คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : แผนการร้าย (2) ตอนที่ 2
กรวิกเอาอุปกรณ์มาแกะอย่างเบามือเอาน้ำยาล้างทำความสะอาดและเอาส่วนประกอบที่เล็กมามาหนีบและต่อสายเข้ากับคอมพิวเตอร์ในห้องแล็ป เพื่อเปิดระบบภายในและเอาสารที่ล้างมาตรวจหาสสารจะเครื่องตรวจสสาร ในขระที่กำลังตรวจอยู่ปาราตีก็เดินเข้ามา
“ดีขึ้นแล้วเหรอค่ะ”
“ใช่” กรวิกยิ้มให้ “อะไรนะ”
“แฟ้มระงานนะ คือฉันได้ตรวจวิเคราะห์สารที่ใช้ในการทำระเบิดรู้ไหมค่ะฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย”
“อะไร”
“เดตร้าโทรพีลีนเอฟโซซีลีนเมโทรปิลิโทร”
“ยาวเลย” กรวิกรับแฟ้มมาดู “อืมแปลก”
“ใช่”
“สำหรับคุณ ยกเว้นฝ่ายสรรพาวุธทหาร”
“หมายความว่าไง”
“นี้เป็นเคมีประกอบสามสิบสองชนิดในการประกอบระเบิดวงทำลายล้างสูงแบบอเมริกัน มีน้อยคนที่จะรู้จัก”
“ก็เข้าเค้าที่คุณตั้งเอาไว้ระเบิดตั้งใจสังหาร”
“ชนิดไม่เหลือซากเคมีนี้คือตัวกระตุ้นในเกิดความไม่เสถียรให้ระเบิดทำงานได้ประสิทิผลมากกว่าเดิมร้อยเท่า ถ้าผมนั่งในรถแล้วระเบิดผมไม่เหลือซาก”
“แล้วทำไมมันกดระเบิดตอนที่อยู่นอกรถละ กรกระเด็นมาตั้งไกลนะ” เสียงคอมพิวเตอร์ดังกรวิกเดินไปดูที่คอมพิวเตอร์และกดมองก่อนจะทำหน้าตกใจและหันมาพูดกับปาราตี
“ผมรู้แล้วว่าใครกดระเบิด”
“ดีเลยใครละ”
“ผมเอง”
ในห้องประชุมของกรมซีเอสไอ กรวิกกดภาพถ่ายในที่เกิดเหตุขึ้นจอภาพใหญ่ในห้องในขณะที่เบญญาภา วีรภาพ พนิดา ปาราตี นพรัตน์ ภูวดล นั่งดูอยู่ในห้อง
“เอาละที่เราเห็นและจากการอธิบายรูปแบบระเบิดของปาเราเห็นแล้วว่าระเบิดนี้อันตรายแค่ไหน”
“แล้วทำไมไม่เอากรถึงตายละ”
“เพราะว่านี้เป็นการทดลองอีกนัยหนึ่งก็คือเตือน”
“อธิบายสิ” เบญญาภาเปิดทาง
“ระเบิดนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นคำเตือนในขณะเดียวกันก็เป็นการทดลองก่อนทำจริงโดยอาศัยผม คนที่ทำต้องการเพียงดูว่าอานุภาพทำลายล้างมีมากแค่ไหนก่อนที่จะทำของจริงออกมากับเป้าหมายจริง”
“รู้ได้ไง” วีรภาพถาม
“เจ้านี้ไง” กรวิกกดภาพเครื่องรับสัญญาณ “นี้เป็นเครื่องรับสัญญาณเพื่อเปิดระบบกลไกระเบิดให้ทำงานใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีเรียกว่าสังหารแบบสายฟ้าแลบ ผมตรวจสอบมันตั้งขึ้นเพื่อรับสัญญาณจากรีโมทรถยนต์ของผม”
“กรเลยบอกว่ากรเป็นคนกดระเบิด” ปาราตีพูด “คนร้ายไม่ได้ต้องการให้เอากรไปไว้บนรถแต่แรกแค่ทดลอง”
“มั่นใจได้ไง สัญญาณรีโมท์เนี้ยนะมันรีโมท์อันไหนก็ได้ไม่ใช่เหรอ” ภูวดลแย้ง
“แม็กตัดทฤษฎีทั้งหลายออกไป บางครั้งฆาตกรก็ทำอะไรโดยไม่ต้องมีหลักการมากมายแค่ทำงานให้สำเร็จ สัญญาณตัวนี้รับสัญญาณจากรถเบนซ์รุ่นของผมซึ่งก็อย่างที่รู้สัญญาณรีโมท์เบนซ์แตกต่างและมีลักษณะเฉพาะเป็นเอกลักษณ์มากและรถส่วนตัวของทั้งกรมมีผมคนเดียวที่ขับเบนซ์”
