ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แม่บ้านทหารบก CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #1 : Prolouge : มึงกะเทยอะ!

    • อัปเดตล่าสุด 6 ม.ค. 66


    B
    E
    R
    L
    I
    N



     

     

    ฮึก... ฮึก....

     

    เสียงร้องไห้ดังขจรขจายไปทั่วร้านตัดผม สาวน้อยบอบบางที่แสนน่าสงสารหลั่งน้ำตาสะอื้นไห้ประดุจวันเสียตัวเมื่อเห็นเส้นผมของตัวเองที่อุตส่าห์ไว้มาอย่างยาวนานค่อยๆ ล่วงหล่นลงบนพื้นเหมือนกับหยาดน้ำตา

     

    มึงจะร้องทำไมนักหนาวะโด คยองซูเหลือบตาขึ้นมองเจ้าอ้อแอ้ของเขาที่ยังเอาแต่นั่งสะอื้นไม่หยุดถึงแม้ว่าจะไม่ช่วยอะไร

     

    เมื่อช่างตัดผมเอาพัฟแป้งกลมๆ จุ่มลงในตลับแป้งแคร์แล้วมาโปะหัวแบคฮยอนก็รู้สึกราวกับโลกของเขาได้ถล่มทลายลง ริมฝีปากบางสั่นระริก ขอบตาเรียวรีแดงช้ำ ภาพของเด็กชายหัวโปกในกระจกตอกย้ำจิตใจเขายิ่งกว่าสิ่งใด

     

    ใบหน้าขาวเนียนกับทรงผมสั้นเกรียนและการเรียน รด...

     

    ก็ผมมันไว้มาสามปี แล้วก็ต้องมาตัดเพื่อสามวัน...จาง อี้ชิงได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง เขายกมือขึ้นรูปหัวตัวเองที่เกรียนไม่แพ้กัน สัมผัสได้ถึงตอผมเล็กๆ ที่รูดไปกับฝ่ามือ มันฟินเหมือนกับได้เห็นชายหล่อแก้ผ้าถ่ายรูปลง fb

     

    หัวมึงเกรียนจนเขียวเลยอีแบ้ก

     

    แต่นี่เบอร์ยาวสุดแล้วนะ

     

    หุบปาก!เจ้าอ้อแอ้ประจำแก๊งสามแม่มดยืนขึ้นกัดฟันด้วยความรู้สึกสุดเจ็บแค้น แบคฮยอนรีบหยิบหมวกมาสวมหัวทันทีด้วยความอาย  นับแต่นี้เขาคงไม่กล้าไปเจอหน้าใครทั้งนั้นจนกว่าผมจะยาว

     

    เอาวะ อย่างน้อยก็ได้ไปฝึกกับไอ้ชาน

     

    ฮือ! ก็เพราะต้องไปฝึกกับมันไงอีเหี้ย กูจะกล้าเจอหน้ามันได้ไง หัวกูเกรียนขนาดนี้อะ ฮือ!”  ยังไม่ทันไรแบคฮยอนก็แหกปากร้องไห้ออกมาอีกครั้งเมื่อมีคนไปพูดจาสะกิดใจเขา ทำเอาเพื่อนๆ ปวดหัวกันไปหมด แม้แต่ลุงช่างตัดผมเองก็ยังส่ายหน้า

     

    คยองซูรีบลุกขึ้นควักแบงค์ห้าร้อยออกมาจากกระเป๋าเพื่อจ่ายเงินเป็นค่าไถผมสำหรับสามหัว เขานิ่วหน้าเหลือบตามองเพื่อนรักที่พยายามจะใช้ผ้าเช็ดหน้าคลุมหัวไว้แล้วใส่หมวกแก๊บทับ มันตลกยิ่งกว่าหัวเขียวๆ ของเขาซะอีก

     

    แบคฮยอนทำอย่างกับเป็นป้าที่ชอบโยนหน้ากากอนามัยใส่คนบนรถไฟฟ้า ทั้งหมวก ทั้งผ้าเช็ดหน้าและแว่นดำ คยองซูสาบานได้ว่าเขาจะไม่เดินใกล้แบคฮยอนถ้าเจ้าตัวออกไปจากร้านสภาพนี้

     

