คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ~ + : บทนำ : + ~
เคยได้ยินมั้ย...ความรักเหมือนกับแสงตะวันยามเช้าที่อบอุ่น แต่บางครั้งก็เหมือนกับแสงจันทราที่ทำให้รู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ...ความรักทำให้เรายิ้มได้ แต่บางครั้งก็ทำให้เราร้องไห้ได้เหมือนกัน...ความรักทำให้ใครหลายคนรู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร หากแต่บางครั้ง...ใครหลายคนก็ต้องจบชีวิตลงเพราะคำนี้เพียงคำเดียว...
ลึกลงไปใต้พื้นน้ำสีคราม อความารินกำลังแหวกว่ายหนีการตามล่าของเหล่าองครักษ์ขึ้นมาเหนือระลอกคลื่น ก่อนจะมุ่งตรงไปยังเกาะกลางทะเลเหมือนเคย เจ้าหญิงแห่งท้องทะเลเดินเลาะชายหาดขาวสะอาดไปเรื่อยๆ บรรยากาศเงียบสงบปราศจากสิ่งรบกวนใดๆ มีแค่เพียงเสียงร้องของเหล่านกนางนวลขณะที่บินโฉบอยู่บนท้องฟ้าเท่านั้น...มันเงียบ...เงียบจนผิดปกติ...
อความารินพยายามตามหานาธานชายหนุ่มที่เธอรัก ทั้งๆที่เขาสัญญาว่าจะกลับมาหาเธอทุกครั้งก่อนคืนที่จันทร์เต็มดวง แต่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน เธอก็ไม่เห็นวี่แววของเขาเลยซักนิด แม้กระทั้งเรือพายลำเล็กที่ควรจะจอดรออยู่ในถ้ำด้านหลังหน้าผาก็ไม่มี...อความารินทรุดตัวลงนั่งตรงโขดหินใกล้ๆหลังจากวิ่งไปรอบเกาะ หยาดน้ำตาสีเงินไหลอาบแก้ม...แต่เธอก็ยังรออยู่อย่างนั้น ด้วยความหวังว่าเขาจะกลับมาตามคำสัญญา...
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ร่างของเธอก็ค่อยๆจางลง...จางลงจนแทบจะกลืนไปกับอากาศ หัวใจสีฟ้าสดใสกลายเป็นสีน้ำเงินอมเขียวอย่างช้าๆ และสุดท้าย...
โครม!!!!
“พี่แมว!!” เสียงใสๆร้องขึ้นด้วยความตกใจ เมื่อเพื่อนข้างๆตกจากเก้าอี้ลงไปนั่งแหมะอยู่กับพื้น ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบตะเกียกตะกายกลับมานั่งอย่างรวดเร็วราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หากแต่...บัดนี้สายตาของคนทั้งห้องกลับจ้องมายังเธอพร้อมกับเสียงพูดคุยที่ดังขึ้นเบาๆ มันดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหากเธอหลับในวิชาอื่น ไม่ใช่วิชาภาษาไทย!!!
ดวงตาคมกริบภายใต้แว่นกรอบสีทองตวัดสายตาไปรอบห้อง แล้วก้าวเท้าตรงไปยังตัวต้นเหตุของเสียงดังที่มาขัดจังหวะการสอนของเธอ
“ยัยนุชวรา!นี่เธอแอบหลับในชั่วโมงชั้นอีกแล้วเหรอ!”
