คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter 4.2 : พักยก
ภายในห้องนอนสีเทาห้องเดิม
บนเตียงนอนสีน้ำเงินเข้ม เจ้าของห้องยังเอาแต่นอนพลิกตัวไปมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ความเห็นหลากหลายจากในทุก
sns ถูกปัดผ่านอย่างไร้ความหมาย
เบื่อ...
ชานยอลกำลังเบื่อ...
Na Nayeon : น่ารักอะ
Jin mijin : หล่ออะ คึคึ
K twenty : เพลงนี้เพราะว่ะ
อัดจริงเมื่อไหร่
Song naae : ทำไรอยู่
Song naae : หลับยัง
BB g23 : ทำเพลงอีกแล้ว
เมื่อไหร่จะได้ฟังของจริง
เบื่อ... มีแต่คำว่าเบื่อเต็มไปหมด...
ชานยอลไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่ความสนใจต่อสิ่งต่างๆ
ของเขาเริ่มหมดลง ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เริ่มรู้สึกเหงาและเห็นผู้คนรอบข้างเป็นสิ่งแปลกปลอม
ชานยอลไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เขาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมายที่เข้ามาห้อมล้อม
ทุกอย่างมันน่าเบื่อไปหมด... มองไปทางไหนก็เจอแต่อะไรซ้ำๆ
เดิมๆ เพื่อนในสังคมเดิมๆ ปาร์ตี้ เดิมๆ ของชิ้นเดิมๆ หรือแม้แต่ผู้หญิงคนเดิมๆ…
มันเป็นความเบื่อที่แม้แต่เงินทองก็ไม่สามารถเยียวยาได้
ความสุขของชานยอลเริ่มตันขึ้นเรื่อยๆ เขาต้องการมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าต้องหาอะไรมาเติมเต็ม
อะไรที่ทำให้ไม่รู้สึกเบื่อ อะไรก็ได้ที่ทำให้ชานยอลรู้สึกสนุกหลังจากที่ไม่ได้หัวเราะจริงๆ
มานานหลายปี...
‘อีอี้ มึงดู มึงดูกูก่อน~
กูบอกให้มึงถ่ายกูก่อน กูจะจับอีจีจี้เต้น มึงคอยดู~’
‘แม่ เนี่ย
วันเนี้ยเหมือนจะได้งานก็ไม่ได้ ดันเผลอไปด่าลูกเจ้านาย ไปแช่งแม่เค้าตายอีก
เค้าเลยเลื่อนวันทำงานเลย หนูล่ะเซ๊งเซ็ง อยากกลับบ้านแล้วเนี่ย อยู่นี่เจอแต่อะไรก็ไม่รู้
โทรศัพท์ที่โดนขโมยก็ไม่ได้คืน’
‘เน็ตมันไม่ดีอะ คอลวิดีโอไม่ได้
วันนี้นอนที่หอแหละ แม่เอาอีมงรยงมาคุยหน่อย จะร้องเพลงให้มันฟังก่อนนอน’
‘안녕 내게 다가와 ~’
เสียงร้องเพลงจากข้อความที่อัดในวิดีโอวอยซ์ดึงความสนใจของชานยอลออกจากมือถือที่น่าเบื่อ
เขาลุกขึ้นหยิบโทรศัพท์เคสสีฟ้าไปที่โต๊ะคอมฯ ก่อนจะจัดการต่อสายมันเข้ากับโน๊ตบุ้ก
ชานยอลย้ายไฟล์เสียงที่ดูดมาจากแอพสนทนาเข้าไปในเครื่องคอมฯ
แล้วเปิดโปรแกรมตัดเสียงขึ้นมา เขาเริ่มจากการขยายเสียงร้องเพลงของแบคฮยอนขึ้น
แล้วตัดเสียงรบกวนอย่างเสียงพัดลมออกไป ก่อนจะใช้โปรแกรมปรับแต่งเสียงอีกเล็กน้อย
เพียงไม่นานไฟล์เสียงร้องเพลงใสแจ๋วก็พร้อมให้นำไปใส่กับดนตรี
ชานยอลจัดการพิมพ์คำค้นหาซาวด์แทร็คลงในอินเตอร์เน็ต
พอค้นเจอเขาก็ดาวน์โหลดมันลงเครื่องแล้วกลับไปที่โปรแกรมอีกครั้งเพื่อนำเสียงเพลงกล่อมหมาของแบคฮยอนที่ได้รับการขัดเกลาแล้วไปใส่กับดนตรี
안녕
내게
다가와
수줍은
향기를
안겨
주던
너
희미한
꿈속에서
눈이
부시도록
반짝였어…
ชานยอดกดปลุ่มเพลย์ให้เสียงร้องและดนตรีเล่นพร้อมกันอีกครั้งเพื่อฟังความสอดคล้อง
เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะไม้เป็นจังหวะพร้อมกับโครงหัวไปมาเบาๆ ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์มือถือเคสสีฟ้าเครื่องเดิมขึ้นมากดดูอย่างอื่นต่อ
Bhxx0506 : เซ็ง จะได้งานก็ไม่ได้
มีใครสนใจจ้างไปกวาดขี้ปะ
ข้อความที่ถูกโพสต์ลงทวิตเตอร์พร้อมภาพถ่ายวาบหวิวที่ไม่สอดคล้องกันทำชานยอลถึงกับต้องหัวเราะออกมา
นี่มันก็เกือบ 3 ชั่วโมงที่ชานยอลนั่งรอข้อความตอบกลับจากรับตัวเล็กบางบูชอน เห็นได้ชัดว่าแบคฮยอนไม่ยอมตอบข้อความเขา
ทั้งๆ ที่ยังตอบทวิตคนอื่นตามปกติ
ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าโดนโกรธเห็นๆ...
