ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    somewhere someone (1827)

    ลำดับตอนที่ #6 : จุดจบ

    • อัปเดตล่าสุด 15 เม.ย. 53


     .
     .
     .
     8 ปีผ่านไป

     ณ กระท่อมหลังเล็กชายป่า ห่างหมู่บ้านวองโกเล่มาไม่ไกล ควันสีขาวจากการก่อกองไฟลอยขึ้นเหนือปล่องควัน
     
     ร่างบาง ผมยาวของชายหนุ่มที่อ้อนแอ้นเกินบุรุษเพศกำลังงุ่นอยุ่กับการทำอาหารหน้าเตาไฟภายในบ้าน 

     แรงจากการหั่น สับ อาหารตรงหน้าทำให้สร้อยประดับที่คล้องคอของร่างบาง หลุดพ้นปกเสื้อตัวโคร่งสีขาวที่สึนะใส่ปกคลุมร่างกายทั้งหมด 
     
    ร่างเล็ก หยุดการเตรียมวัตถุดิบ หยิบล็อคเก็ตที่คล้องอยู่กับสายสร้อยรอบลำคอตนขึ้นมามอง
     
     ผ่านมาตั้ง 8 ปีแล้วสินะ
     แม้จะเป็นเวลาที่ไม่มาก
     แต่ก็ยาวนานพอที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
     ยาวนานพอที่จะทำให้จากเรื่องจริง กลายเป็นเรื่องเล่า และจบลงด้วยการเป็นตำนาน

     
     ร่างบางก้าวออกไปยังหน้าต่าง มองทะลุกระจกใสที่กั้นกลางไปยังวิวของเมืองใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่มาก ตอนนี้เมืองวองโกเล่พัฒนาไปมาก จากเมืองเล็กๆ เริ่มมีคนอพยพเข้ามาอาศัยเพิ่มมากขึ้น จนกลายเป็นเมืองใหญ่ ยิ่งหลังจากหัวหน้าหมู่บ้านคนใหม่เข้ามารับตำแหน่งดูแลเมืองแทนฟาเรียติที่ขอเกษียณก่อนกำหนดเพื่อพาภรรยาสุดที่รักไปท่องเที่ยวด้วยแล้ว อาณาเขตของเมืองก็ยิ่งขยายออกไปเรื่อยๆ 

     นอกจากเมืองที่เปลี่ยนไปแล้ว อีกสิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือตัวเขาเอง หลังเหตุการณ์ทั้งหมดสึนะเข้มแข็งขึ้น หลังจากการกลับไปเรียนในโรงเรียนอีก 4 ปี เขาก็จบการศึกษาและกลับมาเป็นหมอประจำหมู่บ้านที่นี้ด้วยเจตนารมณ์ของตัวเอง ตามที่เขาสาบานว่าจะไม่จากที่ไหนไปไหน  

     แม่ซึ่งไม่ถามเหตุผลของลูกชาย กลับยอมอพยพโยกย้ายถิ่นฐานตามมาโดยไม่ปริปาก แต่ตอนนี้แม่ไม่ได้อยุ่กับเขาอีกแล้ว 

     .
     .
     .

     เพราะอยู่ๆคุณพ่อตัวดีก็กลับมาบ้าน และชวนกันไปท่องเที่ยวรอบประเทศ นานๆจะส่งจดหมายมาถามสารทุกข์สุขดิบลุกชายหัวแก้วหัวแหวนสักที

     สึนะเดินออกมาจากริมหน้าต่าง สายตาเลือบเห็นซองกระดาษหนา 2 ซองที่ถูกสอดเข้ามาในช่องว่างของประตู ก่อนที่จะหยิบขึ้นมาเกาะอ่าน

