ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (Yaoi) What is love? รักวุ่นวายร้ายเกินพิกัด (End)

    ลำดับตอนที่ #2 : -01-

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 645
      4
      21 ม.ค. 58




    -01-




     

              ร่างสูงโปร่งที่ตอนนี้ดูเหมือนจะผอมซูบลงไปเรียกความสนใจให้แก่นักเรียนคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี เพราะบุคคลคนนี้ได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มป๊อบที่สุดแสนเพอร์เฟ็คที่สุดในโรงเรียน แถมช่วงนี้ยังมีข่าวลือหนาหู เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มกับแฟนสาวของเขาเต็มไปหมด
              เมื่อรวมกับคลิปที่ร่างสูงโดนแฟนสาวสาดน้ำใส่ เป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองนั้นเข้าใกล้จุดจบมากเพียงไหน เหลือเพียงแต่ต้องรอลุ้นกัน ว่าใครจะเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อนเท่านั้นเอง


              “มึงกินข้าวบ้างป่ะเนี่ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามทันทีที่จินหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ นัยน์ตาเรียวเหลือบสายตาขึ้นมามองไปยังร่างสูงที่กำลังยืนค้ำโต๊ะเขาอยู่ ก่อนจะรู้สึกตัวเองตัดสินใจผิดไปถนัด เมื่อเจอแววตาคาดคั้นที่ส่งมาจากเพื่อนสนิท
              “ก็กินอยู่” ตอบเฉไฉไปเรื่อย ทั้งที่จริงแล้วเขาแทบจะกินอะไรไม่ลง หลังจากรับรู้เรื่องราวเบื้องหลังอันแสนเจ็บปวดเกี่ยวกับการกระทำของแฟนสาวของตัวเอง ร่างโปร่งฟุบลงกับโต๊ะ ตอนนี้เขารู้สึกปวดหัวราวกับหัวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ทุกครั้งที่สมองว่างเรื่องราวอันแสนน่าจดจำระหว่างเขากับไอรีนจะวิ่งวนไปมาราวกับมีคนมากรอเทปซ้ำแล้วซ้ำเล่า


              จินและไอรีนตัดสินใจคบกันตั้งแต่มอต้นปีสาม จนตอนนี้ทั้งคู่อยู่มอปลายปีสองแล้ว เขาไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่น แม้จะมีแฟนคลับหน้าตาน่ารักแค่ไหนมาขอคบด้วย แต่เขาก็ไม่เคยสนใจ เขาทุ่มเทความรักให้กับไอรีนมาโดยตลอด เฝ้าดูแล เฝ้าทะนุถนอม คอยมอบความรักให้อย่างสุดหัวใจ บางครั้งเคยเพ้อถึงขนาดคิดวิธีขอแต่งงานเลยด้วยซ้ำ แต่กลับได้รับสิ่งตอบแทนเป็นการหักหลังที่แสนเจ็บปวดแบบนี้


              เขาเป็นคนไม่ใช่ควายที่จะยอมทนโง่ให้ผู้หญิงหลอกซ้ำแล้วซ้ำอีก แม้จะเป็นผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจก็ตาม


              “กูเป็นห่วงมึงจริงๆนะเว้ย” น้ำเสียงไม่สบายใจทำเอาจินหลุดหัวเราะออกมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนสนิทตัวดี ที่ยังไม่ยอมก้าวไปไหน
              “แม่กูก็พูดเงี้ย” เสียงนุ่มเอ่ยหยอกล้อ ก่อนจะโดนสไปรท์ถลึงตาใส่
              “แล้วตกลงมึงจะเอายังไง” เมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตัวเองไม่พูดอะไรต่อ เขาเลยตัดสินใจถามคำถามที่ทนเก็บไว้มานานออกไป จินชะงักชั่วครู่ ก่อนจะเสตามองออกไปนอกหน้าต่าง ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง จนสไปรท์ต้องถอนหายใจออกมา
              “ถ้ามึงยังไม่พร้อมก็ไม่เป็นไร” เขาเลิกล้มความตั้งใจที่จะเอาคำตอบจากจินแล้ว แต่ก่อนที่เขาจะได้เดินกลับไปนั่งที่ คนที่คิดว่าจะไม่ตอบกลับพูดขึ้นมาก่อน
              “กูก็ไม่อยากให้มันค้างคาเหมือนกัน”




