ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เปลวเพลิง
ในตอนเที่ยงวันของวันใหม่ของห้องรับประทานอาหารของโรงเรียน เสียงพูดคุยกันยามรับประทานอาหารของที่นี่เกี่ยวกับผลการต่อสู้ระหว่างชิน กับ ซิลเวีย ดูจะเป็นหัวข้อหลักในการพูดคุยในวันนี้ ผมรู้สึกเซ็งมากที่มีคนมาวิจารณ์ใกล้ๆ มันเป็นความรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ถึงกระนั้นผมก็พยายามทำเป็นไม่สนใจจัดการอาหารบนโต๊ะอย่างเร็ว
“นายเซ็ง ชั้นก็เซ็งเหมือนกัน ชั้นเกือบจะได้เป็นมหาเศรษฐีแล้วนะ ถ้าอาจารย์ไม่เข้ามาขัดจังหวะก่อน” เจมส์บ่นทั้งที่อาหารเต็มปาก
“ดีแล้วต่างหาก ที่นายไม่เสียพนัน ชั้นแค่โชคดีที่เธอสับสนกับเวทย์บลิงค์ของชั้น ทำให้ชั้นเป็นบุกเธอกลับ แต่ถ้าสู้ไปนานๆชั้นอาจจะแพ้ เพราะ เธอจับทางชั้นได้” พูดจบชินก็ยัดเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากของเขา
ขณะที่กำลังจะลุกจากโต๊ะเพื่อนำจานไปเก็บ ชินเห็นดวงตากลมสีน้ำเงินคู่สวย กับ ผมยาวสีเงินที่ดูแลมาอย่างดี ซิลเวียกำลังเดินเข้ามาหาชิน เสียงพูดคุยในห้องอาหารดูเงียบไปถนัดตา เอ่อ พูดคุยกันหน่อยก็ได้ แบบนี้มันดูวังเวงชอบกล
“มีอะไรเหรอ” ผมถามอย่างยากลำบาก ดูเหมือนสายตาทุกคู่จะจ้องมาที่เรา รู้สึกอึดอัดอยากหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ไปกับชั้น” ซิลเวียสั่ง
“ไปไหนเหร..อ...เหวอ” ผมกำลังถามเธอกลับไป แต่เธอกระชากแขนผมออกจากห้องอาหารทันที
“โชคดีเพื่อนรัก” เจมส์โบกมือลา
“โชคดีบ้านแกดิ” ผมตะโกนกลับ
.............................................
จะว่าไปก็ต้องขอบใจซิลเวียจริงๆ ที่นำตัวเขาออกจากห้องอาหารนั่นได้ แต่วันนี้จะโดนนินทาอะไรอีกก็ไม่รู้ คิดแล้วปวดหัวจริง เอ๊ะ แล้วนี่หล่อนจะพาเขาไปไหนเนี่ย ผมถูกเธอจูงมือให้เดินไปตามทางเดิน ทางเดินนี้ยาวไปจนถึงห้องห้องหนึ่ง ดูเหมือนไม่ได้ใช้มานานปี ผมมองดูป้ายข้างบนซึ่งตัวหนังสือนั้นได้เลือนหายไปตามกาลเวลามากแล้ว ‘ห้องฝึกปราณ’ มันเป็นห้องอะไร และ ซิลเวียพาเรามาที่นี่ทำไมกัน
“ถึงแล้วละ” ซิลเวียปล่อยมือเขาและหยิบกุญแจจากกระเป๋าเสื้อไขห้อง
“ถึงแล้ว? หมายความว่าไง” บอกตามจริงผมรู้สึกสงสัยกับการกระทำของเธอ
“อะไรนะ หรือว่าจำไม่ได้แล้ว ที่นายบอกว่าจะให้ชั้นสอนเพลงดาบให้ไง ต้องให้ชั้นเตือนนายหรือไง เจ้าสุนัขสมองเสื่อม” สายตาสีน้ำเงินจ้องมาที่ชิน ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนไอเย็นหนึ่งห่อหุ้มร่าง
“จำได้ แต่ว่าจะฝึกซ้อมตอนนี้เลยเหรอ” ผมถามกลับ มองดูนัยน์สีน้ำเงินที่ฉายแววมุ่งมั่นและจริงจัง แต่ก็ส่งประกายสนุกสนานอยู่ในที
“ตอนนี้ และ เดี๋ยวนี้ เจ้าหมาหน้าโง่ไม่ต้องถามมาก” ซิลเวียเปลี่ยนสรรพนามให้ผมก่อน เดินเข้าห้องไป เอ่อ ผมชื่อชินนะ ไม่ได้ชื่อสุนัข
ชินเดินเข้าไปในห้องฝึกปราณ ข้างในห้องมีพื้นรูปวงกลมขนาดใหญ่ และ มีหนังสือเก่าๆมากมาย ภายในยังเก็บอาวุธจำพวกดาบ หอกไว้ มีหุ่นรูปคนซึ่งมีรูเล็กเต็มไปหมด และ ตรงพื้นก็มีเข็มจำนวนมากตกอยู่ มันเอาไว้ทำอะไรเนี่ย
“ซิลเวีย นี่ห้องนี้มีไว้ทำอะไรน่ะ” ผมถามพลางกวาดตาดูรอบห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือกับฝุ่นหนาเตอะ
“ชั้นก็ไม่รู้หรอก แต่ชั้นได้กุญแจจากรุ่นพี่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ถ้าห้องนี้มีชีวิตมันคงดีใจจนตัวสั่นที่ได้เป็นห้องของชั้น” ซิลเวียพูดพลางเอาปัดฝุ่นบนโต๊ะ
ชินทำหน้าหน่ายใจ เขาละสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าหล่อนไปเอาความมั่นใจอันเหลือล้นมาจากไหนกัน และ ถ้าตัวเขากลายเป็นห้องคงจะเหนื่อยใจที่มีสาวมั่นอย่างหล่อนมาใช้บริการ โอ้ ความสงบหลายสิบปี พังทลายแล้ว เพราะ เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินคู่สวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“เจ้าสุนัขหน้าโง่ แอบนินทาอะไรชั้น ไปเก็บของบนโต๊ะเดี๋ยวนี้” ซิลเวียสั่งอย่างมีน้ำโห
“คร้าบ” ผมรีบทำตามที่หล่อนสั่ง แต่หล่อนรู้ได้ไงว่าผมนินทาในใจ หรือว่า ผู้หญิงมีเซนส์ดักจับคำนินทา?
