สุดเศร้า เคล้าวันวาเลนไทน์ ฮือๆๆ - สุดเศร้า เคล้าวันวาเลนไทน์ ฮือๆๆ นิยาย สุดเศร้า เคล้าวันวาเลนไทน์ ฮือๆๆ : Dek-D.com - Writer

    สุดเศร้า เคล้าวันวาเลนไทน์ ฮือๆๆ

    เป็นเรื่องของเด็กญ กะ เด็กช ที่คบกันเปนเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ โตขึ้นมาก้อเป็นแฟนกัน แต่แล้ว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ก้อเกิดขึ้นในวันวาเลนไทน์ และเรื่องราวจะเปนอย่างไรต่อไป ติดตามผลงานของนู๋มดแดงด้วยนะคะ

    ผู้เข้าชมรวม

    226

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    226

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักดราม่า
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  8 ก.ย. 49 / 19:23 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      "แนน ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะ...จอยเพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย
      ขณะแนนกำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเอง
      "อืม...วาเลนไทน์อีกแล้วสินะ แนนเงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลางยิ้มพูดเบาๆ

      วาเลนไทน์..14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่วโลกบานพร้อมกัน วันที่ความรักงอกงามได้เร็วกว่าทุกวัน และเป็นวันที่กามเทพแผงศร ให้หลายๆคู่ได้สมหวัง แต่คงไม่ใช่แนน...เธอคนนี้แน่นอน

      ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ความแออัดและตึกสูงในเมืองหลวง..มีหมู่บ้านจัดสรรเล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น ก่อตัวขึ้นพร้อมกับความรัก       ความรักของเขาและเธอ
      "เธอมาเล่นก่อกองทรายด้วยกันมั้ย" เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตามอมแมมกำลังนั่งเล่นบนกองทรายสูงท่วมหัว

      "เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ" เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน
      พลางกระโดดลงมาจากกองทราย

      "ฉันชื่อแนน" เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆนั่งลง
      ทั้งคู่ค่อยๆก่อกองทราย เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม
      เด็กผู้ชายค่อยๆเอาเศษไม้เกลี่ยให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง จนได้เค้าโครงของปราสาททรายที่ต้องการ

      "เอ เดี๋ยวแนนประดับปราสาททรายเองนะ
      เด็กผู้หญิงวิ่งมาพร้อมกับก้อนหินสีสวยในกำมือ วางลงข้างๆปราสาททรายที่กำลังจะอวดโฉมออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

      "แนน ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ ห้องของเจ้าหญิงงัย ส่วนตรงนี้เป็นห้องของเอ.....อันนี้เป็นห้องประชุมนะ
      เอพูดพลางชี้ไปเรื่อยๆบนปราสาททราย....กองทรายแห่งความฝัน

      "เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วยเจ้าหญิงต้องมีสวนดอกไม้นะ" แนนพูดแย้งขึ้นพลางชี้ไปตรงด้านหน้าปราสาททราย

      "แนนอยากได้สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร" เอพูด
      เงยหน้าขึ้นมองหน้าแนนอย่างใจจดใจจ่อ >>
      "เอาดอกอะไรดี..เอ ช่วยแนนคิดหน่อยสิ" แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ
      เด็กตัวเล็กๆสองคนกำลังสวมบทเจ้าหญิงและเจ้าชายกันอยู่

      "อืม...เจ้าหญิงต้องเหมาะกับดอกกุหลาบนะ" เอพูดพลางทำท่าคิด>>
      "ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ เราจะทำสวนดอกกุหลาบที่ลานหน้าปราสาทของเรา" แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเกลี่ยทรายให้เรียบเพื่อทำเป็นลาน...ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝันของพวกเขาอยู่นาน...นานจนกระทั่ง

      "เอไปได้แล้วพ่อเสร็จงานแล้วลูก
      เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเดินมาสะกิดลูกชายตัวเองเบาๆ
      "พ่อให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะลูกชายออดอ้อนพ่อของตัวเอง>>
      "ไปได้แล้วเดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้นี่" พ่อของเขานั่งยองลง อธิบายให้ลูกชายฟังพลางลูบหัวเบาๆ

      "ตกลงครับเดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ" เด็กผู้ชายตัวมอมแมมพูดพลางวิ่งกลับหลังไปหาเพื่อนของเขา

      "แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมาหานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอกกุหลาบมา มาทำสวนกุหลาบให้แนนนะ" เอพูดพลางชี้นิ้วลงตรงลานหน้าปราสาททราย

      "ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกันนะแนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า เด็กสองคนเล่นกันช่างดูน่ารักเสียนี่กระไร

      ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน ก่อสร้างความหวังบนมิตรภาพและความรัก ระหว่างลูกชายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่างใหญ่>>
      "แนนเมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วยแหละ" เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงยหน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา

