คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Because you're not mine #2
.
.
.
วันเวลาผ่านไปล่วงเลยเข้ามาจนถึงช่วงสอบ แบคฮยอนเอาแต่ง่วนอยู่กับงานกองโตที่สะสางไม่จบไม่สิ้นและแฟนงี่เง่าของเขา
บริเวณม้านั่งกลางสวนหย่อมหน้าตึกคณะ พยอน แบคฮยอนเอาแต่นั่งทำหน้างอแล้วก็บ่นมุบมิบไม่หยุดกับรายงานกองโตที่เขาไม่ยอมทำมาตั้งแต่ตอนที่อาจารย์สั่ง อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนความรู้ที่สั่งสมมาทั้งเทอมหายออกไปจากสมองดื้อๆ แบคฮยอนได้แต่นั่งอยู่หน้ารายงาน แล้วก็คิดว่าเขาจะลอกชานยอลยังไงไม่ให้อาจารย์จับได้
“ถ้าทำแต่แรกก็เสร็จไปตั้งนานแล้ว” ชานยอลว่าพร้อมกับส่งเสียงหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเพื่อนตัวเล็กทำหน้ายุ่ง เขาเลื่อนกระป๋องน้ำอัดลมไปให้คนตรงหน้าก่อนที่จะหยิบเอามือถือขึ้นมากดเล่น
“ถึงย้อนเวลาไปได้กูก็ไม่ทำอยู่ดีอะ”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ อย่าให้อาจารย์จับได้แล้วกัน”
“ขอโทษนะคะ...”
เสียงผู้หญิงที่ดังขึ้นเรียกทั้งชานยอลและแบคฮยอนให้เงยหน้าออกจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ ภาพของนาฮยอนสาวงามจากคณะการบินที่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงขนม และดอกไม้ดอกเล็กทำแบคฮยอนอึ้งจนพูดไม่ออก เขาเห็นเธอส่งยิ้มหวานให้กับเพื่อนซี้ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก่อนที่จะวางขนมและดอกไม้ไว้ตรงหน้าชานยอล
“ครับ”
“เอามาให้ค่ะ” เธอพูดแค่นั้นแล้วก็หันหลังเดินจากไปด้วยรอยยิ้มขวยเขิน ทิ้งให้ชายหนุ่มที่ได้รับดอกไม้กับขนมนั่งอมยิ้มอยู่ที่โต๊ะด้วยสีหน้าที่เขินไม่แพ้กัน
ชานยอลได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ เขาตามแผ่นหลังของเธอไปจนสุดสายตา จนกระทั่งหญิงสาวเดินหายเข้าไปในตึกเรียน
“เชี่ย...” แบคฮยอนถึงกับต้องสบถออกมา เขาแอบเหลือบตาไปเห็นการ์ดเล็กๆ ที่แนบมากับดอกไม้ดอกน้อย แต่ก่อนที่เพื่อนตัวสูงจะได้หยิบไป คนมือไวอย่างแบคฮยอนก็รีบชิงคว้ามาเปิดอ่านก่อน
“เห้ย เอามานี่เลย!”
“อย่า มา มี ความลับ! เหี้ย... มีสาวมาจีบด้วยว่ะ แหวะ หมั่นไส้อะ” เพียงแค่กวาดตาผ่านเร็วๆ แบคฮยอนก็อ่านข้อความในการ์ดเสร็จ เขาได้แต่เบะปากทำหน้าเบ้กับคำสารภาพรักสุดหวานแหววของหญิงสาวก่อนที่จะโยนการ์ดคืนไปให้เพื่อน
แบคฮยอนไม่เข้าใจความลึกซึ้งของเด็กผู้หญิง เขาแค่คิดว่ามันประหลาดดี เพราะชานยอลไม่เคยถูกใครจีบมาก่อนเพราะเขาเอาแต่ทำตัวติดกับ พยอน แบคฮยอน ผู้ไม่น่าคบหา
“อิจฉาอะดิ”
“แหวะ เค้าแกล้งหรือเปล่าเหอะ”
“ไม่รู้ดิ” ชานยอลพับการ์ดเก็บใส่กระเป๋าเสื้อก่อนที่จะหยิบเอาขนมกล่องเล็กๆ ตรงหน้าขึ้นมาเขย่า เขาหันไปมองหน้าตึกเรียนที่หญิงสาวเดินหายเข้าไปพร้อมกับระบายยิ้มออกมา
“อย่ามาทำหน้าฝันหวาน รำคาญ”
“อะไร? ไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย?” ชานยอลเลิกคิ้วปฏิเสธ แต่ถึงจะพูดอย่างนั้นเขาก็ยังยิ้มอยู่ดี
“มึงแน่ใจ?”
