คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตรึงตา
อยากจมหาย ดายดิ้นไปกับความมืดรอบตัว
นี้คงเป็นความรู้สึกครั้งสุดท้ายก่อนลาจาก
สมควรแล้วคนที่ไร้แผ่นดิน ไร้ตัวตน ไร้เผ่าพันธุ์
ไม่จำต้องตื่นขึ้นมาพบท้องนภาสดใสอีกต่อไป
"คุณฮิบาริ คุณฮิบาริ " นั้นเสียงใครดังกังวาล เรียกชื่อของเขา ดึงสติขึ้นมาจากความดำมืดที่กำลังเพิ่มทวี
.
.
.
แสงแดด อากาศ นกร้อง ปลุกให้ ฮิบาริ รู้สึกตัวอีกครั้ง "ฉันยังไม่ตายอีกหรือ" สติเริ่มกลับขึ้นมา ร่างสูงพยายามยืนหยัดตัวขึ้นมาขึ้นเตียง แต่ร่างกายยังไม่มีเรี่ยวแรง ฮิบาริปลุกความทรงจำสุดท้ายก่อนสิ้นสติ เขาโมโหร่างเล็กที่บังอาจหยิบของสำคัญโดยไม่ได้รับอนุญาติ จนเผลอทำร้าย ปานนี้แล้วคนคนนั้นคงจะหนีออกไปไกลแล้วสินะ
"อะ อย่าพึ่งลุกขึ้นมานะครับ เดียวแผลปริอีก" เสียงหวานใส ร้องห้าม ดังมาจากปากถ้ำ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะกึ่งวิ่งกึ่งเดิน อุ้มข้าวของพะรุงพะรังในอ้อมแขนเข้ามาดูอาการของผู้ที่พึ่งตื่น
"นั้นไง เลือดไหลออกมาอีกแล้ว อย่าพึ่งขยับไปไหนรุนแรงสิครับ" สึนะรีบวางอาหารเช้าที่เขาออกไปหาในป่ามาเมื่อสักครู่ และเข้าไปดูแผลของคนป่วยที่ผ้าพันมีสีแดงคล้ำเปอะเปื้อน
เฮ้อ! โล่งอก โชคยังดี รอยเลือดที่เห็นเป็นแค่รอยเลือดเก่าที่ซึมเปื้อนอยู่เท่านั้น เขานึกว่าคนไข้เจ้าปัญหาของเขาจะออกฤทธิ์ออกเดช จนแผลปริออกมาอีกรอบหลังจากสลบไป 1 วันเต็มๆ
ร่างประหลาดสับสนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ทำไมเจ้านี้มันยังอยู่ที่นี้ ?
ทำไมมันไม่หนีเขาไป ?
ทำไมมันไม่หาวิธีฆ่าเขา ?
"พึ่งตื่นขึ้นมา ทานอะไรก่อนดีมั้ยคับ ผมเก็บผลไม้มาได้ 2-3 อย่าง" ร่างเล็กว่าพลางชูผลไม้ป่าที่หามาได้ล่อหน้าคนไข้
คนที่พึ่งพื้นไม่ได้สนใจกับอาหารตรงหน้าแม้เพียงนิด ความสงสัยมันท่วมท้นมากกว่า "ทำไม แกไม่หนีไปซะ?" ฮิบาริจับไหล่ร่างเล็กดึงมาเผชิญหน้าระยะประชิด ตะคอกถามไขขอข้องใจตัวเอง
สึนะกลัวจนตัวสั่น เขาทำอะไรผิดอีกหรือ "ก็คุณบอกว่าให้ผมอยู่ตรงนี้ แล้วอีกอย่างผมหาทางกลับไม่ถูกนี้หน่า" เขาไม่ได้โกหก แต่สาเหตุหลักที่เขาที่ไม่หนีไป เพราะอาการของร่างสูงตรงหน้าหนักไม่ใช้เล่นเลย ระหว่างทำแผลให้มีหลายครั้งที่ดูเหมือนเขาจะเล่นพนันแพ้ยมทูต แม้ว่าตอนนี้อาการจะพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ก็เสียเลือดมากจนเขาไม่อาจวางใจปล่อยทิ้งหนีไปได้ แต่จะให้บอกได้ไงว่า ไม่หนีเพราะห่วงคนที่ลักพาตัวเองมานะ
ที่แท้ก็กลัวหลงทางตกเหวตายอีกรอบสินะ ... ร่างสูงยอมปล่อยคนตัวเล็ก ก่อนล้มตัวลงนอน และถามโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าของสึนะ
"แล้วมีอะไรกินบ้าง"
นายคนนี้จะเอาอย่างไงกันแน่? คุ้มดีคุ้มร้ายชะมัด แม้จะโมโหกับการกระทำของฮิบาริ แต่สึนะก็ยอมเอาผลไม้ที่หาได้ใส่จานมาให้คนไข้ช่างเอาแต่ใจ
"ทำไมมีแต่ผลไม้ ไม่มีเนื้อสัตว์เลยหรือไง ฉันไม่ใช้พวกสัตว์กินพืชอย่างแกนะ" สีหน้าของฮิบาริแบ้ทันที ที่เห็นแต่ผลไม้หลากชนิดบนจานตัวเอง
"ก็ผมจับสัตว์ไม่เป็นนี้ อย่าบ่นกินเข้าไป" นอกจากคุ้มดีคุ้มร้าย เอาใจยาก แล้วยังเรื่องมากอีก สึนะแก้เผ็ดด้วยการหยิบลุกเบอร์รี่ป่าที่หามาได้ ยัดใส่ปากคนเรื่องมาก ก่อนวิ่งหนีห่างออกมาจากร่างคนไข้เอาแต่ใจที่กำลังสำลักลูกเบอร์รี่ตัวโยน
หลังการกินอาหารเช้าสุดอลวน สึนะเข้าไปตรวจร่างกายของฮิบาริอีกครั้ง บาดแผลขนาดคนปกติต้องนอนพัก 2 เดือน ปิดสนิทภายในไม่ถึง 2 วันอย่างกับโกหก สมเป็นร่างกายของปิศาล ถ้าแผลสมานขนาดนี้เขาคงไม่ต้องเป็นห่วงอาการคนตรงหน้าอีกแล้ว
"เออ คนฮิบาริ ครับ" ร่างที่นอนบนเตียงอยู่ สะดุ้ง รู้สึกแปลกๆเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตัวเอง กี่ปีแล้วนะที่ไม่มีใครเรียกเขาอย่างนี้
"คือว่าผมอยากกลับบ้าน" สึนะรู้ดีว่ามันบ้ามาก ที่เขากำลังขอให้คนที่ลักพาตัวมาส่งเขากลับไป แต่ในเมื่ออับจนหนทาง การลองข้อร้องก็ไม่เสียหลาย
คำขอของสึนะดึงให้ฮิบาริกลับมาจากภวังค์ความสุขทันที
นั้นสิเขาจะจับตัวไว้อีกทำไม?
