ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC] Puppy Doll :: ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #7 : ( -㉦-)----> Chapter 6 - พบกันอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 56





    Puppy Doll

    Author: mizallsunday

    Pairing: Chanyeol  Baekhyun

    *Rate: PG13 - NC*





    ..................................................


    Chapter 6 -- พบกันอีกครั้ง --







    กลิ่นดอกไม้หลากหลายชนิดส่งกลิ่นจากซุ้มดอกไม้ภายในบริเวณตึกที่คาคร่ำไปด้วยนักศึกษามากมาย  ทั้งน้องเฟรชชี่รวมถึงรุ่นพี่ทุกระดับชั้นที่มารวมตัวกัน  อาจเพราะวันนี้เป็นวันที่นักศึกษารอคอยมากที่สุด  เพราะเป็นวันประกวดเฟรชชี่ของมหาวิทยาลัย  หลายคนตั้งใจมาเชียร์ตัวแทนของคณะตนเอง  และอีกหลายคนตั้งใจมาเพื่อดูใบหน้าผู้ที่ถูกรุ่นพี่แต่ละคณะเลือกมา  แน่นอนว่าหน้าตานี่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น



    และแน่นอนว่า ปาร์ค ชานยอล ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน



    “นี่เธอ... ดูคนนี้สิ  เดือนคณะบริหารน่ะ  หล่อมากเลยอ่า”

    “อ้ายยยย... ชอบคนเดียวกันเลย  หล่อมากอ่า  แถมสูงตั้ง 185 น่ะ  น่าเอาหัวไปซบอกจริงๆ”

    “ฉันก็อยากซบนะเธอ  อ้าย!!



    ผู้หญิงสมัยนี้แสดงความรู้สึกกันเปิดเผยดีนะครับ  ผมได้ยินเสียงเหล่าผู้หญิงดังซุบซิบไปทั้งงาน  จนต้องปลีกตัวออกมา  เพราะนอกจากจะมีเสียงซุบซิบแบบนั้นแล้ว  คนยังเนืองแน่นเต็มไปทั่วทั้งงานด้วย



    ผมพาตัวเองมาหลบที่มุมตึกมุมหนึ่ง  แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาคนที่ผมนัดเอาไว้



    “ไงจงอิน  นายอยู่ไหนเนี่ย?”

     

     “กำลังจะถึงแบคกี้  วนหาที่จอดรถอยู่น่ะ  คนเยอะมากเลย”

    “รีบมานะ  อยู่คนเดียวมันโหวงๆ ชอบกล”

    “ได้ๆ แป๊บนึงนะ  เดี๋ยวจะรีบเหาะไปหาเลย”

     

    “งั้นรอที่หน้าตึกละกันนะ”

    “โอเคครับ  เจอกัน”



    ผมวางสายและมองเข้าไปในบริเวณงาน  ผมยังไม่เจอชานยอลเลยวันนี้  จริงๆ เราเจอกันน้อยมากทั้งที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน  ชานยอลดูยุ่งๆ เพราะไหนจะเรียน  กิจกรรมรับน้อง  และก็ต้องเจียดเวลาไปซ้อมเพื่องานประกวดวันนี้อีก



    ผมตัดสินใจเดินผ่านซุ้มงานเพื่อเดินลัดไปหน้าตึกคณะแล้วยืนรอจงอินอยู่แถวนั้น และรอไม่นานเจ้าเพื่อนตัวดีของผมก็วิ่งหน้าตั้งเข้ามาทันที



    “ตื่นสายหรอจงอิน”  ผมอดที่จะแขวะเพื่อนตัวเองเรื่องนี้ไม่ได้  เพราะจงอินติดนิสัยที่แก้ไม่หายคือเรื่องนอนตื่นสายนี่แหละ

    “เปล่านะแบคกี้  วันนี้รถมันติดต่างหาก  แถมกว่าจะหาที่จอดรถได้นี่ก็นานเลย”

    “หรอออออ... อืมมม...”  ผมลากเสียงเออออไปตามจงอิน  ทั้งที่ผมก็ไม่ได้เชื่อจงอินทั้งหมด  ก็ถ้ามันตื่นเช้าๆ แล้วออกมาเร็วกว่านี้รถมันก็ไม่ติดหรอกครับ  หึหึ


    “แล้วไอชานยอลล่ะ?”  จงอินถามถึงคนที่ผมก็อยากจะเจอเหมือนกัน

    “ไม่รู้อ่า  วันนี้ยังไม่เจอหน้าเลย  สงสัยจะยุ่งมาก”

    “สงสัยไปเตรียมหล่อ  และก็ซ้อมร้องเพลงอยู่มั้ง”  หืมร้องเพลง???

