คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 11 : แบคฮยอนคนโง่ที่รักชานยอลหมดใจ
CUT
“ใส่ไว้ เดี๋ยวเป็นหวัด” ชานยอลว่า เขาหยิบเอาเสื้อยืดของตัวเองมาส่งให้กับคนตัวเล็กก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไปหาอะไรดื่มหลังจากที่เสียเหงื่อไปมาก
ส่วนแบคฮยอนที่แสนขี้เกียจนั้น
ก็รับเสื้อยืดตัวใหญ่มาใส่อย่างลวกๆ ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้ง ความเหนื่อยล้าจากหัวใจที่ทำงานหนักเกินปกติทำแบคฮยอนแทบเป็นลม
เขาเขินแทบบ้ากับความร้อนแรงของเด็กหนุ่มที่อายุห่างกันถึง 3 ปี
ตั้งแต่มีแฟนมาไม่เคยมีเซ็กส์ครั้งไหนเลยที่ทำให้แบคฮยอนรู้สึกเหมือนจะตายให้ได้เหมือนครั้งนี้
เขากลั้นหายใจจากความรู้สึกวาบหวิวนับครั้งไม่ท้วน ไม่รวมครั้งที่รู้สึกเขินมากจนหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ
รู้ชะตาตัวเองเลยว่าต่อไปนี้คงถอนตัวจากชานยอลไม่ขึ้นแล้ว
แบคฮยอนคงต้องกลับไปขอโทษเพื่อนรักเรื่องที่สบประมาทความร้ายกาจของชานยอลเอาไว้
ทำไมเขาถึงเป็นคนที่ทำอะไรก็ชวนให้คิดไปหมดแบบนี้นะ...
เป็นเพราะแบคฮยอนกำลังเข้าข้างตัวเอง หรือชานยอลกำลังทำให้เขาคิดแบบนั้นจริงๆ
กันแน่...
.
.
.
Ring Ring Ring Ring Ring Ring
ในเช้าที่แสนน่าเบื่อ
ชานยอลถูกปลุกด้วยเสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์ เขาขมวดคิ้วนิ่วหน้าด้วยความหงุดหงิดใจก่อนจะเอื้อมมือไปคว้ามือถือมากดรับรับโดยที่ไม่ยอมขยับตัวออกจากก้อนหมอนข้างส่วนตัว
“ครับ” เสียงทุ้มๆ ที่ติดจะงัวเงียถูกกรอกลงในมือถือ
ชานยอลยังคงหลับตาวางคางเกยกับศรีษะทุยของคนข้างๆ
คิ้วเขาขมวดย่นเข้าหากันทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่ปลายสายพูด
[ชานยอลมาเปิดประตูให้แม่หน่อย]
“แม่อยู่ไหน”
[อยู่หน้าห้องไง
แม่เคาะประตูหลายรอบแล้ว]
“อ่า... ครับ รอแป๊บนึง” คนตัวสูงรีบกดวางสายพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงทันที
ชานยอลหยิบเอาเสื้อฮู้ดของเขามาสวมก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป
เพื่อไปเปิดประตูให้กับผู้เป็นแม่ที่อยู่ๆ ก็ปรากฏตัวมาอย่างกะทันหัน
บานประตูสีขาวถูกเปิดออกเพียงครึ่ง ชานยอลเห็นแม่เขายืนถือแฟ้มเอกสารอยู่หน้าห้อง
เธอแต่งชุดเหมือนกำลังจะไปทำงาน และนั่นทำให้ชานยอลโล่งใจขึ้นเยอะ
“แม่มีธุระจะคุยด้วย” หญิงวัยกลางคนว่า เธอก้าวเท้าทำท่าจะเดินเข้าไปในห้องลูกชาย
แต่ก็ถูกเขาขยับตัวมากันเอาไว้เสียก่อน
“เพื่อนผมอยู่ในห้อง” ชานยอลพยายามปรับสีหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด
เขาอ้าปากหาวแล้วยกขึ้นเสยผมที่ยุ่งไม่เป็นทรงก่อนจะเอนตัวพิงไหล่ลงกับขอบประตู
“เพื่อนหรือแฟน” ประธานสาวกล่าวเสียงเย็น รอยยิ้มติดทะเล้นของลูกชายที่ส่งมาทำให้เธอหงุดหงิดไม่ลงถึงจะรู้ว่าเขาหิ้วใครที่ไม่ใช่แฟนมาขึ้นห้องก็ตาม
