ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Short-Fic SNSD] Stranger [TaeNy]

    ลำดับตอนที่ #11 : STRANGER 7

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ค. 57


     Stranger7

    ฉันถามว่าแกจะไปไหน

    ปล่อย ฉันจะไปช่วยฟานี่คนตัวเล็กหันกลับมามองคนที่ยื้อตัวเองไว้ด้วยสายตาเอาเรื่อง

    ฉันคงปล่อยแกไปไม่ได้ถ้าแกไม่มีสติขนาดนี้!” เจ้าของร้านตัวสูงดึงคนตัวเล็กกลับมาอย่างสุดแรงทำให้ทั้งคู่เซเล็กน้อย

    ฉันบอกให้ปล่อย ยังไงล่ะ!!”

    ..เพล้งงงง..

     

                     แก้วและจานรองจำนวนหนึ่งที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จไปหยกๆ ลอยขึ้นสูงจากที่ๆควรอยู่ด้วยความรวดเร็ว บางส่วนร่วงลงสู่พื้นเกิดเสียงดัง เพียงเพราะพลังที่เกิดจากอารมณ์ที่ขาดผึงของหมาต่างดาวที่ไม่รู้ตัวว่าตนได้ทำอะไรลงไป ..

    ทะ..แทยอน แก....

     
     

    ..ครืนนนนน ..

                          เสียงฟ้าฝนดังขึ้นท่ามกลางสภาพอากาศที่เคยสดใสอย่างไม่ควรจะเป็น กลุ่มเมฆสีเทาดำต่างเข้าปกคลุมท้องฟ้าที่ดวงตะวันจะตกดินจนมืดครึ้มไปทั่วทุกพื้นที่ เม็ดฝนน้อยใหญ่เริ่มโปรยปรายสู่ถนนที่แห้งเหือด แสบวูบวาบของฟ้าร้องฟ้าลั่นปรากฎให้เห็นช่วงๆ

     

                          บรรยากาศภายในร้านของซูยองเข้าสู่ภาวะเงียบสนิททั้งซูยองและแทยอนต่างมองหน้ากันด้วยแววตาที่คาดเดายาก เจ้าของร้านตัวสูงมองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยความหวาดระแวงสองขาเรียวเกิดอาการสั่นขึ้นมาเสียดื้อๆไม่รู้ว่าเป็นเพราะความกลัวหรือว่าอะไร

    ล..ล้อเล่นหน่า ....จะเป็นไปได้ไงซูยองสบถออกมาพร้อมกับขาที่อ่อนแรงลงอย่างไม่มีสาเหตุ สองขาเรียวก้าวถอยหลังด้วยอาการสั่นเทาไปตามสภาพจิตใจที่กำลังช็อคกับเหตุการณ์เมื่อครู่

     

                          คนตัวเล็กก้มหน้าหลบสายตาจากคนเป็นเจ้าของร้านด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างปะปนกัน แผ่นหลังเล็กที่เคยสวมใส่เพียงเสื้อเชิ๊ตสีน้ำตาลพับแขนบางๆได้ถูกแต่งเติมด้วยเสื้อแจ๊กเก๊ตหนังสีดำพร้อมฮู๊ดที่ถูกยกขึ้นมาปกปิดใบหน้าด้วยฝีมือของคนใส่ ก่อนที่หมาต่างดาวจะตัดสินใจก้าวเดินออกจากร้านไป

    ...เปรี้ยงงงงงง!!...

                          ยังไม่ทันที่สองขาเล็กของคิมแทยอนจะเดินไปประชิดกับประตูร้าน สายฟ้าก็ได้ผ่าลงมาบริเวณถนนก่อให้เกิดแสงสว่างจ้าที่ทำให้ทัศนียภาพบริเวณนั้นขาวสว่างจนมองแทบไม่เห็น ซูยองที่อยู่ในร้านยกมือขึ้นบดบังใบหน้าด้วยความตกใจพร้อมกับหงายหลังก้นจั้มเบ้าลงพื้น สิ่งสุดท้ายที่เห็นคือหลังไวไวของคนตัวเล็กที่ตอนนี้หายไปพร้อมกับจังหวะที่สายฟ้าได้ฟาดลงมา

    ม..ไม่ตลกแล้วนะเฟ้ยยยยย -0-!!” คนตัวสูงในร้านยกมือที่บังหน้าออก พลางสายตาสอดส่องหาคนตัวเล็กเมื่อสักครู่

    แทยอน .. ห..หายไปไหนแล้ววะ?ซูยองหน้าตาเลิกลักก้มหาเจ้าของชื่อที่เพิ่งเรียกไปหันมองซ้ายขวา ก้มหาใต้โต๊ะ ลามไปถึงเปิดส่องใต้พรมและปีนเคาเตอร์หาในหลอดไฟ......

    แทย๊อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!”

     

     

     

     

    ..15 นาทีต่อมา..

    ..กริ๊งงง.. เสียงประตูร้านที่ปิดต้อนรับลูกค้าดังขึ้น ปรากฎให้เห็นหมวดยูริและลูกน้องอีก 4-5 คน เดินเข้ามาในร้าน หลังจากที่ซูยองโทรไปแจ้งความเรื่องทิฟฟานี่โดนลักพาตัว

    อ่ะ ..สายเพิ่งถูกตัดเมื่อกี้..ซูยองยื่นมือถือของแทยอนที่ทิ้งไว้ในร้านให้กับตำรวจเพื่อเตรียมการค้นหา สายสนทนาที่ค้างไว้ถูกตัดลงเมื่อไม่นานนักพวกมันคงจะรู้ตัวแล้วว่าทิฟฟานี่ถือสายค้างไว้

    แล้วแทยอนล่ะ?ยูริถามขึ้นหลังจากสอดส่องภายในร้านที่ไม่พบคนตัวเล็กอยู่

    “…ไปแล้วล่ะคนถูกถามชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะตอบคำถามด้วยสีหน้าที่ติดกังวล

    งั้นหรอ ..อืม ดีแล้วล่ะคำตอบที่ไม่ชัดเจนทำให้ยูริเข้าใจว่าซูยองหมายถึงให้แทยอนกลับไปรอที่คอนโดแล้ว จึงไม่ได้ติดใจอะไรมากนัก เพราะคงไม่แปลก .. ถ้าแทยอนเป็นแค่คนใสซื่อที่ตัวเล็กๆคนหนึ่งเท่านั้น

    พบสถานที่แล้วครับหมวด!” ลูกน้องของยูริตะโกนขึ้นหลังจากค้นหาพิกัดสุดท้ายของมือถือทิฟฟานี่จนเจอ

    -หวังว่าจะไม่เป็นอะไรนะ ... ไปให้ทันล่ะ แทยอน -

     

     

     

     

    โกดังร้างแถบชานเมือง

                          รถตู้สีดำปริศนาค่อยๆขับเคลื่อนเข้ามาจอดภายในโกดังร้าง ไฟหน้ารถถูกดับลงเพื่อไม่ให้เป็นที่สังเกตจากบุคคลอื่นมากนัก ชายชุดดำร่างใหญ่ผู้เป็นคนขับลงมาเปิดประตูข้างให้คนที่เหลือภายในรถออกมา ร่างของทนายสาวตายิ้มที่ยังคงไม่ได้สติถูกหิ้วปีกโดยชายอีก2คนอย่างไม่ใยดีท่ามกลางสภาพอากาศที่ฝนกำลังโปรยปราย

                          ร่างของทนายสาวถูกนำมาไว้ยังใจกลางโกดังร้าง แขนทั้งสองข้างถูกตรึงไว้ด้วยโซ่ตรวนสภาพไม่ต่างกับที่พระเจ้าของพวกเขาถูกตรึงไว้กับไม้กางเขนก่อนที่จะสิ้นใจ

                          เสียงรองเท้าหนังสุดหรูดังกุกกักเข้ามาเรื่อยๆจากมุมตึก ปรากฏร่างชายหนุ่มตัวสูง ภูมิฐานหน้าตาดีเดินย่างกรายเข้ามาในตัวโกดังอย่างไว้มาดบ่งบอกว่าได้รับการอบรมมาอย่างดี เหล่าชายชุดดำที่ยืนอยู่ต่างโค้งคับนับให้ด้วยความเคารพ และนั่นสื่อได้เป็นอย่างดีว่าเขา .. คือ ผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวในครั้งนี้

     

    จะให้ทำยังไงต่อดีครับนาย?ชายชุดดำคนหนึ่งเอ่ยถามผู้เป็นนายที่ยืนกอดอกมองหญิงสาวด้วยใบหน้าเรียบตึง

    ..ปลุกมันขึ้นมาน้ำเสียงเย็นเยียบแฝงไปด้วยอารมณ์ครุกกรุ่นดังขึ้นโดยไม่มองบุคคลผู้เป็นคนถาม

    ....ซู่!!..

                     น้ำอุณหภูมิเย็นเฉียบจากกระป๋องใบเก่าที่สนิมเริ่มขึ้นเกรอะกระถูกสาดใส่หญิงสาวที่ยังไม่ได้สติดี ด้วยอุณหภูมิของน้ำบวกกับสภาพอากาศที่ค่อยข้างหนาวเย็นเพราะเม็ดฝนที่ตกลงมาอย่างไม่ลดละทำให้คนที่ถูกมัดรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิของของเหลวที่ปะทะเข้ากับผิวหน้าได้อย่างรวดเร็ว แขนสองข้างที่ถูกตราตรึงเริ่มขยับแต่ประสาทสัมผัสของเจ้าตัวรับรู้ว่าตนกำลังถูกพันธะนาการอยู่ ใบหน้าหวานที่เปียกโชกค่อยๆปรือตาขึ้นด้วยอาการมึนงงของฤทธิ์ยาที่ยังคงไม่จางหาย

    ..ท..ทะ..ที่นี่ที่ไหนน้ำเสียงแหบพร่าถูกเปล่งออกมาจากลำคอที่แห้งผาดของทนายสาว สองแขนพยายามดิ้นรนเพื่อหาทางหลุดจากโซ่ตรวน