ความจริงตอนนั้นเขาแค่ต้องการหนีรอดออกไปจากหมู่บ้านเท่านั้น และตอนนี้เขาไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้สัตว์กินพืชตัวนี้อีกต่อไปแล้ว
ทั้งที่เขาเกลียดการสุมหัวกันยิ่งสิ่งอื่นใด
แต่...
ทำไมหลังเจอหน้าครั้งแรกที่รถม้า เขาต้องคิดถึง
ทำไมจึงอยากเห็นหน้า ถึงขนาดไปสะกดรอยในหมู่บ้าน
ทำไมต้องออกไปตามหาทั้งที่โดนยิง
ทำไมอยากเก็บมันเอาไว้ใกล้ๆตัว ไม่ห่าง
ทำไมเขาไม่อยากให้มันจากไป
คำถามล้านแปดวิ่งวนอยู่ในหัวของฮิบาริ เขาไม่เข้าใจตัวเอง ไม่เข้าใจอารมณ์ ไม่เข้าใจเหตุผล เขารู้แต่ว่า ตอนนี้ เวลานี้เขาปล่อยมันไปไม่ได้ ร่างสูงรวบแขนคนตรวจร่างกายตรงหน้า กดลงจมหายไปบนเตียงตัวเองด้วยแรงทั้งหมด ก่อนล็อคแขนขาคนเบื้องร่างด้วยร่างกายตัวเอง สายตาเผชิญหน้ากันอย่างจัง
แค่สึนะถูกจ้องจากดวงตาคมก็รู้สึกวูบวาบแล้ว แต่นี้ถูกล็อคแขนขา แถมหน้ายังเกือบจะชิดกันขนาดนี้ ทำเอาสมองไม่สั่งงาน หูอื้อตาลายไปหมด
"แกอยากกลับบ้านนักหรือไง" เสียงพูดจากเบื้องบน ดังขึ้นข้างหูสึนะที่ใบหน้าแดงกล้ำ
"หา?" สมองร่างบางยังไม่สั่งงาน คำพูดที่ได้ยินเหมือนไกลออกไปไมล์ๆ
"ฉันถามแกว่า แกอยากกลับบ้านนักหรือไง" ร่างสูงคาดคั้นเพิ่มมากขึ้น
"ได้โปรดเถิด ผม...อืม" สึนะพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ถูกริมฝีปากคนด้านบนปิดกั้นคำพูดที่ออกมาทั้งหมด
"แกเป็นตัวประกันของฉัน เป็นของๆฉัน ไม่มีสิทธิ์ไปไหนทั้งสิ้น" ร่างสูงได้ให้คำตอบของคำขอไปแล้ว จูบที่หนักหน่วงไม่ล้อเล่นถูกทาบทับจนอีกฝ่ายหายใจไม่ทัน เรียวลิ้นร้อนวิ่งวนอยู่ข้างในปากของร่างเล็ก ราวกับจะชิมความหวานทุกซอกมุม
"อืม คุณฮิบาริ" เสียงเรียกของเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลที่เริ่มช้ำชื่นไปด้วยน้ำ เรียกสติฮิบาริกลับมา
"ได้โปรดเถิด .. ผมต้อง .. กลับไปหา.. แม่" คำขอวิงวอนขาดช่วงปนเสียงหายใจหอบของร่างบางตรงหน้า ทำให้ฮิบาริจำต้องปล่อยตัวสึนะออกไปจากอ้อมกอด ร่างบางได้สติก็ลุกอย่างรีบเร่งไปนั่งหอบ ไกลออกไปจากเตียง
ความเงียบชวนอึดอัด สะท้อนไปทั่วบริเวณ
"ตอนนี้ฉันยังเจ็บแผล เดินทางไม่ได้ ไว้อีก 2-3วัน ฉันจะไปส่งแกคืนที่หมู่บ้านเอง" ฮิบาริเป็นคนตัดบทความเงียบทั้งหมดด้วยข้อสรุปสั้นๆ ก่อนล้มตัวลงนอนหันหลังให้แก่ร่างบางที่ยังนั่งตัวสั่นจากการถูกกระทำเมื่อครู่
สึนะออกไปนั่งปล่อยใจรับสายลมข้างนอกถ้ำ เขายังไม่สามารถเข้าหน้าร่างสูงติด
ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงร้อนวูบวาบเมื่อต้องสายตาคู่นั้น
ไม่เข้าใจว่าทำไมคุณฮิบาริถึงจูบเขา
ไม่เข้าใจว่าทำไมไม่นึกรังเกียจแม้จะโดนผู้ชายด้วยกันจูบ
ไม่เข้าใจทำไมตอนที่คุณฮิบาริบอกว่าจะส่งเขากลับ ใจจึงได้หายไปขนาดนั้น
สึนะไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่เขากำลังคิดคำนึงถึง พยุงตัวขึ้นจากเตียงมาจับจ้องคนที่นั่งอยู่ข้างนอกอย่างไม่เข้าใจตัวเองเช่นเดียวกัน
กลิ่นเนื้อย่างหอมฉุย ลอยออกมาจากข้างในถ้ำ เรียกสึนะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน แสงอาทิตย์เริ่มคล้อยลงมาใกล้จะมืดแล้ว กลิ่นเนื้อย่างหอมดิ่งดูดน้ำลาย ยังลอยตามลมมาเรื่อยๆ สึนะตัดสินใจเข้าไปดูในถ้ำ หาสาเหตุและก็พบที่มาของกลิ่นในไม่ช้า เนื้อสัตว์ 2 ชิ้น กำลังย่าง โชยควันหอมกรุน โดยมีร่างสูงผมสีดำนั่งเป็นพ่อครัวดูแลอยู่ห่างไม่ห่าง
