ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฉันน่ะร้าย อย่าหวั่นไหวนะคุณชายน้ำแข็ง

    ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1 ประชุมฉุกเฉิน

    • อัปเดตล่าสุด 5 ธ.ค. 56


    ฉันคือแคมเปญ มือกีต้าร์สาวสวยสุดเซ็กซี่แห่งวงดนตรีที่มีชื่อเสีย(ง)มาก นามว่า”แนะแนว”ถ้าคุณอยากรู้ว่าฉันเป็นคนยังไงให้คุณมองหน้าฉันไว้จะได้รู้ว่าฉันน่ะเหมาะสมกับตำแหน่งนางงามโลกมากแค่ไหนถึงฉันจะไม่รักเด็กแต่รูปร่างหน้าตาเพอร์เฟคเกินบรรยาย นะจะบอกให้^O^

    อะไรนะ!!นางงามโลกนี้หรือโลกหน้างั้นหรอ หน็อยไม่ต้องอยากรู้หรอกย่ะว่าโลกไหนมันเป็นโลกส่วนตัวของฉันเองไม่ต้องยุ่งแล้วก็ไม่ต้องอยากรู้อะไรเกี่ยวกับฉันให้มันมากมายนัก แค่ที่ฉันยอมมีแฟนมีความรักตามคำบัญชาของยัยนักเขียนผีบ้าที่อุตส่าห์ขุดฉันขึ้นมาจากจินตนาการอันล้ำเลิศของหล่อนมันก็ทำร้ายจิตใจดวงใหญ่ๆที่บรรจุผู้ชายหล่อๆไว้ได้ทั้งโลกของฉันมากพอแล้ว!!!

                    ก๊อก ก๊อก ก๊อก        ใครมาขัดขวางความคิดไม่สร้างสรรค์ของฉันอีกล่ะเนี่ย-__-??

      “เข้ามา” ฉันตะโกนบอกอาคันตุกะหน้าห้องในเชิงบ่งบอกว่าไม่ได้ล็อกประตูหวังว่าผู้มาเยือนคงไม่ฉลาดน้อยยืนคอยฉันไปเปิดประตูให้หรอกนะ สวยสั่งฟ้าอย่างฉันน่ะไม่มีวันรับใช้ใครไม่ว่าจะใหญ่มาจากไหนก็เหอะ

    ครืด ตุ้บ ผลัวะ!

    เฮ้ย!! O_o!!ฉันชะโงกใบหน้าอันงดงามออกไปจ้องมองยังผู้มาเยือนที่หันมายิ้มเจื่อนๆให้ฉันพร้อมดันประตูที่ทับอยู่ออกจากตัว

    “คริสตัล!! นี่แกอีกแล้วเรอะ ฉันถามแกหน่อยเหอะ ถ้าแกเสด็จมาแบบที่ว่าห้องฉันไม่ชำรุดเนี่ยแกจะขาดใจตายเลยใช่มั้ย ฮะ?” ฉันบ่นยัยเพื่อนแสบจอมทำลายในทันทีที่เห็นบล็อกหน้ายัยนั่น ต่อให้ไม่ออกมาดูฉันก็พอจะรู้แหละว่าเป็นคริสตัลดูจากลักษณะการมาแบบไม่ปกติมีคนเดียวที่ทำแบบนี้ได้ ที่โผล่ศีรษะมาดูก็เพื่อความชัวร์ว่าไม่มั่วนิ่มก็แค่นั้น ยัยนี่เป็นประเภทที่ว่าเข้าห้องใครหรือว่าไปที่ไหนไม่มีเลยว่าที่นั่นจะไม่พัง ฉันล่ะทึ่งความสามารถในการทำลายล้างของพื่อนจอมเพี้ยนของตัวเองจริงๆ -__-:;    

     “ฉันจะย้ายออกไปอยู่ในที่ที่ไม่มีแก คริสตัล” ฉันเอ่ยอย่างหัวเสียเพราะประตูที่คริสตัลทำพังน่ะมันราคาแปดหลักเลยนะ TT_TT