“เค้าหลับอยู่”
“หรอ งั้นก็คุยตรงนี้ แม่จะให้สืบประวัติคนนี้ให้หน่อย
เค้าเป็นบัญชีใหม่” ยูรินว่า เธอหยิบเอาชุดกระดาษออกมาจากแฟ้มแล้วส่งให้กับลูกชายก่อนจะพูดต่อ
“ได้ข้อมูลแล้วก็ส่งไปให้นายอนด้วย แม่ขอวันนี้เลยนะ”
“ได้ครับ” ชานยอลรับปากอย่างว่าง่าย
เขาพับกระดาษลงแล้วเหลือบตาขึ้นมองผู้เป็นแม่พลางส่งเสียงหัวเราะออกมา
เมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กมีความผิดที่กำลังจะถูกจับได้
“แฟนจะกลับมาแล้วก็เลิกเถลไถลได้แล้วนะ”
“ผมบอกแล้วว่าไม่ใช่”
“อย่างงั้นก็ได้ แม่ไปแล้วนะ”
ยูรินส่งยิ้มให้กับลูกชายก่อนจะหันหลังเดินไปขึ้นลิฟท์
ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของหนุ่มสาวทำเธอปวดหัว ยังไงซะซักวันชานยอลก็ต้องหยุดที่คนดีๆ
สักคน ตอนนี้ปล่อยไปบ้างก็คงไม่เป็นไรหรอก...
.
.
.
บนทางเท้าที่ปูด้วยคอนกรีตตัวหนอน รองเท้าผ้าใบสองคู่ย่ำเดินไปในจังหวะเดียวกัน
ช่วงใกล้เย็นแบคฮยอนออกจากคอนโดมาหาอะไรกินกับชานยอลอีกครั้ง พวกเขาเดินเอื่อยไปทั่วงานนิทรรศการที่ถูกจัดแบบ
Out door แบคฮยอนมีขนมกลับไปฝากอี้ชิงเต็มสองมือ
ส่วนชานยอลก็ซื้อแค่แหวนวงเล็กๆ เท่านั้น
หลังจากที่เดินกันจนทั่วที่นั่งใต้ต้นไม้ก็ดูเหมือนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
แบคฮยอนเดินเหยียบพื้นหญ้าตรงไปนั่งลงบริเวณโคนต้นไม้ที่อยู่ห่างไกลจากผู้คน
ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาหกโมงห้าสิบแล้ว แบคฮยอนยังไม่ได้กลับหอตั้งแต่เมื่อวานและเขารู้ตัวเลยว่าจะต้องโดนอี้ชิงบ่นแน่
จะให้ทำไงได้ในเมื่ออยากอยู่กับชานยอลมากกว่า
“อาทิตย์นี้ไม่ได้ไปเที่ยวเลย” อยู่ๆ ชานยอลก็พูดขึ้นมา
เขาหันไปมองแบคฮยอนที่ยังเอาแต่สนใจกินข้าวปั้นไม่หยุดก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา
“ไปอาทิตย์หน้าก็ได้ วันจันทร์เงินเดือนออกพอดี เดี๋ยวเลี้ยงขนม”
“ก็วันหยุดไม่ว่าง ตั้งแต่วันศุกร์
ไปถึงอาทิตย์หน้า” พูดแล้วก็ได้แต่ยิ้มออกมาขืนๆ ชานยอลไม่รู้ว่าเขาจะทนที่จะไม่โทรหาแบคฮยอนได้ไหม
ชานยอลจะทนได้นานแค่ไหนถ้าไม่ได้ยินเสียงเจี้อยแจ้วที่เขาเคยได้ยินทุกคืนตลอดเวลาที่ผ่านมา
“อ้าว ไปไหนอะ”
“ไม่ได้ไปไหน มีธุระอื่นเฉยๆ”
“อ่อ งั้นไว้วันหลังก็ได้ อุตส่าห์พาไปเที่ยวมาตั้งหลายทีแล้ว” ว่าแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี ที่จริงแบคฮยอนก็คิดว่ามันสมควรแล้วที่ชานยอลจะมีธุระเหมือนกับคนอื่นบ้างซักที ปกติก็เห็นเขาว่างแทบจะตลอด
“ว่างแล้วไปเที่ยวกัน”
“ไว้หลังอาทิตย์ค่อยว่ากัน”
ความว่าง่ายของแบคฮยอนทำให้ชานยอลอดรู้สึกเอ็นดูไม่ได้
เขาเหลือบตาลงมองพวงแก้มและแพขนตาสั้นๆ ของคนข้างตัวเพียงครู่ก็ละสายตาไปมองแม่น้ำต่อ
รอยยิ้มที่พยายามจะเก็บกลั้นเอาไว้ถูกระบายออกเป็นรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปาก
ความรู้สึกแบบนี้... ดีจัง...