..................................
ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง ห้องที่ดูเก่าก็แลดูใหม่ขึ้น(นิดเดียวในความเห็นผม) หนังสือที่เก่าถูกเก็บรวมไว้ในชั้นวางหนังสือ หุ่นรูปคนก็ถูกเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของ ผมหวั่นใจนิดนึงว่าถ้าผมเห็นมันแอบยักคิ้วใส่ ผมคงจะลมจับ ตอนนี้ห้องนี้ดูกลายเป็นห้องเรียนห้องหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับฝึกดาบเพราะ มีพื้นที่รูปวงกลมกว้างอยู่กลางห้อง
“เอาล่ะ เท่านี้คงใช้ได้แล้วมั้ง” ซิลเวียพูดพลางโยนกองหนังสือเข้ากล่องกระดาษ เธอปัดฝุ่นที่กระโปรงของตัวเอง ใบหน้าของเธอที่มีเลือดฝาดจากการใช้กำลังทำให้ดูน่ารักขึ้น ถ้าผมยังจ้องเธอมากกว่านี้ อาจจะเผลอตัวดึงหล่อนไปกอดก็ได้ ผมจำเป็นต้องหลบตา
“ซิลเวีย ตอนนี้ถึงคาบเรียนแล้ว ไปเรียนกันก่อนเถอะ” ผมแนะนำเธอ
“อืม งั้นตอนเย็นค่อยเจอกันที่นี่ ไม่สิยังไงนายต้องมาที่นี่อยู่แล้ว เพราะ นายเป็นข้ารับใช้ของชั้น” ซิลเวียพูดพลางเดินออกจากห้องด้วยท่าทางร่าเริงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อก่อนเรียนด้วยกันเห็นแต่ทำหน้าบึ้งทั้งวัน ผมรู้สึกดีใจนะที่เห็นเธอร่าเริงกว่าแต่ก่อน
.............................................
ผมกับซิลเวียเดินมาถึงห้องเรียนเวทย์มนตร์ เสียงคุยกันเงียบลงอย่างพร้อมใจกัน อะไรกันเนี่ย แปลกใจอะไรกัน แค่คนเดินมาสองคน ผมเดินไปที่โต๊ะที่นั่งติดกับเจมส์
“เจมส์ ทำไมห้องพร้อมใจกันเงียบอย่างนั้นละ” ชินกระซิบถามเจมส์อย่างสงสัย
“รู้หรือเปล่า ตอนนี้เขาลือกันว่า นายชนะการประลองและบังคับคุณซิลเวียไปเป็นแฟน” เจมส์กระซิบกลับ ผมแทบสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น จะบ้าเหรอชั้นจะไปบังคับใครได้ ชั้นต่างหากที่โดนบังคับ
ทันทีที่เพื่อนตัวดีของผมพูดเสร็จ ก็มีเด็กผู้หญิงสองคนเดินเข้าไปหาซิลเวีย
“คุณซิลเวียคะ เรื่องที่ไปไหนกับเรเวนนัยน์ตาเพลิงจริงหรือเปล่าคะ” เด็กผู้หญิงหน้าตาธรรมดาใส่แว่นเดินเข้ามาถาม
“จริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกหล่อน” ซิลเวียถามกลับแววตาสีน้ำเงินส่อแววจริงจังด้วยน้ำเสียงห้วน
“กรี๊ด ท่านซิลเวีย ไม่นะเจ้าเรเวนตาเพลิงนั่น....”
“จำไว้เลย เราจะไม่ยกท่านซิลเวียให้คนอย่างแกหรอก” สาวแว่นหันมาถลึงจ้องตาผมอย่างเอาเรื่อง ผมไม่ได้ผิดอะไรนะ ผมไม่เกี่ยว
“ระวัง พวกนี้เป็นแฟนคลับของคุณซิลเวีย” เจมส์กระซิบจากข้างหลัง หา ยัยซิลเวียมีแฟนคลับ?
“ใช่ เราจะไม่ยอมให้ท่านซิลเวียต้องแปดเปื้อนมลทิน เราจะอารักขาท่านซิลเวีย” เพื่อนสาวข้างสาวแว่นเป็นลูกคู่ประสาน
ยัยสองสาวคู่นี้บ๊องอะป่าว เธอต่างหากที่ต้องถามซิลเวียว่าจะให้เขาทำอะไรให้อีก
“หุบปาก ห้ามยุ่งกับข้ารับใช้ของชั้น ถ้าเจ้านั่นเป็นอะไร ชั้นจะจัดการกับเธอ” ซิลเวียลุกออกมาแววตาสีน้ำเงินเข้มขึ้นดุจเหมือนน้ำทะเลเชี่ยวกราด เธอหมายจะเอาเรื่องยัยสองสาว ผมจึงต้องรีบลุกขึ้นมาห้ามก่อนที่ซิลเวียจะทำอะไรสองสาวคู่นี้
“ชั้นไม่ใช่ข้ารับเธอสักหน่อย” ผมโวย และ ดึงตัวซิลเวียให้ห่างออกมาจากพวกหล่อน “ให้มันจบเถอะ ชั้นไม่อยากให้มันเป็นเรื่อง” เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ซิลเวียกลับไปนั่งที่
“ฮือ ไม่นะท่านซิลเวีย พวกเราพยายามปกป้องท่า...”
“ไม่ต้อง ชั้นคือบุตรีของผู้นำตระกูลมูนวอลท์อันทรงเกียรติ ชั้นไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง” ซิลเวียตัดคำพูดสาวแว่นที่ดูท่าทางตอนนี้กำลังตัวสั่นอย่างน่าสงสาร
“พวกเธอไปเถอะ อาจารย์จะเข้ามาแล้ว” ชินพยายามเตือนพวกเธอ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยัยสองสาวทิ้งคำพูดก่อนวิ่งออกจากห้องไป เฮ้อ วุ่นวายไปหมดเลย อุตส่าห์จะอยู่เงียบๆแล้วนะ
อาจารย์สอนเวทย์มนตร์เดินเข้ามา “อ้าว เมื่อกี้เสียงดัง มีอะไรหรือเปล่า” อาจารย์ถามอย่างสงสัย
“ไม่มีครับ/ค่ะ”
...........................................
