คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 3rd Have I done something wrong?
“กี้ กูไปรออยู่ตรงโรงอาหารนะ” เปรี้ยวพูดพลางผลักผมให้เดินไปคนละทางกับมัน “สู้” รอยยิ้มหวานของมันทำให้ผมมีกำลังใจขึ้นเยอะพอสมควร
“เออ สู้”
“จำได้นะ?” ก่อนที่มันจะเดินไปมันหันมาย้ำอีกที พอเห็นว่าผมพยักหน้ามันก็ยิ้มแล้วเดินไป
ผมค่อยๆปิดเปลือกตาลง ภายใต้ความมืด เสียงของไอ้เปรี้ยวที่คอยบอกสิ่งที่ผมต้องทำเมื่อคืน ก็เริ่มเล่นซ้ำอีกครั้ง
(บุกทะลวงให้มันทะลุ!)
“บุกทะลวงอะไร”
(บุกทะลวงพี่พีสไงค้า คนเก่ง)
“ชื่อนี้คุ้นๆ นะ เหมือนได้ยินจากรายการอะไรซักอย่าง”
(เฮ้ย มึงมั่วละ กูคิดกับพี่ชล) มันชะงักก่อนที่จะส่งเสียงสูงกว่าปกติ มาปฏิเสธ
“เออ เชื่อจ้ะ ฮ่าๆๆ” มันเอามาจากที่อื่นจริงๆด้วย
(พรุ่งนี้มึงต้องเข้าไปหาพี่พีส แล้วบอกชอบพี่เค้าซะ) เสียงมันขึงขันขึ้นมาทันที
“เฮ้ย มันไม่เร็วไปเหรอวะ” เพิ่งชอบได้วันเดียวเอง “ไก่ตื่นหมด”
(ให้มันตื่นไปเหอะ... กูพูดกับมึงตรงๆได้ใช่มั้ย) มันถามเหมือนไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของผมกับมัน
“พูดมาดิ”
(ก็...ถ้าจะจีบใครสักคนมึงต้องทำให้เค้าจำมึงได้ซะก่อน แม้แต่ซักนิด แล้วก็ทำให้คนรอบๆตัวเค้าจำมึงได้ด้วย
ถ้าจำไม่ได้แล้วมึงจะทำไปเพื่ออะไร)
“โอเค กูฉลาดพอทีจะเข้าใจเหตุผล แล้วต้องทำยังไงต่อ”
(มึงต้องเปิดตัวไง ทำตัวบุ่มบ่าม โก๊ะ เปิ่น แบบหนังแบบละคร)
“ยังไงวะ มีสติด้วย อธิบายทีละอย่าง” ถึงตรงนี้ผมเริ่มงงแล้วครับ มันต้องการจะทำอะไร ขนาดอยู่ด้วยกันมานานนะเนี่ย
(คือมึง.. จะทำให้เค้าจำเราได้เราต้องเด่นใช่มั้ย มันต้องมีประเด็น เราต้องสร้างมันขึ้นมา) ผมได้ยินเสียงมันถอนหายใจอีกแล้ว
“ว่ามา”
(มึงเข้าไปบอกรักพี่เค้าไง ใต้อาคาร ตอนพักเที่ยง เด่นมาก ทุกคนจำมึงได้แน่นอน) มันพูดสบายๆเหมือนสิ่งที่มันให้ผมทำนั้นมันเป็นแค่ไปต่อแถวซื้อข้าวในโรงอาหารเลย โถ (หาข้ออ้างอะไรเสริมเข้าไปหน่อยก็ดี)
“แล้วถ้าพี่เค้าปฏิเสธ”
(มันจะเป็นไปตามแผนโดยอัตโนมัติ ยังไงๆพี่เค้าก็ต้องปฏิเสธ..) มันตัดความหวังกันง่ายๆงี้เลยเหรอวะ เห้ย เชียร์รึเปล่าเนี่ย
“มันไม่มีความเป็นไปได้ที่พี่เค้าจะเซย์เยสเลยใช่มะ ฮ่าๆๆ” ผมพูดติดขำนะ แต่ในใจจริงๆมันปวดหนุบหนับเลย
(ไม่มีเลยว่ะ โทษที) มันพูดเสียงเศร้าๆ (ถ้าพี่เค้าปฏิเสธ มึงต้องให้พี่เค้าพูดว่าเป็นพี่น้องกันให้ได้)
“คิดแผนต่อไว้แล้วใช่มั้ย”
(จะบอกทีละขั้น จะได้ไม่สับสน)
“แผนสำรองล่ะ” ผมถามให้แน่นอนเพื่อความมั่นใจ
(รอให้มันพลาดก่อนเถอะ หึๆ เจอกันพรุ่งนี้จ้ะ) อ้าวไอ้เปรี้ยว...
