ตอนที่ 8 : แมงมุมตัวที่7 : บททดสอบของเนซึ
ผ่านเลยเวลาช่วงเช้าไปของการเรียนการสอน ถึงช่วงเวลาพักเที่ยงทานอาหารของเหล่าๆในโรงเรียนUA และก็เป็นเวลาพักของเหล่าอาจารย์เช่นเดียวกัน นั่นรวมถึงอาจารย์ผู้เป็นฮีโร่อิเรเซอร์เฮดด้วย อาจารยืไอซาวะเดินถือหนังสือเรียน2-3เล่มพร้อมกับถุงนอนที่พับอยู่ออกมาจากห้องเรียนสุดท้ายของช่วงเช้า ตามด้วยเด็กชายผิวขาวซีดเผือกที่เดินตามติดต้อยๆจนมีนักเรียนหลายคนต่างจ้องมองไม่วางตา
‘เพราะงี้ไงเขาถึงไม่อยากพารุยมาด้วย’
ไม่ใช่ว่ารังเกียจหรืออะไรแต่เป็นห่วงเด็กชายตัวน้อยนี่ต่างหาก เพราะเขารู้ดีว่ารุยนั้นกลัวที่ที่มีคนชุกชุม และก็คาดเดาไม่พลาดรุยหวาดระแวงผ่านดวงตากลมโตแต่ยังคงพยายามตีหน้านิ่งไม่แสดงอารมณ์ ซึ่งไอซาวะก็ดูออก
“รีบเดินเถอะ ได้เวลาที่เธอต้องกินแล้ว”
ไอซาวะว่าพลางเดินให้ไวขึ้นและยื่นมือข้างนึงลงมากอบกุมฝ่ามือเล็กนิ่มสีขาวจูงมือเดินกลับไปยังห้องทำงานรวมของเหล่าอาจารย์
.
.
.
.
.
"รุยจังมาแล้วเหรออ~"
เสียงแหลมของหญิงสาวดังขึ้นในห้องทันทีหลังจากประตูห้องทำงานรวมของเหล่าอาจารย์เปิดออก ปรากฏร่างของไอซาวะและเด็กชายตัวน้อยเข้ามาพร้อมกัน
หญิงสาวร่างสูงเพรียวผมสีม่วงในชุดรัดรูป พุ่งเข้ามาหมายจะจับรุยอุ้มขึ้นมาด้วยความหมั่นเขี้ยวแต่ก็พลาด เพราะถูกชายร่างสูงผมดำขลับผู้ดูแลของอสูรน้อยขัดขวางไว้เสียก่อน ด้วยการนำตัวมาบังไว้พร้อมกับใช้สายตาจ้องไม่พอใจใส่เพื่อนร่วมงานสาวอย่างมิดไนท์ไป
"อะไรกันเล่า~ทำเป็นหวงไปได้"
หญิงสาวฮีโร่เรท18+จิ๊ปากงอนใส่เพื่อนร่วมงานอย่างไอซาวะ แต่ไอซาวะก็หาได้สนใจไม่เดินจูงมือเด็กชายข้างๆมายังโต๊ะทำงานประจำของตน ก่อนจะวางถุงนอนลงบนเก้าอี้โต๊ะทำงานและวางสมุดหนังสือการสอนไว้บนโต๊ะ
"นั่งรอนี่ก่อนนะ"
ชายร่างสูงฮีโร่หันมากล่าวกับรุยให้นั่งรอเขาก่อน เด็กชายพยักหน้ารับอย่างว่าง่ายไม่ตั้งคำถามใดๆ ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้ทำงานของไอซาวะรอนิ่งๆตามที่สั่ง
ฮีโร่หนุ่มร่างสูงผมดำอิเรเซอร์เฮดเดินตรงมายังโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมงานและเป็นทั้งเพื่อนสมัยเรียนของเขา อย่างฮีโร่พรีเซนไมค์
"โอ้!งายยย~~ ไอซาวะ!"
