คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : ฆาตกรเพชรเกษม ตอนที่ 1
จิรายุลงจาดรถเดินเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เกตย่านภาษีเจริญ จิรายุเดินเข้าไปในนั้นเจอวีรภาพยืนอยู่ วีรภาพหันมเห็นเขาและพูดว่า
“หันหน้ามาเองเลยเหรอ”
“คนอื่นติดงานนะมีอะไร”
“เดี๋ยวรถเข็นอยู่นี้ ผู้หญิงที่หายไปชื่อ สุนิสา สมสวัสดิ์อยู่กับพี่สาว ออกมาร้านของชำและหายตัวไปรถยังอยู่ที่ลานจอดรถ”
“กระเป๋าถือยังอยู่ที่รถเข็น” จิรายุเปิดดู “กระเป๋าเงินหายไป”
“เธออาจวางกระเป๋าไว้เป็นเครื่องหมาย”
“ซุบไก่ น้ำแข็ง ยาแก้ปวด”
“พี่สามทำเธอข้อมือหักตอนขับรถชน”
“ขนมปัง ไส้กรอก” จิรายุสังเกตเห็นรอยเปื้อนสีเหลืองที่ด้านล่างของรถเข็นและเอานิ้วปาดมาชิม วีรภาพมองหน้าและพูดว่า
“อนามัยจริงๆ”
“มัสตาร์ท วันนี้คุณเช็ดถูแถวนี้ยัง” จิรายุถามพนักงานซุปเปอร์มาร์เกต”
“ครับเราทำความสะอาด” จิรายุมองไปที่ชั้นวางของมีมัสตาร์ทอยู่และยิ้มมาก่อพูดว่า
“มัสตาร์ร้อยสี่สิบาท” จิรายุหยิบเงิน “ผมแถมให้เป็นร้อยห้าสิบ” และก็ส่งเงินให้พนกงานก่อนทิ้งขวดลงพื้นมันกระเด็นมาเปื้อนขากางเกงวีรภาพ วีรภาพพูดและเงยหน้ามามองก่อนพูดว่า
“คุณทำอะไรของคุณ”
“ที่นี้คุณต้องไปที่ไหน”
จิรายุดูในห้องน้ำหญิงในขณะที่วีรภาพนั่งที่อ่างล้างหน้าเช็ดกางเกางอยู่ จิรายุมองที่ประตูบานหนึ่งและพูดว่า
“วี ดูนี้เหมือนมคนทำความสะอาดเช็ดอะไรบ้างอย่างออกไป”
“เท่าที่ผมเห็นคือประตูสะอาด คุณรู้อะไรไหม” วีรภาพถามพนักงาน
“ครับ เขาพูดถูกเราเพิ่งความสะอาดไปมีคนร้องเรียนพวกวัยรุ่นที่ชอบขีดเขียน”
“ผมขอประตูบานนี้ได้ไหม” จิรายุยิ้ม
กลับมาที่แล็ป วีรภาพให้ไฟฉายแบล็กไลท์ส่งอไปบนประตูปรากฏตัวหนังสือ จิรายุถายรูปและเอามาเรียงกันก่อนอ่านตามว่า
“ฉันฆ่าผู้หญิงห้าคน เก่งจริงจับให้ได้”
ในห้องแล็ปกรวิกเดินเข้ามาในห้องทำงานที่ภูวดลนั่งอยู่ (เขานั่งแทนภาติยะ) และพูดว่า
“แม็ก”
“ครับ ด็อกเตอร์”
“มีงานด่วน เหตุวิวาทที่เดอะมอลล์ บางกะปิเขาเรียกร้องตัวคุณเป็นพิเศษ”
“เรียกผม”
“ใช่ เขาบอก่าเป็นเพื่อนคุณ
“โอเค ผมจะไป” กรวิกยักคิ้วก่อนเดินออกไป