ชานยอลไม่อยากมีค่ำคืนที่เงียบเหงา
เขาหยิบเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปกางเกงบ๊อกเซอร์ตัวหลวมที่แนบลงกับความเป็นชายจนเห็นเป็นลำ
ก่อนจะส่งมันไปในข้อความส่วนตัวของ Bhxx0506
พอส่งรูปไปแล้วชานยอลก็วางโทรศัพท์ทิ้งเอาไว้แล้วหันไปสนใจเพลงของเขาต่อ
ติ๊ง!
ยังไม่ทันที่จะได้กดเมาส์คลิ๊กอะไร เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากโทรศัพท์มือถือก็ทำให้คนตัวสูงต้องยิ้มออกมา
ชานยอลรีบคว้าโทรศัพท์ตัวเองมาเปิดเข้าทวิตเตอร์ แล้วตรงไปยังกล่องข้อความทันที
Bhxx0506 : ต้องการไรอะ
Cyyyyyxx : แลกรูปกัน
Bhxx0506 : ในโทรศัพท์ไม่พอไง
Cyyyyyxx : อยากดูรูปอื่น
Bhxx0506 : ไปดูของคนอื่นดิ
Bhxx0506 : ไม่ให้ดู
Bhxx0506 : กูโกรธ
Cyyyyyxx : 5555
Bhxx0506 : ขำไร
Cyyyyyxx : ขอโทษ
Bhxx0506 : ไม่ทันละ
Cyyyyyxx : ส่งรูปภาพ
Cyyyyyxx : หายกัน
Bhxx0506 : ไม่พอ เอามาอีก
Cyyyyyxx : แลกกันดิ
Bhxx0506 :
บอกแม่ให้เอาเข้าทำงานหน่อยดิ
Bhxx0506 : เดี๋ยวโชว์ให้ดู
Cyyyyyxx : เดี๋ยวบอก
Bhxx0506 : มึงหลอก มึงไม่บอกหรอก
Bhxx0506 : ถามจริง
Bhxx0506 :
เอาโทรศัพท์เราไปทำไรอะ
Bhxx0506 : เอาไปว่าวอ่อ
คำถามที่ไม่มีคำตอบทำชานยอลนิ่งชะงักไปครู่ใหญ่ แต่เขาก็พิมพ์ตอบกลับไป
Cyyyyyxx : ไม่เอาไปขายหรอก
Bhxx0506 : แล้วเอาไปทำไมอะ
มีไรน่าสน
Bhxx0506 : คอลได้ปะ
ขี้เกียจพิมพ์
เสียงเตือนจากนาฬิกาดิจิตอลบนโต๊ะบอกชานยอลว่าตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนตรงแล้ว เขานั่งมองข้อความที่คนตัวเล็กส่งมาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจคว่ำหน้าจอโทรศัพท์แล้วกลับไปสนใจโน๊ตบุ้กของตัวเองต่อ...
.
.
.
Rrrrrrrrrrrrrr
“อิแบ้ก โทรศัพท์”
เสียงแจ้งเตือน Calling จากแอพพลิเคชั่น Kakaotalk ปลุกแบคฮยอนที่กำลังจะหลับให้ลืมตาตื่นขึ้นอีกครั้ง เขาคลานตัวไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์จแบตอยู่ปลายเตียงมาดูชื่อจากสายเรียกเจ้า
ก่อนจะกดรับแล้วคลานกลับไปนอนที่เดิม
“ฮัลโหล”
[..........]
