“จริงสิ” โยคีซานดีพหันมามองหน้าหลานชาย จากนั้นก็ชี้นิ้วมาทางปืนที่อยู่ข้างเอวของจาดีส “ขอสิ่งนั้นให้ฉันจับแป๊บหนึ่งได้ไหม”
“คงไม่ได้หรอกลุง” เขาปฏิเสธเสียงแข็ง แม้จะสัมผัสได้ถึงพลังบางอย่างที่จะเข้ามาปกป้องคุ้มครองเขาจากภัยอันตรายต่างๆ
“แป๊บเดียวเท่านั้น” ลุงรบเร้าหลานชาย
“ไม่มีตำรวจที่ไหนส่งปืนให้คนอื่นจับหรอกลุง” เขายังปฏิเสธ
“ฉันอยากพันสายสิญจน์ที่ด้ามปืนเท่านั้น” โยคีซานดีพพูดแล้วล้วงสายสิญจน์เส้นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าย่ามสีเหลืองขมิ้น
“หือ...จะเอามาพันทำไม” จาดีสสงสัย
“มันจะปกป้องคุ้มครองเธอจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”
“ผมไม่เข้าใจ” สารวัตรหนุ่มขมวดคิ้ว
“ให้ฉันจับแป๊บหนึ่งเถอะ”
“ก็ได้” จาดีสยอม หลังจากที่เห็นสีหน้ากังวลของฝ่ายตรงข้าม พอเขาส่งปืนให้ อีกฝ่ายก็บริกรรมคาถาก่อนใช้สายสิญจน์พันที่ด้ามปืน
“อย่าแกะสายสิญจน์ออก” โยคีซานดีพส่งปืนคืนให้
“ปืนของผมกลายเป็นปืนวิเศษไปแล้วใช่ไหม” เขาหัวเราะทั้งที่ไม่รู้สึกขำ
“ใช้ยิงอมนุษย์ให้ได้”
“หือ...อมนุษย์? ” ชายหนุ่มนึกสะกิดใจ ที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็มาขอผูกสายสิญจน์ให้ ก่อนที่จะเดินทางจากไป
“ใช่ อมนุษย์”
“อมนุษย์แบบไหนหรือ” ดวงหน้าหล่อเหลาคมคายปรากฏความเคร่งเครียด เพราะลางสังหรณ์บอกว่าพายุร้ายกำลังจะมาเยือนเขาในไม่ช้า
“พวกที่ไม่ใช่คน”
“ผมรู้แล้วว่าไม่ใช่คน แต่เป็นอมนุษย์แบบไหน” เขามองฝ่ายตรงข้ามที่หยิบปรอทออกมาจากกระเป๋าย่ามแล้วใส่ปากอม จากนั้นก็ยกมือพนมพลางทำปากขมุบขมิบบริกรรมคาถาอะไรบางอย่าง แล้วร่างผอมแกร็นก็ลอยขึ้นฟ้าไปต่อหน้าต่อตาให้เห็น
“คุณพระ!” จาดีสช็อก ร่างทั้งร่างแข็งทื่อ เพราะไม่คิดว่าจะได้เห็นอะไรแบบนี้มาก่อนในชีวิต
ครั้นร่างผอมแกร็นหายวับไปด้วยคาถากำบังตน ดวงตาสีอ่อนก็ค่อยๆ หลุบลงมองนารีผลในมือที่เลิกขยับกระดุกกระดิกไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ จากนั้นเขาก็เดินเข้าบ้านไปอย่างมึนๆ และวางนารีผลลงบนโต๊ะที่ตั้งโน้ตบุ๊กในห้องนอน ก่อนวางปืนลงใต้หมอน แล้วก็ถอดเสื้อผ้าเดินเข้าห้องน้ำ
ระหว่างที่สายน้ำอุ่นพร่างพรมร่างกำยำเปล่าเปลือย จาดีสครุ่นคิดถึงคุณอนันต์อันใดที่จะได้จากนารีผล เช่น ทรัพย์สินเงินทองไหลมาเทมา หน้าที่การงานเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า หรือว่าเขาจะมีอายุเกินร้อยปีโดยที่ไม่เจ็บไข้ได้ป่วยอะไรเลย
เลิกคิดเถอะ
จาดีสสลัดความคิดอันน่าปวดหัวออกจากสมอง เมื่อออกมายืนอยู่ในห้องนอน โดยมีผ้าขนหนูผืนเดียวปกปิดส่วนล่าง เขามองไปที่โน้ตบุ๊ก เพราะความอยากรู้กระตุ้นให้เขาเปิดเครื่อง สุดท้ายร่างสูงกำยำก็นั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อที่จะอ่านข้อมูลที่ปรากฏอยู่ในอินเทอร์เน็ต
นารีผลมีเอาไว้เสพสังวาส
เขาอ่านโดยไม่ออกเสียง ก่อนหลุบสายตามองซากไม้ที่อยู่ใกล้มือ แล้วก็นึกสงสัยว่า เหล่าผู้มีอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายในป่าหิมพานต์จะเสพสังวาสกับซากไม้นี้อย่างไร เพราะมีขนาดยาวเลยฝ่ามือเขาแค่นิดเดียว
นอนเถอะ นอนดีกว่า
ชายหนุ่มนึกแล้วปิดเครื่อง ก่อนลุกขึ้นมาสวมกางเกงนอน แล้วซุกตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม แต่กลับนอนไม่หลับ เพราะกำลังกระสับกระส่ายเรื่องงาน เนื่องจากเมื่อเช้า ทางสถานีตำรวจนครบาลได้รับแจ้งความว่า พบศพผู้หญิงคนหนึ่งในโรงแรม ซึ่งร่างกายของผู้ตายนั้นปราศจากบาดแผล มีแค่ผิวหนังที่แห้งเหี่ยวย่นติดกระดูกอย่างน่าอัศจรรย์ และในห้องก็ไร้ร่องรอยการต่อสู้ใดๆ
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย