ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่บ้านทหารบก CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #8 : EP.6.1 โอ้ความรักของรด.

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 26.65K
      1.16K
      7 ม.ค. 66




     

    หนูหิวน้ำแล้วหนูก็เดินๆๆ ไปใช่ไหม พอไปถึงไปเจอบ่อน้ำเห็นน้ำใสๆ เลยจะเข้าไปกินแต่พอลงข้างคลองแล้วหนูก็ลื่นวึ๊บลงไปเลย ตอนแรกหนูคิดว่าน้ำมันไม่ลึกหนูก็พยามเอาตีนยันพื้นแต่ยันยังไงมันก็ไม่ถึง แล้วก็มีอะไรไม่รู้มาพันขา

     

    เวลาสองทุ่มเศษๆ ภายในบ้านหลังเล็ก เสียงพูดคุยของสองแม่ลูกดังเบาๆ อยู่หน้าทีวี หลังกลับจากค่ายมรณะ แบคฮยอนก็ไม่ลืมเล่าเรื่องราวที่ได้ประสบพบเจอมาให้แม่ของเขาฟังทันที คนตัวเล็กทำหน้านิ่วคิ้วขมวด ริมฝีปากเชิดโด่งไปจนถึงกำแพงบ้าน ยิ่งช่วงพีคๆ แบคฮยอนยิ่งเก็บสีหน้าไม่อยู่

     

    ดีนะเพื่อนไปเจอทัน ไม่งั้นนะหนูไม่ได้กลับบ้านแล้วพูดก็ทำสีหน้าเคร่งเครียด แบคฮยอนยังจำได้ดีตอนที่มีอากาศเฮือกสุดท้ายเข้ามาในปากก่อนที่จะขาดอากาศหายใจ มันเป็นความรู้สึกที่เขาจะไม่มีวันลืมลง

     

    กินเยอะแล้วก็เดินละเมอไปตกน้ำตกท่าอะสิโบยอนว่า ถึงแม้ในใจเธอจะรู้สึกว่าโชคดีแค่ไหนที่ลูกชายรอดกลับมาได้แต่การแสดงความเป็นห่วงแบบหวานซึ้งมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเอาซะเลย

     

    หนูฝันจริงนะแม่

     

    แล้วเพื่อนคนไหนไปเจอ

     

    ชานยอลไง ชานยอลที่หล่อๆ อะ เค้าเป็นหัวหน้าหมู่ เค้าออกไปวิ่งตามหาหนูเป็นชั่วโมงเลย

     

    อ๋อ ไอ้คนที่แอบชอบเค้าอยู่อะหรอ

     

    แม่อ๊ะ~” แบคฮยอนทำหน้ายุ่ง เขาวางช้อนที่กำลังตักแตงโมลงพลางเหลือบตาขึ้นมองผู้เป็นแม่ที่กำลังช่วยนวดเท้าเป็นตะคริวให้หลังจากต้องไปตีขาในน้ำตะเกียกตะกายมาจนเส้นยึด แบคฮยอนไม่เคยบอกแม่สักหน่อยว่าเขาชอบชานยอล ทำไมต้องมาพูดแบบนี้ด้วย

     

    ที่ไปรด.แล้วได้นอนเต็นท์เดียวกับเค้าใช่ไหม

     

    แม่~”

     

    เวรกรรม ส่งลูกไปเรียนทหารเสือกได้ผัวทหารกลับมา

     

    พ่อ!

     

    คุณพ่อแทซองที่เดินออกมาจากห้องครัวบ่นเสียงดัง ชายหนุ่มแอบชำเลืองตาไปมองลูกชายตัวจ้อยของเขาที่นั่งมุ่ยปากทำหน้าหงอยอยู่บนโซฟาก่อนจะเดินไปนั่งลงข้างๆ แล้วใช้มือตบหัวเกรียนเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ ขนาดแบคฮยอนตัดผมจนสั้นขนาดนี้แล้วแทซองยังมองไม่เห็นความแมนในตัวลูกเขาเลย

     

    อะไร ให้ไปเรียนรด.อะให้ไปฝึกความอดทน แล้วดูกลับมาตัวมีแต่แผล บ่นกระปอดกระแปดอย่างกับพวกตุ๊ด

     

    ก็หนูเป็นตุ๊ดอ๊ะ!

