ตอนที่ 24 : Scene 19 [100%]
Scene 19
your face would look good between my legs
แบคฮยอนเดินออกจากสตูดิโอพร้อมซองจดหมายสีขาว ภายในนั้น ระบุเอกสารการยกเลิกพันธะสัญญาระหว่างเขากับสังกัดลอสท์เอนเจลลิสในฐานะนักแสดง ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แบคฮยอนจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับบ้านหลังนี้ทางธุรกิจอีก
ถอนตัวออกมาพร้อมความรู้สึกผิดต่อคิม จงแด แม้รู้อยู่แก่ใจว่าบริษัทกำลังขาดกำลังหลักอย่างลู่หาน แบคฮยอนก็ยังยืนกรานไม่สานต่อ เลือกเห็นแก่ตัว ดีกว่าเห็นใจจงแดและปล่อยให้ใจของตัวเองกลับไปเจ็บอีกหน
สุดท้ายแล้ว เขาก็หาทางออกจากความเจ็บปวดให้หัวใจได้ หลังจากนอนฝันร้ายจากความผิดพลาดของตัวเองในหลายคืนถัดมา
จะอย่างไร แบคฮยอนก็ทำใจมองหน้าชานยอลดังเพื่อนร่วมงานดังเดิมไม่ไหว แบคฮยอนไม่ใช่คนเก่งกาจขนาดนั้น พยายามจะแข็งใจ ตัดทุกอย่างที่จะนำมาซึ่งความเกี่ยวข้องระหว่างเขากับชานยอลออกทุกวิถีทาง ไม่รักก็ต้องตัดใจ แบคฮยอนทำอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว
มือไม้อ่อนเผลอทำซองขาวหลุดมือ ปลิวไกลให้ไล่ตามเก็บ มันลอยละล่องและสิ้นสุดใต้รองเท้าผ้าใบคู่ใหญ่ มือหนาเก็บมันขึ้นมา แบคฮยอนมองตามมือที่เก็บจดหมายของเขาไล่ขึ้นไปจนพบใบหน้าที่อยากพบและไม่อยากพบในคราเดียวกันมากที่สุด ในสภาพที่เขาไม่คิดว่านักแสดงหนุ่มจะปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรมไปได้ถึงขนาดนี้
ผมเผ้าและผิวพรรณขาดการบำรุงดูแล ริมฝีปากที่เคยใช้ต่อขานเขาแห้งผากและมีรอยแตกระแหง แต่นั่นไม่ย่ำแย่เท่าตากลมโต สุกสกาวเหมือนดาวจรัส บัดนี้หมองด้วยรอยคล้ำอย่างคนอดนอนสะสม หากแต่แววคมยังกรีดเฉือนหัวใจเขาได้การดี
ไม่ว่าจะการกระทำ คำพูด หรือความคิดในจิตใจ หากมันมาจากผู้ชายที่ชื่อปาร์ค ชานยอล ย่อมมีปฏิกิริยากับแบคฮยอนเสมอ
เพลงเศร้าที่เนื้อเพลงว่าด้วยเรื่องความเหน็บชาหลังการถูกทำให้ช้ำใจนั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งเพ เวลานี้ แบคฮยอนรู้จักแต่เพียงความเจ็บช้ำเหมือนเลือดในอกกำลังไหลออกเป็นลิ่ม ราวกับความเจ็บแน่นนี้จะไม่มีวันผันแปรเป็นความชินชาได้เลย
อยากเดินเข้าไปกอด อยากบอกรัก อยากถามไถ่ความเป็นไป แต่ความตั้งใจทั้งหมดทั้งมวลกลับต้องเก็บมันเอาไว้ให้ลึกที่สุดในกล่องเก็บความรู้สึก ได้เพียงมองและปล่อยให้สายตาพูดกัน
ทว่าก็สู้กับความเว้าวอนซึ่งสะท้อนจากตาคู่นั้นไม่ไหว แบคฮยอนหลุบตาต่ำ บอกตัวเองว่าพอแล้ว ยิ่งคิดถึงเขา ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างมันแย่ลง อย่าให้ความตั้งใจที่ผ่านมาล้มเหลวสิแบคฮยอน
" ขอจดหมายของผมคืนด้วยครับ "
ชานยอลทำหูทวนลม ละลาบละล้วงชักกระดาษออกอ่าน
" นายจะลาออกเหรอ "
เบิกตาอิดโรยถาม เขาไม่ขัดข้องหากแบคฮยอนตัดสินใจหันหลังให้วงการโชว์เนื้อหนัง ชานยอลเห็นด้วย หากแบคฮยอนพบทางที่ดีในการบำบัดอาการทางเพศ แต่ที่ถาม เพราะอยากรู้สาเหตุของการหยุดมัน
" ผมลาออกแล้วต่างหาก "
มือบางชักกระดาษกลับมา จดหมายลาออกกลายเป็นเพียงเศษกระดาษยับยู่เมื่อแบคฮยอนพับมันอย่างลวกลงกระเป๋ากางเกง
