ตอนที่ 56 : ตอนที่ 45 = ไอ้ตาลเปี๊ยนไป๋....T^T
ตอนที่ 45
ในที่สุดพวกเราแก๊งค์ Demon รุ่นที่ 2 ก็ยกขบวนกันไปอ้อร้อที่โรงเรียนวิทยาเรืองวิทย์ครับ เพราะวันนี้เป็นวันแข่งกีฬาสีวันสุดท้ายของโรงเรียน ดังนั้น บรรดาเหล่านักเรียนจึงมากมายกว่าวันอื่นๆ ใช่ว่าจะมีเฉพาะเด็กนักโรงเรียนโรงเรียนผมเท่านั้นนะ ยังมีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆเข้าร่วมมาด้วย ทำให้เวลานี้ในโรงเรียน เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนจากหลายๆโรงเรียนเลยทีเดียวครับ
ซึ่งโดยเฉพาะเด็กนักเรียนโรงเรียนวิทยาเรืองวิทย์จะใส่เสื้อสีของแต่ละคนกันคละกันไปทำให้โรงเรียนผมนี่เต็มไปสีสันสดใสเชียวครับ
แต่ผิดกับพวกแก๊งค์รุ่นที่ 2 อย่างพวกผม วันนี้พวกผมใส่ชุดไปเที่ยวธรรมดาครับ เพื่อความปลอดภัยในการเผ่หนีเมื่อถึงเวลาที่ผมต้องหนี คือ มันต้องป้องกันไว้ครับ เพราะพวกอาจารย์เขาจะดักจำนักเรียนที่หนีกิจกรรม ดังนั้นการปลอมตัวถึงเป็นความคิดที่ดี ผมไม่ได้คิดหรอกนะครับ ว่าวันนี้จะมีการหนีหรือเปล่า ทางที่ดีกันไว้ก่อนดีกว่าแก้ครับ
อีกอย่าง เวลาที่ผมแอบเข้าไปสืบที่หลังเวที จะได้ไม่มีใครเอะใจยังไงล่ะครับ.....
และสาเหตุอีกประการหนึ่งที่ทำให้การแข่งขันกีฬาสีวันสุดท้ายของโรงเรียนผมเป็นที่น่าสนใจ นั่นก็คือ วันนี้จะเป็นการแข่งขันการแสดงในที่ร่มครับ ซึ่งแต่ละสีทั้ง 7 สีได้เตรียมการแสดงมากมายให้เหล่าเด็กนักเรียนที่เข้ามาชมด้วย ซึ่งถ้าหากสีใด ได้ชนะเลิศการประกวดการแสดงคราวนี้แล้วล่ะก็ สีๆนั้นจะได้เงินรางวัลพิเศษจากผ.อ. ดังนั้น การแข่งขันการแสดงในที่ร่มใจวันนี้ ถึงเป็นสงครามของเด็ก ม.6 กันเลยทีเดียว
การตัดสินนั้นขึ้นอยู่กับคะแนนโหวตของนักเรียนในวันนี้ครับ ทางด้านข้างของหอระชุม จะมีโต๊ะของกรรมการสำหรับรอรับคะแนนโหวตอยู่ด้วย ใครรักใครชอบใครก็เดินตรงแหน๋วไปโต๊ะแล้วลงคะแนนได้เลยครับ ง่ายๆโรงเรียนผมอ่ะ และเมื่อการแสดงและการโหวตเสร็จสิ้นลง ก็จะมีการประกาศคณะสีที่ได้ที่หนึ่ง ทั้งการมอบถ้วยในการกีฬาต่างๆ หรือถ้วยการแสดง และพิธีปิดจบการแข่งขันกีฬาสีด้วย ดังนั้น วันนี้ก็ถือว่าเป็นวันสำคัญพอๆกับวันเปิดการแข่งขันเลยทีเดียวล่ะ
แต่สำหรับผมนั้น วันนี้ก็เป็นวันสำคัญเหมือนกัน แต่ไม่ได้เกี่ยวกับกีฬาสีเลยแม้แต่น้อย แต่วันนี้เป็นการชี้ชะตาขาดของความรักคู่ไอ้ตาลมัน ว่าวันนี้ไอ้พี่เคียวมันจะรอดมั้ย เพราะการที่พวกผมปฏิเสธการมาในวันนี้ ก็เพราะเพื่อให้พี่เคียวหลงกล คือยังงี้ครับ ถ้าหากพวกปฏิเสธการมาในวันนี้แล้ว พวกพี่เคียวเขาจะได้โล่งใจ แล้วหลวมตัวพาผู้หญิงคนนั้นมา คือเอาให้แน่ๆนะครับ ถ้าหากพวกผมมาอย่างเปิดเผยแล้วล่ะก็ พวกพี่เขาต้องคอยดูแลเรา แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ไม่สามารถมาได้ ดังนั้นไอ้ตาลก็จะไม่รู้เรื่องที่พี่เคียวมีกิ๊ก คือเอาง่ายๆ การที่ผมทำแบบนั้น นั่นก็คือการล่อเสืออกจากถ้ำครับ หึหึ....