โอ๊ย เมื่อยจริงๆ เป็นวันที่น่าปวดหัวอีกวันหนึ่ง เราอุตส่าห์ทำตัวไม่ให้เป็นจุดเด่นแล้วนะ ตั้งแต่เจอกับเจ้าดวงตาสีฟ้าคู่สวย ชีวิตผมเหมือนกับเอาตัวเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นๆ ขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า ผมก็เจอสิ่งหนึ่งเข้า มันเป็นกระดาษสีขาวมีลายดอกไม้เหมือนของผู้หญิง เอ๊ะ นี่มันจดหมายนี่นา โดนเอามาใส่ตอนไหนนะ
ขณะที่ผมกำลังหยิบจดหมายขึ้นมาดู ก็ถูกเพื่อนตัวดีดันคว้าจดหมายไปดู
“เฮ้ พวกเรา ชินได้จดหมายรักด้วยละ” เจมส์ประกาศกลางห้อง หนอยเจ้าเพื่อนทรยศ
“เอาคืนมา” ผมตะโกนเรียก
“จ้างให้ก็ไม่ให้... เฮ้ย จดหมายไปไหนน่ะ และ ชินไปไหนแล้ว บ้าจริงเร็วอะไรขนาดนี้” เจมส์ตกใจที่จดหมายหายไปจากมือ
ซิลเวียจ้องเหตุการณ์นั้นอย่างไม่วางตา แววตาสีน้ำเงินสะท้อนอะไรบางอย่างออกมา ความรู้สึกอึดอัดระคนกับความไม่พอใจอยู่ลึกๆ นี่มันเป็นความรู้สึกอะไรกัน แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจ
....................................
ทางเดินห้องโถงกลาง
นึกไม่ถึงเลยต้องใช้เวทย์บลิงค์กับเรื่องงี่เง่า ของอย่างนี้ต้องอุบเป็นไม้ตายยิ่งไม่อยากให้ใครรู้ความสามารถนี้เท่าไหร่ ว่าแต่จดหมายที่ได้มาเขียนว่าอะไรกันน้า เขาจึงพยายามแกะจดหมายอย่างระมัดระวัง
ถึง คุณ ชิน เรเวน
คือชั้นมีเรื่องอยากจะบอกกับเธอมานานแล้ว วันนี้อยากพบเธอที่ห้องดูดาว ชั้นดาดฟ้า
ใครเป็นคนเขียน? นั่งดู นอนดู ตะแคงดูยังไงมันก็เป็นจดหมายรัก ลายมือสวยคงจะเป็นลายมือผู้หญิงแน่ๆ แต่ทำไมต้องใช้วิธีโบราณส่งจดหมายในกระเป๋าด้วย เธอคงจะอายมั้ง แต่ยังไงเขายังไม่มีคนที่ชอบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าควรจะไปปฏิเสธเธอตรงๆ เขาเดินมาเรื่อยคิดเรื่อยเปื่อยจนถึงห้องดูดาว
เขาเดินเข้าไปในห้อง เห็นผู้หญิงผมแดงยาวสลวยกำลังหันหลังอยู่
ผมจึงถามไปตรงๆ ”จดหมายนี่ของเธอรึเปล่า”
“ใช่ ชั้นเป็นคนเขียนเอง” หล่อนหันหน้ากลับมา ผมสีเพลิง นัยน์ตาสีแดงพร้อมจะหลอมละลายแก่ผู้สบตา ชินถึงกับหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว เขาถึงกับตัวแข็งเกร็งขยับไม่ได้ เธอเดินเข้ามาใกล้ และใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเธอแทบจะติดตัวเขา เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเธอนั้นสามารถฆ่าเขาได้ในทันที
“ทำไมเกร็งอย่างนั้นละ” หล่อนเริ่มลูบไล้ตามแขน ไหล่ และ คอ เธอยื่นหน้ามาใกล้หูเขามากขึ้น อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว “ชั้นน่ะนะ อยากจะชวนเธอ..”
โครม
ประตูห้องพังกระจาย ปรากฏเจ้าของร่างผมสีเงิน เธอคือ ซิลเวีย มูนวอลท์ สายตาสีฟ้าของเธอจ้องไปยังสาวผมเพลิงอย่างเอาเรื่อง
“หนอยแน่ ยัยจิ้งจอก บังอาจยุ่มย่ามกับข้ารับใช้ของชั้น เตรียมตัวตายได้แล้ว” ซิลเวียพูดจบก็แทงดาบแทรกกลางระหว่างเขากับหล่อน แต่หล่อนผลักเขาล้มลงแล้วจึงหลบฉากออกด้านข้าง
“โอ๊ะ โอ ไม่นึกว่า คุณซิลเวีย สนใจผู้ชายคนนี้” สาวผมเพลิงกำลังพูดยั่วโมโหซิลเวีย
“พูดจาบ้าบออะไรกันใครกันจะสนใจเจ้าหมาน่าโง่นี่” ซิลเวียน่าแดงปฏิเสธเป็นพัลวัน ผมอยากตะโกนออกไปว่า’ชั้นไม่ได้เป็นหมานะ’
“งั้น เธอไม่สน แต่ชั้นสน ถ้าเธอไม่สนใจ งั้นชั้นขอละนะ” หล่อนยังคงพูดยั่วโมโหไม่เลิก เฮ้ๆชั้นไม่ใช่สิ่งของนะที่จะให้เธอสองคนแย่งกันนะ
“อึก” ซิลเวียพลาดท่าเสียแล้ว เธอโดนสาวผมแดงต้อนเธอด้วยคำพูดจนอยู่หมัดเลย เธอก้มหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เสียงกลับเบาจนไม่ได้ยิน
“ชั้นอยากรู้จังว่าฝีมือของซิลเวีย มูนวอลท์จะแน่สักแค่ไหน” หล่อนพูดต่ออย่างคนมีชัยเหนือกว่า ทำให้แรงฮึดของซิลเวียกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
“ชั้นจะให้เธอร้องไห้เสียใจ ก้มหัวกราบชั้นเลย” ซิลเวียตั้งท่าดาบหมายจะจัดการฝ่ายตรงข้าม