ร่างแบคฮยอนเล็กลีบลงไปถนัดตาเมื่อมองจากมุมความสูงของชานยอล นัยตาคมจับตามองทุกการเคลื่อนไหวของ ใบหน้าน่ารักคอยแต่ก้มมองพื้นให้เต็มตา สำหรับแบคฮยอนคงยากเกินไปกับเพียงการฝืนมองหน้าคนที่ไม่ได้รัก หากแต่สำหรับชานยอลมันสาหัสนัก หากจะให้เขาละสายตาจากคนที่ได้เอาหัวใจไปผูกไว้เรียบร้อยแล้ว
ไม่ว่าจะใช้อะไรหรือวิธีใด ก็ห้ามหัวใจไม่ให้คิดถึงแบคฮยอนไม่ได้เลย
ภายในใจของชานยอลเฝ้าคิดติดสงสัย มีอะไรที่สวนทางกับสิ่งที่เขาคิด แบคฮยอนควรมีความสุขกับชายคนรักที่เป็นทั้งอดีตและเลวร้าย และปัจจุบันอันโหยหา แต่ที่ชานยอลเห็นในวันนี้ทำไมจึงมีเพียงใบหน้าหวานเศร้า อ่อนล้า โรยราดังคนเสียน้ำตาทุกค่ำคืนอย่างนั้น
ทำไมเหรอแบคฮยอน คนนั้นดูแลนายไม่ดีเหรอ เขารักนายไม่มากพอ หรือที่ทำหน้าผะอืดผะอมอย่างนี้ เพราะอึดอัดที่ต้องเจอหน้ากัน
" ทำไม กลัวคนของนายไม่สบายใจอย่างนั้นสินะ " ไม่มีผู้ชายคนใดชอบใจที่คนที่ตัวเองรักไปนอนกับคนอื่น ทำไมชานยอลจะไม่เข้าใจ
" ไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้น ผมอยากจะออกเองต่างหาก "
แบคฮยอนกัดฟันเถียง เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อทะเลาะกับชานยอล ไม่อยากมีปัญหา หากเป็นไปได้ แบคฮยอนอยากจบทุกอย่างลงอย่างสงบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้แผลสดในหัวใจค่อยๆสมานไปตามกาลเวลา
" เมื่อคืนฉันเห็นแฟนนายพลอดรักกับใครก็ไม่รู้อยู่ในผับ ที่ฉันจะบอกก็คือ ไอ้หมอนั่นมันไม่ได้ซื่อสัตย์กับนายหรอกนะแบคฮยอน "
ชานยอลไม่ได้อยากให้ความรักของใครแตกร้าว ถ้าคนคนนั้นไม่ใช่แบคฮยอน คนที่ชานยอลรักและมอบความหวังดีให้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด เขาคงปล่อยให้แบคฮยอนโดนหลอกเป็นครั้งที่สองได้ ไม่ต้องเสี่ยงถูกตราหน้าว่าแส่ไม่เข้าเรื่อง
" ถ้าคุณไม่รู้ผมก็จะบอกให้ ว่าผมไม่ได้สนใจเลยว่าคริสจะไปคบไปเที่ยวกับใครเพราะผมไม่เคยกลับไปคบกับเขา แล้วผมก็ไม่ได้รักเขาด้วย "
ใบหน้าไม่บ่งบอกทุกข์ร้อนของแบคฮยอนละลายความเชื่ออันเข้มข้นของชานยอลช้าๆ ถ้าไม่ได้กลับไปหาคนรักเก่า แล้วสิ่งที่เขาเห็นในคืนนั้นควรมีคำอธิบายว่าอย่างไร ทำไมคืนนั้นแบคฮยอนถึงไปอยู่กับคริส ทั้งๆที่ชานยอลรู้สึกเสมอว่าระหว่างพวกเขาช่างมีความหมาย อะไรคือต้นเหตุของความเปลี่ยนแปลง เพราะคริส เพราะเขา หรือเพราะใครกัน
" อ้อ ถ้าคุณไม่ว่าอะไรผมคงต้องขอน้องบี๋คืนด้วย อย่างไรเสียคุณก็เป็นคนให้เขากับผมเอง ผมถือว่าผมมีสิทธิ์ในตัวเขาเพียงคนเดียว "
" แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ นายอย่าลืมว่าฉันเป็นคนเอาเขาเข้ามา "
" ถ้าอย่างนั้นผมจะจ่ายคืนให้ คุณซื้อเขามาเท่าไหร่ ผมจะชดใช้ให้เอง มากกว่านั้นก็ได้แต่คุณต้องคืนเขาให้ผม "
" ฉันไม่ต้องการเงินของนายหรอกแบคฮยอน "
" ถ้าอย่างนั้นคุณจะเอาอย่างไร เราอย่ายื้อกันไว้อย่างนี้อีกเลย คืนเขามาแล้วผมจะไม่มาข้องเกี่ยวกับชีวิตคุณอีก คุณต้องการอย่างนั้นไม่ใช่เหรอ คนมักมากในกามอย่างผมมันน่ารังเกียจ ไม่มีค่าพอให้อยู่ในชีวิต ผมก็จะเป็นฝ่ายไปเอง ฉฮึก... ต่อไปนี้ผมกับคุณจะไม่เป็นแม้กระทั่งคนรู้จัก...เจอกันที่ไหนก็ไม่ต้องทัก ทำเหมือนว่าเราไม่เคย...อื้อ ! "
ทนไม่ไหวแล้ว เขายอมให้แบคฮยอนพูดจาที่คล้ายว่ากำลังตัดเยื่อใยกันไม่ได้อีก เขาไม่รู้ว่าแบคฮยอนไม่เจ็บหรือไรที่ต้องพูดมันออกมาทั้งน้ำตา แต่หากแบคฮยอนต้องการให้เขาขาดใจ แค่อีกคำเดียว ชานยอลคงไม่มีแรงแม้แต่จะกอด และจูบร่างเล็กอย่างนี้อีก