ขนาดแผลยังปิดไม่สนิทดีเท่าไร แต่ยังอุตสาห์แอบออกไปจับสัตว์มาสินะ? สึนะเริ่มเป็นห่วงอาการคนตรงหน้าอีกครั้ง แม้ว่าเมื่อเช้าแผลจะปิดแล้วแต่ก็ยังคงต้องนอนพักอีกสักระยะหนึ่ง และไม่ควรออกกำลังกายหรือเคลื่อนไหวรุนแรง แต่นี้พ่อเจ้าประคุณไม่สนใจ เล่นออกไปวิ่งจับสัตว์มากินซะงั้นสิ
"ถ้าไม่อยากหิวตาย ก็มานั่งนิ่งๆ ซะ" คำสั่ง เฉียบขาด ดังขึ้น แม้สายตาของผู้สั่งจะไม่หันมามองผู้ที่มาใหม่แม้แต่น้อย
"ไม่เป็นไร คับผมไม่หิว" สึนะปฎิเสธ แต่กระเพาะเจ้ากรรมกลับไม่ร่วมมือด้วย เพราะหลังจากหลุดคำปฎิเสธออกไปเพียงเสี้ยววินาทีเสียงร้องประท้วงก็ดังขึ้นอย่างน่าอาย ร่างบางจำใจต้องยอมรับว่าตอนนี้เขาหิวจริงๆ หลังจากถูกจับมา ยังไม่มีมื้อไหนที่เขาได้กินแบบอิ่มจริงๆสักครั้ง ก่อนจำยอมเดินเข้าไปและทรุดตัวลงนั่งในทิศตรงกันข้ามกับผู้ที่สาระวนอยู่กับเนื้อย่าง
"เอา" เนื้อย่าง หอมกรุ่น สุกได้ที ถูกส่งข้ามกองไฟมาให้ สึนะรับมาก่อนกินอย่างหิวโหย
"ไม่ต้องห่วงฉันเป็นคนรักษาสัญญา อีก 2 วันฉันจะไปส่งแกคืนพวกพ้องแกเอง" คำพูดที่ลอยตามลมสร้างความอึดอัด...กลับมาเยือนในบรรยากาศอีกครั้ง แต่ครั้งนี้สึนะตัดสินใจเป็นคนทำลายมันเอง ในเมื่อคุณฮิบาริยอมส่งเขากลับไป เขาก็ไม่ควรจะไปใส่ใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกแล้ว
มองออกไปรอบตัว ข้าวของวางระเกะระกะไปทั่ว
"ระหว่างรอคุณหายดี ผมจะจัดข้าวของให้นะครับ" สึนะยิ้มกว้างสดใสที่สุด อย่างน้อยที่สุด เขาก็อยากทำอะไรเป็นการตอบแทนคุณฮิบาริบ้างแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดี
".... ตามใจ" สึนะไม่รู้ตัวเลยว่า รอยยิ้มเมื่อครู่ ทำให้ฮิบาริลืมหายใจไปหลายนาที ช่างเป็นรอยยิ้มที่สว่างสดใสดังท้องนภาแสนสวยเสียจริง ฮิบาริเปื้อนหน้าหนีไม่ยอมมองรอยยิ้มดังกล่าวอีกต่อไป ไม่ใช้ว่าเขาไม่ชอบหรอกนะ แต่กลัวจะตัดใจปล่อยคนตรงหน้าจากไปไม่ได้ต่างหาก
.
.
.
สึนะหาเสื้อเก่าๆของฮิบาริมาผูกเป็นผ้ากั้นเปื้อน ก่อนเริ่มงานที่รับปากไว้เมื่อคืนตั้งแต่เช้าตรู่ การทำความสะอาดห้องดูเหมือนจะเป็นสิ่งง่ายๆ แต่การทำสงครามกับห้องที่ไม่เคยถูกเก็บกวาดมาหลายปีไม่ใช่สิ่งนั้นเลย ระหว่างเก็บกวาดสึนะต้องพบกับกองเสื้อผ้าที่ดูเหมือนจะไม่ได้ซักมาเป็นปีๆ สยองกับเศษกระดูกสัตว์และคราบเลือดที่พบในบริเวณที่ไม่ควรพบ อย่างบนหลังตู้เสื้อผ้าสูง ไม่นับรวมสงครามกับกองทัพคราบ ฝุ่น ที่เกาะติดเหมือนจะไม่ยอมแพ้ต่อแรงกดถูที่เกิดขึ้นง่ายๆ
ส่วนเจ้าของบ้านตัวดี กลับนอนบนเตียง มองเขาทำงานเฉยๆ ไม่ยอมช่วยเหลือแต่อย่างใด สึนะไม่รู้ตัวหรอกว่าร่างเล็กในชุดผ้ากั้นเปื้อนจำเป็น เรียกความดันเลือดของฮิบาริให้พุ่งสุงได้ขนาดไหน
กว่าสึนะจะเก็บกวาดเสร็จสิ้น ตะวันก็เลยหัวไปมากแล้ว เหลือตู้เก็บของตู้เดียวที่วางอยู่ในสุดคูหา ตู้เดียวเท่านั้นที่ยังไม่ถูกจัดการทำความสะอาด ร่างสูงเจ้าของบ้านตอนนี้กรนสม่ำเสมอแสดงว่าหลับสนิท สึนะเดินเข้าไปหมายมั่นจะเก็บกวาดสิ่งที่อยู่ข้างในให้เสร็จสิ้น แต่เมื่อเปิดประตูตู้ออกมา แทนที่จะพบข้าวของล้นทะลักออกมาอย่างที่เคยประสบมากก่อน กลับมาเพียงเสื้อผ้าสตรียาวสีขาวตัวหนึ่งที่แขวนอยู่ กับรูปภาพสตรีผมดำแสนสวยอุ้มทารกที่มีใบหูสีนิลโผล่ออกมาจากเรือนผมสีเดียวกัน
สงสัยทารกนี้คงจะเป็นคุณฮิบาริ แววตาที่แสดงความเอาแต่ใจทอประกายมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้วนี้เอง แล้วผู้หญิงคนนี้ละโครงหน้าใกล้เคียงกับคุณฮิบาริจะต่างกันก็เพียงท่าทีที่สุภาพอ่อนโยน และดูใจดี ราวแม่พระ
ระหว่างที่คนหนึ่งกำลังสงสัย คนหนึ่งก็กลับเข้าไปอยู่ในภวังค์แห่งความฝัน
.
