ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Shadown Girl แด่ เธอผู้กลืนกินความอ่อนเยาว์ชั่วกาลนาน

    ลำดับตอนที่ #2 : ]] Tik tok one [[ "ชายจรจัด 1"

    • อัปเดตล่าสุด 20 พ.ย. 55


     

     "ทำไมพวกเขาถึงมีความปรารถนาไม่รู้จักจบสิ้น"

     "พวกเขาต่างมีบาปที่ได้รับตกทอด"

     "ทำไมพวกเขาถึงไม่รู้จักการยอมรับ"

     "พวกเขาต่างก็อยากเป็นที่ยอมรับมากจนเกินไป"

     "ช่างน่าสังเวช"

     

     

     "นางฟ้า" ชายหนุ่มสบถออกมาเมื่อมองไปยังเด็กสาวในชุดสีขาวที่หายไปแทบจะในทันทีที่เขากระพริบตา  เส้นผมสีเงินสบัดเล่นกับสายลมแรงที่พัดมาจากด้านหน้า  เขารีบก้าวไปดูที่ปลายหน้าผาแต่กลับไม่พบสิ่งมีชีวิตแม้แต่นิดเดียว  ดวงตาสีนินยังคงจ้องมองอย่างคาดหวัง ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสีดำสนิทตรงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างมีสายโซ่สีแดงและขาวไขว่สลับกันและผ้าลายสก๊อตที่ตัวกระเป๋า  แขนเสื้อมีสีแดงสดเหมือนเลือดและมีสายโซ่สีแดงพันสามทบทั้ง 2 ข้างเนคไทน์สีเลือดเข้าคู่กับปกเสื้อลงมาถึงกระดุมเม็ดสุดท้ายที่มีสีเทาอ่อน

     "สงสัยจะกลับขึ้นสวรรค์แล้วล่ะมั้ง" ริมฝีปากสีแดงกุหลาบซีดสบถก่อนจะเงยหน้ามองขึ้นฟ้าแล้วยิ้มจนเห็นเขี้ยวที่ค่อนข้างยาว  ภาพหมอกที่ลงเล็กน้อยกับท้องฟ้าสีครึ้มให้ความรู้สึกที่ดีต่อเขาเป็นอย่างยิ่งเพราะสายฝนจะช่วยชำระความโสโครกออกไปและยังชุ่มชื้นอีกด้วย  เขามองอย่างชอบใจก่อนจะก้มลงมองนาฬิกาและพบเข้ากับคนสองคนที่สลบอยู่

     "สองคนนี่...ทิ้งไว้งี้แหละใกล้เวลาแล้วรีบไปดีกว่า" ตายก็อย่าว่ากันเลยนะ! เขาคิดพลางวิ่งออกไปด้วยความเร็วที่เหนือยิ่งกว่ามนุษย์ทั่วไป  สายฝนเริ่มรินลงมาแล้ว  แขกของเขาต้องไม่ชอบใจเป็นอย่างมากแน่ที่เขาไปไม่ทัน  แต่เอาเถอะ แวะซื้อร่มไปเผื่อด้วยละกัน

     

     "ชักช้า...." เสียงหวานใสภายใต้ฮู้ดสีขาวสบถออกมาอย่างไม่ชอบใจเท่าใดนักก่อนจะเอื้อมมือเล็กขึ้นจากใต้เสื้อคลุมสีขาวที่คลุมหมดทั่วทั้งตัวและมีแถบสีดำซีด  รองเท้าสีขาวมีแถบสีแดงซีดไม่เข้ากับเนื้อผ้าสีขาวของเธอที่ดูใหม่เป็นอย่างมากคล้ายกับว่าใช้ผ้าคนละเนื้อในการตัดเย็บ

     "ทานอะไรสักหน่อยไหมขอรับคุณหนู" เสียงทุ้มจากเด็กในเสื้อคลุมสีดำสนิททั่วทั้งตัวและรองเท้าสีดำทั้งสองอย่างมีลวดลายสีแดงสดประดับอยู่ดูคล้ายกับสีของเลือดเป็นอย่างมาก