    “ชานยอลจะร้องเพลงด้วยหรอ?”

    “ก็ไม่เชิงนะ  เดี๋ยวตอนประกวดจะมีให้แสดงความสามารถพิเศษน่ะ  มันเล่นกีต้าร์แล้วก็ร้องเพลงน่ะ”  เล่นกีต้าร์กับร้องเพลงหรอ??  ทำไมไม่เห็นรู้เรื่องเลย



    เหมือนความน้อยใจผลุดขึ้นมาเล็กๆ  เสี้ยวหนึ่งในความรู้สึก ไม่รู้ทำไม... แต่ผมคิดว่าเราอยู่บ้านหลังเดียวกันเรื่องแบบนี้ผมก็น่าจะรู้บ้างไม่ใช่หรอ?  ผมก็เพื่อนเค้าคนหนึ่งเหมือนนะ



    บ้าชะมัด... แล้วทำไมเราต้องหงุดหงิดขนาดนี้วะเนี่ย!?



    “อีกไม่นานงานก็จะเริ่มแล้ว  ไปหาที่นั่งข้างในกันเถอะ”  จงอินเรียกผมให้หลุดจากความคิดอันหนักอึ้งที่ผมก่อมันขึ้น  ก่อนที่ผมจะโดนลากไปที่สถานที่จัดงาน



    ระหว่างเดินไหล่ของผมโดนกระแทกไปมา  เพราะคนเยอะมากจริงๆ  ผมอยากจะบอกจงอินว่าให้เดินอ้อมก็คงไม่ทันแล้ว  เค้ายังคงลากผมผ่านกลางซุ้มงานด้านในเพื่อไปให้ถึงสถานที่จัดงานให้เร็วที่สุด   สงสัยกลัวไม่มีที่นั่ง



    โอ๊ย!!



    เสียงผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินมาชนผมเข้าอย่างจัง  และเธอก็เป็นฝ่ายเซจนล้มลงไปเอง



    “เอ่อ.. ขอโทษนะคะ  พอดีฉันรีบไปหน่อยน่ะ”

    “ไม่เป็นไรครับ”  ผมส่งยิ้มให้เธอ  ก่อนจะบอกว่าไม่เป็นไรแล้วพยุงให้เธอลุกขึ้น  ก่อนที่ผมจะเห็นผู้หญิงสองคนที่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนของเธอเดินเข้ามา

    “รีบไปกันเถอะเยจิน  งานกำลังจะเริ่มแล้วนะ”



    เธอคนนั้นหันมายิ้มให้ผมก่อนที่จะโค้งและเอ่ยขอโทษอีกครั้งก่อนที่จะวิ่งหายไป



    ผมยืนมองตามเธอไปจนลับตา  จนเป็นอีกครั้งที่จงอินต้องสะกิดและเรียกให้ผมหลุดออกจากภวังค์



    “แบคกี้จะนอกใจฉันหรอ?  จ้องเค้าซะขนาดนั้น”

    “จะบ้าหรอไง?  แค่มองไม่ได้แปลว่าชอบซะหน่อย  เห็นเค้าน่ารักดีก็แค่นั้น”

    “ก็น่ารักนะ  สเปคฉันเลย  แต่ก็น่ารักสู้นายไม่ได้หรอกนะ”  จงอินพูดออกมาหน้าเฉย  ก่อนที่จะรีบจูงมือผมและเดินไปยังจุดหมายอีกครั้ง



    ถึงจงอินจะชอบพูดแบบนี้บ่อยๆ ผมก็ไม่เคยรู้สึกเขินหรืออายอะไรเลย  อาจเพราะผมไม่ได้คิดอะไร หรืออาจเพราะจงอินไม่ใช่คนที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรงก็ได้



    ขอโทษนะจงอิน... นายชอบทำให้ฉันรู้สึกแบบนี้อีกแล้ว  ถ้าซักวันนายชอบใครซักคนขึ้นมาก็ดีสินะ  อย่าหวังอะไรจากคนอย่างฉันเลย






    .................................................................





