ตอนที่ 7 : Scene 6 [100%]
Scene 6
sex and drunkenness always help
เสียงโห่ร้องกึกก้องจากทุกสารทิศในห้องวีไอพี เว้นก็แต่ชานยอลและคนที่ตกอยู่ในประเด็นที่ไม่มีวี่แววรู้สึกสนุกด้วย ลู่หานยิ้มเยาะ ย่ามใจอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า ชานยอลนิ่งคล้ายกำลังใช้ความคิด ทั้งที่ในหัวเขามันตื้อไปหมด ถ้าเขาตอบรับก็ไม่ต่างจากการตกหลุมพรางลู่หาน แต่หากยอมยกแก้วดื่มเพื่อจบเกม ก็จะกลายเป็นคนกินปูนร้อนท้อง ไม่ว่าจะยอมรับหรือปฏิเสธ การกระทำของเขาก็ล้วนแล้วแต่แฝงความนัยให้ชวนต่อยอดทั้งสิ้น
ไหนจะความรู้สึกของคนตัวเล็กอีกเล่า ตาคมลอบสบกับตาเรียว แต่ชั่ววินาทีเดียวแบคฮยอนก็เป็นฝ่ายละไป ก้มตาก้มตาซดน้ำเมาเหมือนไม่สนใจ แต่แน่นอนว่าชานยอลรู้ ประสาทการได้ยินของแบคฮยอนคงกำลังจดจ่อรอคำตอบจากเขาอย่างไม่ต้องสงสัย
" ว่าไงครับคุณพระเอก แค่นี้ต้องคิดนานด้วยเหรอวะ "
" แบคฮยอนเขินแล้วนะเว้ย ฮ่าๆๆ "
" ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำนะครับ "
ยังไม่มีคำตอบใดกระเด็นออกจากปากหนา แบคฮยอนก็ชิงตัดหน้าขอหลบฉาก จงอินถึงกับหยุดขำฉับพลัน คนเปิดประเด็นอย่างลู่หานก็หยุดยิ้ม บางทีเขาอาจลืมตัว ล้ำเล้นความรู้สึกของแบคฮยอนที่เพิ่งรู้จักกันมากไป
แบคฮยอนกลับมาหายใจทั่งท้องอีกครั้งหลังจากขอหลบมาทำใจในห้องน้ำ เขาไม่ชอบที่ตัวเองถูกเอาไปพูดเป็นเชิงล้อกันอย่างสนุกปากอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเจตนาคนอยากก่อไมตรีของลู่หาน แต่เป็นตัวเขาเองที่คิดมากเกินไป ยิ่งเห็นอาการลังเลที่ชานยอลแสดงออกมาเท่าไร แบคฮยอนก็ยิ่งไม่สบอารมณ์ ไม่แน่ใจตัวเองด้วยซ้ำว่าอยากให้คำตอบมันออกมาในทิศใด
" ไหนว่าจะมาเข้าห้องน้ำ "
" แล้วนี่เราไม่ได้อยู่ในห้องน้ำกันเหรอครับ "
" นายมันดื้ออย่างที่ไอ้ชานยอลว่าจริงๆด้วยสินะ "
กล่าวหาร่างเล็ก กระนั้นจงอินก็ยังส่งยิ้มให้เด็กดื้อน่าเอ็นดู เขาเป็นคนเสนอตัวมาง้อแบคฮยอน เขาเชื่อว่าตัวเองทำได้ดีกว่าลู่หานที่เริ่มเมาจนพูดไม่รู้เรื่อง หรือว่าชานยอลที่เอาแต่สนใจน้ำแข็งเชื่อมแอลกอฮอล์ในแก้วทรงเตี้ยนั่น
" เชิญพวกคุณคิดได้ตามสบาย "