     "อือ  แต่กลิ่นเหม็นสาปพวกนี้ข้าไม่ชอบใจเลย" เด็กในชุดดำพยักหน้ารับรู้ตอนนี้พวกเขายืนอยู่ที่ลานน้ำพุ  โดยระหว่างที่รอคอยคนที่จะมารับพวกเขาได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างผ่านทางหนังสือที่ได้รับจากคนใจดีที่เดินผ่านมาและยื่นให้เพื่อให้พวกเธอใช้บังฝนหาที่กำบัง  ถึงแม้ว่าจะยืนอยู่ท่ามกลางสายฝนแต่สายฝนก็มิได้ทำให้พวกเธอเปียกปอนเลยแม้แต่น้อย กึก กึก...

     "อ้ะ" อยู่ ๆ สร้อยข้อมือที่มีลูกแก้วใสเรียงร้อยกันร่วม 100 ลูกกลับหายไปต่อหน้าต่อตาของทั้งคู่ราว 10 ลูกในทีเดียวเหล่าลูกแก้วที่เหลืออยู่ค่อย ๆ ร้อยเรียงกันใหม่ก่อนที่จะหายไปเรื่อย ๆ จนเหลือเพียงลูกแก้วสีเงินเพียงลูกเดียวที่ยังอยู่ในมือของเด็กชุดขาว

     "เฮ้  พวกเธอมายืนทำแมวน้ำอะไรตรงนี้" เสียงทุ้มเรียกความสนใจจากทั้งคู่เมื่อเขาวางมือลงบนบ่าแม้ว่าจะยังไม่รู้ว่ามันหายไปได้อย่างไรแต่ตอนนี้คนตรงหน้าดูน่าสนใจกว่าเล็กน้อยเส้นผมสีเงินชุดสีดำแถบสีชาดแต่ดวงตากลับมีสีนิน

     "ฮืม?" เขาพ่นลมหายใจออกอย่างสงสัยในทันทีที่ไหล่ที่เขาจับไม่ได้เปียกฝนเลยแม้แต่น้อย  แม้ว่าจะเป็นปีศาจหรืออะไรต่างก็ต้องถูกฝนกันทั้งนั้นนี่หน่าเขาคิดโดยแสดงออกทางสีหน้าเกือบจะทั้งหมดแต่เด็ก ๆ ก็เลือกที่จะไม่ถามอะไรมากมายและตอบความสงสัยไร้สาระนั่นด้วย

     "หรือว่าจะเป็น 'เจ้าหญิง' ที่บอกให้ท่านแม่เรียกว่า 'คุณหนู' กันนะ" เขาสบถงึมงำเหมือนคนกินก้างปลาติดคอจนเป็นแผลอักเสบไม่เหมือนตอนแรกที่พูดกับเด็กทั้งสองคน

     "บุตรชายคนเล็กของตระกูลโชใช่รึเปล่า?" เสียงจากเด็กในชุดดำเอ่ยถามเขานั่นทำให้เขายืนยันในคำถามของตัวเองได้เป็นอย่างดี

     "เอาล่ะตามมา ๆ" เขากลางร่มให้กับทั้งคู่แล้วยัดใส่มือแล้วมองทั้งคู่ที่ถือร่มอย่างคนไม่เคยใช้โดยเอาลงไว้ข้างตัวเกือบจะทันทียังดีที่เขาจับไว้ทัน  ดวงตาของทั้งคู่มองมาที่เขาอย่างไม่เข้าใจว่าจะจับทิ้งไว้เพื่ออะไรจนกระทั่งเขาเอ่ยปากบอกออกมา

     "เอาขึ้นเหนือหัวอย่างนี้" เขาพูดพลางจับมือของทั้งคู่ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนมองมือของเขาที่ไม่ยอมปล่อยก่อนจะมองทางที่เขาลากพาไปในซอยแห่งหนึ่งซึ่งมีม่านปิดเอาไว้ที่กำแพงแล้วพาทั้งคู่เดินผ่านเข้าไปข้างใน 