              “เฮ้ย มึงเอาจริงหรอวะ” สไปรท์เอ่ยถามเพื่อนสนิทของตัวเองเพื่อความแน่ใจ เพราะว่าสิ่งที่ไอ้เพื่อนตัวแสบของเขากำลังจะทำนั้น มันทั้งเจ็บแสบและเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร จินยักไหล่อย่างไม่หยี่ระ ก่อนจะกดส่งข้อความกลุ่มเรียกเพื่อนๆมาประชุม โดยไม่ลืมชวนเอแคลร์มาด้วย
              “กูบอกแล้วไง ว่ากูรักมากก็เกลียดมาก” นัยน์ตาเรียวนั้นเย็นเยียบจนคนมองต้องเผลอกลั้นหายใจ แม้สไปรท์จะเกลียดไอรีนเข้าไส้ที่บังอาจมาหักหลังเพื่อนสนิทของตัวเองแบบนี้ แต่เขาก็อดที่จะสงสารเธอไม่ได้จริงๆ เล่นกับใครไม่เล่นดันมาเล่นกับไอ้จินมัน





              นี่ก็เป็นเวลาเกือบสองอาทิตย์แล้วหลังจากที่เธอทะเลาะกับจินในตอนนั้น แอบสะใจไม่หยอกที่ได้สาดน้ำใส่ใบหน้าคมสวยนั่น
              “ไอรีน” น้ำเสียงหวานที่เธอจำได้ดี มันคือเสียงของเพื่อนสมัยเด็กของจิน เอแคลร์ ผู้หญิงที่เกลียดเธอนักเกลียดเธอหนา ตัวเธอเองก็ไม่ได้ชอบหน้ายัยนี่เสียเท่าไหร่
              “อ้าว เอแคลร์” แม้จะเกลียดมากแค่ไหน แต่เธอก็ยังคงบังคับให้ตัวเองส่งยิ้มหวานกลับไปให้ เพราะไอรีนคือนางฟ้าของโรงเรียนมัธยมแห่งนี้ ไม่ว่าใครต่างก็คิดว่าเธอนั้นสวย อ่อนหวาน และจิตใจดี มันก็มีส่วนจริงอยู่บ้าง เพราะเธอจะทำตัวดีกับคนที่เธอหมายปองเท่านั้น
              “ไอรีน เธอได้ติดต่อกับจินบ้างรึเปล่า” พอโดนถามถึงคนที่เธอเบื่อขี้หน้าอารมณ์ดีๆก็พานจะหงุดหงิดไปเสียง่ายๆ แต่เธอไม่สามารถแสดงอาการออกมาได้หรอกนะ เพราะในสายตาของเอแคลร์และเด็กโรงเรียนนั้น ต่างคิดว่าเธอคือแฟนสาวที่รักจินมาก

              แต่เธอตัดสินใจให้เรื่องที่เธอคบกับจินเป็นความลับกับโรงเรียนที่เธอกำลังเรียนอยู่ ไม่อย่างนั้นความป็อบของเธอก็ตกลงน่ะสิ อีกทั้งที่นี่ยังมีชายหนุ่มที่เธอหมายปองอยู่ด้วย...

              “ไม่ค่อยได้ติดต่อไปเลยนะ คือเรา...ทะเลาะกันอยู่น่ะ” พูดพลางแสร้งตีหน้าเศร้า ทั้งๆที่ในใจรู้สึกยินดีใจจะขาด เธอเบื่อเด็กหนุ่มหน้าสวยคนนั้นเต็มทนแล้ว


              จริงอยู่ที่เธอคบกับจินตั้งแต่สมัยมัธยมต้น เพราะจินคือเด็กหนุ่มที่ป็อบที่สุดในโรงเรียน แล้วสาวสวยอย่างเธอจะเหมาะสมกับใครไปได้นอกจากเขากันล่ะ จินทั้งหล่อ รวย มีความสามารถเป็นถึงนักร้องนำของวงดนตรีโรงเรียน ทำให้เธอได้เชิดหน้าชูตา อวดแฟนหนุ่มของเธอได้อย่างภาคภูมิใจ
              แต่ตอนมอปลายเธอและเขากลับต้องแยกกัน จินเลือกที่จะเรียนโรงเรียนที่มีเวลาให้เขาได้ซ้อมวงดนตรี ไม่ยอมตามมาเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอ นั่นเป็นการทะเลาะกันครั้งแรก แต่เธอและจินต่างก็ให้สัญญากันว่าจะหาเวลาให้กันอย่างสม่ำเสมอ ตอนนั้นเธอยังพอชอบจินอยู่บ้าง ทำให้ตัดสินใจยอมรับข้อเสนอนี้
              แต่ใครจะไปรู้กันล่ะ ว่าโรงเรียนมัธยมที่เธอเข้ามา จะมีชายหนุ่มรูปหล่อ ที่เพียบพร้อมกว่าจินหลายเท่า ชายหนุ่มที่เป็นทั้งกัปตันทีมบาสแถมยังเป็นนายแบบสมัครเล่นอีกต่างหาก ชายหนุ่มที่ได้ชื่อว่าเป็น ปริ๊นซ์ ของโรงเรียนแห่งนี้ รุ่นพี่แอสตัน
              ตั้งแต่นั้นเธอก็มีความมุ่งมั่นลับๆ ว่าจะต้องคว้าใจชายหนุ่มคนนี้มาให้ได้ แต่เรื่องจินนั้น เธอตัดสินใจไม่เลิกปุบปับ เพราะชายหนุ่มหน้าโง่คนนั้นยังคงมีประโยชน์กับเธออยู่
              เพราะไม่ว่าเธอจะอยากได้อะไร จินก็จะหามาให้เธอได้ทุกอย่าง ต่อให้ของชิ้นนั้นจะแพงแสนแพง เอาอกเอาใจเธอสารพัด แม้ว่าสิ่งที่เธอขอจะไร้เหตุผลแค่ไหน แบบนี้จะรีบทิ้งไปก็น่าเสียดายแย่สิ