.
.
เด็กชายตัวเล็กที่มีรอยยิ้มกว้างกำลังวิ่งเล่นอย่างสนุกสนานในลานกว้างกลางป่าใหญ่ ไม่ห่างชายหนุ่มหน้าตาดี แต่กระเดียดไปทางหมาป่าเล็กน้อย หูตั้งชันสีทอง ที่กำลังนอนหนุนตักหญิงสาวผมดำด้วยท่าทางเปี่ยมสุข
.
.
.
ภาพตัดออกมาเป็นภายในถ้ำ เด็กชายผมดำพยายามฝืนนั่งกินอาหารบนเก้าอี้ขนาดใหญ่กว่าตัวหลายเท่า ข้างชายหนุ่มคนเดิมที่ยิ้มแป้นมองการกระทำอย่างขบขัน ก่อนยกตัวเด็กน้อยขึ้นมาวางบนตักทานข้าวด้วยกัน
.
.
.
ฟ้าฝนคุ้มคลั่งปกคลุมท้องฟ้าบดบังความสว่างสดใส ภาพชายหนุ่มคนนั้นเนื้อตัวเปื้อนเลือดที่ริ้นไหลออกมาจากหน้าอก บนฉากของพระจันทร์เต็มดวง กำลังทรุดกายลงบนพื้น หน้าเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของหญิงสาวผมดำที่เนื้อตัวสั่นไหวกลางสายฝน
.
.
.
ความหนาวของพิรุณหายไปแต่ความเย็นยะเยือกจากในถ้ำเข้ามาทำหน้าที่แทนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เด็กหนุ่มผมดำที่โตขึ้นทรุดเข่าลงนั่งข้างหญิงสาวคนเดิม ที่นอนอยู่บนเตียง พลางยื่นของและพูดอะไรบางอย่างกับเด็กคนนั้น แต่เขาไม่ได้ยิน
.
.
.
ความมืดเข้ามาปกคลุมทุกสิ่ง หูแว่วเสียงหวานอ่อนโยนสุดท้ายที่ดังออกมาอย่างห่างไกล "แม่ให้ ... ไว้ลูกมอบให้กับคนที่ลูกรัก และขอให้มีความสุขนะ เคียวยะ"
ฮิบาริสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมตัว "แฮ้กๆ " คนที่พึ่งตื่นหอบหายใจแรง .... ฝันหรือ? ฝันซ้ำซากถึงเรื่องในอดีต คนอย่างเขาจะฝันแบบนี้ไปทำไม
เสียงพลิกตัวตื่นอย่างกระทันหันของคนข้างหลังทำให้สึนะต้องรีบเก็บข้าวของและปิดประตูตู้อย่างรีบเร่ง แม้เขาจะได้รับอนุญาตให้ทำความสะอาดได้ แต่แน่ใจได้เลยว่าตู้นั้นคงจะนอกเหนือรายการแน่นอน สึนะรีบปั้นหน้าเดินออกมายิ้มรับอาการสะดุ้งตื่นของคนบนเตียง
"ตื่นแล้วหรือครับ ผมเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว" ตอนที่ทำความสะอาด สึนะพบกองเนื้อชนิดเดียวกับที่ฮิบาริย่างให้เขาทานวางอยุ่ เข้าใจว่าคงเป็นเนื้อที่เหลือมาจากเมื่อคืนนี้ เมื่อมีวัตถุดิบแล้วพ่อครัวเอกอย่างเขาก็ต้องแสดงฝีมือกันหน่อย ซุปเนื้อหอมกรุนถูกยกมาเสริฟคนที่พึ่งตื่นนอน ความอร่อยเทียบชั้นได้กับภัตคารในเมืองหลวง
"คุณฮิบาริเป็นอะไรไปหรือเปล่าคับ" สึนะยื่นถ้วยซุบให้ ดวงตาสีน้ำตาลชวนหลงใหลแสดงความห่วงใยห่างจากใบหน้าของฮิบาริแค่คืบ เมื่อสึนะยื่นหน้ามาสังเกตอาการผิดปกติของคนไข้ของเขา
"ไม่มีอะไร ไม่ต้องมายุ่ง" ร่างสูงพยายามกรบอาการที่เกิดขึ้นทั้งหมด พร้อมทั้งเขยิบออกห่าง พลางเปลี่ยนเรื่องคุยด้วยการหันซ้ายหันขวามองไปรอบๆห้อง
"ผมทำเสร็จแล้ว สวยมั้ยคับ" ร่างบางกระโดดลุกออกไป พลางกระตื้อรือร้นโชว์ผลงานของตัวเอง ที่เนรมิตห้องสุดโสโครกเป็นห้องที่สะอาดเอี่ยมอ้องในทุกตารางนิ้ว
"...ก็งั้นๆ" ฮิบาริตอบตรงข้ามกับความคิด คงต้องยอมรับแล้วว่าสัตว์กินพืชตัวนี้ ทำความสะอาดเก่งจริงๆ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าคูหาในถ้ำอับชื้นของเขา จะสว่างสดใสได้ขนาดนี้ มันเป็นเพราะการทำความสะอาด หรือเพราะมีเจ้าตัวยุ่งยืนอยู่กันแน่
