คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่5 ศึกชิงเค้กด้วยศักดิ์ศรี(???)
“ผมขอให้พวกเขากลับไป เพื่อจะได้อยู่กับคุณสองต่อสอง”
“ฮะ?? เมื่อกี้ว่าไงนะ” ฉันถามย้ำอย่างไม่มั่นใจในคำตอบ
“ผมรู้ว่าคุณได้ยิน” เขาพูดแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่น เหอะ! คิดว่าฉันไม่เห็นรึไงว่าหน้านายกำลังแดง คนบ้าอะไรเขินคำพูดตัวเอง ฉันนึกขำหมอนี่ในใจแต่คงนึกดังไปหน่อยเพราะเขาได้ยิน
“หัวเราะอะไร” เขาเลิกคิ้วขึ้นถามฉัน
“ปล่าวหรอก ฉันแค่จะบอกว่าเวลานายเขินแล้วน่ารักดี” ฉันหัวเราะต่อเนื่องทันทีที่แหย่เขาได้สำเร็จ ดูหน้าเขาสิแดงแจ๋เป็นตูดลิงแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหยิ่งๆอย่างคุณชายเชจะตกม้าตายเพราะผู้หญิงอย่างฉัน ภูมิใจ๊ ภูมิใจ^O^
“อ้อ! ขอบใจสำหรับปาร์ตี้นะ แล้วไหนล่ะเค้กที่จะให้ฉันเป่าน่ะ” ฉันถามขึ้นอย่างรีบร้อนเพราะอยากรู้ใจจะขาดว่าคุณชายจะเลือกเค้กยังไงให้ แต่ฉันก็ต้องผิดหวังเพราะเขาบอกว่าไม่มีเค้กให้ฉันเป่า แงๆ คนอุตส่าห์คาดหวัง ตั้งใจ จินตนาการไว้ซะล้ำเชียว
“ทำไมไม่มีเค้กล่ะ นี่มันวันเกิดSuper sexy starระดับโลกอย่างฉันเลยนะ” ฉันเอ่ยอย่างฉุนๆ ถึงฉันจะโตแล้วแต่ฉันก็ยังอยากกินเค้กวันเกิดตัวเองนะยะ!! คุณชายมองหน้าฉันนิ่งก่อนจะยื่นข้อเสนอบางอย่างให้ฉัน
“ถ้าคุณทำให้ผมพอใจในตัวคุณได้ ภายในเวลา30วัน ผมจะสั่งเค้กให้คุณเก้ากล่อง กล่องละหนึ่งปอนด์” เขายื่นเงื่อนไขอันไร้ความยุติธรรมมาให้ฉัน
“นายจะบ้าเหรอไง ให้ฉันเอาความสวยสะท้านฟ้าของตัวเองไปแลกกับเค้กแค่เก้าปอนด์เนี่ยนะ??” ฉันโวยวายทันทีที่เขายื่นข้อเสนอปัญญาอ่อนนั่นขึ้นมา เขาเห็นฉันเป็นคนยังไงกัน ถึงได้ใช้เค้กมาล่อฉันให้ทำแบบนั้นน่ะ เมื่อเห็นเขากำลังทำหน้าเหมือนครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่ฉันก็แทรกเสียงลงไปในความคิดของเขาทันที
“นี่!! ไอ้ที่ว่าทำให้นายสนใจฉันน่ะ มันหมายความว่ายังไง นายสนใจฉันอยู่ไม่ใช่รึไง??” ฉันเอ่ยถามออกไปแบบหน้าด้านผสานมึน ทำไมอ่ะ?? สวยไง ทำอะไรก็ไม่ผิด
“อะไรทำให้คุณคิดแบบนั้น” เขาย้อนฉันหน้าตาย
“ก็นายลงไปช่วยฉันตอนกำลังจะจมน้ำทั้งๆที่รู้ว่าฉันหลอก แถมยังจัดเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ฉันอีก” ฉันพูดไปตามความคิดของคนหลงตัวเอง
“แต่ผมก็ไม่ได้บอกว่าผมชอบคุณสักหน่อย” หมอนั่นกอดอกมองหน้าฉันอย่างขบขัน อย่างกับไอ้ความคิดที่ว่าเขาชอบฉันนี่มันตลกเสียมากมาย แต่นายนี่ยิ้มแล้วหล่อโลกละลายอ่ะ ให้ตายสิ >//< ฉันรีบทำหน้าบูดบึ้งกลบอาการดวงตารูปหัวใจเมื่อเห็นผู้ชายหล่อยิ้มเพื่อไม่ให้เขาจับได้ว่าฉันเกือบจะเคลิบเคลิ้มไปกับรอยยิ้มละลายใจของเขา ก็แค่เกือบเท่านั้นแหละย่ะ!! ฉันจะไม่มีวันละลายเพราะนายเด็ดขาด
“นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่” ฉันจ้องตาคุณชายอย่างเอาเรื่องเกิดมาเพิ่งเคยโดนคนหล่อหัวเราะเยาะทำให้สูญเสียความมั่นใจเป็นครั้งแรกนี่แหละ