     "ทุกคน 'องค์หญิง' มาถึงแล้ว!!" เสียงตะโกนดังขึ้นทันทีเมื่อผ่านไปถึงสถานที่แห่งหนึ่งความกว้างใหญ่ตรงทางเข้าและเมื่อหันหลังไปมองทั่ว ๆ จะพบกับสวนขนาดใหญ่ที่มีถึง 4 ฤดู 

     "ไม่คิดจะถอดฮู้ดออกรึไง" ชายหนุ่มพูดพลางเหล่มองเด็กทั้งสองคนที่เขาจูงอยู่ก่อนจะปล่อยมือเดินนำเข้าไปในบ้านอย่างไม่อยากจะทำตัวยุ่งยากกับเด็กทั้งสองคน  เด็กชุดดำผายมือเชิญอย่างนอบน้อมให้กับเด็กชุดขาว

     "อือ" เธอพยักหน้าเบา ๆ แล้วมองรอบ ๆ อีกครั้งอย่างไม่พิจารณามากนักก่อนจะก้าวเข้าไปภายในเหล่าสาวใช้ราว 5 คนก้มหัวรับ  บนพรมสีแดงสดมีกลีบกุหลาบสีขาวโปรยตามทาง  ตรงกลางของคนรับใช้ทั้ง 2 ฝั่งมีพ่อบ้านดูภูมิฐานอายุยังไม่มากนักคงจะสักราว ๆ 30 - 40 ปี กระมั้ง 

     "ยินดีต้อนรับองค์หญิงและคุณอิซะสู่บ้านตระกูลโชขอรับ" เขาโค้งตัวลงจนสุดแล้วค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะโค้งตัวลงระดับนึงอีกครั้งให้กับเด็กชุดดำ เส้นผมสีดำสนิทของเขาดูเข้าทรงเรียบร้อยแม้ว่าจะก้มตัวลงถึง 2 ครั้งชุดสูทเรียบร้อยไม่มีแม้กระทั่งรอยยับ

     "ขอบคุณที่ซื่อสัตย์กับทางเรา" เด็กชุดขาวตอบรับการโค้งคำนับของสุภาพบุรุษด้วยการยิ้มบาง ๆ และพยักหน้าหลังจากกล่าวจบ

     "ขอบคุณสำหรับการต้อนรับครับ" เด็กชุดดำโค้งตัวลงเล็กน้อยเพื่อตอบรับชายตรงหน้า 

     "ข้าปรารถนาให้ทุกคนเรียก ข้าว่า 'คุณหนู' ตอนนี้คำว่า 'องค์หญิง' ใช้กับข้าที่ไร้ผู้ยอมรับมิได้" เธอกล่าวเสียงเศร้าเล็ก ๆ พร้อมตัดพ้อในถ้อยคำ

     "ต้องขออภัยที่ได้ขัดความประสงค์ขององค์หญิงแต่ว่าท่านเหมาะสมกับตำแหน่งนี้นะขอรับ"

     "ขอบใจ...แต่เรียกข้าว่าคุณหนูเถอะ" เธอยิ้มเย็น ๆ เพื่อบ่งบอกว่าเธอต้องการอย่างนั้นมากกว่า

     "ขอรับ...กระผมเป็นพ่อบ้านเพียงคนเดียวของตระกูลโช  ที่นี่มีสาวใช้อยู่เพียง 5 คนเท่านั้นขอรับ ต้องขออภัยที่ไม่สามารถต้อนรับการมาของคุณหนูได้อย่างสมบูรณ์แบบนะขอรับ"

     "อือ  ไม่เป็นไร" เด็กชุดขาวตอบพลางกวาดสายตามองทั่วบ้านขนาดใหญ่หลังนี้ที่ถูกประดับด้วยวัตถุหรูหราฟู่ฟ่าแต่กลับดูเงียบเหงาแตกต่างกับที่บ้านของเธอที่แม้ว่าจะกว้างใหญ่เท่าใดแต่ก็ยังมีเสียงหัวเราะมากมายแม้บางคราจะแสนเศร้าก็ตามที

