คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ]] Tik tok one [[ "ชายจรจัด 1"
"ทำไมพวกเขาถึงมีความปรารถนาไม่รู้จักจบสิ้น"
"พวกเขาต่างมีบาปที่ได้รับตกทอด"
"ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักการยอมรับ"
"พวกเขาต่างก็อยากเป็นที่ยอมรับมากจนเกินไป"
"ช่างน่าสังเวช"
"นางฟ้า" ชายหนุ่มสบถออกมาเมื่อมองไปยังเด็กสาวในชุดสีขาวที่หายไปแทบจะในทันทีที่เขากระพริบตา เส้นผมสีเงินสบัดเล่นกับสายลมแรงที่พัดมาจากด้านหน้า เขารีบก้าวไปดูที่ปลายหน้าผาแต่กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่นิดเดียว ดวงตาสีนินยังคงจ้องมองอย่างคาดหวัง ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสีดำสนิทตรงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างมีสายโซ่สีแดงและขาวไขว่สลับกันและผ้าลายสก๊อตที่ตัวกระเป๋า แขนเสื้อมีสีแดงสดเหมือนเลือดและมีสายโซ่สีแดงพันสามทบทั้ง 2 ข้างเนคไทน์สีเลือดเข้าคู่กับปกเสื้อลงมาถึงกระดุมเม็ดสุดท้ายที่มีสีเทาอ่อน
"สงสัยจะกลับขึ้นสวรรค์แล้วล่ะมั้ง" ริมฝีปากสีแดงกุหลาบซีดสบถก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นฟ้าแล้วยิ้มจนเห็นเขี้ยวที่ค่อนข้างยาว ภาพหมอกที่ลงเล็กน้อยกับท้องฟ้าสีครึ้มให้ความรู้สึกที่ดีต่อเขาเป็นอย่างยิ่งเพราะสายฝนจะช่วยชำระความโสโครกออกไปและยังชุ่มชื้นอีกด้วย เขามองอย่างชอบใจก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาและพบเข้ากับคนสองคนที่สลบอยู่
"สองคนนี่...ทิ้งไว้งี้แหละใกล้เวลาแล้วรีบไปดีกว่า" ตายก็อย่าว่ากันเลยนะ! เขาคิดพลางวิ่งออกไปด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป สายฝนเริ่มรินลงมาแล้ว แขกของเขาต้องไม่ชอบใจเป็นอย่างมากแน่ที่เขาไปไม่ทัน แต่เอาเถอะ แวะซื้อร่มไปเผื่อด้วยละกัน
"ชักช้า...." เสียงหวานใสภายใต้ฮู้ดสีขาวสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจเท่าใดนักก่อนจะเอื้อมมือเล็กขึ้นจากใต้เสื้อคลุมสีขาวที่คลุมหมดทั่วทั้งตัวและมีแถบสีดำซีด รองเท้าสีขาวมีแถบสีแดงซีดไม่เข้ากับเนื้อผ้าสีขาวของเธอที่ดูใหม่เป็นอย่างมากคล้ายกับว่าใช้ผ้าคนละเนื้อในการตัดเย็บ
"ทานอะไรสักหน่อยไหมขอรับคุณหนู" เสียงทุ้มจากเด็กในเสื้อคลุมสีดำสนิททั่วทั้งตัวและรองเท้าสีดำทั้งสองอย่างมีลวดลายสีแดงสดประดับอยู่ดูคล้ายกับสีของเลือดเป็นอย่างมาก
"อือ แต่กลิ่นเหม็นสาปพวกนี้ข้าไม่ชอบใจเลย" เด็กในชุดดำพยักหน้ารับรู้ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ที่ลานน้ำพุ โดยระหว่างที่รอคอยคนที่จะมารับพวกเขาได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างผ่านทางหนังสือที่ได้รับจากคนใจดีที่เดินผ่านมาและยื่นให้เพื่อให้พวกเธอใช้บังฝนหาที่กำบัง ถึงแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนแต่สายฝนก็มิได้ทำให้พวกเธอเปียกปอนเลยแม้แต่น้อย กึก กึก...
