LOOK FOR LOVE
พบแล้วครับความรักของผม
ฉันมีชื่อว่า วาโย เป็นแค่เด็กสาวนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมๆ คนหนึ่ง แต่ชีวิตของฉันก็เกิดสิ่งมหัศจรรย์ขึ้น เมื่อได้พบกับวิญญาณหนุ่มไฮโซที่มีข่าวว่าฆ่าตัวตายเมื่อเจ็ดปีก่อนด้วยเหตุที่เขาอกหักจากแฟนสาว สำหรับฉันแล้ว มันเป็นความคิดที่สุดแสนจะโง่เง่า ทำไมเราจะต้องยอมตาย ด้วยเหตุผลเพียงเพราะว่า ความรักไม่สมหวัง
เราเจอกันโดยบังเอิญในลิฟต์ที่คอนโดฯซึ่งฉันพักอาศัยอยู่ ดูจากภายนอกเขาเองก็ไม่ต่างไปจากคนอย่างเรานัก ในลิฟต์แห่งนี้มีเพียงแค่ฉันกับเขา และวันนี้เองที่เขารู้ว่ายังมีใครอีกคนหนึ่งมองเห็นเขา ฉันแทบเป็นลมเมื่อรู้ว่าคนที่คุยด้วยเป็นผีที่มีนามว่า ทีเจ หลังจากนั้นเจ้าผีบ้าก็ตามติดฉันเหมือนเป็นปลาท่องโก๋
ในที่สุดฉันก็ยอมรับฟังความเห็นของทีเจ เขาขอให้ฉันช่วยเขาตามหาสิ่งที่เรียกว่ารักแท้
“นายน่ารำคาญจริงเลย มีอะไรจะให้ช่วยก็บอกมา”
“ฉันคอยให้ใครซักคนเห็นฉันมาตั้งเจ็ดปี แล้วฉันก็เจอเธอ คือว่า เพราะว่าฉันอกหักแล้วก็โดนรถชนตาย ท่านยมทูตจึงให้ฉันมาตามหารักแท้ เธอช่วยฉันหน่อยซิ ฉันจะได้ไปเกิดซักที”
“โอ๊ย ไอรักแท้มันก็ไม่มีเขียนไว้ในพจนานุกรมซะด้วยสิ แล้วฉันจะหาให้นายได้ไหมเนี่ย” เราเริ่มสอบถามจากคนรอบข้าง แต่ละคนก็มองคำว่ารักแท้ ในความหมายที่ต่างกันออกไป
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงมันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเรามีความลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นไปอีก เราหัวเราและยิ้มด้วยกันอย่างมีความสุข เมื่อท้อก็คอยช่วยเหลือซึ่งกันและกันแม้ว่าเราจะอยู่คนล่ะโลกก็ตาม
แล้วในวันหนึ่ง วันที่ฉันคิดว่าต้องมาถึงในซักวัน อยู่ๆ ทีเจก็หายตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าว เวลาผ่านไปกว่าหนึ่งอาทิตย์ ฉันเริ่มรู้สึกเจ็บมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่อยากจะทำอะไร ไม่อยากจะขยับตัวไปไหนหรือรับรู้อะไรทั้งสิ้น
ฉันยังคงตามหาเขาอยู่แม้ว่าจะเป็นความหวังที่เลือนรางแต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากจะหวัง ขอให้เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นกับฉันอีกซักครั้งอย่างน้อย ให้เราได้บอกลากันก็ยังดี