     

    ตุ๊ดเป็นได้ก็เลิกได้อดีตนายทหารกล่าวเสียงเข้ม มือหนาบีบลงบนไหล่บางจนเจ้าตัวอ่อนทำหน้าเหย ยิ่งได้เห็นริมฝีปากเบ้ๆ แทซองก็ยิ่งอยากแหย่ให้ลูกชายหงุดหงิดเข้าไปอีก

     

    หนูไม่คุยกะพ่อแล่วพอว่าแล้วเจ้าแสนงอนก็ทำตัวอ่อนย้วยลงโซฟาบิดร่างกลิ้งลงบนพื้นด้วยความมากลีลาก่อนจะลุกขึ้นหอบแตงโมครึ่งลูกของตัวเองเดินขึ้นบันไดกลับห้องนอนไปหลังจากที่ถูกแซวจนหัวอุ่นไปหมด

     

    แบคฮยอนรีบเดินกลับขึ้นไปยังห้องนอน เขาปิดประตูล็อคกลอนแล้วตรงไปกระโดดลงบนเตียงนอน ก่อนจะคว้าเอาโทรศัพท์มาเปิดเช็คข้อความต่างๆ ไปพลางเป็นการฆ่าเวลา หลังจากจบค่ายรูปถ่ายจากเพื่อนๆ ก็ถูกแท็กเข้ามาเป็นสิบจนดูได้แทบไม่ครบ ภาพถ่ายติดอาจารย์สาวที่สอนวิชาสังคมทำให้แบคฮยอนนึกขึ้นได้ว่าเขายังไม่ได้ทำงานที่ค้างไว้เลย

     

    คิ้วเรียวขมวดย่นลงเล็กน้อย คนตัวเล็กรีบคลานไปคว้ากระเป๋านักเรียนบนชั้นมารื้อหาใบงานที่ยังไม่เสร็จออกมาดูทันที ก่อนจะพบว่ามันว่างเปล่าพอๆ กับหัวสมองเขา สุดท้ายก็ได้แต่ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ปลายนิ้วเรียวไล่แตะลงไปบนสมุดรายชื่อโทรศัพท์ด้วยความเบื่อหน่ายเพื่อไล่หารายชื่อเพื่อนที่พอจะช่วยได้

     

    หัวหน้า <3

     

    ดวงตาเรียวรีจ้องมองไปยังหมายเลขคุ้นตาบนหน้าจอ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น แบคฮยอนกำลังคิดว่าจะทำยังไงดีถึงจะโทรหาชานยอลได้เนียนๆ และไม่ดูโป๊ะจนเกินไป เขากลิ้งตัวนอนนึกไปนึกมาอยู่นานก่อนจะตัดสินใจกดโทรออกไปยังหมายเลขที่ว่า

     

    เพียงไม่นานเสียงตู๊ดก็ดังขึ้น หัวใจดวงเล็กเต้นระรัว แต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้รับสาย แบคฮยอนก็รีบกดวางสายทันทีทำเป็นโทรผิดเหมือนไม่ได้ตั้งใจโทรมา เผื่อว่าอีกฝ่ายจะโทรกลับ

     

    กิกิ

     

    ปลายจมูกเล็กๆ ซุกลงกับหมอนใบใหญ่ด้วยความเขินอายขณะที่ดวงตาก็ยังจับจ้องไปยังจอมือถือไม่วางตา ในใจก็ได้แต่คิดว่าตอนนี้ชานยอลทำอะไรอยู่น้า เขาจะโทรกลับมาหรือเปล่าหรือว่ามัวแต่เล่นเกมจนไม่ได้สนใจอะไรเหมือนเดิม

     


     

    ......


     

     

    เวลาผ่านไปกว่า 15 นาทีแล้วที่ไม่มีเสียงเรียกเข้าโทรกลับมาจากปลายสาย และแบคฮยอนก็ได้แต่นั่งรอนอนรอจนหน้าแห้งไปหมด เขาหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีกครั้งก่อนจะโยนมันลงบนเตียงอย่างนึกเซ็ง สุดท้ายก็ไม่รู้ว่าชานยอลรู้ทันหรือเข้าใจว่าโทรผิดจริงๆ กันแน่

     

    Ring ring ring ring

     

    ในขณะที่กำลังจะตัดใจ เสียงเรียกเข้าจากมือถือเครื่องบางก็ทำคนตัวเล็กต้องหูตั้ง แบคฮยอนรีบคว้าเอาโทรศัพท์มาดูพร้อมกับระบายยิ้มกว้างๆ ขึ้นบนใบหน้าเมื่อได้เห็นรายชื่อคุ้นตา แต่เขาก็ยังไม่ยอมกดรับ 


