คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2
Chapter 2 :
ตอนก้าวเข้าไปมันช่างง่ายดาย
หัวใจดวงน้อยช่างใจง่ายเหลือเกิน..
แบคฮยอนถือสมุดวาดภาพกับดินสอคู่ใจมานั่งลงที่โซฟาในบ้านใหญ่ วันนี้คุณนายปาร์คไม่อยู่ออกไปประชุมที่บริษัท โดยพ่อเขานั่นแหละที่ไปส่ง ส่วนคุณแม่บ้านจัดการทำความสะอาดที่บ้านเสร็จก็กลับออกไปเรียบร้อยแล้ว
แบคฮยอนตั้งใจจะมาวาดรูปของชานยอลที่อยู่บนกรอบในตู้โชว์ใบนั้น
ไค หรือ ปาร์ค จงอินเคยเอาให้เขาดู แบคฮยอนจำได้ดี รูปนี้ไคบอกว่า ชานยอลไปเที่ยวที่ฝรั่งเศสกับเพื่อน ๆ ความรู้สึกของคนตัวเล็กก็ยังคงเป็นแบบเดิม..
รัก.. ยังคงรักไม่เปลี่ยน
หัวใจดวงน้อยยังคงรอคอยพี่ชายคนดี
ได้แต่คอยแอบมองรูปภาพเขาจากมุมนี้
ได้แต่คอยแอบวาดรูปเก็บไว้อย่างเจียมตัว
ได้แค่นี้ก็พอใจแล้ว
จงอินมักเอาโปสการ์ดที่ชานยอลส่งมาเอามาให้เขาเสมอ ๆ เวลาที่คนตัวสูงไปเที่ยวที่ไหนก็ตาม แม้เนื้อความจะเอ่ยถามถึงทุกคนแต่ทว่ากลับไม่เคยถามถึงแบคฮยอนคนนี้เลย คนตัวเล็กเก็บมันอย่างดี ทุกใบสภาพมายังไงก็ยังคงดีอยู่แบบนั้น
ชานยอลคงไม่มีวันที่จะเลิกเกลียดเขา
แบคฮยอนเข้าใจดี..
แบคฮยอนค่อย ๆ เก็บรายละเอียดรูปของคนตัวสูงในภาพอย่างตั้งใจ เสียงเครื่องยนต์หน้าบ้านที่เป็นสัญญาณว่าใครสักคนในบ้านมา ทำให้คนตัวเล็กต้องรีบเก็บอุปกรณ์รีบวิ่งกลับเข้าไปเก็บของไว้ในห้องของตัวเอง ก่อนจะรีบวิ่งออกมาหน้าห้องโถงอีกครั้ง
“พี่ไค สวัสดีครับ”
“ไงเรา~” แบคฮยอนยิ้มตาหยี เมื่อมือหนาอีกคนเอื้อมมายีผมตัวเองเบา ๆ
“อยากได้ของขวัญไหม?”
“เอ๋?”
“พรุ่งนี้พี่มีของขวัญให้นะ” จงอินขยิบตา
“จริงเหรอครับ? อะไรเอ่ย? ผมถามได้หรือเปล่า?”