              “ฉันไม่รู้หรอกนะว่าจินทำอะไรผิด หรือเธอหาเรื่องทะเลาะเอง” น้ำเสียงที่แฝงแววหยามเหยียดนั้นทำให้ไอรีนต้องเผลอกำมือแน่นอย่างระงับอารมณ์ ก่อนจะฝืนคลี่ยิ้มหวานตอบกลับไป
              “แต่จินฝากบัตรคอนเสิร์ตอันนี้มาให้ เป็นคอนเสิร์ตกลางแจ้งของพี่ที่รู้จักกันกับจินน่ะ ยังไงก็ช่วยไปให้กำลังใจจินหน่อยนะ” เอแคลร์พูดพลางยื่นบัตรคอนเสิร์ตนั้นให้เธอ นัยน์ตากลมโตเป็นประกายวาววับอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะหายไปเมื่อไอรีนเงยหน้าขึ้นมา เธอรับมาอย่างไม่ค่อยไว้ใจ
              “แล้วทำไมจินไม่เอามาให้ฉันเองล่ะ” เพราะถ้าเป็นปกติจินจะรีบวิ่งมาหาเธอด้วยอารมณ์ดี๊ด๊า ชวนให้เธอไปให้กำลังใจ ราวกับลูกหมาตัวหนึ่ง คิดแล้วก็น่าสมเพชชะมัด
             “พอดีจินเค้าไม่กล้ามาพบหน้าไอรีนน่ะ เลยฝากฉันมา” พอได้ยินแบบนั้นเธอก็เผลอหลุดยิ้มออกมาอย่างเสียไม่ได้ ยังไงนายก็ขาดฉันไม่ได้ใช่มั้ยล่ะ จิน

              เอแคลร์เหลือบมองท่าทางของ ‘อดีต’ แฟนสาวของเพื่อนวัยเด็กของตัวเองอย่างหมั่นไส้ แต่ไม่เป็นไรหรอก อีกเดี๋ยวเธอก็จะได้ความสะใจคืนมามากกว่านี้อีกหลายเท่า เอแคลร์หยิบบัตรคอนเสิร์ตจากกระเป๋าของตัวเองอีกสองสามใบ ก่อนที่ขาเรียวจะตรงไปยังโรงยิมของโรงเรียน


              สถานที่ที่ตัวแสดงตัวสุดท้ายของงานนี้มักจะอยู่เป็นประจำ


              “พี่แอสตันคะ” น้ำเสียงหวานใสเรียกให้เขาต้องหันไปมอง ก่อนจะพบกับเด็กสาวใบหน้าสะสวยคนหนึ่ง กำลังยืนมองมาทางเขาเป็นเชิงขออนุญาตว่าเข้าไปได้หรือไม่
              พอเห็นแอสตันพยักหน้ารับ เธอก็รีบวิ่งเข้ามาทันที เอแคลร์แอบสำรวจโครงหน้าของอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลาได้รูป รับนัยน์ตาคมคาย และจมูกโด่งเป็นสัน ผมสั้นสีเปลือกไม้ไถเกรียนด้านข้างแต่ด้านบนปล่อยยาวเล็กน้อยทำให้ดูสมกับเป็นนักกีฬา อีกทั้งรูปร่างสูงได้สัดส่วน ไม่แปลกใจเลยที่ใครๆก็ขนานนามเขาว่า ปริ๊นซ์
              “มีอะไรรึเปล่าครับ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกสติเด็กสาวตรงหน้า เอแคลร์สะดุ้งนิดหน่อยก่อนจะหลุดคลี่ยิ้มแห้งๆ
              “คือนี่ค่ะ” พูดพลางยื่นบัตรคอนเสิร์ตของจินให้กับแอสตัน มือหนารับมาก่อนจะไล่สายตาอ่านรายละเอียด ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาถามอย่างไม่เข้าใจ เพราะเขากับรุ่นน้องคนนี้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

