ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ฟิคเสื่อม] กวาง The series - Chanbaek

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 3 : แก้เจ็บคอ

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ย. 62





    “แม่งไม่ยอมตอบกลับมาเลยว่ะ”


    ตอนบ่ายสองโมง ณ ร้านขายของชำที่แสนเงียบเหงา สองกวางสาวที่กำลังตกที่นั่งลำบากได้แต่นั่งหน้ามุ่ยอยู่หน้าจอโน๊ตบุ้กเครื่องเดิม


    พยอน แบคฮยอนเอาแต่ถอนหายใจออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า  นี่มันเช้าวันใหม่แล้วตั้งแต่เมื่อวานที่โดนขโมยโทรศัพท์มือถือไป แบคฮยอนยังไม่ได้รับการติดต่อกลับจากทั้งโจรที่ขโมยโทรศัพท์เขา หรือแม้แต่การติดต่อแจ้งผลสัมภาษณ์งานจากบริษัท เมื่อคืนเขาเอาแต่นั่งรอให้นายชานยอลตอบข้อความกลับจนหลับไป พอเช้าก็มานั่งเฝ้าหน้าจออยู่กับอี้ชิงต่อ


    ดูเหมือนว่ามันจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่ แต่แบคฮยอนก็ไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้นอกจากรอ


    “หรือมึงครางไม่เสียววะ?” อี้ชิงว่า ดวงตาเรียวรียังคงจับจ้องไปยังหน้าจอทวิตเตอร์ที่ไร้ความเคลื่อนไหวใดๆ บางทีเขาคิดว่าแบคฮยอนน่าจะเลิกหวังว่าจะได้โทรศัพท์คืนได้แล้ว


    “ก็บอกให้ครางกูก็ครางอะ แค่นี้มันยังตลกไม่พออีกหรอวะ?” คนตัวเล็กมุ่ยหน้าพร้อมบ่นออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด ริมฝีปากที่ชี้งอนอยู่แล้วยิ่งงอง้ำมากขึ้นไปอีก


    “มึงลองทักมันไปอีกทีไหม?”


    “ทักไปว่าไรอะ?”


    “อะไรก็ได้อะ แบบคิดได้ยัง เตงตัดสินใจได้ยังไรเงี้ย” อี้ชิงเสนอความคิดเห็นพร้อมกับกรอกตาไปมาทำหน้าเหม็นเบื่อ เขาคิดว่าป่านนี้ไอ้โจรหล่อนั่นมันคงเอาโทรศัพท์แบคฮยอนไปขายแล้วล่ะ หรือไม่ก็คงจะเอารูปทั้งอัลบั้มไปโพสต์ลงเน็ตแล้ว


    “ทำไมกูต้องไปง้อมันด้วยวะ โทรศัพท์ก็ของกู” แบคฮยอนบ่นอุบเขาเอาแต่เลื่อนหน้าจอไปมาโดยที่ไม่กล้าทำอะไรเลย มันรู้สึกเหมือนกับโดนจับตามองอยู่ตลอดเวลาอย่างไงอย่างงั้นแหละ


    “มึงอย่าไปหวังมากเลยว่ะ กูว่าเผลอๆ ป่านนี้แม่งเอาโทรศัพท์มึงไปขายแล้วแหละ กูว่ามึงไล่ลบข้อมูลก่อนดีกว่ารหัสเฟส รหัสเมลอะเปลี่ยนให้หมด”


    “อีดอก กูจำรหัสไม่ได้ กูจดรหัสไว้ในมือถือ กูจำได้กูเปลี่ยนไปนานแล่ว” แบคฮยอนทุบมือลงกับโต๊ะด้วยความหงุดหงิดใจ ถ้าเกิดว่าเขาจำพาสเวิร์ดบัญชีโซเชี่ยลของตัวเองได้ก็คงจะไม่มานั่งเครียดอยู่แบบนี้


    “โอ้ยยยย~ กูละเชื่อมึงเลยจริงๆ” อี้ชิงยกมือขึ้นตบหน้าผากพร้อมกับครางโหยหวนออกมาอย่างสุดทนกับความโง่ของเพื่อนรัก นี่ถ้าเกิดว่าเขาเป็นนายชานยอลล่ะก็ ป่านนี้คงเอาบัญชีต่างๆ ที่ผูกกับบัตรเดบิตของแบคฮยอนไปใช้จนเงินหมดเกลี้ยงแล้ว


    “ก็กูไม่รู้จะทำยังไงอะ ตั้งแต่สมัครทวิตกูยังไม่เคยล็อคเอาท์เลย ถ้าออกก็เข้าไม่ได้แล้ว”


    “กูว่าป่านนี้มันขายโทรศัพท์มึงไปแล้วแหละ มึงปิดแอคทวิตเลยไหม จะได้เซฟๆ”


