คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ปริศนาอุบัติเหตุ ตอนจบ
จิรายุ วีรภาพ เบญญาภา กรวิก ปาราตี ภูวดลและจ่ามานะมาที่บริษัทเจ้าของรถบัสย่านรามคำแหง วีรภาพเข้าไปเอาบันทึกรถและประวัติพนักงาน จ่ามานะกำลังคุมให้พนักงานไปให้ลายนิ้วมือและตัวอย่างกับปาราตีและกรวิก ส่วนเบญญาภากับภูวดลและจิรายุไปตรวจในตัวบริษัทโดยเฉพาะส่วนซ่อมบำรุง พวกเขารื้อไปทั่วจนจิรายุไปสะดุดากับถังสารเคมีเลยเปิดดูปรากฏว่ามันเป็นถังไนโตรเนเหลวจากโรงงานแช่เข็งไม่ใช้ที่ใช้กับรถบัส จิรายุเลยเรียกเบญญาภากับภูวดลมาดูว่า
“เบญ แม็กมาดูนี้” เบญญาภากับภูวดลรีบเดินไปดู
“คิดว่าไง”เบญญาภาถาม
“ดูเหมือนเราเจอสถานที่เกิดเหตุแล้ว” ภูวดลพูด
“ใช่แล้ว เราเจอแล้ว” จิรายุพูดและกดโทรศัพท์หาวีรภาพ
จิรายุยืนคุยกับโกศลเจ้าของบริษัทอีกครั้งที่บริษัทเขาเอง โกศลพูดอย่างโมโหว่า
“พวกคุณทำอะไร”
“สืบคดีไงครับ”
“อะไรรื้อข้าวของแล้ววางอำนาจ ผมเจอเรื่องยุ่งมากพอแล้ววันนี้พวกคุณมันตัวซวยจริงๆ ถ้าพวกคุณไม่หยุดผมจะฟ้องคุณ”
“ผมเกรงว่าอัยการคงไม่รับฟ้องและเราจะฟ้องคุณแทน”
“ข้อหาอะไร”
“ฆาตกรรม เราเจออาวุธสังหารที่นี้ คุณจะอธิบายยังไง”
“ใครจะไปรู้ละ”
“ความจริงคุณควรจะรู้” จิรายุมองไปเห็นรถเสียคันหนึ่งจอดอยู่เลยพูดต่อว่า “รถคันนั้นเสียใช่ไหมครับ”
“ใช่ยังไม่ได้ซ่อมเลย เสียที่เบรกนะ”
“งั้นผมขอได้ไหม ถือว่าคุณให้ขอบคุณครับ” จิรายุตัดบทและสวมแว่นโกศลรีบพูดว่า
“คุณทำแบบนี้ไม่ได้นะ”
“ทำได้ซิ ผมทำไปแล้ว” แล้วจิรายุก็เดินออกไป
ในโรงรถรถบัสที่เสียถูกนำมาตั้งบนลูกวิ่ง มนัสกำลังติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฏ๊าซในรถและต่อสายมาที่คอมพวิเตอร์ด้านนอกในณะที่กรวิกกับภูวดลเอาที่กรอกอากาศที่ชุบไนโตรเจนเหลวจนชุ่มออกมาใส่ถาดและเอาไปติดตั้งอยู่ จิรายุที่เดินเข้ามาก็พูดว่า
“เล่นอะไรอยู่”
“ก็อยากรู้ว่าใช้เวลานานแค่ไหนที่รถจะเต็มอิ่มไปด้วยก๊าซที่มากพอจะฆ่าคนได้” กรวิกตอบ จิรายุเลยพูดต่อว่า
“โรงพยาบาลโทรมาบอกว่านพปลอดภัยแล้ว”
“ดีครับ” ภูวดลพูดเบาๆและทำงานต่อ กรวิกเลยหันมยิ้มกับจิรายุและตอนที่ปิดฝาครอบกรวิกก็สังเกตเห็นภูวลดเอามือยันฝาครอบลุกขึ้น เขาเลยพูดว่า
“นายทำอะไร”
“ยันตัวลุกขึ้นไงครับ”
“ถ้าคนร้ายทำเหมือนกันละ”
“เขาจะทิ้งลายนิ้วมือ” ภูวดลยิ้มและรีบลงจากหลังคารถตามมาด้วยกรวิกทิ่รายุรับตัวลงมา และภูวดลก็คว้าตัวมนัสและเดินออกไปทั้งคู่ จิรายุไปสตาร์ทรถเปิดแอร์และปิดประตูส่วกรวิกเปิดลู่วิ่งให้รถวิ่งเสมือนจริง จิรายุมายืนข้างๆเขาและพูดว่า
“ที่นี้ทำไง”
“ก็รอไง” กรวิกก็ลงไปนั่งอ่านหนังสือที่เก้าอี้ ส่วนจิรายุก็พูดว่า
“งั้นจะไปเอากาแฟ” และก็เดินออกไป
