ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CSI:Bangkok IV

    ลำดับตอนที่ #9 : แผนการร้าย (1) ตอนที่ 2

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 56


    กรวิกเดินออกมาจากลิฟท์พร้อมเบญญาภาในขณะที่ปาราตี นพรัตน์และภูวดลวิ่งลงมาทางบันได ทั้งหมดมารวมกันที่ห้องชันสูตรที่วิภาดากับณัฐพัชร์เอาซากมนุษย์จามกสามคดีมาวางรวมกัน

                “เออ หมอครับคือมันคนละคดี” ภูวดลชี้และพูด

                “ไม่แม็ก คดีเดียวกัน” วิภาดาพูด

                “คุณจะบอกว่าทั้งหมดนี้คนๆ เดียวทำ”

                “ก็อาจจะใช่และไม่ใช่” วิภาดาตอบกรวิก “แต่ว่าที่แน่ๆ ยิ่งกว่าแช่แป้งก็คือศพนี้เป็นคนเดียวกัน”

                “แน่ใจได้ไง” นพรัตน์พูด

                “นพคุณเคยบอกผมเอง ดีเอ็นเอไม่เคยโกหก” ณัฐพัชร์ส่งใบรายงานดีเอ็นเอให้กรวิกที่ยืนอ่านกับเบญญาภา

                “โอเค มันเป็นคดีเดียวกันแล้ว” เบญญาภาพูด “แล้วแบบว่าพอมีอะไรให้เราเดาทางไหม เวลา สถานที่อะไรประมาณนี้”

                “ใช่ค่ะคือในที่เกิดเหตุเราตรวจสอบแล้วไม่มีอะไรผิดปกติหรืออะไรที่จะทำให้เราไปต่อได้เลย”

                “มีแน่ค่ะ หมอเจอไอ้นี้ที่ในปากของผู้ตายแล้วก็เอาตัวอย่างเลือดส่งขึ้นไปด้วย”

                “ส่วนผิวสีที่แปลกไปนี้ผมบอกอะไรไม่ได้นอกจากการคาดเดาประมาณร้อยสาเหตุ”

                “เดา” กรวิกทำหน้าแปลกใจ

                “ก็ต้องเดา มันมาไม่ครบเว้นแต่คุณจะหาส่วนที่เหลือให้พวกเรา” ณัฐพัชร์พูดแบบไม่เกรงใจจริงอยู่ที่หน้าตาเขาเหมือนจิรายุ แต่ว่านิสัยท่าทางต่างกันออกไปแบบลิบลับเลยทีเดียว กรวิกพยักหน้า นพรัตน์กระแอมเบาๆ ก่อนพูดว่า

                “แล้วมีอะไรอีกหรือ”

                “คือ หมอตรวจสภาพคราวคิดว่าศพนี้นอนบนเตียงเหล็กเย็นมาไม่ต่ำกว่ายี่สิบสี่ชั่ว อัตราความดันเลือดก่อนตาในดวงตาและฮีโมโกลบินที่อยู่ในส่วนที่เรามีอยู่ หมอคิดว่าเขายังไม่ตายตอนที่ถูกแยกชิ้นส่วน”

                “คุณพระคุณเจ้า เลือดเย็นสมบูรณ์แบบ”

                “เอาละ” กรวิกพูด “แบ่งงานกันทำ นพ ปาคุณไปร่วมมือกับพี่วีและโบว์ตามหาร่างส่วนที่เหลือและแบ่งกลุ่มแยกผู้ต้องสงสัยไว้ แม็กตรวจสอบเลือดกับจุดสัมพันธ์ทางเคมี พี่เบญขอตัวอย่างชีวภาพทุกอย่างเท่าที่จะมีอยู่”

                “ค่ะ”

                “ส่วนผม ผมมีนัดกับกระดาษปริศนา”

              ปาราตีซื้อกาแฟมาจากเซเว่นอีเลเว่นสองแก้วก่อนออกมาส่งให้วีรภาพที่ยืนบิดหลังคอตัวเองอยู่ ในขณะที่คนอื่นในแล็ปกำลังทำงานอย่างแข็งขัน

