ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    CSI:Bangkok IV

    ลำดับตอนที่ #10 : แผนการร้าย (1) ตอนจบ

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 56


    ตึกเก่าๆโทรมๆไม่มีอะไรพิเศษย่านพัฒนาการ ทุกคนสวมชุดเกราะกันกระสุนก่อนจะพังประตูเข้าไปพวกเขาส่องไฟฉายและปืนไปตามทางระหว่างตรวจสอบ ก่อนที่กรวิกจะเดินลงไปอีกชั้นและเปิดไฟเขาเจอที่เกิดเหตุแล้ว กรวิกเรียกทุกคนลงมายกเว้นวีรภาพและพนิดา

                “โต๊ะเชือด” นพรัตน์พูด

                “เขาใช้เลื่อยไฟฟ้าเก็บเสียง” ภูวดลพูด

                “กรมาดูอะไรนี้สิ” วีรภาพร้อง กรวิกรีบวิ่งขึ้นไปกับเบญญาภา

                “ว่าไงค่ะบอส คุณเดาถูกว่ามันเกี่ยวกับเงินๆทองๆ”

                “แท่นพิมพ์เงินเหรอ มันอยู่ที่นี้ได้ไง” เบญญาภาพุด กรวิกมองไปรอบๆ

                “ผมเคยเห็นเครื่องนี้มันเป็นแท่นพิมพ์เก่าที่ถูกปลดระวางด้วยแท่นใหม่เมื่อห้าปีที่แล้ว”

                “งั้นใครย้ายมันมาละ”

                “จิรเดช” วีรภาพพูด “เครื่องนี้ต้องถูกเก็บอยู่ที่โรงกษาปณ์เอาไว้สำรอง”

                “แล้วยังไง”

                “คือฉันคิดว่ามันเป็นขบวนการนะค่ะ” พนิดาพูด “ขบวนการเงินเถื่อน” กรวิกเงยหน้าพร้อมของในมือและยิ้ม

                “อะไรกร”

                “แท่นพิมพ์เงิน แต่มันเป็นของปลอมที่ทำเหมือนมาก ผมจำได้ดีมันคดีของผมกับจิรายุเมื่อแปดที่แล้ว”

                “งั้นมันมาได้ไง”

                “กรมสอบสวนกลางมีปัญหาแล้วละ” กรวิกยิ้ม

                กรวิกเรียกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและปิดข่าวไว้ ก่อนที่วีรภาพกับเบญญาภากลับไปตรวจแฟ้มที่มาจากกรมสอบสวนกลาง

                “มันสบายใจมาก”

                “มันคิดว่าเราหาไม่พบไง” กรวิกหยุดคิดอะไรก่อนจะพูดต่อว่า “ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ โบว์ช่วยผมได้ไหม”

                “อะไรค่ะ”

                “เล่นเกมส์”

                “เจ้านาย ว่ามาค่ะฉันไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว”

                นพรัตน์ค้นแท่นเงินเข้ามาในแล๊ปกับภูวดลและเจ้าหน้าที่อื่นและขณะที่มนัสต่อเมนเฟรมที่เขาเอามาจากที่เกิดเหตุ ปาราตีเดินเข้ามาในห้องที่เบญญาภาและวีรภาพเปิดแฟ้มอยู่

                “คุณมานั่งอยู่นี้ปล่อยให้กรกับโบว์เล่นกันสองคนเนี้ยนะ”

                “เราแยกส่วนกันนะ แฟ้มนี้มันงงจริงๆ”

                “เขียนสับไปมาอยู่นั้นแหละดูสิปา ตรงนี้ ตรงนี้และก็นี้เหมือนกันทุกประโยค”

                “เขียนรหัสเหรอ”

                “คิดว่างั้น”

                “ค่ะฉันว่ากรมสอบสวนกลางต้องการปกปิดเราอะไรสักอย่างของทุกอย่างชี้ไปที่นั้น”

                “หมายความว่าไง” เบญญาภาถาม

                “ก็แท่นพิมพ์ความจริงต้องอยู่กรมสอบสวนกลางแล้วก็ฉันตรวจสอบเรื่องเครื่องพิมพ์เงินมันไม่ได้อยู่ที่กระทรวงมาพักใหญ่แล้วเพราะว่ามีการงัดแงะเข้าในกระทรวง เพื่อป้องกันอันตรายเลยย้ายเครื่องที่ไมได้ใช้ไปไว้ที่กรมสอบสวนกลาง”

