ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    yaoi บุรุษ(พยาบาล)...ที่รัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอน2

    • อัปเดตล่าสุด 29 ต.ค. 54


     ตอน2

    ยัยนี่หน้าทนจริงๆๆ  โดนไปก็เยอะ  ไม่เห็นมีวี่แววจะร้องไห้โฮๆ  เหมือนคนอื่น

    แถมยังทำเหมือนเราปกติซะงั้น............

    แต่เสียงยัยนี่เพราะจริงๆๆ  ไม่แจ๊นๆๆ  เหมือนพยาบาลคนอื่นๆๆ ฟังแล้วแสบแก้วหนู............

    ยัยนี่ชื่ออะไรนะ.....อยู่มาก็หลายวันแหละยังไม่รู้จักชื่อเลย................

     

    “ฮาๆ  ฮาๆๆ......พอแล้วๆ  พอแล้ว”  ผมกำลังหันซ้าย หันขวาเพื่อไม่ให้เจ้าตัวดี เลียหน้าอยู่

    “อย่า....เดี๋ยวสิวขึ้น....พอๆ”  ผมกำลังอุ้มลูกสุนัขพันธ์ชิสุ  ครับ  ชื่อของมันคือ อินุ

    ช่วงที่ผมอยู่กับพ่อ  ผมไม่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เนื่องจากการดูแลพ่อก็ยากพอแล้ว

    ดังนั้นจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับตัวเองอีกไม่ได้  แต่เมื่อผมต้องเสียพ่อคนเดียวไป

    ความเหงาที่ต้องอยู่คนเดียวทำให้ผมเริ่มที่จะหาสัตว์เลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายเหงา

    ซึ่งผมก็ชอบสุนัขเป็นพิเศษดังนั้นผมจึงตัดสินใจซื้อสุนัขพันธ์เล็กมาเลี้ยงและตั้งชื่อ

    ตามชนิดของมัน ซึ่งผมก็ชอบชื่อนี่อยู่แล้ว เพราะสมัยก่อนผมได้รู้จักสุนัขตัวแรก และเจ้าของก็ตั้งชื่อนี้

     

    เออ เห็นผมเล่นๆๆ กันเจ้าอินุ  แต่ที่จริงแล้วผมก็ต้องดูแลคุณคริส  24 ชั่วโมงนะครับ

    ตอนนี้ผมมาอยู่ที่นี่ได้ อาทิตย์หนึ่งแหละ ผมภูมิใจมากที่วันแรกผมเป็นฝ่ายชนะๆ

    แต่ช่วงเวลานี้ เราก็ต่างแพ้ต่างชนะ  แต่ไม่ใช่เรื่องทานอาหารหรอกนะครับ

    มันมีหลายเรื่องที่ทำให้คุณคริสหงุดหงิดได้....ไม่ว่าจะอาบน้ำ  แต่งตัว หรือการทำกิจวัตประจำวัน

    แต่ผมสังเกตเห็นว่า คุณคริสเริ่มที่จะฟังและเปิดใจให้กับผมมากขึ้น

    ขนาดป้าแอน ยังชมผมเลยว่า ........ผมนั้นเก่งมาก...........

     

    ......แกร็งๆๆๆ.........  นั่นเป็นเสียงเรียกที่ดังมาจากระฆังใบเล็กที่คุณคริสใช่เรียกนะครับ

    “ค่ะ...มีอะไรหรือค่ะ”  ผมเดินเข้ามาเพื่อรับคำสั่ง

    “........ฉันจ้างเธอมาให้ดูแลฉันไม่ใช่หรอ ...ไม่ใช่ให้ฉันคอยเรียกแบบนี้”

    “ค่ะ...ฉันถูกจ้างมาให้คอยดูแลคุณ 24 ชั่วโมง  แต่ฉันขอพักแค่นิดหน่อยไม่ได้เชียวหรอ” 

    “เธอมานั่งตรงนี้....”  เขาสั่งพร้อมกับแตะที่เก้าอี้ ซึ่งอยู่ข้างๆ

    “ค่ะ....”

