ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi บุรุษ(พยาบาล)...ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอน 3

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 54


     ตอน3

    วันนี้หมอนัดคุณคริสเพื่อตรวจเส้นประสาทตาหลังจากที่ได้รับความกระทบกระเทือน

    การนัดพบแพทย์นั้นโดยปรกติจะนัด 2 อาทิตย์ครั้ง... โดยแพทย์จะนัดพบที่โรงพยาบาล

    แต่ในกรณีของคุณคริส แพทย์ต้องมาพบที่บ้านเนื่องจากช่วงเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยจะออกนอกบ้านเลย

    แต่เวลานี้ผมกับคุณคริสกำลังเตรียมตัวที่จะออกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาล

    เราได้โต้แย้งเหตุผลที่เราต้องออกเดินทางไป  ซึ่งคุณคริสก็ให้เหตุผลให้ส่วนของเขาเหมือนกัน

    “ฉันไม่คิดจะออก......คุณก็แค่โทรเรียกหมอมาก็เท่านั้น”

    “คุณคริส..คุณไม่คิดจะออกไปเจอโลกภายนอกบ้างหรือ...” ผมพูดด้วยความระอา

    “ไม่...ฉันอยู่ของฉันแบบนี้ก็ดีแล้ว.....”

    “ถึงคุณจะไม่ชอบ...แต่คุณต้องคิดถึงส่วนร่วมมั่งสิ....หมอไม่ได้มีคุณเป็นคนไข้คนเดียวสักหน่อย........”

    “ฉันมีเงิน....ฉันจ่ายค่าเสียเวลาอย่างงาม...”

    “ปัญหามันไม่ใช่เรืองเงินหรอก.....เมื่อเดินทางมาหาคุณ....คนไข้ที่ต่อจากคุณก็ต้องถูกเลื่อนออกไป..”

    “.........................”

    “แล้วถ้าเกิดมีเคส ด่วนขึ้นมาก.....คุณหมอเขาจะแย่เอานะ.......”

    “....แล้วคุณจะให้ผมทำอย่างไง.......”

    “.......เอางี้สิ .....คุณก็แต่ตัวและออกไปพบหมอกับฉัน.......ฉันจะขับรถเอง...เสร็จแล้ว  ฉันจะพาคุณเดินที่สวนใกล้ๆๆ...”

    “คุณจะพาผมเดิน...คุณไม่กลัวคนดูถูกหรอ...ผู้หญิงทุกคนเขาก็ต้องการเดินกับคนที่สมบูรณ์ทั้งนั้น”  คุณคริสพูดพร้อมแสดงสีหน้าเจ็บปวด

     

    ผมตัดสินใจเดินไปหลังเก้าอี้ที่เขานั่งอยู่ และทาบมือลงบนไหล่ทั้งสอง

    “....คุณอย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้นสิ.....ฉันพร้อมจะเดินไปกับคุณแน่นอน....”  เขาเอื้อมมือมาจับหัวไหล่ตัวเองที่มือของผมทาบไว้    และบีบมือเหมือนกำลังจะบอกว่า...คุณไม่ได้โกหกผมใช่ไหม........

    “........นั้นผมจะแต่งตัว...คุณเรียกป้าโรส...ให้มาเปลี่ยนชุดผมหน่อย....”

    “.....ได้ค่ะ..........”

    ผมเดินออกไปเพื่อเรียกป้าโรสมาเปลี่ยนชุดให้คุณคริส  ซึ่งที่จริงผมก็สามารถเปลี่ยนได้...แต่ดูเหมือนคุณคริสจะอายๆๆ เพราะคิดว่าผมเห็นผู้หญิง  และป้าโรสแกก็เป็นแม่นมของคุณคริสด้วยเช่นกัน

    +++++++++

    “รถเตรียมพร้อมแล้วค่ะคุณคริส......เราไปกันเลยดีกว่า”  ผมเดินเข้าไปเพื่อจะพาเขาออกมายังรถที่จอดไว้หน้าตึก

    “คุณมิคกี้...คุณใส่ชุดอะไรน่ะ...”  เขาถามเหมือนจะมองเห็นผม

    “..อ้อ..ก็ชุดพยาบาลปกติ.......” 

    “....นั้นผมอนุญาตให้วันนี้คุณใส่ชุดสบายๆ ได้......”