แบคฮยอนค้อนขวับ คืนนี้ทุกคนคงสนุกมากโดยเฉพาะชานยอลกับลู่หาน แต่ไม่ใช่กับเขา บางทีแค่หนีมาเข้าห้องน้ำคงใกล้เกินไป แบคฮยอนคิดว่านี่คงดึกมากเกินไปที่จะใช้เวลากับเพื่อนร่วมงานที่เพิ่งรู้จักกันได้ไม่เกินสองสัปดาห์
" เฮ้ๆ ! ใจเย็นน่า " จงอินฉุดข้อมือเล็กก่อนแบคฮยอนจะเดินหนี " ฉันแค่จะขอโทษแทนพวกเราทุกคน โดยเฉพาะลู่หาน หมอนั่นก็เป็นแบบนี้ พวกเราสนิทกันมาก ขอโทษแทนเขาด้วยถ้านายไม่ชอบที่เขาพูดมากเกินจำเป็น ถ้านายดูออกก็น่าจะรู้ว่าลู่หานเมาแล้ว "
" โอเค ผมเข้าใจแล้ว ช่างมันเถอะ " แบคฮยอนตอบส่ง เขาไม่ถือคนบ้าและไม่เคยว่าคนเมา แบคฮยอนไม่ใช่คนงี่เง่าและเข้าใจสถานการณ์ได้โดยง่าย แค่ขอโทษก็เพียงพอ
" ถ้างั้นก็กลับเข้าไปข้างในได้แล้ว "
" คุณไปก่อนเถอะ เดี๋ยวผมตามเข้าไป "
" นายไม่อยากรู้เหรอว่าใครชนะ "
เด็กดื้อชะงักอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ ไม่ว่าชานยอลจะตอบว่าอะไร สุดท้ายมันก็เป็นแค่เกม ไม่ได้มีผลกับชีวิตของแบคฮยอนเสียหน่อย
" ผมไม่ได้สนใจหรอก มันออกจะไร้สาระไม่ใช่เหรอครับ "
" ฉันเข้ามาเล่นหนังให้ลอสท์แองเจลลิสเมื่อปีที่แล้ว " จงอินโพล่งขึ้นกระทันหันตอนที่ยืนหันหน้าเข้ากระจก เขาทิ้งระยะ สบตากับแบคฮยอนผ่านกระจกล้างหน้า เมื่อเห็นว่าแบคฮยอนมีแววพอจะเป็นผู้ฟังที่ดีได้ เขาจึงว่าต่อ " ฉันรู้จักกับจงแดตั้งแต่ปีหนึ่ง หมอนั่นเป็นรุ่นพี่ในคณะเดียวกับพวกเรานี่ล่ะ หมอนั่นมันชอบทำอะไรสวนกระแสสังคม พอจบไปก็คิดการใหญ่ เปิดค่ายหนังอย่างว่าสำหรับพวกโฮโม อาศัยความสนิทสนมชวนฉันเข้ามาลอง เล่นได้เรื่องสองเรื่องจะจับเซ็นต์สัญญา ฉันน่ะยังไงก็ได้ ฉันว่าทำงานคุยกันง่ายๆก็เลยตามเลย ส่วนไอ้ชานยอลมันร้อนเงิน ไม่ใช่ว่ามันจนหรืออะไรหรอกนะ แต่ช่วงนั้นมันติดหนี้พนันบอล ไม่อยากให้ที่บ้านรู้ ฉันเลยชี้ทางลัดให้ ไปๆมาๆดังกว่าฉันเสียอีก "
" คุณเคยเล่นกับชานยอลไหม "
" ว่าไงนะ ? ถ้าหมายถึงสองต่อสองกับมันล่ะก็ จงแดจ้างหมดตัวฉันก็ไม่เอาหรอ แต่ถ้าเป็นช่วยกันรุกคนอื่นก็หลายครั้งอยู่ " แบคฮยอนพยักหน้าเข้าใจ
" แล้วทั้งหมดนี่ คุณเล่าให้ผมฟังทำไม "