    แบคฮยอนเล่นตัวทำเป็นเหมือนไม่ได้ยินเสียงกริ่งอยู่เกือบ 5 วินาทีก่อนจะกดรับสาย แกล้งทำเป็นเหมือนเพิ่งเดินมารับโทรศัพท์ ไม่ได้นั่งรออยู่เลยจริงๆ

     

    ฮัลโหล

     

    [เมื่อกี้โทรมาอ่อ]

     

    เออ โทษที โทรผิดอะ ว่าจะถามการบ้าน แต่เมื่อกี้โทรไปถามคยองมาและ

     

    [อ่อ... วิชาไรอะ]

     

    ของสังคมอะ ใบงานอาทิตย์ที่แล้ว ทำเสร็จยังวะพออีกฝ่ายเปิดโอกาสมาแบคฮยอนก็ไม่ปล่อยให้มันผ่านไปง่ายๆ เขารีบยิงคำถามทันทีพร้อมกับเป็นเปิดหน้ากระดาษทำเป็นอ่านหนังสือแก้เขินแม้จะไม่ได้สนใจมันอยู่เลยก็ตาม

     

    [ที่ให้เขียนสรุปอะหรอ]

     

    เออ เรื่องจักรวรรดิไรนั่นอะ เค้าให้ลอกหน้าไหนวะ หรือเค้าให้หาเอง

     

    [ให้หาเอง]

     

    อ่อ... เออๆ ขอบคุณมาก ไม่มีไรหรอก โทรมาถามแคนี้แหละ

     

    [โทรมาแค่นี้]

     

    อือ โทรมาแค่นี้แหละ

     

    [หรออ]

     

    การลากเสียงหรอแบบไม่สั้นไม่ยาวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำของคนในสายทำแบคฮยอนแทบตัวระเบิด เขาได้ยินอีกฝ่ายส่งเสียงหัวเราะขึ้นจมูกเบาๆ แล้วอยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนถูกจับได้ขึ้นมาทั้งที่คิดว่าตัวเองเนียนแล้วแท้ๆ คนตัวเล็กถึงกับต้องมุดหน้าลงกับหมอนใบใหญ่ด้วยความเขินอาย ปลายเท้าเล็กๆ ดีดดิ้นไปมาจนตะคริวจะกินอีกรอบ

     

    ให้มันได้อย่างนี้สิหัวหน้า ให้มันได้อย่างงี้!

     

    เอ้อ ก็แค่นี้แหละ

     

    [เค]

     

    อื้อ... วางและ

     

    [อือ]

     

    พออีกฝ่ายส่งเสียงครางตอบรับออกมา แบคฮยอนก็กดวางสายแล้วคว่ำหน้าโทรศัพท์ลงก่อนจะชกกำปั้นใส่ที่นอนด้วยความเขินอาย เขารู้สึกเหมือนร่างกายกำลังกลายเป็นถ่านหินร้อนๆ ราวกับได้ยินเสียงทุ้มนั้นดังวนอยู่ในหูซ้ำไปซ้ำ

     

    แบคฮยอนได้ยินแต่คำว่า หรอ หรออ หรอออ หรออออ หรออออออ ไม่หยุด หน้าเขาร้อนเห่อไปหมด ยิ่งจินตนาการว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่ตอนที่พูดคำนี้หัวใจมันก็ยิ่งเต้นแรง

     

    ใบหน้าหวานส่ายถูไปกับหมอนใบใหญ่ มือบางจิกกำผ้าปูที่นอนแน่น ภายในห้องนอนเงียบๆ แบคฮยอนได้ยินเพียงแค่เสียงหัวใจตัวเองที่กำลังเต้นตึกตัก เขายิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี คืนนี้แบคฮยอนคงนอนหลับได้โดยที่ไม่มีผีครูฝึกมากวนใจอีกต่อไป

      

     

    . 

    .


    .