“ถ้าทำได้ก็ลองดู ไฟบอล!!” หล่อนพูดจบก็หยิบไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถาลูกบอลเพลิงโจมตีทันที ซิลเวียเอียงตัวหลบลูกไฟได้ แต่ไม่ทันไร ลูกไฟลูกที่สอง สาม สี่ ตามมาติดๆ ตูมๆๆๆ เปลวไฟลุกโชนไปทั่วห้อง ซิลเวียหลบได้ทุกครั้งและพยายามหาทางตอบโต้หล่อน ซิลเวียเห็นโมเดลลูกโลกตกอยู่ที่พื้น เธอจึงเตะมันพุ่งไปหาหล่อน แต่สาวผมเพลิงก้มหัวหลบอย่างรวดเร็วปลายผมสะบัดพลิ้ว ขณะนั้นซิลเวียพุ่งเข้ามาประชิดตัวแล้ว หล่อนชักดาบข้างเองออกมารับ เคร้ง เสียงดาบสองเล่มปะทะกันกังวาน
“เพลงดาบเยี่ยม” สาวผมแดงยิ้ม
“ไม่เท่าไหร่หรอก รับนี่ไป เพลงดาบจันทรากระจ่างฟ้า!!” ซิลเวียประกาศทันทีพายุดาบของเธอโจมตี การโจมตีดุจดั่งคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ สาวผมแดงรับเพลงดาบเหมือนเรือลำน้อยกลางกระแสคลื่นทะเลอันเชี่ยวกราด ซิลเวียรุกไล่หล่อนจนถึงมุมห้องไม่มีทางที่หล่อนสามารถหลบหนีได้อีกแล้ว
“จนมุมแล้ว เสร็จชั้นละ” ซิลเวียยิ้มอย่างมีชัย ขณะนั้น “ใครเสร็จ ไฟวอล!!” กำแพงไฟขวางกั้นระหว่างซิลเวียกับหล่อน ซิลเวียไม่สามารถบุกเข้าไปในไฟอันร้อนแรงได้
“ฟินิกส์!!” นกเพลิงทะยานออกมาจากกำแพงเพลิง ซิลเวียกระโดดม้วนตัวหลบอย่างฉิวเฉียด ชายกระโปรงของเธอไหม้ไปบางส่วน
เมื่อกำแพงเพลิงหาย สาวผมแดงก็เดินออกมา
“พอแค่นี้แล้วกัน ก่อนที่ข้าวของจะเสียหายไปมากกว่านี้” หล่อนประกาศก่อนดูดเปลวเพลิงที่ลุกโชนทั่วห้องกลับเข้าไม้กายสิทธิ์ของเธอ หล่อนร่ายเวทย์ซ่อมแซมสิ่งของทำให้ห้องที่ไหม้เกรียมกลับเป็นห้องเดิมที่ ปราศจากรอยไหม้ เวทย์ของเธอร้ายกาจจริงๆ ชินคิดในใจ
“ก็ได้ แต่ถ้ายังมาเจ๊าะแจ๊ะกับหมาของชั้น ชั้นจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่” ซิลเวียประกาศคำเตือน พร้อมกับเก็บดาบของเธอเข้าฝัก
สาวนิรนามผมเพลิงหันกลับมา “ว้า ลืมบอกชื่อไปซะได้ ชั้นชื่อ สการ์เล็ต เฟรมฮาร์ท ยินดีที่ได้รู้จักนะ ชิน เรเวน ชั้นอยากชวนเธอช่วยงานสภานักเรียน ช่วยกลับไปคิดดูนะ และ ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณ ซิลเวีย มูนวอลท์” สาวผมเพลิงทักทาย
“ชั้นยินดีที่ไม่รู้จัก!!” ซิลเวียประกาศกร้าว
“คิก คิก ไม่นึกเลยนะว่า คุณ ซิลเวีย เป็นผู้หญิงขี้หึงเกินคาด คิก คิก” สการ์เล็ตหัวเราะคิกคักก่อนเดินจากไป ปล่อยให้ซิลเวียหน้าแดงไปถึงหู
“เอ ทำไมชื่อสการ์เล็ต ถึงคุ้นๆนะ” ผมกล่าวลอยๆโดยไม่ได้คิดอะไร ทำให้ดวงตาคู่น้ำเงินจ้องเขม็ง
“ว่าไงนะ อย่าบอกนะว่านายรู้สึกอะไรกับยัยจิ้งจอกเพลิงนั่น” ซิลเวียยื่นหน้าเข้ามาหาผม ทำให้ผมก้าวถอยอย่างไม่รู้ตัว
“เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ชั้นจะลงโทษนาย โทษฐานบังอาจทำตัวเชื่องกับคนอื่น” ซิลเวียหยิบปลอกคอใส่ที่คอของผม
“เธอเอาอะไรมาใส่ที่คอชั้น ชั้นไม่ใช่หมานะ” ผมโวยวายแต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูหล่อน
“หมาก็คือหมา!!” เธอตะโกนใส่เขา
“ก็บอกแล้วไงว่าชั้นน่ะไม่ใช่ หมา..เหวอ” ผมถูกอะไรสักอย่างดึงที่คอจนล้มลง แต่ผมเหมือนจะมองเห็นอะไรลางๆเหมือนเส้นอะไรสักอย่างเชื่อมต่อปลอกคอกับแหวน ของเธอ
“นี่มันอะไรกัน” ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีซะแล้ว
“นี่เป็นไอเทมเวทย์มนตร์ ‘ปลอกคอรู้สำนึก’ ชั้นได้มาจากพ่อเมื่อวานนี้ มันจะเชื่อมต่อกับ ‘แหวนแห่งความเป็นเจ้าของ’ ทำให้เมื่อขยับแหวนแล้ว ตัวนายจะโดนดึง” หล่อนลูบปลอกคอที่คอผมอย่างตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่
“ตั้งแต่วันนี้นายเป็นของชั้น จงภูมิใจไว้ซะที่ได้เป็นหมาของชั้น” ซิลเวียยิ้มอย่างมีชัย
ตายแล้วทำไมชีวิตเขาถึงซวยขนาดนี้ ผมอยากจะบอกพ่อบนสวรรค์ว่า พ่อครับ ลูกชายของพ่อกลายเป็นหมาแล้ว ฮือๆ
............................................