ร่างมอมแมม ยืนบิดไปมา เหมือนกำลังตัดสินใจร้องขออะไรบางอย่างอยู่
"มีอะไรว่ามา"
"คือว่า .. เออ ... ผม .. ผมอยากอาบน้ำนะครับ พอจะมีที่ให้อาบน้ำได้บ้างมั้ยครับ" ใบหน้าหวานแดงกล้ำร้องความต้องการ
"ยุ่งยากจริงๆ เดียวตอนเย็นจะพาไป"
ตกเย็น พระอาทิตย์ทอแสงสีส้มใกล้ถึงเวลาผลัดเวรให้ดวงจันทร์ได้ออกมาสวัสดีนภากว้างแทน
ร่างสูงนำทางร่างบางเดินออกไปจากตัวถ้ำไม่ไกลมากนัก ก่อนหยุด และชี้มือแสดงให้สึนะเดินต่อไปเอง
เจ้าตัวคนอยากอาบน้ำ เดินไปอย่างระวัดระวัง ประสบการณ์ตกเหวทำให้สึนะรู้จักระวังตัวในการเดินในป่ามากยิ่งขึ้น พ้นจุดที่ฮิบาริหยุดยืนไม่ไกล เป็นเขตของเหวกว้างแต่ไม่ลึกที่พอมองเห็นก้นอยู่ไม่ไกล ข้างล่างตรงกลางมีแอ่งน้ำร้อนขนาดไม่กว้างมากนัก ไอน้ำพวยพุ่งขึ้นมา ท่าทางน่าสบาย
แต่ว่า ... แม้เหวจะไม่ลึก แต่หน้าผาชันแทบจะทำมุม 90 องศา ถ้าจะให้เขาลงไปเองก็พอจะลงได้ แต่คงจะต้องมีรอยถลอกกันบ้างละ สึนะได้แต่อ้ำอึ้งทำอะไรไม่ถุก ยากอาบน้ำก็อยาก แต่ก็ยังหาวิธีลงไปไม่ให้เจ็บตัวไม่ได้อยู่ดี
ร่างสูง ดูเหมือนจะอ่านใจออก จึงถือวิสาสะเข้ามาอุ้มเจ้าตัวยุ่งไว้ในอ้อมอก ก่อนออกแรงพากระโดดลงไปข้างล่างอย่างไม่ยากเย็น
"เอ้า อาบเร็วๆเดียวเป็นหวัดไปหรอก"
ร่างบางยังคงยืนเกรง ไม่ทำอะไรสักที จะให้เขาอาบได้อย่างไงเล่า ก็คุณฮิบาริเล่นมายืนมองอยู่อย่างนี้ ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่
ก็ ... ไม่เอาดีกว่า
"คุณฮิบาริกลับไปก่อนก็ได้นะครับ" สึนะตัดสินใจสื่อความหมายของตัวเองอย่างอ้อมๆไปผ่านคำพูด ซึ่งเจ้าตัวเองก็ดูเหมือนจะเข้าใจและยอมปฎิบัติโดยดี
"เสร็จเมื่อไรก็ตะโกนเรียกละกัน จะมารับ" ร่างสูงกระโดดหายลับเข้าไปในทิวต้นไม้ข้างหุบเหว
สึนะยิ้มออกมา เมื่ออยู่คนเดียวในที่สุด ร่างบางค่อยๆถอดชุดเดินทางเปื้อนฝุ่นและเลือด ที่เขาใส่มาตั้งแต่ออกมาจากโรงเรียนอย่างช้าๆ เผยร่างงดงามที่มีผิวเนียนสวยเกินผู้ชายโดดเด่นท่ามกลางแสงจันทร์ที่พึ่งทอแสง ก่อนที่จะลดระดับลงสุ่น้ำอุ่นเบื้องล่าง
สึนะคลี่ที่ผูกผมออกเพื่อทำความสะอาดเส้นผมยาวเลียดบ่า ความจริงเขาก็ไม่อยากจะไว้ผมยาวหรอกนะเพราะมันดูไม่เหมือนผู้ชาย แต่รีบอร์นเป็นคนสั่งให้ไว้ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่โรงเรียน นึกขึ้นมาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าปานนี้ ดีโน่กับรีบอร์นจะเป็นห่วงเขาขนาดไหนแล้ว แต่อีกไม่นานเขาก็คงได้กลับไปหาทั้ง 2 คนแล้ว
"พรุ่งนี้ก็คงจันทร์เต็มดวงแล้วสินะ" ร่างบางทอดอารมณ์ไปกับสายน้ำและแสงจันทร์กระจ่างยามค่ำอย่างสบายอารมณ์ มิรู้ตัวเลยว่าการกระทำของตนอยู่ในสายตาของผู้ที่กำลังจับจ้อง
จะว่าเป็นสัตว์กินพืชงี่เง่า หรือ รู้ไม่เท่าทันดี? ถ้าสั่งให้เขานั่งหันหลังอยู่ตรงนั้น ก็คงจะอดได้ดูของสวยงามที่สุดอย่างนี้แล้ว
ร่างสูงจ้องมองเรือนผิวขาวสะอาดกลางแสงจันทร์ข้างล่างอย่างหลงใหล ลาดไหล่งาม ผิวเนียนนุ้ม ที่เขาอยากสัมผัส ตีตราเป็นเจ้าของแต่เพียงคนเดียว
จะดีเพียงใด ถ้าผิวขาวนั้นเปื้อนไปด้วยรอยจูบสีแดงทั่วร่าง?