“ความลับนะตัวเล็ก เราต้องชอบมากแน่ ๆ” แบคฮยอนพยักหน้า มือเล็กถือสูทให้พี่ชายคนกลางของบ้าน เท้าเล็กเดินตามอีกคนอย่างเป็นประจำ
“ครับผม แล้ววันนี้พี่ไคอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม?” จงอินหันมามองคนตัวเล็กยิ้ม ๆ
“อยากกินข้าวผัดกิมจิครับ ทำให้พี่กินหน่อยนะ เดี๋ยวพี่ลงมานะครับ”
“ครับผม เดี๋ยวผมไปทำแปปนึงนะ” มือหนายีผมคนตัวเล็กอีกครั้ง ก่อนจะเดินขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า
แบคฮยอนนั่งมองจงอินที่กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย เขาไม่ได้อยากจะมานั่งมองแบบนี้หรอก เพราะตัวเองก็อิ่มเรียบร้อยแล้ว แต่คนตัวสูงขี้เหงาอย่างกับตอนเด็ก ๆ เหมือนเดิม เลยร้องขอให้นั่งเป็นเพื่อนอย่างกับเด็ก ๆ
“พี่ไคครับ พี่ชานยอล.. เอ่อ..” แบคฮยอนอึกอัก
“ส่งโปสการ์ดมาอีกหรือเปล่า?” จงอินเอ่ยปากขึ้นทั้ง ๆ ที่ไม่มองหน้า เขารู้ แบคฮยอนจะถามเขาไม่กี่เรื่องเท่านั้นแหละ และส่วนใหญ่ที่ถามก็มีแต่เรื่องของชานยอลทั้งนั้น
“อืม อยู่บนห้อง แต่ก็ไม่ได้ถามถึงเราสักนิด”
แบคฮยอนกลืนน้ำลายลงคอ รู้.. รู้ดีว่าชานยอลไม่มีทางเขียนถึงเขาหรอก แต่พอจงอินพูดแบบนี้ทีไร มันก็รู้สึกจุกทุกที ไม่เคยชินสักครั้ง
“อะไรที่ทำให้ชานยอลเกลียดเราขนาดนี้ล่ะแบคฮยอน”
นั่นสิ.. อะไรที่ทำให้ชานยอลเกลียดแบคฮยอนขนาดนี้
คงจะเป็น ‘ความรัก’ ของผมล่ะมั้ง..
“ผม....” จงอินเงยหน้ามองอีกคน แบคฮยอนก้มหน้าลงปากเล็กอึกอักเหมือนคนไม่อยากจะพูดอะไร
“พี่อิ่มแล้ว พี่ฝากเก็บหน่อยนะ ถ้าอยากได้โปสการ์ดก็ตามขึ้นไปเอาบนห้องทำงาน” สิ้นคำพูดของจงอินไม่ทันถึงสิบวินาที คนตัวเล็กก็รีบกระวีกระวาดเก็บจานไปไว้ที่ครัว ยืนล้างจานในซิงค์อย่างตั้งใจ จงอินมองแผ่นหลังเล็กนั่นด้วยความรู้สึกที่เดาไม่ออก
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เกี่ยวกับชานยอล
แบคฮยอนจะไวเสมอ..
“พี่ชานยอลไปนิวซีแลนด์มาเหรอครับ?” ทันทีที่รับโปสการ์ดจากมือหนามา แบคฮยอนก็เอ่ยถามทันทีที่เห็นมุมด้านล่างขวามือของโปสการ์ดระบุว่าเป็นที่ไหน ในภาพเป็นรูปของชานยอลเอง ร่างสูงไม่ได้ยิ้มหรอก ก็แค่ยืนอยู่ท่ามกลางฟาร์มแกะที่กว้างขวาง แค่นี้แบคฮยอนก็รู้สึกว่าชานยอลมีเสน่ห์ที่จับต้องได้ยากจริง ๆ
“คงงั้นมั้ง สวยล่ะสิ” แบคฮยอนพยักหน้าขึ้นลงแรง ๆ รอยยิ้มที่ผุดบนริมฝีปากมีแต่รอยยิ้มที่จริงใจ และรู้สึกเหมือนเติมพลังให้กับคนที่ขาดความหวังได้ จงอินมองยิ้ม ๆ เขาดีใจที่เห็นร่างบางยิ้มแบบนี้
“ผม.. ขอได้ไหมครับพี่ไค”
“ได้สิ พี่ก็ให้เราทุกใบแหละ”
.
.
.
