เสียงเปิดประตูเช่นกัน
“มิค...นายอยู่ไหน...อย่ามาเล่นตลกนะ...” ผมเริ่มสำนึกได้เมื่อเอาตัวเองเข้าไปในร่างนั้น แต่มันก็สายไปเสียแล้ว
ผมพยายามเดินแตะที่โต๊ะและพยายามหาต้นเสียงที่ได้ยิน
ผมเดินไปจนรู้สึกว่าเหยียบอะไรเข้า............ผมก้มจับว่านั่นคืออะไร แต่สิ่งที่ได้คือปลายนิ้วมือ ของมิคนั้นเอง
ผมประคองเข้าขึ้นมา... “มิค...มิค...” ไม่มีเสียงตอนรับจากมิค ผมได้ยินเพียงลมหายแผ่วๆๆ
ความกลัวก่อเกิดให้ตัวผมขึ้นทันที....ผมทำอะไรลงไปเนี้ย....ผมทำร้ายชีวิตคนๆ หนึ่ง........ “มิค...มิค...” ผมเขย่าเพื่อให้เขารู้สึกตัว แต่ก็ไม่มีเสียงใดๆๆ อีกเช่นเคย
ผมอุ้มร่างนั้นเดินผ่านไปยังเตียง....ซึ่งไม่ก็ไม่รู้ตัวว่าชนกับอะไรบ้าง แต่เขาก็ถูกวางบนเตียงเรียบร้อยแล้ว
ผมโทรหาเจ้าเน็ต ซึ่งเป็นคนเดียวที่ผมติดต่อได้ในขณะนี้
“เน็ต.....แกอยู่ไหน มาที่บ้านด่วน ตามหมอมาด้วย...” ผมโทรหาอย่างร้อนใจ
“เน็ต... แกต้องมาถึงภายใน 10 นาทีไม่งั้นแกได้ตายแน่เชื่อฉัน...” นั้นเป็นครั้งที่2 หลังจากครั้งแรกโทรผ่านไปไม่ถึง 10 วิ ด้วยซ้ำ
“เน็ต...มึงอยู่ไหน...อย่าลืมหมอเด็ดขาดนะมึง..”ผ่านไปไม่ถึง นาที
ผลั่ว!!! เสียงกระแทกประตูเปิดของไอเน็ตทำให้ผมอุ่นใจขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นพี่....หมออยู่นี้แล้ว”
“หมอดูอาการมิคด้วย....ผมมันเลวเอง...อยากให้เขาเป็นอะไรนะ” เสียงพี่คริสที่กระหืดกระหอบ พยายามอธิบาย
“พี่ใจเย็นๆ ก่อน...หมออยู่นี้แล้ว มิคไม่เป็นไรหรอก ..พี่ออกมานั่งข้างนอกดีกว่า..ให้หมอเขาจัดการเถอะ”
ผมพาพี่ชายตัวดีออกจากห้องนอน แล้วพามานั่งที่โชฟาภายในห้องรับแขก..........
สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย....ผมเผ้ายุ่งเหยิง หมดสภาพนักธุรกิจ
เหมือนเขาจะกระวนกระวายอยู่ตลอด สีหน้าแสดงความเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด
ซึ่งผมไม่เคยเห็นตั้งแต่พ่อพี่เขาเสียไปแล้วเช่นกัน เหมือนเขากำลังโทษตัวเองอยู่........
ส่วนผมทำได้แค่คอยปลอบโยนพี่เค้าเท่านั้นเอง
++++++++++++
เหตุการณ์ทุกอย่างสร้างความความกระจ่างด้วยเวลาอันสั้น เมื่อแม่และป้าโรสกลับมาก
แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆๆ นั้นกลับทำให้เกิดผลที่ร้ายแรงได้อย่างมหาศาล ซึ่งผมคนนี้จะรับผิดชอบทั้งหมด
ทำไมผมต้องอารมณ์ร้อนขนาดนี้ด้วย....ทำไมผมถึงไม่รอให้แม่กลับมาก่อนนะ......
ทำไมผมต้องโกรธมิคขนาดนี้ด้วย......เขาไม่ใช่คนผิด ที่ผิดคือผมเองที่เรื่องมาก........
ผมมันเลวเกินกว่าที่เขาจะให้อภัยใช่ไหม.....
ความคิดเห็น