ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short-Fic SNSD] Stranger [TaeNy]

    ลำดับตอนที่ #12 : STRANGER 8

    • อัปเดตล่าสุด 6 ต.ค. 57


    Stranger 8


                     แสงสีทองของดวงอาทิตย์แทรกแซมผ่านกลีบเมฆต้อนรับรุ่งอรุณวันใหม่ที่แสนสดใส สองร่างเปลือยเปล่านอนหลับใหลกอดกันตัวกลมภายในผ้าห่มก้อนโต อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่ถูกเปิดไว้ทำให้คนนอนรู้สึกผ่อนคลายเหมือนได้ชาร์ตแบตใหม่หลังจากทำกิจกรรม(?)เมื่อคืน

    อือออ..

                          หญิงสาวร่างบางหลุดครางออกมาด้วยความงัวเงียดวงตายิ้มที่สามารถทำให้โลกดูสดใสขึ้นได้ตลอดเวลาค่อยๆปรือขึ้นอย่างช้าๆ เจ้าตัวพยายามปรับสายตาให้ชัดขึ้นและกลอกตามองไปรอบๆ สิ่งแรกที่พบเห็นในเช้าวันสดใสก็คงจะไม่พ้นเจ้าหมาต่างดาวที่เมื่อคืนได้กลายร่างเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์ที่เอาแต่เขมือบเธอไม่รู้จักหยุดไม่รู้จักเหนื่อย ใบหน้าหวานออกแดงระเรื่อขึ้นเล็กน้อย ริมผีปากบางคลี่ยิ้มละมุนขึ้นจนนัยน์ตาหวานกลายเป็นสระอิเพียงแค่นึกถึงเรื่องราวในคืนอันแสนหอมหวานของตนและคนตรงหน้า

                          มือบางของทนายสาวตายิ้มขยับยกขึ้นมาเกลี่ยผมที่ปรกหน้าคนที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอย่างทะนุถนอม ก่อนจะจุมพิตลงบนเกล้ากระหม่อมหอมของคนตัวเล็ก ก่อนที่จะค่อยๆละออกมา

    อืออ...

                          เจ้าหมาน้อยในอ้อมกอดของคนที่ตื่นขึ้นก่อน ครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงบางอย่างที่รบกวนบนใบหน้าของตน ขณะที่กำลังนอนหลับฝันดีไม่อยากตื่น หัวคิ้วเล็ก(บาง?)ขมวดกันเป็นปมหน่อย ๆ แต่แทนที่คนตัวเล็กจะตื่นเจ้าตัวกลับกอดรัดคนที่แกล้งตัวเองแน่นขึ้นราวกับหาไออุ่นและไม่สนใจสิ่งอื่นใดนอกจากการนอน

    คิคิ .. ไอหมาขี้เซา

                          ทิฟฟานี่หลุดหัวเราะขึ้นเบาๆเมื่อได้เห็นท่าทีของคนตัวเล็ก สมองอันชาญฉลาดจึงคิดหาวิธีแกล้งคนที่เอาแต่ซุกเธอด้วยความรวดเร็ว

    -คิดว่าจะยอมให้นอนสบายๆรึไงไอหมาบ้า คิคิ-


    อืออ..ย๊า...อะไรเนี่ยยยยเจ้าหมาต่างดาวคลายมือจากอ้อมกอดสุดหวงแหน มาปัดป่ายอุ้งมือหมี(?) ที่กำลังจับแก้มของตนฉีกไปมาอย่างสนุกสนาน บ้างก็เอานิ้วเปิดเปลือกตาของคนตัวเล็กให้ลืมขึ้นทั้งที่เจ้าตัวยังไม่ตื่นดีด้วยซ้ำ

    คิคิ แทยอนนา..ตื่นได้แล้วร่างบางโน้มหน้าไปประทับริมฝีปากบางของคนขี้เซาอย่างเอาใจ จนคนร่างเล็กที่นอนอยู่ต้องใจอ่อนต้องลืมตาตื่นขึ้นจริงๆอย่างช่วยไม่ได้

    “’งืออออ แกล้งเค้าทำไมอ่า..หมาต่างดาวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงงอแงราวกับเด็ก 5 ขวบที่ถูกขัดใจ ใบหน้างุ้มงอถูกส่งไปให้คนร่างบางที่นอนสบตาอยู่ตรงข้ามกันอย่างตัดพ้อเล็กๆที่ถูกแกล้งจนตื่น

    โอ๋ ... ไม่งอนนะคะ ก็แทแทน่ะ ..ทำฟานี่เหนื่อย ทั้งคืน อย่าขี้โกงด้วยการหลับเป็นตายคนเดียวอย่างนี้สิ

                          ใบหน้าหวานของคนพูดขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินกับประโยคที่ตนเป็นคนพูดเองเสียแท้ๆ จนทำให้คนที่พึ่งตื่นอดที่จะกลั้นหัวเราะไม่ได้ ท่าทีของเด็ก5ขวบเมื่อสักครู่หายวับไปราวกับไม่เคยเกิดขึ้นปรากฏให้เห็นรอยยิ้มมีเลศนัยบนมุมปากบางของคนตัวเล็ก ที่กำลังขยับตัวเอาคางมาเกยที่ไหล่ของคนตัวใหญ่กว่า(?)นิดหน่อยจนใบหน้าของทั้งสองใกล้ชิดกันในระยะได้ยินเสียงหัวใจ

    หรออออ.. แล้วฟานี่อยากเหนื่อย อีกมั้ยล่ะ ใบหน้าขี้เล่นยกยิ้มขึ้นก่อนจะจูบเข้าที่ปลายคางของคนร่างบางที่ตอนนี้เป็นฝ่ายถูกรุกจนเขินแทบจะมุดผ้าห่มหนี ตอนแรกแกล้งเขาอยู่ดีๆไหงกลายเป็นเธอถูกแกล้งกลับจนหมดท่าเสียอย่างนั้น

    บ้า.. ไม่คุยกับแทแทแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า

                          ร่างเปลือยเปล่าของร่างบางหยิบชุดที่ตกอยู่มาใส่ลวกๆ ในใจเธอเขินอายเกินกว่าที่จะเดินไปเข้าห้องน้ำตัวเปล่าๆแบบนั้น ก็มันยังไม่ชินนี่นา... สองขาเรียวที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำต้องหยุดชะงัก และแทบสะดุ้งเมื่อหันไปเห็นว่ามีใครอีกคนเดินตามมาทางเดียวกันกับที่เธอจะไปอย่างประชิดตัว

    อ๊า!ตกใจหมด แทแทเดินตามฟานี่มาทำไมคะ?