แบคฮยอนไม่คิดว่า ‘ของขวัญ’ ที่จงอินบอกจะให้เขาจะเป็นเรื่องแบบนี้ ตั้งแต่ตื่นนอนลืมตาขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อทำอาหารให้ตระกูลปาร์ค แต่ไม่ทันจะได้ก้าวเท้าเข้าไปในบ้านใหญ่ก็ได้ยินอึกอัก ครึกโครม เสียงหัวเราะสนุกสนาน ที่ไม่ได้ยินมานาน ราวกับมีงานปาร์ตี้เล็ก ๆ
แบคฮยอนชะโงกหน้ามองเข้าไปอย่างอยากรู้อยากเห็น..
ผู้ชายคนนึงยืนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของป้าอึนมี คุณแม่บ้านที่น่ารัก พี่ไค กับพี่เซฮุน
แค่มองจากด้านหลัง ร่างบางก็จำได้ทันทีว่าเป็นใคร..
ปาร์ค ชานยอล..
ของขวัญที่จงอินว่า ก็คือ ‘ปาร์ค ชานยอล’ กลับมาแล้ว
ความดีใจที่ปกปิดไม่มิดก่อรื้นขึ้นที่ดวงตาเป็นน้ำใสเอ่อคลอ ความฝันที่จะได้เจอชานยอลอีกสักครั้ง เป็นจริงขึ้นมาอย่างกระทันหัน แบคฮยอนทำท่าจะวิ่งหันหลังกลับ ยัง.. ยังไม่พร้อมที่จะเจอเวลานี้
พอเห็นว่าเป็นใครก็ดีใจ แต่ไม่กล้าพบหน้า..
“แบคฮยอน!” ไม่ทันเสียแล้ว.. เสียงของเซฮุนที่ตะโกนเรียกเขา
“แบคฮยอนมานี่สิ มาดูซิว่าใครมา” เซฮุนก็ยังเป็นเซฮุนอยู่วันยังค่ำ ไม่เคยรู้อะไร
แบคฮยอนกลืนน้ำลายลงคอ ในใจแสนจะลังเลว่าควรจะหันหลังกลับไปหรือไม่ หรือควรจะแกล้งเดินหน้าต่อไปทำท่าไม่ได้ยินดี
“แบคฮยอน! เฮ้! ได้ยินพี่ไหม?” เสียงของพี่คนเล็กยังคงเรียก.. คนตัวเล็กจำเป็นต้องเดินก้มหน้าเข้าไปในบ้านใหญ่ เขาเลี่ยงไม่ได้.. แว๊บหนึ่งที่เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงตรงหน้า
เขาก็เห็นสายตาที่ไม่ชอบใจจากชานยอลที่ส่งมาก่อนคำพูดเสียแล้ว..
“สวัส... ดี...ครั..ครับ” พยายามแล้วไม่ให้น้ำเสียงกระตุก ชานยอลสูงขึ้นมากกว่าแต่ก่อน รูปร่างหุ่นดี แววตาเจ้าเล่ห์ที่มีมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว ใบหน้ายังคงหล่อเหลาเช่นเดิมเหมือนจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ ชานยอลยิ่งโตยิ่งดูภูมิฐานดี หลาย ๆ อย่างที่ชานยอลเปลี่ยนไปแม้จะไม่เปลี่ยนไปจากเดิมมาก แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนไป คือ แววตาที่มีแต่ความเกลียดชังที่มองมาที่แบคฮยอน
“ครอบครัวบยอนยังไม่ลาออกไปอีกเหรอ? อยู่นานจังแฮะ” เสียงทุ้มที่ได้ยินเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ไม่ได้ทำให้แบคฮยอนใจชื้นดีใจขึ้นมา ร่างเล็กยิ้มเจื่อน ๆ ชานยอลแกล้งถามเขาเหมือนมุขตลก ๆ ขำ ๆ ที่คนอื่นฟังแล้วอาจจะเหมือนแค่หยอกเล่นกันเท่านั้น
“ครับ”
“ทำไมถามแบบนั้น แย่จริง! พี่ใครวะ!!” เซฮุนทำแกล้งหน้าเอือมระอาใส่พี่ชายคนโต ก่อนจะเดินมากอดคอแบคฮยอนไว้หลวม ๆ ชานยอลยิ้มที่มุมปากราวกับจะเย้ยหยัน
“น้องแบคน่ารักจะตาย เนอะไค”
“อืม” จงอินพยักหน้า “อ้อ! อีกอย่างนะเซฮุน ฉันเป็นพี่นายไม่ใช่ฝาแฝดจะได้เรียกเหมือนเพื่อน!” จงอินฟาดหมอนอิงใส่หน้า เซฮุนรับไว้ก่อนจะขำลั่น ก็เป็นเซฮุนกับจงอินอีกครั้งที่สร้างเสียงหัวเราะ
คนตัวเล็กทำตัวไม่ถูก ได้แต่ยืนยิ้มเจื่อน ๆ รับมุขของจงอินกับเซฮุน เขาไม่รู้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อึดอัดนี้ยังไงต่อไป..