    ตอนนี้เรามาอยู่ในโรงยิมสำหรับจัดงานประกวดเฟรชชี่ของมหาลัยเรียบร้อยแล้ว  จงอินพาผมไปนั่งเก้าอี้ว่างที่ไม่ห่างจากเวทีมากนัก  ไม่นานพิธีกรก็เริ่มพิธีเปิดงาน แล้วเริ่มกล่าวเปิดต้อนรับเฟรชชี่ทุกคน  พร้อมทั้งกล่าวคำแนะนำการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัยมากมาย  จนผมที่เป็นคนขี้เบื่ออยากจะหลับรอจริงๆ นี่ถ้าเพื่อนผมไม่ได้ลงแข่งแบบนี้ผมคงจะไม่มาหรอก



    ให้ตาย... น่าเบื่อมาก  ร้อนมาก  และก็เสียงดังมากด้วย



    ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย



    นั่งเซงได้พักใหญ่ก็เริ่มงานประกวดที่ทุกคนรอคอย  มีตัวแทนดาวและเดือนจากนักศึกษาทั้งหมด 12 คณะและก็จะมีการแนะนำตัว  และก็แสดงความสามารถพิเศษ  จนครบแล้วก็รอประกาศผลหลังโชว์พิเศษจบทีเดียว  โดยผู้ชนะก็จะมาจากการโหวตที่บริเวณหน้างาน



    ผ่านไป 10 คนแล้ว  ไม่รู้ว่าชานยอลได้ลำดับที่เท่าไหร่  เพราะขาดการติดต่อกันทั้งวัน  จนตอนนี้คนที่ 11 ตัวแทนจากคณะนิเทศศาสตร์  ฝ่ายหญิงตัวเล็กน่ารักสุดๆ  จนคนในโรงยิมพากันส่งเสียงฮือฮา  แต่ไม่รู้ว่าเพราะฝ่ายหญิงคนเดียวหรือเปล่า  เพราะฝ่ายชายก็ดูดีใช่ย่อย  เค้าไม่ใช่คนสูง หล่อ เท่อะไรแบบนั้น  แต่กลับเป็นผู้ชายตัวเล็กๆ น่ารัก ตาโตๆ ให้ตายเหอะ  ผมว่าเค้าน่ารักมากนะ  และที่น่าแปลกใจก็คือความสามารถพิเศษของนักศึกษาจากคณะนิเทศฯ ทั้งสองคนนี้ ฝ่ายหญิงชื่อ คิม ยองฮี  เธอโชว์เทควันโด้  โอว... น่าตกใจมากๆ หลายคนคงทึ่งและไม่คิดว่าสาวน้อยตัวเล็กๆ น่ารักๆ จะดูแข็งแรงขนาดนั้น  ส่วนฝ่ายชายรู้สึกจะชื่อ โด คยองซู  พระเจ้าเค้าร้องเพลงเพราะมากๆ เลย ถ้าผมเป็นแมวมองคงชวนไปออดิชั่นแล้วนะเนี่ย



    “เจ๋งแฮะคยองซู”  เสียงบ่นงึมงำของคนข้างๆ ทำให้ผมต้องหันไปมอง  จงอินกำลังจ้องมองเฟรชชี่คยองซูคนนั้นด้วยดวงตาเป็นประกายวิบวับ  ก่อนจะหันขวับมาทางผมแล้วบอกว่า


    “จำได้ไหมแบคกี้ที่ฉันบอกว่าเคยขับรถชนคนที่หมู่บ้านนายอ่า”


    “จำได้ทำไมหรอ?”


    “ก็คนนี้แหละ คยองซูน่ะ  ไม่รู้เลยแฮะว่ารุ่นเดียวกัน  นึกว่าเป็นเด็กม.ปลายซะอีก”

     

    “ฉันว่าเค้าน่ารักดีนะ  ร้องเพลงเก่งด้วย”



    ก่อนที่เราจะได้พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องของคนที่ชื่อคยองซูต่อ  ตัวแทนคณะบริหารของเราที่รอคอยก็มาถึง



    นี่เป็นลำดับสุดท้ายเลยนะเนี่ย...