     "สัมภาระของคุณหนูและคุณอิซะถูกส่งมาก่อนแล้วเมื่อวานซืนห้องของทั้ง 2 ท่านจะอยู่ที่ชั้น 2 นะขอรับ  เชิญทางนี้  กระผมจะนำทางไปนะขอรับ" เด็กชุดขาวคลี่ยิ้มบางแล้วถอดฮู้ดออกจากศีรษะเส้นผมสีเงินซึ่งมีสีของสายรุ้งอ่อน ๆ จนแทบจะไม่สังเกตุเห็นหากไม่ตั้งใจเพ่งพินิจจริง ๆ เส้นผมยาวเกือบถึงข้อเท้าตรงสลวย  ดวงตาของเด็กสาวค่อนข้างขวางในตอนนี้  แต่ว่านั่นทำให้ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนและคิ้วคู่สวยที่ไม่ยาวและสั้นมากเกินไปเสริมให้เธอดูเหมือนรูปวาดเจ้าหญิงมีชีวิตที่ทั้งขี้เหงาและขาดซึ่งความไว้วางใจยิ่งขึ้น  เธอช้อนตาขึ้นมองพ่อบ้านนั่นทำให้ดูยิ่งน่ารักขึ้นอีกแม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะไม่สะท้อนความสนุกเหมือนเจ้าหญิงทั่วไป

     "เกศาขององค์หญิงเป็นแบบหยักศกสวยนะขอรับ"

     "หยักศก?" เด็กสาวทวนคำพลางจับเส้นผมของตนที่ถึงแม้ว่าจะตรงแต่ก็ยังโค้งงอเป็นช่วง ๆ

     "ขอรับ เส้นเกศาขององค์หญิงตรงลงมาแต่ก็ยังโค้งเล็กน้อยน่ะขอรับ" เด็กสาวพยักหน้ารับรู้พลางยิ้มบาง ๆ ตอบรับคำชมของพ่อบ้าน  เด็กชุดดำเมื่อถอดฮู้ดออกเขาเองก็มีเส้นผมที่ยาวประบ่าซอยสั้น  เส้นผมของเขามีสีแดงแต่มีปลายผมสีดำพ่อบ้านเมื่อเห็นดังนั้นก็กำลังจะกล่าวชมแต่เขาส่ายหัวเบา ๆ เป็นสัญญาณในทันทีจึงทำให้พ่อบ้านต้องเงียบไปแล้วยิ้มกรุ่มกริ่ม

     "อือ...แต่ว่าหลังจากนี้ข้าไม่อยากได้ยินคำว่าองค์หญิงอย่าขัดความประสงค์ของข้าอีกนะพ่อบ้าน"

     "ขอรับคุณหนูน้อย"

     "อือ" เธอเลือกที่จะตอบสั้น ๆ มากกว่าจะต่อความยาวสาวความยืดมากมายเพื่อให้เสียเวลาในการไปตรวจดูที่ห้องนอน

     "ผมจะพาคุณหนูไปเองคุณบอกทางผมพอครับ" เด็กหนุ่มพูดริมฝีปากสีโอโรสสดคลี่ออกบาง ๆ ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวสีดำสนิทดุจห้วงรัตติกาลของเขาฉายภาพของเด็กสาวเท่านั้น  ผิวสีนมของเขาไม่ซีดจนเกินไปและเขาสามารถที่จะเดินไปไหนได้ในช่วงกลางวัน  

     "สุดทางกุหลาบขอรับและของท่านอิซะจะอยู่ก่อนถึงห้องคุณหนู"เขาเงียบไปเล็กน้อยก่อนจะกล่าวต่ออย่างไว้ที"..กระผมไม่คิดว่าจะได้เห็นสายพันธุ์ต้นแบบของแวมไพร์เลยนะขอรับ"