    “กูเสียดายข้อความอะ มันก็มีรูปดีๆ อยู่บ้างปะวะ ถ้าหายไปก็หาไม่ได้แล้วนะเว้ย” พูดแล้วก็ยิ้มกรุ้มกริ่มออกมา ดวงตาเรียวรีส่องประกายอย่างมีเลศนัย แบคฮยอนคลิ๊กเมาส์เข้าไปดูข้อความส่วนตัวจากนาย kji69 พร้อมกับเลื่อนสกอร์โชว์ตัวอย่างภาพดีๆ ที่สมควรเก็บไว้ รวมถึงคลิปวิดีโอมากมาย


    “โอ้ยอิดอก โทรศัพท์หายแทนที่จะกลัวข้อมูลส่วนตัวรั่ว เสือกมัวแต่มานั่งเสียดายรูปโคย กูล่ะเชื่อมึงเลยจริงๆ”


    “มันก็ไม่มีความลับอะไรมากปะวะในทวิตอะ ก็รู้ว่ากูโชว์กูแลกรูปอะ เข้ามาส่องข้อความกูก็เจอแต่โคยทั้งนั้นแหละ”


    “กูว่ามึงลองทักมันไปอีกที ถามไปเลยว่าเอาไง ก็ลองอ้อนๆ หน่อย ถ้าคราวนี้ไม่ตอบอีกมึงคิดได้เลยว่ามันขายมือถือมึงไปละ” อี้ชิงว่าออกมาด้วยน้ำเสียงติดจะรำคาญ เขาเขย่าตัวแบคฮยอนไปมาพร้อมกับชี้นิ้วไปยังข้อความส่วนตัวล่าสุดที่ถูกส่งมาโดยนายชานยอล


    “งั้นลอง....”


    ติ๊ง!


    ยังไม่ทันจะได้แตะนิ้วลงบนคีย์บอร์ดเสียงเตือนข้อความเข้าจากคนที่กำลังรออยู่ก็ทำแบคฮยอนหูผึ่ง เขารีบหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทพร้อมกับเบิ่งตากว้างด้วยความดีใจ ก่อนจะกดเข้าไปดูข้อความทันที


    “มันตอบมาว่าไรวะ”


    Cyyyyyxx :  ลดให้สามร้อย


    “สัส ลดให้สามร้อย... กูครางไปห้าพันลดให้กูสามร้อย” พอได้อ่านข้อความที่อีกฝ่ายส่งมาความดีใจที่เคยมีก็มลายหายไปจนหมด แบคฮยอนได้แต่มุ่ยหน้าอย่างนึกเซ็ง ถ้าเกิดเขารู้ว่าเสียงครางเมื่อคืนจะมีค่าแค่ 300 คงไม่ตะเบ็งไปจนเจ็บคอแบบนี้หรอก


    “ก็ยังดีนะเว้ย ถามดิ ห้าร้อยไม่ได้หรอ” ขงเบ้งแห่งวงการเฉาก๊วยว่า คิ้วเรียวขมวดย่นเข้าหากันอย่างใช้ความคิ



    Bhxx0506 : ห้าร้อยได้ไหมอะ

    Cyyyyyxx : 300

    Bhxx0506 : บอกให้ครางก็ครางแล้วอ่า T_T

    Cyyyyyxx : ไม่เสียว

    Bhxx5006 : จะเอาเสียวแค่ไหนอะ

     


    “เห็นแมะ กูบอกแล้วว่ามึงครางไม่เสียว มันเฟคเกิน มึง มันเวอร์” จางอี้ชิงตบเข่าฉาด พร้อมพูดออกมาด้วยสีหน้าออกรส


    “ก็มึงบอกให้กูครางเหมือนทุกทีอะ?” คนตัวเล็กเถียงเสียงแข็ง ก็เมื่อวานอี้ชิงเป็นคนบอกแบคฮยอนเองว่าให้ครางเหมือนทุกที เขาก็ครางเหมือนทุกที


    “มึง มันไม่เรียล มันตลก! มึงต้องยั่วๆ มันก่อน ให้มันมีอารมณ์แล้วมึงค่อยคราง  มันต้องจริงกว่านี้ มึงเชื่อกู” อี้ชิงพยายามสร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนรักอีกครั้ง พวกเขาดูเหมือนคนตาบอดที่คอยชักนำกันไปสู่หนทางแห่งความชิบหาย


    “เออๆ งั้นเดี๋ยวลองเอาใหม่” แบคฮยอนที่แสนว่าง่ายตกลงปลงใจไปอย่างง่ายดาย เขารีบพิมพ์ข้อความตอบกลับนายชานยอลไปทันที

     

    Bhxx0506 : ก็มันไม่มีอารมณ์อะ

    Bhxx0506 : ขอดูโคยหน่อยดิ จะได้มีอารมณ์

     

    “อีแบ้ก...”

