ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    สงครามเย็น # COLD WAR

    ลำดับตอนที่ #4 : ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจากการขยายตัวของสหภาพโซเวียต

    • อัปเดตล่าสุด 4 ธ.ค. 53


              
              สหรัฐฯ มีความกังวลต่อการครอบครองยุโรปตะวันตกทั้งหมดของรัสเซีย เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลงประธานาธิบดีเฮนรี่ ทรูแมนได้อนุมัติใช้แผนมาร์แชลล์ (Marshall Plan) ซึ่งมีชื่อเป็นทางการคือ แผนงานฟื้นฟูยุโรป (European Recovery Programme: ERP) เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ.2490 (ค.ศ. 1947) โดยแผนมาร์แชลล์ เป็นแนวความคิดของพล.อ. จอร์จ ซี. มาร์แชลล์ (George C. Marshall) มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นโครงการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจให้กับยุโรปตะวันตก ป้องกันการล้มเหลวทางเศรษฐกิจ และทำการฟื้นฟูระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมรัฐชาติของยุโรปตะวันตกขึ้นมาใหม่
       
              ในแผนดังกล่าวทางยุโรปตะวันตกจะได้รับเงินช่วยเหลือมากกว่า 12 พันล้านดอลลาร์ทั้งในรูปเงินกู้และเงินช่วยเหลือตลอดห้วงเวลา พ.ศ.2491-2494 (ค.ศ. 1948-1951) สหรัฐฯ ยังได้ออกนโยบายการปิดล้อมคอมมิวนิสต์ที่เรียกว่า “The Policy of Containment” มาในห้วง 1940 โดยเริ่มแรกนั้นแนวความคิดในการปิดล้อม ฯ นั้น George F. Kennan

     
    (George F. Kennan)

              ผู้ซึ่งเคยเป็นนักการทูตที่เคยปฏิบัติงานอยู่ในสหภาพโซเวียตได้เสนอแนวความคิดผ่านบทความชื่อ “The Sources of Soviet Conduct.”  โดยตีพิมพ์ในวารสาร Foreign Affairs ฉบับเดือนกรกฏาคม พ.ศ.2490 (ค.ศ.1947) ในนามปากกาที่ชื่อ X
     

              บทความนี้เริ่มแรกเดิมทีเป็นโทรเลขที่มีความยาวหลายหน้ากระดาษ ต่อมาเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ.2493 (ค.ศ.1950) ประธานาธิบดีเฮนรี่ ทรูแมนได้ลงนามในเอกสารที่มีชั้นความลับที่ชื่อ “รายงานของสภาความมั่นคง 68” หรือ NSC-68 (National Security Council Report 68) ที่มีความยาว 58 หน้า ในรายงานดังกล่าวได้กล่าวถึงแนวความคิดในการปิดล้อมสหภาพโซเวียต  ในทุกๆด้านไปพร้อม ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็นทั้งด้านการทหาร ด้านการเมือง ด้านอุดมการณ์ และด้านเศรษฐกิจ โดยการปิดล้อมนี้ ทรัพยากรในทุก ๆ ด้านจะถูกนำมาใช้ในการดำเนินการดังกล่าว เอกสาร NSC-68 จึงสามารถกล่าวได้ว่าเป็นปฐมบทแนวความคิดในการดำเนินการปิดล้อมทางยุทธศาสตร์ และมีการปฏิบัติต่อเนื่องกันมายาวนานร่วม 20 ปีจนสงครามเย็นยุติลง
       
              นอกจากนี้สหรัฐฯและทางยุโรปตะวันตกได้รวมตัวกันจัดตั้งองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (North Atlantic Treaty Organisation) หรือ นาโต (NATO) ขึ้น โดยนาโตเป็นองค์กรระหว่างประเทศเพื่อความร่วมมือในการรักษาความสงบ ก่อตั้งเมื่อวันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2492 (ค.ศ. 1949) 

      (Flag of NATO)

               การเกิดขึ้นของนาโตนั้นได้ส่งผลให้งบประมาณทางทหารจำนวนมหาศาลของโลกได้ถูกทุ่มเข้าสู่ภูมิภาคยุโรป และตามมาด้วยการทุ่มงบประมาณทางทหารเพื่อการแข่งขันอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศมหาอำนาจต่าง ๆ ซึ่งถ้านับรวมแล้วในห้วงเวลาดังกล่าวมีอาวุธนิวเคลียร์สะสมกันไปจนถึงระดับเป็นหมื่นลูก และการเกิดขึ้นของนาโตได้ส่งผลให้เกิดองค์การสนธิสัญญากรุงวอซอว์ (Warsaw Treaty on Friendship Cooperation and Mutual Aid or Warsaw Treaty Organizational) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า วอซอร์แพคท์ (Warsaw Pact)  ตามมา
              โดยทางสหภาพโซเวียตได้กล่าวโจมตีว่านาโตตั้งมาเพื่อมีวัตถุประสงค์เพื่อรุกราน วอซอร์แพคจะมีบทบัญญัติลักษณะเดียวกับนาโตที่ว่า “การโจมตีรัฐสมาชิกใดรัฐหนึ่ง จะถือว่าเป็นการโจมตีรัฐสมาชิก ทั้งหมด”
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×