คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่ 2 ทะเบียนรักขื่นขม 2
“หล่อนย้ายไปนั่งตรงโน่นซิ ตรงนี้ที่ของหลานสะใภ้ของฉัน พาภรรยาในอนาคตของแกมานั่งตรงนี้ซิเจ้าราม” เอ่ยเสียงหยัน พลางชี้นิ้วสั่ง ก่อนที่จะทำสีหน้าสะใจเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของเพียงตะวัน
เพียงตะวันถึงกับตกใจกับสิ่งที่ราเชนกล่าวออกมา หัวใจตกหล่นไปอยู่ที่พื้น แล้วเงยหน้าไปมองรามซึ่งยังคงทำหน้านิ่ง นึกน้อยใจกับท่าที นี่เขาไม่คิดที่จะปฏิเสธกับสิ่งที่ราเชนพูดออกมาบ้างหรือ ทำไมทำเหมือนว่ามันคือเรื่องจริงแบบนี้ หัวใจดวงน้อยที่มีรูพรุนอยู่แล้วกับการกระทำที่เย็นชาในหลายวันที่ผ่านมาของราม ที่ทำเหมือนเธอเป็นอากาศ ไม่มีชีวิตจิตใจ ทอดทิ้งไปไม่เคยมาดูแล ได้เพิ่มความเจ็บปวดเป็นหลายเท่าตัว น้ำตาใสไหลมาออคลออยู่ที่เบ้าตา
“ฉันบอกให้เธอย้ายไปนั่งที่อื่นไง พูดไม่ได้ยินหรือไง ที่ตรงนี้ของหนูพิมเขา” ตะคอกเสียงดัง
“ไม่เป็นไรค่ะคุณปู่ พิมนั่งตรงไหนก็ได้ค่ะ ให้ภรรยาพี่รามนั่งเถอะค่ะ” พิมพ์ชนก ภูริพิพัฒน์ หรือพิม ลูกสาวเจ้าของธุรกิจโรงแรมชื่อดัง แห่งภาคเหนือ คนที่ราเชนหมายปองอยากได้เป็นลูกสะใภ้เอ่ยเสียงหวาน ฉีกยิ้มแหย่ๆ เพราะกลัวว่าภรรยาของพี่ชายจะเข้าใจผิด
“ไม่ได้หนูพิม ปู่จะให้หนูพิมนั่งตรงนี้ มันเป็นที่ที่หนูพิมควรจะได้นั่ง ไม่ใช่ที่ของแม่ผู้หญิงคนนี้” พลันหันไปตะคอกใส่เพียงตะวันอีกรอบ “ลุกไปสิ ยังจะนั่งบื่ออยู่อีก เจ้ารามพาหนูพิมมานั่งตรงนี้”
ฝ่ายเพียงตะวันก็ตกใจสะดุ้งโหยงกับเสียงสั่งที่ดังสะท้าน แล้วพลันลุกขึ้นทันที แล้วถอยไปด้านหลัง น้ำตาใสมันกำลังเอ่อล้น มือไม้เริ่มสั่น ได้แต่ยืนมองรามประคับประคองผู้หญิงคนนั้นไปที่เก้าอี้ตัวนั้นโดยที่ไม่ชายตามามองหล่อนเลยสักนิด หัวใจดวงน้อยเจ็บราวกับถูกบีบ
ฝ่ายรามก็ทำตามคำสั่งของราเชน พาพิมพ์ชนกมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวนั้น
“ตักข้าวเลยนางช้อย” ราเชนหันไปบอกช้อยอย่างอารมณ์ดี
ฝ่ายช้อย แม่บ้านวัยสี่สิบก็นึกสงสารเพียงตะวันคนนี้จับใจ แต่ก็ไม่อาจจะช่วยอะไรได้ ในเมื่อคนเป็นสามียังนิ่งเฉย แล้วคนอย่างเธอจะทำอะไรได้ ก่อนจะรีบทำตามคำสั่ง