วันนี้ไม่ดีเลย แต่สำหรับฉันทุกอย่างมันเลวร้ายตั้งแต่วันที่เขาจากไป สายฝนที่ตกลงมาอย่างหนักราวกับมันกำลังร้องไห้เป็นเพื่อนฉัน เมื่อไหร่กันที่วันเลวร้ายแบบนี้จะหายไป ทั้งทีไม่อยากเสียน้ำตาแต่มันก็ไหลออกมาทุกครั้งที่ฉันอยู่คนเดียว ร่างที่เปียกน้ำฝนนี้ไม่หนาวเท่าหัวใจที่ใกล้จะแห้งตาย
.คิดถึงจริงๆ
เสียงบรรเลงเพลงแห่งการล่ำลาดังขึ้นจากวิทยุในขณะที่ฉันนอนอยู่บนเตียงนุ่ม มันดังขึ้นมาเองโดยที่ฉันไม่ได้แตะต้องเครื่องวิทยุ และมันทำให้ฉันมั่นใจว่า ทีเจยังคงอยู่ใกล้ๆ ตัวฉันเสมอ แต่เพราะเราอยู่กันคนล่ะโลกทำให้ฉันไม่สามารถมองเห็นเขาได้ บทเพลงนี้เขาคงตั้งใจมาลา
หากเรายังมีความเชื่อ สิ่งไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้เสมอ
นั่นคือสิ่งที่ฉันเฝ้าบอกตัวเอง เป็นอีกวันที่ยังคงคิดถึงใครบางคนที่จากไป แม้สมองของฉันจะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่หัวใจยังคงปฏิเสธที่จะเชื่อมัน ฉันยังคงรอคอยทีเจเสมอ
ในเช้าที่แสนเศร้า เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฉันลืมตาตื่นอย่างอ่อนแรง ฉันเปิดประตูอย่างเชื่องช้าแล้วมองผู้มาเยือนใหม่อย่างเลื่อนลอย พลันหัวใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ คนที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือชายร่างสูงที่ส่งยิ้มกว้างให้ฉันอย่างอ่อนโยน
“ทีเจ
..” ฉันพึมพำด้วยความตกใจ ฉันตรงเข้ากอดเขาด้วยความคะนึงหา ฉันไม่สนว่าทำไมเขาถึงกลับมาหรือเพราะอะไรฉันถึงสามารถจับตัวเขาได้ รู้เพียงว่าแสงสว่างของชีวิตฉันกำลังกลับคืนมา
“
.ดีใจที่กลับมา
.”
“ฉันมีเวลาไม่มากนักหรอกวาโย
.เราแต่งงานกันนะ..”
ฉันอึ้งไปซักพักก่อนจะพยักหน้าตอบรับ มันอาจเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราจะได้ทำอะไรร่วมกัน
เราจับมือกันไปที่สตูดิโอถ่ายรูปเป็นที่แรก ฉันเปลี่ยนชุดมาใส่ชุดแต่งงานแล้วเตรียมตัวถ่ายรูป แม้จะเป็นรูปแห่งพิธีมงคล แต่ว่าฉันกลับยิ้มไม่ออกเลยซักนิด เราจับมือกันแน่นในตอนถ่ายภาพราวกับกลัวว่าอีกฝ่ายจะหายไปอีกครั้งหนึ่ง มันเป็นภาพแรกที่เราจะถ่ายร่วมกันและอาจจะเป็นภาพชุดสุดท้าย ฉันฝืนยิ้มทั้งน้ำตา คนถ่ายภาพแอบแซวว่าดีใจจนน้ำตาไหล ฉันรู้สึกอยากตะโกนออกไปดังว่าไม่ใช่เลย มันเป็นความทุกข์ที่สุดในชีวิต
.
วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่าด้วย ทุกคนดูจะมีความสุขไม่ว่ามองไปที่ใดก็พบแต่รอยยิ้ม เวลาสองทุ่มกว่าเรากลับมาที่ห้องพักแล้วนั่งดูท้องฟ้าอันมืดมิดในยามราตรีที่ระเบียงห้อง ที่แห่งนี้เรามองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ อย่างกว้างขวาง
ฉันเอนศีรษะซบที่ไหล่ของทีเจอย่างเหม่อลอย กรุงเทพถูกประดับด้วยแสงสีสวยงามแต่กับคนที่กำลังจะสูญเสียสิ่งสำคัญไป มันกลับดูเหมือนเมืองที่ไร้สีสันโดยสิ้นเชิง
“
อันที่จริงแล้ว
ฉันมาลาน่ะ..” ทีเจพูดขึ้นในที่สุด ฉันยังคงซบไหล่ของเขา ไหล่ที่แสนอุ่นแม้ค่ำคืนนี้จะหนาวเพียงใดก็ตาม
“ยังมีเรื่องอีกมากมายเลยที่อยากจะพูดกับวาโย ก่อนอื่นก็อยากจะขอบคุณที่ช่วยฉันตามหารักแท้
.ซึ่งตอนนี้ฉันก็เจอมันแล้ว ฉันขอพูดเลยว่า
มันคือเธอ เธอที่นำความรู้สึกต่างๆ ของฉันที่หายไปกลับคืนมา ทั้งความสุข ความเศร้าและรอยยิ้ม แต่น่าเสียดาย ที่ฉันต้องไปเกิดแล้ว
ขอโทษนะ
ฉันรู้ว่าหลังจากนี้มันอาจจะรู้สึกทรมาน แต่ฉันไม่อยากให้เธอจมอยู่กับอดีต..ให้คิดซะว่าฉันเป็นแค่สายลมวูบหนึ่งที่พัดผ่านเข้ามาและกำลังจะผ่านไป สายลมที่ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ อยากจะให้ลืมมันซะ”
แม้ใบหน้านั้นจะยังยิ้มได้ แต่เสียงและมือทีสั่นอยู่นั้นฉันรับรู้ได้ดีว่าเขากำลังร้องไห้อยู่ข้างใน ทรมานเหมือนๆ กัน
. ทีเจเริ่มพูดต่อ
“ฉันไม่อยากให้เธอร้องไห้อีก จากนี้ไปก็ช่วยหาคนใหม่ที่ดีกว่า
รักเขาให้มากๆ มีลูกด้วยกันซักคนสองคน เป็นแม่และภรรยาที่ดี..ถ้าเธอจะซื้อบ้าน อย่าเอาที่บันไดเยอะเลยนะ เธอมักจะหกล้มบ่อยๆ เวลาไปไหนก็อย่าเอาเงินไปเยอะเพราะเธอจะทำกระเป๋าเงินหายอยู่เรื่อย ฝากบอกสามีเธอด้วยว่า ยัยวาโยเกลียดกุหลาบ วันวาเลนไทน์ให้ของขวัญอย่างอื่นจะดีกว่า”
“ให้ฝากบอกทำไมล่ะ นายก็รู้อยู่แล้วนี่ เราแต่งงานกันแล้วไม่ใช่เหรอ
” น้ำตาของฉันเอ่อล้นออกมาเปรอะใบหน้า มือของเราจับกับแน่นมากยิ่งขึ้น
“
ที่จริงแล้ว ถึงจะบอกให้ลืม
แต่ว่าวันไหนที่ดาวเต็มท้องฟ้าอย่างนี้ ถ้าเธอนึกถึงฉันบ้าง
ก็คงจะดี
”
“หากว่าฉันสามารถเกิดได้อีกหลายๆ ชาติ ฉันอยากจะลองทำอะไรที่มันแตกต่างกัน อยากมีร้านขนมเล็กๆ อยากเป็นเจ้าของโรงแรม อยากเป็นวิศวกร และก็อยากเป็นอีกหลายอย่างเลยล่ะ”
“
เป็นความคิดที่ดีนะ..”
“
แต่ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันชาติ ฉันจะขอรักคนคนเดียวกัน
นั่นคือนาย..”