“ได้ยินปะ ยังไม่นอนอีกแงะ”
[ยัง ยังไม่ง่วง]
“บอกให้โทรมาตั้งนานแล้วไม่โทร
จะหลับอยู่แล้วเนี่ย”
[………]
“รอจนหายโมโหและ”
[หรอ]
“เออ ตอนแรกก็ว่าจะโทรไปด่า แต่ไม่ด่าแล่ว เซ็ง แล้วนี่ทำไมไม่นอนอะ
หาแลกรูปอยู่อ่อ”
[เปล่า]
“หรอ... ไม่นอนแล้วทำไร ชัxว่าวกับรูปเราอยู่ปะ”
[ฮ่ะๆๆๆ เปล่า]
“แล้วทำไรอยู่อะ เล่นโทรศัพท์เราอยู่ปะ”
[ไม่ได้เล่น วางไว้เฉยๆ]
“อย่าเอาไปรีทวิตผิดอีกนะ เดี๋ยวโดนจับได้”
แบคฮยอนเสียบหูฟังกับมือถือแล้วทิ้งตัวนอนลงบนหมอนอีกครั้ง
เขาไม่ลืมที่จะแดกดันไอ้หัวขโมยเรื่องโทรศัพท์ที่ถูกขโมยไปด้วย
[ไม่ให้โดนจับได้หรอก]
“อือ... แล้วตกลงจะไม่คืนโทรศัพท์ให้จริงใช่ปะ”
[ยัง ตอนนี้ยังไม่คืน]
“งั้นขอรูปที่อยู่หลังเคสได้ไหมอะ
ไม่อยากได้แล้วอะโทรศัพท์”
[ไม่ให้]
“แล้วจะเก็บไว้ทำไมวะ มันเอาไปทำอะไรได้”
[เก็บไว้เฉยๆ น่ารักดี]
“แล้วตอนโตไม่น่ารักอ่อ”
[หึๆ]
การสนทนาแบบถามคำตอบคำทำให้แบคฮยอนอดคิดไม่ได้ว่านายชานยอลนี่ช่างระวังตัวเหลือเกิน
เขาพูดอย่างกับกลัวว่าใครจะไปล่วงรู้ความคิด หรือเข้าถึงตัวตนได้อย่างนั้นแหละ
ไม่รู้ว่าเป็นคนลึกลับหรือแค่กวนประสาทกันแน่
“ถามอะตอบดิ อุตส่าห์ยกโทรศัพท์ให้แล้วนะ”
[ไม่รู้]
“อย่าตอบกั๊กเดะ... เสียงอะไรอะ ฟังเพลงอยู่อ่อ”
[อื้อ ทำเพลง]
“ทำเพลงด้วยอ่อ แบบแต่งเพลงอะหรอ
หรือเอามามิกซ์เฉยๆ”
[ความลับ]
“ทำไมความลับเยอะจังวะ ทีตัวเองรู้เรื่องของคนอื่นอะ”
[ทำไมไม่นอนครับ]
คนปลายสายไม่ยอมตอบคำถาม ชานยอลยังคงพูดน้อยเหมือนเดิม
และมันก็ทำให้แบคฮยอนหงุดหงิดได้เสมอ
“นอนไม่หลับ อยากดูรูปอะ ขอดูรูปหน่อยดิ”
[ไม่ถ่ายแล้ว ขี้เกียจถ่าย]
“ไม่อยากฟังครางอ่อ เดี๋ยวครางให้ฟังสดๆ”
[ลองครางให้ฟังก่อนดิ]
“ตอนนี้ไม่มีอารมณ์อะ”
[งั้นก็ไม่ต้องคราง]
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่กันแน่
ดวงตาเรียวรีหลับลง ในขณะที่ริมฝีปากก็ยังขยับบ่นพึมพำไปอย่างไร้จุดหมาย
“วันไหนว่างนัดกันอีกปะ”
[หื้อ อะไรนะ]
“ถามว่าวันไหนว่างนัดกันอีกปะ
ไม่เอาแล้วโทรศัพท์อะ อยากได้อย่างอื่น” พูดแล้วก็ส่งเสียงหัวเราะออกมา แบคฮยอนไม่ได้กำลังเห็นว่าอย่างอื่นสำคัญกว่าทรัพย์สินของตัวเองหรอก
เขาแค่รำคาญที่จะพูดถึงมันแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมยิ่งอยากได้คืนยิ่งไม่ได้
พอคิดว่ากำลังจะได้ทีไรก็ต้องมีเรื่องให้ซวยทุกที ก็เลยคิดว่าบางทีปล่อยเอาไว้แบบนี้ก็น่าจะดีแล้วล่ะ
[ว่างวันไหนอะ]
“ก็ว่างทุกวันแหละ ไม่ได้ทำงานแล้วอะ”
[ฮ่ะๆๆ เดี๋ยวก็ได้ทำ]
“ไม่ต้องมาขำเลย นี่ไม่ได้ไม่โกรธนะเนี่ย”
[ถ้าทำตัวดีๆ ก็ได้คืนไปนานแล้ว]
“นี่ยังไม่ดีอีกอ่อ บอกให้ทำอะไรก็ทำให้ทุกอย่างแล้วอะ”
[แล้วใครเป็นคนด่าว่าแม่มึงตาย?]