“เป้าง่าย ถ้าโตโยต้าคงระเบิดเละกว่านี้แน่” นพรัตน์พูดเพราะส่วนใหญ่ใช้โตโยต้า
“งั้นเป้าหมายที่แท้จริงของมันคืออะไรล่ะ” พนิดาถาม
“ยังไม่รู้” เบญญาภาตอบให้แต่กรวิกกลับพูดขึ้นมา
“ผมคิดถึงคำพูดในห้องสอบสวนของสุรชัย พี่วีจำสิ่งที่เขาพูดได้ไหม”
“ได้ เรื่องนี้มันใหญ่เกินกว่าที่คุณจะห้ามได้ พวกเราทำให้สิ่งที่สำคัญและยิ่งใหญ่ ดูจากการฆ่าบรรดาคนทั้งหลายที่เรายังค้างคาอยู่ก็น่าจะใหญ่ที่เดียว”
“ก่อการร้าย” ปาราตีพยายามตั้งประเด็น เวลานั้นมนัสวิ่งเข้ามาและพูดว่า
“สายไฟที่คุณให้ผมตรวจได้ผลแล้วนะเป็นของเกรดทหารสั่งซื้อเมื่อสามเดือนก่อนและหายไป จากการทดสอบไอโซโทปมันมาจากห้องเก็บที่มืดและอยู่ริมน้ำผมเลยค้นคว้ารู้ไหมมีคนเช่าโกดังริมคอลงแสนแสบในการเก็บวัตถุพวกนี้เมื่อสามอาทิตย์ก่อนด้วย”
กรวิก เบญญาภา วีรภาพและพนิดา สวมเสื้อเกราะและถือปืนนำพวกตำรวจบุกเข้าไปในเขตพื้นที่โกดังต้องสงสัยริมคลองแสนแสบ พอพังที่ล็อคเปิดเข้าไป คนข้างในก็ร้องขึ้นมาดีทีวีรภาพล้อมพื้นที่ไว้แล้วมีการต่อสู้กันเกิดขึ้นแต่สุดท้ายฝ่ายซีเอสไอก็ควบคุมไว้ได้และจับผู้ต้องสงสัยได้ส่งไปที่ห้องสอบสวน
เบญญาภาเดินจดสิ่งที่อยู่ในโกดังในขณะที่นพรัตน์ ปาราตีและภูวดลถุกเรียกมาบันทึกหลักฐานและทำการเก็บกลับไปที่แล็ปท่ามกลางการคุ้มกันที่แน่หนาทีเดียว
“สายไฟ รูปแบบระเบิด เหมือนกันเลย” นพรัตน์พูด
“ที่นี้คือกองบัญชาการของมัน” ภูวดลเสริม “ดูจากทุกอย่างแล้ว”
“ทำเป็นระบบ คนใหญ่คนโตเกี่ยวข้องระบบเยี่ยมมีแผนอะไรนะ” เบญญาภาตั้งข้อสงสัยตอนที่ปาราตีเดินออกจากห้องออฟฟิศที่ชั้นลอยของโกดังมาตะโกนลงมาว่า
“พี่เบญค่ะเราต้องใช้บริการมนัสแล้วละ”
กรวิกเดินเข้ามาในสำนักงานตำรวจสอบสวน ห้องสอบสวนถูกจัดสอบสวนคนร้ายที่จับมาได้จากโกดังแต่ทว่าดูเหมือนพวกนี้พูดไม่เป็น ไม่ยอมพูดและทำสายตาแข็งกราวจนตำรวจหลายคนทนไม่ได้ กรวิกเดินไปหาวีรภาพที่เดินออกมาจากห้องด้วยความหงุดหงิดมาก
“ให้ตายเถอะ ไม่ติดมีกล้องวงจรปิดละก็มันถูกผมอัดไปแล้ว”
“ใจเย็นสารวัตร ไม่ตอบเลยใช่ไหม”
“แบบนั้นไม่ตอบไม่เท่าไร ทำหน้ากวนตีนแบบนั้นมันน่าจริงๆ”
“ในห้องนั้นล่ะใครสัมภาษณ์”
“โบว์ แต่ตอนนี้เธอขอสงบสติอารมณ์ก่อน”
“งั้นฉันจัดการเอง เอาประวัติมา”
“นี้” วีรภาพยื่นแฟ้มประวัติให้ “กิติพัชร์ สุขวิจิตร เป็นอาสาตำรวจ มาจากอุบลราชธานี ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรม อายุ 28 ปี”