    คุณซีวอน?คิ้วเรียวขมวดแทบจะทันทีที่กวาดสายตาไปรอบๆแล้วพบกับชายหนุ่มผู้เป็นจำเลยของคดีที่เธอกำลังว่าความให้อยู่

    ว๊าว ว๊าว ว๊าว .. ดูเธอจะจำฉันได้ดีนิ่สาวน้อยชเว ซีวอน ผู้ตกเป็นจำเลยคดียักยอกทรัพย์ของคู่สมรสกล่าวด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก

    คุณต้องการอะไร?..จากฉันทิฟฟานี่เอ่ยถามพร้อมกับจ้องเขม็งไปยังคู่กรณีด้วยความหวาดระแวง

    หึ! นั่นสิ ฉันจะทำอะไรกับเธอดีนะ ให้สาสมกับที่เธอทำให้แผนของฉันต้องพังพินาศ!” แววตาและน้ำเสียงเกรี้ยวกราดถูกเปล่งออกมาเสียงดังจากชายหนุ่มที่อารมณ์ครุกกรุ่นเป็นไฟ

    เอ่อ.. นายครับ ตอนมาถึงผมเจอมือถือมันถือสายค้างไว้ด้วยครับลิ่วล้อของผู้มีอำนาจสูงสุด ณ ที่นี้เอ่ยฟ้องข้อมูลที่ควรระวังแก่เจ้านาย

    เหอะ.. คิดจะลองดีกับฉันหรอแม่สาวน้อย

    ถ้าคุณแตะต้องฉัน ..คดีนั้นมันจะยิ่งชี้ชัดไปที่คุณนะ ซีวอนทนายสาวกล่าวความเป็นจริงที่คิดไว้ให้กับชายหนุ่มตรงหน้า แต่..ผู้ร้ายน่ะถ้ามันคิดจะลงมือแล้ว มันคงไม่กลับหัวเรือหรอกนะ

    แกคิดว่าคำขู่แค่นี้ฉันจะกลัวหรอ!” มือหนาของชายหนุ่มบีบเข้าที่คางเรียวมนของทิฟฟานี่อย่างจังซึ่งมันสร้างความเจ็บปวดให้แก่ร่างบางได้ไม่น้อย

    ฉันน่ะ..กำลังจะทำสำเร็จอยู่แล้ว แต่เพราะแก! ถ้าแกไม่แส่เอาหลักฐานที่ฉันยักยอกเงินไปให้มัน ป่านนี้ฉันก็คงไม่ต้องมาถูกฟ้องหย่าแล้วตกอยู่ในสภาพแบบนี้หรอกนะ!!”

    แต่มันคือหน้าที่ของฉัน ..ฉันเป็นทนายนะ แล้วอีกอย่าง..คุณคงไม่รู้เหรอว่า คุณฮีชอล รักคุณมาก เขาเสียใจมากรู้มั้ยที่ถูกคนที่ตัวเองรักหลอกแต่งงานเพื่อหวังผลประโยชน์ร่างบางตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเทา แววตาของชายหนุ่มวูบไหวชั่วครู่ก่อนที่จะกลับมาเรียบนิ่งดังเดิม

     
     

    ..เพี๊ยยยะ!!..

                          ผ่ามือหนาของซีวอนฟาดกระทบลงที่ใบหน้าขาวใสอย่างแรง จนเป็นรอยแดง ของเหลวสีแดงซึมออกตามมุมปากจากแรงกระทบรสชาติเฝื่อนของเลือดคละคลุ้มไปทั่วลิ้น จนผู้ถูกกระทำต้องนิ่วหน้าน้ำตาคลอด้วยอาการเจ็บปวดที่ได้รับ

    อีกอย่างนึงที่เธอพลาด .. ทิฟฟานี่ คือ ฉันไม่เคยรักไอ้หน้าโง่นั่น!!!

                          ชายหนุ่มตะโกนออกมาด้วยอาการเกรี้ยวกราดกว่าครั้งแรก เพราะถูกจี้ปมในอดีต..ใครว่าเขาไม่เคยรับรู้ว่าฮีชอลรักเขา เขาเองก็เผลอใจไปรักคนที่แสนดีอย่างฮีชอลเช่นกัน แต่ด้วยความโลภในสมบัติของฮีชอลมากกว่า จึงทำให้เขายักยอกเงินส่วนแบ่งในบริษัทของคนรักและถูกจับได้เนื่องจากทิฟฟานี่เป็นคนนำภาพจากกล้องวงจรปิดที่แอบติดไว้มาเป็นหลักฐานในการเอาผิดและฟ้องหย่า

    “ถึงเวลาตายของคนที่ชอบแส่หาเรื่องอย่างแกสักที หึ”

                          และด้วยอารมที่ปะทุของซีวอน ชายหนุ่มคว้าเอาปืนของหนึ่งในชายชุดดำขึ้นมาจ่อที่หญิงสาวเพียงคนเดียวในโกดัง ปลายกระบอกปืนที่สั่นเล็กน้อยชี้หน้าของหล่อน แววตาคู่สวยเบิกกว้างด้วยอาการตกใจกับความตายที่กำลังวิ่งเข้ามาหาตัว

     

     

    ...เปรี้ยงงงงงงง!...