“โง่จังเลยนะ
.ช่วยนั่งอยู่ตรงนี้กับฉัน จนกว่าจะหมดเวลาจะได้ไหม
”
“ได้สิ
”
เราไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยตั้งแต่ตอนนั้น ฉันสัมผัสได้ถึงสายลมยามค่ำคืนที่ทั้งหนาวและแสนเหงา มันกำลังจะพัดพาเอาสิ่งสำคัญของฉันให้หายไป
.. ไม่ใช่หรอก ถึงแม้ว่าเราจะไมได้อยู่ด้วยกันอีก แต่ฉันเชื่อว่าทีเจจะอยู่ข้างๆ ตลอดไป ณ ที่ตรงนี้ ลึกลงไปยังสิ่งที่เรียกว่า
หัวใจ
เวลาห้าทุ่มห้าสิบเก้านาที ทุกคนต่างตั้งตารอนับถอยหลังถึงเทศการปีใหม่ แม้ว่าคนทั้งโลกจะอยากให้ปีนี้ที่เหลืออยู่ผ่านไปโดยเร็ว แต่อย่างน้อย มีฉันคนหนึ่งที่ภาวนาให้มีใครซักคน ช่วยหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้
เสียงจุดพลุดังก้องทั่วบริเวณทุกคนต่างสนุกสนานกับปีใหม่ที่มาถึง ทีเจจับมือฉันแล้วลุกขึ้นยืน ร่างของเขาดูเลือนรางจนฉันรู้สึกกลัว เราเดินตรงไปเกาะขอบระเบียง เขาหันมายิ้มให้ฉันอย่างทุกวันที่เคยเป็น ทีเจล้วงกระเป๋าก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างออกมา
“
พลุสวยจังเลย ฉันไม่มีอะไรจะให้หรอกนะ.. ฉันรักเธอ
.” ทีเจยื่นแหวนให้ฉัน เราสวมแหวนให้กันและกันที่นิ้วนางข้างซ้าย เขาแล้วก้มลงประกบริมฝีปากของฉันเนิ่นนานและอ่อนโยน แม้จะเป็นสัมผัสที่เบาบางแต่ก็ทำให้มีความสุขมากเหลือเกิน ฉันจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้เป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่ไม่มีวันลืมเลือน แต่ถึงจะมีความสุขมากแค่ไหน น้ำตาก็ยังไม่ยอมหยุดไหล มันอาจเป็นเพราะ
ร่างของทีเจล้มลงไปนอนกองอยู่กับพื้น ฉันรีบก้มลงกอดร่างนั้น ฉันไม่สามารถห้ามน้ำตาที่พลั่งพูออกมาได้ ลมหายใจของทีเจแผ่วเบาใกล้จะหายลับไป ฉันตะโกนแข่งกับเสียงพลุหลากสีที่ลอยสง่าอยู่บนผืนนภา
“
อย่าเพิ่งไปนะทีเจ นายได้ยินฉันไหม อยู่กับฉันก่อนนะ ขอร้องล่ะ
”
นัยน์ตาที่ใกล้จะปิดของทีเจเหลือบมองฉันอย่างเศร้าสร้อย น้ำใสๆ ไหลออกมาเป็นทางตามเนินแก้มของเขา แต่ถึงจะเจ็บปวดมากแค่ไหน เขาก็ยังยิ้มให้ฉันอยู่เสมอ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง...