             แต่พอเงยหน้าขึ้นมาอีกที เด็กสาวตรงหน้าก็หายไปเสียแล้ว

             “อะไรน่ะ แอสตัน” เสียงทุ้มของเพื่อนสนิทของเขาดังขึ้น พร้อมกับวงแขนที่วาดมากอดคอเขา ใบหน้าคมส่ายศีรษะอย่างไม่เข้าใจเช่นกัน ก่อนจะพลิกบัตรคอนเสิร์ตนี้ขึ้นอีกทาง เผยให้เห็นโน้ตสีเหลืองเล็กๆติดอยู่ที่บัตร

              ‘การแสดงครั้งนี้คงจะหมดสนุกถ้าขาดคุณ ’

              “อะไรวะนั่น” เรียวเพื่อนสนิทของแอสตันเอ่ยออกมาอย่างแปลกใจ เขาหันมองไปทางปริ๊นส์ของโรงเรียนตัวเองเป็นเชิงถาม แอสตันเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน แต่ทั้งๆที่ไม่เข้าใจริมฝีปากได้รูปนั้นกลับหยักยิ้มขึ้น เป็นรอยยิ้มที่เรียวไม่ได้เห็นมานาน
              “ดูเหมือนจะมีเรื่องสนุกๆแล้วสิ”



              “มึงเอาจริงหรอวะ เกิดบัตรนั่นเป็นของปลอมแล้วหลอกมึงไปทำร้ายจะทำยังไง” เรียวเอ่ยขัดเพื่อนตัวดีที่แต่งตัวเต็มยศ เตรียมพร้อมที่จะไปคอนเสิร์ตตามที่บัตรเชิญนั่นเขียนเอาไว้ ใบหน้าหล่อคมราวกับรูปสลักหันกลับมา ก่อนจะยักคิ้วชวนให้เอาฝ่าเท้าไปแนบกับหน้าเสียเหลือเกิน
              “กูถึงชวนมึงกับไอ้ต้นไผ่ไปด้วยไง ดูดิ ให้มาตั้งสามใบ คงไม่หลอกกูไปทำอะไรหรอก” พูดพลางหันไปสวมรองเท้าผ้าใบคู่โปรดของตัวเอง ไม่สนท่าทางหงุดหงิดของเรียวเลยสักนิด
              “กูเห็นด้วยกับแอสตันนะเว้ย พวกเราก็เป็นนักกีฬากันทั้งนั้น ถ้าจะโดนยำเละก็คงพอได้สวนกลับไปสองสามหมัด ไม่ยอมให้ฝ่ายนั้นทำเราฝ่ายเดียวหรอก” ต้นไผ่ เพื่อนร่วมทีมบาสควบตำแหน่งเพื่อนซี้ในกลุ่ม พูดพลางลากคอเสื้อของเจ้าเพื่อนขี้กังวลให้ไปใส่รองเท้า นั่นมันใช่ประเด็นไหมนั่น! เรียวจิ๊ปากอย่างขัดใจ ก่อนจะยอมเดินตามไอ้พวกบ้าดีเดือดสองคนนี้ไปแต่โดยดี


             ทั้งสามตัดสินใจเรียกแท็กซี่เพราะไม่รู้ทางที่จะไปยังสถานที่จัดงานจริงๆ ขับรถอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง รถแท็กซี่ก็พาทั้งสามมาถึงที่หมาย แอสตันเหลือบมองสถานที่จัดงานอย่างถูกใจ

              บริเวณจัดงานเป็นเวทีครึ่งวงกลม ล้อมรอบด้วยที่นั่งที่ทำเป็นขั้นบันได บรรยากาศร่มรื่นทำให้แม้จะเป็นกลางแจ้งอากาศก็ไม่ร้อนมากเหมาะแกการนั่งฟังเพลง พวกเขาที่มาก่อนเวลาจัดแสดงเกือบครึ่งชั่วโมง จึงตัดสินใจพากันไปซื้อเครื่องดื่มนิดหน่อย ก่อนจะเดินไปจับจองที่นั่งของตัวเอง

              แอสตันเหลือบมองบัตรนิดหน่อย ตัวหนังสือสีทองเขียนว่า VIP นัยน์ตาคมเหลือบมองก่อนจะพบว่าที่นั่ง VIP นั้นอยู่หน้าเวทีพอดี