ชายผมทรงสูงสีเหลืองคล้ายนกแก้วเงยหน้าออกจากมือถือในมือ มามองส่งยิ้มทักทายแก่เพื่อนสมัยเรียนผมดำสวมผ้าพันคอที่เดินมายืนข้างๆตน
"กระเป๋าฉันล่ะ"
"อ้อๆ นี่ไง~"
เพื่อนสมัยเรียนจอมทะเล้นยิ้มร่าออกมาพร้อมกับคว้ากระเป๋าใบนึงจากใต้โต๊ะมายื่นให้ไอซาวะไป ชายร่างสูงผมสีดำขลับรับกระเป๋ามาอย่างไว ก่อนจะเดินไปรุยที่นั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะทำงานของตน
ไอซาวะวางกระเป๋าใบสีขาวที่รับมาจากเพื่อนร่วมงานของตนไว้บนโต๊ะ ยื่นมือมาจับซิปบนกระเป๋า ค่อยๆเลื่อนมันเพื่อเปิดออก ก่อนจะใช้มือควานหาของในกระเป๋า
ทันทีที่มือเรียวหยาบยกออกจากกระเป๋า ก็มีบางสิ่งหยิบติดมือมาด้วย มันคือถุงพลาสติกหนามีของเหลวสีแดงอยู่ข้างใน ที่ถุงยังคงมีอุณหภูมิพอเหมาะอยู่ ด้วยเพราะกระเป๋าที่ทำมาเป็นพิเศษไว้ใช้เก็บตัวของเหลวสีแดง
ถุงของเหลวสีแดงในมือไอซาวะถูกส่งต่อให้เด็กชายที่นั่งอยู่ใกล้ๆ รุยรับมาอย่างรวดเร็ว กล่าวขอบคุณสั้นๆพร้อมกับเสียงที่ติดๆขัดๆ คงเพราะเกิดอาการกระหายเมื่อเห็นของเหลวสีแดงแบบนี้
มือเล็กๆสีขาวกำถุงเลือดในมือแน่น ยกปลายถุงมาจรดริมฝีปากนุ่มสีขาวซีดของตน หมายจะกัดออก และดื่มด่ำกับของเหลวข้างใน แต่ก็ถูกยั้งมือโดยชายร่างสูงที่ส่งถุงเลือดให้ในตอนแรก
"จะใช้หลอดไหม เดี๋ยวหกเลอะเทอะ"
ไอซาวะชูหลอดพลาสติกสีขาวขึ้นมาจากในกระเป๋าและยื่นไปให้รุย อสูรน้อยรับมาอย่างงงๆ จับเจ้าแท่งนิ่มๆสีขาวยาวพลิกไปพลิกมาอย่างสงสัย ก่อนจะเงยหน้ามองร่างสูงที่ส่งสิ่งของแปลกตาให้ตน เชิงถามว่ามันคืออะไร รึใช้ยังไง
ชายวัยทำงานหลังจากเห็นใบหน้าสายตาของเด็กชาย ก็พอเดาได้แล้วว่ากำลังสัยกับสิ่งของที่เขายื่นให้ไป ไอซาวะหยิบกรรไกรตรงมุมโต๊ะมาถือไว้ ก่อนจะขอถุงเลือดในมือของรุย เด็กชายไม่ค้านอะไร ส่งให้อย่างว่าง่าย ชายร่างสูงอัตลักษณ์ลบล้างใช้กรรไกรคมในมือตัดมุมถุงเลือดเล็กน้อย พอให้ใส่หลอดพลาสติกเข้าไปได้ จากนั้นไอซาวะจึงขอหลอดที่เด็กชายถืออยู่ต่อ รุยยื่นส่งให้ และจ้องมองดูว่าไอซาวะจะทำอะไรต่อ อย่างสนอกสนใจ หลอดพลาสติกสีขาวในมือไอซาวะถูกจับสอดลงมุมที่ตัดเมื่อครู่ ก่อนจะยื่นไปให้รุยไป
"อ่ะ ได้แล้ว"
ร่างสูงยื่นให้พร้อมกับพูดส่งบอกว่าเตรียมเสร็จเรียบร้อย เหลือแค่กินมันเข้าไปเท่านั้น และมันก็เป็นหน้าที่ของรุยแล้ว ที่จะกินมัน ยื่นถุงเลือดไปทางรุย ไอซาวะก็เห็นว่าที่นิ้วตนมีเลือดติดอยู่ คงจะเป็นตอนตัดมุมถุงก็ได้ มันคงจะหกเลอะมาติดกับนิ้ว
'ช่างเถอะ ค่อยเช็ดละกัน'
อสูรตัวน้อยจ้องมองมายังถุงเลือด ยังไม่ได้รับมา ราวกับยังไม่เข้าใจที่ไอซาวะสื่อ แต่กระนั้นก็เข้าใจอีกแบบนึงแทน
"!!!!"