“แบคฮยอนมีอะไรทำก็ไปทำเถอะ” เป็นอีกครั้งที่จงอินสังเกตได้..
“ครับพี่ไค”
แบคฮยอนนึกขอบคุณที่ไคไล่เขาออกมาจากสถานการณ์อึดอัดนั้น ร่างเล็กเข้ามาทำอาหารเตรียมไว้สำหรับตระกูลปาร์ค วันนี้คุณนายปาร์คเองก็คงอยู่ทานอาหาร เขาจึงต้องทำอาหารเพิ่มขึ้นอีกสักนิด เสียงหัวเราะที่อยู่ด้านนอกเงียบไปแล้วหลังจากที่เขาเข้าครัวมาทำอาหารได้สักพัก กลิ่นน้ำหอมที่คุ้นเคย ที่เคยได้กลิ่น เข้ามาใกล้เรื่อย ๆ แบคฮยอนภาวนาไม่ให้ชานยอลที่เดินเข้ามา ศรีษะเล็กค่อย ๆ เอี้ยวหันไปมอง
ใช่ เป็นชานยอลจริง ๆ ที่ยืนกอดอกมองเขาอยู่ทางด้านหลัง..
พอได้ยืนใกล้กันแบบนี้ใจดวงน้อยก็เต้นสั่นระรัวควบคุมไม่อยู่ ทั้งตื่นเต้น หวาดกลัว ไม่กล้าสู้หน้าไปพร้อม ๆ กัน มือที่มือชื้นเหงื่อไปหมด ในใจมีคำพูดเป็นล้านที่อยากจะบอก แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ริมฝีปากบางกำลังจะเอื้อนเอ่ยถามตามความในใจ
“พี่ชานยอลคิด.. / ไงลูกคนใช้”
“............” คำพูดถูกกลืนลงคอ
“สบายดีสินะ”
คุณปาร์คมีพระคุณกับผมมากเลยครับ
พยายามยิ้มอย่างมีความสุขให้เห็น
“โตขึ้นเยอะเลยนะ”
พี่.. ผมคิดถึง
“เกาะที่นี่กินสุขสบายจนไม่อยากย้ายไปไหนเลยล่ะสิ?”
ผมคิดถึงพี่จัง..
“ถ้าเรียนจบมีงานทำก็รีบ ๆ ย้ายออกไปซะ ฉันไม่อยากมีภาระสักเท่าไหร่” แบคฮยอนกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น คำพูดทุกคำที่ชานยอลพูดออกมา มันเชือดเฉือนหัวใจเขาได้อย่างเย็นชา
“ครับ.. คุณชานยอล”
ผมก็ยังรักพี่เหมือนเดิม
ชานยอลพูดเสร็จก็เดินกลับออกไปอย่างไม่สนใจ แบคฮยอนเงยหน้าหวังกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา คำพูดนิ่ง ๆ แต่เย็นชาแบบนั้น เขาแทบล้มทั้งยืน
จริงอย่างที่ชานยอลว่า
ครอบครัวเขาคงเกาะที่นี่อย่างสบายจนไม่อยากไปไหน..
เขาควรจะทำอะไรสักอย่าง
.
.
.