"อ้ะ" อยู่ ๆ สร้อยข้อมือที่มีลูกแก้วใสเรียงร้อยกันร่วม 100 ลูกกลับหายไปต่อหน้าต่อตาของทั้งคู่ราว 10 ลูกในทีเดียวเหล่าลูกแก้วที่เหลืออยู่ค่อย ๆ ร้อยเรียงกันใหม่ก่อนที่จะหายไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงลูกแก้วสีเงินเพียงลูกเดียวที่ยังอยู่ในมือของเด็กชุดขาว
"เฮ้ พวกเธอมายืนทำแมวน้ำอะไรตรงนี้" เสียงทุ้มเรียกความสนใจจากทั้งคู่เมื่อเขาวางมือลงบนบ่าแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่ามันหายไปได้อย่างไรแต่ตอนนี้คนตรงหน้าดูน่าสนใจกว่าเล็กน้อยเส้นผมสีเงินชุดสีดำแถบสีชาดแต่ดวงตากลับมีสีนิน
"ฮืม?" เขาพ่นลมหายใจออกอย่างสงสัยในทันทีที่ไหล่ที่เขาจับไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าจะเป็นปีศาจหรืออะไรต่างก็ต้องถูกฝนกันทั้งนั้นนี่หน่าเขาคิดโดยแสดงออกทางสีหน้าเกือบจะทั้งหมดแต่เด็ก ๆ ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรมากมายและตอบความสงสัยไร้สาระนั่นด้วย
"หรือว่าจะเป็น 'เจ้าหญิง' ที่บอกให้ท่านแม่เรียกว่า 'คุณหนู' กันนะ" เขาสบถงึมงำเหมือนคนกินก้างปลาติดคอจนเป็นแผลอักเสบไม่เหมือนตอนแรกที่พูดกับเด็กทั้งสองคน
"บุตรชายคนเล็กของตระกูลโชใช่รึเปล่า?" เสียงจากเด็กในชุดดำเอ่ยถามเขานั่นทำให้เขายืนยันในคำถามของตัวเองได้เป็นอย่างดี
"เอาล่ะตามมา ๆ" เขากลางร่มให้กับทั้งคู่แล้วยัดใส่มือแล้วมองทั้งคู่ที่ถือร่มอย่างคนไม่เคยใช้โดยเอาลงไว้ข้างตัวเกือบจะทันทียังดีที่เขาจับไว้ทัน ดวงตาของทั้งคู่มองมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจว่าจะจับทิ้งไว้เพื่ออะไรจนกระทั่งเขาเอ่ยปากบอกออกมา
"เอาขึ้นเหนือหัวอย่างนี้" เขาพูดพลางจับมือของทั้งคู่ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนมองมือของเขาที่ไม่ยอมปล่อยก่อนจะมองทางที่เขาลากพาไปในซอยแห่งหนึ่งซึ่งมีม่านปิดเอาไว้ที่กำแพงแล้วพาทั้งคู่เดินผ่านเข้าไปข้างใน
"ทุกคน 'องค์หญิง' มาถึงแล้ว!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทันทีเมื่อผ่านไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งความกว้างใหญ่ตรงทางเข้าและเมื่อหันหลังไปมองทั่ว ๆ จะพบกับสวนขนาดใหญ่ที่มีถึง 4 ฤดู
"ไม่คิดจะถอดฮู้ดออกรึไง" ชายหนุ่มพูดพลางเหล่มองเด็กทั้งสองคนที่เขาจูงอยู่ก่อนจะปล่อยมือเดินนำเข้าไปในบ้านอย่างไม่อยากจะทำตัวยุ่งยากกับเด็กทั้งสองคน เด็กชุดดำผายมือเชิญอย่างนอบน้อมให้กับเด็กชุดขาว
"อือ" เธอพยักหน้าเบา ๆ แล้วมองรอบ ๆ อีกครั้งอย่างไม่พิจารณามากนักก่อนจะก้าวเข้าไปภายในเหล่าสาวใช้ราว 5 คนก้มหัวรับ บนพรมสีแดงสดมีกลีบกุหลาบสีขาวโปรยตามทาง ตรงกลางของคนรับใช้ทั้ง 2 ฝั่งมีพ่อบ้านดูภูมิฐานอายุยังไม่มากนักคงจะสักราว ๆ 30 - 40 ปี กระมั้ง