“นายเซ็ง ชั้นก็เซ็งเหมือนกัน ชั้นเกือบจะได้เป็นมหาเศรษฐีแล้วนะ ถ้าอาจารย์ไม่เข้ามาขัดจังหวะก่อน” เจมส์บ่นทั้งที่อาหารเต็มปาก
“ดีแล้วต่างหาก ที่นายไม่เสียพนัน ชั้นแค่โชคดีที่เธอสับสนกับเวทย์บลิงค์ของชั้น ทำให้ชั้นเป็นบุกเธอกลับ แต่ถ้าสู้ไปนานๆชั้นอาจจะแพ้ เพราะ เธอจับทางชั้นได้” พูดจบชินก็ยัดเส้นสปาเก็ตตี้เข้าปากของเขา
ขณะที่กำลังจะลุกจากโต๊ะเพื่อนำจานไปเก็บ ชินเห็นดวงตากลมสีน้ำเงินคู่สวย กับ ผมยาวสีเงินที่ดูแลมาอย่างดี ซิลเวียกำลังเดินเข้ามาหาชิน เสียงพูดคุยในห้องอาหารดูเงียบไปถนัดตา เอ่อ พูดคุยกันหน่อยก็ได้ แบบนี้มันดูวังเวงชอบกล
“มีอะไรเหรอ” ผมถามอย่างยากลำบาก ดูเหมือนสายตาทุกคู่จะจ้องมาที่เรา รู้สึกอึดอัดอยากหนีออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“ไปกับชั้น” ซิลเวียสั่ง
“ไปไหนเหร..อ...เหวอ” ผมกำลังถามเธอกลับไป แต่เธอกระชากแขนผมออกจากห้องอาหารทันที
“โชคดีเพื่อนรัก” เจมส์โบกมือลา
“โชคดีบ้านแกดิ” ผมตะโกนกลับ
.............................................
จะว่าไปก็ต้องขอบใจซิลเวียจริงๆ ที่นำตัวเขาออกจากห้องอาหารนั่นได้ แต่วันนี้จะโดนนินทาอะไรอีกก็ไม่รู้ คิดแล้วปวดหัวจริง เอ๊ะ แล้วนี่หล่อนจะพาเขาไปไหนเนี่ย ผมถูกเธอจูงมือให้เดินไปตามทางเดิน ทางเดินนี้ยาวไปจนถึงห้องห้องหนึ่ง ดูเหมือนไม่ได้ใช้มานานปี ผมมองดูป้ายข้างบนซึ่งตัวหนังสือนั้นได้เลือนหายไปตามกาลเวลามากแล้ว ‘ห้องฝึกปราณ’ มันเป็นห้องอะไร และ ซิลเวียพาเรามาที่นี่ทำไมกัน
“ถึงแล้วละ” ซิลเวียปล่อยมือเขาและหยิบกุญแจจากกระเป๋าเสื้อไขห้อง
“ถึงแล้ว? หมายความว่าไง” บอกตามจริงผมรู้สึกสงสัยกับการกระทำของเธอ
“อะไรนะ หรือว่าจำไม่ได้แล้ว ที่นายบอกว่าจะให้ชั้นสอนเพลงดาบให้ไง ต้องให้ชั้นเตือนนายหรือไง เจ้าสุนัขสมองเสื่อม” สายตาสีน้ำเงินจ้องมาที่ชิน ทำให้เขารู้สึกเหมือนโดนไอเย็นหนึ่งห่อหุ้มร่าง
“จำได้ แต่ว่าจะฝึกซ้อมตอนนี้เลยเหรอ” ผมถามกลับ มองดูนัยน์สีน้ำเงินที่ฉายแววมุ่งมั่นและจริงจัง แต่ก็ส่งประกายสนุกสนานอยู่ในที
“ตอนนี้ และ เดี๋ยวนี้ เจ้าหมาหน้าโง่ไม่ต้องถามมาก” ซิลเวียเปลี่ยนสรรพนามให้ผมก่อน เดินเข้าห้องไป เอ่อ ผมชื่อชินนะ ไม่ได้ชื่อสุนัข
ชินเดินเข้าไปในห้องฝึกปราณ ข้างในห้องมีพื้นรูปวงกลมขนาดใหญ่ และ มีหนังสือเก่าๆมากมาย ภายในยังเก็บอาวุธจำพวกดาบ หอกไว้ มีหุ่นรูปคนซึ่งมีรูเล็กเต็มไปหมด และ ตรงพื้นก็มีเข็มจำนวนมากตกอยู่ มันเอาไว้ทำอะไรเนี่ย
“ซิลเวีย นี่ห้องนี้มีไว้ทำอะไรน่ะ” ผมถามพลางกวาดตาดูรอบห้องที่เต็มไปด้วยหนังสือกับฝุ่นหนาเตอะ
“ชั้นก็ไม่รู้หรอก แต่ชั้นได้กุญแจจากรุ่นพี่เมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ถ้าห้องนี้มีชีวิตมันคงดีใจจนตัวสั่นที่ได้เป็นห้องของชั้น” ซิลเวียพูดพลางเอาปัดฝุ่นบนโต๊ะ
ชินทำหน้าหน่ายใจ เขาละสงสัยจริงๆ ว่าเจ้าหล่อนไปเอาความมั่นใจอันเหลือล้นมาจากไหนกัน และ ถ้าตัวเขากลายเป็นห้องคงจะเหนื่อยใจที่มีสาวมั่นอย่างหล่อนมาใช้บริการ โอ้ ความสงบหลายสิบปี พังทลายแล้ว เพราะ เจ้าของดวงตาสีน้ำเงินคู่สวยที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา
“เจ้าสุนัขหน้าโง่ แอบนินทาอะไรชั้น ไปเก็บของบนโต๊ะเดี๋ยวนี้” ซิลเวียสั่งอย่างมีน้ำโห
“คร้าบ” ผมรีบทำตามที่หล่อนสั่ง แต่หล่อนรู้ได้ไงว่าผมนินทาในใจ หรือว่า ผู้หญิงมีเซนส์ดักจับคำนินทา?
..................................
ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง ห้องที่ดูเก่าก็แลดูใหม่ขึ้น(นิดเดียวในความเห็นผม) หนังสือที่เก่าถูกเก็บรวมไว้ในชั้นวางหนังสือ หุ่นรูปคนก็ถูกเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของ ผมหวั่นใจนิดนึงว่าถ้าผมเห็นมันแอบยักคิ้วใส่ ผมคงจะลมจับ ตอนนี้ห้องนี้ดูกลายเป็นห้องเรียนห้องหนึ่ง ที่เหมาะสำหรับฝึกดาบเพราะ มีพื้นที่รูปวงกลมกว้างอยู่กลางห้อง
“เอาล่ะ เท่านี้คงใช้ได้แล้วมั้ง” ซิลเวียพูดพลางโยนกองหนังสือเข้ากล่องกระดาษ เธอปัดฝุ่นที่กระโปรงของตัวเอง ใบหน้าของเธอที่มีเลือดฝาดจากการใช้กำลังทำให้ดูน่ารักขึ้น ถ้าผมยังจ้องเธอมากกว่านี้ อาจจะเผลอตัวดึงหล่อนไปกอดก็ได้ ผมจำเป็นต้องหลบตา
“ซิลเวีย ตอนนี้ถึงคาบเรียนแล้ว ไปเรียนกันก่อนเถอะ” ผมแนะนำเธอ
“อืม งั้นตอนเย็นค่อยเจอกันที่นี่ ไม่สิยังไงนายต้องมาที่นี่อยู่แล้ว เพราะ นายเป็นข้ารับใช้ของชั้น” ซิลเวียพูดพลางเดินออกจากห้องด้วยท่าทางร่าเริงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อก่อนเรียนด้วยกันเห็นแต่ทำหน้าบึ้งทั้งวัน ผมรู้สึกดีใจนะที่เห็นเธอร่าเริงกว่าแต่ก่อน
.............................................
ผมกับซิลเวียเดินมาถึงห้องเรียนเวทย์มนตร์ เสียงคุยกันเงียบลงอย่างพร้อมใจกัน อะไรกันเนี่ย แปลกใจอะไรกัน แค่คนเดินมาสองคน ผมเดินไปที่โต๊ะที่นั่งติดกับเจมส์
“เจมส์ ทำไมห้องพร้อมใจกันเงียบอย่างนั้นละ” ชินกระซิบถามเจมส์อย่างสงสัย
“รู้หรือเปล่า ตอนนี้เขาลือกันว่า นายชนะการประลองและบังคับคุณซิลเวียไปเป็นแฟน” เจมส์กระซิบกลับ ผมแทบสะดุ้งทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น จะบ้าเหรอชั้นจะไปบังคับใครได้ ชั้นต่างหากที่โดนบังคับ
ทันทีที่เพื่อนตัวดีของผมพูดเสร็จ ก็มีเด็กผู้หญิงสองคนเดินเข้าไปหาซิลเวีย
“คุณซิลเวียคะ เรื่องที่ไปไหนกับเรเวนนัยน์ตาเพลิงจริงหรือเปล่าคะ” เด็กผู้หญิงหน้าตาธรรมดาใส่แว่นเดินเข้ามาถาม
“จริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกหล่อน” ซิลเวียถามกลับแววตาสีน้ำเงินส่อแววจริงจังด้วยน้ำเสียงห้วน
“กรี๊ด ท่านซิลเวีย ไม่นะเจ้าเรเวนตาเพลิงนั่น....”
“จำไว้เลย เราจะไม่ยกท่านซิลเวียให้คนอย่างแกหรอก” สาวแว่นหันมาถลึงจ้องตาผมอย่างเอาเรื่อง ผมไม่ได้ผิดอะไรนะ ผมไม่เกี่ยว
“ระวัง พวกนี้เป็นแฟนคลับของคุณซิลเวีย” เจมส์กระซิบจากข้างหลัง หา ยัยซิลเวียมีแฟนคลับ?
“ใช่ เราจะไม่ยอมให้ท่านซิลเวียต้องแปดเปื้อนมลทิน เราจะอารักขาท่านซิลเวีย” เพื่อนสาวข้างสาวแว่นเป็นลูกคู่ประสาน
ยัยสองสาวคู่นี้บ๊องอะป่าว เธอต่างหากที่ต้องถามซิลเวียว่าจะให้เขาทำอะไรให้อีก
“หุบปาก ห้ามยุ่งกับข้ารับใช้ของชั้น ถ้าเจ้านั่นเป็นอะไร ชั้นจะจัดการกับเธอ” ซิลเวียลุกออกมาแววตาสีน้ำเงินเข้มขึ้นดุจเหมือนน้ำทะเลเชี่ยวกราด เธอหมายจะเอาเรื่องยัยสองสาว ผมจึงต้องรีบลุกขึ้นมาห้ามก่อนที่ซิลเวียจะทำอะไรสองสาวคู่นี้
“ชั้นไม่ใช่ข้ารับเธอสักหน่อย” ผมโวย และ ดึงตัวซิลเวียให้ห่างออกมาจากพวกหล่อน “ให้มันจบเถอะ ชั้นไม่อยากให้มันเป็นเรื่อง” เขาพยายามเกลี้ยกล่อมให้ซิลเวียกลับไปนั่งที่
“ฮือ ไม่นะท่านซิลเวีย พวกเราพยายามปกป้องท่า...”
“ไม่ต้อง ชั้นคือบุตรีของผู้นำตระกูลมูนวอลท์อันทรงเกียรติ ชั้นไม่ต้องการให้ใครมาปกป้อง” ซิลเวียตัดคำพูดสาวแว่นที่ดูท่าทางตอนนี้กำลังตัวสั่นอย่างน่าสงสาร
“พวกเธอไปเถอะ อาจารย์จะเข้ามาแล้ว” ชินพยายามเตือนพวกเธอ
“ฝากไว้ก่อนเถอะ” ยัยสองสาวทิ้งคำพูดก่อนวิ่งออกจากห้องไป เฮ้อ วุ่นวายไปหมดเลย อุตส่าห์จะอยู่เงียบๆแล้วนะ
อาจารย์สอนเวทย์มนตร์เดินเข้ามา “อ้าว เมื่อกี้เสียงดัง มีอะไรหรือเปล่า” อาจารย์ถามอย่างสงสัย
“ไม่มีครับ/ค่ะ”
...........................................