อาจารย์ไอซาวะสะดุ้งตกใจขึ้น จนแขนข้างที่แนบลำตัวอยู่ไปสะบัดโดนของบนโต๊ะหล่นเสียงดัง เรียงความสนใจของเพื่อนร่วงงานคนอื่นๆให้หันมามองดู
ตอนนี้ทุกอย่างในห้องต่างเงียบลงอย่างพร้อมเพรียง เพราะสิ่งที่เห็นทำให้ต้องอึ้งตามๆกันไป
ภาพตรงหน้าคือเด็กชายอสูรที่กำลังใช้ปากนุ่มนิ่มสีขาวซีดงับปลายนิ้วของไอซาวะเบาๆ ลิ้นเล็กๆลิ้มรสปลายนิ้วที่ติดเลือดไปมา ก่อนจะผละตัวเองออกห่าง เงยมองผู้ดูแลของตนราวกับเมื่อกี้ไม่มีอะไรเกินขึ้น
ชายร่างสูงสวมผ้าพันคอยืนอึ้งนิ่งสตั้นไปนานสองนาน หัวสมองเหมือนถูกไวรัสโจมตีเข้าอย่างจัง จนยากจะประมวลผลว่าตนควรแสดงท่าทียังไงกับเด็กชายจ้องเขาตาแป๊วที่ไม่รู้เลยว่าทำอะไรลงไป
"....ฉันหมายถึงให้ดูดหลอดจากถุงเลือดน่ะ...."
ไอซาวะตีหน้านิ่งเหวอค้าง ปากพะงาบๆเป็นเสียงเปล่งออกมาเบาๆ โดยมือยังคงถือถุงเลือดค้างอยู่ ดีที่เสียงของเขาเด็กชายอสูรยังพอได้ยินอยู่ อสูรน้อยยื่นมือมารับถุงเลือดไปอย่างเบามือ นั่งดูดดื่มเลือดด้วยสีหน้าปกติสุข
'เอาล่ะ เด็กนี่จะทำเขาเข้าคุกสักวันนึง'
.
.
.
.
.
หลังจากดื่มเลือดเรียบร้อย และไอซาวะที่ทานข้าวกลางวันเสร็จ ได้เก็บของเข้ากระเป๋าเตรียยมเข้าสอนช่วงบ่าย พร้อมกับเด็กชายที่เขาต้องดูแลในตอนนี้ แต่พลันต้องเปลี่ยนเป้าหมาย เมื่อมีสายจากผู้อำนวยการเนซึ โทรสายเข้ามาหาเขา โดยมีเนื้อความว่า
ให้ไอซาวะกับรุยมาพบเขาที่ห้องผู้อำนวยการ
โดยที่ในช่วงบ่ายนี้เขาไม่ต้องสอน เพียงแค่ไปพบเนซึพร้อมกับรุยเท่านั้น
ฮีโร่อิเรเซอร์เฮดไม่คิดอะไรให้ยุ่งยาก จูงมือเด็กชายข้างกายตรงดิ่งไปยังห้องผู้อำนวยการ แต่กระนั้นเมื่อมาถึงหน้าห้อง ก็อดเอะใจไม่ได้ว่าเนซึคิดจะทำอะไรกันแน่
"คุณไอซาวะ...."
ชายหนุ่มหลุดจากห้วงความคิด หันไปมองต้นเสียงที่เรียกเขา รุยเงยมองอย่างสงสัยว่าชายหนุ่มเป็นอะไรไป ที่ยืนนิ่งเงียบอยู่หน้าบานประตูหนาแบบนี้ ไอซาวะถอนหายใจลูบปอยผมหยักสีขาวอย่างเบามือ ก่อนจะทำการเปิดประตูออก
"อ่าๆ มากันแล้วสินะ เชิญนั่งก่อนสิ"
ทันทีที่บานประตูถูกเปิดออกก็ปรากฎร่างของหนูตะเภายักษ์สีขาวสวมชุดสูทเป็นทางการนั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟา และเอ่ยปากชวนไอซาวะให้มานั่งด้วยกัน นั่นรวมถึงเด็กชายตัวน้อยข้างๆด้วย
ไอซาวะขานรับคำเชิญของอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย เดินจูงมือเด็กชายสีขาวข้างๆมานั่งยังโซฟาด้วยกัน ทันทีที่นั่งเรียบลงแล้ว ก็เข้าสู่บทสนทนาทันทีอย่างไม่รอช้าให้มากความ
"ที่ฉันเรียกมาก็ไม่มีอะไรมาก แค่จะทดสอบตัวของรุยนิดๆหน่อยๆ"
เริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำกล่าวจากผู้อำนวยการเนซึ ผอ.หนูตะเพาขาวตัวใหญ่ว่าพลางดื่มชาไปด้วยสีหน้าปกติเรียบนิ่งอารมณ์ดี ไอซาวะขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อยด้วยความสงสัยกับคำพูดของอีกฝ่ายที่เรียกเขามาพบ
"ทดสอบ?"