“อ้าว มายืนบื่อทำไม กลับไปที่ที่เธอควรจะอยู่สิ ไป!!” เอ่ยไล่น้ำเสียงหยัน
สองเท้ารีบก้าวออกจากคฤหาสน์ทันทีเมื่อโดนไล่ หล่อนไม่อาจจะทนอยู่เพื่อดุภาพที่สามีนั้นเอาอกเอาใจหญิงอื่นได้ เพียงท่าทีที่เฉยเมย มันก็ทำให้เจ็บทุรนทุราย ทรมานราวคนใกล้ตายพอแล้ว ก่อนที่เจ้าหล่อนจะทิ้งตัวลงกับเตียงนอนแล้วปล่อยให้สายธาราไหลริน ระบายความชอกช้ำในหัวใจ
บทที่ 2 ทะเบียนรักขื่นขม 2
“ทานเลยหนูพิม ปู่สั่งให้แม่บ้านทำอาหารที่หนูชอบทั้งนั้นเลยนะ อ้าวเจ้ารามตักอาหารให้น้องสิ”
ฝ่ายพิมพ์ชนกก็สีหน้าไม่สู้ดี รู้สึกอึดอัดไม่น้อย รู้ดีว่าราเชนนั้นอยากให้ความสัมพันธ์กับหล่อนกับรามเป็นมากกว่าพี่น้อง แต่สำหรับหล่อนแล้ว มันไม่มีทางจะเป็นไปได้ เพราะเธอไม่ได้รักราม และที่สำคัญเธอก็รู้ว่ารามก็ไม่ได้คิดกับเธอไปในทางชู้สาวเช่นกัน
“ทำไมไม่ทานล่ะหนูพิม อาหารไม่อร่อยหรือ เดี๋ยวปู่จะได้ให้แม่บ้านทำให้ใหม่”
“อร่อยค่ะ แต่พิมไม่ค่อยหิวนะคะ” เจ้าหล่อนตอบเสียงแผ่ว ดวงตาฉายชัดความกังวล หล่อนกลัวว่าตนเองจะเป็นต้นเหตุให้รามและเพียงตะวันทะเลาะกัน และที่หนักใจมากที่สุดตอนนี้ก็คือ ไม่รู้ว่าจะบอกกับราเชนว่าอย่างไรดี ในสิ่งที่ชายชรานั้นหวังไว้ ก่อนจะลอบพ่นลมหายใจดังฟู่ออกมา
“ไม่หิวก็ต้องทานนะหนูพิม เราจะได้แข็งแรง เราตัวนิดเดียวเอง ปู่อยากให้หลานสะใภ้ปู่แข็งแรง” ชายชราเอ่ยอย่างมีหวัง เพราะต้องการดองกับตระกูลภูริพิพัฒน์
เมื่อเจอประโยคนี้ยิ่งทำให้พิมพ์ชนกหนักใจ จนต้องลอบมองคนที่นั่งตรงกันข้าม ที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาบ้าง ทั้งๆ ที่สมควรจะเอ่ยแก้แล้วอธิบายให้ราเชนเข้าใจ ทำไมพี่ชายของหล่อนถึงทำเฉยชานักกับเรื่องนี้ แถมยังทำเหมือนไม่ใส่ใจว่าภรรยาจะคิดอย่างไรอีก จนพิมพ์ชนกเริ่มขมวดคิ้วสงสัย
ฝ่ายรามก็นั่งนิ่ง ไม่ปฏิเสธเรื่องความสัมพันธ์ของตนและพิมพ์ชนกออกไป เขาไม่อยากให้ราเชนนั้นทุกข์ใจ รู้ดีว่าชายชราหวังมากแค่ไหนในความสัมพันธ์ ที่สำคัญตนนั้นอยากจะเห็นสีหน้าของภรรยาสาวว่าจะเป็นอย่างไร เพราะหากได้เห็นคราบน้ำตา มันก็แสดงว่าเจ้าหล่อนนั้นเจ็บปวด ซึ่งเขาต้อการให้เป็นแบบนั้น รามนั่งเงียบๆ จนกระทั้งทั้งสามทานข้าวเสร็จ แล้วพิมพ์ชนกจึงขอตัวกลับ