              “หืม ดูท่าวงนี้จะดังพอสมควรเลยนะเนี่ย” ต้นไผ่พูดพลางเหลือบมองไปทั่วบริเวณหลังจากได้ที่นั่งแล้ว เพราะจำนวนคนที่มานั้นไม่น้อยเลย ผู้ชมยังคงเดินทยอยเข้ามาเรื่อยๆ แถมแต่ละคนยังพกกล้องขนาดเบ้อเริ่มเหมือนที่ใช้ถ่ายศิลปินเกาหลีอีกต่างหาก สามหนุ่มที่มากันอย่างงงๆเลยตัดสินใจถามสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆ
              “เอ่อ นี่เป็นคอนเสิร์ตของใครหรอครับ” ปฏิกิริยาของสาวน้อยที่มองพวกเขาเหมือนตัวประหลาด ทำเอาทั้งสามอดที่จะอายไม่ได้ มาฟังคอนเสิร์ตทั้งๆที่ไม่รู้ว่าใครเล่นมันน่าอายมั้ยล่ะครับ
              “โหย พี่ นี่อุตส่าห์ได้บัตร VIP มานี่ไม่รู้จริงๆหรอ แกล้งอำใช่ป่ะเนี่ย” หญิงสาวมองด้วยท่าทางไม่เชื่อสุดขีด จนเมื่อทั้งสามหนุ่มบอกว่าไม่รู้จริงๆ อยู่ดีๆก็มีคนให้มา เธอจึงยอมอธิบาย
              “ของวง Alcoholic ค่ะ เป็นวงอินดี้ แต่ถ้าคนที่สนใจดนตรีแนวนี้จริงๆจะรู้ว่าวงนี้ดังมาก เพราะสมาชิกในวงยังเป็นนักเรียนกันอยู่เลยตัดสินใจยังไม่ออกอัลบั้ม ทั้งๆที่เคยชนะการประกวดเวทีใหญ่ๆมาตั้งเยอะ จริงๆพวกเขาก็ไม่ค่อยมีเวลาจัดคอนเสิร์ตเท่าไหร่หรอก ทำให้บัตรคอนของวงนี้เป็นอะไรที่หายากมาก ควรจะดีใจนะคะที่ได้บัตร VIP แบบนี้” เธอร่ายยาวก่อนจะคลี่ยิ้มฉายแววอิจฉามาให้
              “แต่...พี่คนนั้นหน้าตาคุ้นๆนะคะ” พูดพลางชี้ไปทางแอสตัน คนตัวสูงสะดุ้งนิดหน่อย
              “เคยมีคนพูดแบบนี้บ่อยๆครับ” พูดพลางคลี่ยิ้มแห้งๆ ก่อนจะดึงหมวกแก๊ปลงมาปิดใบหน้าตัวเอง ก็จะไม่ให้คุ้นได้ยังไงล่ะ ก็ปริ๊นซ์แห่งโรงเรียนเอกชนชื่อดัง เคยไปเป็นนายแบบให้นิตยสารตั้งหลายฉบับ เด็กสาวเหลือบมองนิดหน่อยก่อนจะตัดสินใจเลิกสนใจ แล้วขอตัวไปกรี๊ดกร๊าดกับเพื่อนต่อ



              “อ้าว พี่แอสตัน” เสียงหวานใสที่แอสตันจำได้ดี เพราะเป็นเสียงของรุ่นน้องที่มักจะแวะเวียนมาหาเขาบ่อยๆ ไอรีน ยังไงล่ะ
              “ทำไมพี่แอสตันมาอยู่ที่นี่คะ” ไอรีนดูจะตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มอยู่ที่นี่ ในใจรู้สึกวูบโหวงอย่างบอกไม่ถูก แถมยังมานั่งข้างเธออีก บัตร VIP แบบนี้ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ
              “ฉันเป็นคนเชิญพี่เขามาเองแหละ” น้ำเสียงหวานที่คุ้นเคยเรียกให้ทั้งไอรีนและแอสตันหันไปมอง
              “เธอ” แอสตันเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นเด็กสาวคนที่ให้บัตรกับเขา
              “เธอต้องการจะทำอะไรกันแน่เอแคลร์” ไอรีนหันไปถามเอแคลร์เสียงขุ่น เธอเริ่มรู้สึกว่าเรื่องนี้มันมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากล
              “ต้องการจะเห็นเรื่องสนุกๆยังไงล่ะ” ใบหน้าใสพูดพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ไอรีนได้แต่กัดฟันอย่างไม่สบอารมณ์ แอสตันกับเพื่อนๆได้แต่มองสองสาวอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่ใบหน้าหล่อจะหลุดยิ้มออกมาจนเพื่อนๆรู้สึกผวา ก็ไอ้รอยยิ้มแบบนั้นมักจะมาพร้อมกับเรื่องชวนสยองทุกทีสิน่า