แล้วผมก็สามารถตรวจสอบได้ด้วยว่า ไอ้ราฟของผมมันจะมีกิ๊กเกิ๊กอะไรเก็บไว้ที่ไหนหรือเปล่า ถึงผมจะเชื่อใจมัน แต่คนอย่างไอ้ราฟปลิ้นปร่อน (ตรงไหนฟร๊ะ : คนเขียน) ขนาดนั้น แล้วแถมโกหกเรื่องของพี่เคียวแล้ว ผมเริ่มที่จะเชื่อใจไอ้พวกพี่ๆเขาไม่ได้แล้วล่ะครับ ทั้งไอ้หลานรักหลงหยก ไอ้พี่ชายที่แสนดีอย่างพี่วิน แล้วยังมีชายที่ผมเชื่อใจอย่างพี่ริกกับพี่เคียว แล้วหวานใจที่ผมรักหมดหัวใจอย่างไอ้ราฟ ล้วนแต่มีความลับกับผมนั้น ทำให้ไอ้ริวรู้สึกโกรธจนแทบจะทนไม่ไหว ถ้าหากว่าผมไม่ใช่แผนนี้ หึหึ อย่าหวังเลยครับ ว่าพวกรุ่นที่ 1 จะรอด ไอ้ริวเอาตายหมดแหละ เห็นแบบนี้ผมกล้านะ จะบอกให้.....
ไอ้ริว ตกลงมึงจะเอายังไงวะ มึงจตะมายืนดูพวกรุ่นพี่ร้องเพลงอย่างเดียวรึไง มึงลืมเรื่องอขงไอ้ตาลไปแล้วหรอไอ้ปอนด์ ผู้สมรู้ร่วมคิอกับผม ค่อยขยับมาหาผม แล้วกระซิบเสียงเบาๆเพื่อไม่ให้ไอ้ตาลได้ยิน เอาเหอะครับ ถึงมันจะพูดดังก็ไม่มีครเขาสนใจหรอก เพราะเด็กเยอะแถมยังเอะอะเสียงดังแบบนี้ ได้ยินก็แปลกและ
บ้าเด่ะ ใครเขาจะลืมกันง่ายๆฟร๊ะ! อีกอย่างวันนี้กูก็มีแผนชั่วอยู่ในหัวแล้วด้วย พวกมึงอ่ะ ดูดนตรีให้สบายเหอะ...ผมก็กระซิบตอบกับมันไป ก็ตลอดทางที่ผมมาอ่ะ ไอ้ปอนด์กับไอ้โจ๊กเอาแต่ถามผมไม่หยุด จะไม่ให้ผมรำคาญได้ยังไงกันล่ะครับ
แล้วมึงจะให้กูดนตรีให้สบายใจได้ยังไงกัน มึงดูไอ้ตาลดิ แม่งคนอื่นๆเขาครึกครื้นกันขนาดนั้น แต่มันทำหน้าอย่างกะญาติตายแบบนั้น ใครจะไปสนุกลงวะไอ้โจ๊กที่ยืนฟังพวกผมสองคคุยก็เอ่ยขึ้นมา พลางชี้ไปที่ไอ้ตาล ซึ่งมันยืนมองบนเวทีแต่สายตาหน้าสีหน้าของมัน บ่งบอกว่ากูไม่มีอารมณ์ - -*
โธ่ พวกมึงก็ช่วยๆไปทำให้มันร่าเริงขึ้นมาหน่อยสิวะ นี่ถ้าหากมันรู้ว่าพี่เคียวมีกิ๊ก มันไม่ต้องวิ่งไปกลางถนนเพื่อให้รถสิบล้อชนตายรึไง เอาน่าๆ ตอนนี้กูว่าพวกเราช่วยให้ไอ้ตาลมันมีความสุขมากกว่านี้หน่อยละกันไอ้ริวตอนนี้เป็นผู้บริหารครับ เพราะแผนในวันนี้อ่ะ ฝีตีนผมทั้งนั้น โดยที่มีไอ้ปอนด์กับไอ้โจ๊กเป็นลูกน้องคนสนิทอ่ะครับ ส่วนคนอื่นนี่ผู้ร่วมอุดมการณ์ สาเหตุที่เลือกไอ้สองคนนี้ ก็เพราะไอ้ปอนด์กะไอ้โจ๊กรู้เห็นเรื่องที่พี่เคียวมีกิ๊กอ่ะครับ
เออ...กูจะพยายามละกัน แต่หน้าแบบนั้นกูไม่รับประกันนะเห้ย ว่ากูจะทำได้อ่ะไอ้ปอนด์พูดแล้วเหล่ตาไปมองไอ้ตาล นั่นๆ แอบมีเช็ดน้ำตาด้วย ผมชักจะเหงื่อตกแทนไอ้ปอนด์อ่ะดิ
ฮ่ะๆ...ไอ้ริวก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆล่ะครับ วันนี้ไอ้ตาลมันจะรอดมั้ยเนี่ย - -*
....................................................................