" เพราะฉันอยากให้เราสนิทกันมากกว่านี้ จริงๆนะแบคฮยอน ทุกคนที่นี่ชอบนาย พวกเราคงดีใจมากถ้านายจะมองเรามากกว่าเพื่อนร่วมงาน " อย่างเช่นการแลกเรื่องส่วนตัวของกันและกันที่จงอินยอมสละตัวเป็นผู้เริ่ม เขาไม่ได้หวังได้ยินคำบอกเล่าของแบคฮยอนตอนนี้ แต่เชื่อว่ามันคงมีสักวันที่คนตัวเล็กยอมเปิดใจ
" ขอบคุณมากนะครับ แต่คุณคงรู้ว่าผมต้องการเวลาสักหน่อย " แบคฮยอนสารภาพตามตรง เขาไม่คุ้นเคยกับการถูกคนมากมายรุกเข้าหา
" ฉันรู้ เออนี่แบคฮยอน "
" ครับ ? "
" ฉันลีลาเด็ดกว่าไอ้ชานยอลจริงๆนะ " จงอินพลิกสถานการณ์ เขาขยิบตา แบคฮยอนหัวเราะแห้ง สัญชาตญาณเก่าเก็บคืบคลานออกมาจากจิตใต้สำนึกช้าๆในขณะที่จงอินเยื้องย่างเข้าใกล้ เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนห้ามด้านมืดของตัวเองไม่ไหว เผลอมองผิวหน้าอกคร้ามแดดใต้ปกเสื้อที่ไม่ได้กลัดกระดุม ย้อนขึ้นมาสบตาผู้ชายนิสัยดี " ฉันจะให้นายตัดสินใจเองดีไหม "
แบคฮยอนเกือบหลุดปากไปแล้วว่าเขาไม่ใช่คนรอเก่ง หากไม่มีเหตุการณ์เหนือความคาดหมายแทรกเข้ามากลาคัน ผู้หญิงร่างเล็กคนหนึ่งถูกโอบประคองเข้ามาโดยผู้ชายตัวสูงอีกคนที่เขาและจงอินต่างจำได้ต่อให้เห็นเพียงใบหู
ในมุมกลับกัน ภาพในกรอบสายตาชานยอลก็เป็นเพื่อนสนิทและคนที่ไม่รู้จักฟังให้ได้ศัพท์ก็ผลุนผลันหนีออกมา แบคฮยอนยืนอยู่ภายใต้การกักกันของจงอินโดยที่เจ้าตัวก็ดูพอใจที่จะอยู่ในท่าทางล่อแหลม ชานยอลหัวเราะขึ้นจมูกโดยไม่รู้ตัว ผ่านมือเขาทั้งที่ยังไม่ทันจะหุบขาได้สนิทก็พร้อมประกบฉากใหม่กับเพื่อนของเขาเสียแล้ว จงแดรู้เข้าคงเป็นปลื้มตายชัก
" ชานยอล "
วินาทีที่สั้นเพียงพริบตากลับต่อยอดให้ความคิดก้าวกระโดดกว่าเวลาเสมอ ก่อนที่อคติจะจูงชานยอลให้สร้างเรื่องราวในหัวจนจบกระบวน นิ้วเรียวเปื้อนยาทาเล็บสีสดก็แนบใบหน้าหล่อ บังคับให้ชายหนุ่มกลับมาสนใจแต่หล่อนซึ่งพร้อมจะพลีกายให้เขาตั้งแต่แรกสบตากระทั่งพากันมาหาสถานปฏิบัติกามซึ่งลับตาคน แต่ไม่แคล้วเจอพวกนิยมกินของที่มีเหมือนๆกันเข้ามาจองที่ก่อนเสียได้ แต่ใครสน มื้อดึกของหล่อนคือชายหนุ่มหล่อร้ายกาจตรงหน้าผู้เดียวเท่านั้น
" อื้ม... "