              “อ้าว รอนานกันรึเปล่า!!!” เสียงทุ้มนุ่มน่าฟังดังขึ้นขัดจังหวะการทะเลาะกันของสาวๆ ก่อนที่บนเวทีจะปรากฏร่างสูงเพรียว ที่กำลังยืนถือไมค์พร้อมกับฉีกยิ้มกว้างให้กับผู้ชม เสียงกรี๊ดดังสนั่นบ่งบอกความป็อบปูล่าของเด็กหนุ่มคนนี้ได้เป็นอย่างดี

              แอสตันเหลือบมองบุคคลบนเวทีอย่างสนใจ ใบหน้าคมสวย รับกับผิวขาวซีด ผมสีน้ำเงินเข้มที่ถูกเจลแต่งผมจัดให้ชี้ฟูนั่นช่างสะดุดตา ยิ่งดวงตาทรงเสน่ห์นั่นแล้ว เด็กคนนี้น่าสนใจสุดๆไปเลย

              “ว่าไง!!! คิดถึงพวกเรา Alcoholic กันรึเปล่า!!!” เสียงนุ่มเอ่ยเอ็นเตอร์เทนคนดู เรียกเสียงกรี๊ดดังกระหึ่ม เจ้าตัวฉีกยิ้มกว้างอย่างพึงพอใจ ก่อนจะเหลือบมองไปยังบริเวณที่นั่ง VIP เมื่อเห็นตัวแสดงที่เขาต้องการมาครบ ใบหน้าคมก็ฉีกยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม แอบหันไปสบตากับ ‘อดีต’ แฟนสาว และชายหนุ่มที่แฟนของเขาหมายปองนิดหน่อย ก่อนจะขยิบตาให้ ทำเอาแอสตันต้องเผลอขมวดคิ้ว
              “กรี๊ด เธอ เมื่อกี้เห็นรึเปล่า เมื่อกี้จินมองมาทางนี้แล้วขยิบตาให้ด้วย” แอสตันเลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย แปลว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้คิดไปเอง แต่เด็กหนุ่มมองมาทางเขาแล้วขยิบตาให้จริงๆ จากความไม่เข้าใจเปลี่ยนเป็นความคาดหวัง เขาคาดหวังให้มีเรื่องสนุกเกิดขึ้นจริงๆเสียแล้วล่ะ
               “ขอบคุณสำหรับเสียงกรี๊ดนะครับ แต่พวกคุณคงไม่ได้มาเพื่อกรี๊ดให้พวกผมอย่างเดียวใช่มั้ยครับ มามันส์กันดีกว่า” สิ้นคำพูดของนักร้องหน้าใส จังหวะดนตรีสุดมันส์ก็เริ่มบรรเลงทันที ทั้งๆที่ดนตรีออกจะหนักหน่วงขนาดนี้ แต่กลับไม่รู้สึกขัดหูสักนิด ทั้งสามที่ได้มาคอนเสิร์ตดีๆแบบไม่รู้อีโหน่อีเหน่หลุดยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะตัดสินใจเพลิดเพลินไปกับเสียงดนตรี


              พอมารู้ตัวอีกที บทเพลงสุดท้ายก็ถูกบรรเลงจบลง แฟนๆต่างส่งเสียงกรี๊ดและปรบมือให้กับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของศิลปินในดวงใจ


              “อ๊ะๆ พวกเรายังมีเซอร์ไพรส์อีกนิดหน่อยนะครับ” นักร้องบนเวทีเอ่ยเรียกเสียงกรี๊ดเกรียวกราวอีกครั้ง ถ้าแอสตันไม่ได้รู้สึกไปเอง นัยน์ตาเรียวนั่นกำลังก้มมองมายังเขา และหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ
              “วันนี้ผมมีแขก VIP” สิ้นประโยคมือเรียวก็ผายมาทางที่นั่งแถว VIP ที่เขากับไอรีนนั่งอยู่ แอสตันเลิกคิ้วนิดหน่อย ก่อนจะจับจ้องไปยังนักร้องหนุ่มว่ากำลังจะทำอะไร ใบหน้าคมสวยคลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนที่ร่างสูงจะต้องสะดุ้ง เมื่อรุ่นน้องแสนสวยของเขาลุกขึ้นพรวดจากที่นั่ง ก่อนทำท่าจะลุกหนี ถ้าไม่ติดว่าโดนเด็กสาวอีกคนดึงมือเอาไว้ก่อน
              “จะรีบไปไหนล่ะไอรีน ยังไม่ได้ดูเรื่องสนุกๆเลยนะ” นัยน์ตาเป็นประกายวาววับนั้นทำให้เธอยิ่งอยากจะหนีไปจากที่ตรงนี้จริงๆ
              “แขก VIP ของผม คือ แฟนสาวของผมเอง โอ๊ะ ไม่สิ ต้องเรียกว่าอดีตแฟนสาวเสียมากกว่า” พูดพร้อมกับนัยน์ตาพราวระยับ จับจ้องมายังหญิงสาวใบหน้าหวานราวกับตุ๊กตา คำพูดของนักร้องบนเวทีเรียกให้สายตาทุกคู่หันมาจับจ้องยังเด็กสาวทันที