เฮ้อ...แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มซักทีล่ะเนี่ย ยืนจนรากมันงอกทะลุดินไปแล้วมั้งเนี่ย ไม่รู้จะพล่ามอะไรนักหนา...เจ้าพ่อแห่งการเบื่อเริ่มทำงานแล้วล่ะครับ เมื่ออาจารย์ที่รับผิดชอบการแข่งขันกีฬาสีปีนี้ออกมาพล่ามอะไรก็ไม่รู้บนเวทีตั้งนานสองนาน นี่ถ้าหากใครพาแกไปคาราโอเกะแล้ว ผมคิดว่ามีหวังคนอื่นไม่ได้ร้องเพลงหรอกครับ บ้าไมค์ขั้นเทพเลยนะนั่นน่ะ
มึงจะบ่นให้ได้โล่รึไงวะไอ้ดีน มึงก็รู้ว่าอาจารย์วาสนาแกบ้าไมค์ขนาดไหนน่ะไอ้โจ เพื่อนคู่ขาของไอ้ดีนเข้าไปกอดไหล่มันครับ
กูก็รู้ แต่วันนี้พวกเรามาดูดนตรีนะเฟ้ย ไม่ได้มาดูเจ๊แกเปิดคอนเสริ์ตซะเองแบบเนี๊ยะ!
ว่ะ! บ่นอยู่นั่นแหละ มึงก็เดินไปหาเจ๊แก แล้วก็บอกแกไปสิ ว่า อาจารย์ครับ เลิกพล่ามซะที พวกเราจะดูดนตรีครับ อะไรทำนองเนี๊ยะ กูว่าอาจารย์เขาคงจะหยุดนะไอ้อันเลิกคิ้วแล้วทำหน้ากวนตีนใส่ไอ้ดีน แหม แผนดีนะครับนั่น
เหอะๆ เกรงใจว่ะ กูยังไม่อยากจะได้ ร หรือ 0 จากเจ๊แกหรอกนะ แม่ง เห็นเหี่ยวๆแบบนั้นเสือกแก้ยากซะด้วยสิอันนี้เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ติดคนเดียวไม่ว่า อาจจะทั้งกลุ่ม หรือทั้งรายวิชา หึ ผมไม่เอาด้วยหรอกนะ ภาษาอังกฤษผมยิ่งบัฟฟาโร่เรียกพ่อซะอีก ไม่เอาๆ
เรื่องนั้นช่างมันเหอะ เฮ้ยๆ นั่นๆ เจ๊แกลงไปแล้วเว้ย พวกเราจะได้ดูกันซะทีไอ้วัชส่งเสียงโวยวายใหญ่ครับ เมื่ออาจารย์วาสนาเดินลงเวทีไป โดยที่มีเสียงของเด็กนักเรียนโห่ร้องอย่างถูกใจ อ่านะ พวกนักเรียนคนอื่นคงรำคาญเต็มทน ในที่สุดพวกเราก็จะได้ดูการแสดงทั้งที เห็นว่าปีนี้พวกสีชมพูเขาเตรียมทีเด็ดสาวน้อยน่ารักมานี่ครับ ไม่ให้ผมสนใจได้ยัง....
พอพวกเรายืนรอได้ไม่นาน พิธีกรประจำโรงเรียนก็เดินขึ้นมาบนเวที และกล่าวสวัสดีตามระเบียบจารีตของประเทศไทยนั่นแหละครับ ซึ่งพิธีกรก็เป็นอิชุดเดิมนั่นแหละ (ชุดเดิมเมื่องานวันกำเนิดโรงเรียน) ใครน่ะเหรอครับ ฝ่ายผู้ชายก็คือพี่โดมหนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ Demon รุ่นที่ 1 ที่ผมหมายหัวไว้ในวันนี้ กับพี่สาวสุดน่ารักอย่างพี่ฟ้า พี่สาวที่ใจดีที่สุดในโรงเรียนยังไงล่ะครับ
ทั้งสองพิธีกรอยู่ชุดนักเรียนทั้งคู่ครับ ผมก็เพิ่งสังเกตว่าพวกสต๊าฟเขาจะใส่ชุดนักเรียนกัน โหย รู้งี้ผมใส่ชุดนักเรียนมาก็ดี จะได้เนียนง่ายๆ งานนี้คงยากสำหรับผมซะหน่อยอ่านะ แต่ช่างเหอะ ใส่ชุดนี้มาจะบ่นหาพระแสงอะไร อีกอย่างพวกผมก็อยู่แถวๆประตูทางเข้าหลังเวทีด้านซ้าย (ด้านซ้ายนี่จะไม่ค่อยมีคนเข้าครับ ส่วนมากเขาจะใช้ทางขวากัน) ถ้าจะแอบเข้าไป คงง่ายน่าดูแหละ คิคิ
และในที่สุด การแสดงชุดแรกของวันนี้ก็เริ่มขึ้นครับ ซึ่งคณะสีที่ออกมาเป็นคณะแรกก็คือสีเหลืองนั่นแหละ การแสดงของสีเหลืองนี่เป็นการร่ายรำมโนราห์ครับ (ทางภาคใต้นิยมรำมโนราห์) ซึ่งการรำในวันนี้จะมีนักเรียนอยู่ประมาณ 7 คนเห็นจะได้นะครับ ขึ้นมาฟ้อนมโนราห์ ถึงมันจะน่าเบื่อไปหน่อย แต่เขาก็รำสวยนะครับ เอ๊ะๆ มีน้องคนนึงน่ารักด้วยล่ะ ไอ้ริวเริ่มหน้าหม้ออีกแล้วววว 555+