“พี่ขอโทษนะน้องพิมที่คุณปู่พูดแบบนั้นและที่พี่ไม่ได้ปฏิเสธออกไป พี่ไม่อยากทำให้คุณปู่ท่านเสียใจ น้องพิมเข้าใจพี่นะ” เอ่ยออกมาขณะเดินออกมายังหน้าคฤหาสน์ ซึ่งตอนนี้ก็มีสายตาคู่เศร้ากำลังจ้องมองไปที่ทั้งคู่อย่างเจ็บปวดหัวใจ
“ค่ะพิมเข้าใจพี่ราม แต่พิมกลัวว่าภรรยาพี่รามจะเข้าใจพิมผิด พิมไม่อยากทำให้พี่รามกับภรรยาทะเลาะกัน”
“ไม่ต้องไปใส่ใจหรอกน้องพิม น้องพิมไม่ต้องคิดมาก ไปเดี๋ยวพี่จะไปส่งบ้าน” ตอบอย่างไม่แคร์ในเมื่อสิ่งที่เขาต้องการ คือทำให้เพียงตะวันเจ็บปวด
“แต่ว่า…น้องพิม”
“เชื่อพี่สิ เรื่องนี่จัดการเองได้” พูดจบ ก็คว้าข้อมือเล็กแล้วตรงไปที่รถคันโต และรถคนนั้นก็พุ่งทะยานออกจากคฤหาสน์ครูสโซตรงไปยังตระกูลภูริพิพัฒน์
ฝ่ายเพียงตะวันแต่ได้มองตามรถคันนั้นไปด้วยม่านหมอกแห่งความเจ็บปวด ดวงตาปรากฏรอยร้าว ริมฝีปากบางเม้มแน่น แล้วหลับตาแน่นข่มกลั้นความเจ็บช้ำ
ขณะที่เท้าหนากำลังก้าวเข้าไปในตัวคฤหาสน์หลังไปส่งพิมพ์ชนกแล้วก็หยุดชะงัก ไม่ก้าวต่อไปในข้างใน รามเลือกที่จะเดินตรงไปยังเรือนหลังเล็กซึ่งมีภรรยาที่ตีทะเบียนอาศัยอยู่ หวังอยากจะเห็นสีหน้าของคนช้ำ แล้วจะได้สะใจอีกหน หัวใจดวงโตมันกำลังมืดมิด ความคลั่งแค้นฝั่งตัวเป็นรากลึก ยากที่จะถอดถอน
และเมื่อมาหยุดอยู่หน้าเตียงนอน เขาก็ได้เห็นคราบน้ำตาที่อยากจะเห็นนักหนา แต่ทว่ามันกลับไม่ก่อเกิดความสะใจ มันกลับทำให้หัวใจดวงแกร่งสั่นไหวอย่างไม่เคยเป็น จนรามต้องรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดฟุ้งซ่าน
“จำไว้ไอ้ราม แกต้องแก้แค้น แกต้องแก้แค้น” ท่องซ้ำๆ ในใจก่อนที่จะหันตัวกลับ แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้าง แต่ทว่าทำอย่างไร ก็ไม่นอนหลับ คราบน้ำตาที่เปื้อนแก้ม ดวงตาที่บวมช้ำ และสายตาที่ส่งมาให้อย่างตัดพ้อ มันทำให้หัวใจเขารู้สึกกระวนกระวาย จนต้องลุกขึ้นไปเปิดแฟ้มเอกสารงานต่างๆ ดู เพื่อจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน แต่ทำอย่างไรภาพนั้นก็ไม่จางหาย จนหงุดหงิดแล้วสบถออกมา
“ไอ้ราม แกจะใจอ่อนไม่ได้ ความเจ็บช้ำนั้นสมควรแล้ว จำให้ขึ้นใจสิไอ้ราม” รามเลือกระงับอารมณ์ฟุ้งซ่านด้วยการโทรหาลินา นางแบบสาวที่ถูกดึงเข้ามาร่วมแผนการ
