คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : [SF] Time machine 2/2 (end)
ความรัก...
ที่หอมหวน...
บนเตียงนอนสีน้ำตาล แบคฮยอนที่ร่างกายเปลือยเปล่ายันตัวขึ้นจากเตียงด้วยความง่วงงุน เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูก่อนที่จะเดินล่อนจ้อนลงจากเตียงไปหาเสื้อผ้าใส่ ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลา 11 โมงแล้ว ชานยอลคงจะออกไปเรียนเหมือนทุกที
คนตัวเล็กเดินเอื่อยๆ ไปหยิบชั้นในมาสวมแล้วตรงไปทิ้งตัวนอนลงบนโซฟาตัวนุ่มอีกครั้ง
นี่มันผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว... สองปีแล้วหรือเปล่าที่อยู่ที่นี่...
สองปีแล้วที่ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับชานยอลที่ทั้งอบอุ่นและใจดี ตอนนี้พ่อจะเป็นยังไงมั่งนะ กำลังตามหาอยู่หรือเปล่า หรือว่าถอดใจไปแล้ว... แบคฮยอนใช้เวลาหลายปีครุ่นคิดมาตลอดว่าทำไมพ่อที่เคยใจดีของเขาอยู่ๆ ก็เปลี่ยนไป
จากที่เมื่อก่อนเคยกอดเคยหอมกันอยู่ทุกวัน อยู่ๆ ก็ทำเหมือนไม่อยากเข้าใกล้ พูดด้วยทีไรก็ทำเสียงแข็งใส่ ไม่เหมือนกับพ่อที่ใจดีเมื่อก่อนนั้นเลย
ไม่รู้ว่าความรู้สึกมันเริ่มเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้ตัวอีกทีก็ไม่สามารถมองแผ่นหลังกว้างๆ นั้นด้วยความรู้สึกที่บริสุทธิ์อีกแล้ว
ชานยอลตอนนี้น่ะดีที่สุดแล้ว... อบอุ่น ใจดี แถมยังขี้เล่น แบคฮยอนไม่คิดว่าเขาจะหาผู้ชายที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้ว...
.
.
.
เกร๊ง...
ช้อนกาแฟตกลงกระทบกับถ้วยเซรามิคเคลือบเงา ชานยอลที่ยังนั่งอยู่หน้า Interface ถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง เขาจ้องมองดูรูปถ่ายของลูกชายที่หายตัวไปอีกแล้ว...
หายไปเหมือนกับแบคฮยอน...
แค่อยู่ๆ ก็หายไป ทิ้งไว้เพียงแค่จดหมายฉบับเดียว...
ไม่ว่าจะไปตามหาที่ไหนก็ไม่เจอ ห้องของแบคฮยอนว่างเปล่า ตู้แปลกๆ ที่เคยวางอยู่ก็หายไปด้วย ชานยอลไม่เจอข้อมูลอะไรในคอมพิวเตอร์ของลูกชายแม้แต่อย่างเดียว เขาใช้เวลาเกือบปีในการพยายามกู้ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ เพียงแค่หวังว่าจะได้อะไรบ้าง หรืออย่างน้อยก็ได้รู้ว่าการที่แบคฮยอนหายตัวไปมันเกี่ยวกับตู้นั่น
ชานยอลคว้าน้ำเหลวหลายครั้ง แต่เขายังไม่ยอมถอดใจ...
นี่มันกี่ปีแล้วนะ...
20 กว่าปีที่แบคฮยอนคนรักหายไป... และอีก 2 ปีที่ลูกชายอีกคนก็หายไป...
ทำไมคนที่ชานยอลรักถึงต้องหายไปกันหมด หน้าตาเหมือนกัน ชื่อเหมือนกัน นิสัยเหมือนกัน และหายไปเหมือนกัน... ทำให้ชานยอลต้องทุกข์ทรมานใจเหมือนกัน...