ลู่หานกำลังเรียนอยู่มหาลัยปีสุดท้าย เขาต้องทิ้งแบคฮยอนและพ่อมาอยู่คอนโดกับเซฮุนเนื่องจาก ทั้งคู่เรียนอยู่ชั้นเดียวกันที่เดียวกันแต่ว่าคนละคณะ คุณนายปาร์คเห็นว่าปีสุดท้ายกันแล้วและงานเยอะตามสไตล์เด็กมหาลัยปีสุดท้าย จึงให้ทั้งคู่มาอยู่ที่คอนโดใกล้มหาลัยโดยให้ลู่หานอยู่ด้วยฟรี ๆ และถือซะว่าเป็นพี่เลี้ยงดูแลเซฮุนไป
เซฮุนถึงแม้จะเป็นลูกคนเล็ก แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีนิสัยเพลย์บอยเจ้าชู้อย่างคาดไม่ถึง อาทิตย์นึงบางวันควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ามาค้างที่คอนโด ต้องเป็นลู่หานเสมอที่คอยดูแลห่าง ๆ ลู่หานเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ผู้หญิงแต่ละคนที่มาพักอ้างแรมกับร่างสูงเสร็จแล้วทำไมบางทีต้องทิ้งหลักฐานเอาไว้ให้เขาตามเก็บด้วย มันแย่ชะมัด แต่ลู่หานเองก็ไม่ได้คิดมากพอที่จะเก็บมาใส่ใจ ถ้าผู้หญิงของเซฮุนกล้าทิ้งไว้ เขาก็กล้าเก็บทิ้งเหมือนกัน
“คุณเซฮุน ลุกไปอาบน้ำ ทานข้าวก่อนครับ” มือเล็กสะกิดเขาที่ต้นแขนแกร่ง ก็เป็นอีกวันที่เซฮุนเพิ่งผ่านภารกิจจากเมื่อคืนมา ร่างสูงสะบัดแขนหลบ พลางหันหน้าหนีซุกหน้าลงหมอนใบโต
“จะนอน!”
“แต่คุณมีเรียนเก้าโมงเช้านะ นี่เจ็ดโมงแล้วนะครับ”
“..............” เซฮุนหยิบหมอนขึ้นมาปิดหู
“คุณเซฮุน ตื่นเถอะครับ” ลู่หานยังคงพยายามปลุก
“โอ๊ยยย!! ออกไปไกล ๆ ได้ไหมวะ! คนจะนอน รู้ไหมเมื่อคืนกว่าฉันจะได้นอนมันกี่โมง!!!!!” หมอนใบโตที่เคยปิดหู ถูกปามาใส่หน้าร่างบางที่ยืนอยู่ข้างเตียงอย่างจัง ลู่หานยืนนิ่งไม่ตอบโต้อะไร
เขาไปบังคับให้เซฮุนทำภารกิจพิชิตสวรรค์ถึงเช้ารึไง?
ก็เปล่า..