    เสียงกรี๊ดดังลั่นกว่าคณะอื่นๆ เป็นเท่าตัว  ทำให้ผมตกใจไม่น้อย  ไม่คิดว่าชานยอลจะป็อปขนาดนี้



    รูปร่างสูงเพรียวที่เป็นเอกลักษณ์  บวกกับเสื้อผ้าแนวแฟชั่นสตรีทตามสไตล์เจ้าตัวที่วันนี้ดูจะจัดเต็มเป็นพิเศษ  ทรงผมถูกเซ็ตตั้งเปิดหน้าผากที่ทำให้ชานยอลในวันนี้ดูแปลกตามากสำหรับผม  จนผมรู้สึกใจเต้นแรงแปลกๆ??



    ชานยอลและจีฮยอนเพื่อนสาวร่วมคณะผู้น่ารักทำการแนะนำตัวและเริ่มแสดงความสามารถพิเศษ

    จีฮยอนโชว์ความน่ารักจากการเลียนเสียงนางเอกจากละครดังเรื่องหนึ่ง  ซึ่งเรียกความสนใจและเสียงปรบมือได้มากมาย  ส่วนชานยอลนั้นผมคงไม่ต้องตกใจหรือเซอร์ไพรส์อะไร  เพราะจงอินบอกผมหมดแล้ว  แค่ยังไม่รู้เพลงที่จะเล่นเท่านั้น



    เสียงภายในโรงยิมเงียบกริบโดยที่ไม่ได้นัดหมาย  เมื่อชานยอลนั่งลงบนเก้าอี้และวางกีต้าร์ไว้บนตัก  เมื่อชานยอลเริ่มอินโทรเพลงโดยการเกากีต้าร์  เสียงโห่ร้องและเสียงกรี๊ดก็ดังลั่นไปทั่วทั้งโรงยิม





    ... นี่มัน



    “นายชอบเพลง LIVE HIGH หรอแบคฮยอน?”

    “ใช่  ฉันว่า jason mraz เค้าร้องเพลงเพราะมากเลย โคตรชอบเลย”

    “เสียดายจังที่ไม่มีกีต้าร์  อยากเล่นให้นายร้องจัง”

    “ร้องเพลงน่ะ ไม่ต้องใช้กีต้าร์ก็ได้”

    “แต่ฉันอยากเล่นกีต้าร์ให้นายร้องนี่นา มันดูเป็นเพลงมากกว่าร้องปากเปล่าเฉยๆ นะ”

    “ไว้มีกีต้าร์ก่อนแล้วกันนะ”





    ประโยคสนทนาเล็กๆ ในวันนั้น  ผลุดขึ้นมาในสมองผมทันทีที่ได้ยินเสียงกีต้าร์นั่น  ชานยอลเล่นเพลง LIVE HIGH งั้นหรอ?  นี่จงใจจะเล่นให้ฉันฟังหรือเปล่า?  แต่คงไม่หรอกมั้งเนอะ



    ถึงใจผมจะคิดแบบนั้น  แต่ผมไม่สามารถหยุดรอยยิ้มที่ริมฝีปากของผมได้เลย  บ้าชะมัด



    “ชานยอล!!  ชานยอล!!  ปาร์คชานยอล!!



    เสียงจงอินส่งเสียงเชียร์ชานยอลดังลั่น  พร้อมกับมือไม้ที่กวักไปมาเรียกร้องความสนใจจากคนรอบข้างรวมถึง ปาร์ค ชานยอลที่สังเกตเห็นและส่งยิ้มมาให้จงอินและผม พวกผมก็โบกมือกลับไปเพื่อส่งกำลังใจให้



    เมื่อเสร็จจากโชว์ของ ปาร์ค ชานยอล เสียงกรีดร้องดังยิ่งขึ้นกว่าตอนแรกหลายเท่า  และดูจะเป็นที่ถูกอกถูกใจมากทีเดียว  กระทั่งผมเองยังคิดว่าชานยอลเท่มากเลย 



    เมื่อจบงานประกวดจะมีการพักเพื่อเก็บคะแนนจากผู้ชมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง  ซึ่งผมและจงอินก็เดินไปยังจุดลงคะแนนเพื่อให้คะแนนเพื่อนตัวเอง  จากนั้นจึงพากันไปหาเจ้าตัวที่น่าจะอยู่ด้านหลังซุ้มของโรงยิม



    ผมกับจงอินเดินเข้าไปจนเกือบจะถึงแล้ว  ก็มีคนทักจงอินขึ้นมาซะก่อน



    “จ...จง..อิน”

    “คยองซู!!