                     ทันใดนั้นเองก็เกิดฟ้าผ่าลงมาที่หน้าโกดัง แสงสว่างวาบเพียงชั่วครู่แต่ก็จ้าจนตาพร่าไปชั่วขณะ เสียงดังราวมีคนมีทิ้งระเบิดอยู่ข้างหู ชายร่างสูงถึงกับสะดุ้งกับเสียงนั้น ทำให้มือที่กำลังง้างไกปืนชะงักเล็กน้อย  

    “เห้ยย! ออกไปดูซิ ฟ้าผ่าอะไรหน้าโกดังวะ หูกูอื้อหมดละ หึ่ย!” ซีวอนหันไปสั่งลูกน้องด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ หนึ่งในชายชุดดำวิ่งออกไปเพื่อไปดูเหตุการณ์ตามที่เจ้านายสั่ง

     

    ....โครมมมม

                          แล้วก็เป็นชายชุดดำคนเดิมที่ลอยกระเด็นกลับเข้ามาตกในโกดัง พร้อมกับประตูรั้วโกดังที่ตามมาติดๆ เสียงนั้นเรียกให้ทุกสายตาในโกดังต้องหันไปมอง และก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อปรากฏร่างเล็กในเสื้อแจ๊กเก็ตฮู้ดสีดำ เดินเข้ามาในโกดังอย่างไม่เร่งรีบ แม้ในมุมของโกดังแสงจะไม่มากแต่ก็สามารถมองเห็นแววตาที่วาวโรจน์ไปด้วยความโกรธของใบหน้าขาวใสภายใต้ฮู้ดสีดำนั้นได้

    ..แก..เป็นใครวะเนี่ยซีวอนที่งงกับการเข้ามาของบุคคลใหม่เอ่ยถามร่างเล็กที่เดินข้ามศพลูกน้องของตนมาอย่างไม่เร่งรีบ

    บอกไปแกก็ไม่รู้จักฉันหรอก..ปล่อยฟานี่ซะดวงตาคู่หวานปรือลืมขึ้นเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคย เอ่ยเรียกชื่อของตน รอยยิ้มเกิดขึ้นทันทีเมื่อเห็นว่าบุคคลใหม่นั้นคือ..คนรัก ของตน

    “แล้วแกมายุ่งไรด้วยวะ! แล้วยืนอยู่ทำไมไปจัดการมันเส่!!!”

                          ร่างเล็กถูกชายร่างใหญ่ท่าทางดุดัน 4 คน เข้ามาล้อมรอบไว้ทั้งสี่ด้าน แต่ไม่ทันที่ชายคนใดจะได้ขยับก้าวมาใกล้ เพียงแค่หลับตาคลื่นพลังที่เกิดจากอำนาจพิเศษของคนตัวเล็กก็ซัดเข้ากลางอกชายชุดดำทั้งสี่เข้าอย่างจัง จนร่างยักษ์ใหญ่กระเด็นกระดอนไปคนละทิศคนละทาง บรรดาข้าวของทั้งหมดที่อยู่ในโกดังจากที่เคยนิ่งสงบก็สั่นสะเทือน และค่อยๆลอยขึ้นเหนือพื้น สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่าชายชุดดำอย่างมาก

    แกมัน ผี! ผีแน่ๆ พวกเราหนีเร็วเว้ย !” หัวหน้าชายชุดดำลุกขึ้นวิ่งหนี อย่างทุลักทุเล และลูกน้องที่เหลือก็ตามไปติดๆ เหลือเพียงผู้บงการเพียงคนเดียวที่ยังยืนนิ่ง ไม่เชื่อสายตาตัวเองกับเหตุการณ์ที่พบเมื่อครู่

    “หึๆ แสดงได้ดีนี่ อย่าคิดนะว่ามายากลพวกนี้จะหลอกฉันได้” ซีวอนพูดขึ้นพร้อมกับหันปลายกระบอกปืนไปทางคนตัวเล็กที่เดินเข้ามากลางโกดังเรื่อยๆ

    “เหรอ...”

                          ร่างเล็กยกยิ้มมุมปากก่อนที่จะสาวเท้าเข้าไปหาชายหนุ่มที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวอย่างไม่เกรงกลัว ปืนที่เคยอยู่ในมือของซีวอนก็ลอยขึ้นแล้วมาอยู่ในมือของร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ท่อนไม้หน้าสามของชายชุดดำที่ทำตกไว้กลับลอยขึ้นมาล้อมกรอบเขาเหมือนพร้อมจะที่ทุบตีได้ทุกเมื่อ ทำให้ชายหนุ่มตกใจกับเหตุการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดในชีวิตว่าจะได้เจอเป็นอย่างมาก

     

    “..ฉ..ฉะ..ฉัน...จะบอก...บอกทุกคน...ว่า แกมันผี ไม่สิ แม่มด ไม่ๆๆ เอเลี่ยนต่างหาก แกมันไม่ใช่คน!!!!” ซีวอนตะโกนด้วยความสับสนอย่างบ้าคลั่ง ภายในใจหวาดกลัวกับสิ่งทรงพลังตรงหน้าอย่างมากจนไม่สามารถบังคับน้ำเสียงแล้วแววตาที่สั่นระริกได้เลย