    มึงทำเหี้ยไรมึงอีแบ้กอี้ชิงเดินไปดึงหมวกในมือเพื่อนที่ตัวเล็กสุดในกลุ่มออก ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาเที่ยงครึ่งแล้ว ยังไงวันนี้หรือพรุ่งนี้แบคฮยอนก็ต้องโชว์หัวเขียวให้เพื่อนดูอยู่ดี เขาจะอายไปทำไม

     

    กูอายอะ...คนเรื่องมากว่าเสียงอ่อยพลางเกาะแขนเพื่อนรักแล้วเดินหลบหลังออกจากร้านตัดผมไป หัวใจของแบคฮยอนถูกขยี้เป็นผุยผง เพียงแค่นึกสภาพว่าจะต้องเดินเข้าห้องเรียนทั้งแบบนี้ขาแข้งมันก็แข็งไปหมด

     

    มึงจะอายอะไรวะ เค้าก็ตัดผมกันทั้งห้อง

     

    กูไม่กล้าเจอชานยอลอ๊ะ...

     

    โอ้ยยยย มันสนใจมึงตายอะ ร้อยวันพันปีกูไม่เห็นมันคุยกับมึง โว้ยยย!ความมากลีลาของเพื่อนรักทำอี้ชิงเริ่มอารมณ์เสีย

     

    เขาทั้งฉุดทั้งดึงแบคฮยอนให้เดินเข้าโรงเรียนก่อนที่รั้วจะปิดเมื่อหมดเวลาพัก มันจะอะไรนักหนากับเวลาเพียงแค่สามวันที่แลกกับการไม่ต้องเกณฑ์ทหาร แบคฮยอนควรคิดว่ามันคุ้มสิ

     

    แล้วถ้ามันล้อกูอะ...คนตัวเล็กนิ่วหน้าว่าออกไปด้วยความเป็นกังวล ใครๆ ก็รู้ว่าแก๊งชานยอลเป็นแบบไหน การต้องรู้สึกไม่มั่นใจต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบมันก็แย่พออยู่แล้ว ทำไมใครๆ ถึงไม่เข้าใจว่าการเรียนรด.มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนอย่างแบคฮยอน

     

    เออ ถ้ามันล้อมึงเดี๋ยวกูจัดการเองจางอี้ชิงยื่นคำขาดก่อนจะลากเพื่อนรักให้รีบเดินเมื่อเสียงออดหมดเวลาพักดังขึ้น

     

    สองวันสุดท้ายก่อนการไปฝึกค่ายรด.บนเขา เด็กผู้ชายกว่าครึ่งในโรงเรียนตัดผมสั้นเกรียนกันหมด เพื่อแลกกับการไม่ต้องจับใบแดงทหาร นี่คือสิ่งคุ้มมากที่แบคฮยอนควรจะต้องพอใจ

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

    เสียงพูดคุยเจี๊ยวจ๊าวดังไปทั่วห้องเรียนในคาบที่อาจารย์ไม่เข้าสอน นักเรียนชั้น ม.5/3 เคาะโต๊ะร้องเพลง ร่อนกระดาษเล่นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนแบคฮยอนที่เคยสดใสร่าเริงก็กลายเป็นคนซึมเศร้าไม่พูดไม่จากับใครในบัดดล ดวงตาเรียวรีจ้องมองไปยังแผ่นหลังกว้างใหญ่ของ my crush ที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะแถวในสุดฝั่งริมประตู

     

    แล้วมึงไม่บอกกับจารย์ไปวะ เหี้ย แล้วเดี๋ยวงี้พวกกูก็เดือดร้อน

     

    เสียงทะเลาะกันของสองนักเรียนหนุ่มดังขึ้นท่ามกลางเสียงเจี๊ยวจ๊าว คิม จงอิน ตัวแสบของห้องทำท่าไม่พอใจเมื่อเห็นแฮชานเพื่อนอีกคนของเขาแสดงสีหน้าลำบากใจเหมือนไปทำความผิดอะไรมา

     

    ก็กูไม่กล้าบอก จารย์เค้ายืนกันอยู่เต็ม เค้าโทรหาแม่กูได้นะเว้ย

     

    น่ะ ไอ้เหี้ย มึงไม่ยอมรับผิดอะ มึงกะเทยว่ะ!จงอินผลักไหล่เพื่อนเขาด้วยท่าทีหัวเสีย คนถูกว่าเองก็ไม่กล้าปริปากพูดอะไรเพราะรู้ดีว่าตัวเองผิดอยู่แก่ใจ แต่เหมือนคำพูดของเขาจะทำให้ใครที่กำลังเศร้าเสียใจเดือดร้อนจนต้องลุกขึ้นตบโต๊ะ