    “เธอมองฉันสิ........ตอนนี้ฉันมันน่าเกียจมากใช่ไหม”

    ผมมองหน้าเขาอย่างจริงจัง  แต่จริงแล้วตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเห็นเขา

    เขาเป็นชายที่เรียกว่าเป็นชายในฝันของสาวๆ เลยก็ว่าได้

    ขนาดผมยังอึ้ง กับใบหน้าที่ได้รูปของเขาเลย  แม้ว่าดวงตาทั้งสองข้างจะปิดอยู่ตลอดเวลา แต่จมูกที่โด่งเป็นสัน

    ช่วยทำให้ใบหน้าเขาดูเด่นขึ้น

    “คุณดูดีมากค่ะ”

    “เธอบอกว่าฉันดูดี.....แต่ก็ไม่เคยมีใครทนฉันได้.....และฉันก็เป็นคนอารมณ์แบบนี้แล้ว.....ฉันเบื่อกับชีวิตแบบนี้

    แม้แต่แฟนที่ฉันคบ....เธอยังทิ้งฉันไปหาแฟนใหม่เลย.........” น้ำเสียงเขานั้นเศร้ามาก

    อาจเป็นเพราะว่าผมไม่เคยได้คุยกับเขามาก  หรือไม่เคยได้ยินสิ่งเหล่านี้ออกจากปากของเขา

    ความเห็นใจกับสิ่งที่เขาต้องทนรับ ทำให้ผมเผลอกอดเขา ผมอยากให้เขารู้ว่ายังมีคนที่รักและจะคอยช่วยเหลือเขา

    อีกมากมายเพียงแค่เขาเปิดใจและรับความช่วยเหลือนั้น  ทุกคนก็พร้อมที่จะทำ

    เหมือนเขาจะสัมผัสได้ ดังนั้นเขาจึงไม่ผลักไล่อ้อมกอดนี้ 

     

    “อย่า...ค่ะ....”

    “ผมมองไม่เห็นคุณด้วยซ้ำ......สิ่งที่ผมทำได้มีเพียงแต่สัมผัสและจิตนาการเท่านั้น”

    เขาพูดพร้อมกับสัมผัสเบาๆ ที่เส้นผม   พร้อมกับไล่มือแตะที่หน้าผาก    นิ้วโป้งทั้งสองไล้จากหัวคิ้วจนสุดปลาย

    และลงมายังเปลือกตาทั้งสอง  นิ้วชี้ที่จับสันจมูก  จนถึงริมฝีปากและแก้ม   จากนั้นก็เลื่อยลงมาถึงคางและต้นคอ

    “อึก... พอแล้วค่ะ  ฉันว่าคุณคงจินตนาการได้เพียงพอแล้ว........”

    ผมไม่อยากให้เขาแตะไม่มากกว่านี้   ดังนั้นผมจึงลุกขึ้น  เพื่อให้เขาหยุด 

    อาจเป็นเพราะแผลที่อยู่บริเวณต้นคอทำให้ผมไม่กล้าที่จะให้เขาสัมผัสและให้เขารู้สึกขยะขะแยงก็เป็นได้

    “ฉันรู้มาว่าคุณชอบน้ำทะเล  วันนี้ฉันตั้งใจจะพาคุณออกไปรับแดดที่ชายทะเลนะคะ”

    ผมพูดออกไปเพียงเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

    “ได้สิ............”  นั้นเป็นเสียงคุณคริส และทำให้ผมแอบดีใจเล็กๆ ที่เธอยอมออกมากับผม

    “เออ...เธอชื่ออะไรนะ  ฉันขอโทษที่ลืมถามชื่อเธอไป.......”

    “ค่ะ..........ฉันชื่อมิค...กี้.....” ผมตอบออกไป

    “นั้นฉันขอออกไปเตรียมอาหารให้คุณก่อน  แล้วพอทานเสร็จเราค่อยออกไปเดินกันนะค่ะ”

     

    “ป้าโรสๆ  เตรียมอาหารให้ผมหน่อย......”

    “ได้ค่ะ...คุณมิค...”

    “ป้า......ครับ...ถ้าไงเตรียมร่มให้ผมด้วยนะ ผมกับคุณคริสจะออกไปเดินรับลมที่ชายทะเลหน่อย”

    “ว้ายๆๆๆๆ  คุณมิค.....เธอยอมออกมาจากห้องแล้วหรือค่ะ......เดี๋ยวอิฉันต้องบอกคุณนายด้วย....”  ว่าแล้วเธอก็พาร่างอวบๆๆ วิ่งขึ้นบันได เพื่อจะบอกข่าวดีให้กับป้าแอน

     

    ส่วนผมก็กลับเขาไปยังห้องของคุณคริส  เพื่ออ่านหนังสือพิมพ์ และหนังสืออื่นๆๆ ให้เธอฟัง

    เมื่อก่อนเธอใช้เวลาอยู่ในห้องทำงาน ซึ่งเป็นเปลี่ยนเป็นห้องนอน  และเธอใช้ติดต่องานผ่านจากห้องนั้น

    โทรศัพท์เป็นสิ่งเดียวที่เธอให้ติดต่อกับเพื่อนซึ่งเป็นกรรมการให้บริษัท  แต่ผมก็ไม่เคยเห็นเพื่อนเขามาเลย

     

     