ในแล็ปภูวดลกับมนัสกำลังเก็บลายนิ้วมือจากฝาครอบ ส่วนเบญญาภากับปาราตีเก็บจากถังไนโตรเจน ฝ่ายกรวิกที่นั่งรออยู่จิรายุก็เดินมานั่งข้างๆและเอากาแฟพร้อมขนมมาวาง เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วโมงิรายุกับกรวิกก็เปลี่ยนมาเล่นเกมกระดาน หยอกกันเล่นและในที่สุดกรวิกก็นอนหลับโดยหนุนตักจิรายุอยู่ส่วนจิรายุลูบหัวเขาอยู่ เวลาสี่ชั่วโมงสัญญาณเตือนก็ดังขึ้น จิรายุรับปลุกในกรวิกมาดู ทั้งคู่มาดูและก็มองหน้ากันก่อนที่ จิรายุจะปิดลู่วิ่งและพูดว่า
“ถ้ารถเครื่องไม่ดับ มันคงฆ่าหน่วยกู้ภัยแล้ว”
“นี่มันห้องรมแก็สเคยที่เลย” เบญญาภาวิ่งมาและพูดว่า
“เจอตัวคนร้ายแล้ว”
“ใคร” กรวิกถาม
“เขาชื่อ ณวัฒน์ สีหรงค์ พนักงานช่างล้อรถ วีไปเอาตัวมาแล้วแต่นี้รู้ไหมวาบริษัทนี้แต่ก่อนเป็นอขงพ่อของณวัฒน์ก่อนที่จะเปลี่ยนมือมาเป็นของโกศล จากคำให้การของพนักงานรุ่นเก่าที่ออกมาต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าโกศลโกงพ่อของณวัฒน์จนหมดตัวและทำทีช่วยครอบครัวเขาด้วยการให้ณวัฒน์ทำงานที่นี้”
“ฟังเหมือนแรงจูงใจ” กรวิกพูด “นี้คือสาเหตุที่เขาปล่อยให้รถขับออกมา”
“เพื่อแก้แค้น” จิรายุพูด
จิรายืนมองหน้าณวัฒน์ที่สะบัดสะบอมเพราะต่อสู้กับวีรภาพตอนที่ไปเอาตัวมา กรวิกนั่งมองเขาอยู่จิรายุก็พูดว่า
“ปรากฏว่าคุณเป็นคนทำ”
“ทำอะไรครับ”
“ฆาตกรรม จะอธิบายไหม”
“ผมไม่ได้ทำ”
“ฟังนะ” กรวิกพูด “เรามีหลักฐานที่ยินยันว่านายทำ ฉันจะเตือนความจำให้นายเอาที่กรอกอากาศชุบด้วยไนโตรเจนบริสุทธิ์ที่นายขโมยมาจากโรงงานอาหารแช่เข็งแล้วใส่ในรถบัสทำให้มันกลายเป็นก้องรมแก็สฆ่าคนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องด้วยสามสิบคน ทั้งยังก่ออุบัติเหตุครังใหญ่ด้วย เรามีลายนิ้วมือนายติดอยู่ที่อาวุธสังหาร”
“ผมเป็นช่างอาจจับไอ้โน้นไอ้นี้ก็ได้”
“ไม่หรอก นายเป็นช่างยางรถไม่ใช่ช่างแอร์ เท่าที่รู้บริษัทนายจะแยกแผนกทำงานนี้ และจากประวัตินายฉันคิดว่าใช่”
“เรื่องชกต่อยเหรอครับ”
“เรื่องพ่อนาย” จิรายุพูดแทงใจดำ “โกศลโกงพ่อนายจนหมดตัวใช่ไหม” ณวัฒน์ลังเลจะพูดและเขาก็พูดว่า
“ใช่ ไอ้สารเลวโกงพ่อผม พ่อมผให่งานมันทำทำฝห้มันรวยแต่มันทำงายพ่อผมครอบครัวผม พอ่ผมเครียดมาจากกินยาตายกลายเป็นเจ้าชานนิทรา แม่ตรอมใจจนเป็นบ้า ไอ้เลวนี้ยังมีหน้ามาช่วยหางานให้ผมทำ ผมต้องสั่งสอนให้มันรู้จักคำว่าฉิบหายบ้าง”
“นายเลยทำ” กรวิกพูด ณวัฒน์พยักหน้าและพูดว่า
“คุณไม่เห็นเหรอสื่อทุกสื่อประโคมข่าว รายได้ลดและบริษัทก็เจ๋งมันก็จะหมดตัว คุ้มจะตายป”
“เปล่าเลย” กรวิกพูด “ไม่คุ้มเลย นายทำให้คนบริสุทธิ์ที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยมาบาดเจ็บล้มตายสังเวยความแค้นของนาย”
“ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คุณถูกจับในข้อหาฆาตกรรมและก่อความวุ่นวายในสังคม” จิรายุมองหน้าเขาและพูดว่า “คุณอาพูดว่าเสียใจแต่สายไปแล้ว” จิรายุพยักหน้าให้จ่ามานะเอาตัวเขาออกไป