หากไม่เจ็บ ทำไมต้องร้องไห้ ทำไมต้องใช้แววตาและท่าทีแบบเดิมมาทำให้เขาใจอ่อน ชานยอลพูดตอนไหนหรือว่าอยากให้แบคฮยอนหายไปจากชีวิต ลำพัง แค่เห็นอีกฝ่ายมีน้ำตา แค่ได้ยินคำตัดพ้อต่อว่า ได้ยินว่าแบคฮยอนต้องการจากกันไป ชานยอลก็เหมือนควบคุมอะไรไม่ได้สักอย่าง
มือสั่งให้กอด เขาก็กอด ปากสั่งให้หยุดเรียวปากกล้านั้น เขาก็จูบ
หัวใจสั่งให้รัก ชานยอลก็รักเสียแทบจะบ้าตาย
แบคฮยอนยังต้องการอะไรจากเขาอีก
ร่างสูงดูดกลืนริมฝีปากทั้งบนและล่าง ลงลิ้นล้วงโพรงปากแบคฮยอนจนแก้มตอบ จูบย้ำซ้ำๆจนแน่ใจว่าแบคฮยอนสิ้นฤทธิ์แล้วจึงผละออกทั้งที่ยังไม่เอาคืนให้สมความคิดถึง
ร่างเล็กระทดระทวยในอ้อมแขน มือเรียวกำชายเสื้ออีกฝ่ายแน่นเป็นสิ่งยึด ตาฉ่ำเยิ้มฝ่าม่านน้ำตาเพ่งพิจใบหน้าหล่อด้วยสายตาตัดพ้อ ไม่รักแล้วทำแบบนี้กับเขาเพื่ออะไร
หรือคงเป็นเรื่องสนุกดี ที่เห็นว่าเขายังง่ายเหมือนเคย
" เก่งจริงก็อย่าร้องไห้สิ แล้วนายอยากพูดอะไรให้ฉันเจ็บก็เชิญ แต่ขอให้แน่ใจก่อนว่าจะไม่เป็นการทำร้ายหัวใจนายเอง "
ตั้งแต่หันหลังให้ลอสท์เอนเจลลิส แบคฮยอนก็กลายเป็นคนไร้แก่นสาร เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไร้ชีวา เข้าไปนั่งๆนอนๆให้อาจารย์ที่คณะเอ็ดตะโรแล้วก็กลับมาล้มตัวลงนอน กอดตัวเอง บังคับให้ร่างกายหลับไปจนเช้า เพื่อที่จะตื่นมาทำอย่างเดียวกันกับเมื่อวาน
แม้จะหลักลอยอย่างไร แบคฮยอนก็บอกใจว่าจะไม่มีทางกลับไปทำตัวมั่วกามกิจให้ผิดพลาดเหมือนดังวันวาน เมื่อรู้ว่าหัวใจเป็นของใคร แบคฮยอนก็ยกตัวเองไปให้ใครทำระยำตำบอนเล่นไม่ได้อีก ไม่อยากรู้สึกว่ากำลังทำความเลว กำลังทรยศหัวใจตัวเอง ทรยศต่อชานยอล ทั้งๆที่ผู้ชายคนนั้นอาจไม่ได้ใยดีอะไรกับแบคฮยอนเลยก็ตาม
อีกวันที่แสนทรมาน วันที่ไม่มีปาร์คชานยอล
" เฮ้อ "
คิดถึงชานยอลเป็นครั้งที่เท่าไร แบคฮยอนเองก็ไม่ได้นับ คิดถึงแล้วได้อะไร แบคฮยอนถามตัวเอง แล้วก็พบเพียงความโดดเดี่ยวทรมาน เข้ามาแทนที่ผู้ชายที่เขารัก นานเท่าใด อาการเจ็บช้ำในจิตใจก็ไม่เคยได้รับการสมานแบคฮยอนยังเจ็บเท่าเดิม รู้สึกกับชานยอลเท่าเดิม รักเขาเหมือนเดิม ราวกับไม่มีใครหรืออะไรจะเยียวยาเขาได้
แบคฮยอนเดินลากขาเอื่อยๆไปตามทางเดินห้องพัก ทว่าบรรยากาศในห้องพักกลับแปลกไป เครื่องปรับอากาศในห้องส่งเสียงหึ่งๆราวกับเปิดใช้งานมากว่าครึ่งวัน ไม่ทันให้แบคฮยอนได้ตรองสถานการณ์ แรงโถมจากด้านหลังจู่โจมเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว แม้จับต้นชนปลายไม่ถูก แบคฮยอนก็ดิ้นสุดแรงพร้อมส่งเสียงร้องโดยสัญชาตญาณ
" ใครน่ะ ! ปล่อยนะ ! "
" ชวู่ ! ฉันเอง "
เสียงทุ้มต่ำแหบพร่าขานรับข้างหูที่คุ้นเคยไม่ได้ทำให้แบคฮยอนอุ่นใจขึ้นสักนิด กลับกัน เขาออกแรงขัดขืนหนักกว่าเก่า ไม่ต่างกับที่ฝ่ายร่างใหญ่เพิ่มแรงรัดเป็นเท่าทวี
" ปล่อยนะคริส นายจะทำอะไร ! "
" ก็กำลังจะสานต่อสิ่งที่เราติดค้างกันไว้เมื่อสองปีก่อนอย่างไรเล่า เพื่อนรัก "
อีกหนึ่งเสียงสอดแทรกระหว่างบทสนทนาของแบคฮยอนกับคริส ก่อนเผยร่างโปร่งบางที่มาพร้อมผิวขาวละเอียด และลักยิ้มที่เคยเยียดหลอกลวงเอาความไว้ใจจากเขามาแล้วครั้งหนึ่ง คนที่ต่อให้วันสุดท้ายของชีวิตก็ไม่มีวันลืม
