คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 4 เราต้องคุยกัน
Developer โปรเจกต์นี้ พัฒนารัก
ตอนที่ 4 เราต้องคุยกัน
ความเสล่อของดิวอี้ยังไม่หมดแค่ตอนที่แล้วนะครับ เพราะตอนนี้เขาจะยังสะสมความเสล่อและขี้เสือกอย่างต่อเนื่องคับพ้ม!
คนในแผนกเขาและแผนกข้างๆ ยกขบวนกันไปยังร้านอาหารที่นัดหมายกันเอาไว้ในตอนเย็น หลังจากกินข้าวกันไปๆ มาๆ จนผ่านช่วงหัวค่ำและเริ่มดึก เลยเปลี่ยนจากข้าวเป็นเหล้าเบียร์แทน สุราขวดแล้วขวดเล่าที่หมดลงวางเรียงรายบนโต๊ะยันพื้นร้าน วงสนทนาคุยกันไปเรื่อยทั้งเรื่องงานและสัพเพเหระ จุดรวมของบทสนทนาจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากพี่ทีผู้รอบรู้ของเหล่าน้องๆ ในทีมทุกคน
ตีสอง
หลายคนที่ยังไม่ลากลับก็ค่อยๆ ร่วงไป สลบไปทีละคนสองคน ยกเว้นไอ้คนที่เป็นศูนย์รวมนั่นแหละ เพราะมันโนแอลกอฮอล์อยู่คนเดียวจากทั้งทีม ส่วนเจ้าของคอทองแดงอย่างดิวเองก็ยังคงกระดกได้เรื่อยๆ มีเพียงสีผิวบนใบหน้าเท่านั้นที่ดูจะติดแดงๆ เล็กน้อย แต่ดูกลืนไปกับผิวคล้ำจึงไม่ได้มองเห็นได้ชัดเจนนัก
"อ้าว หลับกันไปหมดแบบนี้ต้องไปส่งสิเนี่ย" ทีพึมพำๆ แล้วสบตากับอดีตเพื่อนร่วมสถาบันที่ยังคงความคอทองแดงไว้อย่างเต็มเปี่ยมเหมือนเมื่อสมัยมหา’ลัย เพื่อบอกเป็นนัยว่าพวกเราต้องช่วยกันพาเจ้าพวกนี้กลับรัง!
"มึง"
"..." ทีหันไปมองที่คนเรียกที่ดูกรึ่มๆ เล็กน้อย
"ไอ้ที"
"...?" สายตามีแววสงสัยแต่ก็ยังไม่ได้พูดตอบอะไรกลับ
"ทำไมมึงมีแฟนวะ"
ไหนว่าชอบกูไงอะ?
"ไม่รู้สิ ทำไมหรอ"
"..."
ก็มึงบอกชอบกูไม่ใช่เหรอ
ใช่ดิ มึงบอก กูจำได้แม่น
"...?"
"แล้ว..." ดิวอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจแต่กลับนิ่งไปดื้อๆ
แล้วทำไมมึงไปคบกับคนอื่นวะ
"แล้ว?"
"ช่างแม่งเหอะ" มนุษย์ผิวเข้มพูดตัดจบเสียงเรียบแล้วกระดกจนก้นแก้วยกขึ้นสูง เสียงเรียกเข้าที่คล้ายเป็นเสียงเครื่องดนตรีดังแว่วก่อนจะดังกว่าเดิมเมื่อเจ้าของล้วงหยิบมันออกมาจากกระเป๋ากางเกง โทรศัพท์ของทีกำลังแผดเสียงร้องเรียก...
คนที่หน้าแดงหน่อยๆ เหลือบมองหน้าจอมือถือ เห็นแว้บๆ ว่ามีสายเรียกเข้าจาก Por ก็เลยคว้าหมับที่ข้อแขนขาวของข้างที่ทีถือมือถือไว้อยู่
"อย่ารับ" พูดเสียงเบาจนมนุษย์ตี๋ไม่ได้ยิน ทีเลยถามกลับอย่างงงๆ เพราะไม่ทันได้ยินที่อีกฝ่ายพูด
"ว่าไงนะ"
"แฟนอ๋อ?"
"อืม"
"กลัวแฟนเหรอไง แค่นี้ก็ต้องรับ โธ่"
มึงพูดอะไรออกไปวะไอ้เหี้ยดิว?