“ก็กูโมโหอะ คนอุตส่าห์รอปะ
ถ้าบอกไม่คืนก็ไม่คืนจะได้ไม่รอ ทำแบบนี้มันเสียความรู้สึกนะเว้ย
เหมือนมาให้ความหวังแล้วก็หักหลังกันอะ” แบคฮยอนบ่นอุบ ริมฝีปากบางงอคว่ำอย่างแสนงอน
[ก็ไม่ได้บอกว่าจะคืนโทรศัพท์ให้นี่]
“ก็ทำเหมือนจะคืนให้ปะ? นี่ก็ยังไม่หายโกรธนะ? แล้วยังส่งฮอลล์มากวนตีนอีก
คิดว่าควรโมโหปะ?”
[อ่า ขอโทษครับ ฮ่ะๆ]
“ไม่ต้องมาพูดดีเลยว่ะ แล้วก็เป็นเรื่องเป็นราว แทนที่จะได้ทำงานก็ไม่ได้”
ฟันซี่เล็กขบลงบนริมฝีปากบางเบาๆ อยู่ๆ ก็รู้สึกเขินขึ้นมากับแค่คำขอโทษและเสียงหัวเราะทุ้มๆ
ที่ข้างหู แบคฮยอนกำลังถามตัวเองว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ คุยโทรศัพท์คลายเหงากับหัวขโมยโรคจิตอย่างงั้นหรอ?
หรือว่าแค่กำลังจีบเด็กหนุ่มรูปหล่อที่พ่วงตำแหน่งโจร?
หรือว่ากำลังทำการเจรจาต่อลองอย่างนุ่มนวล?
[ยังไม่เลิกโกรธอีกไง]
“ยังโกรธอยู่ แต่ไม่โมโหละ”
[หึ]
“แล้วทำอะไรอะ ได้ยินเสียงเพลงด้วย
ทำเพลงอยู่อ่อ”
[อือ]
“ฟังเพลงนี้ด้วยหรอ
นี่เพิ่งร้องให้หมาฟังไปเมื่อตอนค่ำเอง”
[เพลงไร]
“เพลงประกอบละครอะ ที่พระเอกหล่อๆ”
[ไม่รู้จัก]
“ก็ได้ยินเสียงเปิดอยู่เมื่อกี้”
[แทร็คเมื่อกี้อะนะ]
“อื้อ ดู ดู ดู รู รู
รู ซอลเรยอ~”
[ร้องเป็นด้วยอ่อ]
“โคตรชอบแหละ ฟังทุกวันเลย ร้องทุกวัน”
[ลองร้องให้ฟังหน่อยดิ]
“너의 미소에 내 마음이 녹아내려 눈이 마주쳤을땐 두근거 ~ แล้วใจฉันก็สั่นระรัวไปหมด ~”
“มึงคุยกะใครอยู่วะ?”
อี้ชิงที่กำลังนั่งตัดเล็บอยู่ปลายเตียงหันไปนิ่วหน้าถามเพื่อนตัวเล็กด้วยความสงสัย
เมื่อแบคฮยอนเริ่มร้องเพลงและพูดจาหงุงหงิง อี้ชิงก็ไม่แน่ใจแล้วว่าเพื่อนเขากำลังคุยโทรศัพท์อยู่กับหัวขโมยที่ตัวเองเพิ่งด่าสาปส่งไปเมื่อตอนบ่าย
“ชานยอลแงะ จำไม่ได้แงะ”
แบคฮยอนหันมาตอบพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะหึในลำคอ
“เอ้า? มึงญาติดีกับมันแล้วหรอ?” ยิ่งได้ฟังคำตอบอี้ชิงก็ยิ่งงงเข้าไปใหญ่
ถ้าเขาเข้าใจไม่ผิดแบคฮยอนกำลังร้องเพลงให้โจรที่ขโมยของตัวเองฟังอยู่ใช่ไหม?