" อี้... อี้ชิง... "
" ดีใจจังที่ยังจำเพื่อนเก่าอย่างฉันได้ "จาง อี้ชิงนวยนาดเข้าใกล้ บีบคางเรียวของคนไม่มีทางสู้ขึ้นจ้องตา
" พวกแกมันชั่ว สารเลวไม่เคยเปลี่ยนเลยจริงๆ " แบคฮยอนอยากกระชากคออี้ชิงมาบีบให้หายแค้น หากไม่ติดว่าสองแขนถูกผู้ชายชั่วพันธนาการ
" นี่ขนาดรู้ว่าพวกฉันชั่วช้าขนาดไหน เคยทำเลวอะไรไว้ก็ยังโง่ให้คริสหลอกเอาได้อีกเหรอ หรือว่าว่าติดใจลีลาผู้ชายของฉันล่ะ เอ... ต้องพูดว่าผู้ชายขอเราถึงจะถูกใช่หรือเปล่าล่ะแบคฮยอน หึหึ "
อี้ชิงกร่นเสียงคิกคักยั่วประสาทคนฟัง ก่อนสะบัดฝ่ามือลงบนแก้มใสฉาดใหญ่ คริสปรามเสียงเบา
" อี้ชิง ! เบาหน่อยสิ เดี๋ยวก็ช้ำก่อนถึงมือพวกนั้นพอดี "
" พวกนั้น ? หมายความว่าอย่างไร " แบคฮยอนแสดงอาการวิตกทันทีที่คริสพูดถึงบุคคลที่สาม เหงื่อกาฬไหลซึมจากขยับ ความกลัวเข้ากระชับทุกพื้นที่ในหัวใจ ภาพเหตุการณ์เลวร้ายที่เคยผ่านกลับเข้ามากัดกินเนื้อตัวเขาอีกครั้ง คิดอยู่อย่างเดียวว่าจะพ้นจากสถานการณ์อันซ้ำรอยนี้ไปได้อย่างไร
" แล้วนายคิดว่าทำไมคริสของฉันจะต้องกลับมากินเนื้อเน่าที่โดนทั้งแร้งทั้งกามันจิกกินจนเปื่อยแล้วทำไมเหรอ ไม่เอาน่า พวกเราติดหนี้พวกมาเฟียที่ชายแดนจีนน่ะซีแบคฮยอน แล้วนายก็ดันสะเออะไปแก้ผ้าหราเต็มจออยู่ในหนังลอสเอนเจลลิสที่ใครๆก็รู้ว่าเป็นหนังโป๊สำหรับพวกไฮโซ คิดว่าจะพ้นตาพวกฉันได้เหรอ เราสองคนก็เลยคิดว่าถ้าเอาดาราหนังจีวีเกรดเอไปไถ่หนี้ ก็คงจะพอหยวนๆกันได้ ว่าไหมล่ะแบคฮยอน "
" แต่ก่อนที่เราจะส่งตัวนายไปให้พวกมัน ก็ต้องให้พวกมันเห็นของเสียก่อน "
คริสเป่าลมเข้าหูและกดจูบที่ต้นคอแบคฮยอนต่อหน้าชายคนรัก ไม่แปลกที่อี้ชิงไม่มีอาการหึงหวง คนที่แย่งคนรักของเพื่อนได้ย่อมเลวเกินกว่าจะสนใจจารีตศีลธรรม
" ถ้าจะโทษ ก็โทษความโง่ของตัวเองก็แล้วกันนะแบคฮยอน "
คริสพูดจบก็ลากแบคฮยอนไปที่เตียง จับข้อมือบางผูกมั่นกับหัวเตียง ก่อนอี้ชิงจะขึ้นคร่อมร่างเล็ก กระชากรังดุมเสื้อเชิ้ตบนตัวแบคฮยอนกระจายเต็มพื้น
" อย่า ปล่อยฉัน ช่วยด้วย ! ช่วย... "
เสียงหวีดร้องขาดห้วงเพราะถูกสกัดด้วยกำปั้นลุ่นๆของอดีตเพื่อนสนิท เรี่ยวแรงสูญไป ความเจ็บจุกที่ช่วงท้องเล่นงานเขาจนร้องไม่ออก แบคฮยอนหอบหายใจถี่ก่อนจะสงบลงด้วยวาระจำยอม น้ำตาไหลอาบแก้ม ขณะที่ทุกร่องรอยอันมีความหมายจากชานยอลไหลเวียนผสมราวกับเป็นเนื้อเดียวกับเลือดทุกหยาดหยด ทั้งใบหน้าขมวดขรึมเมื่อแรกพบ รอยยิ้มที่อบอุ่นเหมือนไอแดด สัมผัสชวนระทวยยามร่วมรัก ช่วงเวลาดีๆที่เปี่ยมค่า กระทั่งเสียงทุ้มที่บอกไม่รัก แววตาคมที่แสดงความผิดหวัง หรือจูบสุดท้ายที่ได้รับพร้อมความเจ็บปวด
ทั้งหมดทั้งมวลล้วนจะตราตรึงอยู่ในกายของแบคฮยอนตลอดไป
ไม่ว่าเขาจะได้มีโอกาสบอกรักชานยอลหรือไม่ก็ตาม
Lost Angeles
" เดี๋ยวนายดูตรงนี้ไปก่อนนะ ฉันอาบน้ำเดี๋ยวมา "
" โอเคเลย "
ชานยอลทิ้งท้ายก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอน คยองซูยิ้มส่ง อะไรในชีวิตคยองซูก็ดีทั้งนั้นในช่วงนี้ ตั้งแต่ไม่มีแบคฮยอนป้วนเปี้ยนอยู่ที่นี่ คยองซูก็ขยันสร้างความถี่ในการมาที่นี่ได้โดยไม่ตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป แม้จะมีลูกสุนัขปากเปราะวิ่งเล่นขวางหูขวางตาบ้าง คยองซูก็วางใจเมื่อชานยอลลั่นวาจาว่าจะส่งมันคืนเจ้าของในไม่ช้า
