คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : แผนการร้าย (2) ตอนที่ 1
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงถูกเรียกตัวเข้ามาทำการดับเพลิงรถเมอร์ซิเดสเบนซ์ของกรวิกที่ถูกระเบิดในขณะที่วีรภาพกำลังควบคุมให้กำลังตำรวจของซีเอสไอควบคุมพื้นที่รักษาความปลอดภัยเต็มรูปแบบ นพรัตน์กับภูวดลกำลังตรวจสอบรอบลานจอดรถด้านล่างของกรม ในขณะที่เบญญาภารีบวิ่งออกมาจากกรมพร้อมกับณัฐพัชร์ทั้งคู่ตรงไปที่รถพยาบาลกรวิกนั่งอยู่ท้ายรถ แพทย์กำลังดูแผลที่หัวเขานั่งหลับตาอยู่สภาพเขม่าดับเต็มตัวเรียกได้ว่าระเบิดแรงเต็มที่
“กรเป็นไงบ้าง” เบญญาภารีบวิ่งเข้ามา ณัฐพัชร์มองดูแผลบนหัวเขาอยู่
“ก็ดีกว่าสี่เดือนที่แล้ว ผมไม่ได้หยิ่งนะแต่ผมเพิ่งหยอดตาไปขอเวลาสักนาทีให้มันกลับสู่สภาพเดิมก่อน”
“ไม่เป็นอะไรมากไม่ลึกอยู่ในระดับปลอดภัย สบายใจได้คุณชาย” ณัฐพัชร์พุดกวนประสากรวิกแต่เขากลับยิ้ม เบญญาภาเลยพยายามเปลี่ยนประเด็น
“กรรีบลืมตาจะดีกว่านะ”
“ทำไมเหรอเจ้านายใหญ่มาเหรอ”
“เปล่า นักข่าว เข้ามาได้ยังไง” เบญญาภาเดินไปหาวีรภาพ กรวิกทำท่าจะลงไป
“จะไปไหน”
“แบงค์พาผมเข้าข้างในหน่อยซิ”
“โอเค ค่อยๆเดินนะ” ณัฐพัชร์ประคองแขนพากรวิกกลับเข้าไปในตึกหลบนักข่าวได้ทัน
นพรัตน์ถ่ายรูปซากรถที่ระเบิด ในขณะที่ปาราตีกับภูวดลกำลังเดินวนรอบเก็บเอาซากรถที่กระเด็นออกไปมาวางเรียงบนผ้าใบสีฟ้าและถ่ายรูปเก็บหลักฐานอยู่ วีรภาพเดินกลับมาจากการจัดการเอานักข่าวไปไว้ด้านหน้าสำนักงานกรมไม่ให้เข้ามาในลานจอดรถด้านหลัง ปาราตีกำลังเอาก้านสำลีเช็ดไปที่เศษโลหะชิ้นหนึ่งอยู่
“ว่าไง ได้อะไรบ้าง”
“ทำงานแทนกรเหรอค่ะสารวัตร”
“ประมาณนั้น กรเป็นเหยื่อในคดีนี้”
“หรือถูกกำหนดให้เป็นเหยื่อ” ปาราตีพูดที่สื่อถึงความสงสัยถึงคดีที่แล้วที่เพิ่งปิดไปตอนเย็นวันนี้
“เรายังไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกันไหม อย่าลืมว่ากรเองก็มีศัตรูอยู่ไม่น้อยเหมือนกันถ้านับตามคดีที่กรทำมาตั้งแต่เริ่มเป็นเจ้าหน้าที่สืบสวนที่เกิดเหตุแล้วละก็นับว่าโอกาสที่มีคนตั้งใจปองร้ายกรก็หลายพันคดีทีเดียว”
“ก็อาจจะนะเราจะตรวจสอบเดี๋ยวก็รู้ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าสารนี้คืออะไร”
“รูปแบบระเบิดพอจะดูออกไหม” วีรภาพเบนกลับมาที่ระเบิด