     

    กะเทยแล้วทำไมวะ!เสียงเล็กๆ ตวาดดังลั่นห้อง แบคฮยอนลุกขึ้นตะโกนตบโต๊ะดังปัง เขาจ้องมองนายตัวดำอย่างหาเรื่อง คำว่ากะเทยทำแบคฮยอนโกรธจนหูสั่นถึงเขาจะไม่ใช่กะเทยก็ตาม(?) ทำไมใครๆ ก็ต้องว่ากะเทยด้วย

     

    กูไม่ได้พูดกับมึง อีหัวโล้น!

     

    หัวโล้นพ่อมึงดิ! มึงจะเอาใช่ปะ!

     

    มีใครบางคนกล่าวว่าความโศกเศร้าอาจทำให้คนเราเสียสติ แบคฮยอนเชิดหน้าอย่างหาเรื่องจนเพื่อนสนิทต้องลุกขึ้นจับแขนไว้ทำทีเป็นเหมือนจะห้าม เพราะรู้ว่าถ้าไม่รับมุกกันแบบนี้แบคฮยอนจะต้องหน้าแตกแน่

     

    มาดิ มึงจะเอาก็มาดิอีตุ๊ด!

     

    มึงมาเดะ!

     

    เห้ยๆ ใจเย็นคยองซูรีบยกมือขึ้นคว้าไหล่เพื่อนของเขาที่ไม่เป็นตัวเองเท่าไหร่หลังจากที่ไปตัดผม เขาเห็นแก๊งเพื่อนของจงอินหัวเราะใหญ่ ยิ่งกับนายชานยอลที่ใช้สายตากรุ้มกริ้มกับรอยยิ้มมุมปากแบบนั้นมองมาแล้วด้วย

     

    คำก็ตุ๊ดสองคำก็ตุ๊ด เดี๋ยวกูเ-็ดตูดแม่งเลย!!

     

    มาเอาดิชานยอลซึ่งนั่งอยู่ด้านหลังเพื่อนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ ริมฝีปากเขายกยิ้มน้อยๆ สายตาเจ้าเล่ห์จ้องมองไปยังเพื่อนรวมห้องตัวเล็กที่ไปตัดผมมาใหม่ซะเนียน คนตัวสูงได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเงียบไปราวกับถูกกดปิดสวิชต์

     

    แบคฮยอนที่รู้สึกเหมือนร่างกายโดนสต๊าฟพูดไม่ออก หัวใจเขาเต้นแรงด้วยคำพูดจากน้ำเสียงนุ่มทุ้มเพียงแค่ประโยคเดียว แม้มันจะเป็นประโยคท้าทายก็ตาม ชานยอลที่เย็นชาอยู่เสมอ เขากำลังส่งยิ้มมาทางนี้ถึงจะเป็นแค่รอยยิ้มขบขัน มันทำแบคฮยอนสมองมันตื้อไปหมด ปากอยากจะอ้าด่าออกไปก็นึกคำพูดไม่ออก ได้แต่ยืนนิ่งจ้องหน้าเขาไม่วางตา

     

    น่ะ อิแบ้กมึงเขินอะ! โฮ่~ มึงชอบชานยอลอะ

     

    หิ้ว~!”

     

    เสียงนักเรียนชายนายหนึ่งดังขึ้นพร้อมกับเสียงโห่แซวรับเป็นจังหวะ คนตัวเล็กยิ่งรู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดให้ได้ เขารีบหันไปตวาดไอ้ตัวชงใหญ่ แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดโอเวอร์เพื่อปกปิดอาการเขินของตัวเอง

     

    กูไม่ได้ชอบ!

     

    โอ้ย~ เค้ารู้กันทั้งห้องแล้ว~”

     

    ฮ่าๆๆๆ

     

    และแล้วเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นอีกครั้ง แบคฮยอนหน้าร้อนเห่อ เขาไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองคนที่ถูกพูดถึงสุดท้ายก็ได้แต่ต้องกระแทกตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำทีเป็นโมโหทั้งที่ข้างในเขินจนตัวแทบจะระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ

     

    อีแบ้ก มึงใจเย็น มึงหน้าแดงหน่วยปฐมพยาบาลอี้ชิงรีบเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาโปะหน้าผากให้เพื่อนรักที่โดนหนุ่มหล่อของโรงเรียนแอทแทคอย่างรุนแรง เขาจับแบคฮยอนให้นอนเงยหน้าก่อนที่เลือดกำเดาจะไหลออกมาเพราะร่างกายสูบฉีดเลือดมากเกินไป

     

    มึง อีเหี้ย... มันยิ้มให้กู....