                “ผมละอยากรู้จริงๆว่าทำไมเราต้องทำงานในวันปีใหม่ด้วย”

                “ก็คดีมันไม่ปิดนี้น่า”

                “วันปีใหม่ทั้งทีกะจะได้เที่ยวสักหน่อย”

                “เอาเหอะ เรายังมีขาอีกขาและลำตัวที่ต้องหานะ”

                “หาคนเป็นยังง่ายกว่าอีก” ปาราตีหัวเราะขณะที่ทั้งคู่เดินบนทางเท้าไปเรื่อยๆ “นึกถึงต้องที่เข้าบรรจุตำรวจใหม่ๆ เราก็มาเดินแบบนี้เดินไปตรวจไปขอทาน วิ่งราว เด็กจรจัด”

                “เหนื่อยแทบขาดใจ ให้ฉันเลือกได้ฉันไม่อยากกลับไปทำแบบนั้นจริงๆ”

                “ผมละนะคงยากจะเลือกขณะมาอยู่ซีเอสไอหน่วยไฮโซของกรุงเทพยังต้องมาวิ่งไล่คนอีก”

                “มันก็เหมาะกับคุณมากกว่าในแล๊ปนั่นแหละ เดี๋ยวนะพี่วีได้กลิ่นไหม”

                “หนูที่ไหนมาตายแถวนี้เนี่ย”

                “หนูตายมันไม่เหม็นขนาดนี้มั้งค่ะ คุ้นๆไหมกลิ่นนี้”

                “คดีแรกของเราสองคน” วีรภาพสองตามกลิ่นเข้าไปในช่องระหว่างตึกที่เป็นจุดทิ้งขยะของกรุงเทพมหานคร ทั้งคู่ค่อยๆ เดินเข้าไปและลองเปิดๆ ขยะดูและปาราตีก็ต้องถอนหายใจอย่างแรง

                “พี่วี เราเจอขาซ้ายแล้ว”

                “เยี่ยม” วีรภาพร้องขณะหยิบโทรศัพท์มากดโทรออก

                กรวิกจับเศษกระดาอย่างเบามือ คนทั้งแล๊ปแทบจะหยุดหายใจมองเขาเพราะเป็นเวลาเกือบสี่เดือนที่พวกเขาไม่ได้เห็นภาพนี้หลังจากกรวิกต้องไปพักฟื้นหลังจากประสบเรื่องร้ายแรงมา กรวิกเอาที่หนีบกระดาษหนีบไว้และใช้ไอร้อนค่อยไหลความชื้นออก ก่อนจะพ่นสเปรย์เคมีและเอาไปใส่ตู้อบความร้อนพอได้ที่มันก็ปรากฏรูปร่างทุกอย่างออกมา เขาหยิบออกมาและมองซ้ายทีขวาทีก่อนจะยิ้มออกมา เบญญาภาเดินเข้ามาพร้อมท่าทางผิดหวังอย่างแรง

                “ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจาก...”

                “หมึกพิมพ์ห้าสี” กรวิกรีบต่อประโยคให้

                “รู้ได้ไง นัดอีกแล้วใช่ไหม”

                “ไม่ ผมรู้เพราะเจ้านี้”

                “แบงค์พันเหรอ”

                “และมันเป็นเงินปลอม”

                “อะไรนะ”

                “เงินกระทรวงการคลังตีพิมพ์โดยโรงพิมพ์ของกระทรวงและกองกษาปณ์ ธนบัตรทุกใบจะมีลักษณะพิเศษ แต่พี่ดูกับเงินที่ผมเพิ่งหยิบออกมาจากกระเป๋าเมื่อกี้ กระดาษเหมือนกันไหม”

                “เหมือนมาก”

