ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Destiny or Art ปลายทางเส้นฝัน

    ลำดับตอนที่ #2 : - Irrelevant Heart -

    • อัปเดตล่าสุด 11 ธ.ค. 55


     

    ไม่มีสิ่งใด   จับต้องได้นับจากนี้
             ไม่มีสิ่งใด   เป็นความจริงดั่งภาพฝัน
       ไม่มีสิ่งใด   เหลืออยู่แม้ความจำ
           ไม่มีสิ่งใด   แยกเธอออกจากใจเรา

    “พี่ไมเกรน์ทำอะไรอยู่น่ะครับ” ฉันหันไปยิ้มให้กับเสียงนุ่มนิ่มแสนคุ้นเคย  ใบหน้ายิ้มหวาน ๆ ปนกวน ๆ จากเด็กหนุ่ม  ดวงตาคู่สวยสีเงินเข้ากับดวงตาและคิ้วสีเงินที่ตัดกับสีผิวค่อนข้างเข้มของเขาฉันเอื้อมมือไปดึงคอน้องที่สูงกว่าให้ก้มตัวลงมาดูที่กระดาษ

    “พอใช้ได้ไหมโลจัง??” ฉันลอบมองรอยยิ้มที่อยู่ในอ้อมแขนในขณะที่เขากำลังอ่าน น่ารักจริง ๆ!

    “เก่งจังเลยพี่ไมเกรน์ถึงจะมั่วไปนิดก็เถอะ” น้องพูดพลางคลี่ยิ้มกว้างจนรู้สึกแปลกๆในคำพูดแต่กว่าฉันจะรู้สึกตัวน้องชายตัวดีก็ถอยห่างไปอยู่อีกฟากของโต๊ะ

    “ว่าพี่เรอะ!” ฉันรีบลุกขึ้นปีนข้ามโต๊ะทันที

    “พี่ระวังกระโปรงเปิดบ้างสิฮะ!” ไอ้น้องบ้าวิ่งหนีพลางหัวเราะร่าด้วยความเร็วสูงแต่ฉันก็ไม่ยอมหรอกน่า! ถึงจะกวนไปหน่อยแต่นี่ก็ถือเป็นจุดดีของนายล่ะนะ ปรี๊น!!!!!!!!

    “พี่ระวัง!” ตึง! อุ........แรงกระแทกกับภาพในหัวที่เรียงลำดับรถชนมันเจ็บน้อยกว่าที่คิดนะอุ่นด้วย..ไม่! เพราะโลจังต่างหากล่ะ!

    “ม่าย!!!!!!!!!!   โลจังตื่นขึ้นมานะ!!! ตื่นขึ้นมาเซ่ ตื่นน๊า!!!!!! แง!!!!!!!” ฉันเจ็บแต่ก็ไม่เท่ากับโลจังแน่ ๆ ไม่ได้นะห้ามตายห้ามเป็นเจ้าชายนิทราห้ามหนีพี่ไปนะ!

    “พี่....รัก...นะ...รัก” ฉันกอดเขาไว้ในอ้อมแขนแน่นพอและใกล้พอที่จะได้ยินเสียงหายใจอ่อนระทวยของเขา

    “พี่ก็รักโลจังน้องรักอย่าตายนะห้ามหลับนะ! พยาบาล!  ตามรถพยาบาลมาเซ่! ไม่..ไม่ทันแน่” ลมหายใจนั้นยิ่งแผ่วลงเรื่อย ๆ ไม่ได้นะนายจะตายไม่ได้ รถใช่แล้ว

    “นาย! นายต้องช่วยฉัน! นายต้องช่วยน้องชายฉันเดี๊ยวนี้!!! ขอร้องพาเขาไปโรงพยาบาลขอร้อง!!” น้ำตาฉันไหลพรากฉันลุกไม่ไหวแต่ฉันก็ไม่อยากให้น้องตายฉันทำได้แค่ชี้หน้าคนที่ขับรถเองซวยนั่นมาชนโลจังทั้งที่ที่นี่มันในวิทยาลัยเองนะโธ่เว้ย!