     

    มือที่ชุ่มชื้นเหงื่อทั้งสองข้างกำแน่น คนตัวเล็กกัดฟันกระซิบคำพูดเบาๆ ที่ได้ยินกันเฉพาะหมู่เพื่อน ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันอย่างพยายามกลั้นสติ ตอนนี้แบคฮยอนเขินจนจมูกบานไปหมด ใจเขาเต้นตึกตัก ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแค่รอยยิ้มขำขันแต่แบคฮยอนก็ยังดีใจอยู่ดี ตอนนี้รู้สึกเหมือนหัวใจเขาจะกระเด็นออกมานอกอกแล้ว

     

     ชานยอลที่โคตรเย็นชาและเอาแต่ทำหน้านิ่งอยู่ตลอดเวลา เขายิ้มให้กับแบคฮยอนด้วย

     

    มันเยาะเย้ยมึง มันไม่ได้ยิ้มให้มึง

     

    นั่นแหละมึง มันยิ้มให้กูถึงเพื่อนรักจะบอกยังไงแบคฮยอนก็ไม่ยอมหลุดออกมาจากโลกแห่งความฝันและจินตนาการของตัวเอง มือบางกำกางเกงนักเรียนแน่น

     

    คำพูดเมื่อกี้ยังเอาแต่ดังวนเวียนอยู่ในหูคอยปั่นหัวใจให้เต้นผิดจังหวะ นี่ขนาดนั่งอยู่ไกลกันยังกระทำได้รุนแรงขนาดนี้ แล้วถ้าได้ไปฝึกด้วยกันใช้ชีวิตคลุกคลีกันที่ค่ายสักสามวันแบคฮยอนไม่รู้เลยว่าสภาพเขาจะเป็นยังไง

     

    อาบน้ำร่วมกับชานยอล กินข้าวกับชานยอล และนอนกับชานยอล หรืออาจจะได้....กับชานยอล....

     

    หึ นี่ขนาดมันแค่แซวนะ ถ้ามึงยังไม่เลิกบ้าแบบนี้มึงไปค่ายกับมันมึงตาย

     

    ยังไงกูก็ตายอยู่แล้วปะ ฮือ...แบคฮยอนเอาแต่ส่งเสียงครางหงุงหงิงออกมาจากในลำคอเหมือนลูกหมา ทำเอาเพื่อนที่นั่งฟังอยู่มองบนไปตามๆ กัน

     

    แค่พรุ่งนี้อีกวันนักเรียนบางส่วนของชั้นม. 5 ก็จะต้องไปขึ้นเขาทำการฝึกภาคสนาม สามวันสำหรับการเรียน รด. นั่นหมายถึงการใช้ชีวิตแบบผู้ชายกับผู้ชายเป็นกองร้อย และภารกิจทดสอบความเป็นชายอันแสนบากบั่น สำหรับบางคนนั่นอาจเป็นสนามรบหรือสนามรัก แต่สำหรับกะเทยแล้วมันคือสมรภูมิหน้าไหม้ การผิวเสีย และความลำบากตรากตรำ

     

    แต่ถ้าอย่างน้อยได้ผู้ชายสักคนนึงมาเป็นคู่กัน มันก็อาจจะกลายเป็นเรื่องที่ดี...

     

    พรุ่งนี้ไปเข้าค่ายแล้วโว้ย!!!

     

     

     

    .

     

    .

     

    .