    “  แต่...”

    “นี่เป็นคำสั่ง....หรือคุณจะให้ผมเรียนหมอมาที่นี่แทนดี...”

    เมื่อเป็นการต่อรองเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทำให้บรรยากาศในบ้านไม่ตรึงเครียดเหมือนแต่ก่อน

    “.....แหมๆๆ คุณมิคกี้ค่ะ...ป้าโรสว่าตามใจ คุณคริสเถอะค่ะ  5555

    “......ใช่ๆๆ ป้าว่าหนูควรจะพักผ่อนมั่งนะ  ตั้งแต่มานี้มิคกี้ก็ยังไม่ได้พักเลยนี้จ๊ะ...” ป้าแอนเสริม

    “....นั้น...รอแป๊ปนะ  เดี๋ยวให้มิคกี้เปลี่ยนชุดแป๊ป...”  ว่าแล้วผมก็เดินเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อ

     

    เราขับรถมาถึงตัวเมืองที่แอดอัดไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินขวักไขว่.........

    ผมได้เปลี่ยนเสื้อมาเป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อน...พร้อมกับกางเกนยีนต์สีเข้ม...และรองเท้าผ้าใบที่เข้ากับชุด....เส้นผมถูกรวบไว้ด้านหลังและมัดพอหลวม

    ส่วนคุณคริส  ใส่เสื้อเชิ้ตสีเทาอมแดงแขนสั้น...พร้อมกับกางเกงที่เข้ารูป  รองเท้าขัดมัน  พร้อมกับแว่นกันแดดยี่ห้อดัง ซึ่งรับกับใบหน้าของเขา

    +++++++++

    แพทย์ที่เป็นเจ้าของคนไข้ ได้บอกรายละเอียดกับผมว่า.....อาการที่เส้นประสาทตานั้นดีขึ้นตามลำดับ  และมีโอกาสที่จะผ่าตัดได้ แต่แพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเมื่อผ่าตัดแล้วจะกลับมาเห็นดังเดิมได้มากน้อยแค่ไหน  อาจอยู่ที่กำลังใจของคนได้ด้วยเช่นเดียวกัน......ซึ่งหน้าที่ผมคือการให้กำลังใจคุณคริสเพื่อเขาจะได้มีแรงผลักดันที่จะผ่านตัดและมองเห็นอีกครั้ง

     

    ตอนนี้ผมกับคุณคริสเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน......ส่วนอารมณ์ร้อนๆ นั้นผมไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่แล้ว  อาจเนื่องจากผมไม่ค่อยจะประคบประหงมคุณคริสมากเท่าที่ควร อะไรที่เขาทำเองได้ ผมจะไม่เข้าไปช่วยเหลือ ตอนนี้คุณคริสสามารถเดินเองภายให้บริเวณได้แล้วเช่นกัน......ซึ่งนั้นทำให้ป้าแอนดีใจเป็นอย่างมาก

     

    “...มิคกี้....คุณพาผมไปร้านอาหารหน่อยสิ..ผมหิวแล้ว...”  นั้นเป็นเสียงคุณคริสเมื่อเราเข้ารับการตรวจเสร็จเรียบร้อย

    “....คุณอยากให้พาไปที่ไหนดีค่ะ...”

    “....มิคกี้....คุณคิดว่าร้านไหนน่าสนใจ..ก็พาผมเข้าแล้วกัน...”

    “....ได้ค่ะ....”  ผมขับรถวนอยู่ที่สี่แยกกลางเมืองใหญ่...และเห็นร้านอาหารแห่งหนึ่ง  ซึ่งไม่ใหญ่นัก แต่ตกแต่งดูมีคลาส....ผมจึงพาตัวเองและคุณคริส เข้าไปในร้านนั้น 

     

    ภายนอกและภายในร้านตกแต่งได้อย่างเป็นกันเอง  ซึ่งถ้าคุณคริสเห็นคงไม่ยอมเข้าแน่  เพราะมันอาจจะไม่เหมาะกับฐานะของเขา.....ผมอมยิ้มเหมือนนึกว่าจะเป็นอย่างไงถ้าเขาเห็นร้านนี้

    “เรานั่งตรงนี้ดีกว่าค่ะ.....” คุณคริสเดินเกาะแขนผมจะพาตัวเองนั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งภายในร้าน

    กลิ่นของร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องเทศอ่อนๆ  และกลิ่นขนมปังอบก็โชยกลิ่นแตะจมูกยิ่งนัก  ถือว่าเรียกน้ำย่อยได้เลยที่เดียว

    “มิคกี้....คุณสั่งอะไร  ผมก็เอาอย่างนั้นแล้วกัน...”

