ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Developer โปรเจกต์พัฒนารัก

    ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 เราต้องคุยกัน

    • อัปเดตล่าสุด 4 เม.ย. 63


    Developer โปรเจกต์นี้ พัฒนารัก

    ตอนที่ 4 เราต้องคุยกัน

     

    ความเสล่อของดิวอี้ยังไม่หมดแค่ตอนที่แล้วนะครับ เพราะตอนนี้เขาจะยังสะสมความเสล่อและขี้เสือกอย่างต่อเนื่องคับพ้ม!

    คนในแผนกเขาและแผนกข้างๆ ยกขบวนกันไปยังร้านอาหารที่นัดหมายกันเอาไว้ในตอนเย็น หลังจากกินข้าวกันไปๆ มาๆ จนผ่านช่วงหัวค่ำและเริ่มดึก เลยเปลี่ยนจากข้าวเป็นเหล้าเบียร์แทน สุราขวดแล้วขวดเล่าที่หมดลงวางเรียงรายบนโต๊ะยันพื้นร้าน วงสนทนาคุยกันไปเรื่อยทั้งเรื่องงานและสัพเพเหระ จุดรวมของบทสนทนาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ทีผู้รอบรู้ของเหล่าน้องๆ ในทีมทุกคน

    ตีสอง

    หลายคนที่ยังไม่ลากลับก็ค่อยๆ ร่วงไป สลบไปทีละคนสองคน ยกเว้นไอ้คนที่เป็นศูนย์รวมนั่นแหละ เพราะมันโนแอลกอฮอล์อยู่คนเดียวจากทั้งทีม ส่วนเจ้าของคอทองแดงอย่างดิวเองก็ยังคงกระดกได้เรื่อยๆ มีเพียงสีผิวบนใบหน้าเท่านั้นที่ดูจะติดแดงๆ เล็กน้อย แต่ดูกลืนไปกับผิวคล้ำจึงไม่ได้มองเห็นได้ชัดเจนนัก

    "อ้าว หลับกันไปหมดแบบนี้ต้องไปส่งสิเนี่ย" ทีพึมพำๆ แล้วสบตากับอดีตเพื่อนร่วมสถาบันที่ยังคงความคอทองแดงไว้อย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเมื่อสมัยมหา’ลัย เพื่อบอกเป็นนัยว่าพวกเราต้องช่วยกันพาเจ้าพวกนี้กลับรัง!

    "มึง"

    "..." ทีหันไปมองที่คนเรียกที่ดูกรึ่มๆ เล็กน้อย

    "ไอ้ที"

    "...?" สายตามีแววสงสัยแต่ก็ยังไม่ได้พูดตอบอะไรกลับ

    "ทำไมมึงมีแฟนวะ"

    ไหนว่าชอบกูไงอะ?

    "ไม่รู้สิ ทำไมหรอ"

    "..."

    ก็มึงบอกชอบกูไม่ใช่เหรอ

    ใช่ดิ มึงบอก กูจำได้แม่น

    "...?"

    "แล้ว..." ดิวอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจแต่กลับนิ่งไปดื้อๆ

    แล้วทำไมมึงไปคบกับคนอื่นวะ

    "แล้ว?"

    "ช่างแม่งเหอะ" มนุษย์ผิวเข้มพูดตัดจบเสียงเรียบแล้วกระดกจนก้นแก้วยกขึ้นสูง เสียงเรียกเข้าที่คล้ายเป็นเสียงเครื่องดนตรีดังแว่วก่อนจะดังกว่าเดิมเมื่อเจ้าของล้วงหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง โทรศัพท์ของทีกำลังแผดเสียงร้องเรียก...

    คนที่หน้าแดงหน่อยๆ เหลือบมองหน้าจอมือถือ เห็นแว้บๆ ว่ามีสายเรียกเข้าจาก Por ก็เลยคว้าหมับที่ข้อแขนขาวของข้างที่ทีถือมือถือไว้อยู่

    "อย่ารับ" พูดเสียงเบาจนมนุษย์ตี๋ไม่ได้ยิน ทีเลยถามกลับอย่างงงๆ เพราะไม่ทันได้ยินที่อีกฝ่ายพูด

    "ว่าไงนะ"

    "แฟนอ๋อ?"

    "อืม"

    "กลัวแฟนเหรอไง แค่นี้ก็ต้องรับ โธ่"

    มึงพูดอะไรออกไปวะไอ้เหี้ยดิว?