    “เออ น่า แกก็รู้ว่าฉันหัดซิ่งเสก็ตบอร์ดอยู่ประตูพังแค่นี้ทำเป็นบ่นคราวที่แล้วฉันปล่อยเจ้าจรวดอวดหางของฉันขึ้นมาทำหน้าต่างแกแตกไม่เห็นแกบ่นสักคำ” คริสตัลพูดในขณะที่ค่อยๆพยุงตัวเองขึ้นจากซากประตูอย่างทุลักทุเล ฉันมองยัยเพื่อนตัวดีด้วยแววตาสมน้ำหน้าอย่างไม่ปิดบัง โทษฐานที่ทำประตูเลื่อมทองฝังเพชรของฉันพังบวกกับความไม่มีน้ำใจที่ฉันมีอยู่แล้วฉันจึงตัดสินใจว่าจะไม่ช่วยพยุงยัยเพื่อนตัวแสบนี่แน่ๆ

     “ที่ฉันไม่บ่นไม่ด่า ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมให้แกทำมันพังย่อยยับ เสียหายไปหมดอย่างนี้”ฉันได้ทีบ่นต่ออย่างรวดเร็วถึงจะรู้ว่าบ่นไปด่าไปจะไร้ประโยชน์ก็เหอะ แต่นาทีนี้ขอsexy girlระบายหน่อย มันอัดอั้นตันใจเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่คริสตัลทำห้องฉันพังถ้านับกันจริงๆก็เกินร้อยครั้งแล้วด้วยซ้ำ  Y_Y   

    “เอาเหอะๆ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันโทรเรียกช่างมาซ่อมให้ บ่นเป็นคนแก่ไปได้นะยัยป้าเปญ”

    “ป้าแกสิ หน้าตาดีฮอลลีวู้ดขนาดนี้อ่ะ” ฉันลอกคำที่ยัยคริสตัลชอบพูดบ่อยๆมาใช้ ปกติฉันก็ไม่ใช่คนหลงตัวเองอะไรหรอกแค่ฉันแค่มั่นใจว่าหน้าตาฉันสวยไม่แพ้ผู้หญิงคนใดในโลกหล้าก็เลยพูดชมตัวเองออกมาได้แบบไม่ต้องสนใจสื่อเพราะความจริงเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องยอมรับอยู่แล้ว^O^ โฮะ ๆ

    “ยัยป้าที่ฉันมาหาแกเนี่ยไม่ได้มาให้แกด่าหรือว่ามาฟังแกชมตัวเองหรอกนะ”

    “แล้วแกมีธุระอะไร!!”ฉันถามพร้อมแยกเขี้ยวใส่คริสตัลเพื่อเป็นการขู่ว่าถ้าพูดอะไรไร้สาระออกมาฉันได้ฆ่าฉีกศพมันแน่

    “เจ๊แฟนซีเรียกประชุม”

    “ประชุม?? ประชุมเรื่องอะไร เราเพิ่งจะประชุมไปเมื่อวานเองนะ”  ฉันถามอย่างงุนงงอสงไขยบวกกับประหลาดใจอย่างล้นเหลือ =O=?

     “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เห็นบอกว่าเป็นเรื่องด่วนนะ ฉันว่าเรารีบไปเหอะจะได้รู้ว่าประชุมเรื่องอะไร”  ฉันพยักหน้าก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าลืมทำสิ่งสำคัญ

    “คริสตัล ฉันขอเวลา5นาทีเพิ่มเฉดสีตา เติมแป้ง ซับหน้า ปัดแก้ม กรีดอายส์ ใส่คอนแทคส์และ.....

    “เหลือเวลาอีก4นาที50วินาที”  คริสตัลรีบขัดขึ้นก่อนที่ฉันจะเสียเวลาสาธยายจนไม่ได้ปฏิบัติจริงซักที

    “โอเค”  ฉันรีบแต่งหน้าด้วยความเร็วสูงพุ่งทำลายสถิติโลก1.24นาทีเกิดมาชีวิตนี้ไม่เคยแต่งหน้าเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยจริงๆ แต่ก็นั่นแหละคนสวยอย่างฉันต่อให้ไม่มีอะไรบนใบหน้าก็สามารถสวยหยาดเยิ้มได้ทุกเวลาอยู่แล้วพูดง่ายๆก็คือสวยเป๊ะอยู่แล้วเติมอะไรนิดๆหน่อยๆก็เริดได้ แล้วถ้ายิ่งแต่งเต็มนะมะหัดสะจอรอหันต์การันต์ยอกันเลยทีเดียว0(>///<)0