     จดหมายมาจากรีบอนด์และดีโน่ 8 ปีผ่านไปทั้งรีบอนด์และดีโน่ก็ยังคงเหมือนเดิม รีบอนด์นั้นยังคงเป็นอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียน และยังคงเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาให้กับเด็กบางคน (ซึ่งเขาเองก็ได้ยินเรื่องเล่าสุดสยองจากดีโน่ เกี่ยวกับประสบการณ์ที่นักเรียนรุ่นน้องซึ่งเป็นลูกศิษย์ในการดูแล ได้รับจากครูที่ปรึกษาสุดจี๊ดอย่างรีบอนด์อีกหลายเรื่อง)

     ส่วนดีโน่นั้น ตอนนี้กลายเป็นผู้นำสุงสุดของตระกูลคาบัคโรเน่ไปแล้ว วันที่มอบตำแหน่งสึนะก็อยู่ร่วมในพิธี และมีโอกาสได้เห็นสภาพดีโน่ที่ตื่นสายจนวิ่งหกล้มเข้ามาบนพรมแดง ท่ามกลางแขกเหรือเต้มห้องที่มาร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบตำแหน่งด้วย ส่วนโรมาริโอ้ ตอนนี้ก็ยังคงทำหน้าที่มือขวาคนสนิทของดีโน่ (และต้องปวดหัวกับความไม่เต็มของหัวหน้าตัวเอง) เหมือนเดิม 

     แม้ว่าระยะห่างระหว่างเมืองหลวงกับวองโกเล่จะทำให้สึนะมีโอกาสเจอทั้งสองน้อยลง แต่ความผูกพันธ์ก็ยังคงไม่เปลี่ยน จดหมายของดีโน่และรีบอนด์ยังคงถูกส่งมาถึงเขาเป็นระยะๆ เสมอๆ

     .
     .
     .

     ระหว่างที่สึนะ กำลังใจลอยคิดถึงพวกพ้อง อ้อมกอดอุ่นของใครบางคนก็โอบรอบมาจากด้านหลัง 

     "เหม่อคิดถึงใครอยู่" เสียงห้าม นุ่ม ดังขึ้นละเลียดใบหู ทำเอาใบหน้าหวานแดงขึ้นมาโดยฉับพลัน

     "ตื่นแล้วหรือครับ คุณ อุ๊บ........ " เสียงอรุณสวัสดิ์ไม่ทันจบประโยค เพราะถูกริมฝีปากหนาใหญ่ปิดทับ พลางใช้ลิ้นร้อนดูดดันเข้าไปในช่องป่าก กวาดความหวานข้างในที่ไม่ว่าจะลิมรสสักกี่สิบครั้งก็ไม่เคยลดลงแม้เพียงนิด 

     "บอกกี่ครั้งแล้ว เรื่องชื่อ หรืออยากจะโดนทำโทษอีก" เสียงดังขึ้นหลังเจ้าของริมฝีปากหนายอมปล่อยให้ร่างบางหายใจหอบอีกครั้ง ก่อนที่จะขาดใจตายไปต่อหน้า แต่ลิ้นร้อนยังไม่ยอมหยุดหน้าที่เฝ้าไล้เลียติ่งหูของร่างบางอย่างไม่หยุดหย่อน

     "ปล่อยนะ เมื่อคืนก็ตั้งหลายรอบแล้วนะ เคียวยะ" สึนะยังพยายามขัดขืน แม้ว่าร่างกายจะสั่นสะท้านไปกับรสสัมผัสจนหมดเรี่ยวหมดแรงจะผยุงตัวแล้ว แต่วันนี้เขายังมีงานต้องทำนี้หน่า

      "ขัดขืนหรือ? อย่างงี้คงต้องทำโทษเสียแล้ว" ริมฝีปากร้อนถาบทับริมฝีปากร่างเล็ก ระงับเสียงปฎิเสธทั้งหมดที่กำลังจะตามออกมา แต่คราวนี้ผู้เป็นฝ่ายเหนือกว่าเพิ่มความเร่าร้อนในรสจูบเข้าไปจนสึนะหมดแรงขัดขืนความต้องการของหัวใจอีกต่อไป 

     .
     .
     .