     

     

     

    เวลาเจ็ดโมงเศษของเช้าวันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อ ในห้องเรียน ม. 5/3 เสียงเจี๊ยวจ๊าวดังสนั่นเหมือนอย่างทุกที และเรื่องเด่นประจำสัปดาห์นี้ก็คงไม่พ้นเรื่องเพื่อนนักเรียนเจอผีในค่ายทหารและเกือบถูกเอาชีวิตไป มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ที่แม้แต่ครูอาจารย์ก็ยังพูดถึงกัน

     

    การบ้านกูยังไม่เสร็จเลยว่ะ แม่งเยอะชิบหาย

     

    บนโต๊ะที่นั่งติดริมหน้าต่าง เจ้าของตำนานผีครูฝึกมุ่ยหน้าบ่นอุบอยู่บนเก้าอี้ขณะที่ยัดข้าวเหนียวตูดไก่เข้าปาก แบคฮยอนกำลังคิดว่าเขาน่าจะสลบให้นานกว่านี้อีกสัก 3 วัน จะได้ไม่ต้องฟื้นขึ้นมาเจอกองการบ้านสูงท่วมหัว ร่างกายมันอ่อนล้าไปหมดทันทีที่นึกขึ้นได้ว่าตัวเองดองการบ้านอะไรไว้ตอนวันหยุด แต่ทว่าพอนึกไปนึกมามันก็โทษใครไม่ได้ ถ้าไม่เอาแต่นึกถึงเรื่องที่ค่ายงานก็คงเสร็จไปแล้ว

     

    แล้วมึงจะทำไหม

     

    ไม่ทำอะ อันไหนไม่ส่งได้ก็ไม่ส่ง

     

    เท้าเล็กๆ กระดิกส่ายไปมาอย่างสบายอามณ์ แบคฮยอนตัดสินใจเทการบ้านใบงานทันทีอย่างไม่ต้องใช้เวลาคิดทำเอาคยองซูต้องหันไปมองตาขวาง ขนาดจะกินข้าวแบคฮยอนยังต้องให้อี้ชิงปั้นข้าวเหนียวให้ ชีวิตนี้แบคฮยอนจะทะเยอทะยานกับอะไรบ้างขนาดแค่รายงานแผ่นเดียวเขายังเท

     

    มึงว่าชานยอลมันอ่อยกูปะวะ หรือมันแค่หยอดกูเล่นดวงตาเรียวรีจับจ้องไปยังแผ่นหลังหัวหน้าห้องรูปหล่อที่นั่งควงปากกาคุยกับเพื่อนอยู่ตรงที่นั่งฝั่งประตู

     

    เรื่องที่รบกวนจิตใจของแบคฮยอนอยู่ตอนนี้คงมีแค่เรื่องเดียว เขาอดคิดไปเองไม่ได้ว่าชานยอลกำลังเล่นด้วยเพราะสิ่งที่เขาทำตอนอยู่ที่ค่ายมันช่างมากมายเกินกว่าที่มโนไว้ สำหรับแบคฮยอนแค่ได้อยู่ร่วมกลุ่มเดียวกันกับคนที่ชอบก็ถือว่าเป็นโมเม้นที่เหมาะสมแก่หัวใจดวงน้อยๆ แล้ว

     

    กูว่ามันก็เล่นอยู่นะ กูไม่เห็นมันอะไรกับอีจียอนเลยอี้ชิงว่า

     

    ใช่แมะ กูไม่ได้คิดไปเองใช่แมะ

     

    ทำไม มึงจะสารภาพรักกับมันหรอคยองซูเอ่ยถามพลางปลายตาไปมองเพื่อนร่อวมห้องสุดหล่อที่เป็นขวัญใจของใครต่อใครไปทั่ว แน่นอนว่าแบคฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

     

    ไม่รู้ดิ แอบชอบมันไปเรื่อยๆ ก็มีความสุขดีเจ้าของริมฝีปากจุ๋มจิ๋มบ่นงึมงำ แบคฮยอนแทบกลั้นยิ้มไม่อยู่เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนวันศุกร์ ตัวเขาเองไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายอยู่แล้ว แบคฮยอนชอบที่จะแอบชอบแบบนี้ไปเรื่อยๆ มากกว่า มันทำให้หัวใจเขากระชุ่มกระชวยแทนที่จะมานั่งคาดหวังเรื่องต่างๆ

     

    มัวแต่ช้าเดี๋ยวหมาก็คาบไปแดกอี้ชิงแขวะ

     

    ไว้รอผมขึ้นก่อนแล้วค่อยคิด

     

    ทำไมต้องรอผมขึ้นวะ?”

