คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : เฝ้าคุณหมอ
Chapter 3
: เฝ้าคุณหมอ
หลังจากที่การผ่าตัดผ่านไปได้ด้วยดี มาร์ค ลี
ก็ออกมานั่งพักสูบบุหรี่บนดาดฟ้า ขาเรียวยาวเหยียดตรงออก
ควันสีขาวจากบุหรี่พวยพุ่งออกมาจากริมฝีปากสวย ถ้าหากมองให้เป็นรูปภาพจากจิตรกรวาดก็คงจะเป็นภาพแบบแนวอาร์ตเสียมากกว่า
มาร์คหลับตาทั้ง ๆ ที่สูบสารนิโคตินเข้าและค่อย ๆ ปล่อยมันออกมา
บรรยากาศบนดาดฟ้าชั้น 32 นี่กำลังดี
มันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายและอยากจะหลับตาพักผ่อนลงเสียเดียวนั้น
มาร์คยิ้มมุมปาก
สายตาที่เปรียบเหมือนเหยี่ยวเจ้าเล่ห์มองไปอีกทางด้านของดาดฟ้า
ด้านที่ลมพัดเอื่อยลงไปด้านนั้นพอดิบพอดี
ร่างบางที่กำลังนอนหลับโดยมีหนังสือปิดหน้าเอาไว้
ถ้าเขาสูบบุหรี่ตั้งแต่ต้นลมแบบนี้ คนที่อยู่ทางนั้นไม่นานก็ต้องตื่นขึ้นมาแน่
เขาเห็นร่างเล็กตั้งแต่ที่ก้าวเข้ามาแล้ว ท่าทางแบบนั้นคงจะนอนหลับสบายเชียว
เขาพ่นบุหรี่แบบนั้นอีกไม่ถึงสองสามครั้ง
คนที่หลับอยู่ก็ไอขึ้นมา
“แค่ก ๆ”
“ขอโทษทีครับคุณ”
ร่างสูงพูดอย่างทะเล้น
จนคนที่กำลังนอนอยู่อดที่จะเอาหนังสือออกแล้วลุกขึ้นนั่งไม่ได้
คุณหมอเตนล์?
“คุณหมอผ่าตัดเสร็จก็ขึ้นมานอนตรงนี้เลยเหรอครับ?”
เขาเห็นร่างตรงหน้าขมวดคิ้ว มาร์คมองชุดที่อีกคนใส่
เสื้อเชิ๊ตสีขาวธรรมดากับกางเกงยีนส์ขาด ๆ รองเท้าผ้าใบสีขาวนั่นอีก..
“อืม”
เขาไม่ใช่เตนล์
แต่เขาเป็นเทนล์ หรือ ชิตพัน ลี้ชัยพรกุล พี่ชายฝาแฝดของเตนล์ต่างหาก
เขาตอบรับครางในลำคอสวมรอยเป็นน้องชาย
เทนล์เหนื่อยเกินกว่าจะมาเล่าให้ฟังว่าตัวเองเป็นใคร อะไรยังไง หรือจริง ๆ
แล้วคนที่อีกฝ่ายรู้จักน่าจะเป็นเตนล์ น้องชายฝาแฝดเขาเสียมากกว่า
ผ่าตัดบ้าบออะไรกัน
เขาจะมาเซอร์ไพร์สน้องชายต่างหาก!
“คุณมาที่นี่ไวนะครับ”
มาร์คยังไม่หยุดความสงสัย แต่ร่างสูงก็ไม่แสดงท่าทีอะไรออกไปมากมาย
“ผมขอตัวก่อนนะครับ”
เทนล์โค้งตัวให้อย่างสุภาพ เขาไม่อยากจะมานั่งเสวนาอะไรมากมาย
กว่าจะมีเวลาออกมาจากกรมได้ก็หาเวลาแทบเลือดตากระเด็น
แล้วพอมีเวลายังต้องมาเจอคนกวนตีนนี่อีก เห็นทีเขาต้องรีบออกจากที่นี่
มาร์คครุ่นคิดในใจ
มาร์ค
คิดว่าคนนี้ไม่ใช่คุณหมอที่ยืนเถียงกับกัปตันเขาเมื่อบ่ายอย่างแน่นอน!