“ได้สิคะราม เดี๋ยวลินาจะรีบไปหาคุณเลยนะคะ” น้ำเสียงที่นั้นแสนจะดี๊ด๊า ใบหน้าพุดรอยยิ้มขึ้นมาทันที เพราะนี่มันเป็นโอกาสทองสำหรับหล่อนที่จะได้เข้าไปในคฤหาสน์ครูสโซ และดำเนินแผนการจับเขาให้อยู่หมัด เมื่อกดวางสายไป เจ้าหล่อนก็จัดการกับเสื้อผ้าที่หลุดลุ่ยให้เข้าที ก่อนจะหันไปหาคู่ขาที่กำลังนอนรออยู่ที่เตียงกว้าง
“ฉันมีธุระ วันนี้คุณกลับไปก่อนนะกันมาร์ค”
“ธุระที่คุณว่าเกี่ยวกับแผนการจับไอ้นักธุรกิจคนนี้ละสิ ไอ้คนที่พึงจะแต่งงานไปหมาดๆ ไอ้ที่ชื่อราม” เอ่ยอย่างรู้เท่าทัน ในแววตานั้นส่อแววร้ายกาจไม่ต่างกัน ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินตรงไปหา “ได้ดีก็อย่าลืมผัวคนนี้ซะล่ะ” พลางลูบไล้ไปทั่วร่าง
ฝ่ายลินาก็เคลิบเคลิ้มไปกับการลูบไล้และซุกไซร์ของมาร์ค จนครางเสียงรัญจวนออกมา แต่ทว่าก็ต้องรีบถอยออกห่าง เพราะอย่างไรผู้ชายคนนี้ก็เป็นได้แค่คู่ขา แต่รามคือคนที่จะทำให้หล่อนสุขสบายไปทั้งชาติ
“รามขา ลินามาแล้วคะ” น้ำเสียงนั้นออดอ้อน พลางซบใบหน้าที่อกกว้าง ก่อนจะสอดส่องไปรอบๆ ห้อง จุดมุ่งหมายคือหามารหัวใจอย่างเพียงตะวัน แต่ทว่าก็ไม่พบ เจ้าหล่อนฉุดยิ้มอย่างเย้ยหยัน เพราะคิดแล้วว่าเพียงตะวันต้องไม่ได้อยู่ในห้องนี้ เพราะรามจะเอาตัวคนที่เกลียดและชิงชังราวกิ้งกือไส้เดือนซะมาอยู่ใกล้ตัวทำไม ที่แต่งงานด้วยก็เพราะอยากจะแก้แค้น
“รามขา วันนี้ลินาจะบริการคุณเองนะคะ”เริ่มเข้าแผนการที่วางไว้ทันที เพราะเสียโอกาสมาหลายหน แถมยังมีมารผจญถึงสองคน ไม่ว่าจะเป็นยัยหน้าจืดอย่างพิมพ์ชนก และเมียตีทะเบียนอย่างเพียงตะวัน พูดจบก็นั่งคร่อมร่างสูงใหญ่แล้วส่งยิ้มยั่วยวน มือสวยก็ลูบไล้ไปที่อกแกร่ง ลูบไล้วนไปวนมา แล้วเคลื่อนลงมาเรื่อยๆ ส่วนริมฝีปากที่แต่งแต้มมาจัดจ้านก็ทำหน้าขบเม้นตามซอกคอเพื่อสร้างความสยิวให้กับร่างสูง “รามขา ทำไมวันนี้คุณดูไม่มีอารมณ์เลยนะคะ หรือว่าลินาบริการไม่ถูกใจ”ต้องรีบร้องถามเมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของคนที่ตนกำลังปลุกอารมณ์