    อ่าวววว...ก็ฟานี่จะอาบน้ำไม่ใช่หรอ แทก็อาบด้วยงายยยยใบหน้าขาวฉีกยิ้มกว้างที่แสนซื่อให้จนเกิดลักยิ้มบุ๋มที่มุมปาก ใบหน้าแสนซนของหมาต่างดาวที่กลายเป็นคนขี้เล่นตอนนี้ช่างน่ารักเสียจริงๆ ได้กินเธอครั้งเดียวนี่เปลี่ยนไปอย่างกับโดนค้อนทุบหัวเลยหรอเนี่ย

    บ้า!ใครว่าฟานี่จะให้แทแทอาบด้วยล่ะ ..ไปอาบห้องอื่นเลย-////-” พูดจบคุณปุ๊ปนายฮวังก็เดินสะบัดก้นหนีเข้าห้องน้ำเพื่อซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำราวกับมะเขือเทศสุกที่ถูกทาทับด้วยสีแดงนั่นไป และอีกคนก็ไม่วายที่จะ....

    จะไม่ให้แทอาบด้วยจริงๆหรออออออออออ

                          และนั้นคือเสียงสุดท้ายของคิมแทยอนที่ตะโกนข้ามประตูมาเพื่อแกล้งเธอ มีหนำซ้ำตบท้ายของหวานด้วยเสียงหัวเราะอาจุมม่าแถมให้อีก ทำไมมันทำตัวน่าเตะอย่างนี้ อ๊ากกกกกก

    -ไอ่หมานี่มันนนนน... ฮึ่ยยยย-

     
    .

    .

    .

    .

    ติ๊งน๋องงง ติ๊งน๋องงงง ติ๊งน๋องงงงง

    ค่า....

    ติ๊งน๋องงง ติ๊งน๋องงงง ติ๊งน๋องงงงง ติ๊งน๋องงง ติ๊งน๋องงงง ติ๊งน๋องงงงง

    เอ้อๆๆ .. รู้แล้วค่าโว้ยยยยยทิฟฟานี่ตะโกนขานรับแขกที่กดกริ่งรัวๆอยู่หน้าห้องของเธอ ก็คาดว่าจะเป็นอิตาหมวดควอน ยูรินั่นแหละที่นัดทนายสาวสุดสวยอย่างเธอไปให้ปากคำกับตำรวจเรื่องที่โดนลักพาตัวเมื่อวันก่อน

    แกร่กกก..

    ทิพาเน่!!!!!...ทันทีที่คนเป็นเจ้าของห้องเปิดประตู ก็ถูกคุณหมวดหน้าคมที่ตอนนี้ทำหน้าเบะเหมือนเด็กสี่ขวบที่หลงทางมาเจอกับผู้ปกครองกอดรัดซะเข้าให้เหมือนไม่ได้เจอกันมาสิบชาติ ก็แหงล่ะ มันก็คงไม่เว่อร์ไปหรอกเพราะยูริเป็นเพื่อนรักที่เธอถือว่าสนิทสุดๆเลยล่ะ


    ฟานี่อา..ใครมาหรอแทยอนที่นั่งคอยอยู่เห็นคนรักหายไปนานจึงเดินมาดูแล้วโค้งทักทายให้แขกเพียงเล็กน้อย ดวงตาสีอัลมอนจดจ้องไปที่คนที่กอดคนรักอยู่อย่างไม่บ่งบอกความรู้สึกใด มีแต่รอยยิ้มบางๆที่มุมปากถูกส่งไปเท่านั้น

                          ดวงตาหวานของทนายสาวมองลอดผ่านไหล่ของคุณตำรวจไปก็พบกับผู้หญิงผมสีน้ำตาลบลอนด์ เรือนร่างเล็กสง่างามรูปร่างผอมเพรียวกำลังยืนอมยิ้มให้เธอพร้อมกับก้มหัวทักทายอย่างเป็นมิตร ไม่ต้องเดาเลยว่าใคร แน่นอนว่าต้องเป็นแฟนสาวสิก้าจ๋าที่ยูริพร่ำเพ้อให้ฟังบ่อยๆว่าน่ารักงู้นงี้งั้นแน่ๆ

                          สองเพื่อนรักที่ยืนกอดกันหน้าประตูห้องผละออกจากกันหลังจากที่คุณยูลลิงหวงเพื่อนกอดจนพอใจ

    ฟานี่เธอไม่เป็นอะไรใช่มั้ยยูริถามขึ้นทันทีที่ทุกคนเข้ามารวมกันที่โซฟา

    อืมไม่เป็นไรหรอกขอบใจมากนะยูลคนถูกถามยิ้มตอบเพื่อให้เพื่อนรักสบายใจ

    ยูริ ฟานี่ต้องไปให้ปากคำกี่โมงหรอ?แทยอนที่นั่งข้างทนายสาวเอ่ยถามคุณตำรวจเพียงคนเดียวในห้อง

    อ่า..ก็ใกล้ได้เวลาแล้วล่ะ ฉันให้สิก้ามาอยู่เป็นเพื่อนคุณแล้ว ..ไม่ต้องเป็นห่วงนะคนหน้าคมก้มมองเข็มนาฬิกาข้อมือเรือนหรูแล้วตอบรับคำถามของคนตัวเล็ก ..พร้อมกับเน้นย้ำประโยคสุดท้ายด้วยน้ำเสียงและสายตาที่จริงใจ ... พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฎอย่างไม่ปกปิด

     

    -หรือว่ายูล..-

     

                          ทิฟฟานี่แอบมองเสี้ยวหน้าของยูริด้วยความกังวลที่เริ่มก่อเกิดขึ้นในใจ หรือว่าเขาจะรู้แล้วเรื่องที่แทยอนไม่ใช่มนุษย์ ? น่าแปลก... ตั้งแต่เข้าห้องมาพูดคุยกัน ยูริไม่ได้ถามเธอด้วยซ้ำว่ารอดจากการลักพาตัวนั้นได้อย่างไร อีกอย่าง..สายตาแปลกๆที่เจสสิก้ามองแทยอนตั้งแต่พบเจอกันทั้งที่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็ดูแปลกๆชอบกล เหมือนมองทะลุปรุโปร่งไปเสียทุกอย่าง นี่มันอะไรกัน..

    ฟานี่ไปเถอะ ได้เวลาแล้วนะ เดี๋ยวแทอยู่กับคุณเจสสิก้าได้คนตัวเล็กแตะไหล่ทนายสาวที่นั่งเหม่ออยู่กับความคิดของตัวเองพร้อมกับเอ่ยประโยคให้หายเป็นห่วง จนคนเหม่อลอยชายหน้ากลับมามอง

    “…”

    ไม่ต้องห่วงหน่า .. แทยอนยิ้มละมุนให้อีกครั้งเพื่อให้คนขี้กังวลสบายใจ หญิงสาวพยักหน้ารับแล้วค่อยๆลุกออกจากห้องไปพร้อมกับยูริ

    .