"ยินดีต้อนรับองค์หญิงและคุณอิซะสู่บ้านตระกูลโชขอรับ" เขาโค้งตัวลงจนสุดแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะโค้งตัวลงระดับนึงอีกครั้งให้กับเด็กชุดดำ เส้นผมสีดำสนิทของเขาดูเข้าทรงเรียบร้อยแม้ว่าจะก้มตัวลงถึง 2 ครั้งชุดสูทเรียบร้อยไม่มีแม้กระทั่งรอยยับ
"ขอบคุณที่ซื่อสัตย์กับทางเรา" เด็กชุดขาวตอบรับการโค้งคำนับของสุภาพบุรุษด้วยการยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าหลังจากกล่าวจบ
"ขอบคุณสำหรับการต้อนรับครับ" เด็กชุดดำโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อตอบรับชายตรงหน้า
"ข้าปรารถนาให้ทุกคนเรียก ข้าว่า 'คุณหนู' ตอนนี้คำว่า 'องค์หญิง' ใช้กับข้าที่ไร้ผู้ยอมรับมิได้" เธอกล่าวเสียงเศร้าเล็ก ๆ พร้อมตัดพ้อในถ้อยคำ
"ต้องขออภัยที่ได้ขัดความประสงค์ขององค์หญิงแต่ว่าท่านเหมาะสมกับตำแหน่งนี้นะขอรับ"
"ขอบใจ...แต่เรียกข้าว่าคุณหนูเถอะ" เธอยิ้มเย็น ๆ เพื่อบ่งบอกว่าเธอต้องการอย่างนั้นมากกว่า
"ขอรับ...กระผมเป็นพ่อบ้านเพียงคนเดียวของตระกูลโช ที่นี่มีสาวใช้อยู่เพียง 5 คนเท่านั้นขอรับ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถต้อนรับการมาของคุณหนูได้อย่างสมบูรณ์แบบนะขอรับ"
"อือ ไม่เป็นไร" เด็กชุดขาวตอบพลางกวาดสายตามองทั่วบ้านขนาดใหญ่หลังนี้ที่ถูกประดับด้วยวัตถุหรูหราฟู่ฟ่าแต่กลับดูเงียบเหงาแตกต่างกับที่บ้านของเธอที่แม้ว่าจะกว้างใหญ่เท่าใดแต่ก็ยังมีเสียงหัวเราะมากมายแม้บางคราจะแสนเศร้าก็ตามที
"สัมภาระของคุณหนูและคุณอิซะถูกส่งมาก่อนแล้วเมื่อวานซืนห้องของทั้ง 2 ท่านจะอยู่ที่ชั้น 2 นะขอรับ เชิญทางนี้ กระผมจะนำทางไปนะขอรับ" เด็กชุดขาวคลี่ยิ้มบางแล้วถอดฮู้ดออกจากศีรษะเส้นผมสีเงินซึ่งมีสีของสายรุ้งอ่อน ๆ จนแทบจะไม่สังเกตุเห็นหากไม่ตั้งใจเพ่งพินิจจริง ๆ เส้นผมยาวเกือบถึงข้อเท้าตรงสลวย ดวงตาของเด็กสาวค่อนข้างขวางในตอนนี้ แต่ว่านั่นทำให้ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนและคิ้วคู่สวยที่ไม่ยาวและสั้นมากเกินไปเสริมให้เธอดูเหมือนรูปวาดเจ้าหญิงมีชีวิตที่ทั้งขี้เหงาและขาดซึ่งความไว้วางใจยิ่งขึ้น เธอช้อนตาขึ้นมองพ่อบ้านนั่นทำให้ดูยิ่งน่ารักขึ้นอีกแม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะไม่สะท้อนความสนุกเหมือนเจ้าหญิงทั่วไป
"เกศาขององค์หญิงเป็นแบบหยักศกสวยนะขอรับ"
"หยักศก?" เด็กสาวทวนคำพลางจับเส้นผมของตนที่ถึงแม้ว่าจะตรงแต่ก็ยังโค้งงอเป็นช่วง ๆ
