คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ผลประโยชน์ ตอนที่ 2
หลังการแข่งขัน ตำรวจเข้าตรวจสอบพื้นที่ ผู้หญิงที่พากญ์เธอเป็นเจ้าของตึกเลยต้องมาคุยกับวีรภาพโดยมีเบญญาภาและกรวิกที่เดินดูหุ่นยนต์ค่อยฟังอยู่
“หุ่นยนต์มาจากทั่วประเทศนั้นแหละ ที่นี้เป็นที่เดียวที่ให้เขาเอาทักษะออกมาอย่างเต็มที่”
“คุณมีทะเบียนเกมไหม” วีรภาพถาม
“ฉันไม่ต้องใช้มัน ฉันจัดแสดงถ้าพวกขาพนันก็ช่วยไม่ได้”
“คุณเป็นเจ้าเดียวที่ไม่เอาส่วนแบ่ง”
“พ่อฉันทำธุรกิจส่งออกแล้วเจ๋งพอตายก็ทิ้งมรดกให้ฉันเป็นโกดังเพียบเลยฉันต้องการสถานที่เลยสร้างธุรกิจใหม่ขึ้นมา” เธอหันไปหาผู้ชายใส่แว่นที่มองดูอยู่และพูดว่า “ไงคณิณ ทำได้ดีมากเลยวันนี้”
“แต่เราแพ้”
“ฉันชอบคนแพ้แบบมีสไตล์” เบญญาภาดินเข้ามาและพูดว่า
“ดูเหมือนโสดแต่ไม่โสดนะ”
“ฉันหย่าแล้ว แต่มันเรื่องอะไร” วีรภาพยกรูปสุริยาให้ดู “นั่นสุริยานี้”
“เขาตายแล้ว” วีรภาพพูด เบญญาภาเลยพูดต่อว่า
“ราพบร่างเขายัดใส่ถังเคมีจากโกดังนี้”
“คุณเจอเขารั้งสุดท้ายเมื่อไร” วีรภาพถาม
“อ๋อ หกอาทิตย์ก่อนหุ่นสู้กันแบบดุดัน เขเจ๋งมาจัดการหมดเลย คืนนั้นเป็นคืนทีใครก็ฝันอย่างจะเป็น เขาสร้างของเขาทำลายของคนอื่น”
“เหมือนเอาอาวุธอันตรายมาทำให้เป็นรูปเป็นร่าง” เบญญาภาพูด “ดูเหมือนคนจะไม่ชอบหน้าเขาเท่าไร”
“เอาเป็นว่าคนแพ้ไม่ชอบที่ถูกหักหน้าหรอก”
“เราอยากให้คุณบอกว่าคืนนั้นเขาสู้กับใครบ้าง”
“และหุ่นตัวไหนด้วย” กรวิกเดินเข้ามาพูด “เราหาฆาตกรก็ต้องหาอาวุธด้วย”
“สรุปแล้ว” วีรภาพพูด “เราเอาหมด”
ในห้องรับรองจิรายุนั่งฟังชนาภาภรรยาวัลลภเล่ารายละเอียดให้เขาฟังโดยมีจ่ามานะยืนอยู่ จ่ามานะเอารูปให้เธอดูเธอพูดว่า
“ค่ะนั้นเขาวัลลภ เขากำลังจะไปปีนหน้าผาที่เกาะเสม็ด”
“คุณไปกับเขาหรือเปล่า”จ่ามานะถาม
“เปล่าฉันไปบ้านแม่กับพี่สาวฉัน”
“คุณกลับมาเมื่อไร”
“สิบวันก่อน ของของเขาอยู่ในห้องแต่เขาไม่อยู่แล้ว ฉันเลยโทรไปตมทั้งที่ทำงาน อุทยานบริษัทโรแรงแม้แต่โรงพยาบาลก็ไม่เจอ ฉันเลยแจ้งตำรวจแต่ไม่มีใครสนใจฉันเลย”