    .
    .
    .
    .

    ยูล..เรื่องคดีน่ะ คือ..น้ำเสียงติดกังวลของทิฟฟานี่ดังขึ้น ภายหลังจากที่ทั้งสองคนเดินทิ้งระยะออกมาจากห้องของคนตายิ้มได้ไม่นานนัก

    ไม่ต้องห่วงนะเรื่องนั้นน่ะ ฉันรู้หมดแล้วยูริหันมายิ้มให้ ซึ่งทำให้คนที่ถูกถามตกใจจนหน้าซีดเผือดกับประโยคของเพื่อนรัก

    ห..ห๊ะ ? หมายความว่ายูล..

    ก็หมายความว่าอย่างนั้นแหละฟานี่ .. ไม่ต้องห่วงนะ เรื่องคดีฉันจะช่วยเธอเองและคำตอบสุดท้ายของคุณตำรวจที่ยิ้มให้เธออย่างเอ็นดูก่อนที่จะเดินนำออกไป ก็ไม่ได้ช่วยให้เธอเข้าใจอะไรมากขึ้นเลย ทิฟฟานี่ยืนนิ่งสับสนคำพูดของคนเป็นเพื่อนอยู่ชั่วครู่ก่อนที่จะเดินตามออกไปเมื่อคนที่นำไปก่อนหันมาเรียก ..

    -เธอรู้ ... รู้อะไรกันแน่? ยูริ-

     
    .

    .
    .
    .
    .
    .
    .

                          ภายในห้องคอนโดสุดหรูเหลือเพียงแค่สาวผมบลอนด์และหมาต่างดาวตัวเล็กเท่านั้นที่ยังคงนั่งเงียบอยู่ ร่างเล็กที่นั่งเกร็งแอบมองเสี้ยวหน้าของใครอีกคนผู้เป็นแฟนสาวของยูริด้วยแววตาสงสัย ผู้หญิงคนนี้ยังคงมองเขาไม่ละสายตาตั้งแต่ได้เจอกันวันนี้ แววตาและรอยยิ้มเป็นมิตรที่ดูเหมือนซ้อนความเป็นห่วงกังวลในบางอย่างเอาไว้ บวกกับสายตาใสคู่นั้นที่ราวกับมองพิจารณาเธอไปทุกซอกทุกมุม ทำให้อดไม่ได้ที่แทยอนจะเป็นฝ่ายเริ่มปริปากทำลายความเงียบ

    เอ่อ..คือคุณ ชื่อเจสสก้าใช่มั้ยคะร่างเล็กเปิดประเด็นด้วยการกล่าวทักทายผูกมิตร

    ค่ะแทยอน ฉันชื่อเจสสิก้าหญิงสาวเรียวปากชมพูบางเอียงคอยิ้มให้ด้วยความน่ารัก

    อ๋อออ...

    ฉันแปลกใจมากเลยนะคะ ที่รู้ว่ามีพวกเราได้มาอยู่ที่นี่อีกคน

    เอ๋..?แทยอนหันมามองคนเอ่ยประโยคชวนสงสัยแทบจะทันทีที่หล่อนพูดออกมา

    ครึ่งเสี้ยวน่ะ ส่วนมากก็ถูกฆ่าตายกันหมด ....ไม่ใช่รึไง

    คุณรู้..?

    .......

    ไม่สิ อย่าบอกนะว่าคุณ...

    ใช่ค่ะ ฉันก็ เคยเป็นเหมือนคุณนี่แหละ

    ..จริงหรอแทยอนเบิกตากว้างกับคำตอบที่เหนือความคาดหมาย ผู้หญิงร่างบอบบางตรงหน้าเธอเนี่ยนะ .. เหลือเชื่อ

    แล้วแทยอน คุณรอดมาได้ยังไงหรอคะหญิงสาวไม่ตอบประโยคที่ดูเหมือนคำถามนั้นแต่อย่างใด เจ้าของประโยคคำถามสบแววตาวูบไหวของคนฟังที่ถูกถามถึงเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้หรือพูดง่ายๆว่ามันมีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดขึ้น น้อยคนที่จะหนีออกมาได้แล้วมีชีวิตอยู่รอดครบสามสิบสอง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่พวกเขาจะมีโอกาสได้เริ่มชีวิตใหม่บนเส้นด้ายบางๆที่มิอาจมีใครรู้ว่า ... มันจะขาด หรือ มันจะถูกถักทอให้แข็งแกร่ง


    คือฉัน...

     

     

     

    รหัส SS9 – KIM TAEYEON

     

    ประกาศ ประกาศ นี่คือฏีกาจากยานแม่ วันนี้เป็นวันที่เบื้องบนกำหนดให้มีการตรวจสอบหาพวกครึ่งเสี้ยวในหมู่เรา ขอให้ทุกคนมารวมกันที่ศูนย์กลาง เข้าแถวให้เป็นระเบียบอย่าได้คิดตุกติกจงปฏิบัติตามกฎให้เรียบร้อย

     

                คนตัวเล็กยืนเข้าแถวอยู่ท่ามกลางเพื่อนมนุษย์ต่างดาวมากมาย วันนี้ของทุกๆปีจะมีการตรวจพวกครึ่งเสี้ยว พวกเราที่โตเต็มวัยรุ่นใหม่จะต้องถูกตรวจสอบ มันเป็นช่วงที่ DNA จะแสดงออกอย่างชัดเจน..ไม่มีใครรู้มาก่อนว่าตัวเองจะเป็นอะไร แล้วถ้าหากเป็นพวกครึ่งเสี้ยว ต่อจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น .. ไม่มีใครรู้และไม่มีใครจะรู้ มันขึ้นอยู่กับ โชตชะตา

     

    อา อา .. ฮัลโหล อะฮื้ม .. ยินดีต้อนรับพวกโตเต็มวัยรุ่นใหม่ทุกท่าน อยากที่ทราบกันดีว่าดาวของเราได้มีการจัดตรวจสอบขึ้นทุกปี วันนี้เป็นวันแรกที่พวกนายทุกคน ณ ที่นี้โตเต็มไวและอาจเป็นวันที่เปลี่ยนชะตาของพวกนายบางคน ... พวกนายรู้หรือเปล่าว่าพวกครึ่งเสี้ยวเป็นยังไง พวกครึ่งเสี้ยว!คือพวกที่ครึ่งหนึ่งมี DNA ของเอเลี่ยนอย่างเราๆแต่อีกครึ่งหนึ่งมีการเป็นสภาพเป็นDNAของมนุษย์ ใช่แล้ว .. คนที่เป็นครึ่งเสี้ยวถือเป็นอันตรายของดาวเราและคนที่ไม่เข้าพวกไม่สมควรอยู่ที่นี่! ... ขอให้ทุกคน โชคดี