    ผมนั่งมองรายการอาหารที่เปิดแล้วเปิดอีก  ภาพให้เมนูทำให้ผมอยากจะเลือกแทบทุกอย่าง ติดอยู่ที่ว่ากินไม่หมด

    ผมจึงตัดสินใจเลือกอาหารที่จะคิดคุณคริสน่าจะทานได้ด้วยเช่นกัน

    “เอาสเต็กเนื้อแกะ...ขนมปังกระเทียม...และไวน์ขาว ” 

    ระหว่างที่เรากำลังรออาหาร เสียงโทรทัศน์ก็ประกาศข่าวเรื่องที่เศรษฐีบ่อน้ำมันสลัดรักแฟนคนปัจจุบัน

    และประกาศจะทำหนังร่วมกับชาวต่างชาติ.......

     

    ......ดูสิเธอ...ฉันว่าแล้วว่าคบกันไม่ยืดหรอคู่นี้......  นั้นเป็นเสียงซุบซิบกันซึ่งกำลังพูดถึงแฟนเก่าของคุณคริสนั้นเอง

    ผมพยายามสังเกตสีหน้าที่อารมณ์ของเขา.....แต่ไม่มีสิ่งใดแสดงให้เห็นเลย  (เก็บสีหน้าเก่งจัง)

    อาหารมือนั้นเราทานกันแบบเงียบๆ  ปล่อยให้แต่ละคนคิดเรื่องของตัวเอง......

     

    .........หลังจากเสร็จภารกิจ  เราออกจากร้านและตรงไปยังสวนสาธารณะซึ่งอยู่ระแวกใกล้เคียงกัน.....บรรยากาศร่มรื่น....มีเสียงนกร้อง...และคนที่ทำกิจกรรมต่างๆๆ บริเวณนั้น  ผมอาสาที่จะพาคุณคริสเดิน....โดยที่ไม่ต้องใช้ไม้ค่ำ....

    ซึ่งผมคิดว่านั้นจะทำให้คนมองเราน้อยลง......และคุณคริสเองก็พอใจที่จะไม่เป็นเป้าสายตาใคร

    ระหว่างเดินผมก็อธิบายบรรยากาศโดยรอบ ให้ฟัง แม้แต่กิจกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่คนเหล่านั้นทำกัน........

    ผมพาคุณคริสเดินมาถึงสระน้ำพุซึ่งมีรูปเทพีเสรีภาพ ตั้งอยู่ตรงกลางและที่ปลายครอปเพลิงมีน้ำพุไหลออกมา

    “คุณคริสนั่งอยู่ตรงนี้ก่อนนะ....เดี๋ยวจะไปซื้อน้ำมาให้...”   เขาพยักหน้ารับ   

     

    น้ำสองแก้วถูกหิ้วมาในมือ  “คุณคริสได้แล้ว.....นี่น้ำ...”

    เขารับพร้อมกับจับมือผมไว้  “มิคกี้...คุณสัญญาได้ไหมว่าคุณจะอยู่กับผมตลอดไป”

    “..........................” ผมได้แต่นิ่งเงียบ

    “มิคกี้............คุณทนอยู่กับคนอารมณ์แบบผมได้ไหม......ผมรู้สึกว่าผมอาจจะชอบคุณ...” น้ำเสียงนั้นจริงจัง

    ผมได้เพียงแค่มอง  แต่ไม่สามารถตอบได้    เพราะเขากำลังสารภาพรักกับผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา

    ไม่ใช่ผมซึ่งเป็นผู้ชายคนนี้.........และถ้าเขารู้  เขาจะไม่พูดเช่นนี้  อาจจะรังเกียจผมเลยก็ได้.......

    “...................”  ผมไม่พูดอะไร

    “......ผมรู้ว่าอาจจะเร็วเกินไป....แต่อย่างน้อยช่วงเวลานี้ผมขอให้คุณอยู่กับผมได้ไหม........”