    “คิดว่าบอกไปแล้วคนอื่นเขาจะเชื่อเหรอ..พูดไปแกก็แค่มนุษย์ที่เสียสติคนนึงเท่านั้นแหละ” น้ำเสียงเย็นที่ไม่ได้พบบ่อยนักออกมาจากปากร่างเล็กที่กำลังหันกระบอกปืนไปทางชายหนุ่มด้วยแววตาแข็งกระด้าง ปลายนิ้วเล็กจ่อไกปืนพร้อมจะปล่อยลูกตะกั่วที่อยู่ภายในอย่างไม่รีบร้อน

    “อย่าแทแท...ไม่..”น้ำเสียงแหบพร่าของร่างบางที่นั่งดูเหตุการณ์เอ่ยขัด เมื่อคนรักกำลังขาดสติทำร้ายมนุษย์ ซึ่งเสียงนั้นก็ทำให้คิมแทยอนได้สติ เขาเข้าใจเจตนาของทิฟฟานี่เสมอว่าไม่ต้องการให้ตัวตนของเขาเองถูกเปิดเผย

     

    ..โครมมมม..

                          ทันทีที่แทยอนตัดสินใจละระดับปืนลง ร่างของชายหนุ่มที่กำลังเสียสติก็ลอยขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะถูกเหวี่ยงไปกระแทกลังไม้ในโกดังเข้าอย่างจัง ความเจ็บปวดจากพลังนั้นทำให้ซีวอนจุกได้ไม่มากก็น้อย

                          แทยอนปลดการพันธนาการบนตัวของร่างบางออก และตัดสินใจนำเชือกเส้นเดิมมาตรึงซีวอนไว้กับเสากลางโกดังอย่างเช่นที่ชายหนุ่มทำกับคนรักของเขา หันหลังกลับไปบรรจงช้อนตัวร่างบางของคนรักที่ตอนนี้หมดสติไปแล้วขึ้นมาในอ้อมแขนแข็งแกร่ง และเดินออกไปจากโกดัง

    “ไอ่ปีศาจ ปล่อยฉันนะเว่ย หึ่ย!

     
     

    ...วี้หว่ออวี้หว่อออ...

                          เสียงรถไซเรนของตำรวจซึ่งมีหมวดยูรินำ มาถึงโกดังร้างดังพิกัดที่ได้มา ยูริเปิดลงจากรถสั่งลูกน้องแล้วกระชับปืนในมือ บุกเข้าไปข้างในอย่างรีบร้อนเพราะความเป็นห่วงเพื่อนรักของคนนำโด่งเหนือหลักการการเฝ้าระวังภัย เมื่อประตูเปิดออก พบเพียงร่างของชายหนุ่มซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผู้ต้องหาเหลืออยู่เพียงคนเดียว ท่าทางของชายคนนั้นเหมือนคนขาดสติ นั่งเพ้อแต่ว่า มันไม่ใช่คนๆ ต้องไปจับมันมา ๆ อยู่อย่างนั้น และเมื่อยูริได้ไปถึงชายคนนั้น

    “แกเอาฟานี่ไปไว้ที่ไหน!” ยูริถึงกับหัวเสียเมื่อไม่พบเพื่อนของคน ยอมรับเลยว่าเขารักทิฟฟานี่มาก หล่อนเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่อยู่เคียงข้างเขามาตลอด เขาทำใจไม่ได้แน่ๆถ้าต้องเสียเพื่อนรักคนนี้ไป

    “ตามมันไปสิ เอเลี่ยน! เอเลี่ยนเอาตัวมันไปทางนั้นๆ” ซีวอนพยายามดิ้นจากการจับกุม ชี้ทางหลังโกดังให้ยูริตามไปอย่างบ้าคลั่ง ผู้หมวดก็ไม่รอช้ารีบวิ่งตามออกไปทันที

                          เมื่อยูริวิ่งออกมาทางด้านหลังโกดังอย่างที่ซีวอนบอก ก็พบว่าด้านหลังของโกดังเป็นป่ารก ร่างสูงกวาดสายตาไปเจอกับเงาสีดำไหวๆ ที่ออกไปได้ไกลพอสมควร จึงรีบวิ่งตามสุดฝีเท้า จนตามไล่หลังได้ในไม่ช้า

    “เห้ย หยุด! หยุดเดี๋ยวนี้นะ นี่เจ้าหน้าที่ตำรวจ” ยูริตะโกนใส่แผ่นหลังที่ไม่ใหญ่มากนักของเงาดำนั้น

                          เงาดำนั้นยังคงเดินต่อไปไม่ลดละท่ามกลางสายฝนที่พราวลงมาอย่างไม่ขาดสาย ราวกับว่าเสียงคำสั่งของเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นเป็นเพียงธาตุอากาศ