“ยัง”
“แล้วทำไมมึงคุยกับมันอะ?”
คนตัวเล็กไม่ยอมตอบคำถาม แบคฮยอนแค่ยกยิ้มมุมปาก
ก่อนจะถลกผ้าห่มขึ้นคลุมร่างแล้วกลับไปสนทนากับคนในสายต่อ
[เสียงใครอะ]
“อ๋อ อยู่กับเพื่อน”
[อือ]
“ตกลงว่างมานัดกันอีกปะ”
[ขอดูก่อน]
“ดูไรอีกอะ ยังดูไม่พออีกแงะ”
[ขอดูวันว่างก่อน]
“พรุ่งนี้ว่างปะ”
[ไม่รู้]
“ไม่ต้องกลัวแจ้งตำรวจจับหรอก
บอกว่าไม่อยากได้มือถือคืนแล้ว”
[ฮ่ะๆๆๆ]
“ก็แดะ จะนอนยังอะ อย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์นะ”
[บอกว่าไม่ได้เล่น]
“ถามหน่อยดิ ในบริษัททำตำแหน่งอะไรอะ
ทำไมห้อยป้ายไอทีอะ”
[ก็ทำทุกตำแหน่งที่อยากทำ]
“โอ้ยยยย~ หมั่นไส้ว่ะ”
[ฮ่าๆๆ ดูแลเว็บบริษัทกับคอมฯ]
“แล้วทำไรอีกอะ”
[ทำแค่นี้แหละ]
“แล้วตามสัญญาณโทรศัพท์ได้ปะ โทรศัพท์หายอะ
โดนขโมย”
[ไม่ได้]
“แหม ทีนี้รีบตอบไวเลยนะ
แล้วเป็นลูกประธานจริงปะอะ”
[อือ]
“ฮ่าๆๆๆๆๆ งั้นสงสัยคงไม่ได้งานละ”
แบคฮยอนหัวเราะร่า และในเสียงหัวเราะฮ่าๆๆๆ นั้นก็มีน้ำตาซ่อนอยู่ ทั้งๆ
ที่รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ถามยังไงคำตอบก็ไม่เปลี่ยนไป
แต่แบคฮยอนก็ยังหวังว่าชานยอลอาจจะเป็นแค่หลานหรือญาติห่างๆ ของท่านประธาน
[เดี๋ยวก็ได้ทำ]
“ไว้จะรอดู ทำงานไอทีแสดงว่าเก่งคอมฯ ใช่ปะ”
[ก็พอทำได้]
“มือถือเรามันชอบดับบ่อยอะ ชอบรีสตาร์ทเอง
ซ่อมให้หน่อยดิ”
[ซ่อมให้แล้ว]
“ใจดีจัง ขโมยไปแล้วยังซ่อมให้อีก”
[อือ]
“แล้วโกงเกมได้ปะ แบบเติมเงินปลอมๆ
แบบที่เค้าทำในเน็ตอะ”
[เกมไร ทำไมต้องโกง]
“ก็ไม่อยากเติมเงินอะ แล้วทำได้ปะล่ะ”
[เกมไรอะ]
“เกมเศรษฐีอะ”
[ได้]
“จริงปะ ทำแล้วเราจะเล่นในเครื่องใหม่ด้วยได้ปะ” แบคฮยอนที่กำลังตาปรือใกล้หลับถึงกับหูผึ่ง
คนตัวเล็กดีดตัวลุกขึ้นนั่งเหมือนหลังติดสปริง เมื่อได้ยินว่าคนที่ตัวเองกำลังคุยสายด้วยสามารถโกงเงินในเกมได้
[ทำไม จะให้ทำไง]
“ทำได้ก็ทำให้หน่อยดิ ถือว่าจ่ายค่าโทรศัพท์
นะๆๆๆ” รบเร้าออกไปด้วยความกระตือรือร้นก่อนจะคลานไปสะกิดเพื่อนซี้ให้มาร่วมฟังการสนทนาที่น่าตื่นเต้นด้วยกัน
แบคฮยอนที่แสนอ่อนไหวดีใจจนตาสว่าง เขาแทบจะลืมความโกรธที่เคยมีไปเลย
ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เป็นคนที่มีความสุขง่ายแบบนี้
[มีอะไรมาแลก]
“ก็โทรศัพท์ไง ก็ให้ไปแล้วอะ”
[……….]