ในที่สุดเวลาแห่งการสูญเสียก็มาถึง เปลือกตาของทีเจปิดลงจนสนิท ร่างของเขาลอยขึ้นสู่กลางอากาศก่อนจะแตกสลายกลายเป็นเม็ดแสงสีขาวสว่างดุจดวงดาวนับพันที่ลอยเด่นบนฟากฟ้ารามราตรีอันแสนเศร้า สิ่งที่ยังเหลืออยู่คือชุดสูทสีขาวและแหวนแต่งงานของเราที่หล่นจากมือของเขา มันกลิ้งไปตามพื้นและหยุดนิ่งในที่สุด
ฉันเฝ้ามองวินาทีสุดท้ายที่เม็ดแสงเหล่านั้นค่อยๆ เลือนรางหายไป
เขาจากไปแล้วจริงๆ ที่แห่งนี้ เวลาเที่ยงคืนเก้านาที ระเบียงห้องแห่งนี้ พื้นที่นั่งดูดาวนี้ เหลือแค่ตัวฉัน
เพียงผู้เดียว
วันนี้เป็นวันปีใหม่ซินะ แม้ว่าทีเจจะจากฉันไปยังที่ที่ฉันไม่สามารถเอื้อมถึง แต่เขาก็ได้ให้ของขวัญที่มีค่าที่สุดแก่ฉัน ของขวัญที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้อย่างง่ายดาย ของขวัญที่เรียกว่า
. “รักแท้”
ฉันใช้มือลูบบริเวณที่เขาเคยนั่ง น้ำตายังคงไหลออกมาทั้งที่ฉันสัญญาว่าจะไม่ร้องไห้ มือทั้งสองกุมแน่นอยู่ที่ชุดสูทสีขาว สายตาจับจ้องอยู่ที่แหวนเงินของเรา ฉันหยิบมันขึ้นมาด้วยมืออันสั่นเทา
เขาคนนี้ ชื่อนี้ รอยยิ้มที่ส่งผ่านให้ฉัน ใบหน้าที่อ่อนโยน เสียงอันคุ้นหู ที่นั่งข้างๆ ฉัน ห้องพักอันแสนสุข ลิฟต์ที่เราพบกันครั้งแรก ความสุขและความทุกข์ที่เราต้องเผชิญ
.ฉันจะเก็บทุกอย่างไว้ในซอกของความทรงจำอันมีค่า เพราะสิ่งเหล่านี้ คือทุกอย่างของชายผู้ที่ฉันรักมากที่สุดในชีวิต
-หนึ่งอาทิตย์ผ่านไป-
ฉันไม่ได้กลับมาที่ห้องแห่งนี้หลังตั้งแต่วันที่เขาจากไป ชุดของเราสองคนที่ใช้ในงานแต่งงานถูกเก็บไว้อย่างดีในตู้ซึ่งอยู่ที่บ้านของทีเจ ครอบครัวของเขารับรู้เรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับเราเพราะก่อนที่จะมาหาฉัน เขากลับไปที่บ้านเพื่อพบกับพ่อและแม่ ฉันจึงย้ายเข้าไปอยู่บ้านนี้ในฐานะลูกสะใภ้ ส่วนแหวนนั้น วงหนึ่งอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของฉัน อีกวงห้อยไว้กับสร้อยที่ใส่ติดตัวอยู่ตลอด
ใจหนึ่งฉันอยากจะทิ้งห้องนี้ไปแล้วลืมทุกอย่าง แต่อีกใจก็อยากจะเก็บมันไว้ ใช่แล้ว ฉันต้องเก็บมันไว้ เมื่อมาถึงหน้าประตูห้องนี้ ใจฉันเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ มืออันสั่นเทายื่นออกไปเปิดประตู
.
จ๊ะเอ๋ กลับมาแล้วเหรอ
โยไปเที่ยวกันนะ
ยัยบ้าเอ้ย เธอกวาดพื้นภาษาอะไรเนี่ย
เธอมันใจร้ายที่สุดเลย ใจร้ายๆๆๆ
ฉันทรุดตัวลงนั่งกับพื้น แล้วร้องไห้ ภาพในอดีตของเราหวนกลับมาให้เห็นลางๆ มือทั้งสองยกขึ้นปิดหน้าอย่างเสียใจ ทรมานจนฉันไม่อยากจะก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า
แต่เมื่อฉันได้สัญญาเอาไว้แล้วว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น ก็จำเป็นต้องลุกยืนให้ได้ด้วยตัวเอง ฉันตรงเข้าไปยังห้องนอนที่ฉันให้คนมาทำความสะอาดเอาไว้ ภาพที่เราถ่ายด้วยกันวันแต่งงานก็ให้อัดเป็นภาพใหญ่เท่าตัวจริงแล้วเอามาไว้ที่ห้องนี้รูปหนึ่ง ฉันเอื้อมมือไปแตะใบหน้าของเขาจากภาพนั้น
.ถ้าอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ฉันคงจะยิ้มได้อย่างมีความสุข...