ถึงตอนนี้ก็ยังสงสัยอยู่หน่อยๆ แต่ก็เอาเถอะ
ตอนนี้ผมยืนอยู่หลังพี่พีสแล้ว กลุ่มเพื่อนของพี่พีสมองมาทางผมรวมทั้งพี่ชลที่หัวเราะแปลกๆ ตอนนี้พื้นที่โล่งใต้อาคารเต็มไปด้วยเหล่านักเรียน ในเวลาพักเที่ยงอย่างนี้ผู้คนพลุกพล่านเป็นพิเศษ
สายตาหลายๆ คู่เริ่มมองมาทางผมแล้วกระซิบกระซาบกัน ชักชวนให้เพื่อนหันมามองตาม เขินนะเว้ย ทำไมต้องมานั่งกันอยู่ที่นี่ตอนนี้ แล้วทำไมไอ้เปรี้ยวต้องให้มาพูดกับพี่เค้าตอนนี้ด้วยวะ
“พี่พีส...” พี่แกสะดุ้งนิดหน่อย ก่อนจะเงยหน้ามาอย่างหวาดๆ พอเห็นว่าเป็นผมแกก็เปลี่ยนจากหน้าตาตกใจเป็นยิ้มสวย รอยยิ้มมันหยุดเวลาได้จริงๆ ผมนิ่งค้างไปจนพี่พีสเรียกผมถึงได้รู้สึกตัว
“น้องกี้”
“มีเรื่องจะบอกครับ” พูดพลางย่อตัวให้ลงไปอยู่ในระดับเดียวกัน เพื่อนพี่เขาทุกคนคงได้ยิน เลยพากันเงียบ แสร้งทำเป็นไม่สนใจมองนกมองไม้ “แหะๆ คือ...”
“...”
“...”
“ครับ?”
“ผมชอบพี่นะ” เหมือนโลกหยุดหมุน ลมที่เคยพัดเอื่อยๆหยุดลง นกกระพือปีกกลับลงมาเกาะกิ่งไม้นิ่งๆ ผู้คนบริเวณนั้นทุกคนเบิกตาโพลง เสียงจ้อกแจ้กที่ดังอยู่เงียบลงเรื่อยๆ เมื่อกี้ผมพูดดังไปเหรอ ให้ตาย ทำไมมันเป็นงี้ล่ะ “คือ คือ... เราเพิ่งรู้จักกันเมื่อวานก็จริง แต่..”
“เอ่อ...” สติที่หลุดลอยของพี่พีสเริ่มกลับมาแล้ว “น้องกี้ครับ”
“...”
“น้องเล่นมุขใช่ป่ะ ฮ่าๆๆ วันหลังไม่เล่นนะ พี่ตกใจแทบช็อก”
“ขอโทษทีครับ” ยังคิดว่าเล่นมุขอีกเหรอวะ หรือหน้ากูจริงจังไม่พอ
“...พี่ขอโทษจริงๆนะ พี่คงรับความรู้สึกกี้ไม่ได้ว่ะ” พี่พีสยกมือไหว้ปลกๆทำเอาผมทำตัวไม่ถูกเลย
เพื่อนพี่เขาเริ่มกระซิบกระซาบกัน ผมจับใจความไม่ได้ เพราะสิ่งที่ผมกำลังตั้งใจฟังอยู่คือเสียงของพี่พีสคนเดียว “ครับ โอเค อยากให้พี่รู้ไว้เฉยๆแหละ” ใจหายวาบเลยแฮะ เหมือนอ่านนิยายเรื่องที่ชอบแล้วมันตัดจบ
“เป็นพี่น้องกันได้นะ โทษที”
“ขอบคุณมากครับ” ผมยิ้มให้พี่พีสก่อนจะเดินออกมา มีเสียงวี้ดวิ้วจากกลุ่มนั้นดังไล่หลัง
“เฮ้ย กี้ รอพี่ด้วย” เป็นแฟนไอ้เปรี้ยวครับ พี่แกวิ่งตามตบหัวแล้วดันหัวผมให้ไปกับแก “เปรี้ยวรอตรงโรงอาหารใช่ป่ะ”
“ครับ...” น้ำตามันจะไหลเลยครับพอมีคนมาปลอบหน่อย อกหักมากี่ครั้งก็ยังไม่ชินเลยจริงๆ