     "ผมก็แค่ของเก่าที่หาได้ยากเท่านั้นล่ะครับ  เชิญครับคุณหนู" เขายิ้มตอบรับพ่อบ้านแล้วผายมือเชิญคุณหนูน้อยก้าวไปตามทางเดินสีแดงที่มีกุหลาบขาวโปรยเต็มทาง พ่อบ้านยืนมองทั้งคู่เดินขึ้นบันไดไปจนลับสายตา

     "คุณอินุยาฉะจะแอบมองคุณหนูอีกนานไหมขอรับ" เขากล่าวยิ้ม ๆ พลางเงยหน้ามองไปทางด้านหลังรูปปั้นทองคำที่ประดับเหนือหัวอยู่  ก่อนจะโผล่ร่างของชายผมเงินเขากระโดดลงมายืนข้างๆ พ่อบ้านอย่างไม่สบอารมณ์ที่ถูกจับได้ตอนนี้เขาอยู่ในชุดลำลองสบายๆ เสื้อวอร์มมีกระเป๋าสีขาวกับกางเกงผ้าสีเทารองเท้าผ้าใบสีดำ  เส้นผมของเขาบางส่วนยาวเลยบ่าลงมาและส่วนใหญ่ยาวประบ่าฟูสวยงาม

     "ผมเปล่ามองเด็กนั่น" เขากล่าวพยายามทำเสียงเรียบ ๆ ดวงตาคมสีนินของเขายังคงมองไปที่บันได แม้ว่าจะไม่มีเงาของใครก็ตามสีหน้าของเขาขึ้นสีชมพูอ่อน ๆ ดูแล้วยังไงเขาก็กำลังอายนิด ๆ

     "ผมว่าคุณหนูกับคุณก็อายุห่างกันไม่เท่าไหร่หรอกขอรับ  คุณอินุยาฉะก็เพิ่งอายุ 11 ปีเองนะขอรับ" หลังจากพูดจบเขาก็สังเกตุเห็นใบหน้าของคุณชายตัวน้อยของเขาที่ดูจะขึ้นสีขึ้นอีกนิดหน่อย

     "อย่าพูดมั่วนิ่มนักไปเตรียมอาหารได้แล้วคุณพ่อบ้าน" เขาพูดพลางเอามือลูบหน้าเหมือนจะเพิ่งรู้สึกตัว  แต่เพียงครู่เดียวหน้าเขาก็กลับมานิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน

     "ขอรับ ๆ " พ่อบ้านพูดพลางส่งสายตากวนๆ มาให้คุณชายน้อยของเขา

     "คุณพ่อบ้านคะ! มีคนแปลก ๆ เดินป้วนเปี้ยนแถวหน้ารั้วค่ะ" สาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาเหงื่อแตกพลั่กเต็มใบหน้า  ท่าทางเธอจะกลัวมากพอสมควร

     "มาที่นี่น่ะหรือครับ?" หญิงสาวพยักหน้ารัวด้วยความตกใจคุณชายเล็กของตระกูลอย่างอินุยาฉะเองก็ชักจะสนใจขึ้นมาอย่างตะหงิดเลยหันมาดูตาม

     "ค่ะ ๆ เขาใส่เสื้อผ้าโทรม ๆ หน้าตามอมแมม อ้ะ นั่นคุณหนูรึเปล่าคะคุณพ่อบ้าน" ทั้งสองคนหันไปมองตามนิ้วหยาบของสาวใช้

     "ยัยบ้านั่น" 

     "คุณชายน้อย!" ด้วยความร้อนใจบางอย่างแม้ว่าจะยังไม่แน่ใจว่าเธอใช่นางฟ้าที่เขาเห็นตรงปลายผารึเปล่า  แต่ขาทั้งสองข้างของเขาก็บอกให้รีบไปช่วยเธอ ฟุบ! โชคดีที่ข้างล่างมีพุ่มไม้รองรับร่างกายทำให้เขาไม่บาดเจ็บมากนักแต่เขาตามเธอไม่ทัน  เส้นผมสีเงินของเธอเหมือนเปล่งแสงแต่นั่นกลับยิ่งทำให้เขารู้ตัวว่าช้าทั้งยังไม่สามารถไม่สามารถจะเข้าไปใกล้เธอได้