“นะๆๆๆๆ”
[อือ เดี๋ยวทำให้]
“เย้!!”
แค่ได้ยินอีกคนรับปากแบคฮยอนก็ดีใจจนเนื้อเต้น เขาระบำส่ายเอวไปมาอย่างอารมณ์ดี
ก่อนจะกลิ้งตัวกลับไปนอนที่เดิม
[ดีใจอะไร]
“ก็ได้เงินเล่นเกมฟรีแงะ เติมให้เยอะๆ เลยนะ
มันจะไม่โดนแบนใช่ปะ”
[ไม่โดน]
“แล้วทำเกมอื่นด้วยได้ปะ”
[ต้องบอกชื่อมา]
“พวกคุ้กกี้รัน เพนต้าสตอร์มอะ”
[แค่นี้ก่อนนะ]
“เอ้า ไปไหนอะ”
[จะทำงานต่อ ถ้าว่างเดี๋ยวบอก]
“อะไรวะ แล้วจะเติมเกมให้เลยปะเนี่ย”
[อีกสิบนาทีลองเช็ค]
“ห้ามหลอกนะ คราวนี้อะ”
[ครับ แค่นี้ก่อนนะ]
“โอเค... เดี๋ยว...”
ไม่ทันจะได้กล่าวลาคนทางปลายสายก็รีบกดวางไปซะดื้อๆ
แบคฮยอนที่อยู่ๆ
ก็ถูกตัดสายใส่ได้แต่นิ่วหน้ามองโทรศัพท์เครื่องเก่าที่เป็นเครื่องใหม่ด้วยความไม่เข้าใจ
ก่อนจะคลานตัวนำมันกลับไปชาร์จไว้ที่เดิมที่ปลายเตียง
“มึงคุยกับชานยอลอ่อ?” อี้ชิงที่ยังไม่หายสงสัยหันกลับไปถามเพื่อนตัวเล็กอีกครั้งอย่างไม่ค่อยเชื่อหู
นี่แบคฮยอนกำลังเป็นบ้าอะไรอยู่
เขาลืมไปแล้วหรอว่าเมื่อตอนบ่ายตัวเองโศกเศร้าแค่ไหน
“เออ ก็จะด่ามันแต่ขี้เกียจพิมพ์
เลยบอกให้มันโทรมา” คนตัวเล็กตอบกลับด้วยสีหน้าเรียบเฉย เหมือนไม่ได้รู้สึกผิดปกติอะไรใดๆ
เลยกับสิ่งตัวเองทำอยู่
“นั่นคือด่า?
กูเห็นมึงนอนคุยงุ้งงิ้งกับมันอย่างกับเด็กเห่อ-มอย”
“ก็อยากด่าแต่ไม่รู้จะด่าอะไรอะ ด่าไปมันก็ไม่คืนโทรศัพท์กูอยู่ดี”
แบคฮยอนยักไหล่ ที่จริงเขาไม่ได้จะด่าชานยอลหรอก ก็แค่อยากลองพูดดีด้วยๆ
เผื่อว่าอีกฝ่ายจะยอมใจอ่อนคืนมือถือให้
“ก็เลยใช้วิธีอ่อยล่อ?”
“ไม่รู้อะ กูก็คุยไปเรื่อยเปื่อย”
“แล้วเมื่อกลางวันมึงด่าเค้าไว้ซะแรง ไปปากเก่งใส่เค้า พอตกกลางคืนมึงก็มางุ้งงิ้งกัน? มึงมันใช่หรอวะ?” อี้ชิงถามเสียงสูง คิ้วเขาขมวดยุ่งเข้าหากันจนแทบจะผูกเป็นโบว์
“ก็มาลองนึกๆ ดูแล้วกูก็ผิดด้วยแหละ
แบบอยู่ที่ทำงานกูก็ไม่น่าทำงั้นอะ แล้วมันก็ช่วยแก้ตัวให้ด้วย ถ้าไม่งั้นกูคงพูดไรไม่ออก”
“มึง ถ้ามันทำความผิดจริงมันก็สมควรโดนปะวะ
แบบเนี้ยเหมือนมึงเสียเปรียบเค้าเลยนะ ไม่ได้ทำผิดอะไรสักอย่าง แต่ต้องมาซวยรับเคราะห์แทนทุกอย่าง
แล้วมึงจะเห็นใจมันเพราะแค่มันช่วยมึงแก้ตัวเนี่ยนะ?”