                “แต่ก็ตบตาผมไม่ได้ ด้วยขนาดตอนแรกผมคิดว่ามันเป็นเงิน แต่เงินจริงจะมีการฝังเส้นใยนำแสงพิเศษเฉพาะของกระทรวงเป็นส่วนหนึ่งของกระดาษที่ใช้พิมพ์ธนบัตร ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบไหนเละหรือถูกทำลายหมึกเราก็จะเห็นเส้นใยนำแสงอยู่ แต่นี้ไม่และมันเรียบไม่มีรอยนูนเหมือนของจริง ถ้าเป้นของจริงแม้ถูกเอ็นไซด์ของน้ำลายทำลายไปก็ยังต้องเห็นแต่ไม่”

                “มันอาจอยู่ในปากผู้ตายก็ได้ เส้นใยนำแสงมันละลายได้นะโดยเฉพาะในเอ็นไซน์น้ำย่อย”

                “ผมเช่นกับแบงค์แล้วไม่มีเส้นใยในปากเลยหรืออะไรที่บ่งบอกว่ามีอยู่ และที่สำคัญผมตรวจสอบแล้วได้เป้นของจริงแค่ไอร้อนก็ต้องเห็รอยตัวเลขรหัสที่ฝังอยู่แต่ผมทั้งเป่าไอร้อนทั้งอบไม่มี”

                “มันเป็นของปลอม”

                “ไม่รู้สิพี่เบญผมรู้สุกว่ากลิ่นไม่ดีแล้วละ”

                “เศรษฐกิจไม่ดี มีคนทำเงินปลอมออกมาใช้ก็อย่างที่เป็นข่าว”

                “แต่ถึงกับฆ่ากันตาย ผมว่าไม่ธรรมดาแล้วละ” มนัสรีบวิ่งเข้ามาในห้อง

                “เจ้านายครับผมได้ทำการตรวจสอบดีเอ็นเอแลก็ได้ทำการสืบค้น...”

                “นัด ช้าๆ ไม่ต้องรีบ” เบญญาภารีบแก้การพูดเร็วของเขา

                “โทษทีครับผมตื่นเต้น คุณกลับมาแล้ว ว้าว!หล่อกว่าเก่าอีกแหะผมทรงใหม่เยี่ยม”

                “มีอะไร” กรวิกรีบกลับเข้าประเด็น

                “คือผมทำการบ้านนิดหน่อยแล้วก็ได้ชื่อของผู้ตายแล้วครับ เขาเป็นข้าราชการสำนักโรงกษาปณ์”

                “โรงกษาปณ์”

                “มีหน้าที่ผลิตเงิน เข้าเค้าไหมละดูเหมือนว่าเรามีเรื่องต้องคุยกับกรมสืบสวนกลางซะแล้ว”

                ห้องชันสูตรปาราตีเดินตามรถเข็นที่ใส่ขาซ้ายมาในขณะที่นพรัตน์ยืนอยู่แล้วกับท่อนลำตัว

                “ไปเจอที่ไหน” ปาราตีถาม

                “อยู่ในกอผักตบริมคลองมหาสวัสดิ์ พวกเทศบาลแจ้งมาปาละ”

                “ในกองขยะ กลิ่นมันลอยมาประทับจมูกเข้าให้”

                “พวกคุณนี้เก่งจัง” ณัฐพัชร์เอาชิ้นส่วนมาต่อเข้าด้วยกัน วิภาดาสวมถุงมือและเดินมายืนข้างโต๊ะ

                “คิดว่าไงค่ะ”

                “ต้องเช็คนิดหน่อยพวกคุณจะรอก็ได้นะแต่ว่าต้องดูการผ่าศพนะ”

                “ไม่เป็นไรครับ เราจะลงมาใหม่”

                กรวิกนั่งอยู่ตรงข้ามกับผู้บัญชาการกรมสอบสวนกลางกับวีรภาพ เขากำลังอ่านดูแฟ้มที่กรวิกให้เขาดู

                “อืม เอาเป็นว่าเราจะรับไว้พิจารณา”