    “ช่วยที  โลจังจะตายไม่ได้นะห้ามตาย..เด็ด....ขาด...”

     

    “โลจัง” ฉันคว้าฉันรู้ว่าฉันคว้าโดนอะไรบางอย่างที่นุ่มจากในความมืดมันมืดจนฉันคิดอะไรไม่ออก “โลจังพี่มองไม่เห็น”

    “ได้สติสักที” ฉันปล่อยบางสิ่งในมือออกไปแล้วพยายามยันตัวลุกขอร้องล่ะแขนของฉัน  ฉันต้องลุกให้ได้ถ้าฉันไม่รู้จักคน ๆ นี้...คน ๆ นี้ก็เป็นอันตรายกับฉันแน่

    “ผมขอโทษแทนคุณหนูด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องบาดเจ็บและแฟนของคุณก็ด้วย”  เฮือก! ฉันปัดมือของใครบางคนที่เอื้อมมือมาเหมือนตั้งใจจะพยุงฉันให้นั่งได้สะดวกพลางถอยหลังจนเกือบตกเตียงถ้าไม่โดนดึงเอาไว้ เตียงโรงพยาบาลมันเล็กขนาดนี้เลยเหรอ

    “ฉันจะช่วยออกค่ารักษาให้ก็แล้วกันทั้งเธอทั้งแฟน” เสียงอีกเสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้ฉันตกใจจนต้องถอยไปทางด้านขวาไม่รู้ว่ามันเป็นปลายเตียงหัวเตียงแต่ว่าหน้าและหลังก็มีทั้งคู่อยู่

    “แค่เศษเงินคงพอนะอ้อไหน ๆ ก็เจอสักทีฉันจะช่วยออกค่าเสื้อผ้าอะไรใหม่ก็” เพี๊ยะ!! “โอ้ย!  ยัยบ้าเอ๊ย!”  

    “ฉันอาจจะมองไม่เห็นแต่ฉันก็ฝึกสภาพตาแบบนี้มาพอสมควร... น้องฉันไม่ใช่แฟนอย่ามาดูถูกฉัน! และที่สำคัญถึงฉันจะไม่ได้แต่งตัวดี  ใช้เงินฟุ่มเฟือยแต่ฉันก็ไม่ต้องการเศษเงินจากคนโสโครกแบบนาย! เงินแค่นี้ฉันออกเองได้ออกไปซะ! ออกไป!!  และอย่ามายุ่งกับฉันกับน้องอีกเด็ดขาด!

    “น้องชายอะไรหน้าไม่เห็นเหมือนกันสงสัยจะเก้บมาโอ้ย! หยุดนะยัยบ้า!

    “หุบปากนะ! หุบปากเน่า ๆ ของนายหุบปากไปซะนายไม่เข้าใจเลย  นายไม่เคยเข้าใจไม่สมควรจะเข้าใจอย่ามาแสร้งทำเป้นดีนะไปตายซะไอ้บ้า!” ตึง อึก! พื้นมันแข็งและเย็นขนาดนี้เชียวเหรอนั่นสินะ...พอมองไม่เห้นมันก็เหมือนตกอยู่ในนรกยิ่งกับถุงน้ำเกลือ  เข็มที่อยู่บนมือหลุดออกกะทันหันแบบนี้

    “ผมช่วยนะ”

    “ไม่ ฉันไม่ต้องการทั้งจากคุณหรือคนปากไม่ดีคนนั้น”  ประตูอยู่ทางไหนกันนะฉันค่อยๆลุกขึ้นคลำเตียงไปจนปลายสุดแล้วคลำไปเรื่อย ๆ จนถึงกำแพงสายลมอ่อน ๆ พัดเข้ามางั้นอีกทางก็ต้องเป็นประตู

    “เธอยังไปไม่ได้หรอกนะคงอยากจะไปหาน้องชายล่ะสิ” ฉันดิ้นไปมาเมื่อถูกอุ้ม  ฉันประมาทไปคน ๆ นี้ไม่ได้ยินเสียงเดินเลยด้วยซ้ำ โธ่เว้ย!