     

                    สิ้นเสียงประกาศอันน่าเกรงขามจากคนที่ดูเหมือนเป็นหัวหน้าหน่วย หัวแถวที่เคยหยุดนิ่งเริ่มเคลื่อนไหว ผู้คุมนำเครื่องตรวจที่ลักษณะคล้ายด้ามจับปืนมากดยิงบริเวณข้างมือ ทันทีที่เลือดของผู้ถูกตรวจสัมผัสเซนเซอร์ผลของ DNA ก็จะปรากฎขึ้นบนหน้าปัดเล็กๆของเครื่องทันที

    ผ่าน .. คนต่อไป

    ผ่าน .. คนต่อไป

     
     

                    เสียงของผู้คุมดังขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า แถวที่เคยยาวเริ่มลดเหลือเพียงน้อยนิด สีหน้าของคนที่ยังไม่ถูกตรวจแต่ละคนฉายความกังวลลึกๆอย่างชัดเจน รวมถึงแทยอนก็ด้วยทุกก้าวเดินผ่านไปด้วยความวิตก อย่างที่บอก ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาจะเป็นพวกครึ่งเสี้ยวมั้ย แล้วถ้าใช่ ... จะเกิดอะไรขึ้น

    ตี๊ดดดดด ตี๊ดดๆๆเครื่องตรวจดังขึ้น ทำให้บรรยากาศที่สงบเรียบร้อยกลับเงียบสงัดดังป่าช้าขึ้นไปอีก

    ม..ไม่จริงหัวแถวล่าสุดที่ถัดจากแทยอน3 คน โพล่งขึ้นมาด้วยความหวาดกลัว

    เดี๋ยว! จะพาผมไปไหน!? ..ไม่!ไม่! อย่านะ!!” ทุกคนที่เข้าตรวจเริ่มตกอยู่ในสภาวะหวาดกลัว ทันทีที่ชายคนนั้นโดนการ์ด2 คนหิ้วปีกไป และทันทีที่พ้นสายตา

    .. ปัง!!! ..

     
     

                เสียงปืนดังขึ้น ทำให้เกิดจลาจลอย่างย่อมๆ ผู้เข้าตรวจบางคนหวาดกลัวจนแทบจะวิ่งหนีออกจากแถว คนตัวเล็กเองก็รู้สึกกดดัน ความกังวลกำลังเกาะกุมตัวเขาปรากฎให้เห็นได้ชัดจากเหงื่อที่เริ่มซึมตามไรผม ขาที่เคยก้าวไปข้างหน้าแทบจะหยุดนิ่งแต่หากจำเป็นต้องก้าวต่อไปด้วยความหวาดกลัว ใกล้ถึงคิวเขาแล้วและคงได้แต่ภาวนาอย่าให้โชคชะตาเล่นตลกกับเขา

    หยุดอยู่กับที่เดี๋ยวนี้ผู้เข้าตรวจ!”  เสียงของหัวหน้าหน่วยคนเดิมดังขึ้นอีกครั้ง การจลาจลเงียบๆและเสียงอื้ออึงจึงค่อยๆหยุดลง พลันน้ำเสียงเย็นยะเยือกนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

    ใครที่คิดจะขัดขืนขอให้หยุดความคิดนั้นซะ ไม่งั้นนายก็จะถูกลงโทษแบบเดียวกับพวกนั้น .. ผมบอกพวกคุณแล้ว ว่าคนที่ไม่เข้าพวกไม่สมควรอยู่ที่นี่

     





     

    คนต่อไป

    ผ่าน..คนต่อไป

    ... ปัง .. เสียงปืนดังอีกครั้ง จากผู้ถูกตรวจแถวอื่น .. สถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ

    ผ่าน คนต่อไป

    ผ่าน คนต่อไป ....

    .......

    คนต่อไป ... เฮ้!เธอ ไม่ได้ยินรึไง

    รหัส ss9 คิมแทยอน ไม่ได้ยินรึไง

    คิมแทยอน!”

     
     

    ค..ค่ะอีกครั้งกับการก้าวไปอย่างหวาดกลัว ได้โปรดเถอะ ..

    ... ฉึกกก .. เครื่องตรวจถูกกดลงบริเวณข้างมือ และ...

     

    ตี๊ดดด ตี๊ดๆๆๆ เสียงหวีดร้องของเครื่องตรวจดังขึ้นแข่งกับความเงียบงัน เหมือนเสียงเรียกจากนรกชี้ทางตายให้กับร่างเล็กที่ตะลึงงันกับโชคชะตาที่กำลังเล่นตลกกับตัวเขาเอง

    มะ ไม่นะ ... ไม่จริงดวงตาเบิกโพลงกว้างกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง มันคงไม่ใช่เรื่องน่าดีใจนักที่การเป็นครึ่งเสี้ยวจะเก่งกว่าคนอื่นเพราะจุดจบของมันคือ ความตาย...

    ไม่ๆๆ ฉันไม่ได้....อ๊ะ! ปล่อยสิเว่ย! สองแขนของร่างเล็กถูกจับกุมและลากออกไปจากแถว ด้วยเรี่ยวแรงของคนๆเดียวหรือจะสู้สองคนได้ถึงแม้จะพยายามฉุดรั้งอย่างไรก็คงไม่ไหว

     
     

                ฉันจะต้องทำยังไง ... ต้องทำยังไง ฉันไม่อยากตาย ฉันต้องทำยังไง สมองของคนตัวเล็กขบคิดหาวิธีหนีรอดด้วยเวลาอันน้อยนิด ก่อนจะไปถึงตรงนั้นตรงที่เขาจะต้องจบชีวิตลง

    คุกเข่าลงสองเท้าหยุดนิ่ง รอบๆบริเวณนั้นปรากฏภาพที่ใครเห็นก็ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความสะอิดสะเอียน พื้นลานที่กระจายไปด้วยร่องรอยของความตาย..คราบเลือด..กลิ่นคาวและซากศพ...มีศพของครึ่งเสี้ยวคนก่อนหน้าที่จบชีวิตลงก่อนที่เขาจะมาถึงเมื่อไม่นาน

    .....ร่างเล็กได้แต่ยืนนิ่งสงบนิ่ง เพื่อสยบความกลัวเกิดขึ้นอยู่ในใจ ดวงตาที่สั่นระริกไม่สามารถปกปิดความกลัวและความสับสนได้เลย

     

    “ss9 คิมแทยอน คุกเข่าลงสมองและประสาทสัมผัสยังคงรับรู้ แต่หากร่างกายมันไม่ขยับ

    ปั๊กกก! .. คุกเข่า!” ความเจ็บปวดแล่นพล่านมาจากด้านหลัง สันปืนเหล็กที่แข็งกร้าวเหมือนเจ้าของถูกกระแทกลงมาบนหลัง เพราะคนตัวเล็กมีทีท่าจะขัดขืนคำสั่ง

    มีอะไรอยากพูดก่อนตายมั้ย ครึ่งเสี้ยว ..ปากกระบอกปืนเย็นเฉียบถูกจ่อเล็งไปหาจุดตายอย่างไร้ความปราณี

    ..ตึกกก ตึกกๆ... ก้อนเนื้อข้างซ้ายที่ไม่เคยมีความรู้สึกกลับเต้นรัวอย่างน่าประหลาดใจ ราวกับบ่งบอกว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น...