ต่อมาก็เป็นคณะของสีชมพูครับ อย่างที่เกริ่นไว้ สีนี้เน้นความน่ารักสดใสซาบซ่า น่ารักน่าชังจนน่าหยิก และนั่นคือตอนแรกที่ผมคิด แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วครับท่านผู้ชม พอใครคนนึงเดินขึ้นมาบนเวที ไอ้ริวต้องถอนคำพูดใหม่อย่างด่วนจี๋ ทำไมรู้มั้ยครับ ก็มีสาวนางนึงเดินขึ้นไปบนเวที ก่อนที่คุณเธอจะหยิบชายกระโปรงอันฟูฟ่องและบางของเธอ แล้วทำท่านางพญาหงส์ ถ้าคนๆนั้นเป็นผู้หญิงนี่ผมพอว่า แต่นี่มันผู้ชาย แถมยังเป็นเพศครึ่งอีกด้วย จะไม่ให้ผมถอนคำพูดได้ไง ถึงแม้ว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชายก็เหอะนะ แต่ผมไม่ใช่พวกนิยมกระเทยนะคร๊าบบบบบบ
หึหึ ไงไอ้ริว ไหนบอกว่าสีชมพูนี่น่ารักไง ไม่ชอบหรอเห็นทำหน้าเหมือนหมาที่บ้านตายไอ้ดีนมันขยับหัวเข้ามาใกล้ผม แล้วพูดบางสิ่งบางอย่างที่เจ็บกระดองใจอย่างรุนแรง
บ้านป๊ะมึงสิไอ้ดีน ไปห่างๆกูเลยนะ ก่อนที่กูจะเอามะเหงกเคะหัวมึงผมพยายามฉีกยิ้มให้มันเห็นฟันครบ 32 ซี่ พร้อมกับโชว์กำปั้นที่กำลังกำหมัดแน่นโชว์มัน แต่แทนที่ไอ้ห่าดีนมันจะกลัว มันกลับหัวเราะร่าอย่างถูกใจ แม่งเอ๊ย ใครจะไปรู้ล่ะว่าไอ้พวกสีชมพูมันจะให้กระเทยขึ้นมาเต้นเล่า
พอซักพักก็จะเป็นของสีเขียวครับ สีเขียวนี่เป็นละครเวทีสร้างสรรค์สังคม ตอนแรกก็ดูดีอยู่หรอกครับ เป็นแนวดราม่าร้องไห้น้ำหมาก เอ๊ย! น้ำตาท่วมจออะไรทำนองเนี๊ยะ แต่ซักพักกลายเป็นตลกซุปเปอร์โจ๊กไปซะงั้น ก็เพราะมีตัวละครคนนึงทำเป็นลิฟซิ้งเดินเฉิดฉายบนเวที ประหนึ่งว่ากำลังเศร้าโศกเสียใจประมาณว่าเมียทิ้งอะไรเถือกนี้ล่ะครับ แต่ก็ไม่รู้ว่าพี่ท่านเมามันส์ในบทบาทหรือว่าเฟอะและฟะกันแน่ ปรากฏว่าเดินโฉบหน้าเวทีแล้วทำร่ำร้องไปเสียงเพลง ทำเป็นพอได้เอาขาข้างนึงยันไว้กับที่กันขอบเวที ไปๆมาๆ ทำไมน่ะเหรอครับ พี่ท่านแกลื่นอ่ะเด่ะ กีที่ไม่เอาหน้าฟาดกับเวทีนะครับ มีหวังเลือดโชก เหอะๆ แต่ก็ขำดีนะ มีตลกให้ดูด้วย คนดูนี้ฮาก๊ากกันกระจายไปเลยทีเดียวครับ
และต่อมาก็จะเป็นการแสดงของสีส้ม (หลังจากที่สีเขียวเรียกเสียงฮาครืนให้กับเหล่าประชาชนตาดำๆที่มานั่งดูการแสดงความเฟอะ) ครับ บอกตามตรงนะครับ ผมไม่อยากจะดูการแสดงของสีนี้เอาซะเลย ก็เพราะว่ามันเป็นสีของคู่อริของผมอ่ะเด่ะ จะใครซะอีกล่ะครับ นอกจากคุณหนูไฮโซจมูกบี้อย่างคุณนายลูกแพร (ผมจะไม่เรียกผู้หญิงว่า อี ครับ) สาเหตุที่จมูกบี้นี่ก็คงไม่ต้องถามนะครับ เพราะรู้ๆกันอยู่ (ฝีมือน้องผม กรั่กๆๆๆๆ) กับอินังกระเทยถึกควายเรียกพระบิดาอย่างอิตั้ม ผมไม่รู้หรอกนะครับ ว่าวันนี้สีส้มจะมีอะไรมานำเสนอ ตอนแรกกะว่าจะเดินออกไปจากหอประชุม แล้วค่อยกลับมาตอนเขาแสดงเสร็จ แต่ความคิดมีอันต้องเปลี่ยน เมื่อคนที่ออกมาแสดงนี่....