     วันนั้นสึนะนึกว่าหัวใจเขาโดนพิษจากกระสุนทะลุจนต่อไม่ติดอีกต่อไป

     .
     .
     . 

     กระสุนสั่งตายนัดนั้น ดึงสติของฮิบาริเข้าไปในความมืดรอบตัว พัดพาเขาไปสู่ห้วงฝันนิรันด์กาล
     
     ฝันหรือ?

     ความเปียกชื้นจากบางสิ่งปลุกภวังค์ของฮิบาริขึ้นมา

     สิ่งแรกที่เห็นหลังการลืมตาในความฝัน คือสุนัขสีดำตัวเล็กๆ ที่กำลังเลียรอบใบหน้า ราวกลับต้องการปลุกชายหนุ่ม 

     ฮิบาริยั่นกายซึ่งไร้ซึ่งอาการเจ็บปวดอีกต่อไปขึ้นมา

     ริมแม่น้ำหรือ? มองออกไปอีกฝั่งคล้ายเมืองในหมอก แต่ราวกับมีเงาของบางสิ่งกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ริมน้ำอีกฝั่ง

     สุนัขสีดำตัวเล็กตอนนี้ค่อยเดินลงแม่น้ำข้างหน้า ตะเกียดตะกายว่ายไปอีกฝั่ง ก่อนกระโดดเข้าสู่อ้อมอกของเงาคนที่เริ่มชัดเจนเป็นรูปเป็นร่าง

     แม่!!! นั้นแม่สินะ 
     
     ฮิบาริออกแรงก้าวย่าง หมายจะข้ามแม่น้ำไปหาความอบอุ่นของมารดา แต่ขากลับหนักจนขยับเขยื่อนไม่ได้ สายตายังคงจับจ้องไปที่ฝั่งแม่น้ำตรงข้าม พลันมองเห็นเงาของบางสิ่งที่เริ่มชัดเจนขึ้นมาหลังร่างบางของมารดาตัวเอง 

     ร่างเงาเริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง ก่อนจะกลายเป็นร่างสูงของชายหนุ่มผมทอง

     พ่อ!!! นั้นพ่อใช่มั้ย

     ทันใดนั้น เสียงจากสายลมเย็นที่พัดผ่านมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ ก็พาเสียงกระซิบที่ลอยลมตามมา

     "ลูกยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมาทางนี้หรอกจ้ะ กลับไปซะเถิด" 

     "แม่ครับ ผมเหงา ผมไม่มีใครแล้ว ขอผมไปอยู่ด้วยนะครับ" ฮิบาริพยายามตะโกนข้ามฝั่งกลับไป เขาเหนื่อยเกินไปแล้ว เหนื่อยที่ต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียวท่ามกลางความรังเกียจ

     รอยยิ้ม ปรากฎบนใบหน้าอ่อนหวาน

     "ลูกพบคนที่ลูกรัก และเขาก็รักลูกแล้วนี้จ้ะ" 

     ทันใดนั้น เสียงตะโกนดัง ปนเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นก็ดังขึ้น ก้องไปทั่วท้องฟ้า

     คุณฮิบาริ
     คุณฮิบาริ
     กลับมา
     กลับมาหาผมสิ
     ไม่นะครับ ลืมตาขึ้นมามองผมสิ

      
      "ผมไม่กล้า เก็บเขาไว้ข้างกายคนกระหายเลือดอย่างผมหรือครับ" ฮิบาริมองนิ่งไปยังท้องฟ้าเบื้องบน พลางกลั้นริมฝีปากแน่น จะดีแล้วหรือถ้จะให้คนอย่างเขากลับไป กลับไปหาสึนะ

     "หลังจากนี้ลูกจะไม่ไปทำร้ายใครอีกแล้ว ความกระหายเลือดของลูกได้ตายไปพร้อมกับกระสุนนัดนั้นแล้ว" เสียงทุ้มของบิดา ดังลอยตามสายลมมายังฮิบาริ 