ฉันจะมีชีวิตอยู่บนโลกที่สวยงามใบนี้อย่างมีความสุข แม้ว่าทีเจจะจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมา ฉันจะไม่ร้องไห้อีกต่อไปและจะมองหาใครใหม่
.ไม่ใช่เพื่อตัวเอง แต่เพื่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับใครบางคน
-สามปีผ่านไป-
ฉันจบจากมหาวิทยาลัยแล้วมาทำงานเป็นล่ามในบริษัทนำเที่ยวซึ่งเป็นของครอบครัวทีเจ ฉันมีความสุขกับงานที่ทำอยู่ทุกอย่างและยังคงกินอิ่มนอนหลับฝันดีเช่นเดียวกันกับตอนก่อนหน้าที่จะเจอกับเขาคนนั้น โลกนี้มีอะไรมากมายที่เปลี่ยนแปลงไปแต่ใจฉันยังคงเหมือนเดิม มีคนมากมายเข้ามาในชีวิตแต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ฉันเลือกที่จะปฏิเสธไปทุกคน..
เรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับฉันได้สอนอะไรหลายอย่างให้ฉันรู้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ฉันเฝ้าถามตัวเองว่า เมื่อไรกันที่ฉันจะลืมเขาได้ซักที คำตอบที่ได้เหมือนกันทุกครั้งไป
.ไม่มีวัน
เขาจะเป็นรักเดียวของฉันตลอดไป แม้วันนี้เราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันแต่ซักวันความฝันของฉันจะเป็นจริง ฉันยังเชื่อว่าเขารอฉันอยู่ที่อีกโลกหนึ่ง เขาจะยืนยิ้มต้อนรับฉันเมื่อถึงเวลาที่เราจะได้พบกัน
แหวนของเรา รูปของเรา ทุกอย่างที่เคยเป็นของเรา มันยังคงอยู่ที่เดิมในห้องแห่งความทรงจำและทุกครั้งที่ดาวเต็มท้องฟ้า ฉันจะนั่งดูดาวส่องแสงระยับจับนภาที่ระเบียงห้องนั้นเสมอ แต่ถึงมันจะไม่มีดาว
ฉันก็ยังคิดถึงเขาไม่เปลี่ยนแปลง
วันนี้ฉันจะกลับไปที่ห้องนั้น
.ที่จริงแล้ว เมื่อวานฉันก็กลับไป สองวันก่อนก็กลับไป สองอาทิตย์ก่อนก็กลับไป สามเดือนก่อนก็กลับไป สามปีก่อนก็กลับไป ฉันกลับมาที่นี่ทุกวันและไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนก็จะกลับมาที่นี่อีกเช่นกัน
ถึงแม้ว่าฉันจะพูดออกไปว่าจะมีความสุขมากแค่ไหน แต่ทุกครั้งที่นั่งบนพื้นระเบียงนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาทุกครั้งไป ทุกครั้งที่มีเวลาว่างพอจะคิดอะไร สิ่งแรกที่ฉันคิดถึงคือ..ทีเจ ฉันมาสามารถลบเขาออกจากหัวใจได้ คืนไหนที่ดาวเต็มท้องฟ้าหรือมีดาวเพียงดวงเดียว ฉันรู้สึกได้ว่า เขากำลังนั่งข้างๆ ตัวฉันและเรากุมมือกันไว้อย่างแนบแน่น น้ำตาที่เสียไปทุกหยดคือความทรงจำอันดีงาม หนึ่งมนุษย์หนึ่งวิญญาณ ที่ห้องแห่งนี้ จะมีเราตลอดไป
บทส่งท้าย
ฉันอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่เดินขวักไขว่กันไปมาในเมืองหลวง แม้ว่าจะมีคนเยอะมากเพียงใด แต่ฉันกลับรู้สึกว่าในโลกนี้เหลือเพียงฉันเพียงผู้เดียว แม้ว่าเวลาจะผ่านมาสามปี ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับเพื่อน ยิ้มและหัวเราะเหมือนคนอื่นๆ
“จ้า..แล้วพบกัน ใกล้จะไปถึงแล้ว บายจ๊ะ
”
ฉันวางสายก่อนจะถอนหายใจ แล้วเดินตรงไปยังทางม้าลายเพื่อข้ามถนน ฉันนัดกับเพื่อนไปดูหนังเพราะตอนนี้อยู่ในช่วงวันหยุด ทีเจ นายเห็นไหมว่าตอนี้ฉันมีความสุขมากแค่ไหน
กึก เพล้ง! โครมมม!!!