    “เออ~ ก็นิดนึง~”

     

    Bhxx0506 : มีอารมณ์แล้วเนี่ย

    Bhxx0506 : โชว์หน่อยดิ


    Cyyyyyxx : ให้โอกาสอีกรอบ

     


    “มันบอกให้โอกาสอีกรอบว่ะ”


    “งั้นคราวนี้มึงครางเบาๆ นะ เอาแบบเสียงแหบๆ พร่าๆ เอาไมค์จ่อใกล้ปากหน่อยหายใจใส่ไมค์แรงๆ แล้วค่อยๆ เร่ง” อี้ชิงว่าด้วยสีหน้าสุดตื่นเต้นเหมือนกำลังปฏิบัติภารกิจลับ เขาเอื้อมมือไปหยิบเทปพันสายไฟมาปิดกล้องไว้ก่อนที่จะถอด small talk ออกมาจากมือถือตัวเองมาเสียบโน๊ตบุ้ก


    “เอาแค่นี้ใช่ไหม”


    “ไม่ๆ มันต้องมีจังหวะจะโคนมึง มันต้องมีเสียงซอยมันจะได้เนียนๆ”


    “อ่ะๆ งั้นมึงคอยตบมือนะ”


    “เออๆ อัดเลย”


    เมื่อต่างฝ่ายต่างเห็นดีกันงามกับแผนครางล่อเหยื่อก็ไม่มีใครเบรกใคร แบคฮยอนสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะหันไปมองตาเพื่อนรักเพื่อส่งสัญญาณ พออี้ชิงพยักหน้าเขาก็กดอัดเสียงทันที


    “อือ... เตงช่วยหน่อยดิ อ๊ะ... อ๊ะ.... ฮ่ะ... ซี๊ดดด... อ๊ะ... อ๊ะ...”

    ปั่บๆๆๆๆๆๆ


    “อ๊ะ... ฮ่า... ฮ่ะ... อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ! ฮ่ะ... ซี๊ด... ชานยอล... อ๊ะ ชานยอล... อ๊ะ! อ๊ะ!

    ปั่บๆๆๆๆๆๆๆ


    ในขณะที่แบคฮยอนเริ่มส่งเสียงครวญครางหนักหน่วงขึ้น มือจังหวะของเขาก็ตบมือเร็วขึ้น กวางป่าสองตัวกำลังยิ้มกริ่มอย่างภาคภูมิใจกับความฉลาดของตัวเอง พวกเขานั่งยิ้มพลางส่งเสียงครางพร้อมกับปรบมือใส่ small talk รัวๆ อยู่หน้าร้านขายของชำที่เปิดโล่งโดยที่ไม่ได้นึกเลยว่าอาจจะมีคนเดินผ่านไปผ่านมา


    “โอ๊ยยยฮ่ะ! ซี๊ดดดด... ช่วยหน่อยดิวะ โอ๊ยย... อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!

    ปั่บๆๆๆๆๆ!

     

    “พี่เค้าทำไรกันวะ”


    นักเรียนชายโรงเรียนประถมที่กำลังเดินกลับบ้านหันไปถามเพื่อนสนิทด้วยความสงสัย สีหน้าของหนุ่มน้อยเต็มไปด้วยความสับสนระคนแปลกใจ เมื่อเห็นพี่ชายร้านขายของชำสองคนกำลังนั่งยิ้มแล้วก็ตบมือใส่โทรศัพท์รัวๆ เหมือนเชียร์อะไรสักอย่าง แถมยังส่งเสียงที่ฟังชวนขนลุกออกมาไม่หยุด


    “กูก็ไม่รู้ว่ะ...”

     

    ปิ๊บ!


    วิดีโอสุดสยิวความยาว 1 นาทีถูกอัดจนเสร็จ แบคฮยอนตบมือไฮไฟว์กับเพื่อนซี้ฉลองความสำเร็จพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน


     เขารีบกลับไปยังหน้าทวิตเตอร์แล้วส่งวิดีโอไปใหม่ทันที คราวนี้อย่างน้อยก็ต้องได้ส่วนลดสักห้าร้อยถึงหนึ่งพันล่ะ ก็เล่นทุ่มทุนสร้างจังหวะกันซะขนาดนี้


    “คราวนี้โคยมึงต้องแข็งมั่งล่ะ” แบคฮยอนว่าด้วยสีหน้าสุดมั่นใจ พอวิดีโอถูกส่งไปเรียบร้อยก็ถือว่าส่วนหนึ่งของแผนสำเร็จลุล่วง


    ในขณะที่กำลังจะเปิดแท็บโน๊ตบุ้กไปดูย่างอื่นต่อ เสียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่าที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้น คนตัวเล็กรีบหันไปชู่วปากบอกให้เพื่อนข้างๆ เงียบเสียงลง ก่อนที่จะหยิบเอามือถือมากดรับ


    “ฮัลโหลครับ” กรอกเสียงเข้มลงไปด้วยความที่เห็นว่าเป็นเบอร์แปลก แบคฮยอนเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหันไปเบิกตากว้างใส่เพื่อนซี้


    “ครับ ใช่ครับ...”


    […………..]


    “ครับ...”