.
.
.
หลังจากที่หายไปใช้เวลากับเด็กหนุ่มทั้งวันแบคฮยอนก็ถึงคราวต้องกลับบ้านซักที
เขาโดนเพื่อนซี้โทรตามจิกตั้งแต่บ่ายแต่กว่าจะได้กลับจริงก็มัวแต่นอนเล่นเกม
ร้องเพลงกันเพลินจนลากยาวมาถึงเย็น
ที่หน้าอพาร์ทเม้นคุณโด แบคฮยอนโบกมือบ๊ายบ่ายให้กับคนที่ขับรถมาส่งเขาก่อนจะหันหลังเดินเข้าประตูไป
ใช้เวลาไม่นานแบคฮยอนก็ขึ้นบันไดมาถึงห้อง เขาเคาะประตูเพียงสองทีเพื่อนซี้ก็เดินออกมาเปิดให้ด้วยสีหน้าบึ้งตึง
อี้ชิงดูอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก เขาเดินมาเปิดประตูให้แล้วก็เดินกระแทกเท้าตึงตังกลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรมาก
“เป็นไรอารมณ์เสีย” แบคฮยอนว่า
เขาวางกระเป๋าไว้หน้าตู้เสื้อผ้าก่อนจะกระโดดขึ้นไปทับเพื่อนรักที่ยังมัวแต่งอนไม่เลิก
“ก็เพื่อนหาย หายไปกับผัว อารมณ์ไม่ดี” อี้ชิงกระแทกเสียงทำประชด
เขาล่ะอยากจะหยิกแบคฮยอนให้ตัวเขียวเลย ข้อหาทำตัวน่าหมั่นไส้
ช่วงนี้เพื่อนรักของเขาดูเหมือนจะลุ่มหลงเด็กหนุ่มซะเหลือเกิน กลางคืนก็โทรคุยกันไม่เว้นแต่ละวัน
แล้วพอวันหยุดก็พากันหายไปทั้งคู่ พอนึกแล้วมันก็ทำให้รู้สึกโมโหยังไงไม่รู้
“แหม~ ก็เพิ่งไปค้างมาคืนเดียว~”
“ผัวก็ไม่ใช่อิสัส เอาไปนอนกกซะอย่างกะลูกกะเมีย
ทีกูล่ะปล่อยนอนเหงา”
“มึงอย่ามาพูดอีอี้ เมื่อวานมึงก็ไปนัดอยู่ กูรู้กูเห็น”
แบคฮยอนรีบเถียงกลับทันควัน เมื่อวานนั้นอี้ชิงก็ไปนัดตรั่บมาเอง
เขาไม่เห็นพูดบ้างว่าตัวเองทิ้งเพื่อนเหงา
“เอ้อ
เดี๋ยววันเสาร์นี้กูกลับแล้วมึงอย่ามาร้องแล้วกัน”
“เอาเล้ย~ กูจะหาผัวที่หล่อจนทำให้มึงต้องหลั่งน้ำตาแทนให้ได้เลย”
ว่าแล้วหันไปก็กรีดยิ้มเยาะใส่เพื่อนรัก แบคฮยอนเห็นอี้ชิงหันมาทำหน้าเหม็นใส่เขา
ก่อนที่หมอนใบใหญ่จะถูกยกขึ้นฟาดเข้ามาเต็มแรง “โอ้ย!”
