ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Hikaru no go] เมื่อผมได้มาโลกการ์ตูน

    ลำดับตอนที่ #2 : โลกใหม่และเพื่อนใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 9 มี.ค. 59


       
        ตอนนี้ผมก็ได้รู้แล้วว่าทำไมเทพถึงบอกผมแบบนั้น...ตอนนี้ร่างกายของผมที่เกิดใหม่เป็น


          ผู้หญิง


        สิ่งที่ผมสงสัยว่าพรพิเศษ คือการที่ให้ผมเป็นผู้หญิงที่สิ่งแรกที่ผมคิดว่ามันน่าจะใช่ แต่ว่าผมก็จำได้ว่าเทพเขาพูดมาว่ายังงี้

       'แต่ว่าไม่ใช่สิ่งแรกที่เจ้าคิดเมื่อไปโลกนั้นแน่นอน'

       ซึ่งจนถึงตอนนี้ผมก็ยังคิดไม่ตกเลยว่าตกลงว่ามันคืออะไร แต่ว่าจะให้เด็ก 5 ขวบทำหน้าเครียดไม่สมกับวัยก็คงจะแปลกๆเพราะตอนนี้พ่ออยู่ข้างๆผมและตอนนี้ผมก็เหมือนมาอยู่ที่ญี่ปุ่นเลยทีเดียวแม้ว่าจะไม่ค่อยเหมือนที่ๆผมจากมาก็เถอะ แต่ว่าภาษาที่ใช้เป็นภาษาญี่ปุ่นไม่มีผิด

       "เจ้าตัวเล็ก มาลองชุดมา~" เสียงที่หลอนมากๆสำหรับผมดังขึ้นและก็ไม่ใช่ใครที่ไหน พี่ชายผมนั่นเอง

       "ม่าย~หนูไม่ใส่หรอก!!" ผมเลียนแบบการกระทำของเด็กผู้หญิงจากหนังเรื่องต่างๆแต่เสียงไม่ได้เลียนแบบเพราะเสียงของผมเนี่ยหวานแบบไม่รู้จะหวานยังไงแล้ว

      "มาดีซะดีๆ เดี๋ยวนี้ไม่ยอมพี่แล้วหรอ?" 'ฮาวาโนะ เทโอะ' พี่ชายของผมพูดขึ้นพร้อมกับทำท่าทาง เอ่อ ซับน้ำตา

      'พี่เหมือนสาวน้อยยังไงไม่รู้แฮะ' นี่คือสิ่งที่ผมคิด ผมว่าพี่ผมก็หล่อนะแต่ว่าพอทำท่าทางนั้นแล้วก็เหมือนสาววัยใสยังไงไม่รู้ พี่ผมอายุ15น่ะ ห่างกัน10ปี

      "อย่าแกล้งน้องสิลูก"เสียงของแม่ดังขึ้นมาพร้อมกับการปรากฎของสาวสวยวัย 35 ปีที่หน้าเหมือนคนอายุ 18 ปีได้ 'ฮาวาโนะ มาอิ'แม่ผมเป็นนางเเบบชื่อดังหุ่นต้องเป๊ะๆตลอด ความสวยของร่างนี้เหมือนได้พ่อแม่มาส่วนนึง ส่วนที่เหลือก็... มาจากเทพ

      "มาให้แม่แต่งตัวน้องดีกว่านะ หุๆ" ผมว่าแม่น่ากลัวกว่าพี่อีกนะครับ หน้าตาตอนนี้เหมือนตาแก่โรคจิตไม่มีผิด...

      "ฮ่าๆรื่นเริงกันตั้งแต่เช้าเลยนะ" เสียงทุ้มต่ำที่ดังขึ้นทำให้ผมรีบวิ่งไปหาทันที คนเดียวที่สามารถเอาพี่กับแม่อยู่ก็พ่อล่ะนะ

      "พ่อคะ ช่วยหนูด้วย" ตอนแรกพ่อทำหน้าจะปฎิเสธเมื่อเห็นหน้าพี่กับแม่แต่พอผมใช้ลูกอ้อนเล็กน้อย ก็...

      "คุณกับเทโอะหยุดก่อนเถอะ 'อายะ' กลัวแล้วเห็นไหม?" 

      ใช่แล้วในโลกนี้ผมได้ชื่อว่า'ฮาวาโนะ อายะ' เป็นชื่อที่เป็นผู้หญิงแบบสุดๆผมคงต้องทำใจสินะ เฮ้อ...

      "บู่ๆ พอแล้วก็ได้" เสียงแม่ของผมดังขึ้นอย่างงอนๆ เท่าที่ผมสังเกตมา'มาอิ'แม่ของผมนั้นหน้าตาเหมือนโลกเก่าแต่ตอนนี้ดูสวยกว่าเดิม(นิสัยก็เหมือนเดิม) ส่วนพ่อก็เหมือนเดิมเลยแต่ว่ามีอาชีพเป็นอาจารย์มหาลัยซึ่งผมยังไม่ได้ถามว่าพ่อสอนสาขาไหน

      "เจ้าตัวเล็กไปโรงเรียนเร็ว" พี่พูดพร้อมหยิบชุดนักเรียนอนุบาลมาให้ผม "หรือว่าไม่ให้ไปดี ถ้าคนอื่นเห็นน้องอาจจะพรากไปจากเราก็ได้นะแม่"ผมได้ยินพี่กระซิบกับแม่เบาๆ ผมได้ยินนะครับ!!