เรื่องอะไรต้องเร่งมือให้งานเสร็จเร็วขึ้น ในเมื่อคยองซูมาที่นี่เพื่อใช้วันหยุดทั้งวันนี้ไปกับชายผู้เป็นที่รักจนเย็นย่ำ คิดได้ดังนั้นจึงทิ้งงานตรงหน้า ลุกขึ้นสำรวจข้าวของในห้องชานยอลราวกับสร้างความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม พร้อมทุกเมื่อที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห้องนี้
หน่วยตากลมไล่กวาดมองตั้งแต่หน้าประตูห้อง สะดุดตากับรองเท้าสลิปเปอร์สีเทาลายทางที่จอดวางต่างขนาดคู่กันสองคู่ สะบัดลมหายใจแรงเมื่อคิดว่าชานยอลเคยใช้มันคู่กับใคร มองเลยผ่านมันไปด้วยไม่อยากให้มีอะไรมากวนอารมณ์ สำรวจไปเรื่อยจนถึงชั้นหนังสือ ชานยอลไม่ได้รักการอ่านหนังสือใดไปมากกว่าการ์ตูนญี่ปุ่นตามวิถีเด็กผู้ชาย ทว่าซีดีแผ่นบางเฉียบแผ่นหนึ่งที่เสียบตั้งอยู่ในหน้าหนังสือขโมยความสนใจจากคยองซูเพราะมันอยู่อย่างผิดที่ทาง เขาชักมันออกมาพลิกดู คยองซูเกือบตัดสินแล้วว่ามันเป็นแผ่นซีดีธรรมดา หากไม่มีชื่อของสองคนที่เขารู้จักพร้อมข้อความที่คยองซูจำได้ว่าเป็นลายมือของจงอิน ชวนให้สอดรู้หราบนหน้าแผ่น
" ลอสท์เอนเจลลิส ยี่สิบเดือนสาม คุณหนูแบคฮยอนของมึงไง... หมายความว่าอย่างไร " ทำไมถึงมีทั้งชื่อของชานยอลและแบคฮยอนอยู่ด้วยกัน
คยองซูไม่เคยทิ้งให้ตัวเองติดอยู่กับข้อสงสัย เขาเปิดซีดีแผ่นนั้นบนโน้ตบุ๊กที่เปิดค้างไว้ด้วยใจระทึก ข้อความที่ติดหน้าแผ่นปลุกสัญชาตญาณแห่งความกลัวในตัวคยองซูอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
และทันทีที่ภาพและเสียงคุณภาพสูงฉายชัดบนหน้าจอ คยองซูก็รู้ได้ว่าสัญชาตญาณของเขาไม่เคยเพี้ยนพลาด
ผู้ชายที่เขารักและผู้ชายที่เขาเกลียด ทั้งสองคนกำลังสวมแสดงบทบาทเรียกน้ำตาจากผู้ชม แต่คงเป็นผู้ชมที่ชื่อโด คยองซูคนเดียวเท่านั้น เมื่อสองร่างน้อยใหญ่กอดกระหวัด เล้าโลมกันและกันบนเตียง คยองซูเบือนหน้าหนีเมื่อเรื่องดำเนินมาถึงฉากที่ชานยอลช่วยร่างเล็กเปลื้องท่อนล่าง มีหรือที่คนฉลาดจะเดาตอนต่อไปไม่ได้
" ทำอะไรน่ะคยองซู "
ชานยอลเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกางเกงผ้าขายาวตัวเดียว ทว่าเวลานั้น คยองซูไม่มีแก่จิตแก่ใจจะเสพความงามจากกายหยาบของชายผู้เป็นที่รัก เมื่อหนังร่วมเพศบนจอคอมพิวเตอร์ยังส่งเสียงอื้ออึงกึกก้องสะท้อนอารมณ์นักแสดง คยองซูหมุนหน้าจอหันหาคนตัวสูง ชานยอลนิ่งไป ไม่มีอะไรที่เขาต้องอธิบายเพิ่มเติมจากสิ่งที่คยองซูเห็นไม่ใช่หรือ
" นี่มันอะไรกัน ชานยอล นายกับแบคฮยอนทำอะไรกันแน่ "
ร่างเล็กย่างสามขุมเข้าหาชานยอล เค้นเอาคำตอบ แน่นอนเขารู้ว่ากิจกรรมที่เห็นนั้นเรียกว่าอะไร แต่ที่เขาไม่เข้าใจ คือทำไมการกระทำอนาจารนั้นจึงถูกบันทึกภาพด้วยกล้องคุณภาพสูง ทั้งแสงและมุมกล้องล้วนถูกเตรียมการมาอย่างดีราวกับทีมงานมืออาชีพ
ไหนจะลายมือที่อ่านแล้วคุ้นตานั่น ทุกคนต่างรู้เห็นเป็นใจ มีแต่คยองซูใช่ไหมที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย
จากที่เคยคิดว่าเขาฉลาดกว่าใครในที่นี้ แท้จริงแล้ว เป็นแค่คนโง่ที่ลำพองตัวเท่านั้น
" ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกนาย ฉันแค่กลัวว่านายจะไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเราเป็น "