                “ได้เรื่องแล้ว” เบญญาภาร้องออกมา

                “อะไรเบญผมยังไม่เห็นอะไรเลยนะ”

                “ก็ยาประหลาดที่แม็กเจอไง มันก็อยู่ที่กรมสอบสวนกลาง วีพวกนี้ถนัดรหัสเบคอนเขาจะเขียนแฟ้มยังไงก็ได้ตราบใดที่ไม่ทำให้อะไรหรือใครเสียหาย”

                “งั้นเราก็มาเรียนรหัสของฟรานซิส เบคอนกัน” ปาราตีหันคอมพิวเตอร์และกดอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับรหัสเบคอนทันที

                บุรุษลึกลับปรากฏตัวในความมืดเดินเข้ามาอย่างเร็วเข้ามาในตึกแบบไม่ทันระวังตัวก่อนที่ไฟทั้งตึกจะเปิดออก เขาถึงกับตกใจและจะคว้าปืนแต่พนิดาเข้ามาปลดปืนอย่างเร็วพร้อมกับคนอื่นที่ยกปืนเล็งอยู่ กรวิกเดินออกมาจากเงามืด

                “สวัสดี คุณตำรวจ” กรวิกทักทายเพราะว่าจำได้ว่าเขาเป็นใคร

                กรวิกนั่งอยู่ตรงข้ามกับร้อยตำรวจเอกสุรชัย นันทวิศาล  ในห้องสอบสวนวีรภาพยืนอยู่ตรงมุมห้องกำลังดื่มกาแฟอยู่ กรวิกนั่งอ่านเอกสารบนโต๊ะ

                “เมื่อไรจะพูด”

                “ใจเย็นสิผู้กอง” กรวิกพูด “ทีคุณยังใจเย็นในการแยกชิ้นส่วนคนเลย”

                “คุณมันร้ายสมคำร่ำลือจริงๆ”

                “รู้ก็ดีแล้ว” กรวิกเงยหน้ามองเขา “มีคนบอกว่าผมร้ายกาจยิ่งกว่าเสือความจริงคนตรงนั้นสารวัตรวีรภาพก็ได้ชื่อว่าสอบสวนได้รับคำสารภาพทุกครั้ง หวังว่าเราจะได้รับความร่วมมืออย่างยิ่งยวด”

                “ผมยังจะพูดอะไรได้อีก”

                “นั้นแปลว่ารับสารภาพ”

                “กล้าทำก็ต้องกล้ารับ “

                “ตรงไปตรงมาดีแฮะ” วีรภาพเดินทางนั่งหัวโต๊ะ “แต่ที่ผมไม่เข้าใจตำรวจมือปราบน้ำดีอย่างคุณทำไมถึงมาทำเรื่องพวกนี้”

                “เงินไม่พอยาไส้มั้ง ผมไม่ได้มีอุดมคติสูงส่งเหมือนพวกคุณนี้ผมทำก็เพื่อความอยู่รอด”

                “ของอะไร”

                “แล้วแต่คุณจะคิด ผู้กำกับคุณจบปริญญาเอก เป็นศาสตราจารย์ ราชองครักษ์และก็อีกสารพัดตำแหน่งพิเศษของคุณ คุณน่าจะพอเดาๆออกนะ ว่าเรื่องนี้มันใหญ่คุณห้ามไม่ได้หรอก”

                “ทำไมจะห้ามไม่ได้ ผมทำมาเยอะแล้วเรื่องพวกนี้”

                “คุณห้ามไม่ได้หรอกมันใหญ่เกินกว่าพวกคุณแล้ว”

                “มีอะไรใหญ่กว่ากฎหมายบ้านเมือง” วีรภาพ “ฆ่าคนตายอย่างโหดเหี้ยมหรือไงละ”

                “ไม่พี่วี การฆ่าครั้งนี้มันเป็นการปิดปากใช่ไหม”

                “คุณเก่งไม่เบาเลยถ้ามาร่วมกับเราคงดี”

                “เงินปลอมนี้พิมพ์ออกมาทำไม”

                “ใครว่า ของที่เราพิมพ์นะมันจริงแต่ไอ้เวรนั้นมันโลภแอบพิมพ์ของปลอมขึ้นมาเราก็แค่จังการ”

                “ด้วยวิธีชั่วๆ”

                “วิธีของเราสารวัตร ใครที่เข้ามาก็ต้องยอมรับวิธีของเรา”

                เสียงเคาระกระจกจากข้างห้องที่ใช้ดูดังขึ้น กรวิกกับวีรภาพเลยพยักหน้าเดินออกจากห้องมาที่ห้องข้าง เบญญาภากับปาราตียืนอยู่นั้น

                “มีอะไรพี่เบญ”

                “พี่แก้รหัสในแฟ้มของกองสอบสวนกลางแล้วมีรายชื่อของคนที่รู้เห็นเรื่องนี้แต่ว่า...”