ปาราตีเดินนำนักศึกษาสาขานิติวิทยาศาสตร์ ของจุฬาที่เข้ามาฝึกงานในกรมเข้ามาในบ้านย่านทุ่งครุ พอมาถึงที่เกิดเหตุ ปาราตีก็ส่องกล้องให้เด็กผู้ชายที่ทำท่าไม่อยากเข้าไปใกล้ศพและพูดว่า
“ถ่ายภาพศพ รายการสิ่งของ หน้าต่าง โต๊ะทำงาน ทุกอย่างบนพื้น” ปาราตีมองหน้าเด็กให้ทำงานก่อนเดินไปที่จ่ามานะและพูดว่า
“สวัสดีค่ะจ่า”
“สวัสดี พาเด็กมาด้วยเหรอ”
“ค่ะ คือฉันรับงานนี้แทนกรนะ เออ”
“อยากคุยใช่ไหมได้” จ่ามานะเดินออกไป ปาราตีหันหน้ามาที่ผู้ชายที่จ่ามานะคุยอยู่และพูดว่า
“ฉันเจ้าหน้าที่ปาราตี จิรกุล แล็ปอาชญากรรม คุณคือ”
“อภินันท์ วงศ์จิทัศ นั่นพี่ชายผม อภินนท์ ผมเป็นคนพบศพ”
“เสียใจด้วยนะค่ะ แต่อยากเล่าอะไรไหม”
“ผมไม่รู้” เขาพูดพลางร้องไห้ “ผมเข้าและเดินไปทีประตูเห็นพี่ชายผมนอนอยู่ ข้าวของเกลื่อนไปหมด นึกออกแค่นี้เองและผมก็โทรหาหนึ่งเก้าหนึ่งและพวกคุณก็มา”
“ขอบคุณค่ะ”
“กรปล้นหรือเปล่าค่ะ” นักศึกษาฝึกงานถาม “แถวนี้การปล้นสูง คดีทั่วไป”
“ลงจะทั่วไปแน่ถ้าเธอเป็นขโมยเธอจไม่สนแบงค์พันที่วางล่อตาพวกเธอตั้งหมื่นกว่าบาทและคอมพิวเตอร์ไฮเทครุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่าราวๆห้าพันถึงหมื่น และนั่นเครื่องเงินเข้าใชผ้าคลุมเตียงแทนที่จะเป็นปลอกหมอน มีอะไรทะแมงๆ” ปาราตียกโทรศัพท์หาเบญญาภา
ภูวดลเดินเข้ามาในร้านขายเสื้อผ้าที่เดอะ มอลล์บางกะปิ และมาหยุดที่ตำรวจที่กำลังคุยกับรปภ.อยู่ และพูดว่า
“เออ ผมเจ้าหน้าที่ภูวดล แล็ปอาชญากรรมได้ข่าวว่ามีคนเรียกผม”
“อย่าถามผม ถามเธอดีกว่า” ตำรวจชี้ไปที่ผู้หญิงผมสั้นที่นั่งหันหลังอยู่ ภูวดลเดินไปหาเธอหันหน้ามา ภูวดลก็ถึงกับส่ายหน้า
“สวัสดีแม็ก คุณคงจำฉันไม่ได้เพราะฉันตัดผมสั้น”
“ล้อผมเล่นหรือเปล่า ดาริกา วินิจ คุณมาทำอะไรที่นี้”
“มาทำอะไรจะบอกให้” รปภ.เข้ามาพูด “เธฮมาเร่หาแขก”
“ไม่นะ ฉันมาทำธุระของฉันมาหาซื้อเส้อผ้าด้วยเงินที่หามาด้วยความเหน็ดเหนื่อย โอเค มันไม่ค่อยหนื่อยก็ได้ และเจ้านี้ก็เริ่มรังควานฉันบอกว่าไม่ต้องการคนอย่างฉันในนี้ เขาถ่มน้ำลายใส่ฉันฉันเลยชกเข้าให้ไง”
“เขาถ่มน้ำลายใส่คุณเหรอ”
“คุณฟังคำพูดเธอ หล่อนตอแหลชัดๆ”