" จงอินก็รู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ เรื่องที่นายกับแบคฮยอน... เป็นดาราจีวี "
มีแค่เขาคนเดียวอย่างนั้นสิที่เป็นคนนอกในสายตาของชานยอล ความจริงที่ได้รับรู้ยังไม่สร้างความผิดหวังให้คยองซูได้เท่ากับการได้รู้ว่าเขาไม่มีค่า ไม่มีสิทธิ์สำคัญพอจะรู้อไรเกี่ยวกับคนที่เขารักเลยหรือ อย่างน้อยก็ในฐานะเพื่อนคนหนึ่ง
ชานยอลพอจะให้คยองซูคนนี้เป็นอะไรได้บ้าง
" ทั้งฉัน ทั้งจงอินและแบคฮยอน พวกเราทำงานที่เดียวกัน "
" ฮึ รู้เห็นเป็นใจกันหมดเลยเหรอ ดูเหมือนว่าจะมีแค่ฉันคนเดียวสินะที่เป็นคนนอก "
" ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นนะคยองซู "
ชานยอลถอนหายใจ ยอมรับว่ารู้สึกผิดที่ปล่อยให้คยองซูรู้สึกโดดเดี่ยวและผิดหวัง แต่การประชดประชันตัดพ้อไม่ใช่สิ่งที่ชานยอลพึงใจเห็นจากเพื่อนตัวเล็ก
ฝ่ายคยองซูพอได้เห็นความอ่อนใจฉายบนใบหน้าหล่อก็ยิ่งช้ำ จินตภาพในสมองทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่คยองซูหาได้เพลิดเพลินกับภาพการทำงานระหว่างนายเอกพระเอกที่หลั่งไหลในหัวของเขาไม่ คนตัวเล็กสะบัดหน้าไล่หวังให้พวกมันทั้งหลายที่กำลังทำร้ายเขากระเด็นออกจากความคิด
เมินเสียเถอะคยองซู ความจริงก็คือความจริง
แบคฮยอนล่วงหน้าเขาไปหลายก้าว รู้ตัวอีกทีคยองซูก็เห็นอีกฝ่ายเฉียดเข้าเส้นชัย
แต่หวังว่าจะยังไม่สายไปสำหรับการวิ่งแซงในโค้งสุดท้าย
" เอาเถอะ ฉันเข้าใจ และจะไม่ขอให้นายเลิก ฉันยอมรับทุกอย่างในตัวนายได้เสมอ ฉันพร้อมที่จะเปิดใจรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นนายนะชานยอล " คยองซูคว้ามือใหญ่ขึ้นมากอบกุมอย่างระมัดระวัง ส่งกระแสวิงวอนผ่านดวงตากลมโตซึ่งมักสะท้อนความรู้สึกได้ชัดเจนเสมอ หากชานยอลคิดจะเหลียวมองสักครั้ง " มองตาฉันสิชานยอล แล้วบอกว่านายเห็นอะไร ถ้านายเห็นแล้ว นายจะไม่ถามฉันเลยว่าทำไมฉันถึง... "
" ฉันรู้ คยองซู ฉันรู้มาตลอดว่านายรู้สึกอย่างไรกับฉัน "
ชานยอลกล่าวเสียงเรียบ อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ ไม่เห็นสายตาที่มากกว่าเพื่อนจะใช้มองกัน ความห่วงหาที่คยองซูปิดไม่มิด ความอึดอัดยามเผชิญหน้าระหว่างคยองซูกับแบคฮยอน ชานยอลรับรู้ทุกสถานการณ์ แต่เลือกที่จะนิ่งเฉย เพราะเห็นแก่มิตรภาพ และความสัมพันธ์สีเทาของเขากับแบคฮยอน และตราบใดที่คยองซูยังไม่พูดมันออกมาตรงๆอย่างวันนี้
คนฟังเผลอบีบมืออีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัว หัวใจเต้นแรงด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกว่าดีใจที่ชานยอลรู้สึกถึงความรักที่เขาเพียรแสดงออก หรือตื่นเต้นระคนหวั่นใจในปฏิกิริยาตอบสนองจากชานยอล หากรู้ว่าเขารัก แล้วทำไมจึงทำราวกับมองผ่าน
" นายรู้ ? แต่นายก็ยัง... "
" ฉันเลือกไม่พูด เพราะฉันคิดว่าที่ผ่านมา การกระทำของฉันแสดงออกชัดเจนแล้วว่าฉันต้องการนายแบบไหน ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนกัน แล้วนายก็ช่วยเหลือฉันมาโดยตลอด ฉันไม่อยากทำลายมิตรภาพของเรา ไม่อยากทำร้ายจิตใจของนาย ฉันถึงได้คิดว่าถ้าทำเฉยไปนายจะรู้และถอยไปยืนในที่ที่ควรยืนเอง "