"ขอรับ เส้นเกศาขององค์หญิงตรงลงมาแต่ก็ยังโค้งเล็กน้อยน่ะขอรับ" เด็กสาวพยักหน้ารับรู้พลางยิ้มบาง ๆ ตอบรับคำชมของพ่อบ้าน เด็กชุดดำเมื่อถอดฮู้ดออกเขาเองก็มีเส้นผมที่ยาวประบ่าซอยสั้น เส้นผมของเขามีสีแดงแต่มีปลายผมสีดำพ่อบ้านเมื่อเห็นดังนั้นก็กำลังจะกล่าวชมแต่เขาส่ายหัวเบา ๆ เป็นสัญญาณในทันทีจึงทำให้พ่อบ้านต้องเงียบไปแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม
"อือ...แต่ว่าหลังจากนี้ข้าไม่อยากได้ยินคำว่าองค์หญิงอย่าขัดความประสงค์ของข้าอีกนะพ่อบ้าน"
"ขอรับคุณหนูน้อย"
"อือ" เธอเลือกที่จะตอบสั้น ๆ มากกว่าจะต่อความยาวสาวความยืดมากมายเพื่อให้เสียเวลาในการไปตรวจดูที่ห้องนอน
"ผมจะพาคุณหนูไปเองคุณบอกทางผมพอครับ" เด็กหนุ่มพูดริมฝีปากสีโอโรสสดคลี่ออกบาง ๆ ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวสีดำสนิทดุจห้วงรัตติกาลของเขาฉายภาพของเด็กสาวเท่านั้น ผิวสีนมของเขาไม่ซีดจนเกินไปและเขาสามารถที่จะเดินไปไหนได้ในช่วงกลางวัน
"สุดทางกุหลาบขอรับและของท่านอิซะจะอยู่ก่อนถึงห้องคุณหนู"เขาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่ออย่างไว้ที"..กระผมไม่คิดว่าจะได้เห็นสายพันธุ์ต้นแบบของแวมไพร์เลยนะขอรับ"
"ผมก็แค่ของเก่าที่หาได้ยากเท่านั้นล่ะครับ เชิญครับคุณหนู" เขายิ้มตอบรับพ่อบ้านแล้วผายมือเชิญคุณหนูน้อยก้าวไปตามทางเดินสีแดงที่มีกุหลาบขาวโปรยเต็มทาง พ่อบ้านยืนมองทั้งคู่เดินขึ้นบันไดไปจนลับสายตา
"คุณอินุยาฉะจะแอบมองคุณหนูอีกนานไหมขอรับ" เขากล่าวยิ้ม ๆ พลางเงยหน้ามองไปทางด้านหลังรูปปั้นทองคำที่ประดับเหนือหัวอยู่ ก่อนจะโผล่ร่างของชายผมเงินเขากระโดดลงมายืนข้างๆ พ่อบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกจับได้ตอนนี้เขาอยู่ในชุดลำลองสบายๆ เสื้อวอร์มมีกระเป๋าสีขาวกับกางเกงผ้าสีเทารองเท้าผ้าใบสีดำ เส้นผมของเขาบางส่วนยาวเลยบ่าลงมาและส่วนใหญ่ยาวประบ่าฟูสวยงาม
"ผมเปล่ามองเด็กนั่น" เขากล่าวพยายามทำเสียงเรียบ ๆ ดวงตาคมสีนินของเขายังคงมองไปที่บันได แม้ว่าจะไม่มีเงาของใครก็ตามสีหน้าของเขาขึ้นสีชมพูอ่อน ๆ ดูแล้วยังไงเขาก็กำลังอายนิด ๆ
"ผมว่าคุณหนูกับคุณก็อายุห่างกันไม่เท่าไหร่หรอกขอรับ คุณอินุยาฉะก็เพิ่งอายุ 11 ปีเองนะขอรับ" หลังจากพูดจบเขาก็สังเกตุเห็นใบหน้าของคุณชายตัวน้อยของเขาที่ดูจะขึ้นสีขึ้นอีกนิดหน่อย
"อย่าพูดมั่วนิ่มนักไปเตรียมอาหารได้แล้วคุณพ่อบ้าน" เขาพูดพลางเอามือลูบหน้าเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว แต่เพียงครู่เดียวหน้าเขาก็กลับมานิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
"ขอรับ ๆ " พ่อบ้านพูดพลางส่งสายตากวนๆ มาให้คุณชายน้อยของเขา
"คุณพ่อบ้านคะ! มีคนแปลก ๆ เดินป้วนเปี้ยนแถวหน้ารั้วค่ะ" สาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาเหงื่อแตกพลั่กเต็มใบหน้า ท่าทางเธอจะกลัวมากพอสมควร