“หึๆ ไม่รู้ว่ะ”
“โอ้ย~ รำคาญ อยากคบก็ไปคบกันไกลๆ นู่นไป๊”
“ฮ่าๆๆๆ”
“เบื่อ!!!”
คนตัวเล็กกลอกตาไปมาทำสีหน้าเหม็นเบื่อก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะออกมา เพียงไม่นานการสนทนาก็เงียบลง ชานยอลหยิบเอาขนมที่ได้รับขึ้นมาดูทีละอัน ในขณะที่แบคฮยอนก็กลับไปสนใจรายงานต่อ
อยู่ๆ ความรู้สึกอึดอัดก็แผ่ซ่านไปทั่วบริเวณทั้งๆ ที่เสียงหัวเราะเพิ่งจะดับไปเมื่อครู่ แบคฮยอนยังคงมีสีหน้าเรียบเฉยเหมือนอย่างทุกที เขาก้มหน้าทำรายงานต่อไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร
ความเงียบทำให้ทุกอย่างรอบตัวผ่านไปอย่างเชื่องช้า ดวงตากลมโตยังคงแอบชำเลืองมองใบหน้าของเพื่อนตัวเล็กที่เอาแต่ก้มหน้าก้มตาเขียนใบงานอยู่อย่างตั้งใจ ปลายจมูกเชิดรั้นกับพวงแก้มใส และขนตายาวที่ชานยอลชอบ รวมไปถึงริมฝีปากเล็กๆ ที่เม้มเข้าหากันทุกครั้งเวลาที่รู้สึกเป็นกังวล ทุกอย่างของแบคฮยอนยังคงดูดี...
ชานยอลไม่รู้ว่าคนตรงหน้ากำลังคิดอะไร... เขาแค่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างที่เพื่อนตัวเล็กกำลังปกปิดไว้ แต่ไม่ว่ามันคืออะไร การปกปิดส่วนที่อ่อนไหวของตัวเองก็เป็นสิ่งที่แบคฮยอนทำอยู่เสมอ
บางทีนี่อาจจะเป็นโอกาสดีๆ ที่จะได้เริ่มต้นใหม่...
ถึงยังไงอย่างน้อยก็ยังดีที่ได้เป็นเพื่อนกัน...
.
.
.