       ในขณะที่ฉันเดินกรีดกรายเฉิดฉายนวยนาดแต่คริสตัลกลับสไลด์เสก็ตบอร์ดปาดหน้าปาดหลังชนข้าวของตามทางพังเสียหายระเนระนาด*---* จนมาถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทนคบกับยัยด็อกเตอร์เพี้ยนนี่มานานตั้งสิบกว่า ปีได้ยังไง -__-:;

    เอาล่ะ ทีนี้จะได้รู้กันสักทีว่าเรียกประชุมด่วนจี๋ทั้งๆที่เพิ่งประชุมไปเมื่อวานนี้เนี่ยมีเรื่องอะไรกัน ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องประชุมสุดหรูที่อยู่ชั้น20ของโรงแรม  THE NAEW แต่ก้าวเท้ายังไม่พ้นธรณีประตูเสียงกวนประสาทอันคุ้นเคยก็แหวกอากาศทะลุมาสู่หูฉันในทันที

     “กว่าจะยกบั้นท้ายอันแสนเซ็กซี่ถ่อมาถึงนี่ได้เนี่ยกินเวลาเป็นชั่วโมงเลยนะแม่คุณ ทั้งๆที่ห้องของตัวเองกับห้องประชุมก็อยู่ห่างกันแค่ชั้นเดียวแท้ๆ”เสียงของอลิซมือกลองคู่กัดของฉันแขวะทันทีที่เจอหน้า เนื่องจากตอนนี้เป็นเวลากลางคืนและยัยอลิซก็กลายร่างเป็นเทพบุตรหล่อใสไปแล้ว ฉันเลยไม่คิดถือสาเอาความมันแต่ถ้าสว่างเมื่อไหร่แล้วยัยประหลาดนี่กลับไปเป็นผู้หญิงเหมือนเดิมนะแม่จะด่าให้หน้าหงายเงิบเลยคอยดู!!(ที่แท้ก็เห็นแก่ผู้ชาย*--*)

     ฉันหยุดด่าอลิซทางสายตาแล้วหันไปหาเจ๊แฟนตาซี 

     “เรียกประชุมฉุกเฉินแบบนี้มีอะไรเหรอเจ๊”  ฉันถามขึ้นก่อนจะหย่อนก้นลงนั่งเก้าอี้ว่างข้างๆเจ๊แฟนตาซีผู้จัดการประจำวงของฉัน

    “ปัญหาเกี่ยวกับโปรเจ็กต์ Love Inter

    Love Inter?? มีปัญหาอะไรคะเมื่อวานเราก็เพิ่งประชุมเรื่องโปรเจ็กต์นี้เสร็จไปไม่ใช่หรอ?”  เมโลดี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับฉันตะโกนถามเสียงดังเกินความจำเป็น 

    “ใช่ เราเพิ่งประชุมเรื่องนี้เสร็จ แต่ว่าเรายังไม่ได้ข้อสรุปเพราะยังไม่ได้ยื่นเรื่องให้บอส แล้วเมื่อวานฉันเอาเอกสารการประชุมและใบอนุมัติโปรเจ็กต์ไปให้บอสเซ็นแต่บอสไม่เซ็น”

    “อ้าว ไหงเป็นงั้นล่ะ??”พวกเราทุกคนถามขึ้นแทบจะพร้อมๆกัน เจ๊แฟนตาซีไล่สายตามองหน้าพวกเราทีละคนก่อนจะมาหยุดที่ฉัน

     “บอสบอกว่าสปอนเซอร์กำหนดให้นางเอกของโปรเจ็กต์เป็นแคมเปญเท่านั้น  ส่วนพระเอก.....

    เจ๊แฟนซีเว้นคำพูดไว้ก่อนจะหันไปหยิบรีโมตกดเปิดหน้าจอมอนิเตอร์ที่ปรากฏรูปผู้ชายคนหนึ่งขึ้นแล้วหันมาพูดกับเราต่อ