เทนล์รู้ดีว่ามันผิดคำปฏิญาณของทหารว่าถ้าหากเจอคนที่ยศมากกว่าให้ทำความเคารพไม่ว่าจะชาติใด
กรมใด แต่ก็ขอคิดเอาเองแล้วกันว่าตอนนี้เขาอยู่ในช่วงพักแถมนอกเครื่องแบบนี่
เทนล์รีบบ่ายเบี่ยงขอหลีกตัวออกมาจากสถานการณ์ที่น่าเบื่อนั่น
ร่างบางก้าวขาลงบันไดอย่างไม่รีบร้อน นิ้วสวยกดพิมพ์ข้อความหาเตนล์
น้องชายฝาแฝดเพื่อหลอกถามว่าทำอะไรอยู่
เขาตั้งใจว่าจะไปเซอร์ไพรส์ให้แฝดตัวน้อยยิ้มหน้าบาน แก้มปริเสียหน่อย
ก็เวลาเตนล์ยิ้มน่ะ น่ารักจะตาย
‘เตนล์อยู่ไหน? มีเคสหรือเปล่าวันนี้?’
'ถ้าว่างก็ตอบพี่ด้วย'
ตึ๋ง~
'เทนนนนนนนนนนนล์!!!
เราอยู่ที่ห้องทำงานแหละ ประมาณสี่โมงเดี๋ยวเราจะกลับบ้านแล้ว คิดถึงนายจัง
ทำไมวันนี้นายต้องติดงานอ่า'
เทนล์กลั้นยิ้ม
เขาแกล้งอ่านแล้วไม่ตอบ ให้คนเป็นน้องใจเสียเล่น เดี๋ยวไปหาซื้อกาแฟบุกไปให้ที่โต๊ะดีกว่า
คิดถึงแก้มแดง ๆ นั่นเต็มทีแล้ว
“เล่นมือถือไปเดินลงบันไดไประวังสะดุดล้มนะครับ”
เทนล์หันไปมอง เขาเห็นร่างสูงเดินล้วงกระเป๋าตามลงมา
“.........” เทนล์จิ๊ปากในลำคอ
นี่ใจคอหมอนี่จะตามมากวนใจอีกรึไงนะ?
“ครับ
ขอบคุณที่หวังดี”
“คุณหมอเดินออกมาจากทางไหนเหรอครับ
ถึงมานอนที่ดาดฟ้าก่อนผมได้เนี่ย ผมไม่ยักกะเห็น” มาร์คสาวเท้ายาวขึ้นเพื่อมาเดินข้าง
ๆ เทนล์เก็บมือถือลงในกระเป๋ากางเกง
หมอนี่ชักจะกวนใจเขามากไปแล้ว!
“ผมว่าผมไม่มีความจำเป็นต้องบอกคุณนะ”
นับ 1-10 ในใจไว้เทนล์ นึกถึงหน้าเตนล์ไว้
“ผมก็แค่เป็นห่วงคุณหมอครับ
เห็นผ่าตัดเหนื่อย ๆ ว่ายังไงล่ะครับ?”
“............” 9 8 7
“เขาว่าคนสวยใจร้ายถ้าจะจริง
คุยด้วยแล้วไม่ยอมตอบ”
7 8 9
โว๊ย!!! ไม่ไหวแล้ว!