ฮีโร่อิเรเซอร์ถามซ้ำขึ้นอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ และการคำตอบเพื่อขยายความให้กว้างขึ้นเพื่อความเข้าใจ
"ทดสอบกับหุ่นยนต์สอบเข้าน่ะ"
เนซึว่าต่อจากคำสงสัยของชายสวมผ้าพันคอตรงหน้า และมองมายังเด็กชายตัวน้อยที่นั่งจับชายเสื้อของไอซาวะพร้แมกับมองเนซึด้วยความสงสัย คงเพราะเด็กชายไม่อาจรู้ได้ว่าผู้ใหญ่ทั้งสองพูดคุยอะไรกันอยู่
"แต่ว่าจะดีเหรอครับ"
ไอซาวะรีบขัดขึ้นทันทีหลังจากได้ยินคำตอบจากผู้เป็นผู้อำนวยการ หากให้รุยสู้กับพวกหุ่นยนต์มันอันตรายเกินไปสำหรับเด็กตัวแค่นี้ที่วัยแค่ประถมต้นได้ อาจทำให้รุยได้รับบาดเจ็บเกินไป
"ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงเด็กคนนี้ แต่มันก็เป็นคำร้องขอมาจากฝ่ายตำรวจเพื่อจะทดสอบพลังของรุย อย่าลืมสิว่าเด็กคนนี้ก็เป็นส่วนให้วิลเลินได้รับบาดเจ็บเข้าขั้นโคม่า"
เนซึหลับตาถอนหายใจ วางแก้วชาร้อนในมือลง แสดงสีหน้าที่จริงจังขึ้น พร้อมกับอธิบายและหยิบเอกสารฉบับนึงยื่นให้ไอซาวะดู ร่างสูงรับเอกสารมาทันทีและอ่านอย่างรวดเร็ว ในเอกสารมันส่งมาจากทางตำรวจที่ต้องการให้ทดสอบรุยด้วยหุ่นยนต์ของทางโรงเรียนUA แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่อยากยอมรับอยู่ดี
'ให้เด็กตัวแค่นี้สู้กับหุ่นยนต์เนี่ยนะ'
"ไอซาวะคุงกำลังคิดว่ามันไม่เหมาะสมใช่ไหมล่ะ แต่ว่านะการที่เรารับเด็กคนนี้มาดูแล ก็อยู่ใต้การควบคุมของเหล่าตำรวจเช่นกัน หากไม่ทำตามเด็กคนนี้จะถูกส่งไปยังสถานกักกันไว้ทดสอบอะไรอีกมาก"
เนซึพูดต่อหลังจากไอซาวะวางเอกสารในมือลง ถึงฮีโร่อิเรเซอร์เฮดอยากจะขัดคำสั่งแค่ไหนก็ตามแต่เมื่อนึกถึงสภาพรุยที่จะต้องถูกขังให้ทดสอบนั่นนู่นนี่ก็อดสงสารไม่ได้ เพราะแค่ได้ดูแลเด็กชายได้แค่2วันเขาก็รู้ดีว่าเด็กคนนี้เหงาและทรมาณแค่ไหนกับการอยู่คนเดียว
"ครับ ผมเข้าใจ"
ไอซาวะถอนหายใจเบาๆพลางมองมายังเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆเขา และตอบรับเชิงเห็นด้วยกับคำกล่าวของหนูตะเภาสีขาว ถึงในใจจะไม่เห็นด้วยก็ตามที
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากบทสนทนาภายในห้องผู้อำนวยการ ทั้งสามก็ได้เดินทางมายังหน้าสนามทดสอบ