“ระเบิดวงกว้าง” ภูวดลลุกขึ้นมาชี้ไปรอบๆพื้นที่ “ดูจากร่องรอย แรงกระแทกที่ทำให้กรกระเด็นออกไปเกือบสิบเมตรไปจนชิดกำแพงตึกฝั่งนั้น ต้องใช้แรงมากน่าจะเป็นกลุ่มระเบิดขั้นสูง อาจจะเป็นพวกทหารหรือหน่วยรบพิเศษ”
“คือดูจากสภาพรอยระเบิดแล้วถ้ามันระเบิดตอนที่กรอยู่ในรถก็เละ” นพรัตน์สรุปได้เห็นภาพเลยว่าถ้าระเบิดตอนกรอยู่ในรถพวกเขาคงจะไม่มีแม้แต่โอกาสจะได้เห็นศพของกรด้วยซ้ำไป
กรวิกเดินออกมาจากห้องทำงานตรงไปที่ห้องศูนย์คอมพิวเตอร์ มนัสกำลังดึงภาพจากกล้องวงจรปิดทุกมุมที่มองเห็นการระเบิดของรถกรวิก เบญญาภาก็นั่งดูอยู่ด้วย จนหันมาเห็น
“ว่าไงกรโอเคแล้วเหรอ”
“ครับ แบงค์กลับลงไปที่เกิดเหตุไปดูนะ”
“อืม” เบญญาภาไม่พูดอะไรก่อนตัดกลับมาว่า “คือพี่ดูเทปวงจรปิดของกรม กรขับรถกลับมาจากการสอบสวนสุรชัยที่โรงพักเป็นเวลาสี่ชั่วโมงที่รถถูกจอดอยู่ตรงนี้มีรถเข้าออกตลอดแต่ดูเหมือนว่าไม่มีใครเข้าไปยุ่งรถของกรนะ ถ้ามีการติดตั้งระเบิดเขาก็ต้องเป็นซุปเปอร์แมนเท่านั้นแหละถึงจะทำได้”
“สี่ชั่วโมงนี้ผมอยู่บนตึกและก็กลับลงมาจะขึ้นรถกลับบ้าน”
“แต่มันก็บูม” มนัสพูดและกดภาพให้ดู
“นัดขอดูตอนระเบิดอีกรอบสิ”
“ครับบอส” มนัสย้อนภาพให้ดู กรวิกมองภาพและเลิกคิ้วขึ้น
“ผมกระเด็นไกลขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย” กรวิกกอดอก “เสียชื่อนาวิกโยธินหมด”
“เออ เท่าที่พี่จำได้กรเป็นแพทย์ภาคสนามนะ ไม่ได้เป็นทหารออกรบ”
“แต่ก็เรียกว่าทหาร”
“ก็จริงนะครับ แต่ว่าทำมเหรอผมไม่เข้าใจ”
“นัด นายทำงานที่นี้มานานแค่ไหนแล้ว”
“เจ็ดปีจะแปดแล้ว”
“แล้วเห็นภาพระเบิดกี่ครั้ง”
“เกือบร้อย”
“เคยเห็นแบบนี้ไหม”
“ไม่” เบญญาภามองหน้าและยิ้มก่อนจะจับไหล่มนัสและพูดว่า
“ก็นัดไม่มีโอกาสที่จะได้เห็นนะสิ มันไม่ใช่ระเบิดแบบทั่วๆ ไป เป็นระเบิดสังหารแบบไอเอ็มโฟว์หรือระเบิดสังหารแบบทหาร ตั้งหวังผลตายสถานเดียว”
“แล้วทำไมด๊อกเตอร์ไม่ตายละ” มนัสตั้งคำถามขึ้นมา กรวิกเลยตอบว่า
“ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ผมตายก็แค่เตือน”
ปาราตี นพรัตน์และภูวดล นำเอาทุกอย่างที่ได้มากลับมาในโรงรถและพยายามประกอบร่างทุกอย่างกลับมาจะได้มองภาพกันอีกครั้ง ในขระที่ประกอบปาราตีก็เอาสารที่เก็บมาได้จัดการตรวจผลสารเคมีที่ชั้นแล็ป กรวิกเดินลงมาในโรงรถหลังจากขับรถของกรมกลับบ้านไปอาบน้ำและนอนงีบใหญ่