จิรายุเดินเข้ามาในห้องทำงานของวีรภาพ วีรภาพนั่งมองคนร้ายที่ถูกเอาตัวมาทำประวัติก่อนคุมขัง จิรายุเดินเข้าไปและพูดว่า
“โอเค ใช่ไหม”
“ครับ ก็ไม่เชิงเท่าไร”
“มีอะไร”
“ผมรับไม่ได้ ผมทำงานมาก็เยอะ เจอคดีแปลกๆมาก็มากตี้มันเกินไป ทุกคนต่างใช้ชีวติไปตามปกติอยู่ๆความตายก็เข้าไปถึงตัว”
“นายกำลังบอกว่ามันไม่ยุติธรรม”
“ครับ”
“โลกนี้ไม่สมบูรณ์แบบหรอก ถึงต้องมีพวกเราในการสร้างความยุติธรรม” วีรภาพพยักหน้าจิรายุรับปืนจากวีรภาพและเดินไปที่ประตูก่อนพูดว่า “ชีวิตนี้มันสั้นวี รีบใช้ชีวิตซะ”และก็เดนออกไป
ที่ห้องพักฟื้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นพรัตน์ค่อยลืมตาตื่นขึ้นเห็นภูวดล ปาราตี จ่ามานะ มนัส เบญญาภา วีรภพาและวิภาดา ยืนล้อมเตียงพวกเขาอยู่และวิภาดาก็พูดว่า
“จำได้ไหมว่าใคร”
“คุณหมอวิ” นพรัตน์พูดเสียงค่อยๆ
“แล้วนี้ละ” วิภาดาชี้ไปที่ปาราตี
“ปา” นพรัตน์ไอเล็กน้อยและพูดว่า “หิวน้ำ” ปาราตีรีบเอาน้ำใส่แก้วและให้นพรัตน์ดูดจากหลอดและพูดว่า
“ค่อยๆนะ” ภูวดลเห็นเลยกระแอมและพูดว่า
“สำออย” จ่ามานะรีบเอาศอกสะกิดภูวดล วีรภาพเลยเปลี่ยนเรื่องพูด
“เป็นไงพ่อคนเก่ง”
“เจ็บซิพี่ ขับมาอยู่ดีๆก็ถูกชนตูม แล้วมีอะไรในร่างกายผมพังบ้างครับหมอ”
“ก็มีซี่โครงหักทะลุปอด” วิภาดาพูด “ไม่เป็นอะไรมากกว่านี้”
“นึกว่าต้องส่งนายไปห้องชันสูตรแล้วไงมาที่นี้ได้” ภูวดลพูดแต่ก็รีบเงียบเพราะปาราตีมองหน้าเขาและเธอก็พูดว่า
“ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว”
“แล้วสารวัตรกับด็อกเตอร์ละครับ” นพรัตน์หมายถึงจิรายุกับกรวิก เบญญาภายิ้มและพูดว่า
“พวกเขาติดธุระสำคัญนะ” และเบญญาภาก็หันไปมองวีรภาพและยิ้ม เป็นเรื่องที่รู้กันสองคนทำให้คนอื่นสงสัยวีรภาพเลยรีบไปเอากระเช้าที่วางอยู่ข้างหลังเขามาและพูดว่า
“ของเยี่ยมไข้จากสารวัตรกับกรวิก และสารวัตรบอกว่าให้นายพักาได้หนึ่งอาทิตย์”
“ผมว่าน่าจะเดือน” ภูวดลพูด วิภาดาเลยพูดว่า
“หมอเห็นด้วย” และทุกคนก็หัวเราะ
ที่บ้านของจิรายุกับกรวิกทั้งคู่อยู่บนเตียงในสภาพเปลือยเปล่า ทั้งคู่กอดกันหลังจากมีเซ็กส์แล้ว และจิรายุก็พูดขึ้นว่า
“กรคือเรื่องเติ้ลนะ”
“ทำไมเหรอ”
“ไม่ต้องวิ่งเต้นก็ได้นะ” กรวิกลุกมานั่งและพูดว่า
“ทำไม พี่ไม่อยากได้ลูกพี่คืนมาเหรอ”
“อยากแต่ว่า ถ้าเติ้ลเขากลับมาพี่ต้องอยู่กับเขาและเราก็ต้อง..”
“พี่ยุ ผมบกแล้วว่าไม่ต้องกังวลเรื่องผม ผมรู้ดีว่าอะไรคืออะไร พี่ฝันอยากได้ครอบครัวกลับมาไม่ใช่เหรอ”
“ใช่ แต่ว่า” จิรายุลุกมานั่งและกอดกรวิกพูดว่า “พี่ไม่อยากเสียกรไป”
“ช่างเถอะพี่ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตอนนี้เวลานั้นยังไม่เกิดก็ไม่เห็นต้องคิดอะไรเลย ไว้ถึงเวลานั้นก่อนแล้วค่อยคิดก็ได้” จิรายุยิ้มและจูบกรวิกก่อนพูดว่า
“งั้นพี่ขออีกรอบนะ”
“ทะลึ่ง” แต่จิรายุก็จูบกรวิกอีกครั้งไปโอบกอดกรวิกลงไปมีเซ็กส์กันอีกครั้ง
ความคิดเห็น