ในวันที่ฝนตกหนัก นักศึกษาบางส่วนยังติดแหงกอยู่ใต้คณะและแบคฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้น เขาได้แต่นั่งมองเม็ดฝนตกกระทบพื้นคอนกรีตดังซู่ๆ ท้องฟ้าที่มืดมนทำให้บรรยากาศช่วงบ่ายดูเหมือนตอนเย็น
โทรศัพท์มือถือเครื่องบางถูกยกขึ้นมากดปลดล็อคหลายต่อหลายครั้ง แต่พอเห็นว่าทุกอย่างยังคงว่างเปล่าแบคฮยอนก็ได้แต่ถอนหายใจแล้ววางมันคว่ำเอาไว้บนโต๊ะ
“วันนี้กลับยังไง”
ขณะที่กำลังนั่งเหงาคิดอะไรอยู่อยู่คนเดียว เสียงที่คุ้นเคยกับแรงกดที่บ่าก็ทำให้แบคฮยอนต้องยิ้มออกมา ชานยอลเป็นชายผู้มากับสายฝน... ถึงแม้ว่าพวกเขาจะตัวติดกันตลอดเวลา แต่ช่วงที่ฝนตก ถ้ามีชานยอลอยู่ด้วยแบคฮยอนจะรู้สึกดีขึ้นเสมอ
“นั่งรถเหมือนเดิม”
“กลับพร้อมกันปะ”
“แล้วไม่กลับกับแฟนอ่อ”
“ไม่เป็นไร” ชานยอลตอบปัด เขาย้ายตัวเองไปนั่งเบียดกับเพื่อนตัวเล็กบนม้านั่งตัวเดียวกันก่อนที่จะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเล่นเกมฆ่าเวลา
ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาบ่ายสี่โมงเศษๆ วันนี้ชานยอลนัดนาฮยอนเอาไว้แต่เขาคิดว่าไม่เป็นไรถ้าจะขอเลื่อนนัด ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้ตัดสินใจเลื่อนนัดไปง่ายเพียงเพราะแค่เห็นเพื่อนสนิทเอาแต่นั่งมองโทรศัพท์ทั้งวัน...
“มึงไม่ต้องมาอยู่กับกูตลอดก็ได้นะเว้ย?” แบคฮยอนหันไปมองเพื่อนตัวสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ พร้อมกับขมวดคิ้วทำหน้านิ่ว เขารู้ว่าชานยอลกำลังพยายามทำหน้าที่เพื่อนที่ดีอยู่ ด้วยการพยายามทำให้แบคฮยอนไม่รู้สึกว่าขาดอะไรหลังจากที่เขามีแฟน แต่ว่านั่นมันไม่จำเป็นเลย ชานยอลควรจะไปใช้เวลากับแฟนของเขาเพราะแบคฮยอนไม่เป็นไร
ชานยอลชอบทำเหมือนกับว่าแบคฮยอนต้องมีคนดูแลตลอดเวลา เขาชอบทำตัวเป็นผู้ชายแสนดีที่ห่วงคนอื่นไปทั่วแทนที่จะแคร์ตัวเอง และนั่นคือสิ่งที่แบคฮยอนไม่ชอบเลย
“ทำไมอะ”
“ก็เปล่า.. มึงไปอยู่กับแฟนมึงมั่งก็ได้ มึงต้องการกูเมื่อไหร่มึงค่อยมาหา ไม่ต้องดูแลกูตลอดเวลาก็ได้”
ชานยอลไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงแค่หันไปมองหน้าคนด้านข้างด้วยสายตาที่แปลกประหลาดพอกัน
ไม่รู้ว่าจะขำใครก่อนดี ชานยอลรู้ตัวว่าเขายังตัดใจไม่ได้ การได้เริ่มต้นใหม่กับฮยอนนาเป็นเรื่องที่ดี แต่ชานยอลก็รู้ตัวว่าส่วนลึกของเขายังเรียกหาแบคฮยอน และหวังเพียงให้เจ้าตัวเอ่ยปากขอ...
ชานยอลมีเวลาเสมอถ้าแบคฮยอนต้องการ แม้แต่ในเวลาที่เขาบอกว่าไม่ต้องการ...
“ก็ปกติเค้าก็ไปใช้เวลากับแฟนกันปะวะ เพื่อนอะเจอเมื่อไหร่ก็ได้ เดี๋ยวก็โดนหาว่าติดเพื่อนหรอก”
“แล้ว?”
“เอ้า ตามใจ มีแฟนไม่ไปอยู่กับแฟน พอไอ้แทอูมาเดี๋ยวก็หาว่ากูทิ้งมึง”
แบคฮยอนได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะเอนหัวลงไปพิงซบบนไหล่เพื่อนตัวสูง กลิ่นกายที่คุ้นเคยกับสัมผัสคุ้นชินทำให้แบคฮยอนรู้สึกดีขึ้นมากอย่างบอกไม่ถูก ช่วงนี้เขาไม่ค่อยจะได้เจอชานยอลเท่าไหร่เพราะความยุ่งจากทั้งงานและเรื่องส่วนตัว แล้วก็ไม่ค่อยจะได้อยู่ด้วยกัน พอได้มานั่งใกล้ๆ อีกครั้งแล้วก็รู้สึกดี
ชานยอลยังเป็นคนดีที่คิดถึงคนอื่นเสมอ ช่างแตกต่างจากแบคฮยอนที่แสนจะเห็นแก่ตัว...