     

     

     

     

    เวลาหกโมงเศษบนรถบัส เสียงเพลงร้องเพลงที่แสนน่ารำคาญดังผสมกับเสียงพูดคุยไปทั่วทั้งคันรถ กับนักเรียนชั้น ม.5 ที่หาทุกสิ่งทุกอย่างมาเคาะให้เกิดเสียงได้ มีเพียงสามชายน้อยกลุ่มเล็กๆ ที่นั่งหน้ามุ่ยเบียดกันอยู่บนเบาะนั่ง แบคฮยอนเท้าคงลงกับหัวเขียวๆ ของเพื่อนคยองก่อนจะถอนลมหายใจออกมา

     

    รำคานว่ะคนตัวเล็กนิ่วหน้าบ่นออกมาอย่างนึกเซ็ง การไปเข้าค่ายฝึกของนักเรียนรด.ปีสองที่เคยคิดว่าจะน่าสนใจเพราะมีแต่ผู้ชายมันไม่ใช่อย่างที่คิด ผู้ชายที่แบคฮยอนเจอในคันรถมีแต่เพื่อนหน้าเดิมๆ ที่เคยเห็นกันมาตั้งแต่สมัยม.ต้น

     

    เออ... รำคาญสัสอี้ชิงกล่าวสมทบ แม่งไม่เหมือนที่คิดเลย...

     

    โว้ยยยยย! มึงเงียบกันหน่อยได้ไหม!!เมื่อทนไม่ไหวแบคฮยอนก็ยืนขึ้นตะโกนเสียงดังลั่นรถบัส แต่แล้วก็กลายเป็นว่าเขาถูกกลุ่มที่นั่งเคาะถาดอยู่หลังรถพูดตามต่อกันเป็นทอดๆ จนกลายเป็นเรื่องตลกก่อนที่เสียงหัวเราะจะดังขึ้น แล้วสุดท้ายรถก็ยังเสียงดังเหมือนเดิมอยู่ดี

     

    มันไม่ฟังมึงหรอก

     

    แบ้ก คืนนี้มึงนอนกับกูป้าว!

     

    เสียงใครบางคนตะโกนขึ้นที่เบาะหลังก่อนที่เสียงโห่ฮิ้วจะดังตามมา คนตัวเล็กได้แต่กรอกตาอย่างนึกเซ็งก่อนจะเดินออกจากที่นั่งเพื่อไปเข้าห้องน้ำ ริมฝีปากบางขยับบ่นมุบมิบไปตลอดทาง เสียงพูดคุยดังๆ และหัวข้อเรื่องฟุตบอลที่ฟังไม่เข้าใจทำให้แบคฮยอนยิ่งหงุดหงิดใหญ่

     

    แม่ง มีแต่พวกผู้ชาย

     

    แล้วมึงไม่ใช่ผู้ชายอ่อ

     

    แรงปะทะเบาๆ จากด้านหน้าเรียกคนตัวเล็กที่มัวแต่สนใจมองดูเสื้อผ้าให้ต้องเงยขึ้นมองเพื่อนร่วมชั้นตัวสูง พอเห็นว่าตัวเองเดินชนเข้ากับใครแบคฮยอนก็ทำอะไรไม่ถูก เขามัวแต่ยืนอึกอักอยู่หน้าเจ้าของรูปร่างสูงโปร่งในชุดฝึกรด.และใบหน้าหล่อเหล่า ก่อนที่จะถูกอีกฝ่ายจับบ่าแล้วดันให้เบี่ยงตัวหลบทาง ทางเดินแคบๆ ของรสบัสทำให้ร่างของแบคฮยอนแทบจะถูกเบียดจมหายไปกับร่างกายสูงยักษ์ของพี่สุดหล่อประจำห้องตอนที่พวกเขาเดินผ่านกัน

     

    หัวใจดวงเล็กเต้นตึกตัก กลิ่นหอมจากโรลออนหรือน้ำหอมบางอย่างบนตัวชานยอลทำแบคฮยอนหน้าร้อนเห่อไปหมด แม้ว่าเขาจะเดินผ่านไปแล้วก็ตาม

     

    ชานยอล มึงเอาเมียมึงไปนอนด้วยดิ!

     

    เหี้ยใครแซวหัวหน้าวะ

     

    ฮิ้ว~!”

     

    จีฮวานที่เห็นว่าเพื่อนตัวเล็กเอาแต่ยืนเขินเอ่ยแซวเสียงดัง ก่อนที่จะถูกฝ่ามือบางฟาดหัวไหล่เข้าเต็มแรง เสียงร้องโห่ฮิ้วดังขึ้นอีกครั้งแต่คนคูลๆ อย่างชานยอลก็ฉลาดพอจะไม่ตอบโต้อะไร เขาเพียงแค่กลับไปนั่งยังที่ประจำแก๊งหล่อของตัวเอง ส่วนแบคฮยอนก็ก้มหน้าเดินดุ่มตรงไปเข้าห้องน้ำโดยไม่พูดอะไร

     

    ก็แค่เพื่อนกันทักทายกันเหมือนทุกวัน ก็แค่เรียนห้องเดียวกัน ก็แค่ถูกดันให้หลบทาง แต่ทำไมมันเขินจัง หยุดสักทีแบคฮยอน เป็นแบบนี้จะมีสติฝึกจนจบได้ยังไง!