ยิ่งสัตว์กินพืชของเขาสยายผม ร่างบางกลางสายน้ำและควันที่พวกพ่วงโอบล้อมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลกระจายไปทั่ว เหมือนเป็นภาพที่ควรจะเกิดขึ้นแต่ในสรวงสวรรค์ ทำให้อารมณ์เขาพุ่ง จนเกือบจะคุมตัวเองไม่อยู่
นี้เขาเป็นไปได้ขนาดนี้เลยหรือ? นึกอยู่แล้วว่าการดูเจ้าตัวยุ่งอาบน้ำจะส่งผลเสียต่ออารมณ์ของเขาแน่ แต่มันก็อดไม่ได้ ยิ่งเห็น ยิ่งมอง ยิ่งอยากสัมผัส อยากแตะต้อง อยากเก็บเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว ระหว่างที่ฮิบาริกำลังเคลิ้มไปกับภาพข้างหน้า สึนะก็อาบน้ำเสร็จสิ้นและพยายามที่จะปืนหน้าผาชันขึ้นมาด้วยตัวเอง
คงจะไม่อยากถูกเขาอุ้มรอบ 2 สินะ? ฮิบาริมองความพยายามของสึนะ 2-3 ครั้งอย่างขำๆ ก่อนที่คนที่พยายามปืนหน้าผาจะปลงตกว่าคงไม่สามารถขึ้นไปได้ด้วยตัวเองจริงๆ และร้องเรียกฮิบาริให้มาช่วย
ฮิบาริอยากแก้เผ็ดร่างบางที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งบ้าง จึงเมินเสียงเรียกอยู่พักใหญ่ ปล่อยให้ร่างบางที่พึ่งขึ้นมาจากการอาบน้ำตากลมหนาวยามค่ำคืน
"แกล้งพอแล้วมั่ง" เมื่อเห็นร่างบางของสัตว์กินพืชสั่นสะท้านเพราะความหนาวเย็น ฮิบาริก็ยอมแพ้และลงไปอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก เตรียมกระโดดขึ้นมาอีกครั้ง สึนะที่กลัวจะผลัดตกลงมา โอบแขนรอบคอร่างสูงไว้แน่น วินาทีก่อนกระโดด สึนะทันเห็นรูปสตรีผมดำแสนสวยคนเดียวกับรูปถ่ายในล็อกเกอร์ที่คล้องอยู่รอบคอร่างสูง
ขณะที่ฮิบาริไม่รู้ตัวเลยว่า กำลังถูกแอบมองของรักของห่วงรอบลำคอ เพราะโดนกลิ่นกายหอมฟุ้งหลังการอาบน้ำ อ้อมกอดรัดของร่างบาง บวกอารมณ์เก่ายังคุกรุ่นอยู่ เล่นงานจนแทบเป็นบ้า!!
หลังถูกอุ้มกลับมายังถ้ำ ความหนาวเย็นทำให้สึนะตัดสินใจยกหม้อซุปที่เขาทำไว้ตั้งแต่กลางวัน มาตั้งบนกองเพลิงกลางห้องอีกครั้ง หวังกินเรียกความอบอุ่นให้ร่างกายได้บ้าง ร่างสูงตามเข้ามานั่งคนละข้างของกองไฟ
เสียงซุปค่อยๆเดือด ราวกับเป็นจังหวะต่อเนื่องที่แสนไพเราะ
"คุณฮิบาริ คุณมีครอบครัวหรือเปล่าคับ" เงียบงันกันอยู่นาน .... ความสงสัยของสึนะที่อัดอั้นมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ก็ชนะสติยั่งคิดของร่างบางในที่สุด
ฮิบาริตกใจกับคำถามของสึนะ ก่อนหันไปมองตู้เก็บของสุดคูหา ประตูตู้ปิดไม่สนิทเป็นพยานวัตถุอย่างดีว่าเคยมีคนแอบเปิดออกดูข้าวของข้างใน
รอยยิ้มที่เคยปรากฎหายไป กลายเป็นสีหน้าทมิฬ ดวงตาอ่อนโยน กลับมีแววของเพลิงโทสะที่ลุกโชนอยู่ภายใน
โกรธ? คุณฮิบาริกำลังโกรธเขาอยู่แน่ๆ นี้เขาทำผิดใช่มั้ย? สีนะหวาดกลัวผลจากการกระทำอันไร้สติของตัวเอง ร่างบางสั่นอย่างไหวหวั่น ฉับพลันต้นแขนทั้งคู่ของสึนะถูกบีบด้วยมืออันหนาหนักของอีกฝ่ายที่กระโดดข้ามเปลวเพลิงข้ามฝั่งมา
"แก เห็นอะไรบ้าง" เสียงคาดคั้น ขู่จนเกือบกลายเป็นตะคอกใส่ร่างบาง
"ผมเห็นแค่รูปของผู้หญิงคนหนึ่งเท่านั้นเอง" สึนะตอบเสียงสั่น กลัว เขากลัวที่สุด ไม่ได้กลัวจะถูกทำร้าย แต่กลัวฮิบาริจะโกรธ
เห็นหมดแล้วสินะ... ฮิบาริถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน อารมณ์โกรธลดลงเมื่อเห็นสีหน้าของสึนะ เป็นความผิดเขาเองที่ดันไม่ล็อคประตูตู้ให้หนาแน่นกว่านี้ มือแกร่งยอมปล่อยต้นแขนบาง แต่สึนะยังไม่ยอมก้าวออกห่าง ร่างเล็กดึงดันที่จะยืนชิดปิศาลที่แสนน่ากลัวแห่งเมืองวองโกเล่
"ครอบครัวคุณอยุ่ที่ไหนกันหรือครับ" สึนะถามข้อสงสัย อยากรู้ เขาอยากรู้ทุกสิ่งที่เกี่ยวกับคุณฮิบาริ
"ตายไปหมดแล้ว พ่อฉันเป็นมนุษย์หมาป่า แม่เป็นผู้หญิงธรรมดา ฉันเลยเป็นลูกครึ่งมนุษย์หมาป่า - คน" เมื่อสึนะไม่ถอย ฮิบาริเป็นฝ่ายจำยอมก้าวถอย ทรุดตัวลงนั่งข้างกองไฟอีกครั้งแทน ก่อนตอบคำถามที่ร่างบางสงสัยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับไม่สนใจสิ่งใดในโลก
"แล้วทำไมคุณถึงมาอยู่คนเดียวละครับ ไม่มีญาติที่ไหนเลยหรือครับ " เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมตอบ สึนะรุกมากยิ่งขึ้น
ภาพอดีตของเด็กน้อยผมดำที่ผ้าคลุมหนาใหญ่เลื่อนหลุด โชว์หูสีดำนิลที่ตั้งชูกับหางสีดำยาวเป็นพวง ท่ามกลางเสียงตะโกนขับไล่และก้อนหินที่ปลิวเข้ามาทั่วสารทิศปรากฎขึ้นมาในความทรงจำของฮิบาริ ใช่ว่าเขาไม่เคยลอง สมัยเด็กฮิบาริเคยแอบหลบแม่เข้าไปเล่นกับเด็กในหมู่บ้าน แต่ทันทีที่ผ้าคลุมเลื่อนหลุด เด็กที่เคยเล่นด้วยกันก็หวาดกลัวต่อความผิดปกติของเขาทันที พากันโยนหินและตะโกนขับไล่ราวกับเขาไม่ใช่คน
ประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้ฮิบาริไม่เชื่อใจในคนอีกต่อไป
"ไอ้ความเป็นลูกครึ่งของฉันเลยถูกขับไล่ต้องมาอยู่คนเดียว เพราะไอ้พวกมนุษย์อย่างพวกแกก็หวาดกลัวกับรูปลักษณะของฉันนะสิ" เสียงตอบที่กลับออกมายังไม่สะดุด แต่... ดวงตาที่มองเปลวไฟเริ่มโชติช่วงขึ้น เหมือนการกระทำของร่างบางจะไปสกิดอะไรบางอย่างในความรู้สึก
"คุณฮิบาริ เหงาหรือเปล่าครับ" คำถามจี้ใจง่ายๆ กระแทกต่อมโมโหของฮิบาริได้ชะงัก ความใจดีหมดไปแล้ว มือแกร่งโผนเข้ามาบีบที่ลำคอเล็ก แต่ก่อนที่ฮิบาริจะขาดสติจนเผลอใช้ความรุนแรงกับร่างเล็กเป็นครั้งที่ 2 สึนะสะบัดหลุดและถลามาโอบกอดเขา อ้อมกอดอุ่นของร่างบางกับหยดน้ำใสๆ ที่รื้นออกมาจากดวงตาทำให้ฮิบาริทำอะไรไม่ถูก
ร้องไห้?