"มาที่นี่น่ะหรือครับ?" หญิงสาวพยักหน้ารัวด้วยความตกใจคุณชายเล็กของตระกูลอย่างอินุยาฉะเองก็ชักจะสนใจขึ้นมาอย่างตะหงิดเลยหันมาดูตาม
"ค่ะ ๆ เขาใส่เสื้อผ้าโทรม ๆ หน้าตามอมแมม อ้ะ นั่นคุณหนูรึเปล่าคะคุณพ่อบ้าน" ทั้งสองคนหันไปมองตามนิ้วหยาบของสาวใช้
"ยัยบ้านั่น"
"คุณชายน้อย!" ด้วยความร้อนใจบางอย่างแม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าเธอใช่นางฟ้าที่เขาเห็นตรงปลายผารึเปล่า แต่ขาทั้งสองข้างของเขาก็บอกให้รีบไปช่วยเธอ ฟุบ! โชคดีที่ข้างล่างมีพุ่มไม้รองรับร่างกายทำให้เขาไม่บาดเจ็บมากนักแต่เขาตามเธอไม่ทัน เส้นผมสีเงินของเธอเหมือนเปล่งแสงแต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขารู้ตัวว่าช้าทั้งยังไม่สามารถไม่สามารถจะเข้าไปใกล้เธอได้
เธอมองคนแปลกหน้าจากตรงหน้าต่างของทางเดินอย่างสงสัยในเมื่อที่นี่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนั่นและดูแล้วไม่น่าจะมีบ้านอยู่รอบบริเวณเขากลับมาถึงที่นี่ได้และดูเหมือนจะไม่ได้ขาดอาหารหรืออะไรแต่เป็นการทำเพื่อปกปิดบางสิ่ง
"คุณหนูจะให้ผมไปดูหรือไม่ครับ" เธอส่ายหัวเบา ๆ แล้วมองอย่างตั้งใจก่อนจะหยิบลูกแก้วสีเงินขึ้นมามันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน ๆ แล้วลอยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นแว่นตายุโรปที่มีเพียงข้างเดียวพร้อมสายห้อยสีเงินพันรอบแขนซ้ายของเธอ 2 ครั้งแล้วร้อยติดเป็นคล้ายกับกระเป๋าขนาดเล็กที่แขนขวา
"ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปพบกับเจ้านั่น" เธอสบถพลางหยิบแว่นตาเลนส์เดียวขึ้นมามองไปที่คนจรจัด เลนส์นี่ทำหน้าที่คล้ายกับกล้องส่องทางไกลแต่ก็แค่เพียงทำให้เห็นชัดขึ้นและสิ่งหนึ่งที่เธอพบก็เป็นของที่เพิ่งหนีไปจากเธอเมื่อตอนอยู่ในเมือง
"ข้าต้องการความช่วยเหลือเมื่อใดเจ้าต้องรีบไป" เขาโค้งตัวลงมองคุณหนูที่เมื่อแตะหน้าต่างก็หายลงไปอยู่ด้านล่างด้วยความห่วงใย
"ขอให้เขาไว้วางใจได้นะครับ" เขามองตามเธออย่างเป็นห่วงแม้ว่าคุณหนูของเขาจะมีความสามารถแต่ก็ยังอ่อนเยาว์และไม่เคยออกมาสู่โลกภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียวการเดินทางมาโดยปราศจาก 'เขาคนนั้น' เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับคุณหนูแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มีหน้าที่เพื่อคอยปกป้องคุณหนูของเขาจะไม่มีวันได้รับอันตราย ตราบใดที่เขายังคงอยู่เคียงข้าง
"ลูกแก้วไปอยู่ภายในร่างกายนั่นได้อย่างไรกัน" เด็กสาวสบถอย่างสงสัยแม้ว่าเขาจะเป็นคนแปลกหน้าที่ควรระแวดระวังแต่สิ่งที่เธอพกมาด้วยกลับอยู่กับเขาถึงจะยังไม่แน่ใจว่ามีกี่ชิ้นแต่ที่แน่ใจได้คือเขามีมันอยู่ในร่างกายและดูเหมือนว่าเธอควรจะถามคำถามที่ท่านแม่และท่านย่าของเธอบอก คำถามเพื่อให้การช่วยเหลือกับคนแปลกหน้าทั้งหลายที่ต้องพบเจอตลอดเวลาของการเดินทาง