โอ๊ย เมื่อยจริงๆ เป็นวันที่น่าปวดหัวอีกวันหนึ่ง เราอุตส่าห์ทำตัวไม่ให้เป็นจุดเด่นแล้วนะ ตั้งแต่เจอกับเจ้าดวงตาสีฟ้าคู่สวย ชีวิตผมเหมือนกับเอาตัวเข้าไปยุ่งกับเรื่องวุ่นๆ ขณะที่ผมกำลังเก็บหนังสือเข้ากระเป๋า ผมก็เจอสิ่งหนึ่งเข้า มันเป็นกระดาษสีขาวมีลายดอกไม้เหมือนของผู้หญิง เอ๊ะ นี่มันจดหมายนี่นา โดนเอามาใส่ตอนไหนนะ
ขณะที่ผมกำลังหยิบจดหมายขึ้นมาดู ก็ถูกเพื่อนตัวดีดันคว้าจดหมายไปดู
“เฮ้ พวกเรา ชินได้จดหมายรักด้วยละ” เจมส์ประกาศกลางห้อง หนอยเจ้าเพื่อนทรยศ
“เอาคืนมา” ผมตะโกนเรียก
“จ้างให้ก็ไม่ให้... เฮ้ย จดหมายไปไหนน่ะ และ ชินไปไหนแล้ว บ้าจริงเร็วอะไรขนาดนี้” เจมส์ตกใจที่จดหมายหายไปจากมือ
ซิลเวียจ้องเหตุการณ์นั้นอย่างไม่วางตา แววตาสีน้ำเงินสะท้อนอะไรบางอย่างออกมา ความรู้สึกอึดอัดระคนกับความไม่พอใจอยู่ลึกๆ นี่มันเป็นความรู้สึกอะไรกัน แม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เข้าใจ
....................................
ทางเดินห้องโถงกลาง
นึกไม่ถึงเลยต้องใช้เวทย์บลิงค์กับเรื่องงี่เง่า ของอย่างนี้ต้องอุบเป็นไม้ตายยิ่งไม่อยากให้ใครรู้ความสามารถนี้เท่าไหร่ ว่าแต่จดหมายที่ได้มาเขียนว่าอะไรกันน้า เขาจึงพยายามแกะจดหมายอย่างระมัดระวัง
ถึง คุณ ชิน เรเวน
คือชั้นมีเรื่องอยากจะบอกกับเธอมานานแล้ว วันนี้อยากพบเธอที่ห้องดูดาว ชั้นดาดฟ้า
ใครเป็นคนเขียน? นั่งดู นอนดู ตะแคงดูยังไงมันก็เป็นจดหมายรัก ลายมือสวยคงจะเป็นลายมือผู้หญิงแน่ๆ แต่ทำไมต้องใช้วิธีโบราณส่งจดหมายในกระเป๋าด้วย เธอคงจะอายมั้ง แต่ยังไงเขายังไม่มีคนที่ชอบ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าควรจะไปปฏิเสธเธอตรงๆ เขาเดินมาเรื่อยคิดเรื่อยเปื่อยจนถึงห้องดูดาว
เขาเดินเข้าไปในห้อง เห็นผู้หญิงผมแดงยาวสลวยกำลังหันหลังอยู่
ผมจึงถามไปตรงๆ ”จดหมายนี่ของเธอรึเปล่า”
“ใช่ ชั้นเป็นคนเขียนเอง” หล่อนหันหน้ากลับมา ผมสีเพลิง นัยน์ตาสีแดงพร้อมจะหลอมละลายแก่ผู้สบตา ชินถึงกับหยุดหายใจโดยไม่รู้ตัว เขาถึงกับตัวแข็งเกร็งขยับไม่ได้ เธอเดินเข้ามาใกล้ และใกล้เรื่อยๆ จนกระทั่งตัวเธอแทบจะติดตัวเขา เขาสัมผัสได้ถึงลมหายใจอันร้อนผ่าวของเธอนั้นสามารถฆ่าเขาได้ในทันที
“ทำไมเกร็งอย่างนั้นละ” หล่อนเริ่มลูบไล้ตามแขน ไหล่ และ คอ เธอยื่นหน้ามาใกล้หูเขามากขึ้น อุณหภูมิในห้องดูเหมือนจะพุ่งสูงขึ้นเป็นเท่าตัว “ชั้นน่ะนะ อยากจะชวนเธอ..”
โครม
ประตูห้องพังกระจาย ปรากฏเจ้าของร่างผมสีเงิน เธอคือ ซิลเวีย มูนวอลท์ สายตาสีฟ้าของเธอจ้องไปยังสาวผมเพลิงอย่างเอาเรื่อง
“หนอยแน่ ยัยจิ้งจอก บังอาจยุ่มย่ามกับข้ารับใช้ของชั้น เตรียมตัวตายได้แล้ว” ซิลเวียพูดจบก็แทงดาบแทรกกลางระหว่างเขากับหล่อน แต่หล่อนผลักเขาล้มลงแล้วจึงหลบฉากออกด้านข้าง
“โอ๊ะ โอ ไม่นึกว่า คุณซิลเวีย สนใจผู้ชายคนนี้” สาวผมเพลิงกำลังพูดยั่วโมโหซิลเวีย
“พูดจาบ้าบออะไรกันใครกันจะสนใจเจ้าหมาน่าโง่นี่” ซิลเวียน่าแดงปฏิเสธเป็นพัลวัน ผมอยากตะโกนออกไปว่า’ชั้นไม่ได้เป็นหมานะ’
“งั้น เธอไม่สน แต่ชั้นสน ถ้าเธอไม่สนใจ งั้นชั้นขอละนะ” หล่อนยังคงพูดยั่วโมโหไม่เลิก เฮ้ๆชั้นไม่ใช่สิ่งของนะที่จะให้เธอสองคนแย่งกันนะ
“อึก” ซิลเวียพลาดท่าเสียแล้ว เธอโดนสาวผมแดงต้อนเธอด้วยคำพูดจนอยู่หมัดเลย เธอก้มหน้าเหมือนจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่เสียงกลับเบาจนไม่ได้ยิน
“ชั้นอยากรู้จังว่าฝีมือของซิลเวีย มูนวอลท์จะแน่สักแค่ไหน” หล่อนพูดต่ออย่างคนมีชัยเหนือกว่า ทำให้แรงฮึดของซิลเวียกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
“ชั้นจะให้เธอร้องไห้เสียใจ ก้มหัวกราบชั้นเลย” ซิลเวียตั้งท่าดาบหมายจะจัดการฝ่ายตรงข้าม