ฉันหันหลังกลับไปมองว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ยินเหมือนเสียงโทรศัพท์ตก
. ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ผู้คนก็ยังเดินไปมา ฉันยิ้มกับตัวเอง หมู่นี้เจออะไรมากเยอะ ท่าจะทำงานมากเกินไปอย่างที่เพื่อนบอก
ฉันหันกลับมาหวังจะเดินไปข้ามถนนต่อแต่ก็ต้องชะงัก เส้นทางข้างหน้าเป็นเส้นทางที่ฉันไม่รู้จัก มีตึกสูงระฟ้าที่ตั้งเรียงรายอยู่มากมาย ถนนดูซับซ้อนและเต็มไปด้วยซอกซอยต่างๆ ฉันเริ่มก้าวเดินไปข้างหน้าเพื่อหาทางออก แต่ไม่ว่าจะพยายามสักกี่ครั้งหรือเดินไปเส้นทางใดก็ตาม สุดปลายทางนั้นก็นำฉันกลับมายังที่เดิม
ฉันรู้สึกเหนื่อยและท้อใจจากนั้นจึงนั่งลงที่ฟุตบาท ฉันซุกหน้าไว้กับมือทั้งสองก่อนจะถอนหายใจ ถ้าตรงนี้มีทีเจอยู่ด้วยก็คงดี อีกแล้วซินะ คิดถึงเขาอีกแล้ว
เสียงรถที่ขับส่วนไปมาในถนนทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามองถนน ฉันกลับมาอยู่ที่ถนนสายเดิม มีกลุ่มฝูงชนมากมายวิ่งส่วนฉันไปด้วยความตื่นตระหนก พวกเขาวิ่งไปที่กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ที่กำลังล้อมวงดูอะไรบางอย่าง ฉันเฝ้ามองพวกเขาอย่างงงๆ
แต่ว่าฉันยังมีนัด ไม่มีเวลามากพอที่จะเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเดินตรงไปยังจุดหมาย และเห็นแจนกับแจงคู่ฝาแฝดที่ฉันสนิทที่สุดกำลังวิ่งตรงมาทางฉัน พวกเธอก็ดูตื่นตระหนกไม่ต่างจากคนอื่นๆ ฉันโบกมือทักพวกเธออย่างสนิทสนม แต่ทั้งสองทำเป็นไม่สนใจ
แจนและแจนวิ่งเข้ามาใกล้ ทำให้ฉันเอื้อมมือออกไปหวังจะจับร่างของทั้งสองเป็นการทักทาย แต่เธอทั้งสองกลับวิ่งผ่านฉันไป ราวกับฉันเป็นอากาศธาตุไม่มีตัวตน เธอทั้งสองวิ่งตรงไปยังกลุ่มคนพวกนั้น
ฉันเดินตามไปดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเพื่อนของฉันถึงได้วิ่งผ่านตัวฉันไปโดยที่มองไม่เห็นฉันแม้แต่นิด หรือว่านี่จะเป็นความฝัน แต่เป็นฝันที่เหมือนจริงมากๆ เลยล่ะ
ฉันแทรกตัวเข้าไปข้างในวงล้อมนั้น สิ่งที่เห็นทำให้ฉันตกใจจนไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย โทรศัพท์สีดำที่จำได้ดีว่าเป็นของฉันแตกกระจายอยู่ที่ปลายเท้าของร่างใครบางคนซึ่งนอนอยู่กับพื้น และร่างนั้นก็คือฉันเอง ฉันที่กำลังนอนจมกองเลือดอยู่