      "ให้น้องไปเถอะ แม่ให้บอดี้การ์ดดูแลน้อง 10 คนเรียบร้อยแล้ว"แม่ผมเอ่ยพลางกินอาหารเช้าไปพลางแล้วแม่ก็พูดต่อ

      "ลูกอีกแปปเดียวก็ต้องออกแล้วนี่นา อย่าสายล่ะ" มาอิพูดกับลูกชายของเธอเรียบๆ เธอเห็นลูกชายตาเหลือกรีบวิ่งออกจากบ้านไป ช่างเป็นภาพที่ตลกจริงๆ

      "โถ่ แม่นะแม่ มาเตือนตอนอีก 5 นาทีเข้าเรียนเนี่ยนะ!!"

       เทโอะไม่ลืมกล่าวด้วยความน้อยใจก่อนออกจากบ้าน...


      "เอาล่ะ ลูกจะให้แม่อาบน้ำให้ไหมจ้ะ?" ผมคิดว่าเสียงหวานๆแบบนี้มันแลน่ากลัวขึ้นถนัดตาเมื่อผมฟังจนจบประโยค

      "หนูอาบเองค่ะ" ผมรีบพูดจนลิ้นแทบพันกันแล้วรีบวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัวทันที

      "คุณนี่ก็แกล้งลูกจังเลยนะ" 'ฮาวาโนะ อิจิ'กล่าวกับภรรยาของตัวเองด้วยน้ำเสียงกลั้วขำ เรียกสายตางอนๆของผู้เป็นภรรยา

      "ก็ลูกน่ารักขนาดนี้ แล้วก็ฉันคิดว่าเราควรให้ลูกเรียนศิลปะป้องกันตัวไม่ก็ใส่แว่นหนาๆไปโรงเรียน"

       มาอิเอ่ยอย่างเป็นกังวล ใบหน้าสวยแลดูหมองลงเมื่อคิดว่าจะมีคนมาทำร้ายลูกเธอ

       "ถ้างั้นก็ใส่แว่นกับฝึกไปด้วยเลย" อิจิพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาเข้าใจว่าภรรยาเขากังวลลูกสาวแต่เขามีความรู้สึกว่าลูกสาวของเขานั้นน่าจะมีวุฒิภาวะมากกว่าลูกชายของเขาซะอีก




      
      "วันนี้ก็ตั้งใจเรียนนะจ้ะ" มาอิกล่าวกับลูกสาวตนเองอย่างร่าเริง เธอได้หอมแก้มลูกเมื่อกี้เลยมีความสุขมากๆ

       "ค่ะ" อายะตอบแม่ไปอย่างเรียบๆก่อนจะเดินเข้าไปโรงเรียนทันที

       พอลูกสาวหายไปจากสายตาแล้ว มาอิก็หยิบโทรศัพท์มาทันที

       "ถ้าลูกสาวชั้นเป็นอะไรไป...เตรียมตัวรับการลงโทษได้เลยนะจ้ะ" มาอิพูดกับปลายสายด้วยน้ำเสียงเหี้ยมๆก่อนจะขับรถออกเมื่อได้ยินอีกฝั่งตอบกลับมา

       "ครับ!!!" เหล่าบอดี้การ์ดรับคำและเดินตามคุณหนูอย่างห่างๆโดยไม่ให้คนที่ถูกปกป้องรู้ตัว





      "วันนี้เราก็มานับเลขกันดีกว่าเนอะ"ครูสาวเอ่ยกับนักเรียนพร้อมกับกวาดตามองไปทั่วๆห้องอย่างยิ้มแย้ม

       ผมมองสีหน้านักเรียนคนอื่นก่อนจะทำตามทันทีโดยไม่ให้เป็นที่ผิดสังเกต จริงๆแล้วผมอยากจะทำหน้าเบื่อหน่ายมากๆที่ต้องมาฝึกนับเลขใหม่เนี่ย

       'แต่ก็นะตอนนี้เรา 5 ขวบนี่นา...'

        




       "อายะจัง กินข้าวด้วยกันไหม?"

       เสียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นทำให้ผมต้องเงยหน้าจากหนังสือที่วิจัยเกี่ยวกับสารเคมีต่างๆขึ้นไปมอง เธอคนนี้มีผมสีชมพูกับดวงตากลมโตสีออกส้มๆ

       "เอาสิ เธอคือ?" ผมไม่ได้ฟังตอนเด็กๆแนะนำตัวสักเท่าไหร่ถึงผมจะเป็นเด็กเหมือนกันก็เถอะ ว่าแต่นี้เที่ยงแล้วหรอ?