     "พ่อครับ ..... "

     "ไม่ต้องห่วง อีกครั้งหนึ่งของลูก พ่อกับแม่จะเป็นผ้ดูแลให้เอง จนกว่าจะถึงวันนั้น วันที่เจ้าจะต้องก้าวข้ามมาที่ฝั่งนี้อย่างแท้จริง" ร่างสูงของพ่อ รับมอบสุนัขตัวน้อยจากอ้อมแขนแม่ผู้เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มก่อนจะอุ้มไว้แนบอก
     
     ร่างของฮิบาริเริ่มเลือนรางจากริมฝั่งน้ำ 

     น้ำเสียงที่ร่างสูงของชายหนุ่มพยายามจะเค้นออกมาบางเบา 

     แต่ยังมีสิ่งที่เขาต้องพูด สิ่งที่อยุ่ในใจของเขามาตลอดหลายปี

     ฮิบาริเอื้อนเอ๋ยคำสุดท้ายออกไป ก่อนที่ร่างจะหายไปทั้งหมด   
     
     "พ่อครับ ผมขอโทษ"
     
     "ไม่เป็นไร พ่อผมภูมิใจที่ได้ตายเพื่อปกป้องคนที่พ่อรัก เหมือนอย่างลูกไง เคียวยะ"

     ความมืดเข้าปกคลุมแทนที่ทิวทัศน์ในความฝัน แต่เสียงห้าวปนหัวเราะของบิดายังคงดังก้องเข้าในโสตประสาททันก่อนที่ฮิบาริจะถูกดึงกลับออกมา

     .
     .
     .

     เปียก อะไรบางอย่างเปียกเต็มหน้าเขา

     แม้ตาจะยังไม่ลืม แต่หูกลับได้ยินเสียงหนวกหูของไอ้สัตว์กินพืชตัวเล็กที่กำลังโวยวายอยู่ข้างกาย

     ผมยอมแล้ว
     ผมยอมสาบานแล้ว
     ผมจะอยุ่กับคุณตลอดชีวิต
     ลืมตาขึ้นมาสิ
     ผมบอกให้ลืมตาอย่างไงเล่า คุณฮิบาริ
     
     มือหนาใหญ่ของผู้นอนนิ่งขยับเล็กน้อย ก่อนจับไปที่เส้นผมลื่นสวยของคนที่กำลังน้ำตานองหน้าโวยวายอยู่บนอ้อมอกที่ยังชุ้มเลือดของตัวเอง

     "แกสาบานแล้วนะ ไอ้สัตว์กินพืช" เสียงแรกของคนที่พึ่งพื้นขึ้นมาจากความตายดังขึ้นจากห่างของสึนะ

     .
     .
     .

     "คุณฮิบาริ" 

     ..........................................................................................

     เรื่องครั้งนั้น ทำให้ฮิบาริต้องนอนรักษาพยาบาลอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของคณะแพทย์สภาฯ ติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 3 เดือน 

     สึนะ ที่ทำใจสู้ เข้าไปคาดคั้นเรื่องราวกับรีบอนด์อย่างไม่กลัวตาย ทำให้รู้ว่าที่รีบอนด์ยิงเข้าไปตัด คือ เส้นเลือดปิศาล ทำให้ที่ตายไปจากพิษของคมกระสุนคือ สายเลือดปิศาลที่สถิตอยู่ในตัวของฮิบาริ ไม่ใช่ฮิบาริ

     ผลจากการทำลายเส้นเลือดปิศาล ทำให้ฮิบาริจะไม่คุ้มคลั่งในคืนวันเพ็ญอีกต่อไป และทำให้รูปลักษณ์ของปิศาลค่อยๆ เสริมสลายไปทีละนิดๆ ใบหูที่เคยตั้งชันเหนือเส้นผมสีดำ ค่อยๆ เล็กๆ จนในที่สุดก็ซ่อนอยุ่ภายใต้เส้นผม เล็บมือและเล็บเท้าที่แหลมคมผิดมนุษย์กลับสั้นลง หางที่เคยเป็นพวงใหญ่สีดำสนิท ก็ค่อยๆ หดเล็กลงเรื่อยๆ จนหายมิดไปในที่สุด  

     .
     .