“ยุ่งน่าคุณ! ถ้าคุณว่างมากก็กลับขึ้นไปสูบบุหรี่ต่อก็ไม่มีใครว่านะครับ”
'ปากคอเราะร้ายน่าจับมาจูบปิดปากเสียให้เข็ด' มาร์ค
นึกขำในใจ
“ผมก็แค่ว่างมากจนอยากรู้จักคุณนะครับ
อยากจะรู้จังว่าคุณคนนี้ที่หน้าเหมือนคุณหมอชื่ออะไรกัน?” เทนล์หันขวับกลับไปมอง
คิ้วเข้มเลิกขึ้น พร้อมกับส่งรอยยิ้มมาให้
และตอนนี้เทนล์ก็มั่นใจว่า
ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ทหารเกณฑ์ธรรมดาแน่ ๆ!
“เทนล์! หวังว่าพอคุณรู้ชื่อผมแล้วก็จะเลิกกวนผมนะครับ!
ขอบคุณครับที่จะปล่อยให้ผมเดินลงไปก่อน” ร่างบางตัดบท
ก่อนจะหันหลังรีบเดินลงบันไดอย่างรวดเร็ว
และมาร์คกำลังคิดว่า
ดาดฟ้าที่นี่ทำให้เขาอารมณ์ดีจริง ๆ
แต่ยังไม่ทันจะได้อารมณ์ดีถึงนาที..
ติ๊ก..
สัญญาณที่หูก็ดังขึ้น
'ทีวายเรียกแวนคูเวอร์
กรุณามาพบผมที่ห้องผ่าตัดภายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้'
มาร์ค ขมวดคิ้ว
เท้ายาวรีบวิ่งลงบันได้แทบจะเรียกได้ว่าก้าวกระโดด
ร่างสูงวิ่งแซงหน้าคนตัวเล็กที่หน้าเหมือนคุณหมอไปอย่างรวดเร็ว
มือหนาผลักประตูทางออก ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ห้องผ่าตัด เขาวิ่งมาถึงหน้าห้องภายใน 1 นาที แต่ทว่า..
“เกิดอะไรขึ้นครับกัปตัน!!!”
เหตุการณ์ก็ดูสงบดี..
“ผมกระหายน้ำน่ะ
แล้วไม่มีคนเฝ้าท่านนายก และบังเอิญว่าผมจะตามไปพักเบรกกับหมอคนนู้น
คุณช่วยเฝ้าแทนผมหน่อยสิ ฝากด้วยนะ” แทยงยิ้ม
มือหนาตบบ่ารุ่นน้องเบา ๆ
“โธ่! พี่ครับ ผมตกใจหมด!” มาร์คส่ายหน้า
ก่อนจะแยกเขี้ยวใส่คนเป็นพี่
“เอาหน่า
ซ้อมไว้!”
ไม่ต้องมาขยิบตาใส่ผมครับกัปตัน!
ผมไม่ใช่สาว ๆ
ของคุณ มันไม่ได้ผล!
.
.
.
เตนล์รู้สึกเมื่อยล้าเล็กน้อย
หลังจากที่การผ่าตัดกินระยะเวลาไปนานพอสมควรและผ่าตัดเสร็จเรียบร้อยดีทุกอย่าง
คนไข้พ้นขีดอันตรายและอาการมีท่าทีว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ เขายืนบิดขี้เกียจไปมา
มันคงดูน่ารักมากกว่าเท่ห์ในสายตาคนอื่น มือบางควานหาเหรียญในกระเป๋า ก่อนจะหยิบเหรียญสุดท้ายที่หาเจอหยอดลงไปในช่องเครื่องจ่ายน้ำอัตโนมัติ
นิ้วเล็กจิ้ม ๆ เลือกน้ำอัดลม เหนื่อยแบบนี้เขาต้องดื่มอะไรที่มันซ่าส์ ชื่นใจ
เคร้ง~
เสียงเหรียญที่หล่นลงไปในตู้ด้านข้างตัวเองดังขึ้น
เตนล์เหลือบสายตาไปมองเล็กน้อย
“เจอกันอีกแล้วนะครับ”
แทยงชูกระป๋องกาแฟขึ้น ริมฝีปากหยักส่งยิ้มให้
เตนล์แอบเบ้ปาก “คุณไม่ไปเฝ้านายกต่อรึไงครับ?” มือเล็กดึงฝากระป๋องออก
กระป๋องน้ำอัดลมถูกยกชิดริมฝีปากบางสวยนั่น
“ตอนนี้หน้าที่ผมคือเฝ้าคุณครับ
จนกว่าท่านนายกจะฟื้น” แทยงอดปฏิเสธไม่ได้ว่า
ริมฝีปากนั่นดึงดูดเขาเสียจริง ๆ
“คุณหมายความว่ายังไง?”