อสูรตัวน้อยจับชายเสื้อสีดำทึบของไอซาวะแน่นขึ้นหลังจากถูกพามายังที่แปลกตา ดวงตาหันไปมาดูสิ่งแปลกตาต่างๆโดยเฉพาะประตูบานใหญ่ยักษ์ที่ปิดอยู่ตรงหน้า
"ให้รุยเข้าไปข้างในจากนั้นเราจะไปดูที่ห้องมอนิเตอร์กัน"
เนซึเอ่ยขึ้นจากด้านหลังอย่างชัดเจนก่อนจะเดินนำออกไปทิ้งทั้งสองไว้
ไอซาวะนั่งยองลงให้อยู่ระดับเดียวกับเด็กชาย ก่อนจะจับจัดเสื้อผ้าของเด็กชายให้เข้าที่เรียบร้อยพร้อมกับปัดฝุ่นให้เล็กน้อย ฮีโร่อิเรเซอร์เฮดยกฝ่ามือขึ้นจับไหล่เล็กแน่นเล็กน้อย จ้องดวงตาแปลกสีของรุยอย่างแน่วแน่
"นี่ถ้าเธอต้องอยู่นี่คนเดียวสักพักนึง จะได้ไหม"
ชายหนุ่มฮีโร่กล้ำกลืนเอ่ยออกไป พยายามปรับสีหน้าให้นิ่งและหนักแน่นที่สุด หวังว่าเด็กชายจะยอมรับอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่อย่างที่คิด
รุยส่ายหน้าตอบแทบจะทันที แสดงสีหน้าเศร้าออกมาอย่างชัดเจน ยื่นมือเข้ามาจับลำแขนแน่นเหมือนกับไม่อยากให้อีกฝ่ายหายไปไหน ถึงจะเห็นสีหน้าของร่างสูงที่หนักแน่นแน่วแน่แค่ไหน แต่ความรู้สึกหวาดกลัวที่จะอยู่คนเดียวมันมากกว่า
ไอซาวะคลายใบหน้าเดิมทิ้งพลางถอนหายใจด้วยความหนักใจ เขารู้ดีว่าเด็กชายตัวน้อยคงไม่ยอมแน่ๆ แต่เขาก็จับเป็นต้องทำ
"นี่ฉันขอร้องได้ไหม หลังจากจบเรื่องนี้ฉันจะมารับเธอแน่นอน ฉันให้สัญญา"
ไอซาวะใช้วิธีขอร้องแทนการทำหน้าเขร่งขรึมเมื่อครู่ เลื่อนฝ่ามือมาลูบศรีษะของเด็กชายไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลาย รุยมองใบหน้าของไอซาวะนิ่งเงียบไม่ตอบอะไร แต่ก็ยังแสดงสีหน้าเศร้าออกมาอยู่เหมือนเดิม อสูรน้อยครุ่นคิดเมื่อเห็นสีหน้าของร่างสูง เด็กชายรู้ได้เลยว่าอีกฝ่ายหนักใจแค่ไหน ซึ่งเขาก็ไม่อยากทำให้ไอซาวะรู้สึกแบบนี้นัก ถึงจะไม่อยากยอมรับแต่ก็ฝืนใจยอมรับไป
"ครับ...ผมจะรอนะ"
รุยปล่อยลำแขนอีกฝ่ายออก วางแขนเล็กไว้ข้างลำตัวก่อนจะถอยออกห่างไอซาวะเล็กน้อย ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับลุกขึ้นยืนเต็มตัวและเดินหายออกไป
ถึงจะปล่อยให้ไอซาวะออกห่างไป แต่ดวงตาของเด็กชายยังจ้องมองไม่ขาดสายแม้จะลับตาไปแล้วก็ตาม เด็กชายยืนนิ่งค้างที่เดิมปล่อยให้ความคิดความรู้สึกลอยไปมาให้หัว
'จะไม่โดนทิ้งไว้คนเดียวใช่ไหม'
'คุณไอซาวะ...'