     

    ก็หัวโล้นแล้วกูไม่มั่นใจอะคนตัวเล็กมุ่ยหน้าพลางยกขึ้นลูบผมที่ไม่ยอมยาวสักที ผมแบคฮยอนยังเกรียนเป็นตออยู่เลย แล้วแบบนี้จะกล้าไปสารภาพรักได้ไง

     

    มัวแต่ลีลา คอยดูเหอะ เดี๋ยวมีข่าวดีเมื่อไหร่มึงอย่ามาน้ำตาเช็ดหัวเข่าแล้วกัน

     

     

     

     

     

    ณ ช่วงสายที่พระอาทิตย์ส่องลงตรงเกือบกลางหัว ในคาบวิชาพละที่แสนปล่อยปะละเลย แบคฮยอนเดินลากรองเท้าแตะโดเรม่อนสีฟ้าเดินเตาะแตะไปทั่วสนามพร้อมกับเท้าเจ็บๆ ที่กลางสนามคอนกรีตพวกนักกีฬาโรงเรียนกำลังวิ่งแย่งลูกฟุตบอลกันจนหลังเปียกเหงื่อ กระทั่งเสียงนกหวีดเรียกรวมดังขึ้น

     

    นักเรียนที่กระจายตัวอยู่กลางสนามเดินมานั่งรวมกลุ่มกันอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีอาจารย์หนุ่มนั่งคอยเช็คชื่ออยู่ข้างหน้า

     

    ส่งใบงานต่อไปข้างหลัง

     

    กระดาษใบงานปึกใหญ่ถูกส่งจากคนข้างหน้าต่อมาจนถึงด้านหลัง แบคฮยอนที่นั่งอยู่เกือบท้ายสุดรับมันไว้ก่อนจะหันไปส่งกระดาษสามใบสุดท้ายให้กับกลุ่มหัวหน้าห้องที่นั่งอยู่ด้านหลัง เขากวาดตามองใบงานเกี่ยวกับการเข้าค่ายผ่านๆ พลางพ่นลมหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย

     

    งานเมื่อคืนแบคฮยอนยังทำไม่เสร็จเลย และตอนนี้เขาก็ได้งานใหม่อีกแล้ว

     

    ไปเข้าค่ายกันมาเป็นไงมั่งคุณครูจินยองเอ่ยถาม เขาลากเก้าอี้ตัวเล็กขยับเข้ามาเข้าใกล้นักเรียนก่อนจะคว้าเอาไมโครโฟนที่มีลำโพงจิ๋วติดตัวมาเปิด

     

    โห่~ เหนื่อยครับ~”

     

    เสียงร้องโห่ของนักเรียนห้องสามดังขึ้นผสมกับเสียงบ่นเซ็งแซ่ แม้ว่าจะมีบางคนที่เห็นว่าสนุกแต่สำหรับนักเรียนรด. แล้วมันโคตรจะเหนื่อยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับลูกทีมหมู่ 10 การเข้าค่ายครั้งนี้พวกเขาประสบกับหลากหลายอารมณ์มาก ทั้งสนุกสนาน ลุ้นระทึก ตื้นตัน หรือแม้แต่หวาดกลัว มันเป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมจริงๆ

     

    เหนื่อยแล้วสนุกไหม

     

    สนุกแต่โคตรร้อนเลยครับจารย์ ตากแดดลงโคลน หน้าผมไหม้เลยดงโฮพูดเสียงดัง

     

    มีคนจมน้ำด้วยหรอ

     

    ใช่ครับ แบคฮยอนจมน้ำ เดินละเมอ แต่ชานยอลไปช่วยไว้ทัน

     

    ครูฝึกหนุ่มพยักหน้าเบาๆ พลางก้มลงมองดูนาฬิกาที่บอกว่าเหลืออีกตั้ง 20 กว่าจะถึงช่วงพักเที่ยง จินยองกวาดสายตามองเด็กๆ แล้วยื่นไมค์ให้คนที่อยากเล่าเรื่องราวในช่วงพักค่ายเป็นการผ่อนคลายก่อนเลิกคาบ ดูเหมือนว่าห้อง ม.5/3 จะมีเรื่องเล่าสนุกกว่าห้องอื่นๆ โดยเฉพาะคนในหมู่พิเศษที่ไปเจอกับประสบการณ์ขนหัวลุกมา พวกเขาแย่งกันคว้าไมค์จนหล่น

     

    เสียงพูดคุยดังเจี๊ยวจ๊าวไปทั่วสนาม แบคฮยอนเอนหัวพิงลงกับหลังเพื่อนสนิทขณะที่มือก็สาวหญ้าเล่นฆ่าเวลาแก้เบื่อไปพลาง แรงกดเบาๆ ที่ไหล่เรียกให้เขาต้องหันไปมองด้านหลัง แล้วก็พบกับหัวหน้าห้องที่กำลังเอาสติ๊กเกอร์รูปหัวใจมาแปะไว้บนตรงไหล่