“ไม่มีใครรู้นี่ครับว่าหลังจากการผ่าตัดท่านจะอาการดีหรือแย่ลง
มีแต่ตัวหมอในห้องผ่าตัดเท่านั้นที่รู้ ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ร้าย ๆ ขึ้น.. // นี่คุณคิดว่าผมไม่มีจรรยาบรรณขนาดนั้นเลยเหรอ?!”
เตนล์แทบสำลักน้ำเมื่อได้ยินคำพูดจากร่างสูง เขารีบแทรกคำพูดลงไปอย่างมีอารมณ์
“ขอโทษครับถ้ามันทำให้คุณคิดแบบนั้นแต่ผมต้องปฏิบัติตามคำสั่ง”
“ร้ายกาจ! ถ้าไม่ไว้ใจหมอที่นี่ขนาดนั้นพวกคุณจะมาให้ผมผ่าตัดทำไม”
เตนล์กระแทกกระป๋องน้ำโค๊กในมือลงบนโต๊ะ
“ไว้ท่านตื่นผมจะถามให้นะครับว่าทำไม?”
แทยงยิ้ม ตาคมขยิบให้ข้างหนึ่ง
“คุณ! กวนประสาท!” แทยงกลั้นขำ
คุณหมอตัวบางนี่แหย่ง่ายชะมัด ดูท่าทางเวลาเขาโกรธฟึดฟัดนั่นสิ น่าจับมาขย้ำจริง ๆ
“ผมจะเฝ้าแบบไม่ให้คุณรำคาญใจเลย”
“แค่คุณยืนอยู่มันก็รำคาญใจผมเกินทน
คุณทหารกวนประสาท!”
ถึงร่างบางจะบอกกับเขาแบบนั้นก็เถอะ แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกอารมณ์ดีแบบนี้ก็ไม่รู้
“คุณต้องไปเฝ้าโดยองหรือเปล่า?”
“คุณหมายถึงเพื่อนของคุณที่เป็นวิสัญญีแพทย์หรือเปล่าครับ”
แทยงนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกับเตนล์
ร่างสูงแอบมองริมฝีปากแดงนั่นที่กำลังชิดกระป๋องโค๊กอีกครั้ง
“คุณรู้จักวิสัญญีแพทย์ด้วย?”
“ผมก็เห็นในซีรี่ย์เขาพูดกันน่ะ
ถูกซะด้วย.. ไม่ครับ
คุณหมอคนนั้นมีคนอื่นเฝ้าแล้วล่ะ”
“เห้อ! อย่างน้อยก็มีเพื่อนโดนเฝ้าละนะ
งั้นคุณ!”