มือหนายกขึ้นจับสร้อยที่คอหมุนไปมา ชานยอลถอดมันออกแล้วจ้องมองดูมันโดยหวังจะได้คำตอบอะไรบ้าง เขาเคาะนิ้วลงกับโต๊ะด้วยความเป็นกังวล อยู่ๆ อะไรบางอย่างก็วิ่งแว้บเข้ามาในหัว
อะไรบางอย่างที่เหมือนกับจ่ออยู่ตรงหน้าแต่ชานยอลเลือกที่จะมองข้ามมันมาตลอด
Time machine…
.
.
.
เหรียญจากศตวรรษที่ 25 ที่ชานยอลเคยได้มาเมื่อยี่สิบปีก่อนมันเป็นเหรียญที่ยังใช้กันในปัจจุบันนี้...
ภายในห้องนอนที่มีแต่ความว่างเปล่าชานยอลยกลังหนังสือเก่าๆ ของลูกชายเขาออกมาวางกองกันเป็นตั้ง ถึงแม้ว่าข้อมูลในคอมพิวเตอร์จะถูกลบออกไปแล้ว แต่หนังสือพวกนี้ยังตั้งอยู่ที่เดิมของมัน
หนังสือฟิสิกส์วิทยาศาสตร์เล่มหนาที่มีแต่เรื่องเกี่ยวกับจักรวาล ทฤษฎีสัมพันธภาพ มิติ เวลาและเรื่องขอบฟ้าเหตุการณ์ถูกวางกองเอาไว้เป็นตั้ง ชานยอลกำลังสงสัยว่าลูกชายเขาอ่านหนังสือพวกนี้ไปได้ยังไงเป็นร้อยๆ เล่มในช่วงเวลาไม่กี่ปี
ภายในหนังสือมีสูตรฟิสิกส์ถูกจดเอาไว้มากมายแต่มันไม่ต่อกัน และเป็นการจดที่มักง่ายเกินไป ชานยอลค้นสมุดจดของลูกชายเขา และทุกอย่างที่อยู่ในห้องจนราบคาบ สิ่งที่เขาเห็นซ้ำไปซ้ำมา ไม่ว่าจะจากในสมุดจด หรือหนังสืออ่านก็มีแต่เรื่องของการย้อนเวลา กฎของเวลา ไทม์แมชชีน การข้ามขอบฟ้าเหตุการณ์ มันมีแต่เรื่องแบบนี้ผุดขึ้นมาซ้ำๆ จนชานยอลแทบจะเชื่อแล้วว่าการย้อนเวลาทำได้จริงๆ
‘ณ ปัจจุบันนี้ เรายังไม่สามารถสร้างไทม์แมชชีนได้เพราะเรายังไม่รู้เรื่องของเวลามากพอ เวลาเป็นสิ่งที่น่าพิศวง หากคุณไปเล่นกับมัน คุณอาจติดอยู่ในโลกใดโลกหนึ่งไปตลอดกาล หรืออาจจะหายสาบสูญไปเลย แต่ว่าถึงอย่างนั้น การทดลองทำไทม์แมชชีนตอนนี้ก็ยังดำเนินอยู่ นักวิทยาศาสตร์หลายคนคิดเหมือนกันว่าหากไม่ลอง เราก็จะไม่รู้ และถ้าเป็นคุณล่ะ คุณจะยอมเสี่ยงเอาตัวเองเข้าไปนั่งอยู่บนเก้าอี้ หรืออยู่ในตู้ที่ไม่รู้ว่าจะพาคุณไปที่ไหนไหม นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่ทำให้ไทม์แมชชีนยังใช้งานไม่ได้ในปัจจุบัน’
เสียงของ Alex ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ในรายการสารคดีชื่อดังผุดขึ้นมาในหัวของชานยอลเหมือนแผ่นเสียงที่เอาแต่เล่นซ้ำๆ คนตัวสูงจัดการเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มลงมือคัดลอกสูตรฟิสิกส์แปลกประหลาดของลูกชายลงในโปรแกรมคำนวณทันที
ในยุคที่เทคโนโลยีรุ่งเรืองราวกับหนังโลกอนาคตที่เคยดูเมื่อหลายปีก่อน... ความคิดเรื่องการย้อนเวลาอยู่คู่กับมวลมนุษยชาติมาหลายร้อยปี หากว่าสิ่งที่ชานยอลคิดเป็นจริง เขาเองก็ไม่อยากจะนึกเลยว่ามันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าขนาดไหน…
ถ้าหากว่าแบคฮยอนสร้างลูปเวลาขึ้นมาจากการย้อนอดีตโดยที่ไม่รู้ตัว...