     

    ทำไรวะ

     

    เปล่าชานยอลปฏิเสธ เขาเพียงแค่ส่งเสียงหัวเราะออกเบาๆ เมื่อถูกจับได้ก่อนจะหันไปส่งสติ๊กเกอร์คืนให้เพื่อน ความเบื่อหน่ายทำให้ชานยอลอยู่ไม่นิ่ง

     

    ขำไรคนตัวเล็กยกมือขึ้นลูบศีรษะด้วยความไม่มั่นใจเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะตลกผมเกรียนของตัวเองจนต้องหัวเราะออกมา การกระทำที่แสนน่ารักทำหัวใจดวงเล็กเต้นตึกตัก แบคฮยอนแทบไม่กล้าสบตาหัวหน้าห้องเลย พอขาดผมไปความมั่นใจของเขาที่เคยมีก็หายไปจนหมด

     

    เปล่า

     

    หัวมันตลกอ๋อ

     

    ทำไมต้องตลกอะ

     

    ก็ผมมันสั้นอะตอบออกไปด้วยท่าทีประหม่าพร้อมกับใช้มือลูบหัวตัวเองป้อยๆ ถึงแม้ว่าจะผ่านไปหลายอาทิตย์แล้วแต่ผมแบคฮยอนก็ยังไม่ยอมขึ้นเหมือนเพื่อนคนอื่นสักที เขาทั้งใช้มะกรูด ทั้งแชมพูมะหาด แต่มันก็ยาวขึ้นมาแค่นิดเดียวเอง

     

    ไม่ชอบผมสั้นอ่อ

     

    อื้อ มันสั้นเกินอะ

     

    ทำไมอะ น่ารักดีออก

     

    หรอ

     

    เหมือนลูกเกาลัดดีว่าแล้วคนตัวสูงก็ระบายยิ้มออกมาจางๆ ชานยอลนั่งนึกอยู่นานว่าหัวแบคฮยอนเหมือนอะไรแล้วก็เพิ่งนึกได้เมื่อกี้ตอนที่นั่งอยู่ข้างหลัง เขาว่าแบคฮยอนตัดผมสั้นแล้วดูน่ารักดีออก ไม่เห็นมันน่าขำตรงไหนเลย

     

    หรอ...

     

    คำชมจากหัวหน้าหมู่สุดหล่อทำแก้มกลมๆ ที่ยื่นออกมานอกใบหูขึ้นสีแดงระเรื่อ แบคฮยอนเขินจนทำอะไรไม่ถูก เขาไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบตาขึ้นมองคนตรงหน้า สุดท้ายก็ได้แต่หันหน้าหนีไปอีกทางพร้อมกับส่งเสียงงึมงำออกมาโดยที่ไม่หวังให้เขาคนนั้นได้ยิน

     

    งั้นเป็นเกาลัดก็ได้...

     

      

    .

    . 

    .

     

     

     

    ปัง!

     

    เสียงตู้เก็บอุปกรณ์ถูกปิดลงอย่างแรง ในยามเย็นหลังเวลาโรงเรียนเลิก หลังจากที่ทำความสะอาดโรงยิมเสร็จแบคฮยอนก็เดินไปหยิบกระเป๋าที่วางอยู่ข้างแป้นบาสซึ่งกำลังปิดซ่อมบำรุงอยู่ เสียงรองเท้ายางเสียดสีไปกับพื้นไม้ดังเอี๊ยดๆ บาสลูกสุดท้ายถูกโยนเข้าตะแกรงล้อเลื่อนพร้อมกับคะแนน 10 แต้ม

     

    นักเรียนที่เป็นเวรวันจันทร์พากันเดินออกจากโรงยิมมืดๆ ก่อนที่ประตูจะปิดลง ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว ท้องฟ้าเริ่มกลายเป็นสีส้ม ที่สนามเหลือเพียงนักกีฬาที่เพิ่งซ้อมบอลเสร็จ

     

    แบคฮยอนได้แต่ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่เมื่อไม่เห็นเพื่อนที่รู้จักอยู่รอบๆ แล้ว มองไปที่สนามก็เห็นมีแค่ชานยอลที่กำลังวิ่งอยู่ ร่างกายของหัวหน้าหมู่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ คนตัวสูงหอบแฮ่กๆ พลางโน้มตัวลงใช้มือยันเข่าก่อนจะวิ่งเหยาะๆ ไปยังซุ้มขายน้ำ แบคฮยอนยืนมองตรงนั้นอยู่นานจนกระทั่งอีกฝ่ายหันมามอง

     

    คนตัวเล็กตัดสินใจเดินเข้าไปหาหัวหน้าห้องของเขาพร้อมกับเอ่ยชวนให้กลับบ้านพร้อมกัน

     

    กลับบ้านปะ

     

    หื้อ?”