ชานยอลค่อยๆลำเลียงความในใจอย่างออกมาเถรตรงแต่คิดว่าคงถนอมน้ำใจเพื่อนตัวเล็กมากที่สุดตามวิถีของผู้ชายขวานผ่าซาก ชานยอลมีความรู้สึกที่ดีให้คยองซูเสมอ เพียงแค่ไม่ใช่แบบเดียวกันกับที่คยองซูมอบให้เขา เพราะสิ่งที่คยองซูปรารถนาจากเขา ชานยอลยกให้คนอื่นไปแล้ว และมันก็โดนเยียบย่ำไม่เหลือชิ้นดี
แต่คยองซูผู้ที่ชานยอลเคยคิดว่าฉลาดและเข้าใจอะไรๆได้ดีกลับไม่เป็นเช่นทุกครั้ง ร่างเล็กโผเข้ากอดรัดร่างใหญ่ น้ำตาของคนเข้มแข็งไหลอาบแก้ม เขาเก็บอะไรไม่ไหวแล้ว คยองซูผู้พ่ายแพ้ต้องทำเช่นไรให้สิ่งที่ได้ฟังกลายเป็นเรื่องที่เขาหูฝาดไปเอง
" ไม่ นายลองเปิดใจให้ฉันหน่อยไม่ได้เหรอชานยอล ฉันรักนายนะ ฉันสัญญาว่าจะทำให้นายรักฉันให้ได้ แค่นายให้โอกาสฉัน ได้โปรด "
ชานยอลก้มมองคนน่ารัก ถอนหายใจรอบสอง เขาไม่ได้กอดตอบหรือแม้กระทั่งปลอบใจ จะไม่มีความหวังใดๆมอบให้ ไม่มีและไม่เคยมีตลอดมา
ขณะนั้นชานยอลเกิดคำถามกับตัวเอง นี่เขาเป็นคนแสดงออกไม่ฉะฉานขนาดนั้นเลยหรือไร ทำไมคนที่ไม่ได้รักถึงคิดแสวงหาความหวังจากเขา ส่วนคนที่รัก กลับปฏิบัติต่อเขาราวกับไม่รู้ว่าเขารักเหลือเกิน
" ไม่ใช่ว่าที่รักฉันไม่ได้ เพราะนายรักคนอื่นไปแล้วหรอกเหรอ " คยองซูเงยหน้าออกจากอกหนา พบว่าชานยอลเบนสายตาหนีออกข้าง ไม่มีกระทั่งน้ำใจจะมองหน้าเขาแม้เพียงเศษตา แล้วนับประสาอะไรกับเศษใจ " สรุปที่เคยบอกว่าไม่ได้รักแบคฮยอน นายโกหกฉันใช่ไหม "
" นายไม่อยากรู้หรอกคยองซู "
ถ้าพูดไปแล้วจะต้องเสียใจ คยองซูยังจะอยากฟังอยู่หรือ และต่อให้คยองซูร้องไห้จนไม่เหลือน้ำตา ชานยอลก็สัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ให้ใครได้ยินคำว่ารักจากปากเขาเด็ดขาด หากแบคฮยอนยังไม่ได้ยิน
" ใจร้าย... ฮึก นายมันใจร้ายแถมยังโง่อีกต่างหาก แบคฮยอนมีคนอื่นแล้วนายก็รู้ไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงยังรอหมอนั่นอยู่ได้ ทำไมไม่เป็นฉันล่ะ ฉันรักนายนะชานยอล "
" ต่อให้แบคฮยอนมีใครหรือไม่มีใคร นายก็จะไม่ใช่และไม่มีวันใช่คนที่ฉันรัก ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆของนายนะคยองซู เรายังเป็นเพื่อนกันได้ถ้านายยังอยากเป็น "
ที่จริงแล้วมีอีกอย่างที่ชานยอลขอบคุณคยองซูในใจ ที่เพื่อนตัวเล็กที่สุดในกลุ่มของเขาก็ทำให้เขาเข้าใจว่า หัวใจสำคัญอีกประการของการรัก คือการบอกรัก และทำให้อีกฝ่ายมั่นใจ หาใช่เพียงการแต่การแสดงออกที่คลุมเครือ
ชานยอลรู้แล้ว่าต้องจัดการกับหัวใจของตัวเองอย่างไร เขาจะไปหาคนที่เป็นที่สุดของหัวใจเดี๋ยวนี้
หวังว่าจะยังไม่สายเกินไป
Lost Angeles
ร่างเล็กนอนหอบหายใจบนเตียงกว้าง อาการเจ็บจุกที่ท้องเล่นงานจนขยับตัวสู้ไม่ไหว ไม่อาจทำได้กระทั่งยกมือกุมท้อง สองแขนที่ถูกเข็มขัดตรึงแน่นกับเสาเตียง อ่อนล้า มีรอยถลอกและลิ่มเลือดซิบซึม กางเกงถูกขจัดออกไปเพียงไว้แต่เสื้อเชิ้ตที่ขาดเป็นริ้วและชั้นในสีขาว เขาถูกอี้ชิงจับแต่งหน้าป้ายสีด้วยบรัชออน ลิปสติกและอายไลน์เนอร์ ขัดขืนเมื่อใดก็ได้มีเจ็บตัว อี้ขิงตบหน้าเขาสองสามครั้งก่อนจะถูกคริสห้าม ไม่ใช่เป็นไปเพราะเยื่อใยที่มีให้คนรักเก่า ทว่าด้วยกลัวสินค้าจะบุบสลายก่อนถูกส่งออกนอกประเทศ
" ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยไม่ได้เหรอ หรือว่าฉันแต่งหน้าไม่ถูกใจ อยากดูสารรูปตัวเองหน่อยไหมล่ะ "