    “จะต้องเป็นผู้ชายคนนี้เท่านั้น” ฉันมองตามมือเจ๊ที่ชี้ไปที่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดยักษ์ซึ่งปรากฏเป็นรูปเทพบุตรสุดหล่อพ่อแม่ช่างสรรค์สร้างคนหนึ่งขึ้น ฉันจ้องดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่แฝงไปด้วยความย็นชาแต่กลับมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาดนั่นอย่างหลงใหล ก่อนจะเกือบลืมหายใจเมื่อมองจมูกที่โด่งเป็นสันดั่งคันธนู รวมถึงริมฝีปากบางสีชมพูระเรื่ออย่างคนสุขภาพดีซึ่งมองกี่ทีก็อยากจุ๊บๆๆ ผมสีเฮเซลนัทที่ซอยสั้นเสมอหูปาดสไลด์ไปด้านข้างบางๆอย่างหล่อๆโอ๊ยยยย ทำไมหมอนี่ถึงได้หล่อลากกระชากใจอะไรขนาดเน้ ฉันกะพริบตาปริบๆไล่ไอ้ดวงตารูปหัวใจให้มันแตกสลายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่คนอื่นๆจะมาเห็นแล้วเอาไปล้อ แต่ก็นั่นแหละจะไม่ให้ดวงตาเป็นรูปหัวใจได้ยังไงผู้ชายคนนั้นน่ะหล่ออย่างกับเทพปั้น สวรรค์ชุบ คนอะไรไม่รู้หล่อโลกละลาย นี่แค่ในรูปนะยังหล่อลากฟ้าขนาดนี้(ลากดินมันต่ำไป*--*)ถ้าเจอตัวจริงฉันไม่ละลายกลายเป็นผุยผงเลยทีเดียวเชียวรึ>///<

    “เทพบุตรสุดหล่อแต่ก็ยังน้อยกว่าฉันคนนี้จะมาเป็นพระเอกโปรเจ็กต์พันล้านของเรา  นอกจากหล่อแล้วหมอนี่มีอะไรน่าสนใจหรอเจ๊ สปอนเซอร์รายใหญ่ถึงได้อยากได้ขนาดนั้นน่ะ”  อลิซในภาคผู้ชายถามขึ้น หมอนี่คงจะสงสัยแหละ เพราะตั้งแต่สปอนเซอร์รายนี้มาสนับสนุนเรากี่ซิงเกิ้ล กี่อัลบั้ม กี่โปรเจ็กต์ก็ไม่เคยยุ่งยากกับเราสักครั้ง ไหงโปรเจ็กต์นี้ถึงได้เกิดเรื่องมากขึ้นมาก็ไม่รู้  

    “อ้อ เห็นหน้าค่าตาแล้วเราก็มารู้จักประวัติผู้ชายคนนี้กันเลยดีกว่า”  เบเกอรี่เอ่ย แล้วก็ลุกขึ้นเดินไปหยิบกระดาษปึกนึงมาก่อนจะเปิดออกอ่านเสียงดังฟังชัดให้พวกเราฟัง

    “คุณชายเช รัชชานนท์  อัครราช ทายาทเศรษฐีตระกูลเก่าแก่คุณแม่เป็นเจ้าของเกาะเฮ่ฮ่าที่ตั้งอยู่ข้างประเทศไฮ๋พลาร้าที่มีน้ำมันดิบมูลค่ามหาศาล ส่วนคุณพ่อเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก คุณตาก็เป็นเจ้าของโรงแรมและสนามกอล์ฟชื่อดังที่มีหลายสาขาไม่ว่าจะในหรือนอกประเทศ ส่วนคุณย่าก็เป็นเจ้าของห้องเสื้อThe villa เสื้อผ้าแบรนด์ที่พวกเรากำลังใส่กันอยู่นี่แหละ อ้อ! หมอนี่มีพี่น้องฝาแฝดคนอยู่คนหนึ่งเพราะงั้นสมบัติทั้งหมดนี่คงไม่ได้เป็นของเขาคนเดียวเพราะมีพี่ชายฝาแฝดของเขามาช่วยหาร”

    “หล่อ รวย คุณสมบัติแค่นี้ไม่จำเป็นต้องจำกัดว่าเป็นหมอนี่ก็ได้มั้ง คนหล่อๆรวยๆในประเทศเราก็มีเยอะแยะออก” อลิซเอ่ยค้านอย่างออกนอกหน้า มันเป็นคำพูดที่ไม่ว่าจะมองยังไงก็ดูออกว่าหมอนี่กำลังอิจฉาคุณชายเชอะไรนั่นอยู่  