“จ้ะ! กับอีผัวโจรมึงเนี่ยเอาให้รอดก่อนเถอะ
มั่นหน้าอยากจะกินผัวหล่อ เดี๋ยวโดนมันเขี่ยทิ้งขึ้นมาน้ำตาเช็ดหัวเข่าจะรู้สึก!” ความอวยผัวเด็กของเพื่อนรักทำอี้ชิงอดรู้สึกหมั่นไส้ไม่ได้
นี่เขาเห็นแบคฮยอนกับนายชานยอลนั่นเทียวหยอดกันมาเป็นเดือนแล้วแต่ก็ยังไม่เห็นมีอะไรคืบหน้าสักที
จะเรียกว่าแฟนก็ไม่เต็มปาก เรียกว่าคนคุยก็ไม่ได้เพราะไม่รู้ว่าเขาคาดหวังอะไรหรือเปล่า
พอเห็นแบบนี้แล้วก็อดที่จะรู้สึกอึดอัดแทนไม่ได้เลย
“จะหล่อหรือไม่หล่อสุดท้ายมันก็ทิ้งกูอยู่ดีปะวะ?
มึงดูเหี้ยๆ งานการไม่มีทำอย่างไอ้ยองจินมันยังทิ้งกู ถ้าสุดท้ายยังไงก็ต้องเสียใจ
กูก็ขอเสียใจเพราะคนที่มันดีๆ หน่อยไม่ได้หรอวะ” แบคฮยอนบ่นอุบ อี้ชิงจะบอกว่าที่เขาพูดไปไม่จริงมันก็ไม่ถูกใช่ไหม
สุดท้ายถ้าจะต้องเสียใจเพราะใครสักคน อย่างน้อยถ้าโดนคนหล่อๆ ทิ้งก็อาจจะเอาไปพูดโม้ได้บ้างว่าเคยได้นอนกับคนที่หล่อระดับนี้
“มึงทำอย่างกับมึงจะหาผู้ชายแบบนี้ได้ง่ายๆ ตามท้องถนนทั่วไปอะ”
“เออว่ะ อันนี้ไม่เถียง” จางอี้ชิงยักไหล่
เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่แบคฮยอนพูดทุกอย่าง แต่ว่านั่นก็ไม่ได้หมายความเขาจะชอบนายชานยอลมากขึ้นหรอก
“เห็นปะ เป็นมึงก็ทำเหมือนกูอะ”
“สรุปตอนนี้คือหลงมันหัวปักหัวปำแล้วช้ะ? สองขานี่ยื่นลงเหวแล้ว?”
อี้ชิงเลิกคิ้วขึ้นถามพลางกดมุมปากแสยะยิ้มร้าย เขาเห็นเพื่อนรักหันมาหัวเราะหึให้ก่อนจะตอบออกมาด้วยความมั่นใจ
“กูจมก้นทะเลแล้วตอนเนี้ย”
.
.
.