"ถ้าดิวไม่มีอะไร เรารับสายก่อนนะ" ทีหมุนข้อมือตัวเองออกจากการรั้งของหนุ่มผิวเข้ม เขาแตะปุ่มรับสาย หันหลังให้แล้วลุกเดินห่างออกไปคุยโทรศัพท์เสียไกล
เสียงถอนหายใจดังจากมนุษย์เพียงหนึ่งเดียวที่ยังมีสติอยู่ที่โต๊ะอาหาร ดิวคว้าเหล้ามาชงใหม่ หัวสมองคิดสารตะไปหมด ไม่เข้าใจตัวเองว่าที่เป็นอยู่นี่เรียกว่าอะไร
หวงก้าง?
แต่กูจะไปหวงก้างคนที่ไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีเนี่ยนะ?
ไม่มีอารมณ์ชงเหล้าแล้วอะ
คิดได้ไม่นานก็ลุกพรวดขึ้นยืนแล้วเดินไปทางที่ทีหลบไปคุยโทรศัพท์ และโดยที่ไม่แน่ใจว่าเพราะแอลกอฮอล์ซึมเข้าเส้นเลือดเยอะเกินไปหรือเปล่า เลยทำให้ข้อมือแกร่งตวัดไปคว้าเอามือถือจากริมหูของอีกคนทันทีที่เดินถึง ดิวเอามันมากดตัดสายแล้วโยนลงบ่อปลาคาร์พข้างๆ มันดื้อๆ
จ๋ม!
"เฮ้ย!" เจ้าของมือถืองุนงงกับเหตุการณ์ดังกล่าว อันที่จริงทีก็รู้สึกโกรธอยู่ แต่ออกจะงงมากกว่าเลยได้แต่มองมือถือของตัวเองที่จมลงไปในบ่อปลาที่อยู่ในบริเวณนั้น
"กูโกรธ" คือควรจะเป็นเจ้าของมือถือที่ต้องพูด แต่กลับไม่ใช่ ทีรู้สึกงงหนักขึ้นกว่าเดิม
"อะไรของดิววะ เราไปทำอะไรให้"
"กูบอกไม่ให้รับสายไง ทำไมไม่เชื่อกู"
"ห้ะ เป็นอะไรเนี่ย เมา?"
"ไม่เมา! กูโกรธมึงจริงๆ"
"..."
"โกรธมึงที่ไม่สนใจกู"
"..." คนฟังได้แต่อึ้ง หน้าขาวๆ เหวอไปอย่างคาดไม่ถึง
"ไหนมึงบอกมึงชอบกูไง ทำไมไม่สนใจกูอะ ไม่สนใจกูคนเดียวด้วย" เริ่มบ่น พึมพำๆ
"ดิว..." คนสูงกว่าเล็กน้อยจับที่หัวไหล่ทั้งสองข้างของคนตรงหน้า ทำให้ดิวนิ่วหน้ามองอย่างกราดเกรี้ยว
"ไม่ต้องเรียกชื่อกูเลย ไม่สนใจกูอยู่แล้วนี่"
"หยุดบ่นก่อน ดิวพูดแบบนี้หมายความว่าไง" มนุษย์ตี๋แทบจะเขย่าตัวคนบ่น มองลึกเข้าไปในดวงตาคมนั้น มองอย่างค้นหาความหมาย
ความหมายที่เคยสำคัญกับเขามากเมื่อสิบปีก่อน...
แต่เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าวันนี้มันยังมีค่าพอให้เขาอาลัยอาวรณ์อยู่หรือเปล่า
"กูไม่มีความหมายอะไรให้มึง กูโกรธมึงเฉยๆ" เสียงยานคางนั้นเอ่ยตอบปัดไป อันที่จริง ดิวเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่ามันมีความหมายอะไรในใจของตัวเองมากไปกว่านี้หรือเปล่า
ตอนสิบปีที่แล้วนั้นมันยังไม่มีความหมายเลย แล้วตอนนี้มันจะมีความหมายได้ยังไงกัน...
"..."
ทีหรี่ตาเรียวให้เล็กลงอีกท่าทางครุ่นคิด
"มองอะไรกู คิดอะไรวะ กูไม่คุยกับมึงแล้วดีกว่า" ดิวโวยวายเสียงไม่ดังมาก แล้วหันหลังหนี จะเดินกลับไปที่โต๊ะ
"ปกติคอทองแดงอย่างดิวไม่เมาง่ายๆ นะ" มนุษย์ตี๋เอ่ยขึ้นอย่างจ้องจับผิด เขาจับสังเกตได้ว่าอาการที่อีกคนแสดงออกนั้นไม่ได้เกิดจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
คนถูกจับได้เลยชะงักเท้าแล้วเหลียวหน้ามาตะโกนตอบ
"กูจะเมาไม่เมาก็ไม่เกี่ยวไรกับมึงนี่" ทำไมฟังดูขี้ใจน้อยวะ... ทำไมประโยคมันเหมือนคนกำลังน้อยใจวะ...