“คุณชนาภา” จิรายุพูด “ผมสนใจแล้วและผมก็อยากดูบ้านคุณ”
ในบ้านของวัลลภ นพรัตน์ดูกระเป๋าสัมภาระของวัลลภ ชนาภายังไม่ได้เคลื่อนย้ายอะไร นพรัตน์ดูและพูดว่า
“ของเขาอยู่ครบ แต่ไม่มีถุงนอน” จิรายุส่องไฟไปที่พื้นและพูดว่า
“ดูเหมือนมีคนเก็บกวาดร่องรอย แต่ลืมใช้น้ำยาทำความสะอาด” จิรายุลุกไปปิดผ้าม่านและนพรัตน์ใช้น้ำยาลูมินอร์พ่นเป็นรอยเลือดเรืองแสงขึ้นมา
“เอาไงดี เจอรอยเลือดแล้ว” นพรัตน์พูดและพ่นต่อไปในขณะที่จิรายุส่องดูรอบๆและนพรัตน์ก็พูดต่อว่า “ผมเจอรอยเท้าเปื้อนเลือดด้วย”
“ผมก็เจอ” จิรายุเอากล่องบางอย่างออกมาเปิดดูว่างเปล่า นพรัตน์พ่อไปเรื่อยๆจนไปหยุดที่รูปปั้นโมอายที่เป็นของที่ระลึกตรงฐานมีเลือดอยู่เขาหยิบขึ้นมาและพูดว่า
“สารวัตร ผมคิดว่าผมเจออาวุธฆาตกรรมแล้ว”
ในห้องแล็ปปาราตียืนดูหุ่นยนต์บนโต๊ะในขณะที่กรวิกเตรียมตรวจดู ปาราตีพูดขึ้นโดยอ่านป้ายชื่อว่า
“ซูมี่ สไปเดอร์ สลอร์เตอร์ คิดจริงๆเหรอว่ามันฆ่าเหย่อยได้”
“พวกมันเร็วมีพลังและอาวุธก็ตรงกันผมเลยต้องตรวจดู”
“ก็อย่างที่เขาบอกละว่าดูอะไรต้องดูถึงข้างใน”
“พูดได้สวย” กรวิกส่งไขคงไฟฟ้าให้และทั้งคู่ก็เริ่มรื้อและเก้บตัวอย่างไปพร้อมกันในทันทีและดูเหมือนปาราตีเจอรอยเลือดบนหุ่นยนต์
“เจอเลือดด้วย”
“โชคดีจัง”
“ฉันจะเอาไปให้นัดนะ”
“งั้นผมจะทดสอบดู”
ปาราตีเดินออกไปพร้อมตัวอย่างกรวิกย้ายหุ่นมาในห้องที่ปรับใหม่เหมือนสังเวียนเอาขาหมูแขวนและบังคับหุ่นยนต์เอาตัดดูก่อนใช้ปูนพิมพ์ฟันสองรูปแบบมาเทียบกับรูปแบบของศพโดยส่องดูทางกล้องจุลทรรส์แบบเปรียบเทียบ มนัสเดิเข้ามาและพูดว่า
“มีโชคไหม”
“ไม่ รอยเครื่องมือไม่ตรงกับแผล”
“งั้นนี้คงช่วยได้ ดีเอ็นเอดีกว่ารอยแผลอีก ผมเอาดีเอ็นเอไปตรวจดูสิ”
“เลือดของเหยื่ออยู่บนเครื่องมือทั้งสามชิ้นจากหุ่นสามตัวเลย”
“ใช่”
“ไม่ค่อยเข้าท่าเลย”
“แล้วไอชิ้นส่วนเครื่องมือนี้มาจากไหนเหรอ”
ในบ้านของสรศักดิ์ ธรรมานิตย์เจ้าของชิ้นส่วนกรวิกกับวีรภาพกำลังสอบสวนเขาอยู่ เขาพูดอธิบายว่า