    ฉัน .. ต้องไม่ตาย

    ..ปังงงงง!!!...

     

                     เม็ดกระสุนสีเงินแวววาวสะท้อนแสงหมุนวนเป็นเกลียวออกจากปลายกระบอกสีดำที่คละคลุ้งไปด้วยเขม่าดินปืน หากแต่เป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นที่ลูกกระสุนได้พุ่งตรงมาหาคนร่างเล็กด้วยความเร็วสูง ราวกับภาพสโลว์โมชั่นในหนังภาพยนตร์เหมือนกับทุกสิ่งทุกอย่างจะหยุดเคลื่อนไหว แต่เปล่าเลย..มีเพียงกระสุนแห่งความตายนัดนั้นที่ค่อยๆหยุดความเร็วลงและหยุดอยู่แทบจะแนบชิดกับตำแหน่งหัวใจของคนร่างเล็ก

     

    ฉันต้องไม่ตาย!!”

     

                     คนตัวเล็กที่เคยก้มหน้าหลับตาเหมือนรอรับความตายอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นสบตาเพชฌฆาตที่กำลังตกใจกลัวด้วยแววตาก้าวโกรธ และไม่ต้องเสียเวลาที่จะเอื้อนเอ่ยคำพูดใดอีกต่อไป กระสุนที่หยุดค้างกลางอากาศเม็ดนั้นกลับลำและพุ่งเข้าสู่ตำแหน่งเดียวบนอกของเพชฌฆาตผู้นั้นทันที

     

    ”เห้ย!หยุดนะผู้คุมอีกคนหนึ่งกระชับปืนในมือจ่อมาหาร่างเล็กด้วยความตระหนกตกใจ แววตาและมืออันกำยำแอบสั่นระริกด้วยความกลัวที่เกิดขึ้น

     

                     แต่คนถูกสั่งตอนนี้หาได้กลัวสิ่งใดไม่ สองขาเล็กค่อยๆหยัดยืนขึ้นบนพื้นอีกครั้ง หากเขาเป็นแค่มนุษย์ต่างดาวปกติธรรมดาการที่ถูกยิงด้วยปืนอย่างนั้นชีวิตคงจบไปนานแล้ว แต่เพราะการเป็นครึ่งเสี้ยว ...

    นั่งลงไปนะเว่ย! ไม่งั้นฉันจะ... อั๊กกกกเสียงของผู้คุมที่ดูสับสนขาดช่วงลงในจังหวะที่แทยอนหันตัวกลับมาเผชิญหน้า ร่างของผู้คุมคนนั้นถูกพลังที่ไม่อาจควบคุมได้พัดลอยไปกระแทกกับตัวอาคารจนสิ้นใจ

     

                     ฝูงชนที่เข้าแถวรอรับการตรวจและเหล่าผู้คุมคนอื่นเริ่มแตกตื่นจากเหตุการณ์ไม่คาดคิด เหล่าผู้ตรวจมากมายต่างวิ่งหนีกันอลหม่านจนทางการต้องรีบหยุดให้วุ่น เหล่าผู้คุมนับสิบพร้อมอาวุธครบมือวิ่งตรงมาหาร่างเล็กที่เผลอมองไปยังร่างไร้วิญญาณด้วยแววตาวูบไหว ก่อนที่โสตประสาทจะรับรู้ถึงอันตรายที่กำลังมาเยือน ร่างเล็กผงะหากแต่เท้าไม่ได้ก้าวถอยหลังไปอย่างที่ใจคิด

     

    ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!

                     กระสุนห่าใหญ่จากเหล่าผู้คุมพุ่งตรงมายังจุดที่แทยอนยืนอยู่อย่างไม่ลังเล สองแขนเล็กยกขึ้นบดบังด้วยความตกใจก่อนที่ร่างของเขาจะล้มลง นิ่งสนิท..ร่างกายไม่แม้แต่จะบอกช้ำ แววตาใสเบิกโพลงทันทีที่ได้เห็นทันทีที่ลดแขนลง เหล่าผู้คุมที่สาดกระสุดใส่เขาเมื่อสักครู่กลับถูกกระสุนของพวกเขาเองจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถใจ คนตัวเล็กตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ..เขาไม่ได้ทำ ไม่สิ..เขาไม่ได้ตั้งใจทำ แต่เป็นบางสิ่งบางอย่างในตัวเขาต่างหากที่ทำ

     

    ฆ่ามัน!!”  ยังไม่ทันที่แทยอนจะได้ตั้งสติดี การไล่ล่าครึ่งเสี้ยวอย่างเขาก็เริ่มต้นอีกครั้งเหล่าผู้คุมของทางการกว่าครึ่งแห่เข้ามาจากทั่วทุกทิศ สองขาของคนตัวเล็กกลับไร้เรี่ยวแรงไปชั่วขณะทำได้แค่กระเสื.อกกระสนถอยหลังหนีอย่างไม่คิดชีวิตเท่านั้น

     

    ..เปรี้ยงงงง!!...

     

                     สายฟ้าสว่างจ้าฟาดฟอนลงบนพื้นจนทัศนียภาพขาวโพลนไปหมด ผู้คุมร่างกำยำกว่าครึ่งร้อยชะงักหยุอยู่กับที่เพราะอีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นหากไม่หยุดชีวิตของพวกเขาก็จะถูกคร่าไปในพริบตา

    อย่าไปกลัว! .. ยิงมันซะหนึ่งในผู้คุมตะโกนให้พวกพ้องระลึกถึงคำสั่งที่ได้รับ ชายร่างกำยำที่เหลือนั้นจึงค่อยๆยกปืนขึ้นพร้อมกับเล็งไปที่เป้าหมายคนเดียวกัน หมายจะปริชีพเป็นครั้งสุดท้าย

     

    ...เปรี้ยงงงงง... แต่ความตายไม่เคยปราณีใคร

    อ๊ากกกกก...