"งั้นไม่เมาเหรอ?"
"เรื่องของกู!" เมื่อสิบปีที่แล้วกูก็พูดแบบนี้!
เป็นความคิดที่ทำเอาเจ้าของความคิดรู้สึกใจกระตุกแปลกๆ เหมือนกำลังจะมีเหตุการณ์เดจาวู
"เราจะไม่พูดว่าเรื่องของดิวก็เป็นเรื่องเราด้วยเหมือนเมื่อสิบปีก่อนหรอกนะ"
เหี้ย! ทีแม่งจำได้ว่ะ!
"สิบปีอะไร กูจำไม่ได้" โกหกออกไปคำโต จ้องอีกคนตาไม่กะพริบ หวังไม่ให้จับโกหกได้
"ก็ไม่ได้ว่าไร" คุ้นฉิบหาย... ทำไมมึงต้องพูดแต่ประโยคเดิมๆ ด้วยวะ
"กูไปละ" แล้วกูยังเสือกพูดแบบเดิมทำไมวะ!
"คุยกันก่อน"
ประโยคเดิมๆ ในสถานการณ์ใหม่ทำเอาลมหายใจคนฟังอย่างดิวกระตุกวูบอีกหลายครั้ง สถานการณ์แม่งล่อแหลมชะมัด เขาไม่น่างี่เง่าบ้าบอเลยว่ะ พาตัวเองมาจุดนี้อีกรอบได้ยังไงวะ!?
"เรื่องที่เราบอกว่าจะคุยกับดิวไง จำได้ไหม" เสียงอ่อนลงจนรู้สึกได้ ปกติไอ้มนุษย์ตี๋หน้านิ่งนี่ไม่เคยทำเสียงแบบนี้กับเพื่อนร่วมงานคนไหน...
"ได้ แต่กูไม่คุย" วันนี้ดิวอี้รวนใส่อีกฝ่ายรัวๆ จนน่ากลัวว่าคนผิวขาวจะรำคาญ แต่กลับได้รับเพียงเสียงถอนหายใจและคนที่ว่าก็ก้าวมาเผชิญหน้ากับเขาใกล้ขึ้น
"ดื้อว่ะ" ทีขมวดคิ้วแล้วพูดคำนี้ใส่หน้าดิว
"เรื่องของกู!"
อยากจะตบปากตัวเองสักสิบที!!!
"เราบอกแล้วไงว่าเราไม่มีคำตอบอย่างเมื่อสิบปีที่แล้วให้หรอกนะ แล้วเรื่องที่เราจะพูดก็คือ เราไม่ได้คิดอะไรกับดิวแล้ว..."
คนฟังอ้าปากพะงาบๆ เหมือนอยากพูดอะไรแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมา
"ที่เราพูดก็เพราะอยากให้ดิวสบายใจ"
"..."
"เรามีแฟนแล้วจริงๆ และเราก็รักแฟนเรามาก"
"..."
"เราไม่ได้ชอบดิวอีกแล้ว"
"..."
"เราแค่อยากให้เรากับดิวเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน... เป็นแบบนั้นได้หรือเปล่า?"
คนผิวเข้มขยับริมฝีปากก่อนจะตอบออกมาชัดถ้อยชัดคำว่า "ได้"
ก็นี่ไง นี่คือสิ่งที่เขาอยากได้เลย
ก็นี่แหละ เหตุผลที่เขางี่เง่าอะ
ก็ใช่เลย คือเขาแค่ไม่สบายใจไง
พอตอนนี้มึงบอกมาแบบนี้กูก็สบายใจแล้ว...
"เออ งั้นกลับโต๊ะ ส่วนมือถือเดี๋ยวกูซื้อคืนให้" ดิวพูดต่อก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้เพื่อจะเดินกลับไปที่โต๊ะอีกครั้ง และเพราะหมุนเร็วไปรวมกับฤทธิ์แอลกอฮอล์ด้วยล่ะมั้งทำเอาร่างเจ้าตัวเซก่อนจะทรุดฮวบลงกับพื้นเพราะเสียสมดุล
เฮ้ย ทุกคนไม่ต้องตกใจ ดิวอี้ไม่ได้เป็นอะไร แค่เมาเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย...
ความคิดเห็น