เลิกคิ้วถามย้ำกับคำถามที่โคตรจะเข้าใจง่าย อี้ชิงรู้ว่าแบคฮยอนมันหมาอ่อน แต่เขาควรจะปรับปรุงตัวได้แล้ว
ไม่อย่างงั้นคงใช้ชีวิตในเมืองหลวงไม่ได้แน่
“ก็รู้~ แต่มึงจะให้กูทำไงอะ กูไม่อยากขี้ฟ้องอะ
มีอะไรกูอยากเคลียร์กับมันเอง กูไม่ได้ปกป้องมันนะ กูแค่ไม่อยากให้มันกระทบงานอะ
มึงก็รู้ว่ากูอยากได้งานขนาดไหน กูจะรู้ปะว่าแม่มันอวยลูกตัวเองขนาดนั้นอะ
แล้วพูดมาแบบ ลูกชั้นอย่างงั้นอย่างงี้ เป็นมึงจะทำไงอะ เค้าทำเหมือนมึงพูดอะไรไปเค้าก็พร้อมจะเชื่อลูกเค้ามากกว่าอะ
หรือต่อให้ลูกเค้าผิดยังไงคนที่ซวยก็เป็นกูอยู่ดีอะ มันพูดยากมึง” แบคฮยอนพยายามทำหน้าอ้อนวอนร้องขอความเห็นใจจากเพื่อนซี้
เขาเองก็ไม่ได้อยากให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก
“แต่สุดท้ายมึงก็ซวยอยู่ดีปะ แถมไม่ได้อะไรคืนมาเลย?”
“ก็รอดูก่อนดิ
ถ้าได้งานนี้อย่างน้อยก็ได้เงินค่าหอที่จ่ายไป ถ้าหลังจากนั้นมันไม่โอเคก็ค่อยย้าย
โปรไฟล์อย่างกูหางานในบริษัทใหญ่มันไม่ง่ายนะเว้ย อิเหี้ย กูไม่ได้จบจากอ๊อกฟอร์ด”
“มึงอะเก่งแต่ปากนะอิแบ้ก พอโกรธเค้าก็มาด่าๆ โดนเค้าหลอกก็มานั่งเจ็บใจ
แล้วก็ไม่ยอมทำอะไร พอเค้าเอาอะไรมาล่อมึงก็วิ่งตามหางสั่นดิ๊กๆ ใจอ่อนไปหมด แล้วนี่ก็เกมอีก
มึงคิดว่ามันจะทำให้มึงจริงๆ หรอวะ?
ไม่ใช่มันเอาบัญชีไปเติมเงินแล้วมาหลอกมึงอีกหรอ” อี้ชิงผู้ไม่ยอมใครกล่าวอย่างไม่ไว้วางใจ
“มันจะหักจากบัญชีไหนได้วะ ทั้งบัญชีกูมีอยู่ 30
บาท?”
“มึงหัดเลิกมองโลกในแง่ดีได้และ
ไม่งั้นมึงจะโดนเค้าเอาเปรียบนะเว้ย ที่นี่มันเมืองหลวงไม่ใช่บูชอนบ้านเรา”
สุดท้ายก็ได้แต่กล่าวออกมาเสียงอ่อยด้วยความเหนื่อยใจ
แบคฮยอนจะเป็นเด็กบ้านนอกที่ดีแต่วางท่าก๋ากั่นไม่ได้แล้ว
เพราะคนในเมืองหลวงไม่ได้ใจดีอย่างที่คิด เขาจะต้องเป็นผู้ใหญ่แล้วก็หัดดูแลตัวเองได้แล้ว
ไม่ใช่คิดว่าแต่ว่าไม่เป็นไร โกรธไปด่าไปเดี๋ยวก็หาย พอหายแล้วก็ลืม
นี่ไม่ใช่ว่าเห็นดีเห็นงามกับคนไม่ดีหรอกนะ
แต่อี้ชิงไม่แปลกใจเลยที่ชานยอลเลือกแกล้งแบคฮยอน
“รู้แล่ว มึงชอบบ่นอะ” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพลางเอื้อมมือไปหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นกดเข้าเกมที่ตัวเองเพิ่งจะขอให้คนรู้จัก(?)โกงไปเมื่อครู่
“มึงยอมรับเหอะว่ามันหล่อ มึงก็เลยยอมอรุ่มอร่วยให้มัน
โปรไฟล์มันก็ดีด้วยหนิ แหม อิสัส ไล่จับกันอย่างกะหนังอินเดีย มึงลองนึกว่าเป็นคนอื่นที่ทำดิ
แบบเป็นยามหน้าเหี้ยๆ งี้อะ”
“กูฟาดหัวแตกอะ”
“เห็นแมะ?”