    “ก็ฟังให้จบก่อนแล้วค่อยคัดค้านได้มั้ยล่ะพ่อคุณ”  เสียงคริสตัลเอ่ยขึ้นมา แม้ว่าสายตาและท่าทางของเจ้าตัวจะดูเหมือนไม่สนใจแต่ยัยนั่นกลับรู้เรื่องและเข้าใจทุกอย่างในขณะที่มือและสายตายังจดจ่อกับเกมส์ในโทรศัพท์มือถือ นี่แหละความอัจฉริยะขั้นเทพของคุณตัลเขาล่ะ-__-:;

    “เอาเป็นว่าฟังต่อให้จบก่อนละกันนะ แล้วค่อยตัดสินว่าอะไรเป็นอะไร”เจ๊แฟนตาซีบอกก่อนจะหันไปพยักหน้าให้เบเกอรี่อ่านต่อ

    “คุณชายเชเป็นคนที่ไม่เคยออกงานสังคม ไม่เคยออกสื่อชนิดไหนใดๆทั้งสิ้น เขาไม่เคยแม้แต่จะถ่ายรูปด้วยซ้ำรูปที่พวกเราเห็นอยู่ ก็เป็นรูปที่พี่ชายเขาแอบถ่ายมาและงานทุกงานสื่อทุกสื่อเขาก็จะให้พี่ชายรับแทนทั้งหมดเพราะตัวเขาไม่ชอบทำตัวเด่นดังให้คนอื่นมาเกาะแกะ ตามตอมวุ่นวาย สรุปง่ายๆก็คือเขาหล่อ รวย และโลกส่วนตัวสูงมาก”  เบเกอรี่อ่านจบพร้อมสรุปความคิดออกมาเสร็จสรรพ แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะ ฉันว่าหมอนั่นคงจะคิดว่าตัวเองหล่อมากก็เลยหยิ่งใส่กล้องเพื่อเป็นการเพิ่มคุณค่าและราคาให้ตัวเองน่ะแหละ  

    “คุณชายเช แพ้กล้องเหรอคะ ถึงได้ไม่ยอมถ่ายรูป” มาอีกแล้วจินตนาการอันไม่เข้าท่าของคุณหนูเมโลดี้ ขาเก่าเจ้าประจำ๑_๑ “ไม่รู้สิ อันนี้ก็รอถามเจ้าตัวเองละกัน”  ฉันรู้สึกว่าเหมือนลืมเรื่องสำคัญอะไรบางอย่างไป อ๊ะ! ใช่แล้ว

    “เจ๊ ถ้าหมอนั่นไม่ยอมออกงานสังคมไม่ออกสื่อ แล้วอย่างงี้เขาจะยอมมารับบทพระเอกโปรเจ็กต์นี้ให้เรามั้ยล่ะ?” ฉันถามคำถามที่ทำให้ทุกคนดูซีเรียสขึ้นมา แต่มีอยู่คนนึงที่ดูไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร

    “ว่าไงเจ๊ถ้าเกิดหมอนั่นไม่ยอมเล่นให้ เราก็ต้องพังโปรเจ็กต์นี้ทิ้งงั้นสิ” ฉันเอ่ยเสียงเครียด แต่เจ๊แฟนซีกลับอมยิ้ม

    “จะไม่มีการล้มเลิกโปรเจ็กต์แน่นอน เพราะคุณชายเชตกลงรับงานเราเรียบร้อยแล้ว”

    “หา!!!O_o

    “นี่เจ๊หมายความว่า..........

    “อีก5นาทีคุณชายจะมาประชุมร่วมกับเรา”  เจ๊แฟนซีตัดบททันทีเพราะรู้ดีว่าพวกเราคงซักไม่เลิก นายคุณชายนั่นก็แปลกเวลาไม่รับงานก็คือไม่รับเลย พอจะรับก็รับปุบปับ สวยล่ะปรับตัวไม่ทัน @..@

    ว่าแต่ อีก5นาทีอีตานั่นจะมาที่นี่งั้นหรอ ว้ายๆ ไม่ได้นะต้องรีบไปเติมสวย > O < ฉันรีบวิ่งออกมาจากโต๊ะประชุม ขืนหมอนั่นมาเห็นฉันในสภาพจืดๆก็ไม่ประทับใจน่ะสิ งานนี้ต้องสวยไว้ก่อน(รู้สึกว่านางเพิ่งแต่งหน้าเมื่อ15นาทีที่แล้ว-__-:;) ฉันกระชากประตูอย่างแรงก่อนจะรีบถลาออกไปจากห้องจนไม่ทันได้ระวัง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×