     

     

     

     

     

     

     

    เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงกับการนั่งรถมาถึงศูนย์ฝึกก่อนที่เหล่านักศึกษาวิชาทหารจะต้องต่อรถเล็กเข้าสู่สนามฝึก แบคฮยอนถูกจับแยกให้นั่งรถคนละคันกับเพื่อนซี้ บนรถเขามีชานยอล จงอิน กับเพื่อนอีกประมาณ 10 คนที่ไม่ค่อยสนิทนัก ตลอดการเดินทางที่แสนเงียบเหงา นัยน์ตาคู่เรียวก็อดที่จะแอบเหลือบมองพ่อพระเอกของเขาที่นอนหลับอยู่ตรงที่นั่งฝั่งเยื้องขวาไม่ได้

     

    ดวงตากลมโตของหัวหน้าห้องสุดหล่อหลับสนิท เท้าเขาเหยียบกับพนักพิงเบาะหน้า สองมือกอดอกไว้หลวมๆ หัวเอนพิงลงกับเบาะด้วยความเหนื่อยล้า ชานยอลในชุดทหารดูหล่อกว่าชุดนักเรียนที่เขาใส่อยู่ประจำหลายเท่าเพราะนอกจากจะเข้ารูปแล้วก็ยังทำให้รู้สึกแข็งแกร่งอีกด้วย

     

    บรรยากาศบนรถเต็มไปด้วยความเงียบ ท้องฟ้าด้านนอกเริ่มสว่าง ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเศษๆ รถกำลังมุ่งหน้าสู่แดนทรหดหรือสนามเขาชนไก่ และมันยิ่งทำให้แบคฮยอนหวั่นใจขึ้นเรื่อยๆ มองไปทางไหนก็มีแต่พวกนักเรียนขาโจ๋กับนักกีฬาตัวบึกๆ ไม่มีเพื่อนกะเทยสักคน ขืนปากดีตอนนี้มีหวังตายศพไม่สวยแน่แบคฮยอน

     

    ฝุ่นดินแดงจากถนนดินลูกรังลอยตลบอบอวลไปตลอดทาง จนกระทั่งรถคันเล็กขับผ่านประตูหน้าค่ายมาจอดลงตรงกลางถนน มองออกไปนอกหน้าต่างเห็นเพื่อนนักเรียนบนรถที่มาถึงคันก่อนหน้ากำลังวิ่งกันฝุ่นตลบ แบคฮยอนได้แต่หันซ้ายหันขวาเลิ่กลั่กไม่รู้จะทำอะไรก่อน และก่อนที่จะได้คิดอะไรประตูรถก็เปิดออก

     

    เสียงตะโกนดุดันดังขึ้นปลุกนักเรียนทหารที่นั่งหลับอยู่ให้สะดุ้งพร้อมกันทั้งคันรถ

     

    ลงมาได้แล้วพวกขี้เกียจ!!!!

     

     

     

    วันแรกของการฝึกรด. เริ่มต้นขึ้นแล้ว

     

     

     




     

    #แม่บ้านทหารบกcb

     

     






    talk 


    นิสนึง เรื่องนี้เราลงไว้ในทวิตเตอร์ค่ะ ตามชื่อแท็ก #แม่บ้านทหารบกcb แต่ย้ายมาลงสำรองใน dek-d เพราะ twitlonger แก้คำผิดไม่ได้ แต่ก็ยังลงในทวิตเหมือนเดิม ลงก่อนแล้วค่อยย้ายมาลงใน dek d ทีหลัง 


    ยินดีต้อนรับสู่ซีรีส์สั้นสั่นประสาทที่ก็ไม่มีสาระอะไรเหมือนเดิม ใครจินตนาการชานแบคหัวเกรียนไม่ออก ก็จินตนาการแบบมีผมไปก็ได้ค่ะ เอาตามที่สะดวกและสบายใจ มันก็เป็นฟิคเฉยๆ ฮ่าาา อ่านไปขำๆ ฆ่าเวลา ขอบคุณที่อ่านค่ะ :D















        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×