    ม..ไม่จริง มันต้องไม่เป็นอย่างนี้สิคนตัวเล็กล้มลุกคลุกคลานถอยหลังหนีภาพอันน่าสะอิดสะเอียดของเหล่าผู้คุมส่วนหนึ่งที่ถูกฟ้าผ่าร้องโหยหวนร้องขอชีวิต กลิ่นเลือดเหม็นคาวคละคลุ้งไปเป็นบริเวณกว้าง

    ...เปรี้ยงงง..

    อ๊ากกกกกกกก..

                     สายฟ้าผ่าลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแค่ผู้คุมคนใดคิดจะขยับตัวก็จะถูกสายฟ้าคร่าชีวิตตัดหน้าก่อนที่จะได้เหนี่ยวไกปืนทั้งสิ้น

    ไม่นะ! อย่าเข้ามา!!” แทยอนตะโกนใส่ผู้คุมที่เหลืออยู่ด้วยความหวังดี แววตาใสของคนตัวเล็กสั่นระริก แต่ดูเหมือนคนเหล่านั้นจะไม่สนใจความหวังดีของเขาเลย หนทางสุดท้ายที่แทยอนนึกได้และลงมือทำคือการวิ่งหนีกระสุนที่ยังคงพยายามพุ่งมาอย่างไม่กลัวตาย

     

    ...ทางตัน...

     

    ...ปัง! เปรี้ยงงงง! ...

                          แทยอนหันกลับมาตามเสียงปืนนัดสุดท้ายที่ได้ยินก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปทันทีที่สายฟ้าเส้นสุดท้ายได้ฟาดลงมา

     

    หัวหน้าครับ...

    ปล่อยมันไป .. ยังไงซะ เดี๋ยวมันก็ตาย

    Ending SS9 KIM TAEYEON

     

     

    ฮึกกก.. ฉ..ฉันไม่ได้อยากให้พวกเขาตาย ฉันแค่...

    คุมพลังไม่ได้..

                           เจสสิก้ามองคนตัวเล็กที่นั่งกำหมัดแน่นก้มหน้าปิดบังหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมาไม่หยุดหย่อนด้วยความสงสาร เธอเข้าใจเขาดีครึ่งเสี้ยวทุกคนล้วนมีความสามารถพิเศษที่ต่างกันไปอยู่ในตัวและจะมากจะน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนเช่นกัน แต่ของแทยอนคงเป็นเคสที่อันตรายอยู่พอควรครึ่งเสี้ยวน้อยคนที่จะมีพลังพิเศษติดตัว ของแทยอนนั้นเป็นสายฟ้าที่เปรียบเสมือนเกราะและดาบติดตามเป็นลักษณะประจำตัวอยู่ตลอดเวลา

     

                          และเพราะความรุนแรงของพลังเหล่านั้นมันก็มากพอที่จะเป็นเหตุผลให้ทางการต้องกำจัดพวกครึ่งเสี้ยว พวกเขาไม่ได้กลัวหากแต่หวั่นเกรง เมื่อใดที่ครึ่งเสี้ยวไม่สามารถควบคุมพลังได้ ความหายนะจะมาเยือนเมื่อนั้น...

     

    มันไม่ใช่ความผิดเธอหรอนะแทยอนสาวผมบลอนด์บรรจงใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้คนตัวเล็กอย่างอ่อนโยน

    เราทุกคนล้วนไม่อยากตาย และเธอก็ไม่ได้มีเจตนาให้พวกเขาตายถึงมันจะเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ แต่ฉันคิดว่าความจริงแล้วเราทุกคนควรได้รับโอกาสให้เริ่มใหม่ ถึงมันจะฟังดูเห็นแก่ตัวก็เถอะ

     

                          แทยอนนั่งนิ่งคิดตามสิ่งที่เจสสิก้าได้เอื้อนเอ่ยอยู่สักพัก ก่อนจะเงยหน้าสบตาหญิงสาวด้วยดวงตาแดงก่ำมือป้อมๆเล็กเช็ดน้ำตาตัวเองลวกๆ  ส่งยิ้มบางไปให้ก่อนจะโผกอดคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกตื้นตัน ... แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเขาคงไม่ได้มีโอกาสเห็นแววตาวูบไหวของใครอีกคน

    ขอบใจนะ...

    อื้ม

    -ขอให้เธอผ่านมันไปได้อีกครั้งนะ..แทยอน-

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .

    หลายวันผ่านไป..

    1 AUG 2014 -

    Peanut Butter :  ตั้งใจทำงานนะคะไอ่หมาน้อยยยย .. <3  (13:09)

    Jelly :  รับทราบ ^^ เหมือนกันนะหมีอ้วน :P    (13:09)

    Peanut Butter :  ค่า.. อย่าลืมกินข้าวล่ะ    (13:10)

    Jelly  :  รู้แล้วหน่า แต่ฟานี่ห้ามกินนะเดี๋ยวลุกไม่ขึ้น คิคิคิ    (13:10)

    Peanut Butter  :  ย๊า!! พูดแบบนี้เดี๋ยวตะปบ เอ้ย! ตบซะนี่   (13:10)

    Jelly  :  โอ๋ๆ .. แทล้อเล่นไม่งอนนะแม่หมี ^_________^   (13:11)

    Peanut Butter  :  …………………….  (13:12)

    Jelly  :  ………………    (13:12)

    Jelly  :  ฟานี่อา .. งอนหรอแทขอโทษ   (13:15)

    Jelly  :  งอนจริงๆหรอ คราวหลังแทไม่ล้อแล้วก็ได้ ดีกันนะ T^T   (13:20)

    Jelly  :  ฟานี่อา...    (13:22)

    Jelly  :  ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ ดีกันนะ  (13:25)

    Jelly  :  ทิปาจัง หายงอนนะเดี๋ยวกลับไปยอมให้โดนทำโทษเลยอ้ะ  (13:35)

    Peanut Butter  :  ………….   (14:20)

    Jelly  : (ข้อความเสียง)  Play : Save   (14:22)

    เฮ้อ.. ทำไงเธอถึงจะยอมคืนดี คืนนี้ยอมเป็นคนเหนื่อยฟรีฟรี สำนึกแล้วว่าทำตัวไม่ดี ครั้งนี้ฉันจะยอม ให้เธอรุกดีดี

    Peanut Butter  : ไอบ้า !! ลามก! ไปติดมาจากไหนเนี่ย - -?   (14:22)

    Jelly  :  ไม่รู้สิ 5555 ยอมดีกับเค้าแล้วหยอออตัวเอง (‘ ‘)   (14:22)

    Peanut Butter  :  ดีดงอะไร บ้าป่าว    (14:23)

    Jelly  :  อ่าว ....    (14:23)

    Peanut Butter  :  ก็ฟานี่ไม่ได้งอนแทแทสักหน่อย จะให้มาดีอะไรล่ะคะ  (14:23)

    Jelly  :  เอ้า!?   แล้วที่เงียบนี่ ?????    (14:23)