    […………..]


    “วันจันทร์ที่จะถึงนี้หรอครับ”


    […………..]


    “ได้ครับ สะดวกพร้อมทำเลยครับ”


    […………..]


    “ครับ... ครับ.... ขอบคุณมากครับ”


    [………….]


    “ครับ สวัสดีครับ”


    “ใครวะ?”


    ไม่ทันที่แบคฮยอนจะได้วางสายอี้ชิงก็เอ่ยถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น ยิ่งเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กกำลังยิ้มกริ่มเขาก็รู้ได้เลยว่ามันต้องเป็นข่าวดีแน่


    “คนโทรมาแจ้งผลสัมภาษณ์งาน กูได้งานทำแล้วโว้ยยยย!


    พออีกฝ่ายวางสายไปปุ๊บ แบคฮยอนก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจ เขากอดจางอี้ชิงเพื่อนรักแล้วก็พากันกระโดดพร้อมกับตะโกนไปมาอยู่หลังแผงผักด้วยความดีใจ


    ดูเหมือนว่าในความเฮงซวยนี้จะมีเรื่องดีๆ ซ่อนอยู่เหมือนกัน และแล้วพระเจ้าตัวจริงผู้มีตาก็ได้เมตตาสงเคราะห์ให้แบคฮยอนได้ทำงานในบริษัทที่อยากทำ แถมยังเริ่มงานได้เลยทันทีแบบไม่ต้องรอ มันไม่มีอะไรดีไปมากกว่านี้แล้ว


    “เหี้ย!! งั้นก็ทำวันจันทร์หน้าเลยหรอวะ! โอ้ยยย~ อิสัส ฟาดเคราะห์ไปก็ได้งานเลย มึงไม่ต้องห่วงโทรศัพท์แล้ว ถ้าได้งานก็ซื้อใหม่ได้แล้ว” อี้ชิงเองก็ดีใจแทนเพื่อนซี้ไม่แพ้กัน เขารีบวิ่งไปหยิบน้ำอัดลมในตู้เย็นมาเปิดดื่มฉลองให้กับว่าที่พนักงานใหม่ทันที


    “กูได้บริษัทที่อยากทำด้วยแหละ! ดี! มาก!


    “บริษัทอะไรวะ ทำเกี่ยวกับอะไร”


    “บริษัทโฮมแคร์ ขายพวกอุปกรณ์สร้างบ้าน ตกแต่งบ้าน ของใช้เกี่ยวกับบ้านคล้ายๆ อิเกียอะมึง” แบคฮยอนคว้ากระป๋องน้ำอัดลมมาดื่มแล้วเต้นส่ายเอวไปมาอย่างอารมณ์ดี เขาแทบจะลืมเรื่องที่ถูกโมยโทรศัพท์และการแบล็คเมล์ไปเลยพอรู้ว่าได้งานใหม่หลังจากที่ตกงานมาเกือบปี


    “ตำแหน่งอะไรวะ”


    “ยังไม่รู้อะ กูเขียนไปว่ากูสมัครทุกตำแหน่งที่ว่างอะ แต่เค้าจะเรียกไปคุยวันพุธนี้ แล้วเริ่มงานจริงวันจันทร์หน้า”


    “งั้นก็ต้องย้ายห้องด่วนเลยดิ”


    “ก็ไม่ด่วนมากหรอก ของกูจะมีไรมาก กระเป๋าเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ก็มีที่หออยู่แล้ว ขาดเหลือค่อยทยอยย้าย” พอเต้นแร้งเต้นกาแสดงความดีใจกันเต็มที่แล้วก็นั่งลงคุยกันแบบคนปกติ แบคฮยอนเหลือบตาไปมองกล่องข้อความที่ยังไร้การตอบกลับเพียงแค่แว้บเดียว ก็หันไปสนใจเพื่อนตรงหน้าต่อ


    “แล้วตกลงเรื่องหอคุณโดว่าไง?”


    “เค้าบอกว่าเข้าไปคุยได้เลย เซ็นสัญญาเสร็จก็ย้ายเข้าได้เลย ถ้าไปคุยงานวันพุธนี้ก็ไปทำสัญญาเช่าห้องเลย แล้วเสาร์อาทิตย์ค่อยย้าย”


    “เออๆ เดี๋ยวกูไปช่วยย้ายห้องจะได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุมึงด้วย” อี้ชิงว่า ถึงจะรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่จะเหลือเวลาเมาท์มอยกับเพื่อนรักอีกเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ แต่เขาก็ดีใจที่แบคฮยอนมีงานทำได้สักที


    “โอ้ย~ นี่กูคิดว่าจะไม่มีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับกูแล้วนะเนี่ย แม่ง วินาทีสุดท้ายจริงๆ”


    “เออ ขอบคุณสวรรค์เหอะ ถ้าไม่นับเรื่องที่มึงโดนรูดทรัพย์แค่นี้ก็ถือว่าดี บริษัทที่จะไปทำงานก็ขอให้มันดีๆๆๆ!