“เปล่าครับ วันนี้ผมมีเรื่องให้คิดนิดหน่อย” บอกเสียงขุ่น เพราะในหัวยังคงมีแต่ภาพของเพียงตะวันก่อน จะสลัดศีรษะไล่ แล้วหันมาสนใจนางแมวยั่วสวาทตรงหน้า รอยยิ้มแสนยั่วยวนไม่นานต้องแปลเปลี่ยนเป็นบึงตึงเมื่อเห็นรามหยิบอุปกรณ์ป้องกันขึ้นมาสวมใส่ ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะเผลอไผ หรือลืม ลินาเม้มริมฝีปากแน่นเพราะผิดแผน
และเมื่อเพลงสวาทจบลง ลินาก็ซบใบหน้าที่อกแกร่งอีกครั้ง พร้อมกับรีบออดอ้อนทำคะแนน “รามขา ลินามีความสุขที่สุดเลยคะที่ได้อยู่ราม รามขาทำไมรามไม่ให้ลินาย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะคะ ลินาอยากมาอยู่ใกล้ๆราม”
“ผมไม่อยากจะมีปัญหากับคุณปู่ คุณก็อยู่ในที่ๆ ของคุณ เราตกลงกันแล้วนี่ครับ” แล้วเอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูผืนโต มาพันรอบเอว ก่อนที่จะเดินหายเข้าในห้องน้ำ
ฝ่ายลินาก็เม้มริมฝีปากแน่น เพื่อสกัดกั้นความไม่พอใจ ที่รามนั้นปฏิเสธ และยิ่งนึกถึงข้อตกลงที่รามหยิบยื่นมาให้ เจ้าหล่อนก็อยากจะกรี๊ดลั่น เพราะทุกอย่างมันก็แค่แผนตบตาเพียงตะวันเท่านั้น รามหาได้พิศวาสหล่อนจริงๆ อย่างที่แสดงออกมาสักนิด “คุณคอยดูเถอะราม ยังไงลินาก็ต้องเอาคุณมาทำผัวอย่างถูกต้องให้ได้ ไม่ว่าจะทางไหน” ยิ้มเยือกเย็น ก่อนจะหันไปมองกระเป๋าหนังใบหรู แล้วเดินตรงไปหยิบอะไรบางอย่างมา กระตุกยิ้มอย่างร้ายกาจ เพราะมันคือกล้องวีดีโอตัวเล็กที่บันทึกเกมพิศวาสของหล่อนและราม “แกจะต้องอกแตกตายแน่นางเพียงตะวัน”
แสงตะวันทอสาดแสงส่องมากระทบกับใบหน้า เพียงตะวันก็ลืมตาตื่น สองเท้ารีบพาร่างที่อ่อนแรงตรงไปอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เจ้าหล่อนมีนัดกับคนสำคัญเอาไว้ ซึ่งอาจจะช่วยคลีคลลายปมปัญหาที่หล่อนกำลังตามสืบอยู่ แล้วไม่นานนัก
หล่อนก็ก้าวออกจากบ้านหลังน้อย หวังจะออกไปยังสถานที่นัดทันที แต่ทว่าก่อนที่จะออกไปจากคฤหาสน์ น้ำตาของเจ้าหล่อนก็ร่วงเผาะ เพราะสิ่งที่ทำให้เจ็บซ้ำใจ รามนั้นกำลังคลอเคลียกับลินาอย่างดุเดือด เพียงตะวันต้องปิดปากแน่นเพราะกั้นไม่ให้เสียงสะอื้นดังออกมา ก่อนที่จะทรุดตัวหมดแรงกับพื้น หัวใจดวงน้อยเจ็บร้าวกับภาพที่เห็น