เด็กชายคิดขึ้นด้วยความเศร้าซ้ำไปซ้ำมาแต่ก็ต้องหลุดจากความคิดเมื่อมีเสียงดังระดับนึงเรียกตนขึ้น
"รุย ได้ยินฉันไหม"
เสียงผ่านเครื่องมือมายังลำโพงขนาดใหญ่เอ่ยออกมา รุยจำเสียงได้ว่าเป็นคนคนเดียวที่เดินจากเขาไปเมื่อครู่ แต่มันได้ยินแค่เสียงไม่เห็นร่างของอีกฝ่าย
"อ่าเธอคงสงสัยว่าทำไมได้ยินเสียงฉัน เอาไว้อธิบายทีหลังแล้วกันนะ ตอนนี้ฉันมองเธออยู่ แค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอ เข้าใจไหม"
อีกฝ่ายอธิบายสั้นๆผ่านเครื่องมือทางเดิม รุยไม่พูดอะไรแค่พยักหน้าตอบรับคำอธิบายนั้น และรอฟังคำพูดอีกฝ่ายต่อไป
"เอาล่ะฉันจะทำการเปิดประตูบานนั้น ให้เธอเดินเข้าไปข้างในนะ"
สิ้นเสียง ก็ตามด้วยเสียงสิ่งของขนานใหญ่ขยับขึ้นเสียงดัง เด็กชายหันตามเสียงดังก็พบว่าประตูบานยักษ์ได้เปิดออกตามที่ไอซาวะพูดไว้เมื่อครู่ รุยมองเข้าไปข้างในพร้อมกับก้าวขาเล็กสั้นๆเดินเข้าไป
อสูรน้อยมองสำรวจรอบๆด้วยความแปลกตา เป็นสิ่งก้อสร้างขนาดสูง(ตึก)คล้ายกับที่เขาเคยเห็นระหว่างทาง แต่มันไม่มีสีสันอะไรให้แปลกตาน่ามอง ดูมีรอยแตกเก่าๆอยู่ประปรายตามๆกันไป
"รุยเดี๋ยวเธอจะต้องสู้กับตัวอะไรบางอย่าง แต่ไม่ต้องกลัวไปนะมันไม่มีชีวิตสู้ได้เต็มที่ แต่ถ้าหากสู้ไม่ได้ฉันจะหยุดมันเอง"
เด็กชายเบิกตาขึ้นกว้างเล็กน้อยด้วยความตกใจกับคำกล่าวของไอซาวะ อสูรน้อยก้มมองฝ่ามือตัวเองไปมาอย่างกังวล
'ต้องสู้งั้นเหรอ....'
เด็กชายอยู่ระหว่างคิดเรื่องการต่อสู้ แต่ตัวเขาไม่อยากใช้วิชาเลยสักนิด ไม่อยากทำร้ายใครหรืออะไร ถึงแม้ไอซาวะจะบอกว่ามันไม่มีชีวิตก็ตามที แต่ก็ต้องหยุดความคิดทั้งหมดลงเมื่อมีบางอย่างได้เคลื่อนที่เข้ามาใกล้
.
.
.
.
.
แรงสั่นสะเทือนของพื้นซีเมนต์ดังอย่างไม่ขาดสายเข้ามาใกล้ยังที่ที่เด็กชายยืนอยู่ รุยละสายตาออกจากมือตนเอง เงยมองสิ่งที่เข้ามาใกล้ สิ่งตรงหน้าเป็นสิ่งประหลาดขนาดใหญ่สีเขียวทึบรูปร่างผิดแปลกประหลาด ดวงตาสีแดงส่องสว่างลูกโตหนึ่งดวงจดจ้องมายังร่างของเด็กชาย
"กำจัดศัตรู"
เสียงซ่าๆไร้ชีวิตกล่าวขึ้นจากตัวประหลาดสูงใหญ่ พร้อมกับปรากฏบางอย่างออกมาข้างลำตัวและแขนของมัน กระบอกสีดำสนิทจ่อมายังร่างของเด็กชาย เล็งเป้าหมายอย่างแน่ชัดไม่สนใจว่าสิ่งที่จะยิงเป็นแค่เด็กเท่านั้น
รุยยืนค้างที่เดิมมองกระบอกสีดำที่จ่อมายังตัวเขาสลับมองกับร่างสีเขียวทึบนั้นไปมาอย่างสงสัย ว่ามันคิดจะทำอะไร ส่วนทางด้านคนที่มองอยู่จากที่ไกลแทบจะดิ้นตายชัก
"รุยหลบ!"
