ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CSI : Bangkok II

    ลำดับตอนที่ #5 : แมวสังหาร ตอนที่ 1

    • อัปเดตล่าสุด 22 ม.ค. 53


                    จิรายุกับเบญญาภาลงจากรถที่จอดในย่านทวีวัฒนาเนื่องจากได้รับแจ้งเหตุกลางดึก วีรภาพยืนเอามือถูจมูกอยู่หน้าบ้าน จิรายุกับเบญญาภาเดินเข้ามาหาวีรภาพเลยพูดทักขึ้นว่า

                    ขอต้อนรับสู่ชีวิตโดดเดี่ยว จันจิรา โฉมศรี อายุแปดสิบกับรูมเมทแปดสิบเป็นแมวทั้งหมด หน่วยพิทักษ์สัตว์กำลังจัดการเก็บไปโดยล้อมจับ

                    ใครโทรแจ้ง จิรายุถาม

                    ไปรษณีย์โทรแจ้งเพราะเห็นจดหมายเต็มตู้เลยเประตูและเจอ ขอแนะนำถ้าจะเข้าไปรีบสูดหายใจเฮือกใหญ่ได้เลย เบญญาภากับจิรายุมองหน้ากันและเดินเข้าไปข้างไปแต่พอไปถึงเบญญาภาถึงกับร้องออกมาดังๆเลยว่า

                    โอโฮ้ พระเจ้ามีกลิ่นที่กลบกลิ่นศพได้ด้วย

                    ฉี่แมวตัวผู้ จิรายุพูด สำหรับเรานะเหม็นแต่สำหรับแมวตัวเมียเหมือนกลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศส

                    เหมียว เบญญาภาเลียนเสียงแมวตอนที่กรวิกลุกออกมาจากศพและเดินมาหาเบญญาภาเลยทักว่า ดูกรไม่ค่อยดีเลยนะ

                    ผมแพ้ขนแมวนะ ตรวจดูแล้วมีรอยฝกชี้ลายตามแขนขา ตายมาสี่วันไดผมจะส่งแม็กมาให้ ไปละนะ

                    แม็ก จิรายุทวน

                    ใช่ กรรมการอนุญาติให้กลับเข้าทำงานแล้วเขากำลังมา ผมต้องไปเอายาไปละ กรวิกรวิ่งออกไปปล่อยให้จิรายุกับเบญญาภาเดินเข้าไปที่ศพพอเห็นทั้งคู่ก็เบ้หน้านิดหน่อยพราะศพมีรอยการถูกแมวแทะกินไปบ้างโยเฉพาะที่ท้อง เบญญาภาเลยพูดว่า

                    อาจเป็นการตายธรรมชาติแต่ตั้งสามสี่วันแมวอาจมองเป็นอาหารได้

                    เนื้อก็คือเนื้อ

                    หรืออาจทำร้ายเธอ เบญญาภาพูดหลังจากมองแมวที่พยายามต่อสู้เจ้าหน้าที่ จิรายุก้มดูศพและพูดว่า

                    ดูนี้ แผลทะลุเป็นรอยลึก เธอถูกแทงแมวพ้นข้อหา

                    เบญญาภาตรวจดูรอบๆศพและไปสะดุดตากับบางอย่างเธอเลยโรยผงถ่านโรยเป็นรอยรองเท้าและเธอก็ลอกลายออกมาและพูดตอนที่จิรายุเดินเข้ามาว่า

                    ส่วนมากมีแต่ขยะ มีรอยรองเท้าของหน่วยพิทกษ์สัตว์ แต่ก็ได้ของดีมา

                    เห็นส้นกันนิ้วชัดเจน ส้นสูงเหรอ

                    ใช่ แต่เหยื่อใส่รองเท้าแตะ นึกภาพตอนเธอสุดเหวี่ยงไม่ออกเลย

                    ต้องระวังเรื่องความเดี่ยวดาย มันอาจมากขึ้นกว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นนางแมวบ้าที่อยู่ในบ้านโทรมๆ ไม่มีใครมาเยี่ยม พอออกจากบ้านเพื่อนบ้านก็หลีกทางในที่สุดก็ไม่ออกไปไหนเลย ตอนนั้นเองภูวดลเดินเข้ามาเอาจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ก่อนเข้าไป พอเข้าไปภูวดลถึงกับพูดว่า