เขาควรจะได้มีชีวิตที่ดี...
“ยังทะเลาะกับแทอูอยู่เปล่า”
“เหมือนเดิม”
“เมื่อไหร่จะเลิกกับมันสักที”
“เลิกไม่ได้หรอก หึ...” พอว่าแล้วก็ส่งเสียงหัวเราะหึออกมาจากในลำคอ แบคฮยอนยังคงฝืนยิ้มเหมือนอย่างทุกที เขาไม่อยากให้ชานยอลมัวแต่มาสนใจปัญหาของคนอื่น แบคฮยอนคิดว่าเขาต้องการแบบนั้น
“รู้ใช่ไหมว่าเป็นห่วง”
“อื้อ”
“คราวหลังมีอะไรโทรหานะ...”
“อือ...”
คำพูดเดิมๆ กับประโยคตอบรับเดิมๆ ที่ดึงความรู้สึกเดิมๆ กลับคืนมาทำให้ชานยอลรู้ว่าความรู้สึกเขาไม่เคยเปลี่ยนไป... ทุกวันยังคงรอให้แบคฮยอนโทรหา ยังหวังว่าจะได้ทำอะไรร่วมกัน
ชานยอลอยากเริ่มต้นใหม่ และเขาก็คิดว่าแบคฮยอนต้องการให้ทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ก็ยังตัดใจได้ไม่ขาด... ทุกครั้งที่เห็นแบคฮยอนเดินกลับบ้านคนเดียว หรือนั่งคนเดียวอยู่ที่มุมห้อง จิตใจในส่วนลึกของชานยอลก็เอาแต่กู่ร้อง
ใช้เวลานั่งรอโทรศัพท์ทั้งคืน คิดว่าแบคฮยอนอาจจะต้องการคนรับฟังปัญหาในช่วงเวลาแย่ๆ แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างมันยิ่งย้อนแย้งไปหมด
“รู้ใช่ไหมว่ากูอยู่ข้างมึง”
“กูไม่เป็นไรหรอก มึงมัวแต่ห่วงกูแบบนี้แล้วจะไปใช้ชีวิตได้ยังไงวะ”
“รู้ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี”
“หึ” แบคฮยอนแสร้งหัวเราะขำเหมือนอย่างที่ชอบทำ ก่อนที่จะเด้งตัวออกจากเพื่อนซี้เมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง เขารีบหยิบมันมารับทันที ใบหน้าที่เคยเต็มไปด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงภายในเสี้ยววินาที
“มึงอยู่ไหน”
“.............”
“มึงจะมาหรือไม่มารับกู มึงพูดแค่นั้น”
“............”
“มึงไม่ต้องอ้าง!”
“............”
“กูให้เวลา 15 นาที”
แบคฮยอนพูดแค่นั้นแล้วก็กดตัดสายไป พร้อมกับโยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี
ดูเหมือนว่าบรรยากาศที่กำลังดีขึ้นจะกลับไปแย่ลงอีกครั้ง แบคฮยอนหันไปยิ้มให้กับเพื่อนของเขาก่อนที่จะหยิบเอากระเป๋าขึ้นมาเก็บกระดาษรายงาน
เมื่อชานยอลเห็นว่าเพื่อนตัวเล็กกำลังเก็บกระเป๋า เขาก็รู้ได้ทันทีว่ากำลังจะถูกทิ้งอีกแล้ว... ชานยอลยังคงกลับไปเป็นคนโง่คนเดิมซ้ำๆ คนที่หวังว่าตัวเองจะสำคัญบ้าง แต่สุดท้ายเขาก็สำคัญแค่เฉพาะเวลาที่แบคฮยอนไม่เหลือใคร
ไม่รู้เมื่อไหร่จะจำสักที...