    “นายอยู่มหาลัยนี้หรอ?”

    “ใช่แล้ว  นายนั่นแหละฉันนึกว่านายเรียนม.ปลายซะอีกไม่คิดว่าจะรุ่นเดียวกัน”

    “อืมม..แล้วนายมาทำไมแถวนี้อ่า?”

    “ฉันมาหาเพื่อนน่ะ  เราอยู่คณะบริหาร”

    “ฉันนิเทศฯ นะ  เมื่อกี้เห็นฉันหรือเปล่าบนเวทีน่ะ?” 



    ผมซึ่งยืนนิ่งฟังเค้าสองคนพูดได้อยู่พักหนึ่งจึงอยากมีส่วนร่วมบ้าง



    “นายร้องเพลงมากเลยนะคยองซู เจ๋งสุดๆ”  คยองซูหันหน้ามามองที่ผมอย่างสงสัย  นั่นสินะ  ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย

    “...”

    “ฉันชื่อ พยอน แบคฮยอนนะยินดีที่รู้จัก  ฉันเป็นเพื่อนจงอินน่ะ”

    “อ่า..เพื่อนจงอินหรอ.. ยินดีที่รู้จักนะแบคฮยอน”

    “นายสองคนคุยกันไปก่อนก็ได้นะ  เดี๋ยวฉันไปหาชานยอลก่อน”

    “เอ่อ...เดี๋ยวสิแบคกี้ไปพร้อมกันสิ”

    “ดูเหมือนคยองซูมีเรื่องจะคุยกับนายนะ  คุยเสร็จนายค่อยตามมาก็ได้”



    ผมทิ้งจงอินกับคยองซูไว้แล้วรีบเดินมาทางที่พักผู้ประกวดทันที



    อ่า...ผมเห็นชานยอลแล้ว  ยืนสูงเด่นกว่าคนอื่นเลย



    ผมยิ้มอย่างกลั้นไม่อยู่ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว  ไม่ทันจะไปถึงสิ่งที่ผมเห็นก็ทำให้ผมหยุดชะงักไปซะก่อน



    ผมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาหาชานยอล  และที่น่าตกใจไปกว่านั้น คือเธอเป็นผู้หญิงคนเดียวกับที่เดินมาชนผมในงานก่อนหน้านี้



    ...แต่คงไม่ตกใจไปมากกว่าสิ่งที่ผมได้รู้และเห็น



    ชานยอลกำลังยิ้มและดูจะดีใจที่ได้เจอเธอ  คงเป็นคนรู้จักกัน  และที่สำคัญ... เค้าเคยเป็นคนรักของชานยอล




    “ปาร์ค  ชานยอล... ไม่เจอกันนานเลยนะ...”

    “...เยจิน..”

    “3 ปีที่ผ่านมานายสบายดีใช่ไหม?”  




    คนนี้ใช่ไหม... แฟนเก่านาย... สายตานายมันบอกได้เลยว่าเป็น เธอ



    ได้พบกันอีกครั้งแล้วสินะ...ยินดีด้วยนะชานยอล








    .........................................................


     

    บ้าเอ้ย!!!




    วันนี้ทั้งวันมันช่างวุ่นวาย  วุ่นวายมากจนกระทั่งกิจวัตรประจำวันของผมมันผิดเพี้ยน  และคลาดเคลื่อนไปซะหมด


    ผมไม่ได้เตรียมอาหารให้แบคฮยอนอย่างเคยมาหลายวัน  แถมไม่ค่อยได้คุยกับแบคฮยอนเลยด้วย  แม้แต่หน้าก็ยังไม่ค่อยจะเห็น  เจอกันแค่ที่มหาลัยไม่นานก็ต้องแยกตัวมาซ้อมการประกวดนี่ กว่าจะกลับบ้านทีก็ดึกมาก  ผมไม่กล้าเดินเข้าไปปลุกเพราะกลัวเค้าจะหลับแล้ว  ถึงแม้ใจผมอยากจะคุยกับเค้ามากแค่ไหนก็ต้องหักห้ามใจเอาไว้