เตนล์เงยหน้าขึ้นมามองพลางชี้หน้า
“....???” แทยงชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง
“ผมของีบสัก
10 นาที เฝ้าผมด้วยนะ!” สิ้นเสียงเตนล์ก็ฟุบหน้าลงบนแขนข้างหนึ่งตัวเองที่เหยียดออก
แทยงยิ้มขำกับท่าทางเด็ก ๆ นั่น
ร่างสูงไม่คิดว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะกล้าหลับต่อหน้าคนแปลกหน้าได้จริง
ๆ แต่ร่างบางก็ทำไปแล้ว เขานั่งเฝ้าเตนล์ได้ 15
นาทีแล้ว ไหนว่าจะหลับแค่ 10 นาที แต่เขาก็ยังนั่งเฝ้าอยู่
แก้มกลม ๆ สีแดงนั่นที่ชอบขึ้นสีชัดเจนเวลาฟึดฟัดกำลังเบียดอยู่กับต้นแขนเล็ก
ขาตายาวเป็นแพอยู่บนดวงตาดื้อรั้นทั้งสองข้าง
ปลายจมูกยิ่งเชิดรั้นตอบรับไปอีกว่าคนตรงหน้าดื้อแค่ไหน
แทยงนั่งเท้าคางมองอยู่แบบนั้นโดยที่ไม่รู้ตัวเองเลยว่าแอบยิ้มไปกี่ครั้ง
จนกระทั่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นเพราะแรงสั่นจากข้อความเข้ามา
“อือ~
นี่ผมหลับไปกี่นาทีเนี่ย” แทยงยิ้มให้กับท่าทางนั่น
ดูเจ้าตัวเล็กทำเข้า ตาหยี ๆ มองที่โทรศัพท์ทั้ง ๆ ที่หน้ายังไม่เงยจากบนโต๊ะเลย
“ห๊ะ!!!!
ผมนอนไป 20 นาทีเหรอ?!!!! ตายแล้ว!!!!!”
“อะไรกันคุณ
ผมก็เห็นคุณฟื้นขึ้นมาอยู่ใครตายกัน”
“ไอ่บ้า!!!!
ตายแล้วเนี่ยคืองานผมไม่เสร็จ!!!” เตนล์มองค้อนวงโต
ก่อนจะว่ากระป๋องโค๊กที่เหลือขึ้นมาดื่มอึก ๆ แล้วยัดใส่มือหนา
“พูดมาก!!
ฝากทิ้งด้วย!!!” แล้วก็เดินจากไป
แทยงอยากจะถามกลับจริง ๆ
ว่า 'ใครกันแน่ที่พูดมาก?'
เตนล์เดินกลับเข้ามาที่ห้องทำงาน
นายทหารคนนั้นไม่ได้เดินตามเขามาหรอก ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้มีสมาธิทำงาน
งานวิจัยเขายังไปได้ไม่ถึงครึ่ง เขาต้องรีบทำให้เสร็จเร็วที่สุด
เพราะไม่รู้ว่าจะมีคนไข้ฉุกเฉินแค่ไหน หรือเจ็บป่วยแค่ไหนในแต่ละวัน
เทนล์ส่งข้อความมาหาเขา และเขาก็กำลังอดน้อยใจไม่ได้ที่พี่ชายไม่ยอมมาหา
พอเขาบอกว่านั่งทำงานอยู่ประมาณ 4 โมงจะกลับบ้าน
อีกฝ่ายก็ทำแค่อ่านข้อความแล้วไม่ตอบเขา
มันน่าน้อยใจชะมัด!
ปั่ก!
เตนล์ฟาดปากกาลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิด
งานก็คิดไม่ออก หัวสมองก็ตื้อ ร่างเล็กเอนหลังไปพิงพนักเก้าอี้ แหงนหน้าเอาคอพิงกับพนักแล้วหลับตาลงอย่างเหนื่อยอ่อน
โดยไม่รู้ว่ามีอีกบุคคลหนึ่งแอบย่องเข้ามาอย่างเงียบ ๆ
“เตนล์
เหนื่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?”
เอ๋!
เสียงเหมือนเทนล์เลย!
เตนล์เหล่ตามองข้างหนึ่ง
“เทนล์!!!!!!!!!!!!!!”
ถ้าบินจากเก้าอี้ได้เตนล์ก็คงบินไปแล้ว เท้าเล็กรีบวิ่งดุ๊กดิ๊กเข้ามากอดเต็มแรง
เทนล์ชูแขนขึ้นทั้งสองข้างเพราะกลัวแก้วกาแฟในมือมันหกจากเด็กดื้อที่โถมตัวกอดเขานี่แหละ
“ฮือ
คิดถึงนายจังเลยอ่ะ ไหนว่ามาไม่ได้แล้วไง” เตนล์ผละกอดออก
แต่มือยังคงกอดเอว ปากเล็ก ๆ นั่นเบ้ออกอย่างน่าหมั่นเขี้ยว
“ก็กลัวคนแถวนี้คิดถึงพี่ไง
ขอฟัดแก้มหน่อย” ทันทีที่เทนล์ว่า
เตนล์ก็ยิ้มกว้างรีบเอียงแก้มให้ทันที เทนล์ไม่รอช้าที่จะกดจมูกลงไปหอมแรงๆ
“เอ๊ะ!