     


    .


    .


    .


     

    ภายในห้องประชุมวางแผงเรื่องการตลาด พนักงานฝึกงาน ปาร์ค ชานยอล เอาแต่นั่งหมุนเก้าอี้ไปมาด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย เขาเอาแต่หยิบเอาโทรศัพท์เคสสีฟ้าขึ้นมากดดูฆ่าเวลาสลับกับมองนาฬิกาที่หน้าห้องประชุม


    ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาบ่ายสี่โมงเศษๆ แล้ว ชานยอลเบื่อจนแทบจะหลับกับการต้องมานั่งเป็นรูปปั้นในห้องประชุมแบบไร้ความหมาย ในหัวเขามีแต่เรื่องอะไรที่ไม่เกี่ยวกับการทำงานทั้งนั้น ชานยอลกำลังนึกว่าเมื่อไหร่จะได้กลับบ้านไปนอน อยากไปทำเพลงต่อแล้ว แล้วก็จะเล่นเกมด้วย อยากออกไปกินกาแฟจัง เมื่อไหร่การประชุมที่แสนน่าเบื่อนี้จะจบลงสักที


    “ค่ะ ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นแผนที่จะกระตุ้นให้บริษัทลูกของเรามีบททบาทในตลาดมากขึ้น เพื่อที่บริษัทจะได้มีกำไรมากขึ้น รวมถึงแผนขยายการผลิตสินค้าที่เป็นของเราเอง เอกสารอื่นๆ ดิฉันแนบเอาไว้ให้ในแฟ้มเรียบร้อยแล้วค่ะ ทุกท่านสามารถย้อนกลับไปอ่านได้”


    “สำหรับวันนี้มีเท่านี้ใช่ไหมคะ” หัวหน้าคณะกรรมการบริษัทเอ่ยถาม


    “ใช่ค่ะ”


    “อือ... ก่อนที่จะปิดการประชุม ดิฉันอยากให้ใครสรุปประเด็นให้ฟังอีกสักนิด ทั้งเรื่องหัวข้อการประชุมและจุดประสงค์ รวมถึงเรื่องที่เราพูดกันไปว่าจะทำในปีหน้า เรื่องแผนการงบประมาณ ดิฉันรบกวนคุณชานยอลค่ะ”


    เสียงเรียกจากหัวหน้าคณะกรรมการที่เป็นประธานการประชุมในครั้งนี้เรียกวิญญาณ ปาร์ค ชานยอล ให้กลับเข้าร่าง ลิงตีฉาบในหัวเขาหยุดทำงาน ชานยอลเหลือบตาขึ้นมองหญิงสาววัยกลางคนที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะประชุมก่อนที่จะลุกขึ้นยืนตอบด้วยท่าทีสบาย


    “เอ่อ... การประชุมเรื่องการตลาดปีหน้าสรุปว่าเราจะออกอีเว้นให้มากขึ้น ผลิตสินค้าเป็นของตัวเองให้มีมาตรฐานเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญ่ๆ ให้มากขึ้น กระตุ้นบริษัทลูกให้เติบโต แล้วก็... ผลักดันบริษัทรับเหมาของเราให้มีบทาทเทียบคู่กับแบรนด์”


    “..........”


    “ครับ?”


    “เชิญนั่งค่ะ” ประธานองค์ประชุมว่า เธอยืนขึ้นรวบแฟ้มปึกใหญ่ส่งให้เลขาก่อนที่จะพูดต่อ “วันนี้ดิฉันขอปิดการประชุมแต่เพียงเท่านี้ ทุกท่านเชิญพักผ่อนได้ เอ่อ... ยกเว้นคุณชานยอล ขอบคุณทุกคนมากค่ะ”


    “ครับ ขอบคุณครับ”


    พนักงานในบริษัททั้งหัวหน้าฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด และบุคลากรอันทรงคุณค่ามากมายพากันโค้งให้กับหัวหน้าคณะกรรมการบริษัทก่อนที่จะเก็บแฟ้มแยกย้ายกันออกไปจากห้องประชุม เหลือเพียงแค่เด็กหนุ่มพนักงานฝึกงาน ที่ยังนั่งหมุนเก้าอี้ฟังเสียงลิงตีฉาบในหัวอยู่


    ชานยอลได้แต่ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ตอนที่เห็นหญิงวัยกลางคนยืนกอดอกมมองเขาด้วยสายตาที่แสนกดดัน


    “ชานยอล”


    “ครับ”


    “แม่บอกกี่ทีแล้วว่าเวลาประชุมอย่าเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเล่น” ปาร์ค ยูรินยกมือขึ้นกอดอก สายตาของเธอจับจ้องไปยังลูกชายที่ยังนั่งเหม่ออยู่ตรงหน้าไม่วางตา


    “ผมรู้แล้ว” ชานยอลตอบแบบขอไปที ในระหว่างที่ฟังแม่บ่นเขาก็ไม่ลืมหยิบเอาปากกามาหมุนเล่นไปด้วย