ชานยอลรู้ดีว่าไม่มีใครขอร้องให้ทำแบบนี้แม้แต่กับแบคฮยอนเอง แต่เขาก็ไม่สามารถละสายตาออกจากแผ่นหลังที่แสนบอบบางได้ แล้วสุดท้ายก็ต้องเป็นคนที่เจ็บซะเอง
ไม่เคยสำคัญจริงๆ สักทีไม่ว่าเมื่อไหร่ หวังจะได้ยินคำขอร้องจากแบคฮยอนสักครั้ง แต่เขาก็เอาแต่ขับไล่แล้วเดินหนีไปหาผู้ชายคนอื่น ทิ้งให้ชานยอลต้องทนอยู่กับความรู้สึกเดิมๆ ทุกครั้ง
เมื่อไหร่จะรู้สึกตัวสักทีชานยอล...
“ชานยอล”
เสียงเรียกของหญิงสาวที่ดังมาจากหน้าประตู เรียกทั้งชานยอลและแบคฮยอนที่กำลังเก็บกระเป๋าให้ต้องหันไปมอง นาฮยอนในชุดกันฝนสีฟ้าถือร่มวิ่งเข้ามาในตึกคณะด้วยท่าทางรีบร้อน พอแบคฮยอนเห็นอย่างนั้นแล้วเขาก็ได้แต่ส่งเสียงหัวเราะออกมา
“เอ้า แฟนมารับแล่ว” คนตัวเล็กว่าในขณะที่คว้าเป้สะพายขึ้นหลัง แบคฮยอนยิ้มทักทายให้กับแฟนของเพื่อนซี้ก่อนที่จะพูดต่อ “เราฝากมันกลับบ้านด้วยนะ มันไม่ยอมกลับบ้านสักที”
“อื้อ เห็นบอกว่าอยู่กับแบคฮยอนก็เลยมาหา ตอนแรกคิดว่าจะกลับไปแล้วซะอีก” หญิงสาวว่า
“เราจะกลับแล้วแหละ เราบอกให้ชานยอลกลับไปก่อนมันก็ไม่ยอมไป บอกจะอยู่เป็นเพื่อน”
“อือ ก็เป็นแบบนี้แหละ ขี้เป็นห่วง ขี้กังวล แล้วแบคกลับยังไงอะ” นาฮยอนหัวเราะขำพร้อมกับเหล่ตาไปมองแฟนตัวสูงที่ยังนั่งงงอยู่บนม้านั่ง เธอวางร่มเอาไว้ก่อนจะถอดฮู้ดเสื้อกันฝนออก
“เดี๋ยวแฟนเรามารับ”
“อื้อ”
“ทำไมตากฝนมาอะ ยังไม่กลับบ้านอีกอ่อ” ชานยอลขมวดคิ้วนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่าแฟนสาวผมเปียกปอนไปหมด เขาลุกยืนขึ้นหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าแล้ววางลงบนหัวเธอพร้อมกับดุเสียงแข็ง “คราวหลังไม่ต้องมาก็ได้ ไหนบอกว่าไม่สบาย”
“ก็แวะมาดูเฉยๆ ถ้ายังไม่กลับจะได้ชวนกลับพร้อมกัน แล้วคุณอะจะกลับบ้านไหม เพื่อนเค้าจะกลับกับแฟนเค้า คุณจะไปกับเราหรือจะไปเป็น ก ข ค?”