“มึงก็รู้อะ~” แบคฮยอนลากเสียงยาว พร้อมกับหันไปทำหน้าแบบเหยาหมิงใส่เพื่อนรัก
สื่อเป็นนัยว่าก็รู้ๆ กันอยู่ เขาได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมา
ก่อนที่จะต้องเงียบเสียงลงเมื่อได้เห็นยอดเพชรของเกมที่ปรากฏในมือถือ
ดูเหมือนว่าคราวนี้แบคฮยอนจะไม่ได้ถูกหลอก...
เขามีเพชรในเกมเกือบ 5,000 รวมมูลค่าแล้วมันน่าจะเกือบหมื่นได้เลย...
“มึง... มันเติมให้จริงว่ะ” พึมพำออกมาเหมือนไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตานัก
ก่อนที่จะกดเข้าไปในร้านค้าเพื่อลองซื้อของอื่นๆ และพบว่ายอดเพชรที่เติมมานั้นใช้ได้จริง
แบคฮยอนกำลังอึ้ง แล้วก็คิดว่าเขาต้องฝันไปแน่ๆ ไม่ใช่ว่าหลังจากนี้จะถูกแบนออกจากระบบเกมหรอ?
“อะไร? เพชรในเกมอะหรอ?”
“เออ มันเติมได้จริงด้วยว่ะ ซื้อของได้ด้วย โห... ถ้าเป็นเงินนี่เกือบหมื่นเลยมั้ง เกือบแปดพัน”
“หรอ ทำไมมันเก่งจังวะ”
“เชี่ย... แม่ง...”
ติ๊ง!
ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร เสียงแจ้งเตือนจากแอพพลิเคชั่นก็เรียกแบคฮยอนให้ต้องละความสนใจออกจากจอเกม
เขารีบเปิดแอพฯ ทวิตเตอร์ขึ้นมาทันทีเพื่ออ่านข้อความจากนาย Cyyyyxx และก็ดูเหมือนว่าครั้งนี้มันจะไม่ได้ทำให้แบคฮยอนหงุดหงิดใจเหมือนอย่างทุกที
Cyyyyyxx : หายกัน
.
.
.
บัตรเติมเงินใบสุดท้ายถูกขยำทิ้งลงถังขยะใบเล็กที่วางอยู่ข้างเก้าอี้
ชานยอลปิดโน๊ตบุ้กของเขาลงก่อนจะถอดสายโทรศัพท์ออกจากเครื่อง
แล้วหยิบทั้งมือถือของตัวเองและของคนอื่นพร้อมหูฟังกลับไปยังเตียงนอน
ติ๊ง!
Bhxx0506 : จะไม่โดนแบนใช่เปล่า
ข้อความที่ให้ความรู้สึกซื่อๆ เด๋อๆ
จากรับบางบูชอนทำชานยอลอดที่จะหัวเราะไม่ได้ เขาทิ้งตัวนอนลงบนเตียงพร้อมกับเสียบหูฟังเข้าหูแล้วเปิดเพลง
Beautiful ที่เพิ่งจะทำเสร็จเมื่อครู่ฟัง
ก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
Cyyyyyxx : ไม่โดน
Bhxxx0506 : ชัวร์นะ
Cyyyyyxx : ชัวร์
Bhxx0506 : คราวหน้าเติมเพนต้าสตอร์มให้หน่อย
Cyyyyyxx : เล่นเป็นหรอ
Bhxx0506 : อยากเล่น
Cyyyyyxx : ไว้พรุ่งนี้
ตอบไปแค่นั้นก็ปิดโทรศัพท์ตัวเองลง ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์อีกเครื่องขึ้นมากดเข้าแอพฯ
ทวิต ชานยอลใช้มือถือของแบคฮยอนเข้าทวิตเตอร์ แล้วตรงไปที่หน้าโปรไฟล์เพื่อเปลี่ยนภาพดิสฯ
สุดยั่วยวนให้กลายเป็นภาพเด็กชายตัวน้อยที่กำลังอมนิ้วมือ
พอเปลี่ยนเสร็จแล้วชานยอลก็วางโทรศัพท์เคสสีฟ้าเอาไว้บนหัวเตียง
ก่อนจะหลับตาลงนอนอย่างอารมณ์ดี...
#ฟิคกวาง
อันยองแนแกทากวาวา~ ฮ่าาา น่ารักจัง พักยกก่อนเดี๋ยวเหนื่อย อย่าลืม #ฟิคกวาง นะคะ เอ็นจอยรีดดิ้ง :D
ความคิดเห็น