    “...........ฉันสัญญาได้เพียงว่าฉันจะอยู่กับคุณจนกว่าคุณจะหาย  และจะไปเมื่อคุณไม่ต้องการฉันค่ะ....”  ผมพูดได้เพียงเท่านี้จริงๆ

    ++++++++++++++

     

     

    เพราะเรื่องเมื่อกลางวันทำให้ผมนอนไม่ค่อยหลับ  ผมเลยตัดสินใจออกมาเดินเล่นที่ชายทะเล

    เพื่อรับบรรยากาศ.....

    ....แสงจันทร์ทอดตัวเหนือผิวน้ำ....ระลอกน้ำเหมือนกับเต้นระบำต้อนรับของการมาเยือน

    ของดวงดาวบนฟากฟ้า..........เสียงซ่าๆๆ คือเสียงดนตรีที่บรรเลงเฉลิมฉลองการมาเยือนอีกครา

    “มิคกี้..คุณออกมทำอะไรที่นี่นะ...........”  ผมสะดุ้งกับเสียงดุที่อยู่ด้านหลัง      ทำไมผมได้ยินเสียงเขาเดินมานะ

    “ผมถามว่าคุณมาทำอะไรที่นี่..........”  เสียงดุคำรามอย่างคนเดือดดาล ยังคงอยู่

    “...ฉันแค่นอนไม่ค่อยหลับเลยออกมารับลมเล่นนะ..”  ผมตอบออกไป

    “...ถึงแม้ว่าผมจะเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้...และชายทะเลนั้นไม่ใช่...แล้วยิ่งคุณเป็นผู้หญิงด้วยแล้ว..เกิดมีอะไรเกิดขึ้นมันจะเป็นอันตราย........ดังนั้นผมขอสั่งให้คุณกลับขึ้นบ้านและอย่าออกมาเดินเล่นแบบนี้อีก....”

    ผมมองเขาแบบงง  อาการเหนื่อยหอบ  และเท้าเปล่า ทำให้ผมคิดว่าเขาคงออกมาตามหาผม...ทั้งที่ไม่มีไม้ค้ำเนี้ยนะ....

    ทำไม่ถึงแบบเป็นแบบนี้ไปได้  เขาเป็นห่วงผมจริงๆ ใช่ไหม.....

    “ฉันขอโทษค่ะ........ฉันไม่ได้ตั้งใจ.........”  เขาเดินเข้ามาตามเสียงและยืนอยู่ตรงหน้าผม

    “มิคกี้...คุณรู้ไหมผมเป็นห่วงคุณนะ....อย่าทำให้ผมต้องกลายเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องอีก....ผมกังวลเมื่อคุณไม่อยู่ใกล้ๆๆ”

    เขาค่อยๆๆ ก้มลงจูบที่เปลือกตา...และไล่ลงมาที่ริมฝีปาก........

    “อย่า.....อย่าจับ....”

    “ทำไม....คุณรังเกียจผมนักหรอ........”

    “เปล่า...เพียงแค่มิคมีรอยแผลเป็นซึ่งไม่อยากให้คุณสัมผัสเท่านั้น”

    “แผลเป็นที่ไหนหละ”

    “ต้นคอ”  ขนาดที่เราจูบนั้น บทสนทนายังคงเกิดขึ้นเรื่อยๆ

    เขาได้ยินดังนั้นมือก็เลื่อยลงมาที่ต้นคอ.....และเริ่มสัมผัสรอยบาดแผลที่เป็นแนวยาว

    มือร้อนของคุณคริสลากจากปลายบนสุดของแผลลงมาถึงปลายล่างของแผล

    เขาก้มจุมพิตที่บาทแผลนั้น   “คุณรู้ไหมบาดแผลคุณไม่ได้น่ารังเกียจเลย.....”  ผมอยากจะขอบคุณเขาจากใจเช่นกัน

    เพราะคำพูดของเขาทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับเขามากยิ่งขึ้น

    ผมโอนอ่อนตามแรงกดดันที่วาบหวานผ่านมาทางริมฝีปากเขา.....

    เราจูบสลับไปมาจนได้ยินเสียงคนเมาเข้ามาใกล้........

    เราตัดสินใจที่จะกลับเข้าไปในตัวบ้าน..........

    ++++++++++++++++++++++++

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×