     

     เธอมองคนแปลกหน้าจากตรงหน้าต่างของทางเดินอย่างสงสัยในเมื่อที่นี่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองนั่นและดูแล้วไม่น่าจะมีบ้านอยู่รอบบริเวณเขากลับมาถึงที่นี่ได้และดูเหมือนจะไม่ได้ขาดอาหารหรืออะไรแต่เป็นการทำเพื่อปกปิดบางสิ่ง

     "คุณหนูจะให้ผมไปดูหรือไม่ครับ" เธอส่ายหัวเบา ๆ แล้วมองอย่างตั้งใจก่อนจะหยิบลูกแก้วสีเงินขึ้นมามันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มอ่อน ๆ แล้วลอยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนเป็นแว่นตายุโรปที่มีเพียงข้างเดียวพร้อมสายห้อยสีเงินพันรอบแขนซ้ายของเธอ 2 ครั้งแล้วร้อยติดเป็นคล้ายกับกระเป๋าขนาดเล็กที่แขนขวา

     "ดูเหมือนว่าข้าจะต้องไปพบกับเจ้านั่น" เธอสบถพลางหยิบแว่นตาเลนส์เดียวขึ้นมามองไปที่คนจรจัด  เลนส์นี่ทำหน้าที่คล้ายกับกล้องส่องทางไกลแต่ก็แค่เพียงทำให้เห็นชัดขึ้นและสิ่งหนึ่งที่เธอพบก็เป็นของที่เพิ่งหนีไปจากเธอเมื่อตอนอยู่ในเมือง

     "ข้าต้องการความช่วยเหลือเมื่อใดเจ้าต้องรีบไป" เขาโค้งตัวลงมองคุณหนูที่เมื่อแตะหน้าต่างก็หายลงไปอยู่ด้านล่างด้วยความห่วงใย

     "ขอให้เขาไว้วางใจได้นะครับ" เขามองตามเธออย่างเป็นห่วงแม้ว่าคุณหนูของเขาจะมีความสามารถแต่ก็ยังอ่อนเยาว์และไม่เคยออกมาสู่โลกภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียวการเดินทางมาโดยปราศจาก 'เขาคนนั้น' เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับคุณหนูแต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็มีหน้าที่เพื่อคอยปกป้องคุณหนูของเขาจะไม่มีวันได้รับอันตราย  ตราบใดที่เขายังคงอยู่เคียงข้าง

     "ลูกแก้วไปอยู่ภายในร่างกายนั่นได้อย่างไรกัน" เด็กสาวสบถอย่างสงสัยแม้ว่าเขาจะเป็นคนแปลกหน้าที่ควรระแวดระวังแต่สิ่งที่เธอพกมาด้วยกลับอยู่กับเขาถึงจะยังไม่แน่ใจว่ามีกี่ชิ้นแต่ที่แน่ใจได้คือเขามีมันอยู่ในร่างกายและดูเหมือนว่าเธอควรจะถามคำถามที่ท่านแม่และท่านย่าของเธอบอก  คำถามเพื่อให้การช่วยเหลือกับคนแปลกหน้าทั้งหลายที่ต้องพบเจอตลอดเวลาของการเดินทาง  

     ทางเดินตัดผ่านฤดูกาลที่แสนหนาวเหน็บตลอดสองข้างทางทำให้ไอเย็นพ่นออกมาจากริมฝีปากบางของเด็กสาวและลมหายใจเย็นเหมือนกับจะจับตัวเป็นน้ำแข็ง  หากไม่ติดว่าลมพัดแรงจากอีกฟากเป็นลมที่ค่อนข้างจะอบอุ่น  ความหนาวเย็นของสองข้างทางทำให้ภาพอันแสนเจ็บปวดปรากฏขึ้นในหัวก่อนจะสะบัดมันทิ้งแล้วรีบเดินไปให้ถึงรั้ว