“ไปหาไอ้เปรี้ยวก่อน ถึงตอนนั้นจะร้องไห้จะเป็นจะตายยังไงก็เอาเลย” ผมเลยถอนหายใจทิ้งก่อนจะปั้นหน้าเป็นปกติไปเจอไอ้เปรี้ยวที่นั่งกัดเล็บรออยู่ที่โต๊ะในโรงอาหาร
“กี้ เป็นไงบ้า..” ผมพุ่งกอดมันแล้วเริ่มปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาแบบไม่อายสายตาผู้คนในโรงอาหารที่มองแล้วส่งเสียงนินทา “ไม่ต้องไปสนใจคนอื่นมึง ร้องมาเลย ร้องให้พอ” มันกอดผมตอบแล้วลูบหัว ดึงผมให้นั่งลงด้วยกัน
“อกหักอีกแล้ว” พี่ชลตอบแทนเพราะเห็นสภาพผมคงพูดไม่เป็นประโยคแน่ๆ
“กูขอโทษกี้ มึงบอกอย่างที่กูบอกแล้วใช่มั้ย”
“ฮึก.. อือ กูบอกไปแล้ว” กลั้นเสียงสะอื้นไว้ แค่นี้เอง
“กูขอโทษจริงๆ กูน่าจะคิดให้ดีกว่านี้” มันกอดผมแน่นขึ้น เวลาเราอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนมันทำให้เราสบายใจขึ้นจริงๆ มันปล่อยให้ผมร้องไห้ต่อไปเรื่อยๆ จนใกล้หมดเวลาพัก “หมดเวลาร้องไห้แล้ว ฟังกู”
ผมเงยหน้ามองมันแล้วปาดน้ำตาออกเงียบๆ
“ขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้มึงร้องไห้อย่างนี้” มันหน้าเจื่อนเลยครับ แต่ผมก็เห็นแววเจ้าเล่ห์ในตาของมัน
“กูรู้ว่ามึงคิดอะไร” เอาเถอะ มันคงมีแผนอะไรของมัน แกล้งโง่หน่อยก็ไม่เป็นไร
ตั้งแต่สมัยประถมที่รู้จักกันแรกๆแล้ว มันเคยวางแผนจะแกล้งให้เพื่อนที่ไม่ชอบขี้หน้ามารักกัน โดยใช้เพื่อนในห้องสร้างปัญหาหลายๆ อย่าง มันก็เลยเริ่มไซโคเพื่อนทีละคนๆ และกว่าแผนนั้นจะสำเร็จก็เป็นอาทิตย์สองอาทิตย์ อาจจะต้องใช้เวลาบ้าง อาจจะต้องเจ็บตัว แต่รับรองผลสำเร็จร้อยเปอร์เซ็น
“แหะๆ โดนจับได้อีกแล้ว” มันหัวเราะทำท่าเขกหัวตัวเองเบาๆ
“เอาเหอะ กูเชื่อว่ามันจะได้ผล”
“ตรงนี้มันเป็นไปตามที่กูคิดไว้ เดี๋ยวนะ ตอนมึงเข้าไปมึงได้ถืออะไรไปรึเปล่า” มันทำหน้าคิดหนักเลยครับตอนนี้ ผิดแผนไปนิดนึงต้องเปลี่ยนใหม่หมดเลย “กูลืมบอกตรงนี้กับมึง ตายๆ เปลี่ยนแผนด่วนเลยกี้ กูขอโทษ แต่มึงผิดนะ โฮฮฮ” มันเริ่มโวยวายขาดสติ เหมือนทุกๆครั้งที่ต้องเปลี่ยนแผน เป็นอย่างนี้บ่อยๆเลยครับ แล้วนี่...
“นี่กู...ทำอะไรผิดป่ะวะ”
// ตอนที่สามแล้ว เปรี้ยวดูเป็นคนที่บุคลิกงงๆเนอะ ฮ่าๆๆๆ
ขอบคุณสำหรับคอมเม้นด้วยนะครับ
แต่ผมตั้งใจเรียกนายเอกของเราว่ากี้แล้วนะ ทำไมถึงเรียกลัคล่ะ ฮ่าๆๆๆ
ความคิดเห็น