ทางเดินตัดผ่านฤดูกาลที่แสนหนาวเหน็บตลอดสองข้างทางทำให้ไอเย็นพ่นออกมาจากริมฝีปากบางของเด็กสาวและลมหายใจเย็นเหมือนกับจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง หากไม่ติดว่าลมพัดแรงจากอีกฟากเป็นลมที่ค่อนข้างจะอบอุ่น ความหนาวเย็นของสองข้างทางทำให้ภาพอันแสนเจ็บปวดปรากฏขึ้นในหัวก่อนจะสะบัดมันทิ้งแล้วรีบเดินไปให้ถึงรั้ว
"เจ้าต้องการสิ่งใด" เด็กสาวเอ่ยถามเสียงนิ่งพลางมองชายผู้มีเครื่องแต่งกายขาดวิ่นถือถุงขนาดใหญ่ที่มีรอยปะอยู่มากมายอีกทั้งยังผมเผ้ารุงรังแห้งกร้านดูคล้ายกับกิ่งไม้ใกล้ตาย ผิวหนังแห้งตึงแทบจะติดกับกระดูกภายในหนวดเครารกรุงรังจนแทบแยกไม่ออกว่านี่เป็นเส้นผมรึไม่ เธอไม่ได้ใส่ใจสิ่งใดเลยนอกจากสิ่งที่เธอได้เห็นอยู่ใหลเวียนในร่างกายของเขา
"ฉันอยากจะขอพักอยู่ที่นี่สักวันสองวัน" เสียงแหบแต่ไร้ซึ่งกลิ่นปาก แต่งกายมอซอแต่ไร้ซึ่งกลิ่นเหม็นเน่าแต่ถึงอย่างไรกลิ่นหอมอ่อน ๆ จาง ๆ ปนกับกลิ่นคลุ้งของคาวบางอย่าง
"งั้นหรือ" เขามองเด็กสาวกล่าวอย่างสุขุมบางคนอาจจะเห็นเธอดูอวดดีและเย่อหยิ่งก็ได้แต่ตัวเขาเองไม่คิดเช่นนั้น เธอเอื้อมมือออกไปให้เขาแต่กลับถูกดึงรั้งตัวออกห่างจากรั้วในทันที
"ยัยบ้าเธอตั้งใจจะทำอะไรน่ะ!" เธอเงยหน้ามองเส้นผมสีเงินที่เหมือนกับว่าจะได้พบมาหลายครั้งมากในวันนี้ก่อนจะชี้ไปที่ชายตรงหน้าที่ยืนอยู่หลังรั้ว
"ข้าแค่จะช่วยเจ้านั่นให้เข้ามาพัก"
"งี่เง่า" เธอมองเด็กชายที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอเข้าไปอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นักในเมื่อเขามีหน้าที่คอยดูแลก็น่าจะดูแลต่อไปสิถึงเขาจะเป็นเจ้าของบ้านก็ตามที
"อิซะ ข้าต้องการให้เจ้านั่นเข้ามา"
"ตามแต่ท่านบัญชา" เสียงลอยคล้ายกับสายลมกล่าวเอื้อนเอ่ยก่อนที่ประตูจะเปิดออกเพื่อให้ชายจรจัดได้เข้ามาภายในสวนขนาดใหญ่เขาดูไม่ตกใจทั้งยังคิดจะช่วยให้เด็กสาวลุกได้สะดวกหากไม่ติดว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีดวงตาสีเลือดมาขวางไว้และเชิญชวนให้เขาเดินไปที่บ้านหลังใหญ่กลางสวน
"หยุดนะ! หยุดซิวะ!" อินุยาฉะยอมปล่อยเธอเป็นอิสระพร้อมทั้งพยายามจะก้าวตามไปหากไม่ติดว่าเด็กสาวข้างหลังดึงเสื้อเขาเอาไว้
"เจ้านั่นไม่อันตรายข้ารับรอง" ความเชื่อมั่นในดวงตาคู่นั้นไม่ได้ทำให้เขามีความยินยอมขึ้นหากไม่ติดว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดใจคุณหนูมากมายนักมีเพียงแต่ท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตัดสินว่าสิ่งที่คุณหนูทำมันเป็นสิ่งที่ผิด
ความคิดเห็น