ทำไมวันนี้กลิ่นแปลก ๆ ไปให้ใครหอมมา บอกมานะ” เตนล์สะดุ้ง
รีบเอามือจับแก้ม “บ้าเหรอ?! เราเปล่าเลยนะ
จริง ๆ นะเทนล์” แฝดพี่ขำ
“พี่แกล้งเล่นน่า
ง่วงเหรอ พี่ซื้อกาแฟมาฝากด้วยนะ มีเค้กของโปรดเราด้วย” เทนล์จ่อหลอดไปที่ปากเล็ก
“แต่แก้มเราไปให้ใครหอมมาจริง ๆ หรือเปล่าหืม?” เตนล์รีบดูดกาแฟลาเต้เย็นเข้าไปอึกใหญ่ พลางส่ายหน้าหงึกหงัก “ไม่มีจริง ๆ นะเทนล์~” เตนล์ดูดกาแฟในมือพี่ชายฝาแฝดเข้าไปอีกอึก
“ชื่นใจม๊ากมาก
คิดถึงเทนล์จังเลยอ่ะ ขอหอมแก้มบ้างสิ” เทนล์ยิ้ม
พลางเอียงแก้มให้ เตนล์ยื่นหน้าเข้าไปหวังจะฟัดแก้มคนเป็นพี่บ้างแต่ทว่า..
“คุณหมอคะ
มีเคสผ่าตัดด่วนที่ห้องไอซียูค่ะ”
บ้าจริง!!!!
อดหอมเทนล์เลย
เทนล์ไม่ให้หอมแล้วอ่ะ!!!
“เดี๋ยววันนี้กลับบ้านด้วย
รีบไปผ่าตัดเร็วประมาณสี่โมงใช่ไหม? นี่บ่ายสามแล้ว
รอห้องนี้ได้หรือเปล่า?”
“ได้สิ!
ถ้ากิ๊กเราเข้ามาหาบอกว่าเราไม่ว่างนะ”
“พี่ไม่มาหาแปปเดียวแอบมีกิ๊กเหรอ?!
เดี๋ยวจะโดน!!” และเตนล์ก็ไม่จะรอฟังคำบ่นของของเทนล์แน่
ร่างบางรีบวิ่งแจ้นออกนอกห้องทันที
.
.
.
คิม โดยอง ไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้
เขาเห็นตั้งแต่ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องผ่าตัดแล้วล่ะ จอง แจฮยอน
หนุ่มร่างสูงผิวซีดราวกับไร้เลือดคนนั้น แต่ก็ต้องทำเป็นควบคุมอารณ์ไม่ให้สั่น
ทำท่าทีเป็นจำอีกฝ่ายไม่ได้
แต่ใครจะรู้ว่า
เขาจำได้ขึ้นใจเชียวล่ะ!!!
“บ้าจริง
ๆ เลย โดยอง! ลืมหมอนั่นเดี๋ยวนี้นะ!” โดยองเขกหัวตัวเองเบา ๆ
ใครจะลืมรักแรกลงกันเล่า!!!
“โอ๊ย!! จะเป็นบ้า!” โดยองเตะเข้าที่ถังขยะข้าง
ๆ จนดังโป๊ก อยากจะระบายอารมณ์โดยการหยิบเข็มฉีดยามาจิ้ม ๆ ๆ แทนที่ถังขยะจะล้ม แต่กลับเจ็บเท้าตัวเองแทน
โดยองยกเท้าขึ้นกุมกระโดดเหยงๆ
“คุณหมอไปเตะให้ตัวเองเจ็บทำไมครับนั่น”
“หื้ม?