    Peanut Butter  :  ไปกินข้าวมา แหะๆ ^^’   (14:24)

    Jelly  :  -_____-   (14:24)

    Peanut Butter  :  ขอโทษนะคะหมาน้อยยย ไม่งอนนะ .. แล้วนี่พิมพ์เองป่ะไอ่ดีกันนะเนี่ย  (14:25)

    Jelly  :  ป่าว ... ก๊อปเอา 555  (14:25)

    Peanut Butter  : ว่าแล้วเชียว -3-  ................ แทแทคะ   (14:29) 

                     -Read-

    Peanut Butter  :  ฟานี่รักแทแทนะคะ ^^  <3  (14:30)

    Jelly  :  อื้มมมมม  ^^    (14:30)

    Jelly  :  แทไปทำงานก่อนนะ หยองกี้บ่นใหญ่แล้ว ฟานี่ด้วยตั้งใจทำงานล่ะ  (14:30)

    Peanut Butter  :  ค่ะ ^__^  (14:31)

    Jelly  :  คิดถึงนะ <3   (14:31)

                    -Read-

    คิมแทยอน!!!!! ลูกค้าฉันจะหนีหมดร้านแล้วโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

                   



    1 AUG 2014  18:00 น.

                    บรรยากาศภายในร้านกาแฟเล็กๆริมถนนใหญ่เริ่มเข้าสู่สภาวะเงียบสงบ ลูกค้าเริ่มเบาบางลงไปมากกว่าช่วงบ่ายที่ผ่านมาเนื่องด้วยวันนี้คุณเจ้าของร้านใจดีป่าวประกาศว่าจะปิดร้านเร็วกว่าปกติ เพื่อไปเซอร์ไพรส์วันเกิดทนายสาวหน้าหวานที่คอนโด 

     

                    มือเล็กคู่หนึ่งกำลังบรรจงเขียนข้อความอวยพรลงบนการ์ดสีหวาน จัดแจงนำของขวัญชิ้นเล็กใส่กล่องอย่างทะนุถนอม เจ้าของใบหน้าเปื้อนยิ้มไม่ลืมที่จะแนบการ์ดใบเล็กลงไปในกล่องพร้อมกับตรวจความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะปิดผนึก กล่องสี่เหลี่ยมลวดลายเรียบๆถูกคนเป็นเจ้าของเก็บลงกระเป๋าเสื้อโค๊ดด้วยใบหน้าแห่งความสุขที่ยังคงไม่จางหายไป

     

                    เสียงกระทบกันไปมาของแก้วเซรามิกดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากหลังร้าน แทยอนก้มหน้าก้มตาล้างภาชนะชุดสุดท้ายที่เหลืออยู่ด้วยความรีบร้อนเพราะคนตัวเล็กตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์วันเกิดของคนรัก หากแต่จู่ๆเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านเข้าขั้วหัวใจจนรู้สึกจุกไปหมด ร่างเล็กท้าวมือค้ำกับเคาเตอร์เพื่อพยุงร่างของตนไม่ให้เซล้มไป เหงื่อมากมายผุดขึ้นบนใบหน้าอย่างไม่มีสาเหตุ แทยอนรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนจากภาชนะที่วางอยู่บนชั้นเหนือศีรษะ มือเล็กเริ่มสั่นเทาด้วยความกังวลแต่คิดอะไรได้ไม่มากนักก็ต้องตกใจเมื่อจานแก้วเหล่านั้นที่วางอยู่ลอยขึ้นบนอากาศและดิ่งลงสู่พื้นจนเกิดเสียงดัง

     

                    สองขาเล็กอ่อนยวบจนทรุดลงบนพื้นท่ามกลางเศษแก้วแตก แววตาสับสนเกิดขึ้นพร้อมกับลมหายใจที่หอบถี่ ดวงตาใสเริ่มพร่ามัวราวกับโลกทั้งหมดแทบจะเอียงพลิกกลับหัว ไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าวิ่งรี่เข้ามาหยุดอยู่ที่หน้าประตู...

     

    ..... ฉันว่าแกไม่ไหวแล้วล่ะ อย่าเพิ่งให้ฟานี่เห็นแกในสภาพนี้เลย

     
     

                    คนตัวเล็กหลับตาพยักหน้ารับประโยคที่ถูกเอื้อนเอ่ย สูดลมหายใจเข้าเต็มปอดพยายามควบคุมสติ ล้วงมือเข้าไปหยิบมือถือเครื่องโปรดจากกระเป๋ากางเกง กดหาปลายสายที่คุ้นเคยด้วยมือที่สั่นเทา

    ...ตู๊ดดด ตู๊ดดด...

    (ว่าไงคะแทแท..ปลายสายรับแทบจะทันทีจนคนตัวเล็กคุมน้ำเสียงไม่ให้ผิดปกติแทบไม่ทัน

    ฟ...ฟานี่ เอ่อ..วันนี้ไม่ต้องมารับแทนะ หยองกี้จะให้แทไปช่วยเลือกของ เดี๋ยวเจอกันที่คอนโดนะ

    (อ่า..หรอคะ งั้นไว้เจอกันนะ รีบกลับมาทานมื้อค่ำด้วยกันนะคะ) น้ำเสียงหงอยตอบกลับมาผ่านโทรศัพท์ทำเอาคนฟังอดที่จะใจสั่นไม่ได้

    อื้มมม แค่นี้ก่อนนะ

     

     

                    ร่างของคนตัวเล็กเดินโซซัดโซเซออกจากหลังร้าน สองเท้าที่อ่อนล้าวิ่งออกไปอย่างไร้จุดหมายก่อนจะทรุดลงหน้าตึกร้างแห่งหนึ่ง เหงื่อมากมายยังคงผุดออกมาไม่หยุดไม่หย่อน ถือเป็นโชคดีที่เวลานี้ไม่มีคนสันจรผ่าน ความรู้สึกราวกับกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านแว๊ปเข้ามาอีกครั้ง ความเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนต้องเบิกตาโต

    อั๊กกกก..

     

    ...เปรี้ยงงงงงงงงงงง...

                    สายฟ้าฟาดลงมาทำลายสิ่งของรอบข้างจนเสียหาย ก้อนหินและของข้างทางลอยขึ้นสู่พื้นชนกระแทกจนกระจัดกระจาย เหมือนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งสุดท้ายบนดาวดวงนั้นไม่มีผิด ร่างเล็กลงไปนอนดิ้นกับพื้นด้วยความทุกข์ทรมาน มือเล็กกำแน่นทุบอกเผื่อจะสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้

    -..นี่มันเกิดอะไรขึ้น..-

     

     

    อ๊ากกกกกกกกกกกกก!!!!”

    ...เปรี้ยงงงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!!!!....