      "ไหน?แม่ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร" แนนถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น

      "แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำเดียว" เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้แนนดู

      "เอจำคำไหนได้เขียนให้แนนดูหน่อยสิแนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่เพิ่งผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่ ปรากฎเป็นตัวอักขระลายเส้นบิดพลิ้วคำว่ารัก
      ปรากฎบนผืนทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ เด็กตัวเล็กๆสองคนยืนมองด้วยความตื่นเต้น>>
      "อ่านว่าอะไร เอ แนนพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ>>
      "อ่านว่า รัก" เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ

      "เหรอ อ่านว่ารักเหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ" แนนพูดพลางเกาะแขนออดอ้อนเอ

      "มานี่?เอจะสอน" เอพูดพลางหยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้เกิดเป็นอักขระบิดพริ้ว

      "นี่ไง แนนเขียนได้แล้วดีใจจังเลย
      แนนพูดพลางหันหลังกลับไปกอดเอด้วยความดีใจ
      "มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ แนนยังคงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน>>
      "เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ มากจนอธิบายไม่ได้" ใช่สิ..ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ หรือแม้แต่คนบางคนใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร...

      "สักวันเราจะรู้ความหมายมัน แม่เอบอก    เอพูดพลางหันไปมองแนน เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน

      "อืม สักวันนะ  แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ
      สักวันแนนและเอคงรู้ความหมายของมัน

      "โอ๊ย..เจ็บ
      เด็กผู้หญิงผมเปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็ง
      เธอโดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผมของเธอประจำ
      "ใครดึงผมเปียแนน?
      เด็กผู้ชายนั่งข้างๆเธอหันขวับกลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย
      เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันสามคนนั่งอยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่แนน
      "ทำไมๆ ข้าดึงเองจะทำไมหนึ่งในเด็กสามคนพูดพลางชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง

      "แกล้งผู้หญิงหน้าตัวเมีย" เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า
      "แล้วจะทำไม" เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ ถีบโต๊ะเรียนกระจัดกระจายคนละทิศคนละทาง

      "ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวกนั้น แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น เอเอามือจับแขนแนนออกจากตัวทันที.

      ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไปคล้ายเป็นการประกาศสงครามของคนสองกลุ่ม
      ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมาป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อ
      โต๊ะเรียนที่กระจัดกระจาย ข้าวของทั้งของเอและแนนตกกระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละทาง "หยุด"
      เสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง...มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน

      "พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ
      ครูประจำชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้ามทัพได้
      แต่ก็ได้ปรากฎเลือดไหลซิบๆที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ

      "เอเจ็บมั้ย?แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป

      "ไม่เจ็บหรอก?เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน
      "ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผลให้" แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไว้
      เลือดไหลเป็นทางลงมาจากคิ้วและโหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ
      "โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ" เอพูดโพล่งขึ้นขณะที่แนนกำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออก>
      "โอ๊ย..แสบ" เอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อแนนค่อยๆกดสำลีชุบแอลกฮอลล์ลงบนแผลของเอ

      "แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่นา" แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเช็ดแผลบนใบหน้าของเอช้าๆอย่างระมัดระวัง

      ทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนนเอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ แม้จะต้องเจ็บตัวหรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที....

      "แนน  วาเลนไทน์นะ" ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืนกุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว
      "อีตาบ๊องอย่ามาทำหวานใส่ฉัน  แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความอาย

      "อ้า  ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ ทำหวานให้เจ้าหญิงของตัวเองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป เอพูดพลางยิ้ม
      ทำไมหนุ่มวัยรุ่นเวลาอายนี่ดูตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ
      สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนีได้คงหนีหายไปแล้ว
      "หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนาขึ้นนะ?
      แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูกเอด้วยความเขิน
      เอยังคงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่
      "เอรักแนนนะ" เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ
      ตอนนี้แนนเริ่มหน้าแดงขึ้นบ้างแล้วแต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง

      "เหรอ...เขียนคำว่ารักตรงนี้ดูไม่ซึ้งเลย  แนนพยายามบ่ายเบี่ยง
      ไม่เลิกแหย่
      "เดี๋ยวสักวันเอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ  เอพูดประหม่า มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น...สักวัน เอจะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย....
      ใต้ต้นไม้ใหญ่บรรยากาศร่มรื่นมีโต๊ะหินอ่อนวางเรียงรายเป็นแนว
      มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ
      บ้างหยอกล้อกินขนมกัน...