    “แม่แค่ขอให้เรามานั่งฟังการประชุมด้วยยังทำได้ไม่เต็มที่ แล้วนี่แต่งตัวอะไร เมื่อเช้าแม่ไม่ได้บอกหรอว่าให้แต่งตัวสุภาพ มาก็สาย แถมยังใส่เสื้อฮู้ดกางเกงยีนส์มา คราวหลังไม่ใส่ชุดนอนมาซะเลยล่ะ” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เข้มขึ้น


    “ผมไม่ใช่พนักงานบริษัทแม่สักหน่อยอะ แม่ให้ผมมานั่งฟังเฉยๆ ไม่ใช่หรอ”


    “มันก็ควรจะต้องมีมารยาทบ้าง”


    “คร้าบ คราวหลังจะแต่งตัวให้มันเรียบร้อย” พูดแล้วเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมาเหมือนไม่ได้กำลังรู้สึกรู้สาอะไรกับการถูกตำหนิ ชานยอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ หยิบกระเป๋าเป้ใต้โต๊ะขึ้นมาสะพายบ่าเตรียมจะออกจากห้องโดยที่ไม่ลืมเก็บโทรศัพท์เคสสีฟ้าใส่กระเป๋าเสื้อฮู้ดไปด้วย


    “ในโทรศัพท์นั่นมีอะไร” คนเป็นแม่เอ่ยถามขึ้น ยูรินพยักพเยิดหน้าไปยังโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อของลูกชายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายหันมาเลิกคิ้วทำหน้าเหมือนไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่


    “ครับ?”


    “แม่เห็นชานยอลเอาแต่นั่งจ้องโทรศัพท์ทั้งวัน อยู่บ้านก็ดูแต่โทรศัพท์ มันมีอะไร”


    “อ๋อ เปล่าครับ” คนตัวสูงไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ


    “มีแฟนหรือไง มองแล้วก็ยิ้มอยู่ได้ อย่างกับคนบ้า”


    “เปล่าครับ อันนี้ไม่ใช่โทรศัพท์ผม”


    “เฮ้อ.... เอาเถอะ วันนี้จะไปไหนต่อก็กลับบ้านให้มันเร็วๆ ด้วยแล้วกัน” คุณนายยูรินได้แต่ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะยกมือโบกไล่ลูกชายปล่อยให้เขาไปทำอย่างอื่นต่อได้ เธอไม่อยากจะสนใจความรักของเด็กหนุ่มที่ไม่จีรังหรอก


    “ครับ เดี๋ยวจะรีบกลับ”


    “อ้อ แล้วก็วันพุธมาเข้าบริษัทอีกทีนะ คุณนายอนเค้ามาทำงาน แม่อยากให้ชานยอลมา”


    “อีกแล้ว? ทำไมต้องผมอะ?” ชานยอลเอ่ยถามด้วยสีที่ไร้ซึ่งความแคร์ใดๆ ถึงเขาจะรู้ถึงเหตุผลที่แม่อยากให้มาทำงานอยู่แล้วก็ตาม


    “ก็แค่มาเฉยๆ เองน่า มาเหมือนมาเที่ยวแค่นั้นแหละ มาให้เห็นเธอหน้า ทำเป็นเหมือนบังเอิญผ่านมากินกาแฟก็ได้” ยูรินหัวเราะขำ


    “อา... ครับ ถ้าผมว่างผมจะมาแล้วกัน” ชานยอลยักไหล่ก่อนจะเดินออกไปจากห้องประชุมทันที


    ติ๊ง


    เสียงแจ้งเตือนข้อความเข้าจากมือถือเครื่องบางทำเด็กหนุ่มตัวสูงเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว ชานยอลรีบหยิบเอาหูฟังออกมาเสียบเข้ากับโทรศัพท์ของตัวเองทันที ก่อนที่จะกดเปิดเข้าไปดูข้อความส่วนตัว...



    .


    .


    .



    Bhxx0506 : ตกลงจะคืนมือถือปะ

    Bhxx0506 : ครางจนเจ็บคอหมดแล้วเนี่ย


    Cyyyyxx : ...

    Cyyyyxx : เอาที่อยู่มา

     


    “อีอี้!!! อีเหี้ย!!! มึงมาดูนี่เร็ว!!!