              ไอรีนจ้องมองไปยังจินด้วยสีหน้าไม่พอใจสุดขีด นี่ เขากำลังจะฉีกหน้าเธอต่อหน้ารุ่นพี่แอสตัน!!!

              “Hey! Baby I have a special song for you” พูดพร้อมกับคลี่ยิ้ม ก่อนจะหันไปให้สัญญาณกับเพื่อนในวง เสียงดนตรีร็อคจังหวะหนักหน่วงถูกบรรเลงขึ้นอีกครั้ง จินหลับตาพริ้มก่อนจะจ่อปากไปที่ไมโครโฟน

     

    ไอ้เธอมันคือนางแมวยั่วสวาท

    ไอ้เธอมันคือปีศาจหุ่นเซ็กซี่

    เธอกินผู้ชายเป็นอาหาร แล้วอันตรธานไปในยามราตรี

    ข้าคือยมทูตมารับตัวเธอ

    ไปไป ไปลงนรกซะเถอะที่รักฉันจะลงโทษเธอ

    ไปไป ไปลงนรกด้วยกันที่รักฉันจะลงโทษเธอ

    เวลาของเธอหมดแล้ว



     

         ก่อนจะค่อยๆลืมตาขึ้น แววตาแข็งกร้าวจับจ้องไปยังหญิงสาวที่ยืนมองเขาตาค้าง ไอรีนรู้สึกหน้าตัวเองชาราวกับมีคนมาตบหน้าเธอ
              “หยุดเดี๋ยวนี้นะ ชั้นบอกให้หยุดยังไงล่ะ” น้ำเสียงหวานที่จินเคยคิดว่ามันน่าฟังที่สุดในโลกหวีดร้องอย่างเจ็บปวด จินหลุดคลี่ยิ้มนิดหน่อยเสียงทุ้มน่าฟังยังคงบรรเลงท่วงทำนองต่อ ไม่สนใจเสียงฮือฮาจากบรรดาผู้ชมคนอื่นๆ

     

    เธอทำให้ชายชราตัณหากลับ

    เธอน็อคชายฉกรรจ์นอนนับดาวเดือน

    เธอโชว์จนเด็กใจแตกสลาย

    เธอวาดลวดลาย นรกสวรรค์ยังสะเทือน

    ข้าคือยมทูตมารับตัวเธอ



     

         เสียงเพลงดังกระหึ่มพร้อมกับเสียงร้องทุ้ม เนื้อเพลงเสียดสีเจ็บแสบทำเอาทุกคนอึ้งไปตามๆกัน เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นทั่วสารทิศ แอสตันเหลือบมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยท่าทีประหลาดใจ ร่างกายไม่ขยับไปไหน เพราะอยากรู้ใจจะขาดว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อกันแน่ แม้ว่าเขาจะรู้สึกสงสารรุ่นน้องผู้หญิงโรงเรียนของเขาก็เถอะ
              ไอรีนที่ทนเหตุการณ์ตรงหน้าไม่ไหว ลุกขึ้น สะบัดมือของเอแคลร์ที่เกาะกุมตนไว้ออก ก่อนจะรีบลุกออกไปจากตรงนั้นทันที ถ้าไม่ติดว่าจู่ๆเสียงดนตรีก็ดับลง จินมองไปยังแผ่นหลังของแฟนสาวอย่างไร้อารมณ์ แต่ถ้าสังเกตดีๆจะพบว่ามีน้ำใสๆกำลังคลอหน่วงอยู่ที่ตาของเขา
              “เดี๋ยวสิครับ ที่รัก” น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดใส่ไมค์ ก่อนที่ร่างโปร่งจะกระโดดลงจากเวที ตรงเข้าไปหาหญิงสาวที่บัดนี้ใบหน้าสวยแดงจัด ไม่รู้ว่าด้วยความโกรธหรืออับอายกันแน่