    “ปล่อยฉัน” ฉันถูกวางลงบนอะไรบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นเตียงเพราะขาฉันลอยเหนือพื้นแต่มือของเขาที่จับมือฉันไว้กลับยังไม่ยอมปล่อยพร้อมทั้งจิ้มบางอย่างที่แหลมลงมาอย่างเบามือ

    “ฉันชื่อคิงส์  ส่วนคนที่เธอว่าปากหมาชื่อ ไรส์  ส่วนอีกคนที่เธอวีนใส่นั่นชื่อ เลฟีส เรียกฟีสก็พอ” ฉันเหนื่อยจนสะบัดมือไม่ไหวเขาไม่ยอมฟังคำพูดของฉันและเอาแต่พล่ามชื่อเพื่อนขและเขาที่ฉันไม่อยากฟังโธ่เว้ย

    “เผด็จการที่สุด!

    “เธอเพิ่งจะผ่านเรื่องเลวร้ายมาและฉันดีใจที่เธอไม่มีแฟนแต่เราต้องมาตกลงเงื่อนไขกันต่อไปนี้เธอจะต้องอยู่ในความดุแลของพวกเรา”

    “ฉันไม่ต้องการไสหัวไปให้พ้นได้ยิ่งดีฉันดูแลตัวเองได้!

    “พวกเราไม่ได้ถามความสมัครใจแต่แค่บอกให้รู้ไว้  ยังไงชื่อเสียงในวงการของพวกเราก็สำคัญหากเราทำเป็นเมินคงจะไม่ดีเท่าไหร่” ฉันฟังเสียงจากข้างหลังที่มาจากคนที่ไม่ได้ปากหมาอย่างหงุดหงิด

    “ฉันไม่ต้องการไม่ต้องการ! ช่วยไสหัวไปให้ไกลๆ ไปให้พ้นๆ อย่ามาเสนอหน้าให้เห็น  ปิดข่าวให้เงียบแค่นี้พวกนายก็ดูดีแล้ว!

    “พยานเยอะเกินไปไงล่ะ”

    “ก็เอาเงินปิดปากอย่างที่นายพยายามปิดปากฉันเสะ!” ฉันตะคอกไม่รู้ว่าถูกไหมแต่เสียงนี้ฉันจำได้ว่ามันเป็นของคนที่ปากหมา

    “ฉันแค่ต้องการชดใช้ความผิดเท่านั้นเธอที่มายุ่งเกี่ยวน่ะจะมีแต่เรื่องหลังจากนี้เพราะงั้นอย่าดื้อให้มากน้องชายเธอตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้นถ้าฟื้นฉันก็จะพาเขาไปด้วยทั้งเธอและน้องจะต้องอยู่ในระยะสายตาของฉันตลอดเวลา”

    “ไม่!

    “เธอไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจเอาล่ะ เธอควรจะได้นอนพักผ่อนต่ออีกสักหน่อยในระหว่างที่ฉันหาข้อมูลเกี่ยวกับครอบครัวเธอและทำเรื่องย้ายโรงเรียนให้”  เขาฉีดบางอย่างเข้าที่แขนของฉันอีกแล้วคราวนี้ไม่ใช่เข็มที่จิ้มมือเพื่อให้น้ำเกลือใหลเขาฉีดอะไรใส่ตัวฉันกันนะ

    “น้องฉัน  โลจังเป็นเจ้าชายนิทราพิการรึเปล่า” หลังจากเงียบไปสักพักและเขายังไม่ยอมปล่อยมือฉัน  ฉันจึงตัดสินใจถามออกไป

    “ไม่  เขาปลอดภัยดีแค่หัวแตกแขนซ้ายหัก สัก 2-3 อาทิตย์ก็หายไม่ถึงขั้นพิการหรือต้องเปลี่ยนอวัยวะ” โชคดี  โชคดีจริงๆขอบคุณพระเจ้าที่ทรงคุ้มครองเขาขอบคุณจริง ๆ นะคะ  และขอโทษ  ขอโทษที่ปกป้องน้องไม่ได้ขอโทษนะ


    -----------------------------------------------------------------------


    *  ตั้ง 4หน้า 3 บรรทัดว้าวปาฏิหารย์!
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×