“โอเค” กรวิกพยักหน้าและเดินเข้าไปในห้องสอบสวน ในห้องกิติพัชร์นั่งก้มหน้าเขามีทีท่าทีค่อนข้างหวาดกลัวก็บรรยากาศห้องมืด มีไฟน้อยดวงไม่มีหน้าต่างโต๊ะเหล็กเย็นเฉียบ กิติพัชร์ในสายตาของกรวิกยังเด็กอยู่มาก เหมือนกับว่าถูกกรอกข้อมูลที่ทำให้ชวนเชื่อมาทำงานนี้ด้วย กรวิกนั่งลงวางแก้วน้ำสองใบในเลื่อนแก้วหนึ่งส่งให้กิติพัชร์ เขาเหลือบมองและหยิบมาจิบสองสามอึก
“กล้าดื่มน้ำที่ฉันให้ไม่กลัวฉันวางยาเหรอ”
“คุณดูไม่น่ากลัวเหมือนคนที่อยู่ข้างนอกพวกนั้น”
“นายคงไม่รู้จักฉันถึงได้พูดแบบนั้น”
“ผมรู้ว่าคุณเป็นใคร นายแพทย์กรวิก อธิบดีกรมซีเอสไอ ตัวทดลองที่ผิดพลาด”
“โอเค เข้าประเด็นเร็วจัง เอาเป็นว่านายรู้จักฉันก็คงรู้จักกิติสัพท์ฉันดีกว่าฉันนะร้ายกาจกว่าคนที่อยู่ข้างนอกอีก”
“แต่ดูแล้วคุณไม่ได้น่ากลัว จริงๆคือผมหวังให้คุณมาพบเราเร็วๆ”
“หมายความว่าอะไร นายต้องการพูดอะไร”
“ผมเห็นคุณผมเลยไม่หนีให้จับเลยเพราะคุณจะช่วยผมออกไปจากที่นี้ ผมไม่ได้มาเพื่อทำแบบนี้มันหลอกผม เอาผมมาทำเรื่องบ้าพวกนี้”
“เอาละอธิบายสิให้ผมเข้าใจชัดๆ ตรงไหนก็ได้ของบทสนทนาระหว่างเรา”
“ผมพูดผมตายแน่พวกนี้เอาถึงตายคุณก็เห็นแล้ว คุณจะสัญญาได้ไหมว่าผมจะมีชีวิตอยู่”
“เราจะจัดการคุ้มครองทุกอย่างให้นาย นายจะมีชีวิตอยู่ ทุกสิ่งที่นายพูดจะเป็นเรื่องที่รู้เฉพาะฉันกับนายโอเค” กรวิกพูดพร้อมกับลุกไปกดปุ่มปิดการมองและฟังจากห้องที่มองจากห้องข้างๆ และยังกดปิดการบันทึกทุกอย่าง แต่ในช่วงที่ลงมานั่งกรวิกกดโทรศัพท์ไอโฟนอัดเสียงโดยที่กิติพัชร์ไม่ทันได้มองเห็นหรือความจริงเขาไม่ได้สังเกตดูเขาต้องการความมั่นใจมากกว่า
“เอาละเพื่อนว่ามา”
“ผมได้ฟังบรรยายเมื่อสามเดือนก่อนจากกลุ่มคนที่ใช้ชื่อว่ารักชาติไทย มาพูดถึงปัญหาทางสังคมการเมืองและหลายอย่าง แล้วเขาพูดว่าเราเปลี่ยนแปลงมันได้ถ้าจัดการตัวอุปสรรคออกไป”
“ก่อนที่เราจะเข้าไปถึงประเด็นนั้นที่ฉันเริ่มพอเข้าใจแล้ว นายระเบิดรถฉันใช่ไหม”
“ครับ ผมเป็นคนประกอบระเบิดนั้น เขาฝึกผมผมทำได้ดีเขาระบุว่าเป้าหมายทำลายมีคุณรวมอยู่ด้วยคุณคือตัวขัดขวางที่จะทำให้ไม่สามารถเอาชนะอุปสรรคที่จะให้รัฐไทยก้าวหน้าไปได้”
“พวกนั้นมีคำสั่งฆ่าฉัน”
“แต่ผมไม่อยากทำแล้วและต้องการที่จะยุติเรื่องนี้คุณเท่านั้นที่ทำได้ ผมเลยเปลี่ยนรูปแบบระเบิด จัดชุดสายไฟที่ติดตามได้และจูนสัญญาณระบบให้ระเบิดเกิดขึ้นเมื่อคุณกดรีโมท์”
“นายไม่ฆ่าแต่ส่งข้อความให้”
“มันใหญ่กว่าที่ผมจะแก้ไขได้เองได้ ผมเลย”
“แล้วพลาดนายไม่ถูกจัดการ”
“คนที่ไปวางระเบิดถูกจัดการ พวกเขาเชื่อว่าความผิดพลาดเกิดจากการนำไปวางไม่ใช่ผม คือความจริงพวกเขายังใช้ผมทำระเบิดชุดสำคัญอยู่”
“เอาละไหนบอกมาสิ่งสิ่งที่กลุ่มที่ลากนายมาร่วมวงด้วยมีเป้าหมายทำอะไร” กิติพัชร์มองหน้ากรวิกก่อนจะพูดเรื่องสำคัญที่ทำเอากรวิกตกตะลึง
ความคิดเห็น