              มือเรียวของนักร้องหนุ่มยื่นไปรับแก้วน้ำจากเพื่อนสนิทสมัยเด็ก ก่อนที่จะสาดน้ำอัดลมนั่นไปกระทบเข้ากับใบหน้าของหญิงสาวเข้าอย่างจัง จนคนดูรอบข้างเอ่ยเสียงฮือฮาไม่หยุด ไอรีนที่โกรธจัดเงื้อมือขึ้นก่อนจะฟาดลงไปที่ใบหน้าของจินเต็มแรงสามทีติดกันรวด จนใบหน้าขาวเนียนนั้นปรากฏรอยแดงเป็นปื้น ทำเอาเพื่อนๆในวงรวมถึงเอแคลร์ตั้งท่าจะเข้ามาขวาง แต่เด็กหนุ่มกลับยกมือห้ามเอาไว้ก่อน

              ก่อนที่ทุกคนจะต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อ จินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อของไอรีนจนร่างบางนั้นเซถลาเข้ามาใกล้เด็กหนุ่ม ใบหน้าของทั้งสองห่างกันเพียงน้อยนิด จนสามารถสัมผัสลมหายใจอุ่นๆของกันและกันได้ นัยน์ตาเรียวของจินนั้นเย็นเยียบจนไอรีนรู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ

              “จินรักไอรีนมาก รักมากจนยอมได้ทุกอย่าง แต่ไอรีนก็ควรจะรู้ไว้นะครับ ว่ารักมากก็เกลียดมาก” พูดพร้อมกับแค่นยิ้ม ก่อนจะผลักร่างนั้นออกราวกับขยะแขยงแม้จะต้องแตะตัวเพียงไม่กี่วินาที ทิ้งให้ร่างบางนั่งกองอยู่กับพื้น นัยน์ตากลมโตมีน้ำตาใสๆไหลออกมามากมายราวกับทำนบแตก แต่เขาก็ไม่คิดจะสนใจหรอกนะ ร่างโปร่งหันกลับไปทางชายหนุ่มร่างสูง ที่กำลังยืนมองมาทางตนอยู่แล้ว

              “ทำร้ายผู้หญิงแบบนั้นมันหน้าตัวเมียมากนะ” คำพูดที่แฝงด้วยแววไม่พอใจของแอสตันทำเอาจินขมวดคิ้ว นัยน์ตาคมเป็นประกายกร้าวเต็มไปด้วยคำติเตียน จินเหลือบมองก่อนจะหลุดยิ้มออกมา
              “ครับ แต่ผมไม่สนหรอก ในฐานะผู้ชายด้วยกัน ผมจะขอเตือนคุณเอาไว้อย่าง” นัยน์ตาเรียวจ้องเข้าไปในนัยน์ตาคมของคนที่สูงกว่า
              “ของเหลือของผม ผมรู้ว่าคุณคงจะไม่อยากได้ แต่ถ้าคุณไม่รังเกียจแล้วยังอยากจะใช้ต่อล่ะก็ ขอเตือนไว้ตรงนี้เลย แมวแพศยาที่เลี้ยงไม่เชื่องยังไงมันก็เลี้ยงไม่เชื่อง ระวังสักวันมันจะหันมาแว้งกัดคุณ เหมือนกับที่ผมโดนมาแล้ว” ถ้าเป็นคนอื่นแอสตันคงจะเงื้อหมัดต่อยจนหน้าหงายไปแล้ว แต่เขาทำไม่ลง ไม่ ไม่มีทางทำกับคนที่กำลังจ้องมองเขาด้วยแววตาสั่นไหวแบบนี้ ดวงตาเรียวสวยมีน้ำระรื้นที่ขอบตาพร้อมจะไหลออกมาได้ทุกเมื่อ


              ทำไมกันนะ ทั้งๆที่แววตาของนายควรจะเป็นประกายกร้าวด้วยความสะใจมากกว่า


              จินเบือนหน้าหนีออกจากแววตาคมที่จับจ้องมายังเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ก่อนที่มือเรียวจะยกไมโครโฟนขึ้นจ่อที่ริมฝีปาก
              "ขอบคุณแฟนๆที่เป็นสักขีพยานนะครับ หากใครคิดว่าผมทำเกินไป ผมต้องขออภัยด้วย ที่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงาน” พูดพร้อมกับคลี่ยิ้มกว้าง ก่อนจะโค้งลงเพื่อเป็นการขออภัย แล้วหันกลับไปยังร่างบางของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อดีต’ แฟนสาวของตนที่นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นกองอยู่กับพื้น


             “Hey bitch!!! We break up. Don’t show your face in front of me again!!!”










    --------------------------
    Talk : ตอนนี้แต่งไปก็แอบสงสารไอรีนง่ะ
             อุตส่าห์ทำให้สองหนุ่มมาเจอกันแท้ๆ คึคึ  '3'



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×