                “ขอโทษนะครับ” กรวิกพูด “เราไม่ได้มาเพื่อขอพิจารณาอะไรเรามาเพื่อคำตอบและเพื่อทำความเข้าใจนี่คดีของผม”

                “และคุณต้องตอบคำถามเรา”

                “คุณต้องเข้าใจอะไรหลายอย่างเลยนะ”

                “แต่ที่ผมเข้าใจหมายศาลนี้บอกว่าผมทำอะไรก็ได้” วีรภาพยื่นหมายศาลให้

                “พวกคุณนี้มัน...ว่ามาอะไร”

                “คุณรู้เรื่องธนบัตรปลอมพวกนี้หรือเปล่า”

                “ทำไหมเงินปลอมมีออกเยอะ”

                “แต่ไม่ใช่พวกนี้” กรวิกเริ่มจี้ “ผมตรวจสอบแล้วมันไม่ได้ออกมาจากแท่นพิมพ์ปกติแต่เป็นแท่นพิมพ์คุณภาพสูงซึ่งในประเทศไทยมีที่โรงกษาปณ์เท่านั้น ที่นี้ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้อะไรบ้าง”

                “นี้ผู้กำกับผมไม่ได้มีเวลาว่างมากนักนะ”

                “ผมก็เหมือนกัน”

                “ทางที่ดีคุณตอบเรามาตามตรงดีกว่าครับคุณรู้เรื่องอะไรบ้าง”

                “นี่คุณเรามีคดีมากมายก่ายกองแต่ก็มีอยู่บ้างเงินปลอมนะ แต่พวกคุณรู้ใช่ไหมนี่มันไม่ใช่หนังนะคดีพวกนี้ไม่ง่ายหรอก”

                “คดีพวกเราก็ไม่เคยง่าย” กรวิกพูด “ท่าทางคุณจะยุ่งกับงานจริง  เอาเป็นว่าจะขอตรวจเอกสารเองจะได้ไม่รบกวนคุณอีกว่าไงครับ”

                “ก็ได้คุณมีหมายนี้” กรวิกชุกขึ้นโค้งศีรษะนิดหน่อยก่อนจะเดินออกไป

                เบญญาภากำลังเดินอ่านแฟ้มตอนที่ภูวดลเดินเข้ามาหา

                “พี่เบญ เลือดจิรเดชนี้ไม่ธรรมดาเลยนะเอาซะเหนื่อยเลย”

                “แม็กปล้ำกับเลือดเหรอ”

                “ประมาณนั้นแต่ผมชนะ ผมรู้แล้วว่าทำไมผู้ตายไม่รู้สึกตัวข้อสันนิษฐานของหมอวิพูดถูกว่าเขายังไม่ตายตอนถูกแยกชิ้นส่วนแต่สลบอย่างแรง”

                “อย่างแรง”

                “เดนโทรเพมทามีนดาเคเตส”

                “ไม่เคยได้ยิน”

                “ยาผงบริสุทธิ์ประเภทสาม เป็นการผสมระหว่างยากดประสาทประเภทกัญชา มอร์ฟีนแล้วก็สารพัดในทะเบียนตำรวจเราเคยจับกุมครั้งเดียว และมันอยู่ในกรมสอบสวนกลาง”

                “แล้วมันมาอยู่ในเลือดคนตายได้ไง”

                “ไม่รู้” นพรัตน์เดินมาพอดี

                “พี่เบญ คุณพร้อมไปเที่ยวหรือยัง”

                “หมายความว่าไง”

                “จากเศษชีวภาพที่ฝ่าเท้าซ้ายเราตรวจสอบแล้วมันเป็นเศษของน้ำยาที่ลอยขึ้นมาจากความชื้นซึ่งทำให้ปราราตีใช่ความสามารถอันยอดเยี่ยมหาที่เกิดเหตุได้แล้วด้วยการทำวงรัศมีรอบที่เราพบศพ”

                “เยี่ยม”

                “ด๊อกเตอร์กับพี่วีล่วงหน้าไปแล้ว”

                “งั่นเราก็รีบไปเอาหน้าเถอะ”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×