หากแบคฮยอนย้อนเวลาไปเพื่อพบกับชานยอลที่เป็นตัวเขาในอดีต นี่ก็อาจไม่ใช่ครั้งแรกที่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้น แบคฮยอนอาจเคยย้อนเวลามาแล้วหลายครั้งในมิติเวลาที่ต่างกันออกไป และชานยอลก็ถูกทิ้งให้เศร้าระทมอยู่หลายครั้ง...
ถ้าหากว่าแบคฮยอนที่ชานยอลเจอเมื่อหลายสิบปีก่อนคือลูกชายเขาในมิติเวลาแห่งอนาคต และชานยอลที่กำลังมีรักหอมหวนอยู่กับแบคฮยอนในตอนนี้คือลูกชายของชานยอลเองจากปัจจุบัน
‘ปัจจุบันของคนเราไม่เท่ากัน นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับมิติของเวลา’
นี่มันเรื่องอะไรกัน...
ถ้าหากว่าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ ล่ะ ถ้าเกิดว่าแบคฮยอนทำมันขึ้นมาจริงๆ ล่ะ...
ชานยอลจะไม่เชื่อหรอกจนกว่าเขาจะได้พิสูจน์
.
.
.
.
“วันนี้ไปกินข้าวข้างนอกกันไหม”
ในขณะที่แบคฮยอนกำลังพิมพ์วิจัยง่ายๆ เกี่ยวกับเรื่องของทฤษฎีสัมพันธภาพลงในเว็บเสียงแฟนหนุ่มของเขาที่ดังมาจากด้านหลังก็ดึงความสนใจจากงานออกไปทั้งหมด
ชานยอลที่เพิ่งกลับมาจากมหา’ลัยเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ก่อนที่แฟนตัวเล็กของเขาจะตามมานั่งทับแล้วป้อนจูบที่แสนดูดดื่มให้
จูบของแบคฮยอนเหมือนขุมพลังงานที่ชานยอลสูบได้ไม่มีวันหมด มันทั้งหอมหวาน นุ่มนวล... จูบที่ทำให้รู้สึกดีที่สุด และจะเป็นจูบที่ชานยอลจะจดจำไว้ตลอดไป...
“อื้อ... ไปกินที่ไหนดีล่ะ”
“ที่ไหนก็ได้ครับ”
“รักชานยอลจัง”
“รักเหมือนกัน” คนตัวสูงส่งเสียงหัวเราะเบาๆ กับคำพูดที่ได้ยินตลอดทั้งปี แบคฮยอนเป็นคนชอบบอกรักๆ พอๆ กับที่ชานยอลชอบฟังคำว่ารัก ถึงจะเขาจะพูดมันออกมาด้วยแววตาที่เจือความเศร้าแต่มันก็ยังน่าฟังอยู่ดี
“ยังไงก็รักนะ”
“เหมือนกัน”
มีความสุขจัง... ไม่อยากจะให้เวลาช่วงเวลาแบบนี้ผ่านไปเลย...
.
.
.
‘ปั้ง!’