“สวัสดีครับ
สนใจสินค้าตัวไหนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้นะครับ”
หน้าเชลล์แผนกอุปกรณ์งานช่าง
แบคฮยอนแจกยิ้มให้กับลุงแก่คนนึ่งที่เดินผ่านเขาไปมาหลายรอบแล้ว
เสียงดังติ๊ดของนาฬิกาบอกแบคฮยอนว่าตอนนี้เที่ยงตรงแล้ว พนักงานแผนกอื่นๆ เริ่มทยอยกันไปพัก
และแบคฮยอนจะไปหลังช่วงบ่าย
ในวันศุกร์ที่ไม่ค่อยมีคนมากนัก
พนักงานตัวเล็กแอบหย่อนก้นนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็กที่แผนกเติมของแอบเอามาวางไว้
เขาหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดเช็คข้อความ แต่แล้วก็ต้องมุ่ยหน้าด้วยความรู้สึกขัดใจ
ดูเหมือนว่าชานยอลจะไม่ว่างอย่างที่พูดจริงๆ
เพราะเขาแทบไม่ได้ส่งข้อความมาเลยหลังจากที่ส่งข้อความมาบอกเมื่อเช้าว่าจะไปทำงาน
ก็ไม่ได้อยากบอกว่าเหงาหรอก แต่มันก็เหงาจริงๆ นั่นแหละ...
“เฮ้อ...”
“อีแบ้ก”
“ห้ะ?” เสียงแหลมๆ ของรองผู้จัดการเรียกแบคฮยอนให้ต้องละความสนใจออกจากมือถือ
เขาเห็นพี่โจควอนเดินตูดบิดเข้ามาพร้อมกับกระดาษในมือ ไม่ต้องบอกก็รู้เลยว่าเอางานพิเศษมาให้ทำอีกตามเคย
“จะไปพักยัง”
“อีกแป๊บนึงก็จะไป รอพี่นาอึนมาก่อน”
“เดี๋ยวแกไปที่สำนักงานใหญ่ให้หน่อย พี่แฮจินเค้าลืมสมุดเซ็นชื่อนับสต๊อคไว้ ช่วยไปเอามาให้ที เดี๋ยวให้คะแนนพิเศษ” โจควอนว่า เขาใช้ม้วนกระดาษเคาะหัวพนักงานตัวเล็กที่กำลังทำหน้าอิดออดด้วยความเอ็นดูก่อนจะส่งเสียงหัวเราะออกมา
“ทำไมต้องหนูอีกแล้วอะ คะแนนพิเศษนี่มีจริงๆ ปะเหอะ
หรือแค่หลอก” แบคฮยอนมุ่ยหน้าว่าเสียงอ่อย นี่เป็นครั้งที่ร้อยแล้วที่พี่โจควอนใช้ให้เขาไปนู่นมานี่แล้วก็เอาคะแนนพิเศษที่ไม่มีอยู่จริงมาอ้าง
“มันคือคะแนนความเอ็นดูจากฉัน ไม่ต้องบ่นมาก
ไปตอนนี้เลย เดี๋ยวให้คนอื่นมาเฝ้าแทน”
“โถ่ว~” สุดท้ายก็ได้แต่สบถออกมาอย่างนึกเซ็ง แบคฮยอนเดินทำหน้ามุ่ยออกจากแผนกที่เป็นหน้าที่รับผิดของตัวเองไป
เพื่อที่จะไปหยิบกระเป๋าที่หลังร้านก่อนจะเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อตามหาสมุดเซ็นชื่อที่หายไป
ในวันที่อากาศร้อนแบบนี้แบคฮยอนไม่อยากจะออกไปไหนเลย
โดยเฉพาะอย่างกับวันที่อารมณ์ไม่ค่อยจะดีแบบนี้ ไม่รู้สิ เขาแค่ไม่มีกำลังใจอยากจะทำอะไรเลย
พอไม่มีชานยอลเป็นตัวช่วยแล้วทุกอย่างมันก็ดูเหมือนจะยากไปหมดเลย
ก็รู้ตัวหรอกว่าชักจะเคยตัวกับการมีคนคอยช่วยเหลือแล้ว แต่ว่าแบบนี้มันไม่ดีเลย
พนักงานแบคฮยอนสะพายกระเป๋าย่ามเดินดุ่มออกจากที่ทำงานตรงไปโบกรสเมล์สายที่จะพาเขาตรงไปยังสำนักงานใหญ่ทันที
ในณะที่รถกำลังเคลื่อนไปโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ก็ถูกหยิบขึ้นมากดข้อความส่งหาใครบางคนอีกครั้ง
ไม่ได้อยากจะกวนหรอกนะ แต่ถ้าได้ไปเจอหน้าสักนิดนึงก็คงดี...