" อย่าสนใจเลย ไอ้ชานยอลมันก็แบบนี้ " แบคฮยอนละฉากพลอดรักของหนุ่มสาว บอกไม่ถูกว่ารู้สึกหรือต้องรู้สึกเช่นไร ใบหน้ามีสเหน่ห์ไม่แพ้ใครอีกคนยังอยู่ใกล้เท่าเดิม " มันคงจะนอนกับผู้ชายด้วยกันจนเบื่อ ปล่อยให้มันอยู่กับของสวยๆงามๆบ้าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านายไม่น่ารักหรอกนะ " จงอินขยี้ผมร่างเล็กที่เอาแต่จ้องเขาด้วยแววตาแฝงความต้องการที่จงอินทราบแต่ไม่ยักซึ้งในความหมาย ร่างสูงแกล้งฉีกยิ้มทั้งปากและสายตาเพื่อปิดกั้นการรับรู้ ไม่ใช่ว่าแบคฮยอนน่าฟัดน้อยกว่าผู้หญิงที่ชานยอลกำลังกอดจูบด้วย แต่จงอินจะไม่แตะต้องแบคฮยอนจนผู้กำกับจะมอบหมาย นอกเหนือจากนั้น เขาไม่มีทางเข้าใกล้คนที่เพื่อนรักหมายตา
" ขอพื้นที่ให้กุอ้วกหน่อยคร๊าบ เฮ้ย ! อะไรวะเนี่ย "
ลู่หานพรวดพราดเข้ามาไม่รู้ตาไหนม้าตาไหนเรืออุทานเสียงหลง คนเมาถึงคราวสร่างเต็มตาเมื่อเห็นพ่อพระเอกรูปหล่อกำลังคลุกวงในกับสาวปริศนาไม่อายสายตาอีกคู่ที่เข้าขาไม่แพ้กัน " นี่คุณผู้หญิง เข้ามาทำอะไรในห้องน้ำผู้ชายครับ แยกๆๆ "
คำถามไม่จำเป็นเมื่อเภาพตรงหน้าฟ้องทุกคำตอบ แต่ลู่หานตีมึน ตรงเข้าห้องน้ำ แทรกกลางระหว่างชายหญิงแล้วโก่งคอสำรอกน้ำพิษราคาแพงลงคอห่าน สาวไฟแรงสูงปั้นหน้ารังเกียจสุดพลังก่อนจะจรลีจากไป จงอินตามเข้ามาลูบหน้าลูบหลังให้เพื่อนร่างเล็กแทนชานยอลที่ตั้งใจแต่จ้องหน้าแบคฮยอนประหนึ่งจะหมายหัว
" มึงพาแบคฮยอนเข้าไปก่อนเถอะ เดี๋ยวลู่หานกูจัดการเอง " จงอินมอบหมาย
" จัดการอะไรกู ! "
" เปล่าจ้าพ่อ " หันไปขานรับพ่อนักเลงตัวดี เมื่อได้ทีแล้วจึงพยักเพยิดหน้าให้ชานยอลพาแบคฮยอนออกไป กระจุกกันอยู่ตรงนี้ก็เกะกะเปล่าๆ คนอื่นๆในงานจะพาลกร่อยกันยกคณะ
ข้อมือบางถูกมือใหญ่กำรอบมาตลอดทางกลับเข้าห้อง ชานยอลไม่ได้ออกแรงกำแน่น เขาเพียงแต่เกาะกุม และอาศัยความสูงซึ่งเกินมาตรฐานนำทางคนตัวเล็กกว่า แบคฮยอนมองอวัยวะที่ถูกพันธนาการของตัวเอง ถ้าเพียงสะบัดหนีก็เป็นอิสระได้โดยง่าย แต่เหตุที่จิตใจว้าวุ่นอยู่นี้เพราะเลือกยินยอมให้เขาจับต้องได้ตามใจต้องการทั้งนั้น แล้วก็มาหงุดหงิดตัวเองที่ไม่มีปัญญาสะบัดออก