จากนั้นอี้ชิงที่นั่งทับเขาก็ลุกขึ้น กระจกบานใหญ่ถูกนำมาส่องดวงหน้าบอบช้ำใต้เครื่องสำอางค์ สิ่งที่สะท้อนบนกระจกคือผู้ชายท่าทางอ่อนระโหย หน้าสวยแต่มุมปากบวมช้ำจากการถูกทำร้ายชนิดที่เครื่องสำอางค์ไม่อาจซ่อนได้มิด ที่แก้มและริมฝีปากสีสันจัดจ้านดังคนหากินกลางคืน
แบคฮยอนสะบัดหน้าหนี ก่อนมือของอี้ชิงจะตามไปบังคับให้กลับมา
" พวกแกมันโรคจิต " แบคฮยอนด่า ด่าทั้งที่แค่อ้าปาก ริมฝีปากก็ปริแตกเลือดซึมให้ได้ชิม
" ไม่เอาน่าแบคฮยอน ยิ้มหน่อยสิ เวลาเข้ากล้องแล้วจะได้สวยๆไง ถนัดไม่ใช่เหรอ ไอ้เรื่องแก้ผ้าต่อหน้ากล้องน่ะ หือ...กูบอกให้ยิ้ม!!! "
" โอ๊ย "
อี้ชิงกดแผลที่มุมปากก่อนใช้นิ้วบังคับให้แบคฮยอนฉีกยิ้ม ร่างไร้ทางสู้กรีดร้อง ทั้งเลือดทั้งน้ำตาพากันล้นทะลัก ด้วยทั้งเจ็บปวดและหวาดกลัว
มันกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้วหรือ
" ฉันจะถอดกางเกงในมันช้าๆ แล้วนายก็ถ่ายได้เลย " อี้ชิงสั่ง คริสควับโทรศัพท์มือถือขึ้นมาคอยท่า
" ทำไมต้องทำกับฉันถึงขนาดนี้อี้ชิง ที่ผ่านมา...ไม่เคยเห็นฉันเป็นเพื่อนเลยเหรอ ฮึก "
แบคฮยอนสะอึกสะอื้น เสียใจต่อการกระทำของอดีตเพื่อนรัก เขาไม่เคยคิดเลย ว่าคนที่เขาเรียกว่าเพื่อนสนิท จะคิดร้ายต่อกันมาโดยตลอด จิตใจของจาง อี้ชิงทำด้วยอะไร
" ฉันว่าเรารีบจัดการเถอะอี้ชิง แล้วส่งคลิปให้พวกมันดู ถ้าพวกมันโอเคจะได้อุ้มไปให้มันจบเสียที " คริสเร่ง เขาเกรงว่าหากชักช้าจะมีอะไรมาขัดขวางภารกิจเสี่ยงตาราง
" อย่านะ... อื้อ ! "
สองขาเปลือยถีบหนีสุดแรงเกิด อี้ชิงล้มหงายหลังตึงเพราะสู้แรงแบคฮยอนไม่ไหว ร่างโปร่งจึงสลับหน้าที่กับคนรัก ให้คริสจัดการกับอดีตคนรักด้วยตัวเอง
" ฉันแนะนำให้อย่าขัดขืนจะดีกว่า ฉันไม่อยากลงไม้ลงมือกับแฟนเก่าหรอกนะ "
" ไม่ต้องมาพูดดีกับฉัน อ๊ะ ! "
ชายหนุ่มกระชากเรียวขาขาวเข้าเอว แบคฮยอนเสหน้าหนีความอัปยศที่กำลังคืบคลานเข้ามา ขอบชั้นในตัวน้อยเลื่อนหลุดจากร่างช้าๆ พลันน้ำตาก็ไหลนองหน้าอีกครั้ง คงหลีกเลี่ยงชะตากรรมซ้ำสองนี้ไม่ได้อีกแล้ว
ใบหน้าของคนที่เขารักยังใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจเขาได้ดีเสมอ ไม่ว่ายามทุกข์ สุข หรือเศร้า ชานยอลก็ยังวนเวียนอยู่ในมโนสำนึกเป็นคนแรก และจะเป็นคนสุดท้ายของชีวิต
ต่อจากนี้ไป คงไม่ได้เห็นยิ้มติดรอยจมที่แก้ม หัวคิ้วที่มักขมวดเข้มชนกัน ใบหูที่กางอย่างน่ารัก และทุกๆอย่างที่ประกอบภาพรวมเป็นปาร์ค ชานยอลอีกแล้ว
" แบคฮยอน ! "
โปรดติดตามซีนสุดท้าย
ตอนแรกกะจะไม่ให้มันค้างงี้น๊า
แต่ถ้าต่อจนจบมันจะยาวมากเลย ตอนนี้ยาวสุดแล้วล่ะ
ยังเขียนไม่จบเลยด้วยยย ขอเวลาหน่อยนะคะ เราท้อเหมือนกัน ไม่ใช่มีมีฟีลแต่มันย๊ากกกกก
ยังไงก็อย่าลืมแวะไปดูรายละเอียดจองฟิคนะค๊า แฮ่ๆ ปกจะมาอาทิตย์หน้าค่า
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

พี่ชานช่วยน้องด้วยยยยยยยยยยยย
ใครเรียก?
ภาวนาอย่าให้มันเกิดขึ้นซ้ำกับแบคเลยนะ
แค่นี้แบคก็เจ็บช้ำมากแล้ว ฮือออ
เราสงสารแบคมากๆเลยอ่า
น้ำตาไหลเลย TT_TT
ชานไปช่วยแบคเร็วๆน๊า
ปล.สำหรับคนเลวนี้สมควรได้รับการลงโทษที่สาสมค่ะ หึๆ
(ความอินช่างมากมายเหลือเกินค่ะ555)
สู้ๆนะคะไรท์ เราเป็นกำลังใจให้นะคะ