    ฉันบอกให้หยุดไง ! ถ้าไม่หยุดยิง!” แผ่นหลังเล็กหยุดชะงักกับประโยคที่คนตามมาเอ่ยเมื่อสักครู่ ไม่ใช่เพราะว่าเกรงกลัวต่ออำนาจตำรวจแต่อย่างใดแต่เป็นเพราะไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปมากกว่านี้ อย่างน้อยคนที่ตามมาตอนนี้ก็มีเพียงแค่ยูริ คนที่เขารู้จัก .. หลังจากนี้คงจะมีตำรวจนายอื่นๆตามมาเป็นแน่

    วางตัวประกันลง ..ยกมือขึ้นแล้วหันมาช้าๆผู้หมวดหญิงพูดกับแผ่นหลังปริศนาพร้อมกับก้าวเข้าไปหาอย่างช้าๆเพื่อระยะที่ลดลง แต่ดูเหมือนว่าร่างนั้นจะยังคงไม่สนใจแต่อย่างใด แทนที่จะทำตามคำสั่ง กลับยืนนิ่งไม่ไหวติงอุ้มร่างที่ไม่ได้สติอยู่อย่างนั้น

    ฉันบอกว่า..

    กลับไปซะน้ำเสียงราบเรียบของบุคคลภายใต้เสื้อฮู้ดเอ่ยขึ้นพลางปรับองศาหน้าให้หันข้างเล็กน้อย ทำให้บุคคลที่ตามมาได้เห็นเสียวหน้าที่ถูกปกปิด .. และถึงแม้จะน้อยนิดก็รู้ได้ว่าร่างที่กำลังอุ้มทิฟฟานี่อยู่คือใคร

    แทยอน? หัวคิ้วของคนหน้าเข้มขมวดเป็นปม สองมือที่ถือปืนลดระดับลงช้าๆ ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองว่าคนตรงหน้าคือไอตี๋หน้าขาวคิมแทยอนจริงๆ ..แล้วคนตัวเล็กมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?

     

                          สองขาเล็กก้าวเดินต่อเข้าไปในป่ารกอย่างไม่ลดละเมื่อเห็นว่าคนที่ตามมารับรู้ถึงจุดประสงค์ที่ตนจะสื่อ พื้นป่าเปียกแฉะ ชุ่มไปด้วยน้ำฝน ร่างเล็กก้มมองคนที่สลบไสลไม่รู้เรื่องรู้ราวในอ้อมอกความกังวลภายในใจเริ่มเบาบางลงใบหน้าขาวปรากฎรอยยิ้มที่แสดงถึงความรู้สึกเบาใจที่คนตรงหน้าปลอดภัย ริมฝีปากบางของหมาต่างดาวโน้มลมจุมพิตที่หน้าผากมนของร่างบางด้วยความทะนุถนอม และ...เปรี้ยงงงงง...คนสวมฮู้ดสีดำกับบุคคลในอ้อมกอดหายไปพร้อมกับสายฟ้าที่ผ่าลงมาเช่นเคย

                         


    หมวดครับ ! มีอะไรหรือป่าวครับลูกน้องของยูริที่วิ่งตามมาสมทบ เอ่ยถามคนที่ยศมากกว่าที่กำลังยืนเหม่อมองไปเข้าในป่าด้วยใบหน้าราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่ตลอดเวลา

    ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ .. ตัวประกันปลอดภัยแล้วล่ะ

                          ผู้หมวดผิวเข้มเดินนำลูกน้องออกไปพร้อมทิ้งประโยคชวนงงให้กับคนที่ตามมาอย่างมาก ตัวประกันปลอดภัยแล้วได้อย่างไร ? เจอแต่คนร้ายยังหาไม่เจอไม่ใช่หรือ? .. ยังไม่ทันที่จะไขข้อสงสัยผู้หมวดฝีมือดีก็เดินนำลิ่วไปที่จุดรวมพลเพื่อเตรียมสรุปรายงานคดีและจับกุมคนร้ายไปฝากขังเสียแล้ว

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    คอนโด

                          คนตัวเล็กวางร่างที่บอบบางกว่าลงบนเตียงนอนภายในห้องสีชมพูหวานแหวว เสื้อฮู้ดสีดำถูกถอดออกกองไว้ที่พื้น แทยอนมองใบหน้าเรียวของคนตรงหน้าที่ตอนนี้มีรอยช้ำจากการถูกทำร้ายด้วยแววตาเจ็บปวด เขากำลังโทษตัวเองว่าตนดูแลคนที่รักไม่ได้ สองขาเล็กลุกขึ้นหาเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับร่างบางและเขาที่ตัวเปียกจากเม็ดฝน แต่ก็ไม่ลืมที่จะสะสางอะไรบางอย่างเสียก่อน มือเล็กหยิบมือถือสีชมพูของคนตรงหน้าที่เก็บกลับมาจากโกดัง นิ้วป้อมกดหาเบอร์คุ้นเคยที่คาดว่าจะรอสายจากตนอยู่

    อืม กลับมาแล้วล่ะ .. ไม่เป็นอะไรมาก ขอบคุณนะ ซูยอง และมันเป็นเพียงบทสนทนาสั้นๆก่อนที่สายจะถูกตัดไป