อารมณ์เสียเมื่อไหร่ ก็ใส่มาที่เขาตลอด
“โอเคครับ ผมทำกับข้าวไว้ให้คุณแล้ว ผมขอตัวไปเรียนก่อนนะครับ”
“อยากไปไหนก็ไปเถอะ วุ่นวายน่ารำคาญ!” เท้าเล็กที่กำลังจะหันหลังกลับหยุดชะงักกึก มือบางกำแน่นอย่างข่มอารมณ์ สูดลมหายใจเข้าลึกที่สุด ก่อนจะเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างลู่หานกับเซฮุนไม่ได้แย่สักเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้ดีไปสักทีเดียว ลู่หานเข้าใจว่าเซฮุนเป็นลูกคนเล็กที่เติบโตมาบนความเพียบพร้อมของฐานะ และการงาน ความเอาแต่ใจที่มีมากจนเกินไปมันก็คงไม่แปลกถ้าจะมีกับปาร์ค เซฮุน
คนตัวเล็กจัดการอำนวยความสะดวกไว้ให้กับเซฮุนทุกอย่าง ตื่นขึ้นมาจะได้ไม่หงุดหงิดพาลใส่คนนู้นคนนี้อีก ลู่หานหยิบเป้ใบเก่ามาสะพายหลัง ใส่รองเท้าผ้าใบคู่โปรด ก่อนจะออกจากห้องไป
ลู่หานเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะพอ ๆ กับแบคฮยอน หน้าตาน่ารักคล้ายลูกกวาง แถมอัธยาศัยดี ทำให้ใคร ๆ ในคณะไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องต่างก็ชอบพอเขา
“ลู่หาน รู้หรือยังว่าโปรเจคสุดท้ายเราต้องหานายแบบมาถ่ายตามคอนเซปท์ที่อาจารย์ให้มาน่ะ” ทันทีที่ลู่หานนั่งลงบนเก้าอี้ที่เดิมที่กลุ่มของพวกเขานั่งเป็นประจำ จงแดก็เอ่ยปากขึ้นมาทันที
“เหรอ? คอนเซปท์เกี่ยวกับอะไรล่ะ? ทำไมเป็นเราที่เพิ่งรู้เรื่องเนี่ย” ลู่หานยกมือขึ้นเกาหัว มินซอกที่นั่งข้าง ๆ ถึงกับหลุดขำ
“ก็วันนั้นนายหยุดนี่ จะรู้ได้ไง”
“แล้วคอนเซปท์มันคืออะไรเหรอ?”
“ความสับสน”
“...................”
“บ้าไปแล้ว! ความสับสน? สับสนอะไรล่ะ? ยังไง? ให้ข้อมูลมาแค่นี้เองเหรอ?” ลู่หานพูด มินซอกพยักหน้า
“ใช่แล้ว และงานต้องเสร็จภายในเดือนหน้า”
“เตรียมตัวตายกันเถอะ!!” จงแดฟุบหลับลงบนโต๊ะทันทีที่พูดจบ มินซอกเห็นเพื่อนสนิทอีกคนฟุบแบบนั้นก็ฟุบตามอย่างอดไม่ได้
ลู่หานรีบเก็บของใส่กระเป๋าอย่างรวดเร็วพอได้ยินเสียงออดหมดคาบเรียน จะห้าโมงแล้ว เขาต้องรีบ เดี๋ยวจะไปที่ร้านไม่ทัน หลังจากที่ออกมาอยู่คอนโดกับเซฮุน ลู่หานก็ทำงานพาร์ทไทม์หลังเลิกเรียนที่ร้านอาหารของรุ่นพี่ที่เพิ่งจบออกไป
“เราไปก่อนนะมินซอก จงแด เรื่องงานจะเอายังไงเดี๋ยวพรุ่งนี้เรามาช่วยกันคิดแล้วกัน ดูเหมือนวันนี้ทุกคนจะตื้อไปหมด”
“โอเค แล้วเจอกันนะ รีบ ๆ ไป เดี๋ยวพี่คริสบ่นแย่”
“ฮ่า ๆ นั่นสิ ยิ่งเป็นตาแก่ขี้บ่นอยู่ บายนะ”
Talk : Chapter 2 มาแล้วววววววววววววววววววววววววววววววววววว ชานแบคเจอกันแล้วนะ พี่ชานพูดจาทำร้ายจิตใจน้องตั้งแต่เจอเลยอ่ะ แต่จะบอกว่า จะมีมากกว่านี้เรื่อย ๆ #เราต้องเฟ้นหาความใจร้ายของพี่ชานออกมาให้หมด เนอะ! 55555555 ให้น้องแบคของเราน้ำตาร่วงเยอะหน่อย ชอบทำร้ายเค 5555
ฮุนฮานก็เหมือนจะดีแต่ก็ไม่ดี ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะคะ ฝากตำหนิติเตียน บ่นพี่ชานได้ที่ #ฟิคทางรักร้าย ขอบคุณค่า
ความคิดเห็น