ประตูตู้เหล็กสีเหลี่ยมถูกปิดกระแทกอย่างแรงหลังจากที่ชานยอลใส่หมวกไหมพรมเอาไว้แล้วหมุนหน้าปัดนาฬิกาย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ทันทีที่บานประตูปิดลงแสงสีขาวก็สาดสว่างไปทั่วก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืด
เมื่อเครื่องไทม์แมชชีนสงบลงชานยอลก็เปิดประตูเข้าไปดูหมวกไหมพรมที่เขาใส่เข้าไป แต่ทว่าตอนนี้มันไม่ได้อยู่ในตู้อีกแล้ว...
หมวกไหมพรมหายไปแล้ว มันถูกส่งย้อนกลับไปเมื่อชั่วโมงก่อนแต่ตู้ไทม์แมชชีนยังอยู่... ตู้ไม่ได้หายไป มันไม่ได้หายไปเหมือนกับของแบคฮยอน เมื่อชานยอลมั่นใจว่าไทม์แมชชีนของเขาใช้ได้ มันสามารถพาย้อนเวลากลับไปและพากลับมาได้ คนตัวสูงก็ไม่รอช้าที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าบ้าที่สุดในชีวิต
ชานยอลถอดหน้ากากออกแล้วหยิบเป้ที่มีเงินสดอยู่เต็มกระเป๋าขึ้นสะพาย เขาเดินเข้าไปในตู้แล้วหมุนเข็มนาฬิกาย้อนเวลาไปเมื่อ 25 ปีก่อน มือหนาทั้งสองข้างกำแน่นด้วยความวิตกกังวล ถ้าหากว่าชานยอลพลาด เขาก็อาจจะไปติดอยู่ที่ไหนสักที่ในห้วงเวลา และถ้าแบคฮยอนไม่ได้ย้อนเวลากลับไป ชานยอลก็จะพลาดซ้อนกันถึงสองครั้ง
แต่ว่ามันก็มีแค่ทางนี้... ชานยอลจะไม่ยอมปล่อยให้ลูกชายของเขาหายไปอีก และจะไม่ยอมให้สิ่งที่พยายามทำมาตลอดสองปีสูญเปล่า ถ้าพลาดก็จบ... แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว...
ชานยอลได้แต่หวังว่าตู้ไทม์แมชชีนที่สร้างย้อนรอยจากตู้ที่แบคฮยอนออกแบบจะพาเขากลับไปเจอลูกชายอีกครั้งไม่ว่าจะมันจะสำเร็จหรือไม่ ชานยอลก็ถอยหลังไม่ได้แล้ว
‘ปี๊บ’
‘Time reversing’
.
.
.
นานแค่ไหนแล้วนะ... ที่ไม่ได้กลับมาที่มหาลัย...
ในช่วงเช้ามืดของฤดูหนาว ชานยอลยืนอยู่ที่หน้ามหาลัยที่เขาเคยเรียนเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว ถ้าหากว่าเป็นตอนนี้ชานยอลก็คงจะอยู่ที่คอนโดตรงมุมถนน
ชานยอลทำสำเร็จ... เขาย้อนเวลากลับมาได้สำเร็จ...
ในขณะที่เท้าก้าวเดินไปบนพื้นหิมะที่ปูหนา ชานยอลได้แต่ครุ่นคิดว่าเขาจะทำยังดีถ้าหากเจอแบคฮยอน เรื่องมันซับซ้อนไปหมด ซับซ้อนจนทำให้สมองของคนแก่วัยสี่สิบปลายๆ แทบระเบิด
บริเวณด้านหลังของคอนโดที่เคยอยู่ ชานยอลจำได้แม่นว่าเขาอยู่ห้อง B21 คนตัวสูงเงยหน้าขึ้นไปมองห้องพักของตัวเองในอดีต และสิ่งที่ชานยอลกำลังมองเห็นก็ทำให้หัวใจของเขาต้องสั่นไหวอีกครั้ง
แบคฮยอน...
ยังน่ารักเหมือนเดิมเลย...
ไม่รู้หรอกว่าเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า แต่ก็คิดถึงมากเลย...
.......