                          กะละมังใบเล็กถูกวางไว้ข้างหัวนอนอย่างเบามือ อ่า...บรรยากาศเหมือนวันแรกที่เขาทั้งสองพบกันไม่มีผิด เพียงแต่วันนี้บุคคลที่นอนอยู่ไม่ใช่หมาต่างดาวและมีเรื่องวุ่นๆเกิดขึ้นให้ใจหล่นไปยันตาตุ่มเท่านั้นเอง

                         

                          หมาต่างดาวเอื้อมมือเล็กของตนไป ณ ตำแหน่งกระดุมเม็ดบนสุดที่ถูกติดไว้อย่างเรียบร้อยของคนตายิ้ม ความร้อนที่เกิดจากภายในใจทำให้ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่อจางๆเมื่อในหัวเผลอนึกคิดจินตนาการถึงเรือนร่างภายใน คนตัวเล็กตัดสินใจปรับระดับสายตาไปมองหน้าคนที่หลับตาพริ้มอยู่เสียแทน

                          กระดุมเม็ดแรกกว่าจะถูกปลดไปต้องใช้เวลาอยู่พักใหญ่เพราะด้วยอาการสั่นเทาของคนตัวเล็กทำให้มือไม้ดูเงอะงะไปหมด และกำลังจะตามมาด้วยเม็ดที่สอง พลันสายตาของคนตัวเล็กเห็นคนที่นอนอยู่ค่อยๆลืมตาขึ้นมา มือที่เดิมเคยสัมผัสอยู่ ณ จุดวาบหวิวก็ถูกเก็บเข้าข้างลำตัวโดยอัตโนมัติเพราะความห่วงร่างบางตรงหน้ามากกว่า

    เจ็บมากมั้ยฟานี่..สายตาเป็นห่วงเป็นใยและน้ำเสียงอบอุ่นถูกส่งไปยังคนที่เพิ่งได้สติ มือเล็กแตะสัมผัสแผลที่มุมปากร่างบางแผ่วเบา ราวกับกลัวว่ามันจะบอบช้ำไปมากกว่าเดิม

    แทยอนคนถูกถามที่ไม่ตอบอะไร กลับยันตัวขึ้นโอบกอดร่างเล็กอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ประโยคขอบคุณจะถูกกลั่นกรองออกมาจากริมฝีปากบางมากมาย

    ขอบคุณนะ ขอบคุณที่ไปช่วย ..ฟานี่คิดว่าจะไม่ได้เจอแท อะ..นิ้วเล็กป้อมทาบลงที่ริมฝีปากของคนที่เอาแต่พูดขอโทษไม่ยอมหยุด จนร่างปากต้องชะงักประโยคซึ่งเขาไม่อยากได้ยิน .. และไม่อยากให้เธอพูดออกมา

    ไม่ต้องแล้ว.. แทเป็นคนที่ควรจะขอโทษฟานี่มากกว่า แทไม่เคยดูแลฟานี่ได้เลย ขอโทษนะหมาน้อยผู้ใสซื่อเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด เขาไม่อยากจะคิดต่อเลยว่าถ้าเขาต้องเสียหล่อนไปคิมแทยอนคนนี้จะอยู่ได้อย่างไร



                          มือเล็กจัดการเกลี่ยผมของคนที่นั่งน้ำตาคลอด้วยความทะนุถนอมริมฝีปากแดงเล็กกดประทับที่กระหม่อมหอมของคนเสียขวัญ ก่อนที่จะไล่ลงมาที่ปลายจมูกรั้น และจูบกดทับที่แผลมุมปากด้วยสัมผัสแผ่วเบา หมาต่างดาวละสัมผัสออกมาสบตากับดวงตาคู่หวาน เหมือนช่วงเวลาหยุดเดินชั่วขณะทั้งสองสบสายตากันอย่างสื่อความหมายด้วยสายตาหวานฉ่ำราวกับกำลังขออนุญาต ..หมาน้อยผู้ใสซื่อกำลังกลายร่างเป็นหมาป่าเสียแล้ว เมื่อเขากดจูบร่างบางตรงหน้าอย่างไม่รีรอ สัมผัสที่แผ่วเบา...และหนักแน่นในเวลาเดียวกัน

    (ปาดขาว)

                          คนตาหวานตอบรับคำขอที่ถูกส่งมาของคนตัวเล็กด้วยสัมผัสแบบเดียวกัน เรียวปากบางกดทับที่ริมฝีปากแดงเล็กด้วยความอ่อนโยนก่อนที่สัมผัสหวานนุ่มนั้นจะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นความเร่าร้อนด้วยอารมณ์ที่พลุกพล่านที่มีอยู่ในตัวของคนทั้งสอง มือเล็กข้างหนึ่งยกขึ้นประคองท้ายทอยของร่างบางเพื่อปรับองศาให้สะดวก

                          มือข้างที่ว่างเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบวนคลึงสะโพกได้รูปของร่างบางช้าๆ  แล้วเริ่มลุกล้ำเมื่อมือเล็กล้วงเข้าไปสร้างความปั่นป่วนในเสื้อยืดตัวบางลูบไล้สัมผัสแผ่นหลังเนียนสวย ส่วนคนที่ตอนนี้อยู่ในสภาพถูกคร่อมเองก็ไม่ต่างกัน มือบางโน้มคอของคนตัวเล็กเข้ามาชิดใกล้ราวกลับไม่อยากให้สัมผัสที่อบอุ่นนี้ต้องหยุดลง