ไอ้พี่เคียวครับ.......0[]0
เฮ้ย! นั่นกูตาฟาดป่าววะ กูว่ากูเห็นพี่เคียวยืนอยู่บนเวทีนะเฟ้ย!ไอ้วัชตะโกนถามพวกเราทุกคนที่อยู่แถวนี้ ไอ้วัชเอ๋ย มึงไม่ได้ตาฟาดแล้วล่ะ อย่างนี้เขาเรียกว่าสายตามึงอยู่ในระดับดีเฟ้ย
เออ! กูก็เห็นแบบมึงนั่นแหละไอ้คุณวัชไอ้แทนตบหัวไอ้วัชอย่างแรง จนทำเอาไอ้วัชหน้าคะมำครับ
แล้วพี่แกขึ้นไปทำอะไรฟะนั่น แปลกแฮะ ทำไมพวกอิตั้มไม่แสดงเองล่ะเสียงของไอ้คามเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัยครับ
กูก็อยู่กับมึงตั้งแต่ตอนเข้ามา จะถามหาพระแสงอะไรล่ะไอ้โจตอบกลับไปอย่างรำคาญ
พี่เขาคงจะมาแสดงเทควันมั้ง เห็นใส่ชุดเทควันโดด้วยนิไอ้ตาลที่เงียบมานานก็เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบาๆ ถึงแม้เสียงจะเบา แต่พวกเราก็ได้ยินชัดเจนครับ...
หรอๆ นั่นสินะ พี่เคียวเขาเป็นักกีฬาเทควันนี่เนอะ กูว่าพวกเรายืนดูเงียบๆกันดีกว่ามั้ยไอ้โจ๊กเสนอความคิดดีดีขึ้นมา ทำเอาพวกผมที่ยืนอึ้งเมื่อจู่ๆไอ้ตาลก็พูดขึ้นมา พากันพยักหน้าหงึกๆเห็นด้วยทันที
ถ้าพูดอะไรไม่ดีออกไปล่ะก็ งานนี้หอประชุมน้ำท่วมแน่นอนครับ....
และเป็นอย่างที่ไอ้ตาลมันพูดจริงๆ พี่เคียวเขามาแสดงการต่อสู้ด้วยสาขาการต่อสู้ที่เรียกว่าเทควันโดครับ ทุกคนก็คงรู้จักกันดีนะครับ เรื่องกีฬาที่ชื่อว่าเทควันโด เทควันโดนี่เป็นศิลปะการต่อสู้ของประเทศเกาหลี ซึ่งการต่อสู้นี้จะใช้ความยาวของช่วงขาเป็นหลักครับ ส่วนมากนักกีฬาเทควันโดที่ผมเคยเห็นล้วนแต่ขาว สูงเกิน 180 ซม.ทั้งนั้น อย่าว่าแต่แฟนไอ้ตาลเล่นอยู่คนเดียวเลยครับ ไอ้ราฟมันก็เล่นเทควันโดเหมือนกัน เห็นว่ามันหัดตอนไปเรียนที่เกาหลีเมื่อ 5 ปีก่อน พอกลับมาอยู่ไทย ก็ไม่ได้เล่นอีกเลยครับ ถึงแม้ว่าที่โรงเรียนผมจะมีชุมนุมเทควันโด แต่ดูท่าไอ้ราฟมันจะไม่ชอบ หรือเบื่อยังไงหรือเปล่าผมก็ไม่รู้ เห็นมันเอาแต่มาขลุกอยู่กับชุมนุมดนตรีของพี่ผมแทนซะงั้น
แล้วส่วนมากเวลาที่ไอ้ราฟมีเรื่องกับใคร มันจะไม่ใช้เทควันโดในการสู้หรอกนะครับ มากจะใช้มวยมั่วแทนต่างหาก ถึงแม้ว่ามันจะเคยเตะก้านคอคนที่สูง 190 ซม. มาแล้วก็เหอะนะ - -* (จำได้ติดตาเลยครับ เมื่อยกพวกตีกันเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน)
การแสดงก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ ก็แค่โชว์การเตะ ไม้กระดานอัด กระโดดเตะทำเป็นโชว์พาว (มีคนแสดงทั้งหมด 10 คนครับ) หรือแม้กระทั่งจับคู่สู้กัน พวกผมหลายคนก็เอาแต่ยืนหาววอดๆล่ะครับ ก็มันน่าเบื่อนี่หว่า ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจ แล้วอีกอย่างพี่เคียวเขาก็ออกมาแค่เป็นคนถือกระดานอัดให้ก็เท่านั้น ไม่มีอะไรถูกใจวัยรุ่นเลยง่ะ
ผิดกับไอ้ตาล ที่จ้องพี่เคียวซะตาพราวเลยครับ เฮ้อ...