" ถึงแล้ว ปล่อยได้แล้วน่า " เพิ่งจะมีแรงต่อต้านก็ต่อมาเมื่อถึงหน้าห้อง ชานยอลปล่อยแบคฮยอนตามคำขอ
แบคฮยอนไม่ได้พูดพล่ามทำเพลงกับใครอีกตั้งแต่กลับเข้ามา เด็กหนุ่มสุงสิงแต่กับเพียงแก้วประจำกายที่พร่องลงและถูกเติมเต็มครั้งแล้วครั้งเล่า แจกยิ้มให้คนอื่นๆเมื่อถึงจังหวะต้องรับมุขบ้างตามสมควร ผู้ที่นั่งใกล้แบคฮยอนที่สุดเห็นจะเป็นคนไม่ได้รับปฏิสัมพันธ์ใดจากร่างเล็ก ชานยอลไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับการถูกเมิน ที่ขัดใจพระเอกหนุ่มที่สุดคือการรินเหล้าตามใจปากแบคฮยอนของลู่หานต่างหาก รายนั้นเอาแต่ใจมาแต่ไหนแต่ไร เมาคนเดียวไม่พอ ยังมอมเหล้าเด็กใหม่จนหน้าแดงก่ำ ตาฉ่ำเยิ้มเป็นลูกหมาอดนอน
" พอแล้ว " เขาปราม แย่งแก้วที่มีแต่น้ำแข็งในมือแบคฮยอนมาถือไว้ ทว่าต้องหงุดหงิดเพิ่มเป็นเท่าตัวเมื่อแบคฮยอนทำเหมือนไม่ได้ยินที่เขาสั่ง ซ้ำยังดึงแก้วกลับไป ส่งยิ้มให้ลู่หานหน้าตาไม่รู้ร้อน เหมือนไม่รู้ว่าเขาไม่พอใจอยู่ตรงนี้
" เฮ้ยลู่หาน พอๆๆ ทั้งทั้งคู่เลย เมากันหมดแล้วนะพวกมึง " ยังดีที่จงแดเป็นอีกคนที่สังเกตอาการเมาและบรรยากาศไม่สู้ดีระหว่างพระนางหมาดๆในสังกัด เขาจึงสั่งให้จงอินพาลู่หานไปส่งที่ห้อง และแยกย้ายกันกลับเนื่องด้วยเวลาอันเกินควร
" ชานยอล มึงไปส่งแบคฮยอนแล้วกันนะ "
" ไหงเป็นกูล่ะ "
" อ้าวไอ้ห่า ... ก็มึงเป็นคนพาเขามาก็ต้องพาเขาไปส่งสิวะ อีกอย่าง มึงเป็นคนเดียวที่เคยไปบ้านแบคฮยอน " จงอินกึ่งลากกึ่งพยุงลู่หานจนเกือบพ้นประตูห้องวกกลับมาเพราะเสียงท้วงของพ่อพระเอกฟอร์มจัด กระซิบบางคำที่แทงใจใส่หูที่ไม่มีใครเหมือนของเพื่อนสนิท " พวกกูอุส่าชงให้กลับไปแดกที่บ้านแล้วนะ อย่าเล่นตัวให้มันมากนัก รำคาญ "
" พาน้องกลับบ้านเขานะว้อย ไม่ใช่บ้านมึง " ลู่หานรวบสติสุดท้ายตะโกนล้อไล่หลัง ก่อนพิษสุราจะพามโนสำนึกดับไป
" ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผม ...อีก... นั่งรถกลับเองได้ " บอกเสียงแหบพร่าเจือสะอึก เขาไม่อยากตกเป็นภาระของใครที่ไม่เต็มใจ แบคฮยอนลุกขึ้นเก็บกระเป๋า ยังไม่ทันตั้งตัวได้ก็หงายหลัง ซบลงแผงอกแน่นเนื้อของชานยอลเหมือนจับวาง นึกเจ็บใจตัวเองที่บังคับร่างตัวเองไม่ให้เผลอให้ท่าอีกฝ่ายโดยไม่ได้ตั้งใจ