“ผมก็แค่อยากจะรู้ว่าผู้หญิงที่ผู้ชายเกือบค่อนโลกต่างหลงใหลอย่างคุณ จะมีเสน่ห์ทำให้ผมตกหลุมรักได้หรือเปล่า” หมอนั่นจ้องหน้าฉันอย่างท้าทาย ฉันจ้องหน้าเขาอย่างงงๆอยู่สักพักก่อนจะเหยียดยิ้มร้ายกลับไป
“ฉันขอยื่นข้อเสนอใหม่โดยมีหัวใจของนายเป็นเดิมพันแล้วนายก็จะรู้ว่าการท้าทายคนอย่างแคมเปญไม่ใช่เรื่องที่น่าสนุก ” เราสองคนยืนจ้องตากันนานจนฉันเกือบจะท้อง แต่สุดท้ายคุณชายก็ยอมแพ้และเบนสายตาไปทางอื่น เขาเดินเข้ามากระซิบอะไรบางอย่างข้างหูฉัน
“ผมก็ไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่คุณจะปั่นหัวเล่นได้ง่ายๆหรอกนะ” ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นเขาก็เดินออกไปในทันที ทิ้งให้ฉันที่ยืนอยู่ด้านหลังกรีดร้องในใจอย่างทำอะไรไม่ได้ อีตาคุณชายชักจะไม่ธรรมดาซะแล้วสิ แต่ท้าทายแบบนี้แหละดี คอยดูสิคุณชายรัชชานนท์ ฉันจะทำให้นายทั้งรักทั้งหลงหัวปักหัวปำเลยล่ะ!!!
โรงแรม THE NAEW
“ว่าไงนะ!! แกจะเก็บผ้าหนีตามผู้ชาย บ้าไปแล้วหรือไงแคมเปญ” ฉันมองหน้าเพื่อนรักด้วยอารมณ์บูดสนิท ก่อนจะกระแทกเสียงใส่อย่างมีอารมณ์
“ฉันแค่ไปอาศัยอยู่กับหมอนั่นอย่างชั่วคราวเท่านั้นแหละย่ะกรุณาระวังปากแกด้วย” ฉันตะโกนด่าคริสตัลอย่างเหลืออดโทษฐานทำให้คนอ่านมองฉันในแง่ลบ
“แต่ป้ากับคุณชายเพิ่งรู้จักกันได้แค่สองวันเองนะ จะไปอยู่ด้วยกันได้ยังไง” เมโลดี้ถามขึ้น ฉันเบี่ยงหน้าหลบตาเจ๊แฟนซีก่อนจะโกหกออกไปคำโต
“คุณชายเขาขอให้ฉันไปช่วยเป็นติวเตอร์เรื่องการแสดงให้ และที่นั่นกับโรงแรมมันก็ไกลกันพอสมควรเขาเลยอยากให้ฉันไปพักที่บ้านเขา” ฉันพูดออกไปแบบแอคติ้งเนียนๆ ไม่คิดอะไรแ ต่ในใจนี่ประหวั่นพรั่นพรึงมากมายกลัวว่ายัยพวกนี้จะจับได้แล้วไม่ยอมให้ฉันไปอ่อยคุณชายตามใจคิด
“ทั้งๆที่แก คิดจะทำลายหัวใจของเขาอยู่เนี่ยนะ มันเป็นไปไม่ได้ที่แกจะช่วยเขา” อลิซเริ่มเดาทางฉันถูก
“ใช่ เป้าหมายของฉันไม่ใช่ติวเตอร์เรื่องการแสดง แต่เป็นเรื่องหัวใจต่างหากล่ะ คนหยิ่งๆอย่างหมอนั่นต้องได้รับบทเรียน”
ฉันพูดอย่างฉุนจัดเมื่อนึกถึงใบหน้าเย็นชาของหมอนั่น นึกถึงทีไรก็ขัดใจฉันทุกครั้งไปสิ แล้วฉันจะไปนึกถึงทำไมเนี่ย!!
“แล้วไม่คิดว่าตัวเองจะตกหลุมรักเขาบ้างรึไง” เบเกอรี่ถามฉันโดยที่มือก็ยังถักผ้าพันคออยู่
“ไม่มีทาง!! คนอย่างแคมเปญคำไหนคำนั้นไม่มีวันกลืนน้ำลายตัวเองเด็ดขาด!!” ฉันเอ่ยอย่างมั่นใจ จนเจ๊แฟนตาซีที่นั่งฟังอยู่นานถอนหายใจเฮือกใหญ่แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
“ถ้าพวกแกสอบปากคำฉันเรียบร้อยแล้ว ฉันขอตัวนะ” ฉันลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องประชุมแต่ก็ยังมิวายได้ยินเสียงยัยอลิซตะโกนตามหลังมา
“อย่าหอบลูกหอบหลานติดไม้ติดมือกลับมาโรงแรมละกันนะคนสวย” ฉันจะไม่ย้ำกับผู้อ่านหรอก ว่าฉันเกลียดมัน!!!
ความคิดเห็น