เสียงคุ้นเคยตะโกนดังเรียกสั่งเด็กชายด้วยความตื่นตกใจ ไอซาวะแทบจะลืมเรื่องนี่ไปสนิทว่าเด็กคนนี้แทบไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับโลกภายนอกเลย นั่นแสดงว่าไอเจ้ากระบอกปืนเด็กชายก็ไม่รู้ด้วย
ทันทีที่ได้ยินคำสั่งนั้นรุยตื่นตกใจตามน้ำเสียงนั่นทันที ร่างกายทำตามรีบหลบออกห่างปลายกระบอกสีดำนั่นก็พบว่ามีอะไรบางอย่างยิงออกมาไปโดนกับสิ่งก่อสร้างขนาดสูงข้างหลังจนพังลงมา เด็กชายวิ่งถอยออกห่างเศษหินจากสิ่งก่อสร้าง ดวงตาเล็กมองสภาพนั้นอย่างตกใจ หากเขาหลบไม่ทันสภาพอาจไม่สวย ถึงจะไม่ตายเพราะตนเป็นอสูร แต่ตอนนี้มีความรู้สึกเจ็บที่ไม่เคยมีมาก่อนแทรกเข้ามาแล้ว
เจ้าตัวใหญ่สีเขียวทึบหันศีรษะทรงเหลี่ยมมายังทางรุยอีกครั้ง พร้อมกับกระบอกสีดำที่หันมาด้วย เด็กชายอสูรคลายสีหน้าตกใจลงเข้าสู่ความเรียบนิ่งเย็นชาจนหน้าขนลุก นิ้วมือเล็กขาวซีดกางออก และยื่นมือข้างนึงไปยังตัวประหลาดสีเขียวทึบ
"ในเมื่อคิดจะกำจัดผม ผมก็จะกำจัดคุณ"
ดวงตาในคราแรกที่หรี่ลง หลังจากคำกล่าวก็เปิดกว้างขึ้น เส้นใยสีขาวใสบางเล็กออกมาจากปลายนิ้วยาวสะบัดตรงขึ้นไปยังร่างสีเขียวทึบประหลาดทันที เส้นใยเจาะร่างของหุ่นยนต์ขนาดลึกเส้นสายไฟหนาข้างในขาดออกจากกันเกิดประกายไฟฟ้าช็อตข้างในจนระเบิดล้มลงนอนแน่นิ่ง รุยวางมือตนลงตัดขาดใยจากปลายนิ้วออกพลางมองมือตนสลับกับร่างของตัวประหลาดสีเขียวทึบอย่างสงสัย
'แข็งกว่ามนุษย์ปกติแต่ก็ไม่ถึงขั้นอสูร ไม่สามารถตัดได้ทั้งร่างในครั้งเดียว'
ถึงรุยจะดูเป็นเด็กชายไร้อันตราย ดูปลอดภัย แต่จงอย่าลืมว่าเขาเป็นอสูรการคิดวิเคราะห์คู่ต่อสู้นั้นมีมานานจากการต่อสู้กับเหล่ามนุษย์จากหน่วยพิฆาตอสูร หรือแม้กระทั่งอสูรด้วยกันเอง จากการใช้วิชาเมื่อครู่ตนก็เห็นได้เลยว่ามีสิ่งแปลกไป เส้นใยเขาไม่ตัดร่างนั้นขาดออกเป็นชิ้นๆในคราเดียว ร่างกายของตัวประหลาดสีเขียวทึบแข็งเกินไป รึว่าเด็กชายกันแน่ที่อ่อนแอลง
ไม่มีเวลาได้คิดนานได้ต่อยอด ก็ต้องรวบสติเข้ามาอีกครั้ง เมื่อเสียงสั่นสะเทือนตามมาอีกตัว มันคล้ายกับก่อนหน้านี้แต่สูงใหญ่กว่ามาก รุยหันมามองร่างเขียวทึบยักษ์นั่นอย่างไม่สบอารมณ์ที่เข้ามาขัดเขาซึ่งกำลังใช้ความคิดอยู่ เด็กชายอสูรยกฝ่ามือทั้งสองขึ้น เส้นใยสีขาวใสออกมาเหมือเดิมแต่คราวนี้ไม่ใช่การสะบัดขึ้นไปตัดร่างนั้น แต่เป็นการรวบรัดแทน เส้นใยสีขาวพันล้อมรอบตัวร่างสีเขียวทึบขนาดใหญ่จนมันไม่สามารถขยับไปไหนได้ นิ้วมือเล็กจุดเริ่มต้นของเส้นใยนั้นได้งอเข้าหาเป็นการบังคับให้เส้นใยรัดแน่นขึ้น ร่างของหุ่นยนต์ยักษ์สีเขียวทึบเริ่มบิดหักจากข้อต่อทั่วร่างส่งเสียงดัง
"รีบๆตายไปซะ"
เสียงเรียบเย็นชากล่าวออกมาจาก(อดีต)อสูรข้างแรมลำดับ5อย่างเลือดเย็น ดวงตาไร้ความเห็นอกเห็นใจประกอบกับเส้นใยที่รัดหนักขึ้นเรื่อยๆ จนร่างที่ถูกเส้นใยรัดนั้นแตกหักเป็นชิ้นๆ เส้นสายไฟข้างในขาดออกจากกัน หล่นกองลงบนพื้นหยาบหินอย่างแรง สภาพเป็นเศษชิ้นส่วนไร้ค่ากองรวมกันอยู่ รุยตัดเส้นใยทิ้งไปจากมือ ยืนมองสภาพร่างตัวประหลาดตรงหน้าอย่างเรียบเฉย แต่ก็พึ่งสังเกตเห็นร่างประหลาดทั้งสองนี่ไม่มีของเหลวสีแดงแต่อย่างใด
"ไม่มีเลือด...."