“งั้นเอากุญแจรถมา เดี๋ยวไปเอารถเอง” ชานยอลว่าแล้วก็ยื่นมือออกไปขอกุญแจรถจากหญิงสาว
ภาพของคู่รักที่เหมาะสมที่สุดในมหาลัยทำให้แบคฮยอนอดยิ้มออกมาไม่ได้ เขาล้วงมือซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง ในขณะที่ยืนมองเพื่อนตัวสูงคุยกับแฟนสาวอย่างออกรส
“เดี๋ยวเค้าไปยืนรอข้างหลัง ตัวจะได้ไม่ต้องขับรถไกล”
“อือ ถ้าถึงแล้วก็โทรมานะ” ชานยอลหันไปพูดกับแบคฮยอนที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะหยิบร่มขึ้นมาแล้ววิ่งเหยาะออกไปทางประตูหน้าพร้อมกุญแจรถ
แบคฮยอนเองก็ทำได้แค่พยักหน้ายิ้มรับไปส่งๆ เขาโบกมือบ๊ายบ่ายชานยอลแล้วหันกลับมากล่าวลากับแฟนสาวของเพื่อนซี้ ก่อนที่เธอจะเดินผ่านไปยังประตูอีกฝั่งของอาคาร
อืด...
แรงสั่นจากโทรศัพท์มือถือภายในกระเป๋ากางเกง ดึงสติแบคฮยอนให้กลับมาสนใจปัญหาของตัวเอง เขาล้วงเอามือถือขึ้นมากดเปิดอ่านข้อความก่อนที่จะส่งเสียงหัวเราะหึออกมาอย่างนึกสมเพช
‘เอารถออกไปไม่ได้ ฝนตกแม่ไม่ให้เอารถออก – แทอู’
ไม่มีคำพูดใดอธิบายความรู้สึกที่แสนวุ่นวายของแบคฮยอนในตอนนี้ได้ ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น ความรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตาบอกแบคฮยอนให้อดทนไว้
คนตัวเล็กจัดการยัดโทรศัพท์ใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมาแล้วเก็บมันลงกระเป๋ากางเกง ก่อนที่จะเดินออกจากอาคารเรียนไปทั้งที่เม็ดฝนยังกระหน่ำตกลงมาอย่างกับพายุ
มือเล็กๆ ที่แดงเพราะอากาศหนาวกำสายสะพายเป้ไว้แน่น แบคฮยอนส่งเสียงร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใครเพราะรู้ว่าจะไม่มีใครได้ยิน เขาใช้หยาดน้ำฝนอำพรางน้ำตาและเสียงร้องไห้ หวังให้มันชะล้างความเจ็บปวดออกไปจากหัวใจให้สิ้นซาก
“ฮือ... ฮือ...”
ไม่เจ็บไปมากกว่านี้อีกแล้ว...
หัวใจของแบคฮยอนช้ำไปไม่ได้มากกว่านี้อีกแล้ว...
.
.
.
ภายในห้องนอนที่มืดสนิท เสียงร้องไห้ยังคงดังระงมอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลง... แบคฮยอนโทรหาแฟนเขาหลายครั้งแต่อีกฝ่ายไม่ยอมรับ อาการปวดหัวตัวร้อนจากพิษไข้ทำให้ทุกอย่างแย่ยิ่งกว่าเดิม
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลดิ่งลงบนปลอกหมอนจนเกิดคราบน้ำเป็นวงกว้าง คนตัวเล็กปล่อยตัวเองให้จมลงในห้วงความรู้สึกที่เหมือนกับหลุมดำ
มือบางกดเลื่อนไปยังเบอร์ที่แสนคุ้นเคยซ้ำๆ แบคฮยอนตั้งใจจะกดโทรออกหลายครั้ง แต่สุดท้ายเขาก็ต้องตัดใจกดปิดหน้าจอ
ไม่อยากรบกวนชานยอลในเวลาแบบนี้...
ที่จริงแบคฮยอนไม่ควรโทรหาชานยอลด้วยซ้ำ...
Ring Ring Ring Ring
“ฮัลโหล...”
“...........”
“อึก...”
“...........”
“มึงพอเหอะแทอู”
“...........”
“กูไม่ไหวแล้วว่ะ...”
#myfablecb
#myfablecb
ความคิดเห็น