ในที่สุด ก็จบไปแล้วนะคะ สำหรับการต่อสู้สาขาวิชาเทควันโด เป็นไงมั่งคะ ถูกใจกันมั้ยเอ่ย....?เสียงของพี่ฟ้าผู้เป็นพิธีกรบนเวทีพูดผ่านไมค์ครับ ไอ้พวกมที่กำลังอยู่ในช่วงเบลอๆ ก็ต่างพากันสะดุ้ง อ่าว จบแล้วหรอครับ ผมไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย?
อ่าว จบแล้วเหรอ กูกำลังฝันอยู่เลยอ่ะไอ้อันมันทำท่าทางเหมือนเพิ่งตื่นครับ แหม กวนตีนดีแท้
อ่านะ...ก็...เฮ้ย!แล้วจู่ๆไอ้ปอนด์มันก็อุทานเสียงดังครับ
อะไรวะไอ้ปอนด์ เห็นผีหรอ???ไอ้โจ๊กผู้เป็นเพื่อนซี้ของไอ้ปอนด์ถามขึ้นอย่างตกใจครับ เป็นใครก็ต้องตกใจล่ะ อยู่ๆก็อุทานซะเสียงดังจนคนรอบข้างหันมามองมันเป็นตาเดียวแบบนั้นอ่ะ
ไอ้ริว มานี่ดิ๊!ไอ้ปอนด์มันกวักมือเรียกผมหยอยๆ ไอ้ริวขมวดคิ้วเข้าหากัน ก่อนที่จะค่อยกระดึ๊บๆเดินเข้าไปหาไอ้สองคนเพื่อนซี้ของผมครับ
อะไรของมึงวะไอ้ปอนด์
กูเห็น ผู้หญิงคนนั้นว่ะไอ้ปอนด์มันตอบ เล่นเอาผมกับโจ๊กมองหน้ากันอย่างสงสัย
คนไหนวะ ในหอประชุมนี้มีเป็นล้านแปด (เว่อร์ไปและ) กรุณาช่วยระบุสัญชาติหน่อยสิครับ คุณปอนด์ไอ้โจ๊กมันก็มุขเยอะนะครับ กล้าเล่นเนอะ มุขแป๊กขนาดนี้น่ะ
ห่านี่ มึงยังมีอารมณ์มาเล่นตลกคาเฟ่อีกเรอะ!!! มึงจำผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หรือไงไอ้ปอนด์ดีดหน้าผากไอ้โจ๊กไปทีนึง แล้วแหวใส่เสียงเบา คือพวกเรากำลังสุมหัวกันอยู่น่ะครับ
อะไรของมึงเนี่ยไอ้ปอนด์ มึงก็บอกมาสิวะ ผู้หญิงคนไหนไอ้ริวชักจะรำคาญลีลาของไอ้ปอนด์แล้วล่ะครับ มึงแค่บอกชื่อมากูก็ถึงบางอ้อแล้ว
คนนั้นไง คนนั้นไอ้ปอนด์มันเที่ยวพูดอยู่อย่างนั้นอ่ะครับ
ห่านี่ บอกชื่อมาสิวะ คนนั้นๆอยู่ได้ แล้วกูจะรู้มั้ยว่าคนไหนอ่ะ!!!อย่าว่าแต่ผมเลยที่จะรำคาญ ไอ้โจ๊กมันก็หมั่นไส้พอๆกับผมเหมือนกันอ่ะครับ
ก็....
เฮ้ย!!!แล้วในระหว่างที่ผมกับไอ้โจ๊กกำลังปล้นคำตอบจากไอ้ปอนด์อยู่นั้น พวกบรรดาเพื่อนๆของผมก็อุทานพร้อมกัน เสียงเบาไม่ว่า นี่พี่แกเล่นซะแอ๊คโค่ยังอาย ไม่ตกใจให้มันรู้ไปสิเอ้า!
พวกผม 3 คนที่กำลังสุมหัวอยู่ รีบผงกหัวมาดูทันทีครับ ว่าพวกมันเจออะไร ถึงเล่นอุทานซะขนาดนั้น ภาพที่ผมเห็นคือไอ้พวกเพื่อนๆผมกำลังดูอะไรซักอย่าง (คิดว่างั้นนะครับ) แต่ละคนนี่อ้าปากค้างเหมือนเจออะไรเข้า สายตาของทุกคนเบนไปที่เวทีอยู่อ่ะครับ ดังนั้นไอ้พวกผม 3 คนรีบหันไปดูที่เวทีทันที ว่าเกิดอะไรขึ้น
แว๊ก!