ตรงม้านั่งหน้าคอนโด ชานยอลใช้เวลาครุ่นคิดอยู่นานเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาใช้เวลาศึกษาข้อมูลที่ซับซ้อนหลายปี และตอนนี้การกระทำของเขาในทุกสิ่งจะส่งผลกระทบต่อชีวิตชานยอลที่นี่ทั้งหมด ถ้าหากว่าบังคับให้แบคฮยอนกลับไปชานยอลก็จะเสียใจอย่างมาก เหมือนกับที่เขาเคยเสียใจและมันก็ต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
ชานยอลยังจำความรู้สึกที่แสนเจ็บปวดของเขาได้เป็นอย่างดี...
แต่ถ้าหากว่ายอมตัดใจแล้วกลับไปยังปัจจุบันชานยอลคนนี้จะอยู่ยังไงล่ะ... ภรรยาก็ป่วยตายไปแล้ว ชานยอลต้องสูญเสียคนที่เขารักถึงสองครั้ง ถูกแบคฮยอนทำให้ต้องเจ็บปวดถึงสองครั้ง...
ไม่ใช่ว่าเห็นแก่ตัวหรอกนะ... แต่ก็ไม่อยากจะเสียใครไปอีกแล้ว...
แบคฮยอนสร้างลูปเวลาขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และเขาจะทำอย่างนี้วนไปอีกในอีกหลายล้านมิติเวลา จะต้องมีชานยอลที่เจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสในอีกหลายโลก
ในเมื่อเขาเป็นคนทำมันขึ้นมา เขาก็ต้องเป็นคนตัดสินมัน...
ชานยอลพับจดหมายของเขาใส่ซองเอาไว้ก่อนที่จะนำมันไปใส่ไว้ในกล่องจดหมายตรงหน้าป้อมยาม จ่าหน้าถึง ‘ แบคฮยอน’ ห้อง B21 …
ชานยอลจะไม่เป็นคนตัดสินเรื่องทั้งหมดนี้ เหนือสิ่งอื่นใดคนที่เขารักมากที่สุดในหัวใจก็มีแค่แบคฮยอนคนเดียว...
แบคฮยอนที่เป็นคนเดียวกัน ไม่ว่าจะในบทบาทของคนรักหรือลูกชาย...
.
.
.
“แบคฮยอน จดหมาย”
ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่ชานยอลกำลังเรียนจบ ในเช้าที่อากาศหนาวเย็น จดหมายแปลกๆ ที่สอดอยู่ตรงช่องประตูถูกดึงขึ้นมาโบกไปมา ชานยอลที่กำลังดื่มโกโก้อยู่เดินนำซองจดหมายไปส่งให้กับคนรักของเขาก่อนที่จะเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาสีเลือดนกตัวใหญ่
เวลาหกโมงเช้าที่ท้องฟ้ายังมืดอยู่ ชานยอลเลือกที่จะกินโกโก้และนั่งดูข่าวฆ่าเวลา เขาหันไปมองคนรักเพียงครู่เดียวก็กลับไปมองจอโทรทัศน์ต่อ ความรู้สึกฉงนที่ติดอยู่ในใจทำให้ชานยอลอดที่จะเอ่ยถามออกไปไม่ได้
“ใครส่งมาหรอ”
“เปล่า คนรู้จัก” แบคฮยอนส่ายหัวไปมา เขาสูดลมหายใจเข้าปอดก่อนที่จะพับจดหมายเก็บใส่กระเป๋าแล้วเปิดประตูห้องออกไปดูด้านนอก ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พบใครเลยที่ทางเดิน แต่ว่านั่นก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกหนักอึ้งในใจเบาลง
“มีอะไรหรอ?”
“อ๋อเปล่า เห็นเมื่อเช้าหรอ?”