     

    ไม่มีเพื่อนกลับอะ

     

    อือ รอแป๊บชานยอลกระดกน้ำในขวดทีเดียวจนหมด เขาบีบมันด้วยมือใหญ่ๆ แล้วเอาไปโยนใส่ถังขยะก่อนจะคว้ากระเป๋าที่วางอยู่บนที่นั่งใต้ต้นไม้ขึ้นสะพายหลัง

     

    รองเท้าผ้าใบสีขาวก้าวย่ำไปตามพื้นคอนกรีตจนกระทั่งพ้นรั้วโรงเรียน ลมเย็นๆ พัดปะทะเข้ากับใบหน้า แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากร่างกายคนข้างๆ เลย ชานยอลวิ่งจนเสื้อพละของเขาเปียกไปครึ่งตัว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ายหรือเปล่าเจ้าตัวถึงได้อยากเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองด้วยการวิ่ง เขาดูไม่ย่อท้อเลย

     

    เมื่อกี้วิ่งทำไมอะ จะฝึกไว้สอบตำรวจอ่อคนตัวเล็กเอ่ยแซวในขณะที่ก้าวขาเดินย่ำไปตามทางเท้า ใบหน้าหลังอาบเหงื่อของชานยอลดูใสมากกว่าปกติ ยิ่งอยู่ภายใต้แสงแดดยามเย็น มันยิ่งขับผิวของเขาให้ใสขึ้นมากๆ

     

    อือ

     

    เอ้า พูดจริงดิ? นึกว่าพูดเล่น ทำไมไม่อยากเป็นทหารแล้วอะ เคยบอกว่าอยากเป็นทหารไม่ใช่อ่อแบคฮยอนนิ่วหน้าถามออกไปอย่างนึกสงสัย เขาเงยหน้าขึ้นมองคนข้างตัวที่ปลายตามามองเพียงครู่ก็หันไปสนใจมือถือต่อ แบคฮยอนจำได้ว่าชานยอลเคยพูดในชั้นเรียนว่าอยากเป็นทหาร แต่อยู่ๆ เมื่อไม่นานมานี้เขากลับเปลี่ยนใจอยากเป็นตำรวจขึ้นมาซะอย่างนั้น

     

    เป็นทหารไม่มีเวลาให้ครอบครัว

     

    อ่อ... ก็จริงอะเนาะคนตัวเล็กได้แต่พยักหน้าหงึกหงัก คำตอบของเพื่อนร่วมห้องทำแบคฮยอนรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูก มือบางยกขึ้นเกาแก้มด้วยท่าทีประหม่า เขาอดจินตนาการไม่ได้เลยว่าคนที่เป็นแฟนชานยอลจะต้องเป็นคนที่โชคดีขนาดไหน ที่ได้ผู้ชายที่ทั้งนิสัยดีและมีความเป็นผู้นำแบบนี้ไปครอง แต่ตำรวจก็เท่ดีนะ ดูแลคนอื่นเหมือนกัน

     

    หรอ

     

    คำพูดของเพื่อนตัวเล็กข้างๆ ทำชายหนุ่มถึงกับต้องเผลอยิ้มออกมา ชานยอลหันไปมองเจ้าหัวเกาลัดก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองท้องฟ้าสีส้มเข้ม อันที่จริงอาชีพตำรวจก็เป็นทางเลือกที่ไม่แย่นัก แต่ในใจชานยอลก็ยังคงไม่ละทิ้งความอยากเป็นทหารอยู่ดี มันคงดีถ้าเขาได้ลองทำสักอย่างนึงก่อนที่จะได้ตัดสินใจ

     

    พ่อเราก็เคยเป็นทหาร เมื่อก่อนไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกแต่พอมีตำแหน่งแล้วมันก็สบายนะ

     

    พ่อยศไร

     