    หลังจากที่รอข้อความตอบกลับมาเกือบสองชั่วโมงการรอคอยก็ไม่ไร้ค่า แบคฮยอนกระโดดโลดเต้นร้องกรี๊ดๆ เป็นสาว พร้อมทั้งรีบตะโกนเรียกเพื่อนรักให้มาชื่นชมความสำเร็จร่วมกันอย่างชื่นมื่น


    “อะไรวะ” อี้ชิงที่ได้ยินเสียงกรี๊ดของเพื่อนก็แทบจะทิ้งตะกร้าผ้าในมือ เขาวิ่งมาหาแบคฮยอนแล้วชะโงกหน้าเข้าไปอ่านข้อความในจอก่อนที่จะร้องกรี๊ดออกมาอีกคน  กวางป่าสองตัวจับมือกันกระโดดเหมือนได้เป็นสองคนสุดท้ายบนเวทีนางงาม


    กับดักเสียงครางของพวกเขาไม่ไร้สาระและมันได้ผล ตอนนี้แบคฮยอนได้โทรศัพท์คืนแล้ว เขาได้ทั้งงานและก็ได้ความเป็นส่วนตัวคืน มันไม่มีอะไรดีไปกว่านี่อีกแล้ว


    “อีเหี้ย! โอ้ย! ทำไมวันนี้มันดีไปหมดอย่างงี้วะ!


    “มึง มันต้องฉลอง! อย่างงี้มันต้องฉลอง!!!


    แบคฮยอนซอยเท้าย่ำไปมาอยู่กับที่ด้วยความดีใจ เขารีบหันไปพิมพ์ที่อยู่ลงในกล่องข้อความทันทีก่อนที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนใจ


    Bhxx0506 : พยอน แบคฮยอน 2237  ถนนนิคมกิลจู เมืองบูชอน เขตบางบูชอน จังหวัดคยองกีโด 14790

    Bhxx0506 : ขอบคุณนะ



    “ได้โทรศัพท์คืนแล้ว! ได้งานคืน! ได้ชีวิตส่วนตัวคืน!  โอ้ย! ทำไมมันดีแบบนี้!


     

    .


    .


    .



     

    วันอังคารที่แบคฮยอนต้องเริ่มเก็บกระเป๋าเสื้อผ้า เขาจัดการยัดเสื้อยืดหลายสิบตัวใส่เป้ ในขณะที่อี้ชิงก็กำลังช่วยจัดกระเป๋าเดินทาง


    พรุ่งนี้แบคฮยอนต้องเข้าไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทแต่เช้า เขาพกความมั่นใจไปเต็มกระเป๋า เรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นทำให้แบคฮยอนอารมณ์ดีจนรู้สึกเหมือนตัวเองจะสามารถผ่านทุกอย่างไปได้ง่ายๆ เขาก็แค่ต้องไปทำงาน แค่ยิ้มเอาไว้เยอะๆ เค้าว่าอะไรก็ว่าตาม แล้วทุกอย่างมันก็จะดีเอง


    “พรุ่งนี้ไปเซ็นสัญญาเช่าห้องด้วยใช่ปะ ต้องใช้เอกสารอะไรแมะ” อี้ชิงเอ่ยถาม เขารื้อเอาทั้งใบเกิด และสูติบัตรของแบคฮยอนออกมาวางจนกระจัดกระจายเต็มไปหมด


    “ไม่ต้องๆ ใช้แค่บัตรประชาชน”


    “ที่ทำงานมึงไกลจากที่พักมากปะวะ”


    “ก็ไกลนะ ถ้าทำที่สำนักงานใหญ่ก็ไกลอะ แต่ถ้าได้เป็นพนักงานขายก็ไม่ไกลมาก เหมือนไปทำที่ห้างอะไรแบบนี้อะ” แบคฮยอนกล่าวหน้าชื่นตาบาน


    “แล้วค่ารถไม่แพงหรอวะ?”


    “ก็อาศัยนั่งรถเมล์เอา เข้าไปในเมืองแล้วค่อยต่อรถไฟฟ้า เดินบ้างไรบ้าง อิดอก กูวิ่งไปทำงานได้ก็คงทำอะ แถวนั้นค่าครองชีพแม่งแพงชิบหาย”


    “ก็เมืองหลวงปะวะ”


    “พรุ่งนี้มึงไปเป็นเพื่อนกูหน่อยดิ กูไม่อยากไปคนเดียวอะ” คนตัวเล็กว่าเสียงอ่อยพร้อมกับหันไปทำหน้าตาน่าสงสารใส่เพื่อนรัก มือบางยกขึ้นประกบกันที่กลางอก แบคฮยอนเองก็ไม่อยากยอมรับนักหรอกว่าตั้งแต่โดนรูดทรัพย์ไปอยู่ๆ เขาก็รู้สึกกลัวคนในเมืองขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


    “นี่มึงไปโรงเรียนหรือไปทำงาน?”


    “มึง ก็มันน่ากลัวอะ หอพักที่จะไปเช่าก็น่ากลัว ถ้ากูโดนรูดทรัพย์ไปอีกอะ” ทำเป็นมุ่ยหน้าว่าเสียงอ่อยก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนฟูกทำทีเหมือนคนหมดอาลัยตายอยาก ที่จริงแบคฮยอนก็ไม่ได้อยากจะจากบูชอนบ้านเกิดไปหรอก แต่ว่ารายได้จากการทำงานในเมืองหลวงมันดีกว่า ถ้าชีวิตนี้ยังต้องใช้เงินก็ช่วยไม่ได้ใช่ไหมล่ะ


    “เออ เดี๋ยวจะไปอยู่เป็นเพื่อน” สุดท้ายอี้ชิงก็ต้องตอบรับไปอย่างช่วยไม่ได้ พอเห็นสีหน้าเศร้าจ๋อยของเพื่อนรักแล้วเขาก็ปฏิเสธไม่ลง


    “เย้!!