    "ถ้าดิวไม่มีอะไร เรารับสายก่อนนะ" ทีหมุนข้อมือตัวเองออกจากการรั้งของหนุ่มผิวเข้ม เขาแตะปุ่มรับสาย หันหลังให้แล้วลุกเดินห่างออกไปคุยโทรศัพท์เสียไกล 

    เสียงถอนหายใจดังจากมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีสติอยู่ที่โต๊ะอาหาร ดิวคว้าเหล้ามาชงใหม่ หัวสมองคิดสารตะไปหมด ไม่เข้าใจตัวเองว่าที่เป็นอยู่นี่เรียกว่าอะไร

    หวงก้าง?

    แต่กูจะไปหวงก้างคนที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีเนี่ยนะ?

    ไม่มีอารมณ์ชงเหล้าแล้วอะ

    คิดได้ไม่นานก็ลุกพรวดขึ้นยืนแล้วเดินไปทางที่ทีหลบไปคุยโทรศัพท์ และโดยที่ไม่แน่ใจว่าเพราะแอลกอฮอล์ซึมเข้าเส้นเลือดเยอะเกินไปหรือเปล่า เลยทำให้ข้อมือแกร่งตวัดไปคว้าเอามือถือจากริมหูของอีกคนทันทีที่เดินถึง ดิวเอามันมากดตัดสายแล้วโยนลงบ่อปลาคาร์พข้างๆ มันดื้อๆ

    จ๋ม!

    "เฮ้ย!" เจ้าของมือถืองุนงงกับเหตุการณ์ดังกล่าว อันที่จริงทีก็รู้สึกโกรธอยู่ แต่ออกจะงงมากกว่าเลยได้แต่มองมือถือของตัวเองที่จมลงไปในบ่อปลาที่อยู่ในบริเวณนั้น

    "กูโกรธ" คือควรจะเป็นเจ้าของมือถือที่ต้องพูด แต่กลับไม่ใช่ ทีรู้สึกงงหนักขึ้นกว่าเดิม

    "อะไรของดิววะ เราไปทำอะไรให้"

    "กูบอกไม่ให้รับสายไง ทำไมไม่เชื่อกู"

    "ห้ะ เป็นอะไรเนี่ย เมา?"

    "ไม่เมา! กูโกรธมึงจริงๆ"

    "..."

    "โกรธมึงที่ไม่สนใจกู"

    "..." คนฟังได้แต่อึ้ง หน้าขาวๆ เหวอไปอย่างคาดไม่ถึง

    "ไหนมึงบอกมึงชอบกูไง ทำไมไม่สนใจกูอะ ไม่สนใจกูคนเดียวด้วย" เริ่มบ่น พึมพำๆ

    "ดิว..." คนสูงกว่าเล็กน้อยจับที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้า ทำให้ดิวนิ่วหน้ามองอย่างกราดเกรี้ยว

    "ไม่ต้องเรียกชื่อกูเลย ไม่สนใจกูอยู่แล้วนี่"

    "หยุดบ่นก่อน ดิวพูดแบบนี้หมายความว่าไง" มนุษย์ตี๋แทบจะเขย่าตัวคนบ่น มองลึกเข้าไปในดวงตาคมนั้น มองอย่างค้นหาความหมาย

    ความหมายที่เคยสำคัญกับเขามากเมื่อสิบปีก่อน...

    แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้มันยังมีค่าพอให้เขาอาลัยอาวรณ์อยู่หรือเปล่า

    "กูไม่มีความหมายอะไรให้มึง กูโกรธมึงเฉยๆ" เสียงยานคางนั้นเอ่ยตอบปัดไป อันที่จริง ดิวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันมีความหมายอะไรในใจของตัวเองมากไปกว่านี้หรือเปล่า

    ตอนสิบปีที่แล้วนั้นมันยังไม่มีความหมายเลย แล้วตอนนี้มันจะมีความหมายได้ยังไงกัน...

    "..."

    ทีหรี่ตาเรียวให้เล็กลงอีกท่าทางครุ่นคิด

    "มองอะไรกู คิดอะไรวะ กูไม่คุยกับมึงแล้วดีกว่า" ดิวโวยวายเสียงไม่ดังมาก แล้วหันหลังหนี จะเดินกลับไปที่โต๊ะ

    "ปกติคอทองแดงอย่างดิวไม่เมาง่ายๆ นะ" มนุษย์ตี๋เอ่ยขึ้นอย่างจ้องจับผิด เขาจับสังเกตได้ว่าอาการที่อีกคนแสดงออกนั้นไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์

    คนถูกจับได้เลยชะงักเท้าแล้วเหลียวหน้ามาตะโกนตอบ

    "กูจะเมาไม่เมาก็ไม่เกี่ยวไรกับมึงนี่" ทำไมฟังดูขี้ใจน้อยวะ... ทำไมประโยคมันเหมือนคนกำลังน้อยใจวะ...