    แล้วห้องของผมนี่ก็สุดๆ เลย  รกมากจนไม่น่าเชื่อว่าคนที่รักสะอาดแบบผมจะปล่อยให้ห้องรกขนาดนั้น


    แต่ที่ผมกำลังหงุดหงิดนี่คือไอสัญญาณมือถือที่ไม่เป็นใจให้ผมโทรออกหรือแม้กระทั่งต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ต  ตอนนี้ผมอยากจะติดต่อจงอินและแบคฮยอนมากเหลือเกิน  เพราะผมไม่สามารถจะปลีกตัวออกไปจากตรงนี้ได้  หลังจากประกวดเสร็จก่อนประกาศผล  ผู้เข้าประกวดทุกคนห้ามออกไปข้างนอก  ผมจึงได้แต่หงุดหงิดงุ่นง่านอยู่แบบนั้น


    ตอนที่ผมอยู่บนเวทีก็ตื่นเต้นแทบแย่  ใจผมมันเต้นแรง  ท้องก็มวนๆ เหมือนจะคลื่นไส้แปลกๆ  แล้วยิ่งตอนที่ต้องเล่นกีต้าร์นะ  มือผมมันแข็งไปหมดและปากก็แทบขยับไม่ได้  แต่ก็ต้องรวบรวมกำลังใจให้ตัวเองเพื่อให้ช่วงเวลานั้นผ่านไปเร็วๆ


    เพลงในวันนี้ผมตั้งใจเล่นให้แบคฮยอนโดยเฉพาะ  เค้าบอกว่าชอบและผมก็กะเซอร์ไพรส์เค้า


    เมื่อเริ่มเล่นอินโทรเพลงได้นิดหน่อย   เสียงตะโกนอันคุ้นหูก็ดังขึ้นพร้อมกับมือที่โบกหยอยๆ เชียร์ผมอย่างออกนอกหน้า


    ผมจ้องมองไปแล้วก็ต้องยิ้มออกมา ...จงอินนั่นเอง  แล้วถ้าจงอินอยู่ตรงนั้นคนข้างๆ ก็ต้องเป็นแบคฮยอนแน่นอน  ซึ่งก็ไม่ผิดจากที่คาดเท่าไหร่ 


    แบคฮยอนส่งยิ้มและโบกมือมาให้และแน่นอนว่าผมก็ยิ้มตอบกลับไปแทบจะทันที  ผมรู้สึกว่าจะต้องผ่านการแสดงนี้ไปได้อย่างราบรื่น  เพราะกำลังใจผมตอนนั้นมันล้นปี่จริงๆ


    หลังจบการแสดงความสามารถพิเศษของผู้เข้าประกวดทุกคน  พวกเราทั้งหมดก็ได้มาพักที่ซุ้มด้านหลังของโรงยิม  จนได้ยืนหงุดหงิดกับโทรศัพท์ตัวเองอยู่แบบนี้  และแล้วก็มีสิ่งที่ทำให้ผมตกใจมากที่สุดในวันนี้


    ผมไม่เคยคิดเลยว่าเราจะได้เจอกันอีก  ผมจำเธอได้ทันทีแม้ว่าจะไม่ได้พบกันนานถึงสามปี





    ...เยจิน...

    “ปาร์ค  ชานยอล... ไม่เจอกันนานเลยนะ...”

    “...เยจิน..”

    “3 ปีที่ผ่านมานายสบายดีใช่ไหม?”

    “...”  ผมยังคงยืนนิ่งและจ้องมองเธอแบบนั้น  รู้สึกว่ารอบข้างดูเงียบไปซะอย่างนั้น ผมมองใบหน้าของเธอที่ดูไม่เปลี่ยนไปเลย  แค่เธอดูสดใสและน่ารักมากกว่าแต่ก่อน





    บ้าชะมัด... ทำไมผมถึงยังใจเต้นแรงกับเธออยู่นะ  หรือว่าจริงๆ แล้วผมอาจไม่เคยลืมเธอเลย




    ...........................................