     แผ่นหลังที่สัมผัสกับความแข็งของไม้ ดึงสึนะกลับขึ้นมาจากภวังค์ ตอนนี้ร่างเล็กถูกดันจนนอนหงายอยุ่บนขอบโต็ะกินข้าวตัวใหญ่

     "อะ.... ไม่ได้นะครับ วันนี้ผมมีงานต้องทำ" ร่างบางพยายามปัดป้องมือร้อนที่ล้วงเข้ามาสัมผัสในที่ที่ไม่ควรจะสัมผัส มือใหญ่ทำหน้าที่ลูบไล้จุดรวมอารมณ์ จนสติสึนะเริ่มเข้าขั้นกระเจิดกระเจง

     "ช่างหัวมันสิ" วินาทีนี้จะให้ฮิบาริหยุดการกระทำ คงจะเป็นเรื่องยากเกินไปแล้ว.

     .
     .

     "ก็อกๆ" เสียงเคาะประตูจากสวรรค์ กลับกลายเป็นเสียงขัดจังหวะกิจกรรมทั้งหมด
     
     นอกบ้าน เด็กหนุ่มหัวเงินและหัวดำ ยืนรออยุ่หน้าประตูอย่างใจจดจ่อ

     "คุณหมอครับ ผมยามาโมะโตะมาแล้วครับ" เด็กหนุ่มผมดำ ร้องตะโกนเรียกคนข้างไหนเข้ามาเปิดประตู 

     "โกคุเทระ ก็มาด้วยนะครับ"เด็กหนุ่มผมเงินผู้ไม่ยอมน้อยหน้า ตะโกนแข่งเข้าไปบ้าง
     
     สึนะผลักอกร่างสูงให้ออกห่างได้เล็กน้อย ก่อนเบี่ยงตัวหลบอ้อมกอด วันนี้เขานัด 2 คนนี้ให้มารับก่อนจะเข้าไปตรวจร่างกายชาวเมืองกัน 

     แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวพ้นรัศมีโต็ะ ร่างบางก็ถูกดึงกลับจนแผ่นหลังขาวปะทะกับอกแกร่งของเจ้าของอ้อมกอดอีกครั้ง

     บังอาจมาขัดจังหวะความสุขฉัน จะแสบมากเกินไปแล้วไอ้ 2 คนนี้ ... ฮิบาริ เข้นเขี้ยวเคี้ยวฝัน ความจริงไอ้เด็กนรก 2 ตัวนี้ เป็นเด็กเกเรประจำหมู่บ้าน จนเขาต้องไปปราบให้รู้สำนึกสักนิด แต่สึนะดันเขามาหยุดเขาเอาไว้ก่อน จะได้สั่งสอนให้พวกมันหลากจำ ไอ้ 2 เวรนี้เลยสำนึกบุญคุณความเป็นแม่พระของไอ้สัตวฺกินพืช เลิกเกเรและผันตัวเองกลายมาเป็นผู้ช่วยหมอซะทั้งคู่
     
     "ไม่ทำงานวันหนึ่ง ไม่มีใครตายหรอก" ร่างสูงไม่ยอมให้ร่างบางออกไปทำงานอยู่ดี อ้อมกอดโอบกระชับมากขึ้น ลิ้นเริ่มไล้เลียลง เริ่มต้นจากคอขาวยาวไปจนถึงลาดไหล่ที่โผล่พ้นเสื้อขาวตัวโคร่งของเขาเองรุกอารมณ์ เรียวลิ้นของฮิบาริเรียกเสียงครางรัญจวนใจของสึนะให้ดังอย่างต่อเนื่อง