“เหรอ” ดาริกาเหลืออดเข้าจะตีกับรปภ.ตำรวจเลยต้องแยก รปภ.ก็พูดว่า
“ผมขอแจ้งความไม่สนหรอกว่าจะเส้นใหญ่แค่ไหน”
“ได้เลย”
“ไม่เอาดามานี้” ภูวดลลากเธอมาที่ห้องลองเสื้อผ้าและพูดว่า “ถอดเสื้อออก”
“ทำไมทุกครั้งที่เจอกันคุณต้องให้ฉันถอดเสื้อผ้าด้วยละ”
“เพราะทุกครั้งที่เจอ คุณอยู่ในฐานะต้องถอดทุกทีไงละ”
ที่บ้านอภินนท์ ปาราตีให้อภินันท์ยกมือขึ้น เขาเลยพูดว่า
“คุณทำอะไร”
“หาหยดเลือด” ปาราตี่องไฟฉายไปเขาเลยพูดว่า
“คุณคิดว่าผมเป็นผู้ต้องสงสัยใช่ไหมเลยทำอย่างนี้”
“ฉันจะทำ เป็นวิธีเดียวที่จะตัดคณออกจากรายชื่อได้” เธอส่องไปถึงขากางเกง จ่ามานเดินเข้ามาและพูดว่า
“ให้ช่วยไหม”
“ดีเลยค่ะ” จ่ามานะรับไฟฉายมาส่องและฌะอก็คีบเศษกระจกจากขากางเกง และพูดว่า “ข่าวดีคือไม่มีเลือด แต่ฉันอยากให้คุณถอดเสื้อผ้าออก”
“ตรงนี้เลย”
“ไม่ต้องอายฉันหรอกน่า แต่ถ้าคุณอายตำรวจคนนี้จะไปที่ห้องนอนกับคุณด้วยและฉันจะเอาหน้าต่างไปด้วย มันอยู่ในอำนาจตามหมายศาล” ปาราตียิ้มและเดินออกไปปล่อยให้จ่ามานะจัดการเขาต่อ
ในห้องแล็ปจิรายุกับกรวิกฟัง นักภาษาศาสตร์และนิรุติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อธิบายลายมืออยู่ว่า
“จากลายมือคนๆนี้ถนัดซ้าย”
“รู้ได้ยังไง” จิรายุถาม
“ลายเอียงซ้าย เรียนไม่สูงนัก มีการเขียนผิดมีลายเส้นที่ใหญ่โค้งมากเกิดจากความกดหนักที่กดกั้นอยู่มาก”
“แรงกดหนัก” กรวิกพูด
“แรงกดดันนะครับ วิธีกดกระดาษบอกได้”
“ด้วยปากกามาร์เกอร์บนโลหะ” จิรายุพูด “มีอะไรอีกไหม”
“มี การพิสูจน์ลายมือบอกว่านี้เป็นลายมือผู้หญิง”
ที่บ้านอภินนท์ ปาราตีกำลังเลาะบานหน้าต่างที่แตกอยู่ เบญญาภเดินเข้ามาและพูดว่า
“โอ้ คุณยกทั้งบานเลยเหรอ”
“ค่ะ ขอบคุณที่มาทั้งที่เป้นวันหยุด”
“ไม่เป็นไรความจริงพี่ก็ไปเยี่ยมนพอยู่แล้ว เขาสบายดีนะ แล้วเด็กฝึกงานตั้งสามคนไมช่วยเลยเหรอ”
“ให้เขาเก็ยลายนิ้วมือดีกว่า”
“ครูคนใหม่ใจดจังเลยนะ ผิดกับคนเก่าโหดสุดๆเลยคนนั้น”
“ค่ะ กรไม่รับการสอนเด็กใหม่อีกตั้งแต่ต้นตาย”
“ว่าไปถ้าต้นอยู่หน้าต่างบานนี้ก็คงถูกเลาะเหมือนกัน” ปราตียิ้มและหันไปเลาะหน้าต่างต่อ
ความคิดเห็น