ร้องไห้ทำไม? เขายังไม่ทันได้ทำอะไรสักอย่าง
"ผมขอโทษ ผมขอโทษ" สึนะพลั่งพรูคำขอโทษจากใจทั้งที่ยังโอบกอดร่างอีกฝ่ายไว้แน่น กอดที่เหมือนแม่ที่กอดปลอบลูกชาย
สงสาร เขารู้สึกสงสารคุณฮิบาริจับใจ
ตอนนี้สึนะเข้าใจแล้วว่าทำไมชายคนนี้ถึงโหดร้าย เพียงต้องการปกปิดความเหงาของตัวเองเท่านั้น
เข้าใจเพราะเป็นอย่างนั้นเช่นเดียวกัน เจ้าห่วยที่ไม่มีใครต้องการ ถูกเพื่อนๆทำร้าย ความเหงา ความเปล่าเปลี่ยวของคนที่อยู่ท่ามกลางความรังเกียจมันเกินทนทาน แต่ที่โรงเรียนแม้เจ้าห่วยอย่างเขาจะถูกรังแก ก็ยังมีรีบอร์น รุ่นพี่ดีโน่ กับโรมาริโอ้ รวมทั้งแม่ ที่คอยช่วยเหลือเป็นห่วงเป็นใยเสมอมา
แต่สำหรับฮิบาริ ไม่มีใครที่อยู่กับเขา ความเปล่าเปลี่ยวท่ามกลางความมืดของป่า มันโหดร้ายเกินไป ชะตาของชายคนนี้โหดร้ายเกินไปแล้ว
สึนะร้องไห้กับอกแกร่งอย่างไม่อาย
ร้องไห้ให้กับความโหดร้ายในชีวิตของปิศาล ผู้ลักพาตัวเขามา
ฮิบาริ ยืนนิ่งเป็นหินเมื่อถูกสึนะโอบกอด ไม่เข้าใจว่าทำไมเจ้าสัตว์กินพืชจึงร้องไห้ แต่เพราะเหตุใดอ้อมกอดของร่างเล็กจึงอบอุ่นขนาดนี้ อุ่นจนเขาอยากจะหลับไปในอ้อมกอดตลอดกาล ความรู้สึกบางอย่างที่เป็นศัตรูกับความเข้มแข็งในการเอาตัวรอดของฮิบาริทวีทับเพิ่มขึ้น
ราคะไม่ใช่ปัญหา แต่ความอ่อนแอจากการถูกกอดนี้สิ ที่ละเลยไม่ได้
"ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปไอ้สัตว์กินพืช" ร่างสูงดึงสติกลับออกมา ผลักร่างบางออกไปจากอ้อมอกอย่างแรงก่อนที่ความรู้สึกนั้นจะฆ่าเขาทั้งเป็น
"โอ้ย" ร่างสึนะกระเด็นไปชนกับผนังถ้ำจนต้องร้องครางอย่างเจ็บปวด ก่อนส่งสายตาคำถามมาให้ผู้ที่ผลักเขา สึนะเจ็บกาย แต่ฮิบาริกลับร้าวไปถึงหัวใจ
"พรุ่งนี้ตอนเย็น ฉันจะไปส่งแกคืนตามสัญญา แล้วฝากบอกคนในหมู่บ้านด้วยว่าอย่าได้ว่าสุมหัวในเขตป่าของฉันอีก ไม่งั้นคราวนี้ฉันจะขย้ำให้ตายซะ" ฮิบาริตวาดกลับ พยายามไม่สนใจความเจ็บปวดที่พึงกระทำไปกับร่างเล็ก เขาจำเป็นต้องอยุ่ให้ไกลจากร่างบางแล้ว ก่อนที่จะเดินไปนอนบนเตียงหันหลังให้สึนะ
"คุณฮิบาริ อย่าทำร้ายคนอีกได้มั้ยครับ พวกชาวบ้านแค่ต้องการเข้ามาหาของป่าไปเลี้ยงตัวเองและครอบครัวเท่านั้น" สึนะผู้ไม่เท่าทันโลก พยายามหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ทำร้ายขึ้นมาอีก คงจะไม่มีใครมาวุ่นวายกับปิศาลตัวนี้อีกแล้ว
คนบนเตียงพลิกตัวกลับมามองหน้าคนขออย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะยิ้มเหยียด ไอ้เจ้านี้ ขอไม่ให้เขาทำร้ายคน ทั้งที่พวกนั้นพยายามฆ่าเขานี้นะ อ่อนต่อโลกจริงๆ
"ฉันไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายกับของๆฉัน ที่ๆของฉัน แต่ถ้าแกสาบานว่าจะเป็นทาสฉันไปตลอดชีวิต ฉันก็อาจจะเก็บข้อเสนอมาพิจารณาก็ได้" ฮิบาริยื่นข้อเสนอที่แน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่มีทางตอบรับเพื่อตัดบทสนทนา ก่อนที่จะพลิกตัวกลับไปมองผนังถ้ำ จะได้ไม่ต้องเห็นหน้าเจ้าตัวที่กำลังสร้างความวุ่นวายในใจเขาตอนนี้อีก
ฮิบารินอนไม่หลับ ปิดตาลงคราวใดก็ต้องมีภาพไอ้เจ้าสัตว์กินพืชตัวนั้นโผล่ขึ้นมาในสมองทุกครั้ง ทั้งๆตัวมันเองก็นอนอยู่อีกฝากหนึ่งของห้อง แต่ทำไมเขาถึงโหยหา คิดถึงตลอดเวลาจนเหมือนเป็นบ้าขนาดนี้