“ถ้าทำได้ก็ลองดู ไฟบอล!!” หล่อนพูดจบก็หยิบไม้กายสิทธิ์ร่ายคาถาลูกบอลเพลิงโจมตีทันที ซิลเวียเอียงตัวหลบลูกไฟได้ แต่ไม่ทันไร ลูกไฟลูกที่สอง สาม สี่ ตามมาติดๆ ตูมๆๆๆ เปลวไฟลุกโชนไปทั่วห้อง ซิลเวียหลบได้ทุกครั้งและพยายามหาทางตอบโต้หล่อน ซิลเวียเห็นโมเดลลูกโลกตกอยู่ที่พื้น เธอจึงเตะมันพุ่งไปหาหล่อน แต่สาวผมเพลิงก้มหัวหลบอย่างรวดเร็วปลายผมสะบัดพลิ้ว ขณะนั้นซิลเวียพุ่งเข้ามาประชิดตัวแล้ว หล่อนชักดาบข้างเองออกมารับ เคร้ง เสียงดาบสองเล่มปะทะกันกังวาน
“เพลงดาบเยี่ยม” สาวผมแดงยิ้ม
“ไม่เท่าไหร่หรอก รับนี่ไป เพลงดาบจันทรากระจ่างฟ้า!!” ซิลเวียประกาศทันทีพายุดาบของเธอโจมตี การโจมตีดุจดั่งคลื่นทะเลโหมกระหน่ำ สาวผมแดงรับเพลงดาบเหมือนเรือลำน้อยกลางกระแสคลื่นทะเลอันเชี่ยวกราด ซิลเวียรุกไล่หล่อนจนถึงมุมห้องไม่มีทางที่หล่อนสามารถหลบหนีได้อีกแล้ว
“จนมุมแล้ว เสร็จชั้นละ” ซิลเวียยิ้มอย่างมีชัย ขณะนั้น “ใครเสร็จ ไฟวอล!!” กำแพงไฟขวางกั้นระหว่างซิลเวียกับหล่อน ซิลเวียไม่สามารถบุกเข้าไปในไฟอันร้อนแรงได้
“ฟินิกส์!!” นกเพลิงทะยานออกมาจากกำแพงเพลิง ซิลเวียกระโดดม้วนตัวหลบอย่างฉิวเฉียด ชายกระโปรงของเธอไหม้ไปบางส่วน
เมื่อกำแพงเพลิงหาย สาวผมแดงก็เดินออกมา
“พอแค่นี้แล้วกัน ก่อนที่ข้าวของจะเสียหายไปมากกว่านี้” หล่อนประกาศก่อนดูดเปลวเพลิงที่ลุกโชนทั่วห้องกลับเข้าไม้กายสิทธิ์ของเธอ หล่อนร่ายเวทย์ซ่อมแซมสิ่งของทำให้ห้องที่ไหม้เกรียมกลับเป็นห้องเดิมที่ ปราศจากรอยไหม้ เวทย์ของเธอร้ายกาจจริงๆ ชินคิดในใจ
“ก็ได้ แต่ถ้ายังมาเจ๊าะแจ๊ะกับหมาของชั้น ชั้นจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่” ซิลเวียประกาศคำเตือน พร้อมกับเก็บดาบของเธอเข้าฝัก
สาวนิรนามผมเพลิงหันกลับมา “ว้า ลืมบอกชื่อไปซะได้ ชั้นชื่อ สการ์เล็ต เฟรมฮาร์ท ยินดีที่ได้รู้จักนะ ชิน เรเวน ชั้นอยากชวนเธอช่วยงานสภานักเรียน ช่วยกลับไปคิดดูนะ และ ก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ คุณ ซิลเวีย มูนวอลท์” สาวผมเพลิงทักทาย
“ชั้นยินดีที่ไม่รู้จัก!!” ซิลเวียประกาศกร้าว
“คิก คิก ไม่นึกเลยนะว่า คุณ ซิลเวีย เป็นผู้หญิงขี้หึงเกินคาด คิก คิก” สการ์เล็ตหัวเราะคิกคักก่อนเดินจากไป ปล่อยให้ซิลเวียหน้าแดงไปถึงหู
“เอ ทำไมชื่อสการ์เล็ต ถึงคุ้นๆนะ” ผมกล่าวลอยๆโดยไม่ได้คิดอะไร ทำให้ดวงตาคู่น้ำเงินจ้องเขม็ง
“ว่าไงนะ อย่าบอกนะว่านายรู้สึกอะไรกับยัยจิ้งจอกเพลิงนั่น” ซิลเวียยื่นหน้าเข้ามาหาผม ทำให้ผมก้าวถอยอย่างไม่รู้ตัว
“เตรียมตัวเตรียมใจไว้ได้เลย ชั้นจะลงโทษนาย โทษฐานบังอาจทำตัวเชื่องกับคนอื่น” ซิลเวียหยิบปลอกคอใส่ที่คอของผม
“เธอเอาอะไรมาใส่ที่คอชั้น ชั้นไม่ใช่หมานะ” ผมโวยวายแต่ดูเหมือนจะไม่เข้าหูหล่อน
“หมาก็คือหมา!!” เธอตะโกนใส่เขา
“ก็บอกแล้วไงว่าชั้นน่ะไม่ใช่ หมา..เหวอ” ผมถูกอะไรสักอย่างดึงที่คอจนล้มลง แต่ผมเหมือนจะมองเห็นอะไรลางๆเหมือนเส้นอะไรสักอย่างเชื่อมต่อปลอกคอกับแหวน ของเธอ
“นี่มันอะไรกัน” ผมมีลางสังหรณ์ไม่ดีซะแล้ว
“นี่เป็นไอเทมเวทย์มนตร์ ‘ปลอกคอรู้สำนึก’ ชั้นได้มาจากพ่อเมื่อวานนี้ มันจะเชื่อมต่อกับ ‘แหวนแห่งความเป็นเจ้าของ’ ทำให้เมื่อขยับแหวนแล้ว ตัวนายจะโดนดึง” หล่อนลูบปลอกคอที่คอผมอย่างตื่นเต้นกับของเล่นชิ้นใหม่
“ตั้งแต่วันนี้นายเป็นของชั้น จงภูมิใจไว้ซะที่ได้เป็นหมาของชั้น” ซิลเวียยิ้มอย่างมีชัย
ตายแล้วทำไมชีวิตเขาถึงซวยขนาดนี้ ผมอยากจะบอกพ่อบนสวรรค์ว่า พ่อครับ ลูกชายของพ่อกลายเป็นหมาแล้ว ฮือๆ
............................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น