ผมเห็น พี่เคียวกำลังรับช่อดอกไม้ช่อใหญ่ กับตุ๊กตาเคโรโระตัวสีเขียวอื๋อ เรื่องของขวัญไม่สำคัญหรอกครับ สำคัญอยู่สองอย่างคือ ไอ้พี่เคียวแกยิ้มแก้มปริเมื่อเห็นคนที่ให้ ยิ้มแบบในที่พี่แกเคยยิ้มให้ไอ้ตาล ส่วนคนที่ให้น่ะเหรอครับ หญิงสาวหน้าตาสะสวยกำลังยิ้มให้กับพี่เคียว ซึ่งผมจำได้ทันทีว่าคนๆนั้นเป็นใคร
น้องหนูทราย กิ๊กคนใหม่ของพี่เคียวนั่นเองครับ - -*
ไอ้ริวรีบหันขวับไปทางไอ้ตาลที่ยืนอยู่ข้างๆทันที ผมว่าผมรู้นะ ว่าไอ้รอยยิ้มที่ไอ้พี่เคียวยิ้มให้ผู้หญิงคนนั้น มันไม่ธรรมดาแน่ๆ ผมเคยเห็นนะครับ ว่ารอยยิ้มนั่น เป็นรอยยิ้มที่พี่เคียวยิ้มให้ไอ้ตาลทุกครั้งเมื่อเจอกัน แต่วันนี้พี่เคียวยิ้มให้กับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผมก็เห็นสีหน้าไอ้ตาลนะครับ ว่ามันอึ้งขนาดไหนที่เห็นแฟนที่รัก อยู่กับผู้หญิงคนอื่น...
เฮ้ย ไอ้ตาล ใจเย็นนะมึง มันอาจไม่ใช่อย่างที่มึงคิดก็ได้นะไอ้ริวรีบปรี่เข้าไปหาไอ้ตาล พยายามอธิบายในสิ่งที่เห็นให้มันฟังครับ แต่ไม่รู้จะเล่าแจ้งแถลงไขยังไงดีอ่ะครับ ภาพมันเห็นกันโต้งๆแบบนี้อ่ะ แล้วอีกอย่าง ผมไม่นึกเลยนะครับ ว่าไอ้ตาลจะได้เห็นไอ้แบบเนี๊ยะเร็วขนาดที่ผมยังไม่ทันตั้งตัว
มึงรู้อยู่ก่อนแล้วใช่มั้ย ไอ้ริว....แล้วในที่สุด ไอ้ตาลมันก็เอ่ยถามผมเสียงเย็น เล่นเอาไอ้ริวขนลุกครับ
อ่า...เอ่อ...คือ....ติดอ้างทันใด อย่างไม่ต้องสงสัยเลยครับ
มึงตอบกูมาสิไอ้ริว มึงรู้มาก่อนใช่มั้ยแล้วจากเสียงเย็นๆก็กลายเป็นเสียงตวาดถาม ง่าส์ แล้วผมจะตอบยังไงล่ะครับ
อืม...กูก็เพิ่งรู้เมื่อวานอ่ะ...ผมตอบไปตามความจริงครับ ยอมแพ้แล้วง่ะ
หรอ แล้วทำไมมึงไม่บอกกูล่ะ?ไอ้ตาลก็ยังก้มหน้าแล้วถามอยู่อย่างนั้นอ่ะครับ
คือ...กูไม่แน่ใจอ่ะ ว่ามันจริงหรือเปล่า จนวันนี้กู...กูก็ได้เห็นอย่างมึงเห็นนี่แหละ
เหรอ...ขอบใจนะ ที่มึงพามาให้กูเห็นภาพนี้น่ะ....และแล้วเสียงไอ้ตาลมันก็สั่นสะเทือน พวกผมเริ่มหน้าเสียแล้วล่ะครับ ผมไม่น่าพาไอ้ตาลมาเห็นในสิ่งที่ไม่สมควรที่จะเห็นเลยอ่ะครับ...
ไอ้ตาลมันอาจจะกำลังร้องไห้อยู่ก็ได้
ไอ้ตาล มึงไม่เป็นไรนะ....ผมเอ่ยถามเสียงแผ่ว ไอ้ริวขอบตาร้อนผาว แทบจะร้องไห้ตามมันแล้วล่ะครับ
หึหึ.....
แหง่ะ ทำไมไอ้ตาลมันถึงหัวเราะล่ะครับ - -*
อะ...ไอ้ตาล...ผีเข้ารึไงวะเนี่ย
หึหึ...เอาซี่...ถ้ามึงมีคนใหม่ได้ล่ะก็.....และแล้วไอ้ตาลมันค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา แบบว่าเป็นเสต็ปเหมือนฆาตรกรโรคจิตกำลังแสยะยิ้ม ทำเอาพวกผมทั้งหลายต่างพากันถอยครูดไปกองอยู่ที่เดียวกันเลยอ่ะครับ...