เสียงเล็กพึมพำขึ้นมาพลางมองสภาพร่างหุ่นยนต์ที่แตกออกเป็นชิ้นๆ
"รุย!"
เสียงร้องตะโกนมาจากด้านหลังเรียกเด็กชายให้หันตามเสียงไป เป็นชายร่างสูงผมสีดำขลับสวมผ้าพันคอแสนคุ้นเคยวิ่งเข้ามาหา รุยหันตัวมามองไอซาวะ จากสีหน้าเรียบเฉยแสนเย็นชาของอสูรแต่เดิมกลายเป็นสีหน้าที่ผ่อนคลายและมีความสุขขึ้นมา เมื่อคนที่อสูรน้อยอยากเจอเร็วๆวิ่งเข้ามาหา
เด็กชายก้าวขาเล็กๆสลับไปมาช้าๆตรงไปหาไอซาวะ แต่ทว่าก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่แผ่ซ่านในดวงตา
"อั้ก!"
เสียงกรีดร้องจุกขึ้นในลำคอเล็กขาวซีด ความเจ็บปวดแสบร้อนขยายทั่วดวงตาข้างนึงบนใบหน้า ฝ่ามือเล็กยกขึ้นกุมดวงตาทรมาณ ร่างเล็กบางทรุดล้มลงนอนขดตัวอยู่บนพื้นหยาบ ธารสีแดงสดไหลผ่านฝ่ามือเล็กออกมาจากมือที่กุมดวงตาไว้ สร้างความตกใจให้ชายหนุ่มที่วิ่งมาเป็นอย่างมาก
"รุย!!!"
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
______________________________________
เอาล่ะ ก่อนอื่นต้องชอโทษที่หายไป20กว่าวันเลยนะคะ คืองานเยอะมว๊ากกกกกกกกกกกก เยอะบั่บสั่งกะเอาตาย=_= ไรท์เลยไม่ได้มาแต่งเลยค่ะ รู้สึกว่าตอนนี้แต่งแย่จัง มุแง่งงงง
ในตอนนี้ช่วงแรกเสี่ยงคุก
(ไอซาวะ:ใครเสี่ยงคุก?
(อิไรท์:อาจารย์นั่นแหละค่ะ!!!)
ในช่วงหลังดูเครียด
(เนซึ:ใครมทำให้เครียดหยอ?
(อิไรท์:ยังจะถามอีกนะคะ...)
แก้ข้อสงสัยตอนจบที่น้องล้มลงไป คือไรท์จะจะอธิบายนะคะว่า............
อธิบายตอนต่อไปดีกว่าค่ะ5555555555555
//โดนรีดตบทิ่ม
เอาเป็นว่าทุกๆตอนหลังจากเขียนเรื่องหลักจบไรท์จะตัดเข้าสู่ช่วงไรท์อธิบาย(+บ่น+กวนตีน)รึก็คือช่วงนี้ที่รีดๆอ่านกันอยู่นี่แหละ จะบอกว่าอย่าเลื่อนผ่านเลยนะคะอ่านไรท์ก๊อนนน5555
ไว้เจอกันตอนต่อไปน้าาาา
.
.
.
.
.
ห๊ะ ไรท์ตัดตอนขัดใจเหรอ หื๊มมม ไม่จริ๊งงงง ไรท์ตัดตอนดีจะตายไป~
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

เอาเเล้วไอซาวะ คุกนะคุก
ตำรวจขามีฮีโร่จะพรากผู้เยาว์//โดนตบ
รุย:อะไรเหรอครับ????
ทำเอาไรท์นึกอยากให้น้องรุยเห็นรูปไมเคิลแจ็คสัน แล้วกลัวเพราะเหมือนกับมุซันมาก55555
ส่วนจะมาไหมอันนี้ไม่รู้น้าาาา~
ตัดจบได้ค้างมากกกค่ะไรท์
ทำไมทุกครั้งที่รุยใช้พลัง รุยถึงเจ็บนม เฮ้ย เจ็บตา
อันนี้คงต้องรอตอนต่อไปนะคะ^^
รออ่านนะคะ
น่ารักอ่ะ~
เมื่อไรท์กลับมาอัพนิยายที่ไม่ได้อัพมานานและตัดจบแบบค้างคา
Me:
กรีดร้องขอตอนต่อไป พลีสสสสส
(มุกน้าเล่นมุกๆ)
อิไรท์ยังตัดจบได้น่าฆ่าเหมือนอย่างเคย😐😫😤
กรี๊ด!ไรท์ขอโต๊ดด