“ว้าว กรดูดีเชียวกลับมาใส่สีน้ำเงินแล้วใช่ไหม”
“ปากเหรอนั้น” ภูวดลพูดแซวเพื่อนตัวเอง
“ว่าไงได้อะไรบาง”
“ซากรถคุณและซากระเบิดระหว่างที่พวกเราประกอบกันผมคิดว่ามันไม่ได้ติดกับรถคุณ แต่วางไว้ใต้รถคุณ และตามที่นัดบอกเราจากภาพพยานตัวเก่งของพวกเราน่าจะเป็นลักษณะวางเนี้ยเตะเข้าไปและกดตั้งเวลา”
“คือระเบิดเป็นระเบิดไดนามิกเซตรัม แบบที่คุณบอกเลยทีเดียวมันอยู่ในกระเป๋าถือเศษพลาสติกพวกนี้บ่งบอกว่ามันกระเป๋าทหาร และด้วยลาดจอดรถนี้ใครก็มาจอดได้นอกจากพวกเรา ตำรวจผู้มาติดต่อ ผู้ต้องสงสัยเราเพียบเลย”
“วางไว้และกดเวลา ตั้งเวลาเหรอแล้วพวกเขารู้ได้ไงว่าผมจะออกมาตอนไหน”
“ผมว่าไม่ เจ้าสิ่งนี้เป็นตัวรับสัญญาณ”
“กดระเบิดหวังผลร้ายจริงๆ”
“หวังไม่ให้ผมตายและรู้ว่าผมจะตามล่าเขาแน่ถ้าไม่ตายเนี้ยนะ” กรวิกตั้งคำถามที่ทำเอานพรัตน์และภูวดลเงียบและพยายามมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า กรวิกเดินเข้าไปมองโต๊ะประกอบระเบิดเขามองซากระเบิดที่เอามารวบรวมประกอบกันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง กรวิกมองและนิ่งเงียบไปเมื่ออยู่ ก่อนจะหยิบถุงมือออกมาจากกล่องถุงมือบนโต๊ะมาหยิบชิ้นส่วนเล็กๆ ขึ้นมาดูก่อนจะอมยิ้มที่มุมปาก
“กรยิ้ม รู้ไหมไม่ชอบแบบนี้เลย” นพรัตน์พยายามทำให้บรรยากาศเงียบๆ หายไป กรวิกพยักหน้าและรีบเดินกลับขึ้นไปในแล็ปทันที
วีรภาพวิ่งออกจากลิฟท์ตรงไปที่ห้องทำงานของเบญญาภา ที่กำลังนั่งอ่านแฟ้มคดีที่จะขึ้นศาลในอาทิตย์หน้านี้อยู่
“ยุ่งอยู่เหรอ”
“นิดหน่อย แต่ก็มีเวลาฟังอะไรดีๆเสมอ”
“มีแน่ ผมติดต่อไปที่กองทัพนะพยายามอธิบายสารพัดวิธีเพื่อให้เขาบอกถึงเรื่องรูปแบบระเบิดที่บอมหลังกรมของเรา”
“อ้าปากทหารเนี่ยนะ ไม่มีทาง”
“ใช่ ยากแต่ก็ไม่เกินไป”
“วี ดูเหมือนจะมีไม้เด็ดนะ”
“ก็ผมแค่บอกว่าจะโทรสายตรงหาผบ.ทบ. พวกเขาก็ประนีประนอมกับผมทันที”
“ได้อะไรมาบ้าง”
“ระเบิดเป็นแบบหวังผลตายสถานเดียว เป็นรูปแบบระเบิดที่มีวิธีการทางวิทยาการฟิสิกส์ขั้นสูงบวกเคมีหน่อยนี้ไง”
“อ้า ตรงตามที่กรพูดเลย”
“รู้ไหมบ้างครั้งผมก็คิดว่าจิรายุกับกรวิกมีอาชีพเสริมเป็นหมอดู”
“หน้าที่ของพวกเราคือหมอดู แต่เราดูอดีต”
“แล้วเขาทำอะไรอยู่”
“อยู่ในแล็ป ก็รู้อยู่กรแบบว่า...”
“ใช่”
ความคิดเห็น