                          ร่างเล็กผละริมฝีปากออกมายกยิ้มเล็กน้อยก่อนที่จะก้มไปประทับจูบดุดดื่มอีกครั้งส่งลิ้นเล็กเข้าไปทักทายหาความหวานภายในโพรงปากทันทีที่ริมฝีปากบางเผยอออกต้อนรับ ทั้งสองคนจูบกันอยู่นานจนกระทั่งอากาศของทิฟฟานี่จวนจะหมดหลุดครางออกมาเพราะคนตัวเล็กไม่ให้เวลาเธอหายใจหายคอ หลังจากที่คนตัวเล็กผละออกแล้วเปลี่ยนเป้าหมายไปพรมจูบลำคอระหงส์ของเธอ

                          ตะขอบราสีดำที่เจ้าตัวสวมใส่อยู่ถูกปลดด้วยมือของคนตัวเล็กตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่ทราบ คนตัวเล็กกดจูบลบที่ผิวเนียนสีน้ำนมอย่างหลงไหล มือร้อนเคลื่อนลูบไล้ผิวเนียนสร้างความสั่นสะท้านให้กับร่างบาง ก่อนที่จะเกาะกุมยอดอกที่ชูชันน่าหลงใหล สัมผัสเค้นคลึงจากฝ่ามือร้อนปลุกปั้นอารมณ์ของทั้งคู่ให้พุ่งพล่านจนแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

                          เสียงครางน่าอายถูกเปล่งออกมาจากสองร่างที่แนบชิดกันอย่างไม่ลดละ เสื้อผ้าที่ห่อหุ้มปกปิดร่างกายถูกถอดทิ้งกระจัดกระจายไปทั่วห้อง ปลายนิ้วเล็กเลื่อนลงต่ำเตรียมพร้อมทักทายจุดเร้นลับ ริมฝีปากสีแดงสดแวะทักทายทุกจุดที่มือเล็กผ่านอย่างเชื่องช้า ก่อนที่สองร่างเปลือยเปล่าจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว

                          จังหวะโยกเย้าสร้างทำให้อารมณ์ที่เคยพลุกพล่านระเบิดออกพร้อมกับเสียงครางที่ถูกส่งออกมาอย่างไร้สติ มือเรียวเผลอจิกหลังคนตัวเล็กด้านบนด้วยความลืมตัว สัมผัสอ่อนโยนร้อนแรงขึ้นตามอารมณ์สร้างความเสียวซ่านให้ไม่น้อย ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ช่วยให้เหงื่อที่ไหลพรักลดลงแม้แต่น้อยเพราะความร้อนของร่างกายไม่ได้ทำให้บทเพลงรักต้องหยุดลงแต่อย่างใด..

    ..

                          กิจกรรมรักครั้งแรกของหมาต่างดาวและทนายหมีตายิ้มจบลงด้วยความเหนื่อยล้าที่เปี่ยมล้มไปด้วยความสุขและความอบอุ่นของแสงแดดของพระอาทิตย์ที่เข้ามาทักทาย ความหอมหวานละมุนยังครอบคลุมสองร่างเปลือยเปล่าที่นอนหอบหายใจถี่บนเตียงสองแขนของทั้งคู่ยังคงโอบกอดกันไม่ปล่อยจูบดูดดื่มกันอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ราวกับไม่ให้ช่วงเวลานี้ต้องผ่านพ้นไป ..

                          วันหนึ่งที่เกิดเรื่องแสนโหดร้าย ถูกลบล้างไปด้วยค่ำคืนที่น่าจดจำ สองร่างหลับใหลสู่ห้วงนิทราด้วยความอ่อนล้า ใบหน้าใสหลับตาพริ้มโอบกอดร่างบางที่นอนซบอยู่บนอก พร้อมกับรอยยิ้มที่ปรากฏ มันยังคงมีความหมายถึงแม้งานเลี้ยงจะมีวันเลิกราแต่มันก็มีคุณค่าและยังตราตรึงใจเราไปชั่วนิรันดร์

     

     

    Writalk : อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย ! แชป 7 มาแล้ว  >< ..มาแบบยาวๆไปหายไปซะนานเลย จัดตามคำขอหมาน้อยของเราไปช่วยแม่หมีได้สำเร็จ ตบท้ายรางวัลอย่างงามด้วย อื้มมมม... nc (บอกตรงๆว่าไม่เคยแต่ง) สำหรับตอนนี้ไรต์ใส่ปริศนาไว้พอสมควร อืมๆ..ก็ไม่รู้สินะ จะมีใครสังเกตเห็นมั้ยน๊อออ  คิคิ เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อไปติดตามได้ในตอนหน้านะคร้าบบบบ ด้วยรักและจุ้บๆ

    ปล.จบแน่ๆ เรื่องนี้จบแน่ๆ5555 ดองบ้างไม่ว่ากันเด้อออ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×