“ผมซื้อขายชิ้นส่วนจากทุกที่นั้นแหละป่าช้ารถแลกซื้อในเน็ต”
“คุณไม่ได้ดูเหรอว่ามีเลือดเปื้อนด้วย” กรวิกถาม
“ไม่สำคัญหรอว่ามันจะสกปรกหรือสะอาดแค่ใช่งานได้ก็พอ” เขามองวีรภาพที่ไปดูของที่อยู่ทั่วห้องเขาเลยพูดต่อว่า “ฟังนะผมกับสุริยาเป็นหุ้นส่วนกันผมผลิตเขาขับและเก่งสุดผมจะฆ่าเขาทำไม” วีรภาพเอารูปถ่ายให้กรวิกดูและพูดว่า
“สรศักดิ์ หุ้นส่วนคุณหายหัวไปไหนไม่รู้หกอาทิตย์ เขาโทรหาส่งอีเมล์หรือจดหมายไหม ถ้าคุณแคร์เขามาไม่คิดจะตามหาเลยเหรอ คุณต้องเขาใจว่าเรามาทำไม”
“เขาหายไปแบบนี้บ่อยไปรับจ๊อบอะไรก็ไม่รู้ และเขาก็จะไปแบบดำดินหายไปเลยจะรู้อีกที่ตอนเขาเอาของฝากมาให้”
“คุณมีงานอดิเรกไหม” วีรภาพถาม
“ครับผมชอบประดิษฐ์นั่นประดิษฐ์นี้”
“งานคุณต้องใช้พื้นที่ดูคุณไม่มีเท่าไร” กรวิกถาม “คุณมีที่เวิร์กช๊อปไหม”
“ผมเช่าที่อยู่ที่หนึ่ง ย่านบางแคนี้แหละ”
ไม่ห่างไปมากมีตึกเปล่าที่เช่าเป็นที่สำหรับใช้เป็นที่ประดิษฐกรรมต่างๆ มีคนทำงานอยู่ในนั้นตอนที่ตำรวจเขามา วีรภาพเดินเข้ามาและพูดว่า
“เอาละเคลียร์ที่นี้ กรุณาออกไปรอข้างนอกด้วย” ชายคนนั้นหัวเสียและเดินออกไปลูดว่า
“โอเค อย่ากดขี่คนที่ด้อยกว่าซิ”
“เดินไป” วีรภาพย้ำคำและเดินสวนกับเบญญาภาและกรวิกที่เดินเข้ามา เบญญาภาหยิบไฟฉายและส่องไปรอบๆ
“ที่นี้เป็นร้านขายเครื่องหรือเศษเหล็กกัน ฉันคิดว่านี้เป็นที่มั่วสุมของพวกเขาเลย”
“นี้ไงหุ่นของสรศักดิ์” กรวิกพูด “มีตัวเหมือนเลื่อยด้วยผมจะเอาไปตรวจดู แต่บางชิ้นส่วนหายไป” เบญญาภาพยักหน้าและหันไปดูที่อื่น กรวิกก้มมองพื้นเห็นรอยสนิมเป็นวงกลมเขาเลยเอาที่วัดมาวัดเส้นผ่าศูนย์กลางในขณะที่เบญญาภาดูซกาหุ่นยนต์อยู่ กรวิกลุกขึ้ยมาและพูดว่า
“รอบสนิมเส้นผ่าศูนย์กลางยี่สิบสามนิ้วนี้ขนาดมาตราฐานของถังห้าสิบห้าแกลอน” ทั้งคู่แยกออกไปตรวจดู เบญญาภาเจอบางอย่างเลยหยิบมาดู ในขณะที่กรวิกส่งไฟฉายแบล็กไลท์ดูและพูดว่า
“พี่เบญ ผมเจอคราบเลือด เราเจอที่เกิดเหตุแล้วละ”
“และเจอของดีด้วย”