    “อาหารมาแล้วค่ะ คุณคริส”  ผมบอกเขาไป

    “วันนี้เป็นสเต็กเนื้อค่ะ   มีซ้อมว่าอยู่ด้านขาว  และมีดหั่นเนื้อวางอยู่ด้านซ้าย ตรงกลางเป็นจานสเต็ก”

    ทุกมื้อผมจะเป็นคนบอกว่าสิ่งใดวางอยู่ตรงไหน  ซึ่งเขายอมที่จะรับฟังโดยดี 

    และบางมื้อเขาก็เชื้อเชิญผมร่วมวงด้วย

     

    ผมให้เขาเกาะที่แขนและพาเขาเดินออกนอกห้อง  มือข้างหนึ่งก็ใช้จับไม้

    แต่อาจจะเป็นครั้งแรกที่เขาต้องเดินออกมาไกลๆ  ทำให้ดูน่าอึดอัดไปซะหมด

    “คุณคริส  ฉันเป็นพยาบาล  ได้รับการอบรมให้ดูแลเด็ก คนป่วย และคนชรามาอย่างดีนะคะ ดังนั้นคุณลองไว้ใจฉันแล้วให้ฉันพาคุณไปสิ”  ผมพูดเมื่อเห็นเขาเหมือนเริ่มจะเปลี่ยนใจ

    “แต่คุณไม่ได้ฝึกให้ดูแลคนพิการใช่ไหมหล่ะ” น้ำเสียงออกแบบประชด

    “ฉันได้รับการฝึก มาทุกรูปแบบค่ะ....” 

     

    เราเดินออกมาจนถึงถนนเล็กๆ  จากตัวบ้านออกมายังชายทะเล........ตั้งแต่ผมมาอยู่นี่ ผมยังไม่ได้แวะมาเลย

    นี่เป็นครั้งแรกที่เห็น........

    “สวย..จัง.....”  ผมอุทาน กับภาพดวงอาทิตย์ที่กำลังลอยขึ้นเหนือผิวหน้า   บรรยากาศอุ่นๆ ที่อยู่รอบๆ

    เสียงทะเลที่สาดกระทบกับพื้นทราย ทรายทอดตัวยาวสุดสายตา  น้ำใสๆๆ ที่กระทบแบบไม่มีวันหยุด

    “...มิคกี้..คุณชอบทะเลหรอ”

    “ค่ะ...ฉันชอบ...เพราะให้เมืองมีแต่รถ และตึก...”

    เราเดินลงมาถึงพื้นทราย   “มิคกี้...คุณรอผมตรงนี้นะ...”  เขาบอกพร้อมกับย่างเท้าไปข้างหน้า  และหยุดยืนอยู่ตรงนั้น

    ใบหน้าที่เชิดขึ้นเพื่อรับอากาศที่บริสุทธิ์

    ภาพที่ผมเห็นคนชายคนหนึ่งกำลังซึมซับบรรยากาศและเสียงต่างๆๆ ที่ดังเข้ามาในโสตประสาทของเขา  ชายที่ยืนด้วยท่าทีมั่งคง มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม......เป็นเหมือนภาพวาดของจิตกรก็ว่าได้ 

    ผมยืนรอและสัมผัสบรรยากาศไปพร้อมกับเขา.......เป็นเวลานาน

    “มิคกี้....ผมเหนื่อยแหละ..คุณจะพาผมขึ้นบ้านได้ไหม...”

    “ได้ค่ะ......”

    ผมเดินเข้าไปยืนเคียงข้าง  จะจับมือเขาเพื่อพาเดิน   

    แต่เขาได้ตรึงใบหน้าของผมไว้กลับฝ่ามือทั้งสอง 

    เขาก้มลงจูบที่ริมฝีปากของผมอย่างแผ่วเบา  เป็นสัมผัสที่ไม่น่ารังเกียจแต่หอมหวานมากเช่นกัน

    ปลายลิ้นที่เข้ามาเพื่อนค้นหาบางอย่าง และเมื่อเจอก็จะไปปล่อยไปง่ายๆ

    “อย่า...”  นั้นเป็นเสียงผม  ที่แทบจะไม่ได้ยิน

    เขาจุมพิตผมเป็นเวลานานจนผมเริ่มที่จะคล้อยตาม 

    แต่เขาก็ปล่อยผมให้หลุดจากการเกาะกุม...................

     

    เป็นช่วงเวลาดีๆๆที่เราทั้งคู่มาที่ทะเล  แม้ว่าผมจะสำนึกได้ว่าเขาคงอยากมีใครสักคนที่ดูแลและช่วยเหลือเขาซึ่งถ้าเป็นแฟนเขาจะดีสักแค่ไหน  ผมมันเพียงแค่ตัวแทนของแฟนเขาเท่านั้น และถ้าเขารู้ว่าผมเป็นชาย คงไม่มีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นแน่น...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×