“อื้อ เพิ่งเห็นเมื่อกี้อะ มันเขียนว่าไร”
“จดหมายจากญาติอะ” แบคฮยอนยักไหล่ เขาเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างแฟนตัวสูงแล้วเอนหัวซบลงกับลาดไหล่หนาๆ ดวงตาเรียวรีจ้องมองไปยังจอโทรทัศน์เครื่องใหญ่ตรงหน้าไม่วางตา ความรู้สึกอึดอัดและเป็นกังวลทำให้แบคฮยอนคลื่นไส้
หัวใจของเขาเต้นแรงจนคุมไม่อยู่ ฝ่ามือทั้งสองข้างชื้นเหงื่อไปหมด เมื่อสิ่งที่กำลังวิ่งหนีมาโดยตลอดจ่ออยู่ที่ก้น...
แบคฮยอนแกล้งหลับตาลงทำทีเหมือนต้องการพักผ่อนต่อเพื่อไม่ให้แฟนตัวสูงสังเกตได้ถึงความผิดปกติ ฝ่ามืออุ่นๆ ที่ลูบสางอยู่บนเส้นผมทำแบคฮยอนแทบน้ำตาร่วง เขาทำได้เพียงแค่พลิกตัวหันหน้าซุกเข้ากับหน้าท้องแกร่งที่มีเสื้อฮู้ดสีเทาปกคลุมอยู่เพื่อซ่อนน้ำตา
ถูกเจอแล้ว...
หนีไปไหนไม่ได้แล้ว...
ไม่ว่าที่ไหนก็หนีไปไม่ได้แล้ว...
‘กลับบ้านเถอะ ไม่ว่ายังไงก็จะรอนะ
ยังไงก็รัก
- ชานยอล’
.
.
.
แก๊ง...
เหรียญสีเหลืองอมน้ำตาลกลิ้งไปชนกับแก้วเหล็กขึ้นสนิม... แบคฮยอนถอนลมหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่จะลุกยืนขึ้น กระดาษที่มีข้อความเขียนเอาไว้ถูกวางทับด้วยแก้วกาแฟ
คนตัวเล็กหยิบกระเป๋าใบเล็กคู่ใจกับเสื้อไหมผมสีฟ้าอมเทาขึ้นมาจากโต๊ะ ก่อนที่จะเดินออกไปทางประตูโดยที่ไม่ลืมล็อคกุญแจไว้
รองเท้าผ้าใบสีน้ำเงินเหยียบย่ำไปตามเกล็ดหิมะที่กองพะเนินสูงขึ้นจนถึงข้อเท้า แบคฮยอนเดินออกจากบ้านหลังเล็กไปด้วยหัวใจที่แสนปวดร้าว ทิ้งไว้เพียงแค่รอยเท้าที่จะถูกหิมะกลบในอีกไม่ช้า
ความโหดร้ายของอากาศที่หนาวเย็นกำลังพุ่งเข้ากัดกินจิตใจที่แสนเปราะบางอย่างหิวกระหายราวกับเกล็ดน้ำแข็งที่กัดชิ้นเนื้อ แบคฮยอนเดินร้องไห้ราวกับจะขาดใจไปตลอดทาง เขาได้แต่ปลอบตัวเองว่า ‘เราทุกคนต้องเดินหน้าสู่อนาคต ไม่ว่าอะไรจะรออยู่เราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน’
หวังเพียงว่าสักวันหนึ่งชานยอลจะเข้าใจ... หากเขาไม่ชิงโกรธไปเสียก่อน...
ไม่ว่าอย่างไรใจก็ยังรัก... ต่อให้เป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต ความรู้สึกรักก็ยังคือรัก...
อย่าลืมฉันนะ...
นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อยากจะขอล่ะ....
.
.
.
.
บนเก้าอี้โยกไม้หวายตัวเดิมที่กลางห้องโถง...