.
.
.
ใช้เวลานั่งรถแค่ 15 นาทีจากสโตร์มาถึงสำนักงาน แบคฮยอนรีบตรงไปยังแผนกต้อนรับเพื่อขอพบซัพพายเยอร์จินทันที
พอเห็นพนักงานต่อสายแล้วบอกให้รอแบคฮยอนก็เดินมานั่งรอบนโซฟาอย่างว่าง่าย
“เดี๋ยวรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวเค้าลงมาพบ”
รีเซฟชั่นสาวกล่าวพร้อมรอบยิ้ม เธอวางหูโทรศัพท์ลงก่อนจะหันไปสนใจอย่างอื่นต่อ
ในขณะที่กำลังนั่งรอแบคฮยอนก็แชทคุยกับอี้ชิงไปเรื่อยเปื่อยเป็นการฆ่าเวลา
เขาอยากโทรหาชานยอลแต่ก็ไม่กล้าเพราะว่าเขาไม่ตอบข้อความมาก็เลยไม่รู้ว่าว่างอยู่หรือเปล่า
เท้าเล็กๆ เตะไปมากลางอากาศอย่างซุกซน แบคฮยอนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินออกไปหน้าบริษัทเพื่อจะหาอะไรดื่มก่อนที่จะกลับมาเอาของ
เขากวาดสายตามองไปรอบๆ และในระหว่างที่กำลังคิดว่ามีร้านขายน้ำอะไรอยู่ใกล้ๆ บ้าง หางตาก็ดันเหลือบไปเห็นรถยนต์คันที่แสนคุ้นตา
รอยยิ้มกว้างๆ ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้านวลอย่างอัตโนมัติ
แบคฮยอนเห็นชานยอลจอดรถอยู่ทางฝั่งริมสุดของลานจอด เขาเปิดประตูเดินลงมา
และเพียงไม่นานก็มีผู้หญิงอีกคนเดินตามออกมาด้วยจากทางฝั่งที่นั่งผู้โดยสาร
คิ้วเรียวขมวดย่นเข้าหากันด้วยความแปลกใจ
แต่ยังไม่ทันจะได้คิดอะไร ภาพของชานยอลที่หันไปจับปอยผมที่ถูกลมพัดทัดหูให้หญิงสาวก็ทำแบคฮยอนถึงกับหน้าแห้ง
ชุดผ้าซีฟองลายดอกของเธอปลิวไหวไปกับสายลมแรงรวมถึงเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนที่พัดสะบัดไม่เป็นทรง
ด้านข้างของเธอมีเด็กหนุ่มตัวสูงกำลังพยายามช่วยจัดทรงผมให้
รอยยิ้มที่แบคฮยอนได้เห็นบ่อยๆ ปรากฏอยู่บนใบหน้าที่แสนคุ้นเคย ชานยอลคว้าเอาฝ่ามือหญิงสาวมาจับไว้แน่น เขาก้มลงดูดหลอดน้ำจากแก้วของเธอพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวดก่อนที่จะพากันเดินหายเข้าไปในทางเข้าสำหรับบุคคลภายใน
ไม่รู้หรอกว่าภาพที่เห็นมันคืออะไร แต่ทำไมเจ็บจัง...
คนตัวเล็กหลุบตาลงมองพื้นก่อนจะหันหลังเดินกลับเข้าไปในบริษัทอีกครั้ง จิตใจถูกก่อกวนด้วยความรู้สึกสับสนที่ถาโถมเข้ามา ก่อนมือบางจะล้วงเอามือถือเครื่องเดิมขึ้นมาต่อสายหาใครบางคนที่คุ้นเคย โดยหวังแค่ว่าให้เขารับเพื่อบอกว่าไม่ว่างก็พอ
‘ขอโทษค่ะ
หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้....’
#ฟิคกวาง
ㅂㅊㅇ
ขอบคุณที่อ่านและเอ็นจอบรีดดิ้งค่ะ :D อย่าลิม #ฟิคกวาง นะคะ :D
ความคิดเห็น