     ยังไม่มีเสียงตอบกลับมาจากในบ้าน 2 เด็กนรกของฮิบาริตัดสินใจจะเคาะประตูอีกครั้ง แต่ก่อนที่จะทันได้เคาะ คุซาคาเบะ รองหัวหน้าหมู่บ้านก็กเามเข้ามาในบริเวณพอดี
     
     "อ้าว มาเหมือนกันหรือ" แม้ว่าไอ้ 2 คนนี้จะเป็นด็กแสบประจำหมู่บ้าน แต่ส่วนตัวแล้ว รองหัวหน้าหมู่บ้านคนนี้เป็นคนรักเด็กมาก

     "พวกผมมารับคุณหมอครับ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่แล้ว " เด็กใสซื่อ (บื้อ) อย่างยามาโมะโตะรายงานตามจริงไปให้คนที่พึ่งมาใหม่รับทราบ 
     
     "เดียวฉันลองบ้างสิ หัวหน้าหมู่บ้าน คุซาคาเบะครับ ผมพาลูกบ้านคนใหม่มาแนะนำตัวครับ" คุซาคาเบะ ตะโกนเป็นฝ่ายเข้าไปในตัวบ้านบ้างแล้ว

    ด้านในตัวบ้าน

     สึนะที่เกือบจะเปลือยเปล่าอยู่แล้ว  ยิ้มยั่วฮิบาริบ้าง 

     ไงละเมื่อกี่บอกว่าไม่ทำงานวันหนึ่ง ไม่มีใครตายหรอก แต่พองานตัวเองมาถึงบ้างแล้ว จะทำอย่างไงละ ......  แม้ปากจะไม่ได้เอ่ยความคิดออกไป แต่รอยยิ้มมันตีความออกมาเป็นอย่างนั้น

     ฮิบาริหยุดการกระทำทุกอย่างชั่วครู่ ก่อนตวัดร่างบางขึ้นมาแนบอก อุ้มราวกับอุ้มเจ้าสาวแสนสวย ตะโกนก้องดังออกไปนอกตัวบ้าน

     "เฮ้ย! ไอ้เด็กเวร 2 คนข้างนอกกับคุซาคาเบะ ฝากบอกทุกคนด้วยว่า วันนี้ฉันกับสึนะไม่รับงาน จัดการกันเองละกัน"  

     ร่างสูงของฮิบาริ อุ้มสึนะออกไปทางประตูหลังบาง ก่อนกระโดดขึ้นไปตามยอดต้นไม้สุงใหญ่ กระสุนปืนฆ่ารูปลักษณะภาพนอกกับสัญญาติญาณนักฆ่าของมนุษย์หมาป่าได้ แต่ดูเหมือนจะไม่ส่งผลไปถึงพละกำลังกับความเอาแต่ใจของร่างสูง ที่คล้ายจะเป็นคุณสมบัติติดตัวมาเองมากกว่า 

     "เคียวยะ จะไปไหน" สึนะถาม ขณะที่ยังกอดร่างสูงแน่นเมื่อลอยอยู่กลางอากาศ 

     "ไปหาที่สงบๆไง" เจ้าคนกระโดดตอบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่คำตอบเดียวกันกลับส่งสีแดงแป๊ดให้ขึ้นมาบนหน้าร่างบางแทน หน้าหวานซกหน้ากับอกอุ่นแน่นขึ้น ประสบการณ์การหาที่สงบๆครั้งก่อนๆ ยังตราตรึงอยู่ในร่างกาย

     "จะไม่ยอมหรือไง" 

     สึนะโอบเรียวแขนรอบคอฮิบาริใหเกระชับ ก่อนกระซิบเสียงหวานข้างหูอดีตมนุษย์หมาป่าจอมโหด 

     "ก็ตามใจสิครับ"
     .
     .
     .
     FIN 

    ฝากเรื่องอิ่นด้วยนะค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×