     "เจ้าต้องการสิ่งใด" เด็กสาวเอ่ยถามเสียงนิ่งพลางมองชายผู้มีเครื่องแต่งกายขาดวิ่นถือถุงขนาดใหญ่ที่มีรอยปะอยู่มากมายอีกทั้งยังผมเผ้ารุงรังแห้งกร้านดูคล้ายกับกิ่งไม้ใกล้ตาย  ผิวหนังแห้งตึงแทบจะติดกับกระดูกภายในหนวดเครารกรุงรังจนแทบแยกไม่ออกว่านี่เป็นเส้นผมรึไม่  เธอไม่ได้ใส่ใจสิ่งใดเลยนอกจากสิ่งที่เธอได้เห็นอยู่ใหลเวียนในร่างกายของเขา

     "ฉันอยากจะขอพักอยู่ที่นี่สักวันสองวัน" เสียงแหบแต่ไร้ซึ่งกลิ่นปาก  แต่งกายมอซอแต่ไร้ซึ่งกลิ่นเหม็นเน่าแต่ถึงอย่างไรกลิ่นหอมอ่อน ๆ จาง ๆ ปนกับกลิ่นคลุ้งของคาวบางอย่าง

     "งั้นหรือ" เขามองเด็กสาวกล่าวอย่างสุขุมบางคนอาจจะเห็นเธอดูอวดดีและเย่อหยิ่งก็ได้แต่ตัวเขาเองไม่คิดเช่นนั้น  เธอเอื้อมมือออกไปให้เขาแต่กลับถูกดึงรั้งตัวออกห่างจากรั้วในทันที

     "ยัยบ้าเธอตั้งใจจะทำอะไรน่ะ!" เธอเงยหน้ามองเส้นผมสีเงินที่เหมือนกับว่าจะได้พบมาหลายครั้งมากในวันนี้ก่อนจะชี้ไปที่ชายตรงหน้าที่ยืนอยู่หลังรั้ว

     "ข้าแค่จะช่วยเจ้านั่นให้เข้ามาพัก" 

     "งี่เง่า" เธอมองเด็กชายที่ไม่ยอมปล่อยให้เธอเข้าไปอย่างไม่ชอบใจเท่าไหร่นักในเมื่อเขามีหน้าที่คอยดูแลก็น่าจะดูแลต่อไปสิถึงเขาจะเป็นเจ้าของบ้านก็ตามที

     "อิซะ  ข้าต้องการให้เจ้านั่นเข้ามา"

     "ตามแต่ท่านบัญชา" เสียงลอยคล้ายกับสายลมกล่าวเอื้อนเอ่ยก่อนที่ประตูจะเปิดออกเพื่อให้ชายจรจัดได้เข้ามาภายในสวนขนาดใหญ่เขาดูไม่ตกใจทั้งยังคิดจะช่วยให้เด็กสาวลุกได้สะดวกหากไม่ติดว่าเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่มีดวงตาสีเลือดมาขวางไว้และเชิญชวนให้เขาเดินไปที่บ้านหลังใหญ่กลางสวน

     "หยุดนะ! หยุดซิวะ!" อินุยาฉะยอมปล่อยเธอเป็นอิสระพร้อมทั้งพยายามจะก้าวตามไปหากไม่ติดว่าเด็กสาวข้างหลังดึงเสื้อเขาเอาไว้

     "เจ้านั่นไม่อันตรายข้ารับรอง" ความเชื่อมั่นในดวงตาคู่นั้นไม่ได้ทำให้เขามีความยินยอมขึ้นหากไม่ติดว่าเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะขัดใจคุณหนูมากมายนักมีเพียงแต่ท่านแม่ของเขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตัดสินว่าสิ่งที่คุณหนูทำมันเป็นสิ่งที่ผิด

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×