ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แสงเทียนในเงาจันทร์ (ย้อนยุคอยุธยา)

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 63



    แสงเทียนในเงาจันทร์

    ____________




    บทนำ


    ยามดึกสงัด กรุงศรีอยุธยา

    มือกร้านที่ใช้ถือสรรพาวุธในสนามรบบรรจงสัมผัสลงบนผิวแก้มนุ่มนิ่มที่กำลังขึ้นสีระเรื่อ พร้อมกับสายตาคมกริบที่มักเย็นชาเสมอส่งแววตาสื่อความหมายบางอย่างมาให้

    "เทียนหอม เจ้าจะกรุ่นกลิ่นหอมอีกนานเท่าใด หากข้าไม่อาจจุดดวงไฟเพื่อประกาศว่าเจ้าเป็นของข้าได้ เจ้าจะยังวนเวียนส่งกลิ่นหวานตลบอบอวลเคียงข้างข้าต่อไปหรือไม่.."

    "ข้าตอบท่านไม่ได้ ข้าเพียงให้สัจจะสาบานได้ว่า ข้าจะส่งกลิ่นหอมดั่งชื่อของข้าตราบนานเท่านานที่ท่านต้องการในใจของท่าน หรือไม่...ก็ตราบเท่าลมหายใจของข้า"

    "เจ้า...ไม่ไปไม่ได้หรือ?" น้ำคำสั้นแต่เจือด้วยความเว้าวอน เขาออดอ้อนอย่างที่ไม่เคยเป็น นายทหารกล้าแกร่งกำลังสยบลงให้แก่เจ้าของเรือนผมสลวยสีดำสนิท... สยบให้แก่ผิวสีน้ำผึ้งที่กรุ่นหอมเนื้อนวลนาง... สยบให้แก่วงหน้าสวยคมที่เพ่งพิศมองเท่าไรก็มิรู้จักหน่าย... เช่นเธอ

    "โปรดรู้ไว้เถิด ข้ามิต้องการจากท่านไป..."

    "แต่เจ้าต้องไป ใช่หรือไม่?" ดวงตาทั้งสองคู่จับจ้องกันแน่นิ่ง ก่อนที่หญิงสาวจะหลบหลีกสายตาพร้อมเอ่ยคำน้อยด้วยเสียงผะแผ่ว

    "ข้าเสียใจ..."

    "ไหนเจ้าสาบานว่าจะอยู่เคียงข้าง"

    "ข้าสาบาน ท่านจันทร์... ข้าจะอยู่เท่าที่ข้าจะอยู่กับท่านได้ และข้าจะอยู่ในใจท่านเสมอ'

    "งั้นถ้าข้าดื้อรั้นขัดคำสั่งพ่อจะแต่งกับเจ้า เจ้าจะไม่ไปและอยู่เคียงข้างข้าได้หรือไม่?"

    ดวงตาของหญิงสาวทอประกายเศร้า เธอมาจากที่ไกลแสนไกล และเธอล่วงรู้ว่าเขาและเธอมิอาจได้คู่กัน ...มันเป็นเพียงการเล่นตลกของโชคชะตา

    "ท่านอย่าทำให้มันยากนักเลย หัวใจทั้งดวงของข้าเป็นของท่านและจะไม่มีทางเป็นของใครอื่น มีเพียงท่านเท่านั้น แต่ข้าเป็นเพียงเทียนเล่มน้อย... ที่หากท่านจุดไฟบนเทียนเล่มนี้ สุดท้ายข้าจะมอดไหม้ไปหมดสิ้น ไม่เหลือกระทั่งกรุ่นกลิ่นใด"

    "ข้าเป็นถึงจันทร์... ไยเจ้าไม่ไยดี แม้ไม่อาจจุดแสงเทียน เจ้าก็แอบอิงในแสงจันทร์ได้ ขอเพียงอยู่กับข้า ข้าจะปกป้องและภักดีต่อเจ้าเพียงผู้เดียว" น้ำคำตัดพ้อแต่มิวายเอ่ยอย่างคาดหวังว่าจะเปลี่ยนความตั้งใจของหญิงสาว

    "ข้าเกรงเหลือเกินว่าคืนเดือนมืดจะพรากท่านกับข้าให้จากไป จากกันตลอดกาล"

    "ข้าไม่มีวันให้เจ้าจากไปเป็นแน่ หากมิใช่สิ่งที่เจ้าประสงค์"

    "งั้นท่านควรให้ข้าไป มันคือความปรารถนาหนึ่งเดียวของข้าในไม่อีกกี่เพลาข้างหน้านี้"

    "เทียน... เจ้ารักข้าบ้างไหม"

    "รัก... แต่จันทร์ยังส่องแสงได้หากไม่มีเทียน ข้ามิได้สลักสำคัญกับท่านถึงเพียงนั้น"

    "เทียน เจ้าช่างดื้อเหลือเกิน ข้ารักเจ้าจนมิอาจเปรียบกับสิ่งใดได้ ทำไมถึงชอบตัดรอนข้านัก" เขาดูอ่อนแรงและเหนื่อยล้าจากความเจ็บปวดจากหญิงที่เขารัก ปรารถนาและหวงแหนดั่งแก้วตาดวงใจ หากดวงตาคมกล้ายังแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่น

     

    'เทียนก็รักท่านมากเหลือเกิน แต่...มันไม่มีวันเป็นไปได้ เทียนต้องกลับไปในที่ที่เป็นของเทียน'

     

    "ข้าเสียใจ" เธอทำได้เพียงแสดงอากัปกิริยาเศร้าสร้อย ใบหน้านวลหมองลงทันตา ก่อนที่น้ำตาจะรื้นขึ้นเชื่องช้า ...และหยดน้ำตาสีใสที่ไหลรินเงียบกริบ

    "ข้าไม่ต้องการเห็นเจ้าเสียใจ และเหนืออื่นใดข้าไม่ต้องการเสียเจ้าไป" ท่อนแขนแกร่งตวัดมาโอบเอวบาง ร่างเล็กกว่าถูกกำชับกอดไว้แน่น เธอได้แต่ยิ้มอ่อนกับความดื้อดึงของพระจันทร์หนุ่มอย่างเขาทั้งน้ำตา ก่อนที่เธอจะปิดเปลือกตาลงเพื่อซึมซับไออุ่นในอ้อมแขนของบุรุษที่เธอทั้งรักและหวงแหนสุดหัวใจเนิ่นนาน พร้อมตั้งจิตอธิษฐานแน่วแน่ว่า...

     

    ขอให้เขาและเธอได้ครองคู่กันในภพหน้าที่เธอกำลังจะกลับไป

    หรือหากมันจะเป็นคำขอที่มากเกิน... เพียงขอแค่ให้เธอได้พบเขาก็พอ

    ไม่ว่าเขาจะเป็นใครในชาตินั้น เธอจะทำทุกทางให้เขาตกหลุมรักเธอเอง

     

    แม้จะต้องจุดแสงเทียนจนมอดไหม้ครั้งแล้วครั้งเล่าเพื่อตามหาเงาของพระจันทร์ เธอก็เต็มใจจะสูญสลาย เพียงขอแค่ได้ส่องประกายเพื่อพบหน้าเขาอีกครั้ง

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×