                    ในนี้เหม็นสุดๆเลย

                    เดี๋ยวก็ชิน จิรายุพูด ยินดีที่ได้เจอกันอีก

                    ครับ นานเป็นชาติลเยกว่าจะได้กลับมา ใครอยู่แบบนี้กัน

                    คนรักแมว

                    และรู้อะไรบ้างครับ

                    ไม่มีร่องรอยการบุกรุก เบญญาภาตอบ

              รู้เลยว่าทำไมถึงอยากปล้นนัก ผมจะดูห้องนอนให้ ภูวดลแยกออกไปดูที่ห้องนอนบ้านเป็นบ้านชั้นเดียวไม่ต่อเติมทุกอย่างโทรไม่หมด เขาเข้าไปเปิดตู้เสื้อผ้าและรูดเสื้อผ้าไปว้านหนึ่งเห็นตู้เซฟอยู่ข้างในมีรอยพยายามงัดแงะ เขาเลยเปิดดูไม่มีอะไรระบบล็อคพัง แผนต่อไปกลายเป็นเก็บลายนิ้วมือและก็เจอ

                    ทางเบญญาภากับจิรายุกำลังตรวจมีดในครัวหาคราบเลือดแต่ไม่มีเลย

                    สะอาด เบญญาภาพูด

                    อาจเอามาเองและเก็บกลับไปด้วย จิรายุพูด ภูวดลเดินเข้าและพูดว่า

                    อาจต้องพิจารณาเรื่องปล้นอีกที ผมพบเซฟในห้องนอนว่างเปล่า มีรอยงัดแงะมีลายนิ้วมือด้วยผมลอกออกมาแล้ว

                    คนใส่ส้นสูง ที่รู้ว่าอะไรอยู่ตรงไหนและฆ่าอุปสรรคเดียวทิ้งซะเบญญาภาสรุป

                    นพรัตน์กับปาราตีลอดเทปกั้นที่อู่ซ่อมรถย่านสวนหลวงเข้ามาเจอจ่ามานะยิ้นอยู่ใกล้กับซากรถคันหนึ่ง จ่ามานะทักพกเขาว่า

                    ขอต้อนรับตอนสี่ทุ่ม

                    ระเบิดสักพักแล้ว ปาราตีพูด

                    ตายเท่าไร นพรัตน์รีบถาม

                    แค่รถบีเอ็มคันนี้ ลักษณา จันทรภัทร รถเธอ จ่ามานะชี้ไปที่ผู้หญิงที่ห่มผ้าอยู่ ส่วนนั้นกมล นักศรี ช่างซ่อมและพยาน แบ่งหน้าที่กันไหม

                    ผมดูรถ นพรัตน์พูด

                    ผมจัดการช่าง

                    ฉันคุยกับเจ้าของรถเอง ทั้งสามพยักหน้าและแยกออกไป ปาราตีเดินไปที่ลักษณาและพูดว่า คุณลักษณา ฉันเจ้าหน้าที่ปาราตีจากแล็ปอาชญากรรมขอถามอะไรหน่อยได้ไหมค่ะ

                    พบสามีฉันไหม เธอถาม ปาราตีพยักหน้าให้ตำรวจที่คุยกับเธออยู่ก่อนเขาเลยพูดว่า

                    ผมหาให้

                    ค่ะ เออคุณลักษณา เกิดอะไรขึ้น

                    ฉันกำลังขับรถไปออฟฟิศพ่อฉันเราจะทานมื้อค่ำและช่วพ่อฉันทำบัญชี ฉันได้ยินเสียงแปลกๆเลยแวะให้ช่างดู

                    ทางด้านจ่ามานะ กมลเล่าให้จ่ามานะฟังว่า

                    เธอขับรถบีเอ็มใหม่เอี่ยมมาให้ดูเครื่องตอนเรากำลังปิดร้าน เช็ดครั้งแรกไม่เห็นมีอะไร

                    แต่คุณก็เช็ครถให้เธอ

                    คุณก็รู้ว่าผู้หญิงเป็นไง ผมให้เธอเปิดกระโปรงรถและผมก็เห็นนาฬิการะเบิดผู้ไว้กับเครื่องผมเลยพาเธอวิ่งและมันก็ระเบิด