ในห้องสอบสวนหญิงเจ้าของโกดังและตึกที่ไว้แข่งและประกอบหุ่นยนต์อยู่ในห้องสอบสวนเธอวางท่าน่าดู เบญญาภามาที่โต๊ะและพูดว่า
“เราตามรอยเครื่องนั้นจากบริษัทที่เป็นเจ้าของ”
“ของฉัน นี้มันเป็นแบบทรัพย์สินเช่า พวกเขารู้จักเราดีฉันบอกคุณแล้วถ้าคุณจะถาม”
“เราเจอนี้ในแผนกของสรศักดิ์ เล็บมือของคุณ”
“มันพังแล้วนะ”
“ใช่มีรอยขีดข่วนด้วย มันมีเศษผิวหนังด้วยฉันตรวจดีเอ็นเอแล้วมันเป็นของสุริยา เล็บของคุณ ร้านของคุณ ถังของคุณแถมศพอีกหนึ่ง”
“นานๆทีฉันจะเข้ามาดูว่าลูกค้าพอใจไหม คืนหนึ่งสุริยาทำงานอยู่คนเดียวและเขาก็เล่นบ้าเอาหุ่นไล่ฉันเราต่อสู้กันนิดหน่อย เพราะเขาพยายามมีอะไรกับฉัน”
“ทำไมคุณไม่บอกเราแต่แรก”
“ก็คุณถามว่าเจอเขาครั้งสุดท้ายเมื่อไร นั่นมันหนึ่งวันก่อนเกมรุมสะกรัม”
“งั้นก็เรียกว่าผลร้ายจากการทำธุรกิจ”
“จะว่างั้นก็ได้”
“ฉันก็จะเรียกอยู่พอดี คุณเลยจัดการเด้วยเครื่องนั้นคืน”
“ฟังนะฉันให้พวกเขาจินตนาการเกี่ยวกับฉันแล้วกลับไปทำอะไรแบบเด็กนักเรียน เขาไม่มีพิษมีภัยอะไร สุริยาเขาโหดบ้าทหารฉันอาจไม่ระมัดระวังตัวเวลาอยู่ใกล้เขาบ้างแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันฆ่าเขา”
ในห้องแล็ปนพรัตน์กำลัตรวจหาร่องรอยจากตุ๊กตาโมอายหินอ่อนที่เก็บมาดูเหมือนเขาจะเช็ดมือกับเจ้านี้ด้วย นพรัตน์เลยไปส่องขยายดู เขาก็เจอลายนิ้วมือ
ในห้องสอบสวนจิรายุกับนพรัตนั่งประจัญหน้ากับชนาภาภรรยาวัลลภ นพรัตน์วางรูปและพูดว่า
“เราเจอลายนิ้วมือคุณบนรูปปั้น”
“มันเป็นของขวัญที่ฉันให้เขา”
“เราพบเลือดสามีคุณที่ฐานรูปปั้นด้วย คือมันเป็นอาวุธฆาตกรรม”
“คุณได้จับหรือเลื่อนมันตอนไหนในสิบวันนี้หรือเปล่า” จิรายุถาม
“เขาเกลียดมันมากและอยากโยนทิ้ง ตอนฉันกลับมาฉันเห็นมันอยู่บนพื้นและเอามาวางเข้าที่ ฉันคิดว่ามันเอามันวางไว้ ฉันเคยเจอในตู้เสื้อผ้า ในโรงรถ ในรถ มันเหมือนเกมสำหรับเรา ฉันมาหาพวกคุณ แต่คุณวนไปวนมาอยู่ได้”
“คุณชนาภา คุณเก็บอะไรไว้ในกล่อง” จิรายุวางรูปให้ดู
“เราได้รับเหรียญสะสมนี้มา และคิดว่าจะเอาไว้ใช้ตอนขัดสน” และเธอก็ร้องไห้
ความคิดเห็น