    ยศนาวาตรีมั้ง แต่ว่าตอนนี้เค้าไปเป็นครูฝึกหน่วยรบแทน ถ้าเป็นทหารลาดตะเวนหรือหน่วยรบแถวชายแดนอะลำบาก แต่ถ้าเป็นทหารงานทะเบียนก็ไม่ค่อยได้ทำไรหรอก วันๆ ฝึก เข้าเวร กวาดหิมะ ขนกระสอบข้าว ไม่สบายไม่ลำบาก มีวันหยุด

     

    ตอนพ่อเป็นทหารลำบากปะ

     

    เมื่อก่อนไม่รู้อะ แต่ตอนนี้ก็ไม่ลำบากนะ ลำบากอย่างเดียวตอนฝึก บางทีก็ต้องอยู่ไกล ยังไงเป็นตำรวจก็ดีกว่า มีเวลากลับบ้าน แถมเงินเดือนดีกว่าด้วย

     

    ถ้ามีแฟนเป็นทหารกลับบ้านได้อาทิตย์ละครั้ง เป็นมึงๆ รอได้ปะ

     

    ก็คิดว่าได้นะ...

     

    คำถามที่อยู่ๆ ก็ถูกถามขึ้นทำคนตัวเล็กอดรู้สึกเขินไม่ได้ สองข้างแก้มร้อนเห่อ ดวงตาเรียวรีแอบเหลือบขึ้นไปมองเพื่อนร่วมห้องตัวสูงเพียงครู่ก็หลุบหันไปมองทางอื่น แบคฮยอนไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองเลยจริงๆ แต่สำหรับเขาแล้วอาชีพตำรวจหรือทหารก็ได้ทั้งนั้นถ้าผู้ชายคนนั้นเป็นชานยอล

     

    หึ...

     

    ได้ยินเพียงแค่เสียงหัวเราะในลำคอที่ดังมาจากคนข้างๆ เบาๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เดินมากันจนเกือบถึงป้ายรถเมล์แล้ว ความประหม่าทำแบคฮยอนเครื่องรวนไปหมด เขานึกหาเรื่องมาคุยไม่ถูกเลย

     

    แต่เรียนจบรด.ก็ถือว่าเป็นทหารแล้วนะ

     

    อือ

     

    ถ้ามีแฟนเป็นรด.ก็เท่ากับมีแฟนเป็นทหารเหมือนกัน

     

    พูดออกไปแล้วก็เขินเองจนต้องก้มหน้างุดมองแต่ถนนไปตลอดทาง มือบางกำสายสะพายเป้แน่น หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตัก แบคฮยอนไม่ได้คาดหวังอะไรหรอกจริงจริ๊ง เขาแค่พูดเองว่าถ้าเรียนจบรด.ชานยอลก็เป็นทหารคนหนึ่งเหมือนกัน และการเรียนรด. มันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด แค่ได้ไปเข้าค่ายกับหัวหน้าหมู่ทุกปีมีความสุขจะตายอยู่แล้ว แถมปีหน้าต้องไปค่าย ตั้ง 5 วัน ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าจะสนุกสนานแค่ไหน

     

    การไปเข้าค่ายให้หลายสิ่งหลายอย่างกับแบคฮยอนมากมาย จากเพื่อนที่ไม่ค่อยได้คุยกันก็สนิทกันมากขึ้นรวมถึงชานยอลก็ด้วย ถ้าหากมันเป็นอย่างนี้ไปได้ตลอดจนเรียนจบก็คงจะดี

     

    สองเท้าย่ำเดินไปตามถนนเงียบๆ ยามเย็น คนตัวเล็กคิดอะไรเรื่อยเปื่อยฆ่าเวลาไปพลาง พยายามทำเป็นลืมเรื่องที่พูดไปเมื่อกี้ ไม่รู้ว่าทำไมหัวใจมันจั๊กจี้ไปหมด แบคฮยอนอยากจะตื่นมาพรุ่งนี้แล้วพบกับวันไปเข้าค่ายเลย

     

    ค่ายรด.ที่มีหัวหน้าชานยอลคอยดูแลลูกหมู่ของเขาด้วยความสุขุมและความโอบอ้อมอารีย์ ชุดนักเรียนทหารกับการนอนรวมกันในเต็นท์ แบคฮยอนไม่อยากจินตนาการเลยว่ามันจะน่าสนุกแค่ไหน

     

    ใครจะเป็นนางเอกรด. กันน้า... ก็คงต้องเฝ้ารอดูกันต่อไป

     








    #แม่บ้านทหารบกcb 

     
    B
    E
    R
    L
    I
    N

     












      

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×