                    ทางด้านปาราตี เธอถามลักษณะว่า

                    ครั้งสุดท้ายคุณจอดรถไวที่ไหน

                    ที่บ้าน

                    มีใครเข้าโรงรถคุณได้บ้าง

                    มีฉันกับสามีแต่เขาไม่น่าใช่เพราะเขาทำงานทั้งวันถ้าเจอเขาก็ถามดูได้

                    นพรัตน์ส่องไฟฉายดูในรถ มันเละมากปาราตีเดินออกมาจากลักษณามาหานพรัตน์และพูดขึ้นว่า

                    ได้อะไรไหม

                    ดูรอยพวกนี้ซิ ระเบิดย้อนมาข้างหลังพุ่งมาที่คนขับเป็นการตั้งใจ

                    เป็นระเบิดส่วนตัว

                    คาดว่าคุณลักษณาเป็นเป้าหมาย คนวางรู้ดี

                    ใช่ จ้างฆาตกรรมแม่บ้าน

                    ในห้องชันสูตร วิภาดากำลังอธิบายการชันสูตรให้จิรายุและเบญญาภาฟังว่า

                    ดีที่บ้านฉันเลี้ยงหมาเลยพอดูเรื่องออกอยู่บ้าง

                    แมวถูกเลี้ยงไว้ในบ้านมาสี่พันปี จิรายุพูด แต่มันก็เป็นนักล่าอยู่ดี

                    สี่พันปีเอง เบญญาภาพูด

                    ใช่

                    แมวไม่ได้ฆ่าเธอใช่ไหมค่ะ

                    จ๊ะ ไม่พบอะไรบนรอยกัดเลยการล่าเกิดหลังการตาย ตายเพราะอาการของหัวใจเธอถูกแทงที่สีข้างต่ำกว่าช่องซี่โครงที่ห้า ดิ่งเข้าสู่หัวใจช่องซ้ายชั้นกล้ามเนื้อจะลดลงตามอายุ เลยแทงเข้าไปได้ง่ายบอกอะไรเรื่องอาวุธไม่ได้มากหรอกนะแต่รอยแผลเรียบผมซัยสิ่งแปลกปลอมส่งในมนัสแล้ว

                    มีอย่างอื่นอีกไหม เบญญาภาถาม

                    มีของเหลวในปอดแต่อาจจะไม่เกี่ยวกับคดี แต่เพาะเลือดเธอแล้วเธอติดเชื้อรุนแรงมาก โทรศัพท์ของจิรายุดังเข้ารับสายและพูดว่า

                    เข้าใจเดี๋ยวไป เขาวางสายและหันมาพูดกับเบญญาภาว่าได้พยานแล้ว

                    เบญญาภาลงจากรถพร้อมกรวิกที่ยังมีอาการคันที่แขนอยู่ เบญญาภาเลยพูดว่า    

                    ตรงข้ามกับที่เกิดเหตุอาจเห็นอะไรดีๆก็ได้

                    คงงั้น

                    รู้ว่าแพ้แมวตอนที่เจอกัยแมวของแม่พี่แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรง

                    ผมหาหมอไม่ตามเวลานะ เข้าไปเถอะเดี๋ยวพี่วีรอ

                    ว่าไงกร วีรภาพทัก

                    ดีขึ้นแล้ว ไหนพยาน

                    นั้น วีรภาพชี้ไปที่เด็กผู้หญิงสองคน แม่เธอก้มพูดกับพวกเธอว่า

                    บอกเหมืนอที่บอกแม่ เร็วซิลูก

                    ผู้หญิงคนนั้นเธอใจดี

                    ใช่ คนที่สองรับคำ เธอเลี้ยงแมวเยอะแยะเลย

                    ฉันชื่อกรวิก พวกเธอละชื่ออะไร

                    นลินี ไวยวัตรแปดขวบครึ่งคนพี่พูด

                    แปดครึ่งงั้นก็อยู่ปอสามใช่ไหม

                    ใช่ค่ะ ครูหนูชื่อครูปราณีเธอใจดีมากแต่หนูไม่ชอบการคูณโดยเฉพาะแม่แปดค่ะ

                    ลูกชายฉันก็ไม่ชอบแม่แปด เบญญาภากับวีรภาพหันไปมองหน้ากันทั้งคู่รู้ว่ากรวิกกำลังโกหก กรวิกเพิ่งรู้ว่าตัวเองมีลูกตอนที่ลูกชายอายุสิบแปดเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว หนูเล่าอะไรให้แม่ฟังเหรอจ๊ะ

                    หนูเล่าได้ คนน้องรีบพูด หฯกับพี่กำลังเล่นอยู่เห็นคุณปลา เข้าไปในบ้านและทะเละกัน่ออกมาดูคุณปลาโกรธมากเลย เหมือนตอนที่แฟนแม่มาทานข้าวเย็นช้าแม่ไม่ชอบ

                    คุณปลานี้ใครเบญญาภาพูด วีรภาพเลยตอบว่า

                    เพื่อนบ้านของจันจิราเธอชื่อจริงคือพัชรินทร์ เคยฟ้องข้อหาก่อคงามรำคาญ กรวิกเห็นเด็กซุบซิบกันเขาเลยพูดว่า

                    คนสวยมีความลับเหรอบอกได้ไหม

                    ได้ นลินีพูดกละกวักมือเข้าไปและซุบซิบที่ข้างหูกรวิก เขาฟังและพูดว่า เราคงไม่มีอะไรแล้ว ขอบใจนะ

                    ค่ะ กรวิกหันกลับออกมาพร้อมกับวีรภาพที่พูดว่า

                    ผมจไปขอหมายดูว่าเธออยู่ที่นั้นหรือเปล่า วีรภาพเดินออกไป กรวิกกับเบญญาภาเดินตามออกมาและเบญญาภาก็พูดว่า    

                    ไม่มีความลับจะบอกพี่เหรอ

                    คือคุณปลา เธอเกลียดแมวนะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×