"อืม ... หนาว" เสียงครวญครางกระสับกระส่ายของคนที่อยู่ในห้วงแห่งความคิดถึงดังขึ้น จนฮิบาริอดไม่ได้ที่ต้องลุกออกมาจากเตียง
เป็นอะไรไป? ทำไมเจ้าสัตว์ตัวนี้ถึงท่าทางร้อนรน กระสับกระส่ายขนาดนี้? ฮิบาริเอื้อมมือไปแตะหน้าผากของร่างบางที่นอนอยู่กับพื้นหินเย็นๆ อุณหภูมิที่ร้อนเกินปกติแสดงว่าเจ้าตัวนี้กำลังเป็นไข้
"หนาว ...หนาวจังครับแม่" คนที่ตกอยู่ในพิษไข้ เริ่มหนาวสั่นมากขึ้น มือไม้อยู่ไม่สุข ไขว่ขว้างอากาศราวกับจะจับมาห่ม
ฮิบาริอุ้มร่างบางขึ้นมาแนบอก ก่อนจะพาไปนอนที่เตียงของตัวเองและโอบร่างบางที่หนาวสั่นไว้แน่นเพื่อใช้ความร้อนจากร่างตัวเองห่มแทนผ้าห่ม
"อืม รีบอร์น อยู่ไหนนะ" ผู้ที่ยังไม่ได้สติ เริ่มเฟ้อเพราะพิษไข้ แต่นั้นกลับยิ่งจุดอารมณ์เดือดให้ผู้ที่เฝ้าพยาบาลอยู่ไม่ห่าง ยิ่งเมื่อผู้เป็นไข้เฟ้อเรียกชื่อต่อไป สติและการหยั่งคิดของฮิบาริก็สลายไปในทันที
"รุ่นพี่ดีโน่ ผมไม่สบาย" เฟ้อหาคนอื่นยังพอว่านี้เล่นเฟ้อหาไอ้เจ้าผมทองจอมหักหลังคนนั้นเลยหรือ
ฮิบาริประกบปิดริมฝีปากร้อนจากพิษไข้ ปิดกั้นเสียงเฟ้อของสึนะที่จะออกมาต่อไป สึนะจะเฟ้อถึงใครอีกเขาไม่อยากฟังอีกแล้ว
ราคะที่เกิดจากความหึงหวงครองงำสติแทนสำนึกของฮิบาริ
เป็นของของเขายังไม่สำนึก เฟ้อหาคนอื่น อย่างนี้มันต้องลงโทษให้หลากจำเสียบ้าง
จูบ เร่า ร้อน แรง กวาดความหวานในปากสึนะอย่างไม่ปรานี ผู้ที่ยังเฟ้อเพราะไข้ขึ้น ไม่มีสติพอที่จะขัดขวาง จึงได้เพียงแต่โอนอ่อนผ่อนตามไปตามความหวานที่เกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่พ้น
เมื่อลิ้มรสชาติในปากจนจุใจ ฮิบาริเริ่มย้ายจุดหมายมาที่จู่โจมที่ซอกคอขาวแต้มสีแดงจากพิษไข้ที่ฮิบาริอยากเข้าไปคลุกเคล้ามาตั้งแต่เมื่อเย็น ลิ้นร้อนไลเสียชิมรสไปทั่ว ก่อนลงมอบจุมพิตร้อนที่หน้าอกและลาดไหล่สีขาวยั่วสายตา
"อืม ...." ร่างบางเริ่มบิดเร่า ตอบสนองแรงอารมณ์อย่างไม่รู้สึกตัว
ฮิบารินึกไม่ถึงว่า รสชาติร่างบางจะหอมหวานขนาดนี้ หวานจนเค้าเองก็ไม่อยากละการกระทำอีกต่อไปแล้ว เสื้อของสึนะถูกดึงทึ้งลงอย่างรุนแรง มากองอยู่ที่เอวบาง
ถือเป็นโชคร้ายของนายก็แล้วกัน ที่ดันรสชาติดีจนหยุดไม่อยู่ขนาดนี้
.
.
.
แต่ก่อนที่ฮิบาริจะทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้นจากแรงโกรธ เสียงเฟ้อของสึนะช่วยดึงเหตุการณ์ทุกอย่างไม่ให้เลวร้ายไปกว่านี้
"อา ... คุณฮิบาริ ช่วยผมด้วย ผมหนาว..." เจ้านี้เฟ้อถึงเขา ให้เขาช่วย ทั้งที่เขาเป็นคนร้ายลักพาตัวมันมาเอง ฮิบาริหยุดการลุกลาน และกลับมามอบจุมพิตเบา อ่อนโยน ที่ริมฝีปากคนที่ตกเป็นเบี้ยล่างแทน ราวกับจะถ่ายทอดความรู้สึกทั้งหมดที่บรรยายไม่ได้ให้ซึมลึกไปถึงหัวใจของอีกฝ่าย
ถ้ามันหนาว เขาจะเป็นคนโอบกอดให้ความอบอุ่นมันเอง
ร่างบางหยุดอาการดิ้นรนจากพิษไข้และกอดตอบอ้อมอกอุ่นอย่างเผลอไผล่ ค่ำคืนนั้น ฮิบาริ เคียวยะ กับ ซาวาดะ สึนะโยชิ นอนหลับไปในอ้อมกอดของกันละกัน
.
.
.
TBC
รอนานมั้ย
(พายุรองเท้า ใครรอแก้ว่ะ หลงตัวเองไปแล้ว)
เอาน่า เอาน่า มาต่อครับผม หวังว่าเพื่อนๆที่อ่านกันจะรอกันอยุ่นะ
ฝากบล็อคสักหน่อย
http://mod1234-takoyaki.exteen.com
นะค่ะ
ความคิดเห็น