อ่ะ...ไอ้ตาล....ปากสั่นกันหมดทั้งแก๊งค์อ่ะครับ
กูก็มีใหม่ได้เหมือนกัน มึงตายแน่ ไอ้เคียว.....ไอ้ตาลมันเงยหน้าขึ้นมาเต็มช็อต สิ่งที่ผมเห็นคือ ไอ้ตาลกำลังแสยะยิ้มอย่าง (โคตร) น่ากลัว โดยที่แววตาเต็มไปด้วยไฟลุกครื้น ฉากหลังคือไฟบรรลับกัลย์ที่กำลังรุ่งโรจน์ชัจวาล พร้อมกับเขี้ยวยาวเหมือนทศกันฑ์เลยทีเดียว
ไอ้ตาล เปี๊ยนไป๋.....
เรามาแผ่เมตตาให้กับพี่เคียวกันเถอะครับ....
สัตเพ สัตตา....สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์......
ไอ้ตาลเริ่มโกรธแล้ว......T^T
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เน็ตหอซักกะบ๊วยยยยยย ตั้งใจว่าจะมาอัพตั้งกะเช้า เป็นไงล่ะ เสือกไม่ติดซะงั้น เพิ่งมาติดเอาตอนทุ่มกว่าเนี่ยนะ แง่งงงๆๆๆๆๆๆๆ
โอเค พล่ามเสร็จก้อมาคุยกันต่อนะคะ หลังจากที่อิเจ๊มดเกิดอาการมึนงงอยู่พักใหญ่ๆ คาดว่าน่าจะเกิดอาการเครียดก่อนสอบ ก็เลยหยุดเขียนไปหลายวัน จนเมื่อคืนเกิดอาการทนไม่ไหว ก้พิมพ์จนเหลืออยู่ประมาณหน้าเศษๆ จนรุ่งเช้าวันต่อมาก้อพิมพ์เสร็จสมบูรณ์ (เย้ๆ~)
แต่ไปๆมาๆกะว่าจะอัพตอน 9 โมง ดันเกิดอาการเน็ตหอไม่เข้า ไม่รู้เป็นเพราะอะไรนะคะ อิเจ๊มดก้อเลยสามารถมาอัพได้ตอนทุ่มกว่าๆอย่างที่เห็นนี่แหละ ขอโทษที่ทำใหรอนานนะคะ
อัพแล้วเม้นต์ด้วยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าอิเจ๊มดจะหายไปไหน ยังอยู่คร๊า
และสำหรับน้องคนไหนที่คิดว่าเรื่องของตาลกับเคียวมันยืดมากไปนั้น พี่ว่ามันไม่ยืดหรอกค่ะ ถ้าหากเอาตอนที่ 43 มารวมกับให้เป็นตอนเดียว มันก็เท่ากับแค่ 2-3 ตอนเท่านั้นแหละ หรือถ้าใครทนไม่ได้ อิเจ๊มดก็ไม่รู้จะทำยังไง ถ้าอยากอ่านให้มันเคลียน้องๆก็ต้องรอนานไปเป็นอาทิตย์ หรือเป็นเดือน นั่นคือหลักความจริงค่ะ
แต่ที่อิเจ๊มดแยกมาเป็นตอนย่อยนั้น ก็เพราะไม่อยากให้คนอ่านรอนาน ถ้าหากใครออนเอ็มกับอิเจ๊มด ก็จะรู้ว่าอิเจ๊มดเป็นยังไง ถึงมีแกล้งคนอ่านบ้าง แต่ก็เคยที่จะปล่อยให้ค้างคา และที่สาเหตุยืดเรื่องให้มันยาวนั้น อิเจ๊มดต้องการอยู่กับทุกๆคนไปนานๆ ไม่อยากให้มันจบเร็ว ไม่งั้นคงเหงาแย่
แต่ถ้าใครรับไม่ได้ ก็บอกนะคะ อิเจ๊มดจะพยายามย่อเรื่องให้มันสั้นลง แต่มันอาจจะไม่สมบูรณ์ หรือสนุกเท่ากับพล็อตที่คิดไว้นะคะ
แค่นี้แหละ ที่อยากบอกน่ะค่ะ......เข้าใจคนเขียนและคนคิดด้วยนะคะ ใช่ว่าเรื่องนี้มันจะง่ายๆ โคตะระยากเลยล่ะ ที่ต้องมานั่งอธิบายความรู้สึกของอิตาริวเนี่ย (ก็อิเจ๊มดไม่ใช่อิริวนี่นา - -*)
^3^
แมร่งไอเคียวววววว
ไม่รู้ว่ามีเหตุผลไรแต่ไม่ปลื้มแล้วน่ะ
ตาลสู้ตาย
มานต้องให้ได้งี้ดิ
ps.ขอบคุณนะคะ
ตาลจัดการ มีกิ๊กเลยย เอาคืนน อ๊ากกกก = =*
ไว้อาลัยแด่พี่เคียว หลับตาหนึ่งวิ -/\-
ตาลสู้ๆ เชียร์ขาดใจดิ้น