                “เราไม่มีหลักฐานจับกุม”

                “อะไรกร ชื่อชัดขนาดนี้พี่ขอหมายได้นะ”

                “หมายอะไรละ จับข้อหาอะไรมาตราไหน พี่วีบอกผมหน่อย”

                “เออ...คือ...”

                “ก็ใช้แล้วการลักลอบเอาของหลวงออกมาทำละ”

                “ออกหมายจับเจ้าหน้าที่สอบสวนกลางที่เกี่ยวข้อง แต่ผมมีเรื่องที่ขัดใจบางอย่างอยู่”

                “อะไร กร”

                “พี่เบญเงินปลอมที่เราได้มาเป็นเพียงส่วนน้อยที่จิรเดชทำ แต่ว่าแท่นพิมพ์ทำหน้าที่พิมพ์เงินจริงออกมา”

                “อะไรนะ”

                “ผมว่ามันไม่ใช่เรื่องเล็กๆอย่างที่ว่าแล้วละ” กรวิกถอนหายใจด้วยหน้าตาเครียดจัด

                กรวิกเดินออกมาลิฟท์ตรงไปที่ห้องทำงาน มนัสรีบวิ่งมาหาแล้วพูดว่า

                “เครื่องพิมพ์เงินเก่าที่เราอายัดไว้ เก่าแค่ไหน”

                “ทำไม”

                “ด๊อกเตอร์ มันมีระบบบันทึกข้อมูลโดยคอมพิวเตอร์ด้วย”

                “ง่ายเลยทีนี้ มันพิมพ์แบงค์ไปเท่าไร”

              “ตัดเงินที่นพไปเอามาจากบ้านจิรเดชตามจำนวนวันออกไปพิมพ์แบงค์พันไปจำนวนสิบล้านบาท”

                “สิบล้าน”

                “ครับ ผมตรวจสอบแล้ว”

                “งั้นเราก็ต้องหาว่าเงินอยู่ไหน”

                “กร” เบญญาภาวิ่งเข้ามา

                “มีอะไรพี่เบญ”

                “วีกับโบว์ไปจับผู้บัญชาการสอบสวนกลางตามหมายและคนอื่นเขาฆ่าตัวตายในบ้านเมื่อคืนนี้ดูเหมือนเขาจะรู้ตัวว่าเราสาวถึงเขา”

                “ไม่เขารู้ว่าเรากำลังเล่นงานพวกเขาอยู่งานนี้ไม่หมูแล้วละ”

                “แล้วเราจะเอายังไงกับสุรชัย การพิมพ์เงินโดยไม่ได้รับอนุญาตโทษร้ายแรงพอๆกับก่อการร้ายและขบถในราชอาณาจักรเลยนะ”

                “แต่เราไม่มีหลักฐานเอาผิด ไม่มีอะไรเล่นงานเขาได้นอกจากข้อหาฆาตกรรม รวบรวมเอกสารทั้งหมดและส่งฟ้องฐานฆาตกรรม”

                “ค่ะ” กรวิกเดินเข้าไปนั่งในห้องทำงานอย่างหมดแรงเหมือนเหนื่อยกับอะไรมาสักอย่างที่หนักหนาเอาการเลยทีเดียว

                กรวิกเดินออกมายังลานจอดรถ วันนี้กรวิกจอดรถตัวเองไว้ที่ลานด้านล่างของตึก เขากดรีโมทปลดล๊อคแต่พอเขาเดินยังไม่ทันถึงรถ ตูม.....เสียงระเบิดดังลั่นเอากรวิกกระเด็นออกมา รถเมซิเดสเบนซ์ ของกรวิกระเบิดไฟลุกท่วม วีรภาพวิ่งมาพร้อมกับนพรัตน์ที่อยู่ไม่ห่างกัน

                “ด็อกเตอร์ เป็นไรไหม”

                “ไม่เป็นไรมึนหัวนิดหน่อย”

                “กร เลือดออกพี่เรียกหมอดีกว่า”

                “ไม่เป็นไร” กรวิกมองภาพรถตัวเองงานนี้ไม่ง่ายและเขากำลังท้าชนกับคนใหญ่คนโตเข้าให้แล้ว

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×