ฝ่ายรามซึ่งออกมารับอากาศยามเช้าก็พลันเรียกลินาให้มาหาทันทีเมื่อเห็นว่าเชลยแค้นกำลังมองว่าที่ห้องนอนของตน ก่อนจะพลอดรักอย่างดุเดือด รามดันตัวให้ลินาชนกับขอบหน้าต่างและซุกไซร์ซอกคอขาว จงใจให้เพียงตะวันได้เห็น พลันกระตุกยิ้มออกมาเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทรุดตัวร้องไห้
น้ำตาใสไหลออกมาไม่ยอมหยุด ทั้งๆ ที่ สมองสั่งให้มันหยุด เพราะรู้ดีว่าตัวเองต้องเข้มแข็งจะอ่อนแอไม่ได้ แต่ทำยังไงมันก็ไม่ยอมหยุด ‘หยุดร้องสิยัยเพียง แกต้องหยุดร้อง แกต้องเข้มแข็ง’ พร่ำบอกกับตัวเองแล้วรีบเบือนหน้าหนี ‘เมื่อวานนี้อีกคน วันนี้ก็คือคน แล้วแบบนี้เธอจะทนได้อีกนานแค่ไหน’
ก่อนที่จะหลบตาแน่น ข่มกลั้นความเจ็บปวด สองมือที่สั่นเทาก็ดันร่างให้ลุกขึ้น แล้วรีบเดินออกจากจุดนั้นทันที ฝ่ายคนที่จงใจทำก็รีบผละออกห่างนางแบบสาวทันทีเมื่อเห็นว่าเหยื่อแค้นนั้นเดินห่างออกไป พลางหงุดหงิดในใจยังคงหาคำตอบไม่ได้ว่าทำไมเจ้าหล่อนถึงไม่ร้องโวยวาย ไม่ร้องถาม หรือว่าหล่อนจะรู้ความจริงทังหมดแล้ว แต่มันก็ไม่น่าจะใช่ เพราะหากรู้แล้ว เจ้าหล่อนคงไม่ยอมแต่งงานกับเขาแน่
“หยุดทำไมล่ะคะรามขา” ลินารีบร้องถาม เพราะตอนนี้ไฟราคะได้จุดติดแล้ว รีบเดินเข้าไปหาอีกครั้ง แล้วหล่อนก็เป็นฝ่ายเริ่มเสียเอง ดึงร่างสูงเข้ามาและดูดเม้มที่ซอกคอขาว แต่ทว่ากลับโดนปฏิเสธ
“วันนี้ผมต้องไปประชุม พอเถอะลินา ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะครับ เดี๋ยวผมจะไปส่งที่คอนโด”
ฝ่ายลินาก็เม้มริมฝีปากแน่น เพราะโมโหที่ถูกปฏิเสธอีกครั้ง
“ได้ค่ะราม” ถึงจะโมโหเพียงใด แต่ใบหน้านั้นยิ้ม เพราะสร้างภาพให้ดูดี ใบหน้านั้นยิ้มแต่ในใจมีแต่ความเดือนพล่าน ราวกับมีใครไปต้มน้ำอยู่ในนั้น แล้วเลือกเดินเข้ามาในห้องน้ำพร้อมกับเปิดฝักบัวให้น้ำไหลรินลงมากลบเสียงกรีด
“กรี๊ด!!!” กำมือทั้งสองข้างแน่นและนึกอย่างเจ็บแค้นใจ “อีมารผจญ ถ้าไม่มีแกปานนี้แผนการจับรามของฉันสำเร็จไปนานแล้ว ฉันเกลียดแกอีเพียงตะวัน” พูดอย่างอาฆาต
เมื่อระบายความอึดอัดและคับแค้นแล้ว ลินาก็ปั้นใบหน้าเปื้อนยิ้มออกมาและเดินเข้าไปควงแขนหนาแล้วเดินลงไปด้านล่าง และได้พบกับราเชน เจ้าของคฤหาสน์หลังงาม
“สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูลินาค่ะ เป็น/คู่ควงของหลานฉัน” ไม่ทันที่ลินาจะบอกความสัมพันธ์ เสียงห้วนๆ ก็ชิงพูดตัดหน้าเสียก่อน แถมใบหน้าเหยี่ยวย่นนั้นก็แสดงถึงความเหยียดยัน แถมประโยคต่อมาก็แทบทำให้ลินาควบคุมสติไม่ได้ อยากจะเข้าไปบีบคอชายชราคนนี้
“ทีหลังแกจะพาแม่นี่มา แกก็พาไปที่บ้านหลังเล็กโน่น อย่าเข้ามาในคฤหาสน์ของฉัน ที่นี่ให้หนูพิมพ์เข้ามาได้คนเดียว แกเข้าใจไหมตาราม ส่วนเธอก็รู้ไว้ด้วยนะว่าหลานฉันไม่ได้จริงใจกับเธอ เพราะหลานฉันมีคนรักอยู่แล้ว ซึ่งก็คือหนูพิมพ์ชนก” น้ำเสียงเต็มไปด้วยความรังเกียจ ปรายหางอย่างถากถาง
ฝ่ายลินาก็รู้สึกเจ็บราวกับโดนตบหน้า ถึงแม้จะได้ยินคำล่ำลือมาบ้างแล้วก็ตาม ไม่เคยคิดเลยว่าชายชราคนนี้จะร้ายกาจขนาดนี้ ก่อนจะลอบแสยะยิ้ม เจ้าหล่อนไม่ได้รู้สึกกลัวแต่อย่างใด เพราะแค่คนแก่คนเดียวทำไมจะจัดการไม่ได้ ถ้าเสแสร้งทำดีด้วยแล้วไม่ได้ผล หล่อนก็มีอีกหลายวิธีที่จะทำให้เรื่องมันง่าย
“ผมขอตัวก่อนนะคับคุณปู่ วันนี้ผมมีประชุมเช้า” เสียงเข้มเอ่ยบอกเพื่อตัดปัญหา รู้ดีว่าราเชนไม่ชอบผู้หญิงทุกคน ยกเว้นแต่พิมพ์ชนกคนเดียว ขนาดนางพยาบาลที่จ้างมาดูแลอาการของราเชน ยังถูกตะเพิดออกจากบ้านไป เพียงเพราะส่งยิ้มหวานให้เขา
“ไปสิ แต่ตอนเย็นรับหนูพิมพ์มาหาฉันด้วย”
“ครับ” ตอบสั้นๆ และลอบถอนหายใจออกมา คิดไม่ตกกับปัญหาเรื่องของเขาและพิมพ์ชนก ไม่รู้ว่าจะใช้ทางไหนบอกคนเป็นปู่ดี
เมื่อเดินมาถึงรถคันหรู ลินาก็แสร้งทำเป็นอยากเข้าห้องน้ำ แต่ที่จริงแล้วจงใจจะเดินไปหาใครสักคน เพื่อฝากของขวัญสุดพิเศษให้กับเพียงตะวัน และก็เจอถูกคนพอดี
“นี่เธอ ฉันฝากนี่ให้ยัยเพียงตะวันหน่อยสิ บอกว่าคุณรามฝากมาให้” ยื่นส่งไปให้
ฝ่ายจันก็หรี่ตามองลินาด้วยความอิจฉาและริษยา เพราะรู้สึกอิจฉาในความสวยและหุ่นดี แถมยังได้เป็นคู่ควงกับ คนที่เธอแอบฝันถึงทุกค่ำคืน พลางยื่นมือไปรับของนั้นมา เพราะแค่มองตาก็รู้อยู่แล้วของนั้นต้องไม่ใช่สิ่งที่ดี มันไม่ใช่ของขวัญอย่างที่ปากบอก “ได้สิ เดี๋ยวฉันจะเอาไปส่งให้ถึงมือเลย”
ฝ่ายลินาก็กระตุกยิ้มก่อนจะเดินกลับมาหาชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มที่ร้ายกาจ ภาวนาให้เพียงตะวันได้เห็นเจ้าสิ่งนี้เร็วๆ “แกได้เจ็บเจียนตายได้นังเพียงตะวัน”
ความคิดเห็น