     

     

    .
    .
    .
    .
    .
    .

                    เข็มของนาฬิกาชี้ไปที่เลขสิบบ่งบอกว่าผ่านมาสี่ชั่วโมงแล้วที่คนตัวเล็กยังไม่กลับถึงห้อง ทิฟฟานี่เดินวนไปวนมาด้วยความเป็นห่วง เป็นไปไม่ได้ที่ซูยองจะพาไปซื้อของแล้วขาดการติดต่อไปนานขนาดนี้

    -เป็นอะไรรึป่าวนะ..-

     
     

                    เสียงประตูที่ดังขึ้นช่วยหยุดความกังวลนั้นลง สองขาเรียวรีบก้าวรุดไปหาคนมาใหม่แต่ก็ต้องตกใจกับสภาพที่เห็น ใบหน้าขาวใสของคนตัวเล็กซีดเผือกอย่างไม่เคยจะเป็น เนื้อตัวมอมแมมเปื้อนฝุ่น แววตาที่ดูเจ็บปวดของคนที่เดินอิดโรยเข้ามาในห้องทำเอาคนมองรู้สึกใจหายเสียไม่ได้

    แทแทคะ.. ไปโดนอะไรมา”                

    ......”  คนตัวเล็กยืนนิ่งหน้าโซฟาไม่ตอบคำถามและสบตาแต่อย่างใด ทำให้คนถามรู้สึกร้อนใจเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก

    แทแทคะเจ้าของขาเรียวก้าวไปหาคนตรงหน้าอีกครั้ง หากแต่ต้องชะงักกับท่าทีของคนตัวเล็กที่เดินถอยหลังหนี

    อย่าเข้ามาแววตาที่ดูเจ็บปวดถูกส่งให้อีกคน เป็นเชิงร้องขอให้ทำตามคำที่ตนกล่าว

     

                    แต่ร่างบางไม่สนใจคำขอนั้นแต่อย่างใด จึงรุดเข้าไปหาคนที่ยืนนิ่งอยู่ด้วยความเป็นห่วงที่ล้นปรี่ สองมือที่เอื้อมไปคว้าเอาแขนเล็กถูกสะบัดออก คนตัวเล็กสาวเท้าหนีไปทางด้านระเบียงห้องที่เปิดประตูทิ้งไว้ ทนายสาวรีบคว้าแขนอีกครั้ง ดึงให้อีกคนหันมาสบตา
     

    “.....ปล่อยฉัน” น้ำเสียงเย็นชาเปล่งออกจากคนที่พยายามผลักไส ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับชะงัก

    “แทแท..เป็นอะไรไปคะ ฟานี่ทำอะไรผิดงั้นเหรอ” น้ำเสียงสั่นเครือเอื้อนเอ่ยช้าๆ พร้อมกับหางตาที่มีน้ำใสๆคลออยู่

    “.........” ไม่เสียงเอ่ยตอบแต่อย่างใด หากแต่มีเพียงการสะบัดมือแล้วก้าวถอยหลังอีกรอบ

    “แทยอนนา....”

    “ก็บอกว่าอย่าเข้ามาไง !” แทยอนตะโกนขึ้น พร้อมกับเบิกตากว้างเมื่อร่างคนรักกระเด็นออกไปกระแทกกับผนังห้องอย่างแรง จนของเหลวสีแดงค่อยๆไหลแซมออกมาจากไรผม ทำเอาคนที่คุมตัวเองไม่อยู่แทบจะพุ่งเข้าไปดู แต่ก็ต้องหยุดขาไว้ เพราะกลัวว่าจะทำอันตรายหล่อนไปมากกว่านี้

                    หญิงสาวพยายามลุกขึ้นมาด้วยความลำบาก แววตาเจ็บปวดของทั้งสองประสานกันโดยไม่มีคำพูดใดๆ เธอไม่ได้รับคำตอบและไม่รู้สาเหตุว่าเป็นเพราะอะไรคนตัวเล็กจึงมีท่าทีเช่นนี้ เป็นอีกครั้งที่ทิฟฟานี่พยายามก้าวไปหาแทยอน ซึ่งคงเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อแทยอนก้าวถอยหลังไปในจังหวะเดียวกันบนพื้นที่ริมระเบียงที่สุดขอบ ซึ่งมัน...ไม่เพียงพอต่อการยืนอีกต่อไป สองขาเล็กลอยเคว้งพลัดตกไปจากระเบียง และหายไปพร้อมกับ...

     

     

    ........เปรี้ยงงงงงงงงง!.....

     

     

    อันเดววว!!”
     

    ทิฟฟานี่เบิกตากว้างด้วยความตกใจอย่างสุดขีดเมื่อเห็นร่างของคนรักผลัดตกไปจากระเบียงห้อง สองเท้าสาวอย่างรวดเร็วกว่าความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไปเกาะราวระเบียงไว้ น้ำตามากมายพรั่งพรูออกมาจากดวงตาคู่สวยจนภาพที่เห็นดูเลือนลาง...
     

    “ฮึก..ท..แทยอน..

     

                    ร่างบอบบางทรุดลงที่พื้น เลือดสีแดงสดไหลออกมาจนเปื้อนเปราะใบหน้าสวย พลันสายตาไปสะดุดกับกล่องสี่เหลี่ยมสีหวานที่ตกอยู่มือเรียวบรรจงหยิบขึ้นมาแกะด้วยมือที่สั่นเทา ปรากฏให้เห็นเป็นขวดของเหลวบางอย่างอยู่ภายในและมีกระดาษสีสวยแนบอยู่ข้างกัน ก่อนที่สติสัมปชัญญะสุดท้ายจะดับวูบไป ...

     

     

     

    /              .....HBD นะฟานี่อา..

    ไว้เรามาใช้น้ำหอมขวดนี้แล้วเดินจับมือด้วยกันตอนฤดูหนาวนะ <3   

    จาก หมาน้อยของหมี....     /  


     

     





     

    ........................................

     

    เห็นโลวววว รีดเดอร์ที่เคารพรัก กราบขออภัยที่ห่างหายไปนาน(ม๊ากกกกก) วันนี้เลยกลับมาอัพแบบยาวๆไป เกิดอะไรขึ้นกับหมาต่างดาวของเรากันนะ อ่าแถมในวันสำคัญสะด้วย แล้วบุคคลลึกลับนั้นเป็นใครกัน โอเย่ๆ .. อยากจะบอกว่า[b]อ่านดีๆนะ[/b] ขอบอกตามเดิมว่าเรื่องนี้ไม่มีดราม่า 55555 อ่านให้สนุกนะครัชชช ไว้หลังสอบครั้งต่อไปจะมาอัพให้ใหม่ ใกล้จบแล้ว :)  <3

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×