ห๊ะ? อ่ะ... เอ่อ”
ใบ้..
ใบ้แดกกันเลยทีเดียว
นี่เขารีบเดินหนีมา ทำไมหมอนี่ยังตามเจออีก! โดยองยืนกุมเท้านิ่ง ไม่ยอมหันหลังกลับไป
“ตายยากชิบ”
โดยองบ่นเสียงเบา
“ผมได้รับคำสั่งให้มาดูแลคุณครับ”
แจฮยอนแอบเปลี่ยนคำพูด
ถ้าบอกว่าให้มาเฝ้าร่างสูงคงโดนด่าไม่ก็โดนไล่ตะเพิดแน่
“ดู.. ดูแลผม.. ทำไมเหรอครับ?”
เก็บอาการไว้โดยอง
“ดูแลจนกว่าท่านนายกจะฟื้นครับ”
“ห๊ะ?
นั่นเขาไม่ได้เรียกดูแล! เขาเรียกว่าจับตามองแล้วมั้งคุณ!” โดยองหันมาพูดสะบัดเสียงสูงใส่
เหอะ! ใช่สิ
ไอเราก็นึกว่าที่ตามมาเนี่ยจะตามมาขอเบอร์ ขอไอดีไลน์ เปล่าหรอก! ตามมาเฝ้ากลัวเขาทำให้นายกตายสินะ!!
ช่างเป็นการใกล้ชิดกันที่น่าประทับใจมาก!!
ไม่ต้องบอกให้รู้ว่าแม้แต่โดยองจะเข้าห้องน้ำจอง แจฮยอนก็ก้าวติดทุกฝีก้าว
เฝ้าอยู่หน้าห้องจนเสียความเป็นส่วนตัว เหมือนกระทั่งเวลานี้
เวลาที่เขานั่งทำงานวิจัยหมอนั่นก็นั่งเฝ้าเขาอยู่ที่โซฟาในมืออ่านนิตยสารดูสบายอารมณ์
ผิดกับเขาที่หน้าบูดเป็นตูดลิงจนพยาบาลหรือคนไข้แทบจะไม่กล้าเข้าใกล้แล้ว
เสียสมาธิชะมัด!
“นี่คุณ! คุณหิวไหม ผมหิว
ออกไปซื้อแซนวิชให้ผมหน่อยสิ”
“หื้ม?”
“ออกไปซื้อแซนวิชให้หน่อย”
โดยองทวนคำพูด ร่างสูงปิดหนังสือลง
ขาเรียวยาวที่นั่งไพล่กันถูกยกออกมานั่งเป็นท่าปกติ
“ผมเป็นผู้เฝ้าคุณครับไม่ใช่พ่อนม”
“ไหน.. ไหนเมื่อเช้าบอกมาดูแลไง!”
“ผมแค่พูดให้คุณรู้สึกดีครับ”
แจฮยอนยิ้ม โดยองกำหมัดแน่น
“ย๊า!!!!!!”
“เอ~
หรือจะเปลี่ยนจากพ่อนมเป็นพ่อทูลหัวดีครับ”
คิม
โดยองขอสาบานว่า เขาเกลียดรอยยิ้มจนตาเป็นเสี้ยวพระจันทร์แบบนั้นที่สุด!!!
Talk : มาต่อตอนที่สองให้แว้ววววว~ คิดถึงกันไหมเอ่ย?
เราพยายามหาเวลาว่างมาแต่งให้เร็วที่สุด แต่งานก็ต้องทำตามประสามนุษย์เงินเดือน
เป็นกำลังใจให้คุณทหารกับคุณหมอด้วยเนอะ จุ๊บ <3 ถ้าเจอคำผิดตรงไหนติเตียนได้เลยนะคะ
ไปพูดคุยที่นี่ก็ได้ #พี่ทหารแทยง
ความคิดเห็น