       "ฟูจิซากิ อาคาริจ้า" เธอพูดยิ้มก่อนจะลากเด็กชายคนนึงมาด้วยซึ่งดูเหมือนว่าเด็กคนนั้นจะไม่ค่อยชอบใจสักเท่าไหร่

       "ยัยอาคาริ เบาๆหน่อยสิ" เด็กชายผมสีน้ำตาลออกดำๆเอ่ยขึ้นอย่างหัวเสีย"เอ๊ะ! เธอ..."

        ผมมองเด็กผู้ชายคนนั้นที่พอมองหน้าผมแล้วก็หันไปทางอื่น(?) นี่ผมมันไม่น่าดูขนาดนั้นเลยหรอ?

        "เจ้าบ้านี่ชื่อ ชินโด ฮิคารุนะ" อาคาริพูดขึ้นก่อนจะเอ่ยต่อ"แต่ว่าเธอเก่งจังนะที่มาตอนอนุบาล3ได้เลยแบบเนี้ย"

        "ไม่หรอก ไปกินข้าวกัน" ผมยิ้มให้เพื่อนคนใหม่แล้วเดินนำพวกเขาไปมุมที่ผมชอบมากๆในโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้

         มุมที่มีต้นซากุระ

        "ว้าว~สวยจังเลย" อาคาริพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น เธอไม่คิดเลยว่าจะมีสถานที่สวยๆแบบนี้ที่นี่

        "ก็สวยดี..." ฮิคารุเอ่ยขึ้นหลังจากที่มองไปรอบๆแล้วหยุดสายตาไว้ตรงที่มีเด็กผู้หญิงที่ชื่ออายะนั่งอยู่

        ผมเห็นเด็กพวกนี้ถือข้าวกล่องมาด้วยเลยแนะนำให้มานั่งที่นี่ มันเป็นมุมที่สงบมากๆตอนเที่ยงๆผมชอบมากินที่นี่บ่อยๆบางทีก็รู้สึกมีคนแอบมองแต่หันไปก็ไม่มีใคร มันน่าแปลกมากๆ บางทีถ้ามีหลายๆคนอยู่ผมอาจจะถามเพื่อนว่ารู้สึกเหมือนผมไหมที่มีคนแอบมองน่ะอะไรแบบนี้

       "ข้าวกล่องของอายะจังน่าทานจังเลย~" 

        เมื่อได้ยินเพื่อนใหม่พูดอย่างนั้นผมก็ยื่นข้าวกล่องสุดหรูที่แม่ทำให้ การมีเพื่อนนี่ก็สนุกดีนะ ผมไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาชวนมากินข้าวก่อนแบบนี้ รู้สึกดีใจยังไงไม่รู้...

       "ง่ำๆอร่อยจัง ขอบใจนะจ้ะ"

       "ไหนๆกินบ้างสิ!!!" เด็กชายที่ตอนแรกเขินอายก็เอาตะเกียบมาฉกเทมปุระของอายะที่อยู่บนข้าวกล่องอาคาริ

       "หน็อย ฮิคารุอย่าแย่งน้า!!" อาคาริก็ไม่ยอมยกข้าวกล่องหนีไปมาจนข้าวกล่องตนเองหล่นลงพื้น

       "ฮึกฮือๆ" เด็กสาวที่พบว่าข้าวตัวเองหล่นก็เริ่มสะอื้น จนเด็กชายตัวต้นเหตุตกใจทำหน้าไม่ถูก

       "กินข้าวกล่องของฉันก็ได้นะ อาคาริจัง" ผมพูดพร้อมกับลูบหัวเธอไปด้วย เวลาน้องๆร้องไห้ผมก็ปลอบประมาณนี้เนี่ยแหละ

       "ฮึกๆ ขอบใจนะจ้ะ อายะจัง" เธอเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับผม เลิกร้องไห้ก็ดีแล้วล่ะนะ ผมคิดในใจก่อนจะหันไปมองฮิคารุเป็นเชิงว่า'นายควรจะขอโทษอาคารินะ'ประมาณนี้

       ฮิคารุที่ได้สบตากับเพื่อนใหม่ของตนที่มีแววแน่วแน่มองเขาสลับกับเพื่อนสนิทก็ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิดแล้วขอโทษด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ

       "อาคาริ..ชั้น...ขอโทษ"

       เด็กสาวที่ได้ยินเพื่อนขอโทษก็ยิ้มอ่อนๆให้เป็นเชิงว่า'ไม่เป็นไร' และพวกผมก็กินข้าวพร้อมกับคุยเรื่องนู้นนี่นั้นตามประสาของเด็กๆ พอรู้สึกตัวอีกทีพวกเราก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันซะแล้ว










    100%


    ฟูจิซากิ อาคาริ

     

    ชินโด ฮิคารุ (เดี๋ยวจะเอาตอนโตขึ้นมาลงหาตอนเด็กไม่เจอ+ไรท์คิดเอาเองว่าตอนเด็กผมสีน้ำตาลออกดำๆเลยไม่น่าจะมีภาพ)



    ปล.ขอบคุณสำหรับคอมเม้นแล้วก็ขอบคุณคนที่อ่านนะ

         แล้วก็คนFavด้วย=w=

        

      


      
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×