" จะไหวเหรอ แค่ยืนยังลำบากเลยมั้งเรา " จงแดวินิจฉัย
" ไหวครับ ได้ล้างหน้านิดหน่อยก็โอเคแล้ว "
" หยุดพูดมากแล้วมากับฉัน "
" ไม่เอา ! ปล่อยผม "
เมื่อการถูลู่ถูกังทุลักทุเกินจัดการ ชานยอลจึงรวบตัวแบคฮยอนพาดบ่า ตรงมายังลานจอดรถ ชานยอลเปิดประตู ทิ้งร่างเล็กลงบนเบาะข้างคนขับ แรงสั่นสะเทือนเหมือนแกล้งจนแบคฮยอนเวียนหัว ใครไม่มาเป็นแบคฮยอนไม่มีทางรู้ว่าเขาต้องอดกลั้นสุดขีดเพื่อไม่ให้ของเก่าตีขึ้นทางเดิม
" ผมจะกลับเอง " แบคฮยอนร้องเสียงแผ่ว นอนพังงาบหอบหายใจ เลือดร้อนในกายไหลขึ้นหน้า ปล่อยให้ชานยอลปรับพักพิงเป็นแนวราบ คาดเข็มขัดนิรภัย รู้ดีว่าร่างกายอ่อนแรงเกินไปที่จะต่อต้านอีกฝ่าย
จวบจนถึงที่หมาย ชานยอลดับเครื่อง ก่อนจะพบว่าคนเมาหลับสนิทมาตลอดทางอย่างไรก็ยังอยู่ท่าเดิม ชานยอลโบกมือไหวๆที่ดวงหน้าน่ารัก ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้กลับมา
" นี่ ถึงแล้วนะ "
" ... "
" แบคฮยอน "
กระทั่งชานยอลตระหนักแล้วว่าป่วยการที่จะปลุกคนหลับลึก เขาจึงตัดสินใจควานหาคีย์การ์ดในกระเป๋าของแบคฮยอน ก่อนตบหน้าผากตัวเองเต็มฝ่ามือ นึกขึ้นได้ว่าสมัยนี้ที่ใดก็ล้วนใช้ระบบรหัสมือทั้งสิ้น
" เอาไงดีล่ะทีนี้ หื้ม ? "
ชานยอลหันไปขอความเห็นจากคนไม่ได้สติ เชยคางเรียวเชิดหน้า ไหวมันไปมาอย่างหมั่นเขี้ยวเต็มพิกัด คำพูดส่งท้ายของลู่หานวกกลับเข้าหู ไม่อยากเชื่อว่าเขาต้องจัดการให้มันลงเอยดังคำเพื่อนจริงๆ
" ถือว่าปลุกนายแล้วไม่ตื่นเองนะแบคฮยอน "
โปรดติดตามซีนต่อไป
หุหุหุ คำพูดลู่หานนี่มันศักดิ์สิทธิ์จริงๆค่ะคุณผู้โชมมมม
ตอนนี้สั้นกว่าตอนอื่นก็เลยลงให้ครบเลยเนอะ
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ขอบคุณมากๆ แฟนคลับพันฟ่าแล้ว ดีใจTT
ตอนหน้าพระนางจะทำอะไรกันว๊า อย่าลืมเปย์เป็นคอมเม้น #ficlostangeles นะค๊า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ปล.นี่อยากรู้จังว่าทำไมแบคถึงมาทำงานนี้
แล้วนี่มาถึงที่อยู่แบคแล้วคิดจะทำอะไรอ่ะ
เอาจริงๆชอบทุกคนเลย มีเสน่ห์ที่ชัดเจนเป็นของตัวเองอ่ะฮื่ออออ