    “ขณะนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกคนรอคอยนะครับ”  พิธีกรฝ่ายชายภายในงานกำลังจะประกาศผลรางวัลเฟรชชี่ฝ่ายชายและหญิงของมหาลัยประจำปีนี้  ทุกคนเสียงกรี๊ดกร๊าดและดูตื่นเต้นไปกับน้ำเสียงที่ดูลุ้นระทึกของพิธีกร

    “ใช่แล้วค่ะ  ตอนนี้เราก็ได้รวบรวมคะแนนโหวตจากหน้างานทั้งหมดแล้ว  และก็ได้รายชื่อเฟรชชี่ทั้งสองมาอยู่ในมือของดิฉันแล้วค่ะ”  เสียงกรี๊ดยังคงดังขึ้นเรื่อยๆ ตามเสียงกระตุ้นของพิธีกรฝ่ายหญิงบ้าง


    แต่ในความรู้สึกผมตอนนี้มันไม่ได้ดูตื่นเต้นตามไปด้วยเลย  ผมอยากจะให้งานรีบๆ จบ  แล้วเคลียร์บางสิ่งที่กำลังรออยู่หลังจากงานนี้...


     “เฟรชชี่ฝ่ายหญิงประจำปีนี้ได้แก่  คิม ยองฮี จากคณะนิเทศศาสตร์ค่ะ”

    กรี๊ดดด... กรี๊ดดด...

    “และเฟรชชี่ฝ่ายชายประจำปีนี้ได้แก่  ปาร์ค ชานยอล จากคณะบริหารครับ”

    กรี๊ดดด... กรี๊ดดด...


    ผมประกาศรางวัลที่ได้ยิน... มันไม่ได้ทำให้ผมตื่นเต้นหรือดีใจอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก  


    ... แต่ใจผมตอนนี้กลับกระวนกระวายถึงใครบางคนที่จะต้องเผชิญหน้าหลังจากนี้...



    ...............................................



    ตอนนี้ผมและจงอินกำลังรอชานยอลอยู่ที่หน้าคณะบริหาร  เห็นว่ารุ่นพี่จะพาไปเลี้ยงกัน  แต่เหล่าพวกสต๊าฟที่ต้องจัดเก็บงานรวมถึงชานยอลที่เหนื่อยมามากหลายสัปดาห์ก็อยากจะพักก่อน  จึงเลื่อนการเลี้ยงฉลองไปคราวหน้าและขอแยกตัวออกมาก่อน 


    และตอนนี้เราก็รอชานยอลที่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเก็บของอยู่


    “แบคกี้ง่วงแล้วหรอ? ไหวไหม?”

    “ไม่เป็นไรน่ะ  แค่เหนื่อยๆ นิดหน่อย”

    “เดี๋ยวโทรตามไอชานยอลก่อน  แม่งชักช้าจริง”


    ยังไม่ทันที่จงอินจะได้กดเบอร์โทรไปยังปลายทาง  เจ้าของปลายทางเบอร์นั้นก็เดินมา แต่ที่ผมตกใจคือชานยอลเดินมากับ เธอ คนนั้น


    แต่สิ่งที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่านั้นกลับเป็นคำพูดของชานยอล...


    “วันนี้พวกนายกลับไปก่อนเลย  เดี๋ยวฉันจะไปส่งเธอก่อนน่ะ”



    .......................................................
    TBC*




     

    writer talk: หน่วงแล้วอ่า... แฟนเก่ากลับมาแล้วอ่า  ชานยอลจะทำยังไงล่ะเนี่ย!? (แกเป็นไรเตอร์ไม่ใช่หรอ?? - -'')  ชานยอลอย่าทิ้งแบคฮยอนนะ  ไม่อยากจะเศร้าเลย  แต่มันก็ต้องมีนิดนึงน่ะจริงไหม??  55555 เจอกันตอนหน้านะ แบคฮยอนจะเข้าใจหัวใจตัวเองแล้วน้า (???) สปอล์ย >.<  พูดถึงเรื่องนี้อย่าลืมแท็ก #puppydoll #ppd #แบคกลัวหมา นะคะ แท็กอันไหนก็ได้ 55555





     

    -- รักคนอ่านแต่รักคนเม้นท์มากกว่านิดนึง--


        

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×