      "เอ  เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับเพื่อนนะ  แนนพูดพลางเก็บหนังสือ>>
      "ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร?เอเงยหน้าขึ้นมองแนนทันที

      "ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ" แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ
      เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่

      "ให้เอไปส่งมั้ยเอว่างนะ  เอพูดพลางยิ้มลูบผมแนนเบาๆ

      "ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา" แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ

      "นี่ แล้วกินข้าวเสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะเข้าใจมั้ย กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอกด้วย
      เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริงจัง>>
      "ค่ะ หัวหน้าสั่งจริงๆเลย  แนนพูดพลางยิ้ม เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน

      "กิ๊ฟๆ แฟนแกเป็นงัยบ้าง  ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ ขณะที่ตนอยู่หลังพวงมาลัย

      "ปวดหัวสุด เจ้าชู้เป็นบ้าเลย" กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเองนัก

      "ทำไมไม่เลิกๆไปล่ะจะได้ไม่กลุ้ม" ฝนเสนอความเห็น มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง>>
      "...ให้โอกาสสักครั้ง?
      กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถด้วยอาการเอือมระอา>>
      "โอกาสสักครั้ง รอบที่ล้าน เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้งรถ

      "แล้วแนนล่ะแหม..เจ้าชายเธอเอาใจเธอดีนะ
      ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ข้าง>>
      "โอ๊ย ..รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว ยังจับไม่ได้สักทีว่ามีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน" แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้าฝน

      "แปลได้สองอย่าง..ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว
      เค้าก็เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี
      เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะพร้อมกันทั่วรถ

      "เอี๊ยยดดด.....เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ
      คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน
      รถบรรทุกฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง
      แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตกละเอียด ห้องโดยสารด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามาอย่างเห็นได้ชัด....ร่างไร้สติของแนนยังคงสงบนิ่งติดอยู่ในรถเก๋งขนาดสองตอน
      มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุกเมื่อ
      "แนนๆ" เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆเปิดเปลือกตาขึ้นมา>>
      "อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บแนนค่อยๆอ้าปากพูดแต่ไม่ชัดนัก เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของแนนคล้ายกับเป็นเครื่องประดับ

      "ใจเย็นๆ แนนเธอสลบไปสองเดือน.....สองเดือน สองเดือน แนนแทบไม่เชื่อหูตัวเอง. ...ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนนฟัง....

      "แล้วสรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่มั้ย  แนนพยายามพูด เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ยิน

      "อืม...ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้นิ่งๆ

      "เอล่ะเออยู่ไหน" แนนเพิ่งนึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน>>
      "เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ชนแล้วหายไปเลย
      ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ

      "ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอเราก็อยู่กันได้จริงมั้ยเพื่อน
      ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน

      "อืม...น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน
      คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคงจะเป็นความจริง...เขาเก่งมากจริง
      เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี
      เก่งมากที่หลอกว่ามีแนนคนเดียว....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย เสียดายเวลาที่อยู่ด้วยกันเสียดายความรักที่มอบให้....เสียดาย
      เสียดายเสียดาย>>
      "คุณแนนค่อยๆก้าวนะครับช้าๆบุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนนขึ้นเดิน แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก

      "ระวังล้มนะครับจับผมไว้ดีๆ" บุรุษพยาบาลเดินช้าๆเพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช่เอนะ....ทำไม ทำไม ทำไม

      "คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพบำบัดกันเลยเหรอ
      แนนถามด้วยความสงสัง>>
      "โฮ คุณไม่ได้เดินสามเดือนนี่ มันนานนะครับ
      บุรุษพยาบาลตอบด้วยความสุภาพ>>
      "จะว่าอะไรมั้ยค่ะถ้าจะถามชื่อเล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล เกรงว่ามันจะยาวไป" แนนพูดพลางยิ้ม

      "ผมชื่อกอล์ฟครับ บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ

      นับจากวันนั้นแนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน
      ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด ไม่นานแนนก็สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด...
      "คุณแนนค่ะ น้ำดื่มค่ะ พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆเธอ
      ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล
      เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี

      "กอล์ฟไปกินข้าวกัน  แนนพูดทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วยสีหน้างงเล็กน้อย

      "ไปสิครับ" กอล์ฟพูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและให้เกียรติแนนมาก...มากจนน่าแปลกใจ ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาทกับพยาบาลมาก
      แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ...จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมาแทนที่เอ>>
      บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ  เอก็ไม่โทรมา

      บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ   เอก็ไม่ติดต่อมา>>
      บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงาอยากให้เอนั่งเป็นเพื่อนแต่เอก็ไม่ปรากฎตัว

      เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน

      ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน

      ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน

      มันคงหายไปแล้ว....หายไปพร้อมกับเอ>>
      หายไปพร้อมกับผู้ชายโกหก...ผู้ชายเจ้าชู้>>
      ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม ทำไม ทำไม

      ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ ไม่มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดงไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู
      "แนน  วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ" เสียงกอล์ฟดังตามสายโทรศัพท์>>
      "ว่างค่ะ ทำไมค่ะ" แนนตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ

      "พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ เดี๋ยววันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ" กอล์ฟเสนอความเห็น>>
      "ตกลงค่ะ  แนนพูดพลางกดวางสาย สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง...หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียที>>
      วันวาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก แม้ในลานที่สยามหรือที่วัยรุ่นเรียกกันสั้นๆว่า "เซนเตอร์พอยต์"
      ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง..นักเรียน นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงในมือเดินกันขวักไขว่>>
      "ขอโทษค่ะมาสาย" แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมานั่ง>>
      "ไม่เป็นอะไรครับ  กอล์ฟพูดพลางยิ้ม

      "อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ
      แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ..หากกอล์ฟมีพิรุธแนนจะจับได้ทันที

      "อันนี้ของแนนนะครับ" ดอกกุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวน>>
      "หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ  แนนพูดติดตลกพลางยิ้ม เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด>>
      "ผมคงไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอก กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนงง>>
      "อ้า ..แล้วกุหลาบสีแดงนี่...ไม่ทันแนนจะพูดจบ กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที

      "ผมไม่กล้าขอหัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน
      ปั้ง...เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ
      แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไปทุกที...มันแปลว่าอะไร???

      "หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบดอกนี้
      กอล์ฟพูดต่อ...แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมายแม้แต่นิดเดียว>>
      "ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรงพยาบาล คุณเสียเลือดมาก..หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว พวกผมและหมอพยายามเยียวยาจนถึงที่สุด" กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้>>
      "มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้ามาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอมจ่ายไม่อั้นไม่ว่าทางเราจะขออะไร เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผมประทับใจมาก" กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟหมายถึงเอ

      ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ  เขายอมแลกทุกอย่างกับชีวิตคุณ
      กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่งแต่แนนยังคงทำสีหน้างงอยู่>>
      "เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่าทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล
      แต่กลับไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ" กอล์ฟพูดด้วยน้ำเสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย

      "สุดท้ายเราตรวจเลือดของเขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี
      เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ...ไม่ต้องห่วงว่าเขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ" กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำใสๆ

      "ต่อมา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณหัวใจคุณเต้นอ่อนลงเรื่อยๆ
      จนหมอต้องเดินออกไปบอกให้เขาทำใจ....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ" กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วยน้ำเสียงปกติ   นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ>>
      "เขาถามหมอว่าเธอต้องการอะไร..... เอถามหมอว่าแนนต้องการอะไร>>
      "เธอต้องการหัวใจครับหัวใจเธอเต้นไม่ปกติการสูบฉีดล้มเหลว เราหาเลือดให้เธอช้าไปเพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือหัวใจ" หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัวแนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที

      "ตกลงผมหาให้เขาตอบสั้นๆโดยไม่ลังเลเลย" ตกลงผมหาให้..เอจะหาหัวใจให้แนน
      ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้เธอ>>
      "คุณรู้มั้ยว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด
      โรงพยาบาลยังหาหัวใจให้คุณไม่ได้เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้
      กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน...ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่แล้ว>>
      "เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมด...เขาไม่ได้โอนเงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล
      มูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม   "นานา" คุณดูดีๆ คำว่าแนนและแนน
      เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ "นานา" นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา เขาอยากให้ตัวเขาเองเป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก..เพราะไม่มีหัวใจเทียมสำรอง" เปี๊ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา...เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่โรงพยาบาล แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ
      ทั้งๆที่เธอไม่มีส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว>>"ทันทีที่มีการยืนยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้งโน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ" ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ โต๊ะรอบข้างหันมามองแนนเป็นตาเดียว...เอคือเจ้าของหัวใจ
      หัวใจที่อยู่ในร่างของแนน

      "เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ" กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอเคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทปจดหมาย.....

      "ผมคงไม่กล้าขอหัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ
      ใช่หัวใจเอเป็นของแนน
      เป็นของแนนจริงๆ ..ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตายไปพร้อมกับเอ
      ตายไปพร้อมกับผู้ชายที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ>>
      "กุหลาบดอกนี่ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง
      รบกวนซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก ขอแค่ดอกเดียวก็พอ..เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของเขา
      กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา
      นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจากโต๊ะไป..ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง>>
      "เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ" "เอรักแนนนะ" คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป
      เป็นคำพูดเดียวกันที่พูดกันซ้ำโดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป....เทป120 นาทีโดยมีเพลงประกอบเบาๆ
      แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน...จดหมายที่มีเนื้อความเพียงบรรทัดเดียว

      "หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้ เขียนให้แนนคนเดียว"

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×