    "งั้นไม่เมาเหรอ?"

    "เรื่องของกู!" เมื่อสิบปีที่แล้วกูก็พูดแบบนี้!

    เป็นความคิดที่ทำเอาเจ้าของความคิดรู้สึกใจกระตุกแปลกๆ เหมือนกำลังจะมีเหตุการณ์เดจาวู

    "เราจะไม่พูดว่าเรื่องของดิวก็เป็นเรื่องเราด้วยเหมือนเมื่อสิบปีก่อนหรอกนะ"

    เหี้ย! ทีแม่งจำได้ว่ะ!

    "สิบปีอะไร กูจำไม่ได้" โกหกออกไปคำโต จ้องอีกคนตาไม่กะพริบ หวังไม่ให้จับโกหกได้

    "ก็ไม่ได้ว่าไร" คุ้นฉิบหาย... ทำไมมึงต้องพูดแต่ประโยคเดิมๆ ด้วยวะ

    "กูไปละ" แล้วกูยังเสือกพูดแบบเดิมทำไมวะ!

    "คุยกันก่อน"

    ประโยคเดิมๆ ในสถานการณ์ใหม่ทำเอาลมหายใจคนฟังอย่างดิวกระตุกวูบอีกหลายครั้ง สถานการณ์แม่งล่อแหลมชะมัด เขาไม่น่างี่เง่าบ้าบอเลยว่ะ พาตัวเองมาจุดนี้อีกรอบได้ยังไงวะ!?

    "เรื่องที่เราบอกว่าจะคุยกับดิวไง จำได้ไหม" เสียงอ่อนลงจนรู้สึกได้ ปกติไอ้มนุษย์ตี๋หน้านิ่งนี่ไม่เคยทำเสียงแบบนี้กับเพื่อนร่วมงานคนไหน...

    "ได้ แต่กูไม่คุย" วันนี้ดิวอี้รวนใส่อีกฝ่ายรัวๆ จนน่ากลัวว่าคนผิวขาวจะรำคาญ แต่กลับได้รับเพียงเสียงถอนหายใจและคนที่ว่าก็ก้าวมาเผชิญหน้ากับเขาใกล้ขึ้น

    "ดื้อว่ะ" ทีขมวดคิ้วแล้วพูดคำนี้ใส่หน้าดิว

    "เรื่องของกู!"

    อยากจะตบปากตัวเองสักสิบที!!!

    "เราบอกแล้วไงว่าเราไม่มีคำตอบอย่างเมื่อสิบปีที่แล้วให้หรอกนะ แล้วเรื่องที่เราจะพูดก็คือ เราไม่ได้คิดอะไรกับดิวแล้ว..."

    คนฟังอ้าปากพะงาบๆ เหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา

    "ที่เราพูดก็เพราะอยากให้ดิวสบายใจ"

    "..."

    "เรามีแฟนแล้วจริงๆ และเราก็รักแฟนเรามาก"

    "..."

    "เราไม่ได้ชอบดิวอีกแล้ว"

    "..."

    "เราแค่อยากให้เรากับดิวเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน... เป็นแบบนั้นได้หรือเปล่า?"

    คนผิวเข้มขยับริมฝีปากก่อนจะตอบออกมาชัดถ้อยชัดคำว่า "ได้"

    ก็นี่ไง นี่คือสิ่งที่เขาอยากได้เลย

    ก็นี่แหละ เหตุผลที่เขางี่เง่าอะ

    ก็ใช่เลย คือเขาแค่ไม่สบายใจไง

    พอตอนนี้มึงบอกมาแบบนี้กูก็สบายใจแล้ว...

    "เออ งั้นกลับโต๊ะ ส่วนมือถือเดี๋ยวกูซื้อคืนให้" ดิวพูดต่อก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้เพื่อจะเดินกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง และเพราะหมุนเร็วไปรวมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยล่ะมั้งทำเอาร่างเจ้าตัวเซก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นเพราะเสียสมดุล

    เฮ้ย ทุกคนไม่ต้องตกใจ ดิวอี้ไม่ได้เป็นอะไร แค่เมาเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×