ชานยอลวางแก้วกาแฟเอาไว้บนจานรองก่อนที่จะยืนขึ้นบิดขี้เกียจ เสียงคนเดินลงบันไดทำให้เขาต้องเหลือบตาขึ้นไปมองยังเด็กผู้ชายตรงหน้า
เพียงแค่ได้เห็นว่าคนตรงหน้าเป็นใคร หัวใจที่เคยปิดด้านก็กลับมาเต้นอีกครั้ง
“ชานยอล…”
แบคฮยอนในเสื้อไหมพรมสีฟ้าอมเทาวิ่งเข้าไปกอดผู้เป็นพ่อของเขาเอาไว้พร้อมกับส่งเสียงร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ เสียงร้องไห้ฮือดังระงมไปทั่วห้องโถงกว้างๆ ชานยอลโน้มตัวลงไปกอดลูกชายของเขาเอาไว้แน่นด้วยความรู้สึกที่ยากเกินกว่าจะอธิบาย
หยดน้ำตาใสๆ ไหลออกจากดวงตากลมโต หยดกระทบลงบนเสื้อไหมพรมที่แสนคุ้นเคย...
คิดถึงจัง...
แบคฮยอน...
“ฮือ!! ขอโทษนะ!! ขอโทษนะ!! ฮือ!!” คนตัวเล็กเอาแต่ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาดังลั่น แบคฮยอนรู้สึกเหมือนใจจะขาดที่ต้องรู้ว่าเขาทิ้งทั้งชานยอลในอดีตและปัจจุบันเอาไว้เพราะความเอาแต่ใจของตัวเอง ทำให้คนที่ตัวเองบอกว่ารักต้องรอ และเสียใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่มีวันจบสิ้น
เขาทั้งเปลี่ยนแปลงอดีต สร้างลูปเวลาที่ไม่มีวันจบสิ้นขึ้นมา...
แบคฮยอนมันโง่ที่สุดเลย
“คิดถึงนะ...”
“ฮือ... ชานยอล... ฮือ!”
“รอมาตลอดเลย นานแค่ไหนก็รอ”
“ฮึก... ฮือ!”
“จะสามสิบปีแล้วนะที่ไม่ได้เจอกัน ทำไมยังหนีไปอีกล่ะ”
“ฮึก ชานยอล ฮือ ชานยอล... ฮือ... ขอโทษนะ... ฮือ...”
“ยังไงก็รักนะ...”
ชานยอลกดจูบลงบนริมฝีปากบางที่แสนคิดถึง มันเนิ่นนานมาแล้วสำหรับเขาจากครั้งสุดท้ายที่ได้จูบริมฝีปากที่เป็นเหมือนกับขุมพลังนี้
ไม่ว่ายังไงก็รักนะ...
เคยรอมานานแค่ไหนก็ยังรออยู่ตลอด...
คิดถึงจนหัวใจแทบจะขาด และวันนี้ก็เหมือนได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าหน้านั้นก็ไม่เคยได้หายไปไหน
ถึงแม้ว่าลูปเวลาจะทำให้ชานยอลต้องเจ็บปวดซ้ำซาก แต่ความรักที่ดำเนินไปอย่างไม่มีวันจบสิ้นแบบนี้น่ะดีที่สุดเลย...
ไม่ว่าจะเป็นอดีต ปัจจุบัน หรืออนาคต แบคฮยอนก็ยังเป็นคนที่ชานยอลรักที่สุด และจะรักตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาจะยังรอแบคฮยอนอยู่เสมอไม่ว่าในมิติเวลาไหน
ไม่อยากจะจากกันไปไหนเลย...
ตลอดไปนี่มากเท่ากับอนันต์หรือเปล่านะ...
“ฮึก.. รักนะ... อึก... รักชานยอลนะ... ฮือ... นานแค่ไหนก็รักนะ...”
“เหมือนกัน”
“ไม่ได้ลืมกันใช่ไหม ไม่ได้ลืมใช่ไหม ฮือ...”
“ไม่เคยลืมเลย...”
“ฮือ... ขอบคุณนะ ฮึก... ขอบคุณนะ ดีใจที่สุดเลย... ฮือ...”
.
.
.
.
ไทม์แมชชีน
หมุนวนไป
อย่างไม่มีวันสิ้นสุด...
‘รักนะ’
‘ยังไงก็รัก...’
END
#myfablecb
ความคิดเห็น