    “แล้วอีชานยอลไรนั่นมันตอบข้อความมึงกลับมามั่งปะล่ะ”


    “ไม่นะ พอส่งที่อยู่ไปก็ไม่ตอบกลับมา กูไม่อยากไปถามย้ำๆ อะ เดี๋ยวมันเปลี่ยนใจไม่คืน”


    “อิดอก โทรศัพท์ก็ของมึง ยังต้องเกรงใจโจรที่ขโมยไปอีก เวอร์ชิบหาย”


    “ก็มัน...”


    ปริ๊นๆ!


    “พัสดุคร้าบ!


    ยังไม่ทันจะได้พูดจบ เสียงบีบแตรจากคนส่งพัสดุก็เรียกแบคฮยอนที่กำลังงอแงให้ดีดตัวขึ้นจากที่นอนราวกับติดสปริง คนตัวเล็กหันไปมองหน้าเพื่อนซี้ด้วยสายตาเป็นประกายก่อนจะรีบวิ่งสับขาออกจากห้องนอนไปแบบฝุ่นตลบ


    หัวใจดวงน้อยกระโดดโลดเต้นอยู่ในอกด้วยความยินดีปรีดา แบคฮยอนรีบรับเครื่องแสกนมาเซ็นอย่างว่องไวพร้อมกับรับกล่องมาถือไว้ โดยที่ไม่ลืมโค้งขอบคุณให้กับคุณลุงที่คุ้นหน้าไปอีกหนึ่งที


    “ขอบคุณครับ!


    พอได้รับพัสดุมาแล้วก็รีบวิ่งกลับไปยังห้องนอนอีกครั้งด้วยหัวใจที่ร้อนรุ่ม แบคฮยอนทิ้งตัวนั่งลงบนที่นอนใช้เล็บตะกุยเทปอย่างรีบร้อน เขาตื่นเต้นจนยิ้มไม่หุบ เสียงฝ่ากล่องพัสดุถูกฉีกกระชากดังแควก! บางสิ่งที่ถูกห่ออยู่ในแผ่นกันกระแทกปรากฏสู่สายตา


    “............”


    “...........” 


    "..........."


    "อะไรวะ...."


    ไม่มีคำพูดใดออกจากปากแบคฮยอน อี้ชิงที่เห็นว่าอยู่ๆ เพื่อนตัวเล็กเงียบไปเอ่ยถามด้วยความสงสัย เขาเห็นแบคฮยอนกำหมัดแน่นก่อนจะหยิบเอาของข้างในออกมาปาใส่ผนังอย่างแรง


    “มันส่งยาอมมา!


    ฮอลล์รสน้ำผึ้ง และยาอมแก้การเจ็บคอหลายห่อถูกเขวี้ยงใส่ผนังกำแพงอย่างแรง แบคฮยอนคว่ำหน้าลงกับหมอนร้องกรี๊ดๆ แล้วก็ตีอกชกที่นอนเหมือนกับวันแรกที่โดนรูดทรัพย์ไปไม่มีผิด


    รู้สึกเหมือนมีภูเขาไฟสักสิบลูกสุมอยู่ในอก สุดท้ายก็ได้แต่กรีดร้องแล้วดีดดิ้นไปมาเหมือนปลาขาดน้ำอยู่บนที่นอน แบคฮยอนโกรธจนหน้าแดงกล่ำ เขาใช้กำปั้นชกใส่หมอนป้าบๆๆๆๆ!! แล้วก็ซุกหน้าลงกรี๊ดกับที่นอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า สร้างความรู้สึกเวทนาให้กับผู้เห็นเหตุการณ์เป็นอย่างมาก


    จางอี้ชิงที่ไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยอะไรเพื่อนรักได้ก็ได้แต่ส่งเสียงหัวเราะแห้งๆ ออกมา เขาคลานไปหยิบเอาห่อมายาอมแก้เจ็บคอมาแกะออก ก่อนจะพบว่ามันมีการ์ดใบเล็กถูกแนบมาด้วย


    “มันเขียนจดหมายถึงมึงด้วยว่ะ”


    “กู! ไม่! อยาก! อ่าน!!” ว่าแล้วก็ก้มหน้าลงไปกรี๊ดอัดหมอนอีกรอบ แบคฮยอนทุบกำปั้นใส่ที่นอนจนฝุ่นฟุ้งไปหมด


    “มันบอกว่า...”

     

    แก้เจ็บคอ - Cyyyyyxx’

     









    #ฟิคกวาง

     

     





     





    CR.SQW
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×