แจนและแจงตรงเข้าหาร่างของฉันแล้วร้องไห้กันยกใหญ่ พวกเธอพยายามร้องเรียกให้คนรอบข้างช่วย จากนั้นเสียงหวอของรถพยาบาลก็ดัง
“
โย
”
เสียงใครบางคนดังเข้ามาในหู เสียงของคนที่ฉันเฝ้ารอจะฟังมานานกว่าสามปี เสียงที่แสนจะคิดถึง
. ฉันหันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น
ร่างของชายหนุ่มในชุดสีขาวนวลยืนยิ้มให้ฉันอย่างอ่อนโยน ทีเจ
เขากลับมาแล้วจริงๆ ฉันนิ่งไปซักพักด้วยความดีใจ นี่เราตายแล้วจริงเหรอ
.
ทีเจยื่นมือออกมาให้ฉันเป็นการเชื้อเชิญให้ไปด้วยกัน ฉันหันกลับมามองร่างตัวเองในเวลานี้แล้วหันกลับมามองเขาอีกครั้ง ฉันจะเสียใจแค่ไหน ถ้าวันนี้ไม่เลือกไปกับคนที่ฉันรัก
..
ฉันยิ้มได้อย่างมีความสุข ไม่ใช่ยิ้มที่เสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไป มันเป็นยิ้มที่ออกมาจากความรู้สึกภายใน ตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุด ไม่เคยนึกเสียใจที่ได้รู้จักเขาคนนี้
ฉันยื่นมือออกไปจับกับมือของทีเจ
.มืออันแสนอุ่น ฉันยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมเขาถึงยังไม่ได้ไปเกิด และคำตอบที่ได้มันช่างเข้าข้างตัวเองเหลือเกิน เป็นเพราะเขาเอง
ก็รอฉันเหมือนกัน
ไม่ว่าเหตุผลที่แท้จริงจะเป็นอย่างไร แต่ฉันขอคิดแค่นี้ก็พอแล้ว ไม่อยากจะเจ็บปวดอีกต่อไป.. เราเดินฝ่าฝูงชนออกมาโดยที่ไม่มีใครเห็นเราแม้ซักคนเดียว
นี่คือสิ่งมหัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่ง คนในโลกนี้มีตั้งมากมายนับล้าน แต่ฉันกลับได้มาเจอกับเจ้าผีหนุ่มที่ขโมยเอาหัวใจฉันไปโดยไม่มีวันเรียกกลับคืนได้ มือที่จับกันนี้
.จะไม่มีวันปล่อยไปอย่างเด็ดขาด เราจะอยู่อย่างนี้ตลอดไป ดังที่ฉันเคยพูดเอาไว้ ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่ร้อยกี่พันชาติ ฉันจะรักคนคนเดียวกัน และเขาก็จับมือฉันอยู่ในตอนนี้ เราจะมีกันไม่เปลี่ยนแปลง
- จบ -
ข้อความที่โพสจะต้องไม่น้อยกว่า {{min_t_comment}} ตัวอักษรและไม่เกิน {{max_t_comment}} ตัวอักษร
กรอกชื่อด้วยนะ
_________
กรอกข้อมูลในช่องต่อไปนี้ไม่ครบ
หรือข้อมูลผิดพลาดครับ :
_____________________________
ช่วยกรอกอีกครั้งนะครับ
กรุณากรอกรหัสความปลอดภัย
ความคิดเห็น