“ข...ขอโทษค่ะอาจารย์...พอดีเมื่อคืน...” ใบหน้าสีขาวซีดของหญิงสาวเปลี่ยนเป็นสีชมพูอ่อนๆพร้อมกับคำพูดเบาๆที่หลุดออกมา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดจบก็โดนแทรกขึ้นมาก่อน
“ไม่ต้องมาแก้ตัว” หญิงวัยกลางคนบอกด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นจนน่ากลัวพร้อมกับรังสีอำมหิตที่แผ่กระจายไปทั่วห้อง ส่งผลให้คนในห้องเงียบเสียงไปแทบจะทันที
“ชั้นเตือนเธอมากี่ครั้งแล้วฮึ?? สมองอันเล็กๆของเธอมันจำไม่ได้เลยรึไง คราวที่แล้วชั้นสั่งให้นุชวราทำอะไรไปนะวรมนต์...” ท้ายประโยคทำเอาชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังของคนที่ตกเป็นจำเลยสะดุ้งนิดๆ
“เอ่อ...ถอดคำประพันธ์เรื่องนิราศเมืองแกลงจากในหนังสือทั้งหมดครับ”
“หึ...ดูเหมือนว่านั่นยังน้อยไปสำหรับเธอสินะ เธอถึงยังกล้าหลับในวิชาของชั้นได้ คราวนี้เป็นอะไรดีล่ะ...ไหนอรจิราลองบอกครูดูซิว่าเอาเรื่องอะไรดี"
คนที่ถูกเอ่ยชื่อหันไปมองเพื่อนสนิทที่แอบส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ ด้วยความรู้สึกสงสาร ก็เพราะเมื่อคืนเพื่อนที่แสนดีคนนี้มัวแต่นั่งถอดบทประพันธ์ที่ถูกสั่งตั้งแต่อาทิตย์ก่อนจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน เช้านี้ก็เลยเป็นอย่างที่เห็น แล้วนี่ถ้าเกิดโดนสั่งให้แปลเรื่องอื่นอีก เพื่อนเธอคงต้องตายแน่ๆ
“อาจารย์คะ ให้นุชวราเค้าทำเวรแทนได้มั้ยคะ วันนี้อาจารย์จะได้ไม่ต้องเหนื่อยทำความสะอาดห้องคนเดียว”
“ทำความสะอาดห้องงั้นเหรอ...” อาจารย์มาลัยมองไปรอบๆห้องที่ไม่มีภารโรงคนไหนเข้ามาทำความสะอาดเป็นแรมปี จริงๆแล้วสาเหตุก็ไม่ใช่จากใครที่ไหน แต่เป็นตัวของอาจารย์เองที่ทนไม่ได้เวลาเห็นภารโรงเข้ามาทำความสะอาดแล้วมันยังสกปรกอยู่เหมือนเดิม แถมข้าวของก็ยังโดนย้ายไปมาเพื่อความสะดวกในการทำงานของคนที่มีหน้าที่ดูแล พอผ่านไปนานวันเข้าก็ยิ่งทำให้อาจารย์หาของไม่เจอ สุดท้ายก็เลยจัดการสั่งห้ามภารโรงทุกคนไม่ให้เข้ามาทำความสะอาดในห้องสุดหวงของเธออีก ภาระหน้าที่ทั้งหมดจึงกลายเป็นของเธอแต่เพียงผู้เดียว
“เอางั้นก็ได้”
ประโยคอนุญาตทำให้คนถูกทำโทษยิ้มอย่างดีใจ แต่แล้วก็ต้องรีบหุบยิ้มเมื่ออาจารย์ยังพูดต่อ
“งั้นนุชวรา เธอมาทำความสะอาดห้องครูตอนเช้าก่อน 7 โมงแล้วกันนะ ขอแค่อาทิตย์นี้อาทิตย์เดียวพอ เอ้อ...เธอรู้ใช่มั้ยว่าชั้นเป็นโรคแพ้ฝุ่น...”
“กรี๊ดดด...ชั้นอยากจะบ้าตาย” น้ำตาลโวยวายทันทีที่เดินมาถึงโต๊ะในโรงอาหาร “ต้องไปตั้งแต่ก่อน 7 โมงเนี่ยนะ! ปกติเค้ายังไม่ถึงโรงเรียนเลยด้วยซ้ำ อาจารย์มาลัยเค้ากะจะแกล้งชั้นชัดๆ”
“โอ๊ย เจ้าแมวหนิ บ่นอยู่ได้ ก็ตัวเองชอบไปหลับในวิชาพี่แกเค้าทำไมล่ะ” ป่านพูดแบบไม่สบอารมณ์ แต่กลับทำให้คนที่กำลังเครียดยิ่งระเบิด
“ใครบอกว่าเค้าอยากหลับในคาบนั้นกันเล่า! ก็มันง่วงนี่หน่า นั่งฟังๆไปมันก็เคลิ้มไปเองอ้ะ เสียงอาจารย์เค้าออกจะน่านอนขนาดนั้น”
“สมน้ำหน้า...” มะปราง เพื่อนที่วางมาดได้นิ่งไม่ต่างกับป่านเอ่ยขึ้นมาเรียบๆ หลังจากที่นั่งฟังโดยไม่พูดอะไรมาตลอดยี่สิบนาที แต่คนตรงหน้าก็ยังบ่นไม่เลิก
“ง่า...มะปรางอ้ะ กว่าเค้าจะได้นอนก็เกือบเช้าแล้วนะ” น้ำตาลพูดพร้อมกับทำหน้างอน
“เอาน่า...ไม่เป็นไรหรอก แค่อาทิตย์เดียวเอง ดีกว่าต้องมานั่งแปลนิราศตั้งเยอะนะ เดี๋ยวอิ๊งค์ช่วยโทรไปปลุกทุกเช้าก็ได้” หญิงสาวที่เป็นคนยื่นข้อเสนอนี้กับอาจารย์ปลอบระหว่างที่จิ้มลูกชิ้นจากชามบะหมี่เข้าปาก “ตกลงมะ”
น้ำตาลเลยได้แต่พยักหน้าไปอย่างจำใจ ก่อนจะเอาส้อมม้วนก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กกินแบบเซ็งสุดๆ
ความคิดเห็น